ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
21 กรกฎาคม 2025, 04:23:32
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: การเดินทางกับเจ้า "ไวท์กี้" 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] 2 3 4 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: การเดินทางกับเจ้า "ไวท์กี้"  (อ่าน 39725 ครั้ง)
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2012, 11:02:00 »



 ยิ้ม สวัสดีค่ะเพื่อนสมาชิกทุกคน ... เราเพิ่งสมัครเป็นสมาชิก CIVIC CLUB สดๆ ร้อนๆ เราได้อ่านเรื่องราวของเพื่อนสมาชิกหลายๆ ท่านแล้ว ได้ทั้งความรู้และความสนุก เราก็เลยอยากแบ่งปันเรื่องราวที่ได้ประสบมากับตัวเอง ตั้งแต่ซื้อ CIVIC ค้นนี้ เผื่อว่าบางทีเรื่องของเราอาจเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ สมาชิกได้บ้างค่ะ ... ยังไงมาร่วมแชร์ความคิดเห็นกันนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 พฤษภาคม 2012, 11:08:49 โดย Tom-Keyray » บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
chira711
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,526


NO.674 อยุธยา-บางปะหัน-หนองแขม..


« ตอบ #1 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2012, 11:08:55 »

 เจ๋ง ยิ้ม ยิ้มกว้างๆ   ยินดีต้อนรับครับ...มีอะไร เกล็ดความรู้ อะไร ก็มาแชร์กันครับ...ที่นี่เปิดกว้างเสมอครับ...
บันทึกการเข้า

"ไม่สูงต้องเขย่ง  ไม่เก่ง ต้องขยัน  สักวันก็ได้ดี "
patpat
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 651


พัดโบก - สมุทรปราการ


« ตอบ #2 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2012, 11:27:17 »

 โกรธ  สวัสดีจ๊า.....
บันทึกการเข้า

อย่าเรียกร้องความสนใจ โดยการเร่งเครื่อง..(เบิ้ลรถ) ขอร้อง
chira711
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,526


NO.674 อยุธยา-บางปะหัน-หนองแขม..


« ตอบ #3 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2012, 11:42:58 »

 อายจัง อายจัง   ว่าแต่เรื่องราวเจ้าซิวิค เป็นไงบ้างครับ...แชร์ประสบการณ์ กันได้ครับ....ดีๆ ไม่ดี มีพี่น้อง คอยช่วยกัน...วิเคราะห์ครับ
บันทึกการเข้า

"ไม่สูงต้องเขย่ง  ไม่เก่ง ต้องขยัน  สักวันก็ได้ดี "
thoed27
= ท่านเทิด 7500 รอบ =
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,717


เทิด...สมุทรปราการ อีกคน คริคริ


« ตอบ #4 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2012, 11:43:12 »

หวัดดีครับผม ยินดีต้อนรับครับ จุมพิต จุมพิต จุมพิต จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า

     

....CIVIC CLUB....No.589
Y8 พาเพลิน
http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,75993.30.html
nakarin
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,507


ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดารเป็นคนชอบกลนัก


« ตอบ #5 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2012, 11:48:14 »

 จุมพิต จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า

ดูแลรถ แล้วรถจะดูแลเรา
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #6 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2012, 12:28:53 »

 ยิ้มกว้างๆ ดีใจและขอบคุณที่ต้อนรับนะคะ ... เรื่องของเราเป็นประสบการณ์เกี่ยวกับ "รถและการเดินทาง" บางเรื่องอาจให้ประโยชน์ แต่บางเรื่องก็แค่ให้ความเพลิดเพลินอ่านเล่นยามว่าง ผิดพลาดประการใดขออภัยนะคะ

เรื่องที่ 1 ... "อยากมีรถเป็นของตัวเอง"
ด้วยลักษณะงานและสถานที่ทำงานของเรา ทำให้ 9 ปี ที่ผ่านมาต้องเดินทางตลอด นั่งเครื่องบ้าง รถทัวร์บ้าง ยืมรถแม่ใช้บ้าง ขอติดรถคนอื่นบ้าง 555 จน ณ วันหนึ่ง วันที่ความรู้สึกแรงกล้าเกิดขึ้น "ฉันต้องมีรถเป็นของตัวเอง" ความอยากได้ก็เข้าครอบงำ หน้ามืดตามัว จะไปแห่งหนไหนก็มองดูแต่รถชาวบ้านเค้า...อุ๊ย! คันนั้นสวยจัง  อุ๊ย! คันนี้ดูดี  โอ๊ะๆ! คันนั่นยี่ห้ออะไรหน่ะ เจ๋งดี  เฮ้ย!! รถใครเนี๊ยะ เลิศมั๊กมาก... แล้ววันหนึ่งไปเดินเซ็นทรัลพระราม 3 กับเพื่อนสาวคนสนิท มีโชว์รูมโตโยต้าเอารถมาโชว์ ก็รีบเดินปรีเข้าไปลองนั่งแบบไม่แคร์สื่อ นั่งคันโน้นที คันนี้ที จนเซลล์หยุดแนะนำทุกสิ่งอย่างและเลิกเดินตาม 555 ค่อยสบายตัวหน่อย ตอนเซลล์เดินตามรู้สึกเหมือนใส่เสื้อตัวเล็กผิดขนาด อึดอัดอยากถอดทิ้ง

สุดท้ายมาลองนั่ง วีออส สีดำ ตอนนั่งในรถคันนั้นรู้สึกเหมือนโลกนี้มีแต่เธอกับฉัน เธอช่างหล่อ เท่ห์ ดูดี สง่างาม อิอิหุหุ และแล้วเพื่อนสาวก็ทำลายความคิดที่กำลังบรรเจิดด้วยคำพูดว่า "เฮ้ย!! คันนี้แหละ เหมาะกับแกที่สุด" ยิงฟันยิ้ม ... ติดตามต่อ
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #7 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2012, 16:22:25 »

"วีออส ไมเนอร์เชนจ์ สีดำ 2006"
ปลายปี 2006 เราตัดสินใจซื้อโตโยต้าวีออส รุ่นไมเนอร์เชนจ์ สีดำ ซื้อที่ศูนย์โตโยต้าธนบุรี ซื้อกับเซลล์ที่เป็นเพื่อนของพี่สาวเพื่อนอีกที ได้ของแถมเยอะมาก คงเพราะเป็นคนรู้จักกัน รวมถึงอีกหนึ่งเดือนหน้า วีออสจะเปลี่ยนโฉมใหม่หมด ทำให้คนที่อยากซื้อรถต่างก็อยากได้รถรุ่นใหม่ แต่สำหรับเราตอนนั้นไม่ได้สนใจปีที่ซื้อรถเลย แค่มีเงินพอดาวน์โดยไม่ต้องให้ใครค้ำประกัน รถสวยโดนใจก็พอแล้วหล่ะ
 อายจังข้อคิดที่ได้รับ... ถ้ารออีกหนึ่งเดือนเราก็จะได้รถปี 2007 ถึงรูปลักษณ์จะไม่เหมือนคันนี้ แต่รุ่นใหม่ก็สวยไปอีกแบบ ที่สำคัญคือราคารถตอนขายต่อจะได้เพิ่มขึ้นพอสมควร
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #8 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2012, 16:26:17 »

"ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"
หลังจ่ายเงินจองรถกับน้องเซลล์ไป 5,000 น้องเซลล์ก็บอกว่าเราสามารถรับรถได้วันไหน และวันนั้นต้องเตรียมเงินดาวน์มากี่บาท เสียค่าประกันป้ายกี่บาท พอได้ป้ายจริงแล้วศูนย์จะคืนเงินค่าประกันป้ายให้ ส่วนประกันชั้นหนึ่งไม่ต้องจ่าย เพราะศูนย์แถมให้
เพื่อนสาวคนสนิทแนะนำให้เราดูดวงว่าเราควรใช้รถสีอะไรให้ถูกโฉลกกับวันเกิด ให้ดูฤกษ์ว่าควรออกรถวันไหน เวลากี่โมง เพื่อเป็นสิริมงคล ฯลฯ ตอนนั้นฟังแล้วก็อดขำไม่ได้ ทำไมเพื่อนเราถึงได้โบราณไร้สาระแบบนี้...เพราะสำหรับเรา "รถมีไว้ขับ" ไม่เกี่ยวกับฤกษ์หรือดวง วันรับรถคือวันที่เงินพร้อม เอกสารครบ ไม่ติดงาน ฤกษ์ยามอะไรไม่สนใจหรอก แต่เพื่อนสาวยังอดหวังดีไม่ได้ อุส่าห์ซื้อพวงมาลัยดาวเรืองพวงโตมาให้ไว้แขวนไหว้แม่ยานางรถ

พอไปถึงศูนย์ก็จ่ายเงินดาวน์ จ่ายค่าประกันป้าย เซ็นต์เอกสาร เสร็จแล้วก็ขับรถออกมาเลย
พวงมาลัยที่เพื่อนให้มาก็วางอยู่เบาะข้างๆ นั่นแหละ ไม่แขวนให้เกะกะ ... ได้รถแล้ว ไปหล่ะคร๊าบ!!
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #9 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2012, 16:44:06 »

"ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"...การชนครั้งแรก
หลังจากได้รถมาแค่สองอาทิตย์ จอดติดไฟแดงแยกดาวคะนอง เข้าเกียร์ N ไม่เหยียบเบรค (มั่นใจในรถใหม่ ไม่ดูสภาพพื้นถนน) แล้วมัวทำอะไรอยู่จำไม่ได้ ปล่อยให้รถไหลไปชนรถฮอนด้า (ไดเมนชั่น) ที่จอดรอไฟเขียวอยู่หน้ารถเรา เหมือนจะชนไม่แรงแต่พอลงไปดูแล้วอึ้ง รถเราแค่ป้ายทะเบียนงุ้มเข้านิดหน่อย แต่ฮอนด้ากันชนด้านข้างทั้งซ้ายขวาโป่งออกชัดเจน เสียเวลารอประกันอยู่ประมาณ 15 นาที  (ประกันของวิริยะ) ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าประกันควรมาถึงที่เกิดเหตุภายในเวลาเท่าไหร่ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า 15 นาที ถือว่าเร็วมากสำหรับการรอประกัน
ข้อคิดที่ได้รับ... 1. ระหว่างขับรถต้องมีสติและสมาธิ  2. เวลาจอดรถติดไฟแดง ถ้าเข้าเกียร์ N ควรเหยียบเบรค  3. บริษัทประกันที่ดี จะไม่ปล่อยให้เรารอนานเวลาเกิดอุบัติเหตุ
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #10 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2012, 17:04:55 »

"ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"...การชนครั้งที่ 2
เดือนที่ 4 หลังจากเปลี่ยนจากป้ายแดงมาเป็นป้ายขาว เราต้องไปดูงานที่ภูเก็ต วันกลับกรุงเทพตั้งใจออกจากภูเก็ตแต่เช้า เพราะมีนัดกินข้าวกับผู้ชายตอน 3 ทุ่ม (หุหุ) เพิ่งจีบกันค่ะ แต่งานเสร็จไม่ตรงตามเวลาที่วางแผนไว้ กว่าจะได้ออกจากเกาะเกือบ 11 โมง เลยขับแบบเหยียบมิด จนมาถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ช่วงกุยบุรี เราไปเสยท้ายรถพ่วง 18 ล้อ เข้าซะงั้น

จำเหตุการณ์ได้แม่นค่ะ ช่วงวินาทีเป็น วินาทีตาย ตื่นเต้นสุดขีด ตอนนั้นเพิ่งห้าโมงเย็นแต่ฟ้าเริ่มมืด คงเป็นเพราะยังเป็นหน้าหนาวอยู่ เราวิ่งเลนส์ขวาด้วยความเร็วประมาณ 150 เห็นว่าข้างหน้ามีรถพ่วงคันโตวิ่งอยู่เลนส์ซ้าย จนถึงระยะกระชั้นชิด อยู่ๆ รถพ่วงก็ค่อยๆ เบี่ยงหัวรถออกมาเลนส์ขวา (งานนี้จะเหลือเหรอ) เราเหยียบเบรคตัวโก่ง แต่ด้วยความเร็วที่ขับมาประกอบกับความเบาของตัวรถวีออส โชคดีที่รถไม่ปัดตอนเหยียบเบรค รถของเราเกี่ยวติดไปกับท้ายรถพ่วงระยะหนึ่งถึงจะหยุดสนิด โชคดีไม่มีรถขับตามมา (ไม่อยากคิดภาพ) คนขับรถพ่วงรีบลงมาดูเรา ถามว่าเราเป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนมั๊ย คนขับรถพ่วงยอมรับผิดว่าเปลี่ยนเลนส์และกระชั้นชิด โดยไม่ให้สัญญาณไฟ เค้าบอกว่า "ผมไม่เห็นรถคุณจริงๆ" (เห่อๆ ฟังแล้วรู้สึกดีเชียว) เราพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนนิ่ง มึน งง ตัวสั่นมือสั่น บอกไม่ถูก พอมองดูรถตัวเองแล้วน้ำตาซึม ไม่รู้ว่าจะดีใจที่รอดมาได้ หรือเสียใจสงสารรถดี

พอเราตั้งสติได้ก็เริ่มมองดูสภาพแวดล้อม จอดตรงนี้ไม่ดีแน่ ว่าแล้วก็คุยกับคนขับรถพ่วงว่าอยากย้ายรถไปที่อื่น เพราะเริ่มค่ำแล้ว ตรงที่ชนเป็นทางโค้งถึงโค้งไม่มากแต่ก็อันตราย กลัวรถที่วิ่งมามองไม่เห็น จะชนซ้ำอีก คนขับรถพ่วงเลยบอกว่าให้เราขับตามรถพ่วงไปจอดที่ปั้ม ปตท. กุยบุรี ระหว่างรอประกันอยู่ที่ปั้ม ก็โทรหาเพื่อนสาวคนสนิท เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เพื่อนฟัง แล้วบอกว่าคืนนี้ขอเอารถไปจอดที่บ้านเพื่อน ไม่กล้าขับกลับบ้าน กลัวแม่เห็นสภาพรถแล้วท่านจะตกใจ ที่สำคัญคือกลัวแม่ไม่ให้เราขับรถอีก
 อายจังข้อคิดที่ได้รับ... 1. จะรีบมากแค่ไหน หรือเหตุผลอะไรก็ตาม เวลาขับรถต้องใช้ความเร็วที่เราสามารถควบคุมรถได้  2. รถสีดำ สร้างความไม่ชัดเจนกับสายตาเวลาแสงสว่างไม่พอ  3. ถึงบริษัทประกันจะดี แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุต่างจังหวัด ก็ต้องรอนาน

"ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"...หลังจากชนครั้งที่ 2


* dangerous.jpg (122.98 KB, 500x188 - ดู 1196 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
ham_ter
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 9,223



« ตอบ #11 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2012, 21:05:51 »

    ปูเสื่อรอชม นิยายเรื่องยาว
 จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า

ทอม_อีเค
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,810



« ตอบ #12 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2012, 21:33:51 »

ยินดีต้อนรับครับ
บันทึกการเข้า

PATTAYARACING CLUB
CIVICCLUB no.131
ChonburiClub no.034

green eg
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,022



« ตอบ #13 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 08:14:52 »

ละครชีวิต.....ต.คน กับ รถ  ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม โปรดติดตามตอนต่อไป จุมพิต ลังเล ลังเล
บันทึกการเข้า
su_wit
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,054


วิทย์ ณ.โคราชา 084-5437854


« ตอบ #14 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 08:23:19 »

ท่าทางจะยาว โปรดติดตาม!!!!!!!!!!!!!!!!! เจ๋ง ขยิบตา
บันทึกการเข้า

แมงกะซอนบิน
cyu
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,713



« ตอบ #15 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 08:39:38 »

มารอชมด้วยคน จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า

แอบแซงเพราะแรงน้อย

https://www.facebook.com/cyu.boonyawat
devilvistion
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 160


โอ้ว!!!!


« ตอบ #16 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 10:51:05 »

แล้วเมื่อไหร่ civic จะมาซักที มีแต่ อ๊อดๆ เหอพระเองออกช้าจัง  ร้องไห้
บันทึกการเข้า

ไม่หล่อ             ท่อไม่ดัง            เทคไม่เปิด          แต่แซงทางโค้ง!!!!
eak99
"Saturday Man"
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,742


EAK_EK


« ตอบ #17 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 11:34:39 »

แล้วเมื่อไหร่ civic จะมาซักที มีแต่ อ๊อดๆ เหอพระเองออกช้าจัง  ร้องไห้


 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม


รอตอนต่อไป  ไม่มาซะที ! 

 ขยิบตา ขยิบตา
บันทึกการเข้า
patpat
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 651


พัดโบก - สมุทรปราการ


« ตอบ #18 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 14:11:47 »

 จุมพิต   เดี๋ยวเค้าไปซื้อป็อปคอร์นแปป...
บันทึกการเข้า

อย่าเรียกร้องความสนใจ โดยการเร่งเครื่อง..(เบิ้ลรถ) ขอร้อง
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #19 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 15:04:55 »

 ยิ้ม "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"...รถพัง ผู้ชายหาย
ระหว่างรอประกันวิริยะของฝ่ายรถพ่วงเราก็โทรหาแม่ แต่ไม่ได้บอกว่าเกิดอุบัติเหตุ แล้วก็โทรเม้าท์กะเพื่อนสาวไปเรื่อยๆ จนเสียงเตือนแบตหมด รออยู่เกือบ 40 นาที (นานเนอะ) คุณประกันก็มาถึงที่ปั้ม เค้าเข้ามาสวัสดีแล้วแนะนำตัวเองนิดหน่อย แล้วก็เดินไปที่รถของเรา ควักกล้องตัวจิ๋วออกมาจากกระเป๋าหลังกางเกง แล้วก็ถ่ายรูปรถเรา พอถ่ายรูปรถเราสมใจอยากแล้วก็ไปถ่ายรถพ่วงต่อ
จากนั้นเค้าเดินไปที่รถของเค้าแล้วหยิบเอกสารอะไรสักอย่างออกมาเขียน เขียนเสร็จก็เดินมาหาเราที่นั่งยองๆ รออยู่ข้างต้นไม้ ในสภาพที่แสนจะน่าเกลียด ความงามที่อุส่าห์แต่งแต้มหายไปหมด เหลือหนังหน้าแท้ๆ ที่มันมะเมือก ผมรวบมัดมวยเป็นป้าแก่ๆ

คุณประกันขอใบขับขี่กับบัตรประชาชนของเรา แล้วเค้าก็ยื่นใบเอกสารให้เรา 1 ใบ เราอ่านดูแล้วคือรายการซ่อมที่เข้าเขียนขึ้นมาเมื่อสักครู่ เค้าบอกว่าเวลาเอารถเข้าซ่อมให้เอาเอกสารใบนี้ให้กับศูนย์...จบเรื่อง
ใจเราคิด เอ้อ! ! แค่เนี๊ยะ ง่ายจัง ก็ดีแฮะ จะได้ไปกันสักที นี่ยังอีกตั้งไกลกว่าจะถึงกรุงเทพ แล้วรถสภาพนี้ วิ่ง 40 จะไหวป่าวหว่า
แต่เรารู้สึกตะหงิดใจชอบกล (ง่ายจัง) ก็เลยถามประกันว่า "ขอโทษนะคะคุณประกัน สรุปว่าเราเอาใบนี้ไปให้ที่ศูนย์ที่เราจะซ่อมรถ แล้วเค้าก็จะซ่อมตามรายการพี่คุณเขียนใช่ไหม แล้วถ้าซ่อมไปซ่อมมาเกิดเจอความเสียหายมากกว่าที่เขียนจะยังไงต่อคะ"
ประกันตอบว่า " ถ้ามีรายการซ่อมเพิ่มทางศูนย์จะโทรแจ้งประกัน ซึ่งทางเราก็จะประเมินว่าความเสียหายเกิดจากอุบัติเหตุครั้งนี้หรือไม่ครับ" (อ๋อ! เข้าใจแหละ) เราพยักหน้าหงึกๆ โอเค ตามนั้นละกัน

อ้อ!! ก่อนแยกย้ายกันไป คุณประกันหันมาบอกเราว่า "ตามหลักแล้วรถที่ชนท้ายจะเป็นฝ่ายผิดก่อนเสมอ จนกว่าจะเหตุการณ์หรือสภาพแวดล้อมอื่นมาอ้างอิงว่ารถคันที่ชนเป็นฝ่ายถูก แล้วถ้ารถถูกย้ายจากที่เกิดเหตุก่อนประกันมาถึงแบบนี้ คนขับรถพ่วงอาจกลับคำบอกว่าเรามาชนท้ายเค้าเองก็ได้ (เห่อๆ) แต่กรณีของเราคนขับรถพ่วงยืนยันว่าเค้าผิดจริง"...ได้ยินแล้วโคตรตื้นตันใจเลยคร้า

เราต้องค่อยๆ ขับรถสภาพไม่สมประกอบมาบ้านเพื่อนสาวที่หมู่บ้านพระปิ่น 5 เอกชัย กว่าจะถึงก็ 5 ทุ่มกว่า เหนื่อยจนลืมหิว ที่สำคัญลืมเรื่องนัดกินข้าวกับผู้ชาย มานึกได้อีกทีก็เช้าอีกวัน เพราะเปิดมือถือขึ้นดูหลังจากชาร์ตแบตเต็ม ...โอ่ยยย! 17 miss call เบอร์ผู้ชายล้วนๆ เรารีบโทรกลับ 4 ครั้ง เค้าไม่รับสาย ก็เป็นอันว่าเลิกคบ อิอิ

 อายจัง ข้อคิดที่ได้รับ... 1.ถ้าขับช้ากว่านี้ คงไม่ชนท้ายคนอื่นถึงเค้าจะเปลี่ยนเลนส์กระทันหัน หรือถ้าชน รถคงไม่พังขนาดนี้  2.บนถนน อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ  3.คนดียังมีอยู่ในชาตินี้ เช่น คนขับรถพ่วง ทำผิดก็คือทำผิด  4.ผู้หญิงดูน่ากลัวตอนเครียส อากาศร้อนและเหงื่อออก  5.ระหว่างเดินทางไม่ควรคุยโทรศัพท์นาน เก็บแบตไว้ใช้เวลาจำเป็น
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #20 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 15:21:17 »

 ยิ้ม "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"...เพื่อนว่าก็รู้สึกแย่แล้ว ต้องไปลุ้นตอนซ่อมรถอีก
ทันทีที่เพื่อนสาวเห็นสภาพรถ ประโยคแรกที่พูดคือ "บอกแล้วว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่" แล้วเพื่อนก็บ่นต่ออีกยาวยืด...เป็นไงหล่ะแก ออกรถใหม่ไม่กี่วันก็ไปชนคนอื่น ผ่านไปไม่กี่เดือนก็โดนชนซะเยินอีก ฉันขอร้องแกนะ คราวนี้ซ่อมเสร็จก็เอารถไปให้หลวงพ่อเจิมสักทีเถอะ แล้วก็เอาพระที่ห้อยคอองค์เล็กๆ มาไว้ในรถสักองค์สององค์คงไม่ทำให้แกชักดิ้นชักงอหรอก"

เรามานั่งคิด คิด (ออกจิตตกหน่อยๆ) ที่ผ่านมาเราไม่เชื่อเรื่องฤกษ์ยามหรือสิ่งศักดิ์ที่ต้องเอามาไว้ในรถ...พระก็ควรอยู่ที่วัด ถ้าอยู่ที่บ้านก็ต้องอยู่ในห้องพระหรือบนหิ้ง จะเอาพระมาห้อยโตงเตงหน้ารถทำไมให้แกะกะวิสัยทัศน์ การเจิมรถก็แค่ให้พระเอาดินสอพองผสมน้ำ มาป้ายบนหลังคาในรถ ทำให้รถเปื้อน ดูสกปกเปล่าๆ (ถ้าไม่ตรงกับความคิดเพื่อนๆ ต้องขออภัยด้วยนะคะ แต่ตอนนั้นคิดแบบนี้จริงๆ) เราเชื่อในการกระทำของตัวเองมากกว่า ถ้าทำดี ผลที่ได้รับก็น่าจะดี ถ้าขยันมีความอดทน ผลที่ได้รับก็คือทรัพย์สินและความสำเร็จ

อุบัติเหตุครั้งนี้มีผลกับจิตใจของเราพอควร โดยเฉพาะเราต้องขับรถไปต่างจังหวัดบ่อยๆ ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วตายพ้นไปก็ไม่น่าห่วง แต่ถ้าไม่ตาย เกิดพิการ แขนขาขาดหรืออัมพาตช่วยตัวเองไม่ได้ แล้วพ่อแม่ต้องมานั่งเลี้ยง นี่สิแย่แน่ๆ ...เราตัดสินใจ หลังรถซ่อมเสร็จจะเอาไปให้หลวงพ่อเจิมที่วัด ก็อย่างที่เพื่อนสาวพูดนั่นแหละ "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย หรือทำให้ใครเดือนร้อน ทำแล้วอาจไม่ใช่วยอะไร แต่อย่างน้อยก็สบายใจ

เราเอารถเข้าซ่อมที่ศูนย์โตโยต้าธนบุรี (ศูนย์ที่เราซื้อรถ) ใช้เวลาซ่อม 1 เดือน ความรู้สึกนานเหมือนเป็นปีเลย ไปไหนมาไหนไม่มีความสุขเหมือนตอนขับรถตัวเองเลย ....วันรับรถเรารีบไปที่ศูนย์แต่เช้า พอถึงศูนย์ ศูนย์ยังไม่เปิดแหละ ปลอบใจตัวเองว่าอย่างน้อยก็จะเป็นคนแรกที่ได้เอาออกจากศูนย์ 555 เราถามหาเซลล์คนที่เราซื้อรถด้วย แต่วันนั้นเค้าหยุด เราเลยต้องคุยกับเจ้าหน้าที่คนอื่น ก่อนจะเห็นรถมันเป็นช่วงเวลาที่ลุ้นระทึกทีเดียว...สภาพรถจะเหมือนเดิมหรือเปล่าหว่า พอเห็นรถตัวเองแล้วก็ค่อยๆ เดินดูรอบๆ วนไปวนมาหลายรอบ ก้มดูฝากระโปรงรถว่ามันแนบสนิดไม่โป่ง ดูความเนียนของสี (ทำไปงั้นแหละ ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ แค่คิดว่าควรต้องดูอะไรบ้าง)

สรุปว่าภายนอกซ่อมได้ดีทีเดียว ส่วนภายในไม่มีอะไรเสียหาย แต่ตอนที่ลองปิด-เปิดประตูข้างซ้ายที่ถูกชน รู้สึกได้เลยว่าประตูมันตก เราบอกให้พนักงานที่มาต้อนรับเราช่วยแจ้งช่างให้แก้ไขอีกครั้ง น้องเค้าพูดกับเราว่าถ้าให้แก้ไขต้องใช้เวลาตรวจเช็คนานนะคะ เราก็ตอบสั้นๆ ว่า "รอค่ะ" สักพักใหญ่ๆ น้องคนเดิมก็เดินมาบอกว่ารถเรียบร้อยแล้ว เราเดินออกไปดูรถ แล้วก็ลองปิด-เปิดประตูอีกรอบ...แม่เจ้า!! ไม่ต่างกับเมื่อกี้เลยน๊ะเทอ (ชักเกิดอารมณ์นิดๆ) เราเลยบอกให้น้องเค้าลองปิด-เปิดประตูด้วยตัวเค้าอีก แล้วถามเค้าว่า "คุณรู้สึกยังไง?" เค้ายิ้มแหยๆ แล้วก็บอกว่า รู้สึกมันติดๆ กึกๆ ค่ะ (เอ่อ! แล้วยังจะให้ตูรับรถอีกหรือเปล่า) และแล้วก็เอารถไปแก้ประตูอีกรอบ ตอนนั้นเราเหมือนระเบิดเวลาลูกย่อมที่พร้อมระเบิด...เป็นไงเป็นกัน จะไม่รับรถจนกว่าประตูจะปิดได้ปกติเหมือนเดิม คราวนี้รอไปเลย 2 ชั่วโมงกับอีกสี่สิบห้านาที (ติดพักเที่ยง) แต่ผลที่ได้รับคือความพึงพอใจ แอบขัดใจนิดๆ ที่ไม่เป็นไปตามคาดหวัง คือ "มีเรื่อง" อิอิ

 อายจังข้อคิดที่ได้รับ... 1. เรื่องของความเชื่อบังคับกันไม่ได้ จนกว่าจะเจอเหตุผลอันสมควรให้เชื่อ  2. ก่อนเซ็นต์รับรถซ่อม ต้องตรวจให้ละเอียด ถ้างานซ่อมยังไม่ดี ต้องให้ศูนย์หรืออู่แก้จนกว่าจะดี  3.จะไปติดต่อธุระตามสถานที่ต่างๆ ควรเช็คเวลาทำการของสถานที่นั้นๆ ก่อน
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
eak99
"Saturday Man"
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,742


EAK_EK


« ตอบ #21 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 16:39:21 »

จุมพิต   เดี๋ยวเค้าไปซื้อป็อปคอร์นแปป...

ป็อปคอร์นหมดยังคับ  ถ้าหมดรีบไปซื้อด่วนเลยคับ เดี่ยวพลาดฉากสำคัญ

ปล. ซื้อฝากผมด้วยน้า  555 !


 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #22 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 19:44:28 »

"ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"...เจิมรถ (กระทันหัน)
ตอนแรกคิดว่าจะเอารถไปเจิมที่วัดแถวบ้าน แต่หาจังหวะเหมาะไม่ได้ จนสุดท้ายต้องลงไปดูงานที่ภูเก็ตอีกครั้ง เลยคิดว่าหลังจากเสร็จงานแล้วค่อยกลับมาเจิม คราวนี้ค่อยๆ ขับไปเรื่อย (ยังรู้สึกแหยงๆ)

อยู่ภูเก็ตได้ไม่กี่วันก็เกิดเหตุการณ์เครื่องบิน One2Go ตกที่สนามบินภูเก็ต วันนั้นจำได้แม่น 16 กันยา 2550 ตอนบ่ายๆ เราอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วเห็นรถฉุกเฉินวิ่งพาคนเจ็บมาส่งหลายคน พนักงานโรงพยาบาลก็วิ่งวุ่นเต็มไปหมด พอดีมีกล้องติดตัวก็เลยถ่ายรูปไว้หลายรูป พอดีรถฉุกเฉินคันหนึ่งกำลังจะไปรับคนเจ็บที่สนามบินอีกรอบ เลยขอเค้าติดรถไปด้วย

คนขับรถฉุกเฉินขับได้เทพมาก ฝนตกพร่ำๆ ถนนลื่น หวิดชนหลายครั้ง แต่ไม่ชน (เห่อๆ เสียวคร้า) จากในเมืองภูเก็ตไปสนามบินระยะทางประมาณมาบุญครองไปแยกหลักสี่ ระหว่างทางสังเกตุเห็นว่ารถหลายคันไม่หลบให้รถฉุกเฉินไปก่อน ประมาณว่าถ้าใครรีบก็หาช่องทางแซงเอง แต่ฉันจะขับของฉันไปเรื่อยๆแบบนี้แหละ รถฉุกเฉินที่เรานั่งไปก็เลยใช้วิธีขับแบบเลื้อยยังกับงู เสียวตลอดเวลาเลยเรา บางช่วงเจอรถขับปิดเส้นทางหมด หาช่องแซงไม่ได้ คนขับรถฉุกเฉินก็ต้องบีบแตรใส่ดังๆ หลายทีเค้าถึงจะหลบให้ทาง

ครั้งแรกที่ได้เข้าถึง runway สนามบิน สภาพที่เห็น คือ มีรถฉุกเฉิน รถดับเพลิง รถมูลนิธิเต็มไปหมด ผู้คนมาจากไหนไม่รู้ เครื่องบินตกอยู่นอก runway ไกลพอสมควร หักครึ่งลำ ควันโขมง รถดับเพลิงต้องฉีดน้ำใส่ตลอดเวลา เราเดินลุยโคลนเข้าไปจนถึงตัวเครื่อง แต่ตอนที่ไปถึงไม่มีผู้รอดชีวิตแล้ว รูปที่ได้มาไม่น่าดู (คนเสียชีวิต) เห็นแล้วสลดใจบอกไม่ถูกค ส่วนใหญ่เป็นต่างชาติที่ตั้งใจมาท่องเที่ยว แต่ต้องมาจบชีวิตต่างบ้านต่างเมือง เฮ้อ!! เศร้า

หลังจากนั้นเวลาขับรถจะรู้สึกว่ารถอืดมาก เหมือนบรรทุกของหนัก จนวันที่ไปรับเพื่อนรุ่นพี่ 2 คน ที่สนามบินและพาไปส่งที่พักเป็นเซอร์วิสแมนชั่นแถวกระทู้ เราบ่นให้พี่ๆ ฟังว่ารู้สึกรถเหยียบไม่ขึ้น เมื่อกี้ตอนแซงรถมอร์ไซต์ยังแซงไม่ได้ พอเราพูดจบ พี่ๆ ก็ร้องอ๋อ! แล้วพูดว่า "มิน่าหล่ะ ฉันเห็นเธอจะแซง แล้วก็ไม่แซง ฉันก็งงๆ ว่ามันจะเอายังไงของมัน" พี่ๆ บอกให้เก็บข้าวของในรถออก จะได้ไม่เปลืองน้ำมัน รถก็ไม่อืดด้วย เราไม่ได้ขนอะไรสักหน่อย ตอนส่งพี่ๆ ที่หน้าแมนชั่น เราลงไปเปิดกระโปรงท้ายให้พี่ๆ ดูว่าไม่มีอะไรเลย ว่างเปล่า

อาทิตย์ต่อมาเราไปทำบุญกับเพื่อนคนหนึ่งที่เรารู้จักตอนมาภูเก็ตครั้งแรก วัดที่ไปทำบุญชื่อ "วัดนาคา" อยู่ในตัวเมืองภูเก็ต หลังทำบุณเสร็จกำลังจะเดินไปที่รถ มีแม่ชี (ดูมีอายุพอควร) เดินมาที่เรากับเพื่อน แล้วพูดว่า "ทำไมหนูไม่ให้หลวงพ่อเจิมรถเลยหล่ะ" ขนลุกอ่ะ (ใจคิด..เฮ้ย! รู้ได้ไง ไม่รู้จัก ไม่เคยเจอกันเลยนะ) เพื่อนมองหน้าเรา เรามองหน้าเพื่อน (มันยังไงหล่ะทีนี) แล้วเพื่อนก็ถามขึ้นมาว่าแกยังไม่เจิมรถเหรอ เราได้แต่พยักหน้ารับ แล้วเพื่อนหันไปหาแม่ชีแล้วถามแม่ชีว่า "แม่ชีรู้ได้ยังไงคะว่ารถของเพื่อนหนูยังไม่ได้เจิม" แม่ชีไม่ตอบแต่หันมามองหน้าเรา แล้วก็เดินจากไป ทิ้งให้เรากับเพื่อนยืนอ้าปากเหวออยู่พักหนึ่ง เพื่อนขึ้นถามว่า "นี่เธอไปรู้จักกับแม่ชีตั้งแต่เมื่อไหร่ และถ้าจะเจิมรถถามชั้นก็ได้นะ ชั้นรู้จักหลวงพ่อดังๆ หลายวัด ชั้นพาไปได้นะ"  เราเงียบอยู่สักครู่ พอสติสตังกลับมาก็อ้าปากพูด "เฮ้ย!! เราไม่รู้จักแม่ชี ไม่เคยเจอเลยด้วย ไม่รู้ว่าแม่ชีรู้ได้ยังไง" เพื่อนทำหน้าเหวอ ตาโตใส่เรา เราก็ยืนยันคำเเดิมคือ "ไม่รู้จักจริงๆ"

พอพูดจบเพื่อนก็คว้ามือเราพาเดินไปทางที่แม่ชีเดินไปเมื่อกี้ ระหว่างเดินปากก็พูดว่าต้องไปถามให้รู้เรื่อง เดินหาอยู่พักใหญ่ไม่เจอแม่ชี เห็นแต่พระองค์หนึ่ง (อายุน่าจะ 60 กว่าๆ) เดินออกมาจากโรงทาน ตอนนั้นไม่รู้เราคิดอะไรอยู่ เรารีบพนมมือเข้าไปหาท่านแล้วถามท่านว่า "ลูกอยากให้เจ้าอาวาสวัดนี้เจิมรถให้ ไม่ทราบว่าท่านอยู่ที่ไหนคะ" พระท่านตอบว่า "ก็อาตมานี่แหละเจ้าอาวาส จะเจิมรถเหรอ รถอยู่ไหนหล่ะ" เรารีบเดินนำท่านมาที่รถ ท่านเดินตามมาแต่พอใกล้ถึงรถท่านก็หยุดเฉยๆ แล้วบอกว่า "เดี๋ยวอาตมามา โยมรอกันตรงนี่ก่อน" เรากับเพื่อนก็ยืนรอจนท่านเกือบ 10 นาที เหมือนท่านไปแต่งตัวใหม่ ดูเรียบร้อยมากกว่าเมื่อกี้นี้ สะพายย่ามมาด้วย ในมือถ้วยเงินเล็กๆ กับขันน้ำมนต์มาด้วย

หลวงพ่อบอกให้เปิดประตูรถทั้ง 4 บาน และกระโปรงหลังด้วย เราเฝ้าดูหลวงพ่อทำพิธีแบบไม่ให้หลุดจากสายตาแม้แต่น้อย ท่านวางขันน้ำมนต์ไว้ที่โต๊ะม้าหินใกล้ๆ จากนั้นปากท่องคาถาไป นี้วชี้ก็คนในถ้วยเงินใบเล็กไป (น่าจะเป็นดินสอพอง) แล้วท่านก็เข้าไปนั่งที่เบาะคนขับ แล้วก็เขียนยันต์บนผนังหลังคารถ จากนั้นก็ล้วงไปในย่ามหยิบสายสินหลากสีเส้นโตมาผูกที่คอพวงมาลัยรถ เสร็จแล้วท่านเดินมาหยิบขันน้ำมนต์แล้วไปยืนหน้ารถ เรากับเพื่อนเห็นว่าท่านจะลดน้ำมนต์ ก็เลยรีบนั่งยองๆ ข้างรถ แล้วท่านก็เริ่มรดน้ำมนต์ที่ฝากระโปรงรถ แล้วก็ค่อยๆ ไล่มาที่ประตูหน้าด้านขวาหน้าไปหลัง แล้วก็กระโปรงท้าย วนไปด้านซ้ายจนรอบคัน (รดเข้าไปในรถด้วยแหละ) แล้วท่านก็กลับมายืนหน้ารถแล้วก็เริ่มรดน้ำมนต์ไปตรงพื้นที่ว่างๆ ด้านซ้ายของรถ ซึ่งเรากับเพื่อนหันมองหน้ากันทันที รดทำไมตรงนั้น ไม่เห็นมีใครเลย (ขนลุกอีกแล้ว) จากนั้นค่อยมารดน้ำมนต์ให้เรากับเพื่อน

พอเสร็จพิธี หลวงพ่อบอกให้เราตามท่านไป ท่านไปที่ศาลาวัดอยู่ติดกับโรงทาน ในนั้นมีพระพุทธรูปตั้งอยู่เยอะมาก น่าจะเป็นร้อยๆ รูปได้ มีทั้งองค์เล็กองค์ใหญ่เต็มไปหมด รู้สึกถึงความสงบและเย็นสบาย ท่านนั่งบนเบาะแล้วก็เอื้อมไปหยิบสายสิญจน์ที่วางอยู่บนถาดสีทอง เอามาถือไว้ในมือ แล้วท่านก็ถามเราว่า "โยมไปไหนมาบ้าง" ซึ่งเราก็ งง กับคำถาม ก็เลยถามกลับไปว่า...หลวงพ่อหมายถึงสถานที่หรือว่าเส้นเดินคะ ท่านบอกว่าที่ที่มีคนต่างชาติเยอะๆ เรารีบตอบทันที "สนามบินค่ะ"

หลวงพ่อท่านพูดว่า "เค้าตามมานะ เยอะด้วย ให้ทำบุญเยอะๆ ตั้งอธิษฐานจิตดีๆ แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลไปให้พวกเค้า" ตอนนั้นบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง มันอึ้งๆ ชาๆ และก็กลัวค่ะ เราถามหลวงพ่อว่า "เค้าตามเราทำไม แล้วจะตามอีกนานไหม" หยวงพ่อไม่ตอบ แต่บอกให้ยื่นมือออกไปรับสายสิญจน์ แล้วท่านก็หย่อนสายสิญจน์ลงบนมือเรา แล้วบอกให้ผูกไว้จนกว่าสายสิญจน์จะขาดไปเอง

(สาบานได้ว่านี่คือเรื่องจริง)

ข้อคิดที่ได้รับ... 1.โลกแห่งพุทธศาสนา ยังมีเรื่องราวที่ไม่น่าเชื่ออยู่  2.บางครั้งตั้งใจทำ กลับไม่ได้ทำ แต่บางครั้ง ความบังเอิญอาจทำให้ย้อนกับไปทำในสิ่งที่เคยตั้งใจทำไว้


* One2Go.jpg (113.53 KB, 600x656 - ดู 1092 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #23 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 19:50:50 »

ภาพที่เราถ่ายที่โรงพยาบาล


* One2Go-2.jpg (128.44 KB, 600x656 - ดู 1111 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
NATASHA
Gold Member
เจ้ายุทธภพ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,079



« ตอบ #24 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 20:13:54 »

จุมพิต   เดี๋ยวเค้าไปซื้อป็อปคอร์นแปป...
ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

Coupe Racing>>http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,95643.0.html >> CIVIC CLUB # 672 : AYUTTHAYA
chira711
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,526


NO.674 อยุธยา-บางปะหัน-หนองแขม..


« ตอบ #25 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 20:14:05 »

 ลังเล ลังเล   เดินเรื่องได้ หน้าติดตาม มากครับ....การเรียบเรียง อักขระ อ่านแล้ว....ชวนติดตามครับ......

ให้กำลังใจครับ....พักเรื่องเครื่อง....มาเป็นผู้  อ่านบ้างก็ ดีเหมือนกันครับ....
บันทึกการเข้า

"ไม่สูงต้องเขย่ง  ไม่เก่ง ต้องขยัน  สักวันก็ได้ดี "
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #26 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 20:50:30 »

 ยิ้มกว้างๆ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

 ตกใจ ตอนต่อไป "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"...การชนครั้งที่ 3 ชีวิตเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง (ไว้มาเล่าพรุ่งนี้นะ ขอหาภาพประกอบก่อน)

 ยิ้ม นอนหลับฝันดีกันทุกคนนะคะ
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Toajeed
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 293



« ตอบ #27 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2012, 23:04:30 »

ยิ้มกว้างๆ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

 ตกใจ ตอนต่อไป "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"...การชนครั้งที่ 3 ชีวิตเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง (ไว้มาเล่าพรุ่งนี้นะ ขอหาภาพประกอบก่อน)

 ยิ้ม นอนหลับฝันดีกันทุกคนนะคะ

รอ รอ รอ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
Chokhihi
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 801



« ตอบ #28 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2012, 06:56:32 »

ยินดีต้อนรับครับ  อ่านมันมากกกก
บันทึกการเข้า

ขายของทำทุนคับ http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=169535.new#new
HI-DR
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18



« ตอบ #29 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2012, 08:39:19 »

ปูเสื่อรออ่านซีรี่ อ๊อดๆ ยิ้ม
บันทึกการเข้า
eak99
"Saturday Man"
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,742


EAK_EK


« ตอบ #30 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2012, 09:51:36 »

ยิ้มกว้างๆ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

 ตกใจ ตอนต่อไป "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"...การชนครั้งที่ 3 ชีวิตเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง (ไว้มาเล่าพรุ่งนี้นะ ขอหาภาพประกอบก่อน)

 ยิ้ม นอนหลับฝันดีกันทุกคนนะคะ


กลับมาติดตามต่อคับ

 จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า
Regis100
ม่อนเงาะ ณ เชียงใหม่
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18,639


ผมก็แค่ผู้โง่เขลาคนนึงที่พยายามอยากฉลาด@ เชียงใหม่เจ้า


« ตอบ #31 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2012, 12:15:26 »

 ลังเล ลังเล ลังเล  รอดู
บันทึกการเข้า

ค้นคำตอบก่อนรอคำตอบนะครับ พิมพ์ไว้เยอะแล้ว หาอ่านกันดู
เชื่อผมไม่เชื่อผมไม่มีปัญหา
pulanet
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 334


โปรเจ็คท์หน้า Corsa Blue Devils


« ตอบ #32 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2012, 13:04:38 »

ข้อเสวนา

1. พุทธศาสนา กับ ไสยวิชชา เป็นคนละเรื่องครับ แต่คนไทยคิดว่ามันรวมกันอยู่ เอามาผูกรวมกันจนแยกไม่ออกเนื่องจากเป็นความเชื่อเหมือนกัน คนเราก้เลยเหมาๆ รวมๆ กันไปการที่เราใช้นักบวชในพระพุทธศาสนามาดูฤกษ์ออกรถหรือมาเจิมรถมันไม่ใช่เรื่องของพุทธศาสนา แต่การที่เราคิดแต่แรกว่า เรื่องนี้ไม่จำเป็น รถจเฉี่ยวชน หรือมีอุบัติเหติ ย่อมมีเหตุปัจจัยในตัวมันไม่ว่าจะขับเร็ว ขาดความระมัดระวัง หรือสภาพแวดล้อมไม่ดี ไม่ได้เกี่ยวกับรถที่เจิมหรือออกฤกษ์งามยามดี แต่อย่างใด้ คิดแบบประเด็นหลังต่างหากที่เป็นพระพุทธศาสนา

2. ประเด็นสำคัญที่เวลาเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับรถ สิ่งที่ดีที่สุดให้ขณะนั้นคือ สติ ครับ ที่เหลือก็จะเป็นเรื่อง สตังค์

3. ความเชื่อเป็นเรื่องบังคับกันไม่ได้ แต่อย่าเปลี่ยนความเชื่อเป็นความงมงายครับ แม้สองสถานะนี้จะดูต่างกันมาก แต่มีคนจำนวนมาก อยู่ในสถานะตรงที่งมงาย แต่จะบอกว่าเป็นเพียงความเชื่อ สิ่งที่เหนือกว่าทั้งความเชื่อและความงมงาย คือ เหตุและผล ซึ่งเป้นพื้นฐานที่มาแห่ง "อริยสัจ 4" หากเราพิจารณาเรื่องราวในชีวิตเราดีๆ แทบจขะไม่มีอะไรที่เราทำเพราะเป็นเหตุผล เรามักจะทำ หรือคิดเพราะพื้นฐานจากความเชื่อไปทั้งหมด นั่นย่อมให้เราตกอยู่ในสภาวะแห่ง "ทุกข์" แต่ถ้าเราดิ้รนแก้ทุกข์ โดยใช้แนวทางที่ไปไม่ถึง "มรรค" เราก็ติดอยู่ในวังวนแห่งทุกข์จากความเชื่อนั้น

วันนี้พูดเป้นเรื่องเป็นราว ชักเขิน  อายจัง

ปล. อย่าคิดว่าผมเป็นพระครับ เพราะจริงๆ แล้วผมเป็นอิสลาม ร้องไห้
บันทึกการเข้า

ชอบ S13 รัก Silvia เชื่อมั่น Nissan แต่ขับ CIVIC
kenchoku
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7


« ตอบ #33 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2012, 17:02:07 »

เขียนหนังสือ อ่านง่ายดีครับ น่าติดตามเนื้อเรื่อง

ขีบรถช้าๆ และอย่าประมาทเป็นดีที่สุดครับ  ผมท่องคำนี้หลังตัวเองอยู่หลังพวงมาลัยเสมอครับ เจ๋ง เจ๋ง รูดซิบปาก รูดซิบปาก







Civic | Civic Club | Civic FB
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 พฤษภาคม 2012, 11:16:09 โดย ITc@t » บันทึกการเข้า
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #34 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2012, 18:47:51 »

"ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"....การชนครั้งที่ 3 (ตอน 1)

15 กพ 2552 หลังวันวาเลนไทน์ 1 วัน... เวลา 8:00 น. - 20:30 น.
ก่อนเกิดอุบัติเหตุ 12 ชั่วโมง 30 นาที
เป็นอีกครั้งที่ต้องไปภูเก็ต ตอนแรกจะนั่งเครื่อง แต่บังเอิญมีงานถ่ายรูปโฮมสเตย์ของลูกค้าที่อัมพวา เลยเปลี่ยนเป็นขับรถไปเอง เพื่อจะได้ทำงาน 2 อย่าง ในการเดินทางแค่ครั้งเดียว ส่วนใหญ่เวลาไปภูเก็ตจะออกจากกรุงเทพตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพื่อให้ถึงเกาะก่อนพระอาทิตย์ตกน้ำทะเลที่สะพานสารสิน เราชอบสีและแสงของพระอาทิตย์ตอนตัดกับเส้นขอบน้ำทะเลที่ปลายฟ้า ช่างสวยงาม ได้อารมณ์แห่งความสงบ อบอุ่น และเหงาจับใจ

แต่วันนั้นมีประชุมช่วงเช้าจนถึง 10 โมง ทำให้เวลาออกเดินทางไม่ตรงตามที่ตั้งใจไว้ หลังประชุมที่บริษัทซอยศูนย์วิจัยเสร็จ เรารีบขับรถขึ้นทางด่วนแถวพระราม 9 (รถติดมาก) มาลงเส้นพระราม 2 (ติดยิ่งกว่า) แล้วมุ่งหน้าลงใต้

มาถึงโฮมสเตย์ของลูกค้า (ริมน้ำคอทเทจ) ประมาณเที่ยงกว่า พอถึงก็รีบถ่ายรูปโฮมสเตย์ทั้ง 5 หลัง โชคดีที่แสงธรรมชาติสวยทำให้ภาพออกมาไม่มีปัญหา ส่วนภาพถ่ายในห้องพักคงต้องใช้ Photoshop ช่วยปรับแสงบ้างเล็กน้อย เพราะไม่มีอุปกรณ์ช่วยสักอย่าง ถ่ายมันดิบๆ บริเวณของโฮมสเตย์กว้างมาก เราเดินจะเหนื่อย แถมเหงื่อไหล่เป็นท่อน้ำประปาแตก (หน้ามะเมือกอีกแล้ว) กว่าจะถ่ายรูปเสร็จปาเข้าไปบ่ายสองโมงครึ่ง (ในใจคิด...เห่อๆ ถึงภูเก็ตกี่โมงหว่า)

กำลังเก็บของขึ้นรถ คุณป้าเจ้าของโฮมสเตย์เดินเอาถุงพลาสติกมายื้นให้ แล้วพูดว่า "ปลาทูต้มเค็มแม่ทำเอง เอาไปกินนะ" (เราเคารพคุณป้ามากก็เลยเรียกท่านว่าแม่ตั้งแต่แรกแล้ว ท่านก็แทนตัวเองว่าแม่เวลาคุยกับเรา) เรารีบยื้นมือไปรับแล้วก็ยกมือไหว้ขอบคุณ (>_<) ของฟรี!! ชอบอ่ะ แล้วคุณป้าก็ถามเราว่า "แล้วเดี๋ยวหนูจะไปที่ไหนต่อเหรอ?" เราตอบว่า "ไปภูเก็ตต่อค่ะแม่" แค่นั้นแหละ คุณป้าพูดเสียงหลงเชียว "โอ้โฮ!! ไปภูเก็ตเลยเหรอ มันไกลนะลูก จะขับไหวเหรอ แล้วจะไปถึงกี่โมงกี่ยาม นี่บ่ายแล้วนะลูก กว่าจะถึงมันจะมืดค่ำก่อนนะ ฯลฯ" เราต้องอธิบายอยู่สักพักว่าไปทำไม ทำไมต้องไป คุณป้าพูดประโยคสุดท้ายว่า "'งั้นก็ขับดีๆ อย่าประมาท อย่าขับเร็วมาก เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุรถคงรถคว่ำขึ้นมาจะแย่" เราได้แต่ยิ้มพร้อมกับพยักหน้าตอบรับคำเตือน (แต่ในใจ...เห่อๆ ไหงวันนี้ป้าพูดแบบนี้หว่า แปลกเน้อ งานจะเข้าเปล่าหว่าตรู ...เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านก็รู้สึกกังวลยังไงไม่รู้ แล้วที่ผ่านมาเวลารู้สึกแบบนี้ทีไรมีเรื่องให้ปวดหัวทุกทีเชียว) แต่เราไม่อยากให้ความสำคัญกับความรู้สึกพวกนี้มากนัก เพราะมันทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างไม่ปกติสุข

ทันทีที่บั้นท้ายรถพ้นรั้วของโฮมสเตย์ เรากดเท้าเหยียบคันเร่งมิดเลย กว่าจะหลุดออกจากสวนมาสู่ถนนหลักได้ก็ใช้เวลาเกือบครึ่งค่อนชั่วโมง ความจริงไม่อยากรีบแบบนี้หรอก แต่พรุ่งนี้มีงานแต่เช้าและเราเพิ่งฟื้นไข้ เลยอยากไปให้ถึงภูเก็ตเร็วๆ จะได้พักผ่อนบ้าง และอาการไข้เหมือนจะกลับมา รู้สึกคั้นเนื้อคั้นตัว ร้อนๆ หนาวๆ อึดอัด ตาพล่า และเหงื่อออก คงเพราะเดี๋ยวเจออากาศร้อนอบอ้าว เดี๋ยวเจอแอร์เย็นในรถ อุณหภูมิร่างกายปรับตัวไม่ทัน จะกินยาแก้ไข้ก็กลัวง่วง เลยใช้วิธีปิดแอร์แล้วเปิดกระจกรถแทน ทำให้รู้สึกโล่งขึ้นมาบ้าง

แต่พอเปิดกระจกก็ทำให้เสียงลมที่ผ่านเข้ามาในรถดังจนไม่ได้ยินเสียงเพลงที่เปิด เราเลยเปิดเพลงเสียงดังลั่นโลก เพลงที่เปิดเทคโนแดนซ์ล้วนๆ มีแต่ตื๊ด ตื๊ด ไม่มีเนื้อเลย (ความชอบส่วนตัวอ่ะนะ) ระหว่างที่รถวิ่งไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเวลาจอดติดไฟแดงหรือเลี้ยวเข้าปั้ม ไม่มีใครไม่มองรถเราเลย สายตาเหล่านั้นบ่งบอกถึงความคิดที่หลากหลาย มองแล้วอมยิ้ม มองแล้วทำหน้าเหมือนปวดอึ มองแล้วรีบเมิน มองแล้วส่ายหน้านิดๆ มองแล้วยิ้มเย๊าะๆ มองแล้วทำหน้างงๆ มองแล้วเลิกคิ้ว ฯลฯ และอย่างที่บอกไว้แต่แรกแล้วว่า "เหยียบมิด" เราขับแซงรถหลายๆๆๆๆ คันมาตลอดทาง แซงซ้ายบ้าง ขวาบ้าง ปาดไปปาดมา จะเรียกว่าวันนั้นเราเป็นชะนีที่ขับรถได้นรกมาก ถ้าเราโดนคนอื่นขับแซงหรือปาดหน้าแบบนี้ เราคงอวยชัยให้พรแบบนรกๆ (ไม่ดี ไม่ดี เพื่อนๆ อย่าทำตามนะ มันบาปด้วยแหละ)

ข้อคิดที่ได้รับ... 1.สายตามนุษย์ สามารถแสดงให้เห็นถึงความรู้สึก และอารมณ์ได้  2.ปลาทูต้มเค็มของคุณป้าเจ้าของโฮมสเตย์ริมน้ำคอทเทจ อร่อยกว่าที่คิด  3.ร่างกายไม่ใช่เครื่องจักรที่พังแล้วซ่อมหรือมีอะไหร่เปลี่ยนได้ทุกชิ้น ควรทำงานเท่าที่สังขารรับไหว

ภาพที่เราถ่าย: โฮมสเตย์ของลูกค้า (ริมน้ำคอทเทจ)


* rimnamcottage.jpg (135.58 KB, 750x497 - ดู 619 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 มิถุนายน 2012, 20:43:44 โดย Tom-Keyray » บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #35 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2012, 19:06:56 »

ภาพที่เราถ่าย 2: โฮมสเตย์ของลูกค้าค่ะ


* rimnamcottage2.jpg (104.76 KB, 750x497 - ดู 596 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Alex007
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 214


« ตอบ #36 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2012, 20:17:21 »

 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม จุมพิต จุมพิต จุมพิต ลังเล ลังเล ลังเล ลังเล ลังเล
บันทึกการเข้า
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #37 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2012, 20:32:31 »

 ยิ้ม "การชนครั้งที่ 3" ชีวิตเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง
15 กพ 2552 หลังวันวาเลนไทน์ 1 วัน (20:30น.) - ดูภาพกันไปก่อนนะคะ ส่วนเหตุการณ์ตอนที่เป็นเช่นนี้ขอเล่าต่อพรุ่งนี้ค่ะ เนื่องจากคุณแม่สุดที่รักเรียกให้ไปป้อนอาหารคุณโคล่า (แมวเหมียว) ท่านเรียกหลายครั้งแล้ว ถ้าครั้งนี้ยังไม่ปฎิบัติมีหวังโดนหักค่าขนมแน่ค่ะ

ข้อคิดที่ได้รับ... 1.ยืนยันอีกครั้ง!!..บนถนน อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ  2.ขอยืมประโยคของ "คุณ pulanet" มาใช้หน่อยนะคะ "เวลาเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับรถ สิ่งที่ดีที่สุดให้ขณะนั้นคือ สติ ครับ ที่เหลือก็จะเป็นเรื่อง สตังค์"  3.วินาทีเป็น วินาทีตาย ไม่เห็นคิดถึงพ่อ แม่ พี่ น้อง หรือสิ่งศักดิ์เลย คิดแค่ว่า...จะจบอีท่าไหน

!!! ขอความคิดเห็นเพื่อนๆ หน่อยค่ะ 1. โชคดีมีจริงรึ?   2.คนเราจะโชคดีได้กี่ครั้ง?   3.บางคนอยากตาย แต่ไม่ตายสักที ถือว่าโชคดีป่ะ?   4.ประสบอุบัติเหตุ (เกี่ยวกับรถ) หนักแล้วรอดตาย หมายถึง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเหรอ หรือมีของดีติดตัว?
 
หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว ช่วงแรกๆ ในสมองจะมีแต่คำถามพวกนี้ตลอด (เปรียบเสมือนพี่น้องที่อยู่บ้านเดียวกัน เจอหน้ากันทุกวัน ถึงแม้ปัจจุบันนี้พี่น้องจะแต่งงานแยกบ้านไปแล้ว แต่ก็แวะมาเยี่ยมเยี่ยนบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็อดคิดถึงไม่ได้) ในเมื่อตอนนี้ได้รู้จักเพื่อนๆ แล้ว ก็เลยอยากรู้ว่าเพื่อนๆ มีมุมมอง แนวคิด ทัศนคติ เกี่ยวกับเรื่องความเป็นความตายที่เกิดจากการขับขี่รถ

 อายจัง...ถ้าคำถามของเราดูไร้สาระต้องขออภัยด้วยนะคะ


* My-Car-After.jpg (81.81 KB, 750x498 - ดู 611 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #38 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2012, 20:38:35 »

รูปของวีออสที่ถ่ายไว้ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุค่ะ

 อายจัง ต้องขออภัยด้วยนะคะที่ถ่ายแบบครึ่งๆ กลางๆ ไม่เต็มคัน (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม)


* My-Car-Before.jpg (71.76 KB, 750x284 - ดู 816 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 พฤษภาคม 2012, 20:54:22 โดย Tom-Keyray » บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Super Jack
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 74



« ตอบ #39 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2012, 20:48:03 »

สุดสุด เกินคำบรรยาย กับการรอดอย่างมีสติ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 4 ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: การเดินทางกับเจ้า "ไวท์กี้"
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |