หัวข้อ: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 15 กันยายน 2013, 10:52:28 กำลังศึกษาว่า เครื่อง2ตัวนี้ ต่างกันมากไหมครับ
อยากรู้เรื่อง การกินน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ของ B20 กับ d15 3stage แล้วก็ค่าใช้จ่ายในการวางเครื่องด้วยครับ อยากได้เกียร์ ธรรมดา ด้วย ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: sengship ที่ 15 กันยายน 2013, 11:11:04 ผมคูเป้วางb20bออโต้ไฟฟ้า ออกจากอู่แอร์เย็น 46000
ขับปกติไม่เกิน120กินน้ำมัน 11โลลิตร อัตราเร่งดี ขับสนุก ของผมปัญหาจุกจิกยังไม่มี หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 15 กันยายน 2013, 21:05:58 ประหยัดกว่าเครื่องเดิมอีก น่าสนใจเลย ;)
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: Chokhihi ที่ 16 กันยายน 2013, 01:52:22 เคยเห็นB20 ATกระแทกออกตัวจากรอบเดินเบาแล้วล้อฟรี :P :P :P เห็นแล้วมันน่านัก
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 16 กันยายน 2013, 14:12:50 :o :o อยากได้เลย ลังเล ระหว่าง d15 กับb20 สงสัยได้b20มาแน่เลย รถที่บ้านกินน้ำมัน 6 -8กิโลอยู่ ;)
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 16 กันยายน 2013, 16:12:12 :o :o อยากได้เลย ลังเล ระหว่าง d15 กับb20 สงสัยได้b20มาแน่เลย รถที่บ้านกินน้ำมัน 6 -8กิโลอยู่ ;) d15b 3 stage ประหยัดกว่าแน่นอนคับ ทั้ง ในเรื่อง ขนาดของเครื่องยนต์ และการทำงาน อย่างแรกเลยคือ เครื่องขนาดเล็กกว่า กินน้ำมันก้น้อยกว่า แถมยังมี 3 สเตจ ขับชิลชิล ประหยัดน้ำมันได้ด้วย เหนเค้าว่ากันว่าวิ่งได้ 30 กม ลิตรเลยนะ ผมก้ไม่รุ้จิงมั้ย ผมก้พึ่งวางมาเสดเมื่อวานนี้เอารถไปลองก้ตอบสนองดีมากๆ ดีกว่า d16y8 ตั้งเยอะ แตะนิดเดียว พุ่งเลย มะวานผมเผลอเปิดเทคไป 3-5 ครั้งทั้งๆ ที่ช่างเค้าก้บอกแล้วว่าอย่าพึ่งไปซิ่ง เครื่องวางอยุ่เชียงกงมานานให้มันลื่นก่อน ผมก้เผลอไป เพราะมันนิ่มมากๆ แตะนิดเดียว รอบมาแล้ว ขับสนุกกว่าเดิมมากมาย อย่างที่สอง คือ ราคาเครื่องคับ เครื่องตัวนี้ ไม่ค่อยมีคนสนใจ ไม่รุ้ทำไม ทั้งๆ ที่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี ทั้งประหยัดก้ได้ แรงซิ่งๆ ก้พอได้ แต่ต้องหาช่างวายสายเก่งๆ คับ ไม่งั้นวายไม่ครบ แดกน้ำมันใช่เล่นนะคับ อีกอย่างคือ ราคาเครื่องต่างกันอย่างกับฟ้ากับเหว เครื่องตัวนี้ไม่ค่อยมีคนสนใจ ทำให้มีข้อดีสองอย่างคือ ราคาถูก และ มีให้เลือกสวยๆ เยอะคับ ลองชั่งใจดูคับ ผมศึกษาเครื่องตัวนี้มานานแล้ว ก่อนที่จะวางจริง ไม่ผิดหวังเลย สมดั่งใจเลย :) :) :) แถมคับ ลองไปศึกษาดูได้คับ http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=181341.0 หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 16 กันยายน 2013, 16:41:16 ราคาทั้งหัวพร้อมวาง ไม่เกิน 40,000.-
ผมว่าหล่อมากประหยัดครับ :-* หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 16 กันยายน 2013, 16:44:36 ราคาทั้งหัวพร้อมวาง ไม่เกิน 40,000.- ผมว่าหล่อมากประหยัดครับ :-* วางมาแล้วเหรอ ขับสนุกด้วยเนาะ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 16 กันยายน 2013, 17:08:28 วางมาแล้วเหรอ ขับสนุกด้วยเนาะ ;D ;D ;D ไม่ได้วางพี่ เปลี่ยนแค่ท่อนล่างเป็น ZC 555+ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: jkung_27 ที่ 16 กันยายน 2013, 17:28:49 ถ้าชอบทอคออกตัว b20 ไม่ผิดหวังครับ แต่ก็ต้องแรกกับการกินจุ แล้วต้องเซ็ทช่วงล่างใหม่ เนื่องจากน้ำหนักเครื่องมาก
ถ้าชอบประหยัด ขับชิวๆ 3stag ครับ ต้องวายสายของครอบ ไม่ผิดหวังครับ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 16 กันยายน 2013, 18:09:36 3stage เกียร์ ออโต้กับเกียร์ธรรมดา แรงกับกินน้ำมันต่างกันเยอะไหมครับ
ใจอยากได้แบบขับชิวๆๆ ไม่รีบ 30กิโลลิตร น่าสนใจมากเลยครับ ตอนนี้รถเดิมเป็นเกียร์ธรรมดา :'( หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 16 กันยายน 2013, 21:50:35 3stage เกียร์ ออโต้กับเกียร์ธรรมดา แรงกับกินน้ำมันต่างกันเยอะไหมครับ ใจอยากได้แบบขับชิวๆๆ ไม่รีบ 30กิโลลิตร น่าสนใจมากเลยครับ ตอนนี้รถเดิมเป็นเกียร์ธรรมดา :'( ชนได้คับ ผมก็ซื้อเครื่องเกียออโต้มาชนเกียMT เครื่องพร้อมเกีย mt แพงมากคับ ราคา 34xxx ถ้าเอา แบบเครื่องเกียออโต้ ราคา27xxx มาชนเกียเดิม ของผมแก้เรียบร้อยตอนนี้ขับดีมากๆคับ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 17 กันยายน 2013, 08:43:20 ชนได้คับ ผมก็ซื้อเครื่องเกียออโต้มาชนเกียMT เครื่องพร้อมเกีย mt แพงมากคับ ราคา 34xxx ถ้าเอา แบบเครื่องเกียออโต้ ราคา27xxx มาชนเกียเดิม ของผมแก้เรียบร้อยตอนนี้ขับดีมากๆคับ เดียวผมต้องหาเวลาไปถอดบ้าง อยากขับสบายๆ ประหยัดบาง มีอีก2คันกินน้ำมันยังกับปล้นไปแล้ว ;)หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 17 กันยายน 2013, 08:44:54 เดียวผมต้องหาเวลาไปถอดบ้าง อยากขับสบายๆ ประหยัดบาง มีอีก2คันกินน้ำมันยังกับปล้นไปแล้ว ;) ปัญหามันอยุ่ที่ช่างคับ ถ้าช่างเก่งๆ วายสายครบ ถึงจะประหยัดครบสูตร แต่ถ้าเจอช่างซ่อน วายไม่ครบ กินน้ำมันนะคับ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: Bear ที่ 17 กันยายน 2013, 09:10:05 B20 แรง กินน้ำมันมากกว่า หนักกว่า
D15B 3Stage ประหยัดดี พอวิ่งได้ครับตามแบบเครื่อง 1500 ไม่หวือหวาครับ อลงเลือกดูครับ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: KUEudCPE ที่ 17 กันยายน 2013, 09:45:48 3 stage ใครว่าไม่แรง จับยัด MTจูนกล่องสิ ถึงจะแรงไม่เท่า D15B เฉยๆ แต่ก็พอตัวนะผมว่า
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 17 กันยายน 2013, 09:52:10 3 stage ใครว่าไม่แรง จับยัด MTจูนกล่องสิ ถึงจะแรงไม่เท่า D15B เฉยๆ แต่ก็พอตัวนะผมว่า ผมว่าตัว 3 stage กับ d15b มันก้น่าจะแรงพอๆกันนะ เพราะ 130 hp เหมือนกัน แต่ ผมว่ามีหลายคนสับสนกับตัว d15b 3 stage vtec-e อันนี้เป็น ตัวอืดคับ 97 hp ที่เครื่องจะเขียนว่า d15bz7 แต่ถ้าเป็นตัว d15b ผมว่า แรงพอๆกันคับ แถมประหยัดกว่าด้วย ในช่วงรอบ ไม่เกิน 3000 D15B V-tec 3stage ฝาขาวที่ฝาจะไม่มีคำว่า VTEC D15B V-tec 130hp ฝาขาวปีจะใหม่กว่าตัวฝาดำ D15B V-tec 130hp ฝาดำ D15B V-tec-E 97hp ฝาขาวทีฝาจะมีคำว่า VTEC-E http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=64797.0 D15B 3 STAGE ที่หลายคนอยากรู้จัก « on: กันยายน 19, 2010, 09:58:40 pm » ReplyQuote d15b 3 stage 130 hp เป็นเครื่องยนต์ที่อยู่ใน civic ตาโต (ek) ความน่าใช้คงอยู่ที่คงอยู่ที่ความประหยัดมังครับ นี่น่าจะเป็นเหตุผลแรกที่คนอยากจะหันมาคบเครื่องตัวนี้ และอีกอย่างคงเป็นระบบเกียร์cvt ตามข้อมูลจากโรงงาน d15b 3 stage นั้นมีอัตราบริโภคนําม้นที่ 28.0 km/l สําหรับเกียร์ออโต้ cvt และ 30.0 km/l สําหรับเกียร์ธรรมดา ที่ความเร็ว 60 km/h อ้างอิงจากหนังสือ hyper lev civic no.66 (โม้หรือเปล่า) สําหรับเครื่องรุ่นนี้เกียร์ธรรมดาค่อนข้างน้อย(หายาก) เพราะเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นนิยมเกียร์ออโต้กัน ปัญหาใหญ่ๆที่เกิดกับการวางเครื่อง d15b 3 stage อย่างแรกที่ทุกคนคิดคงเป็นเรื่องสายไฟ(ขอค้างไว้ก่อนนะคับ) ขออธิบายเรื่องความแตกต่างระหว่างเครื่องเกียร์ธรรมดากับออโต้ก่อนนะครับ ก็คือระบบเดินเบา (idle) ตัวเกียร์ธรรมดาจะใช้มอเตอร์เดินเบาลักษณะเดียวกับ b16a b18c หรือ d15b ตัว 130 แรงใน eg มีสายไฟ 2 เส้นตัแหน่งอยู่หลังท่อไอดี ส่วนตัวเกียร์ออโต้ จะเป็นตัวเดินเบาอยุ่ใต้ลิ้นปีกผีเสื้อ มีสายไฟ 3 เส้น ใช้ควบคุมให้ลิ้นปิดเปิดอากาศ ข้อนี้น่าจะเป็นวิธีดูว่าเครื่องตัวนี้เกียร์อะไรในกรณีเครื่องไม่มีเกียร์ติดมา http://board.eg3d-club.com/index.php?topic=35161.0 หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: KUEudCPE ที่ 17 กันยายน 2013, 21:53:00 ผมว่าตัว 3 stage กับ d15b มันก้น่าจะแรงพอๆกันนะ เพราะ 130 hp เหมือนกัน แต่ ผมว่ามีหลายคนสับสนกับตัว d15b 3 stage vtec-e อันนี้เป็น ตัวอืดคับ 97 hp ที่เครื่องจะเขียนว่า d15bz7 แต่ถ้าเป็นตัว d15b ผมว่า แรงพอๆกันคับ แถมประหยัดกว่าด้วย ในช่วงรอบ ไม่เกิน 3000 D15B V-tec 3stage ฝาขาวที่ฝาจะไม่มีคำว่า VTEC D15B V-tec 130hp ฝาขาวปีจะใหม่กว่าตัวฝาดำ D15B V-tec 130hp ฝาดำ D15B V-tec-E 97hp ฝาขาวทีฝาจะมีคำว่า VTEC-E http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=64797.0 D15B 3 STAGE ที่หลายคนอยากรู้จัก « on: กันยายน 19, 2010, 09:58:40 pm » ReplyQuote d15b 3 stage 130 hp เป็นเครื่องยนต์ที่อยู่ใน civic ตาโต (ek) ความน่าใช้คงอยู่ที่คงอยู่ที่ความประหยัดมังครับ นี่น่าจะเป็นเหตุผลแรกที่คนอยากจะหันมาคบเครื่องตัวนี้ และอีกอย่างคงเป็นระบบเกียร์cvt ตามข้อมูลจากโรงงาน d15b 3 stage นั้นมีอัตราบริโภคนําม้นที่ 28.0 km/l สําหรับเกียร์ออโต้ cvt และ 30.0 km/l สําหรับเกียร์ธรรมดา ที่ความเร็ว 60 km/h อ้างอิงจากหนังสือ hyper lev civic no.66 (โม้หรือเปล่า) สําหรับเครื่องรุ่นนี้เกียร์ธรรมดาค่อนข้างน้อย(หายาก) เพราะเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นนิยมเกียร์ออโต้กัน ปัญหาใหญ่ๆที่เกิดกับการวางเครื่อง d15b 3 stage อย่างแรกที่ทุกคนคิดคงเป็นเรื่องสายไฟ(ขอค้างไว้ก่อนนะคับ) ขออธิบายเรื่องความแตกต่างระหว่างเครื่องเกียร์ธรรมดากับออโต้ก่อนนะครับ ก็คือระบบเดินเบา (idle) ตัวเกียร์ธรรมดาจะใช้มอเตอร์เดินเบาลักษณะเดียวกับ b16a b18c หรือ d15b ตัว 130 แรงใน eg มีสายไฟ 2 เส้นตัแหน่งอยู่หลังท่อไอดี ส่วนตัวเกียร์ออโต้ จะเป็นตัวเดินเบาอยุ่ใต้ลิ้นปีกผีเสื้อ มีสายไฟ 3 เส้น ใช้ควบคุมให้ลิ้นปิดเปิดอากาศ ข้อนี้น่าจะเป็นวิธีดูว่าเครื่องตัวนี้เกียร์อะไรในกรณีเครื่องไม่มีเกียร์ติดมา http://board.eg3d-club.com/index.php?topic=35161.0 พอดีใช้เครื่อตัวนี่อยู่เหมือนกันครับ พิมพ์ตกไป ว่าถ้าเอาไปแต่งจะสู้ D15B เฉยๆไม่ได้เพราะพวกชุดบนไม่มีให้เล่นมาก เลยทำให้สับสนคับพี่ เหอะๆ :) ว่าแต่ ยังหา EF ม่ะได้เลยคับพี่ :'( หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: rutputin ที่ 18 กันยายน 2013, 13:46:00 d15b 3 stage ประหยัดกว่าแน่นอนคับ ทั้ง ในเรื่อง ขนาดของเครื่องยนต์ และการทำงาน อย่างแรกเลยคือ เครื่องขนาดเล็กกว่า กินน้ำมันก้น้อยกว่า แถมยังมี 3 สเตจ ขับชิลชิล ประหยัดน้ำมันได้ด้วย เหนเค้าว่ากันว่าวิ่งได้ 30 กม ลิตรเลยนะ ผมก้ไม่รุ้จิงมั้ย ผมก้พึ่งวางมาเสดเมื่อวานนี้เอารถไปลองก้ตอบสนองดีมากๆ ดีกว่า d16y8 ตั้งเยอะ แตะนิดเดียว พุ่งเลย มะวานผมเผลอเปิดเทคไป 3-5 ครั้งทั้งๆ ที่ช่างเค้าก้บอกแล้วว่าอย่าพึ่งไปซิ่ง เครื่องวางอยุ่เชียงกงมานานให้มันลื่นก่อน ผมก้เผลอไป เพราะมันนิ่มมากๆ แตะนิดเดียว รอบมาแล้ว ขับสนุกกว่าเดิมมากมาย อย่างที่สอง คือ ราคาเครื่องคับ เครื่องตัวนี้ ไม่ค่อยมีคนสนใจ ไม่รุ้ทำไม ทั้งๆ ที่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี ทั้งประหยัดก้ได้ แรงซิ่งๆ ก้พอได้ แต่ต้องหาช่างวายสายเก่งๆ คับ ไม่งั้นวายไม่ครบ แดกน้ำมันใช่เล่นนะคับ อีกอย่างคือ ราคาเครื่องต่างกันอย่างกับฟ้ากับเหว เครื่องตัวนี้ไม่ค่อยมีคนสนใจ ทำให้มีข้อดีสองอย่างคือ ราคาถูก และ มีให้เลือกสวยๆ เยอะคับ ลองชั่งใจดูคับ ผมศึกษาเครื่องตัวนี้มานานแล้ว ก่อนที่จะวางจริง ไม่ผิดหวังเลย สมดั่งใจเลย :) :) :) แถมคับ ลองไปศึกษาดูได้คับ http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=181341.0 จากข้อมูลที่พี่คิวกล่าวมา 30 โลลิตรเป็นไปได้ครับ. เพราะผมเคยลองทดสอบกับรถเฟียต้าของแฟนละ วิ่งประมาณ 80-90 ปิดแอร์ เติมลมยางซัก 38 วิ่งต่างจังหวัดนะครับ ผมทำได้ 30 กิโลเมตรต่อลิตรขึ้น(ดูจากไมล์รถที่แสดงอัตราการใช้ของน้ำมัน) ส่วนเครื่อง 2 ตัวนี้จะเลือกเครื่องลองเอาการใช้การของท่านเป็นตั้งละค่อยเลือกจะดีกว่าครับ เช่น เวลาใช้งานจำนวนผู้โดยสารที่นั่งประจำเยอะไหม ถ้านั่ง 1-2 คน เลือกเครื่องเล็กประหยัดกว่าครับ การเดินทางไกลไหม ใช้ความเร็วเยอะไหม เพราะ c.c. ต่างกันถึง 500 ถึงมีเทคช่วยก็ไม่น่าสู้เครื่องใหญ่ได้ในทางยาวๆหรืออัตราเร่งในช่วงความเร็ว 130 ขึ้นหรอกครับ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: MrOneMan ที่ 18 กันยายน 2013, 15:25:57 D15B 3Stage วิ่ง 30 กม./ลิตร ไม่มีทางเป็นไปได้ครับ ขนาดรถ Hybrid ปี 2013 วิ่งใช้งานจริงมันยังทำไม่ได้เลย ถ้าเครื่องอายุ 10 กว่าปีทำได้ตามนั้นจริง ปัจจุบันค่าตัวเหยียบแสนแน่นอนครับ
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 18 กันยายน 2013, 15:46:09 D15B 3Stage วิ่ง 30 กม./ลิตร ไม่มีทางเป็นไปได้ครับ ขนาดรถ Hybrid ปี 2013 วิ่งใช้งานจริงมันยังทำไม่ได้เลย ถ้าเครื่องอายุ 10 กว่าปีทำได้ตามนั้นจริง ปัจจุบันค่าตัวเหยียบแสนแน่นอนครับ ลองอ่านดูนะ vtec-e ได้ประมาณ 20 กม ลิตร ญี่ปุ่นเค้าเก่งคับ ถ้าศึกษากันดีดียังมีอะไรอีกเยอะคับ ที่เครื่องเชียงกง ต่างจากเครื่องในไทย จิงๆ ที่ประหยัดน่ะเค้าก้ทำได้แหล่ะนะ แต่ถามคำเดียว ประหยัดแต่ อืด พวกคุณจะเอากันมั้ย ไม่ว่าใคร เหนพอจะวางเครื่องใหม่ คงจะต้องมองไปที่ d16 b16 ก่อนเลย อย่างแรก กลัว 15 จะสู้ 16 เหมือนเดิมไม่ได้ อย่างที่สอง คงกลัวขับไม่สนุก b16 ราคาร่วมเกือบ 60000 ยังแย่งกันซื้อเลย ไม่เห็นจะมีใครหันมามอง ตัว tec-e ที่ประหยัดน้ำมันเลย ไม่งั้น ราคามันคงไม่ถูกที่สุดหรอกคับ ถ้าเทียบกับตัวอื่น http://asia.vtec.net/spfeature/vtecimpl/vtec1.html http://en.wikipedia.org/wiki/3-stage_VTEC#Stage_3_.E2.80.93_VTEC หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 18 กันยายน 2013, 15:59:12 พอดีใช้เครื่อตัวนี่อยู่เหมือนกันครับ พิมพ์ตกไป ว่าถ้าเอาไปแต่งจะสู้ D15B เฉยๆไม่ได้เพราะพวกชุดบนไม่มีให้เล่นมาก เลยทำให้สับสนคับพี่ เหอะๆ :) ว่าแต่ ยังหา EF ม่ะได้เลยคับพี่ :'( จิงๆ ตัว 3 stage มันคือเน้นประหยัด ด้วย แต่ก้แอบซิ่งได้ด้วย จะให้มันแรงไปเลย มันคงเกินไป มันเหมาะสำหรับ รถติดในเมือง แต่อยากซิ่งบ้างพอเป็นกระสัยเวลา รีบๆ แต่เท่าที่ลองมาสองสามวัน มันก้ขับสนุกดีเหมือนกัน ;) ;) ;) ว่าแต่ รัก ef จิงๆ รียังไง จิงๆ ก้นะ น่าจะเล่น ตาโตนั่นแหล่ะดี อะไหล่หาง่าย ทันสมัย ยังไม่ตกยุค ไฟฟ้าทั้งคัน บอดี้หาง่าย ถ้าชนขี้นมานี่เปลี่ยนอย่างเดียวเลย ไม่ต้องเคาะ แต่ถ้าเป็น ef ก้ต้องเสี่ยงดวงเอาว่ามีของมั้ยอ่ะน้ะ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: kru_jed ที่ 18 กันยายน 2013, 16:12:52 D15 3stage ถ้าได้ 30โลลิตรจริง น่าสนใจ... แต่ถ้าเป็นการใช้งานในชีวิตจริง ในเมือง 11-15 โลลิตนอกเมือง 15++ โลลิตรก็หรูแล้วครับ
สำหรับเครื่องเก่าที่มีอายุขนาดนี้ ... ส่วน B20 ส่วนตัวชอบนะครับถึงเครื่องจะหนักเพราะเป็นเครื่อง 2.0L แต่ก็ได้มาซึ่งแรงบิด ขับสบาย ไม่ต้องลากรอบเพื่อเรียกแรงม้าบ่อยๆ เหมือน D15b เพราะพื้นฐานเครื่องที่มีความจุมาก ผมว่าเหมาะกับบอดี้ EK ครับ .... สุดท้ายส่วนตัวเชียร์ B20 ครับ :D หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 19 กันยายน 2013, 07:20:29 d15 3stage มึคนทำได้จริงครับ 30กิโลลิตร วิ่งประมาณ90-100 ต่างจังหวัด มันเปิดแค่12วาวล์ทำให้ประหยัดครับ
b20 มีคนบอกว่ากินระเบิด คิดหนักเลย ขับ 1600 ดีกว่า แรงต่างไม่เยอะ :o หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 19 กันยายน 2013, 08:13:41 d15 3stage มึคนทำได้จริงครับ 30กิโลลิตร วิ่งประมาณ90-100 ต่างจังหวัด มันเปิดแค่12วาวล์ทำให้ประหยัดครับ b20 มีคนบอกว่ากินระเบิด คิดหนักเลย ขับ 1600 ดีกว่า แรงต่างไม่เยอะ :o ยืนยันคับ ผมขับ 100 110 120 แบบยาวๆไม่เหยียบคันเร่งเพิ่มแบบรนแรง วาวทำงาน 12 ตัว เป็น สเตจแรกจิงคับ แต่ถ้าเราเหยียบคันเริ่งเพิ่ม มันจะเป็นสเตจ สอง วาวทำงาน 16 ตัวคับ ผมต่อไฟวีเทค ครบ ทั้งสองตัวแล้วคับ เวลาเราปล่อยคันเร่ง มันจะกลับมาสเตจที่ 1 เองคับ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: pulanet ที่ 19 กันยายน 2013, 08:31:26 เรื่องกินไม่กินนี่ ขึนอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ถกกันยังไงก็ไม่จบ รถคันเดียวกัน ขับไปทางเดียวกัน ยังกินไม่เท่ากันเลย แต่ปัจจัยหลักที่เราควบคุมได้คือเท้าเราเอง เหยียบกระชากก้กินมาก
แต่ผมคุมไม่สักที :'( หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: MrOneMan ที่ 19 กันยายน 2013, 09:59:55 d15 3stage มึคนทำได้จริงครับ 30กิโลลิตร วิ่งประมาณ90-100 ต่างจังหวัด มันเปิดแค่12วาวล์ทำให้ประหยัดครับ b20 มีคนบอกว่ากินระเบิด คิดหนักเลย ขับ 1600 ดีกว่า แรงต่างไม่เยอะ :o คนที่ว่านี่ใครครับ ขอชื่อได้ไหม หรือเบอร์โทรก็ได้ ขนาดญี่ปุ่นเองยังบอกว่า วิ่งที่ความเร็วคงที่ 60 Vtec Stage 1 จะทำงานซึ่งอาจจะได้อัตราสิ้นเปลือง 20 กม/ลิตร แล้วนี่วิ่ง 90-100 ได้ตั้ง 30 กม/ลิตร Honda CRZ สปอร์ท Hybrid ตัวล่าสุดของ Honda มันยังทำได้แค่ 25 กม/ลิตร ตามการทดสอบแบบจำกัดปัจจัยด้วยซ้ำ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: kru_jed ที่ 19 กันยายน 2013, 11:14:33 คนที่ว่านี่ใครครับ ขอชื่อได้ไหม หรือเบอร์โทรก็ได้ ขนาดญี่ปุ่นเองยังบอกว่า วิ่งที่ความเร็วคงที่ 60 Vtec Stage 1 จะทำงานซึ่งอาจจะได้อัตราสิ้นเปลือง 20 กม/ลิตร แล้วนี่วิ่ง 90-100 ได้ตั้ง 30 กม/ลิตร Honda CRZ สปอร์ท Hybrid ตัวล่าสุดของ Honda มันยังทำได้แค่ 25 กม/ลิตร ตามการทดสอบแบบจำกัดปัจจัยด้วยซ้ำ อยากเห็นเหมือนกันครับ 30 โล/ลิตร ของ 3stage ถ้าใครวิ่งได้ ที่ความเร็ว 100-110-120 เนี่ย เอาข้อมูลมาโชว์ มายืนยันหน่อย ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ hybrid. กับ Eco car คงจะขายไม่ออก ... ราคาเครื่อง 3stage คงจะสูงขึ้นเป็นหลายๆเท่าแน่ๆ อีกอย่างเป็นเทคโลโลยี เมื่อสมัยสิบปีก่อนนี่ มันสุดยอดมากๆ ปล... ไม่ได้มาแหกหน้าใครนะครับ แค่อยากเห็นข้อมูลที่ว่าจริงๆ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 19 กันยายน 2013, 11:20:01 อยากเห็นเหมือนกันครับ 30 โล/ลิตร ของ 3stage ถ้าใครวิ่งได้ ที่ความเร็ว 100-110-120 เนี่ย เอาข้อมูลมาโชว์ มายืนยันหน่อย ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ hybrid. กับ Eco car คงจะขายไม่ออก ... ราคาเครื่อง 3stage คงจะสูงขึ้นเป็นหลายๆเท่าแน่ๆ อีกอย่างเป็นเทคโลโลยี เมื่อสมัยสิบปีก่อนนี่ มันสุดยอดมากๆ ปล... ไม่ได้มาแหกหน้าใครนะครับ แค่อยากเห็นข้อมูลที่ว่าจริงๆ เดียวมีเวลา ผมจะลองให้ดูคับว่าจะได้ซักเท่าไหร่ กะว่าจะถ่ายน้ำมันออกให้หมดก่อน แล้ว เติมสัก แกลลอน 4 ลิตร แล้วดูว่าวิ่งได้เท่าไหร่แล้ว ถ่ายน้ำมันในถังมาวัดอีกทีว่าเหลือเท่าไหร่แต่ ต้องรอมีเวลาว่าง จะลองดูคับ ผมก้อยากรู้เหมือนกัน หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 19 กันยายน 2013, 19:08:19 มันอยู่ที่คนขับด้วยครับ 30กิโลลิตร ไม่ยากสำหรับโปรเลย สกิดคันเร่ง วิ่งลอยๆ 80-100 ไม่เบรค ไหลๆ ทำได้แน่นอน แต่ต้องถนนต่างจังหวัด :-\
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 19 กันยายน 2013, 22:07:52 มันอยู่ที่คนขับด้วยครับ 30กิโลลิตร ไม่ยากสำหรับโปรเลย สกิดคันเร่ง วิ่งลอยๆ 80-100 ไม่เบรค ไหลๆ ทำได้แน่นอน แต่ต้องถนนต่างจังหวัด :-\ ผมต่อไฟเทคไว้ละ ไฟติดก้ยกเท้า5555 หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 19 กันยายน 2013, 22:26:41 ติดแทนชิพไลท์เลยครับ รอบตัด >:(
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 19 กันยายน 2013, 22:29:28 ติดแทนชิพไลท์เลยครับ รอบตัด >:( ผมไม่ขนาดนั้นหรอกคับ รถใช้งาน ไม่่ใช่รถซิ่งคับ เบาเบา ;D ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: parkpoop_ek_98 ที่ 19 กันยายน 2013, 22:50:05 ราคาเครื่องพอๆกัน ที่ เกียรatนะ ส่วนความแรง ต้องb20ถ้าแรงไม่พอประกบฝาtec ได้ ประหยัดต้องd15 อะไหล่มีแยะ ความทน ก็b20 เพราะใช้รอบต่ำกว่า ไม่ต้องลากรอบ. เท่าที่นึกได้ เลือกเอา
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: rutputin ที่ 20 กันยายน 2013, 00:30:48 มันอยู่ที่คนขับด้วยครับ 30กิโลลิตร ไม่ยากสำหรับโปรเลย สกิดคันเร่ง วิ่งลอยๆ 80-100 ไม่เบรค ไหลๆ ทำได้แน่นอน แต่ต้องถนนต่างจังหวัด :-\ คนธรรมดาก็ทำได้ครับ ไม่ต้องโปรหรอกครับ. ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 20 กันยายน 2013, 09:16:42 ผมไม่ขนาดนั้นหรอกคับ รถใช้งาน ไม่่ใช่รถซิ่งคับ เบาเบา ;D ;D ;D ;D ออกโรงงาน ก็แรงแล้วครับ 180 สบายๆๆ ราคาเครื่องพอๆกัน ที่ เกียรatนะ ส่วนความแรง ต้องb20ถ้าแรงไม่พอประกบฝาtec ได้ ประหยัดต้องd15 อะไหล่มีแยะ ความทน ก็b20 เพราะใช้รอบต่ำกว่า ไม่ต้องลากรอบ. เท่าที่นึกได้ เลือกเอา ตอนนี้กำลังดูว่า ตัวไหนต้องทำยังไงบ้าง อยากได้เกียร์ธรรมดา หายากเลย 8)หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 20 กันยายน 2013, 09:19:28 ออกโรงงาน ก็แรงแล้วครับ 180 สบายๆๆ ตอนนี้กำลังดูว่า ตัวไหนต้องทำยังไงบ้าง อยากได้เกียร์ธรรมดา หายากเลย 8) น่าจะจิงคับ ตอนผมขับ ใช้งานทุกวันนี้ เผลอแป๊บเดียว 120 140 ละ ผ่อนเท่้าแทบไม่ทัน ขนาด รอบแค่ 3000++ เองนะคับ เทคช่วง Hi fift cam ส่วนใหญ่ทำงานตั้งแต่ 3000 ถ้าเน้นประหยัดผมว่ายังไงตัวนี้คุ้มคับ คุ้มต้งแต่ราคาเครื่องแล้ว เพราะไม่มีใครเล่นราคาเลยถูก ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 20 กันยายน 2013, 09:48:43 y4 ของผมวิ่ง140 เพิ่ง3500รอบ อยากได้เครื่องสดๆพอเลย ;)
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 20 กันยายน 2013, 09:59:29 y4 ของผมวิ่ง140 เพิ่ง3500รอบ อยากได้เครื่องสดๆพอเลย ;) ถ้าไม่อะไรมาก เครื่องเลกๆ ก้ประหยัดดีนะคับ แต่ก้อยุ่ที่การใช้งาน เป็นหลัก แต่ที่แน่ๆ เครื่องใหญ่ ยิ่งเราเหยียบ มันก้ยิ่งเปลืองง ถึงแม้มันจะวิ่งดีกว่า แต่เครื่องก้หนักกว่า ก้เป็นภาระของ ช่วงล่างอีก เรื่องเบรกอีก อย่าคิดเลย ว่า ถ้าเครื่องแรงแร้วคุณจะไม่ขับเร็วขี้น แล้วถ้าคุณขับเร็วขี้น คุณ ดูช่วงล่างบ้างมั้ย เบรกเดิมๆ ไหวมั้ย ช่วงล่าง รับไหวมั้ย เอาแค่ เครื่อง y4 ไม่มีเทค เทียบ กับ v8 มีเทค ดิสเบรก คอม้าหน้า มันก้ต่างกันแล้ว ไม่งั้น จะยิ่งอันตรายนะคับ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 20 กันยายน 2013, 11:21:40 ผมคง ลงแค่1600 ครับ ผมใช้รถ3 คัน มี4G63 กับsr20 อีก เอาคันนี้ไว้วิ่งประหยัดน้ำมันบ้าง เดียวนี้เครื่องแรงๆ ทำเยอะๆ ขับ100เดียว ถนนไม่มีจะวิ่ง :-X
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 20 กันยายน 2013, 11:23:59 ผมคง ลงแค่1600 ครับ ผมใช้รถ3 คัน มี4G63 กับsr20 อีก เอาคันนี้ไว้วิ่งประหยัดน้ำมันบ้าง เดียวนี้เครื่องแรงๆ ทำเยอะๆ ขับ100เดียว ถนนไม่มีจะวิ่ง :-X นั่นสิคับ ทุกวันนี้ บนถนนมีแต่รถ จะแรงแค่ไหนมันก้หนีกันไม่ได้หรอก ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: kanta ที่ 20 กันยายน 2013, 12:36:03 กราฟแรก D15B 130hp
กราฟ 2-3 D15B 3 Stage เปรียบเทียบแรงม้า จาก 2 ตัวแทบไม่แตกต่าง อัตราการกินน้ำมัน 3 stage น้อยกว่าหน่อย ผมว่าหลักการของ I-Vtec ก็คล้าย 3 stage i-vtec วาล์วไอดีปิดช้า คายไอดีกลับในรอบต่ำ เพื่อเรียกแรงบิด และประหยัดน้ำมัน 3 stage ไอดีเปิดวาล์ว เดียวเพื่อให้อากาศน้อย ประหยัดน้ำมันในรอบต่ำ เครื่อง L15 ที่เทคโนโลยีใหม่กว่า การทำงานผิดผลาดน้อยกว่า ยังทำไม่ได้เลยครับ จะลงข้อมูลเพื่อแบ่งปันเป็นการดีครับ แต่น่าจะมีแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือด้วย เพราะมันจะทำให้เข้าใจกันผิดไป คิดง่ายๆครับ มอเตอไซหัวฉีด เครื่อง 100 cc น้ำหนัก ร้อยกว่าโล ยังวิ่งได้แค่ 50 โล เครื่อง 1500 แบกน้ำหนัก 1500 โล จะวิ่งได้ 30 เลยเหรอครับ ตะกะง่ายๆ ไม่ได้ตั้งใจจะว่าใครนะครับ อยากให้มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: green_zone ที่ 22 กันยายน 2013, 20:34:41 :)เก็บข้อมูลครับ.....อิอิ
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: TiTaEl ที่ 23 กันยายน 2013, 22:18:12 มาแอบเก็บข้อมูลคับ
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: CIVIC EX 97 ที่ 24 กันยายน 2013, 02:50:07 เอาง่ายๆครับส่วนตัวแล้ว ใฃ้ เครื่อง 1600cc แต่เปลี่ยนเครื่องใหม่เนื่องจากมีปัญหาระบบน้ำแก้ไม่หาย วางb20
ความรู้สึกมันได้มากๆครับ ว่าพอใจมาก...แต่ต้องติดแก๊สนะครับประหยัดมากถึงมากๆเลยถ้าวิ่งทางใกล ผมวิ่งไปสุราษ-กทม 800กิโลเติมแก๊สสองครั้ง เติมครั้งแรก เอาราคาแก๊สตอนนี้นะครับ 650-วิ่งจากสุราษถึงปราณบุรีเติมจากปราณบุรีแค่200ถึง- กทม ทั้งหมดแค่850- วิ่งประมาณ100-140 ไม่าเกินนี้นะครับ แต่ที่ผมแปลกใจเครื่องเดิมเครื่อง1600cc ติดแก๊สด้วย วิ่งระยะทางเท่ากันแต่ทำไมกินแกสเยอะกว่างงๆ อย่างน้อยต้อง1500-ถึงจะถึงจุดหมาย...ในความคิดของผมคนความรู้น้อยคือ เป็นเพราะว่าเครื่อง1600cc เวลาเหยียบ วิ่ง100-140 เครื่องยนทำงานสูงกว่าเครื่อง2000cc เลยคิดว่าการบริโภคของเครื่องเล็กกินน้ำมันน้อยแต่น้ำมันไหลเร็ว...เครื่องใหญ่กินน้ามันเยอะแต่น้ำมันไหลช้า อะไรประมาณนี้ เอะ ตกลงที่พูดมาเพื่อนๆเฃ้าใจป่ะ...ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ;) ;) ;) ;) ;) ;) ;) ::) ::) ::) หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: toys1924 ที่ 24 กันยายน 2013, 07:55:54 โดยส่วนตัวเคยใช้ d 15 b ใน3 ดอครับ มีความรู้สึกว่า เครื่องอัตราเร่งดี แล้วก็ประหยัดน้ำมันดีครับ พอเปลี่ยนมาใช้ ek ยังไม่ชิน ยังมี
ความรู้สึกว่ารถมันอืดเลย คือโดยส่วนตัวคิดว่า ด้วยตัวรถมันคงจะต่างกัน และอะไรอีหลายอย่างครับ d 16 y 8 ของผมเดิมๆก็ 10-12 โลลิตรครับ แต่ 3 ดอทำได้ดีกว่านั้น เคยขับ แบบประหยัดมาก เนี้ย 20 + โลลิตรเลย ตกใจว่ามันประหยัดมาก แต่ตอนนั้น ขับไม่เกิน 60 นะครับ คืออยากจะบอกว่าเน้นประหยัด d 15 b ถ้าอยากได้เครื่องใหญ่อึดหน่อยก็ b 20 ติดแก็ส ก็ไม่น่ามีปัญหาครับ :D :D :D หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 24 กันยายน 2013, 10:02:58 ผมใช้ในเมือง ออกนอกเมืองก็เอาคันอื่นไปอยู่แล้ว ตอนนี้อยากได้d16 เหมือนเดิม เอาประหยัดดีกว่าครับ เติมe85 ไม่ถึง2บาทก็โอเคแล้วครับ ;)
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 24 กันยายน 2013, 10:05:12 ผมใช้ในเมือง ออกนอกเมืองก็เอาคันอื่นไปอยู่แล้ว ตอนนี้อยากได้d16 เหมือนเดิม เอาประหยัดดีกว่าครับ เติมe85 ไม่ถึง2บาทก็โอเคแล้วครับ ;) ไปลองมาแระ d15b 3 stage สรุปคือเฉลี่ยได้ประมาณ 25-28 กม/ลิตร ไม่เลวทีเดียว รอบแรก ขับจนน้ำมันหมดจนเครื่องดับไปเอง เติมน้ำมันไป 1 ลิตร ขับไปได้ 10 กิโล สบายๆ พอประมาณ กิโลที่15 เริ่ม วอด ดับ เป็นระยะ แต่ ก้ยังพอขับต่อไปได้ เพราะน้ำมันยังไม่หมด ตื้อไปจนได้ประมาณ 32 กิโล แต่ตอนน้ำมันวอดดับสับเป็นแก็ส พอให้รถวิ่งต่อได้ แล้วก็สับเป็นน้ำมัน ต่อ ไม่อย่างงั้น ถ้าดับไปแล้ว จะสตาทยาวมากเพราะ น้ำมันน่าจะมีน้อยเกินจนปั้มติ้กดูดไม่พอ รอบที่สองเลยเติม 2 ลิตร ขับไปได้ 20 กม สบายๆ พอ กิโล ที่25 เริ่มมีปัญหาวอดดับ แต่ก้ยังตื้อ จนขับไปได้ที่ประมาณ 60 กิโลเมตร ก้เลยขี้เกียจลองแล้ว ที่วอดดับ สับมาเป็ฯแก้สทัน แล้วรอให้ปั้มติ้ำกดูดมาจนเต็มรางหัวฉีด ก้สับไปเป็นน้ำมันวิ่งได้ต่อเรื่อยๆ โดยประมาณ ขับที่ความเร็ว 50-70 กม/ชม รอบเครื่องประมาณ 1500-1900 การทำงานของเครื่องยนต์ ส่วนใหญ่ อยู่ในสเตจที่1 วาวล์ทำงาน 12วาวล์ ลมยาง 34 ยาง185/65R14 น้ำมัน e20 Caltex เส้นทาง วงแหวนรอบสอง เชียงใหม่สมโภช700ปี และเส้น เชียงใหม่-ลำพูน เวลา22.00-00.54น ไว้มีตัง จะลองเติมแบบเต็มถังดูอีกรอบคับ 555 หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: junkhung ที่ 24 กันยายน 2013, 11:18:18 ตกโลนึงไม่ถึงสองบาทแล้ว ตีว่าเหยียบมั่งหยอดมั่ง สองบาทเศษๆ ถูกมากๆแล้ว ประหยัดดีจริงๆ ใช้ซักปีก็ได้ค่าเครื่องคืนแล้วครับ
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 24 กันยายน 2013, 11:21:19 ตกโลนึงไม่ถึงสองบาทแล้ว ตีว่าเหยียบมั่งหยอดมั่ง สองบาทเศษๆ ถูกมากๆแล้ว ประหยัดดีจริงๆ ใช้ซักปีก็ได้ค่าเครื่องคืนแล้วครับ ชีวิตจิงทำไม่ได้หรอกคับ ใครมั่ง จะไปไหนมาไหน ขับไม่เกิน 60 รอบเครื่องไม่ถึง 2000 ปิดแอร์ และขับแบบไม่เร่ง ไม่เบรก ในชีวิตจิงทำไม่ได้หรอกคับ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: junkhung ที่ 24 กันยายน 2013, 11:47:30 ชีวิตจิงทำไม่ได้หรอกคับ ใครมั่ง จะไปไหนมาไหน ขับไม่เกิน 60 รอบเครื่องไม่ถึง 2000 ปิดแอร์ และขับแบบไม่เร่ง ไม่เบรก ก็นั่นแหละครับ ใช้งานจริงมันจะได้เท่าไหร่ก็อยู่ที่คนใช้งานครับ ลองขับในเมืองไม่เปิดแอร์น่ะ ได้ซักกี่โลคนขับก็กลายเป็นไก่อบไปแล้ว แต่ถ้าทำจริง(ไม่ได้ว่าทำได้ทำไม่ได้)ก็ประหยัดไปโขเลย แต่ก็ต้องแลกกับหลายอย่าง :-X :-Xในชีวิตจิงทำไม่ได้หรอกคับ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: chira711 ที่ 24 กันยายน 2013, 12:22:16 ไปลองมาแระ d15b 3 stage สรุปคือเฉลี่ยได้ประมาณ 25-28 กม/ลิตร ไม่เลวทีเดียว ชัดเจนครับ พิสูจน์ ชัดๆ ไปเลยครับ....ใครไม่เชื่อ ต้องให้ขึ้นเชียงใหม่ไปขับเองและครับ...ส่วนตัวผมเชื่อว่า ถ้าเครื่องสด มาจาก รอบแรก ขับจนน้ำมันหมดจนเครื่องดับไปเอง เติมน้ำมันไป 1 ลิตร ขับไปได้ 10 กิโล สบายๆ พอประมาณ กิโลที่15 เริ่ม วอด ดับ เป็นระยะ แต่ ก้ยังพอขับต่อไปได้ เพราะน้ำมันยังไม่หมด ตื้อไปจนได้ประมาณ 32 กิโล แต่ตอนน้ำมันวอดดับสับเป็นแก็ส พอให้รถวิ่งต่อได้ แล้วก็สับเป็นน้ำมัน ต่อ ไม่อย่างงั้น ถ้าดับไปแล้ว จะสตาทยาวมากเพราะ น้ำมันน่าจะมีน้อยเกินจนปั้มติ้กดูดไม่พอ รอบที่สองเลยเติม 2 ลิตร ขับไปได้ 20 กม สบายๆ พอ กิโล ที่25 เริ่มมีปัญหาวอดดับ แต่ก้ยังตื้อ จนขับไปได้ที่ประมาณ 60 กิโลเมตร ก้เลยขี้เกียจลองแล้ว ที่วอดดับ สับมาเป็ฯแก้สทัน แล้วรอให้ปั้มติ้ำกดูดมาจนเต็มรางหัวฉีด ก้สับไปเป็นน้ำมันวิ่งได้ต่อเรื่อยๆ โดยประมาณ ขับที่ความเร็ว 50-70 กม/ชม รอบเครื่องประมาณ 1500-1900 การทำงานของเครื่องยนต์ ส่วนใหญ่ อยู่ในสเตจที่1 วาวล์ทำงาน 12วาวล์ ลมยาง 34 ยาง185/65R14 น้ำมัน e20 Caltex เส้นทาง วงแหวนรอบสอง เชียงใหม่สมโภช700ปี และเส้น เชียงใหม่-ลำพูน เวลา22.00-00.54น ไว้มีตัง จะลองเติมแบบเต็มถังดูอีกรอบคับ 555 โรงงานสมัยแรกๆ....d15b 3stage ที่ว่า 30 โล ผมว่า ทำได้นะ :) :) :) หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 24 กันยายน 2013, 12:45:03 ชัดเจนครับ พิสูจน์ ชัดๆ ไปเลยครับ....ใครไม่เชื่อ ต้องให้ขึ้นเชียงใหม่ไปขับเองและครับ...ส่วนตัวผมเชื่อว่า ถ้าเครื่องสด มาจาก โรงงานสมัยแรกๆ....d15b 3stage ที่ว่า 30 โล ผมว่า ทำได้นะ :) :) :) มันอยุ่ที่ตีนคับ พอดีผมต่อไฟเทคครบสองดวง พยายามไม่ให้มัน เกิน สเตจแรกคับ ;) ;) ;) หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 24 กันยายน 2013, 16:57:26 ประหยัดขนาดนี้ แถมแรงผมว่าโอเคมากเลย จะซิ่งจะประหยัด ในรถคันเดียว ผมเชื่อว่า 3stageทำได้ มีกูรูบอกมาหลายคนแล้ว เกียร์ธรรมดา 25โลลิตร ต่างจังหวัด 8)
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Taweesak ที่ 24 กันยายน 2013, 17:14:02 ตามมาอ่านทุกกระทู้ครับ มีที่ยังไม่เข้าใจดังนี้ครับ
มีหลายๆท่าน มักพูดว่าD15B 3S จะวางให้ดี ต้องวายสายให้ครบ ไม่งั้นไม่จบง่ายๆ แล้ววายสายให้ครบ มันวายไปใหนบ้างที่ต่างจาก รถบ้านเรา รบกวนท่านผู้รู้หน่อยครับ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 24 กันยายน 2013, 19:06:57 ถ้าเกียร์ธรรมดา เสียบสาย แทบจะใช้ของเดิม ถ้าเกียร์ออโต้cvt ต้อง คันเกียร์ ไมล์ออโต้ ที่มีไฟeco สายไฟเครื่อง สายไฟคอนโซล ง่ายๆจะเอาเกียร์ออโต้ย้ายจากหัวจะดีสุดครับ
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: kru_jed ที่ 24 กันยายน 2013, 20:15:35 ไปลองมาแระ d15b 3 stage สรุปคือเฉลี่ยได้ประมาณ 25-28 กม/ลิตร ไม่เลวทีเดียว รอบแรก ขับจนน้ำมันหมดจนเครื่องดับไปเอง เติมน้ำมันไป 1 ลิตร ขับไปได้ 10 กิโล สบายๆ พอประมาณ กิโลที่15 เริ่ม วอด ดับ เป็นระยะ แต่ ก้ยังพอขับต่อไปได้ เพราะน้ำมันยังไม่หมด ตื้อไปจนได้ประมาณ 32 กิโล แต่ตอนน้ำมันวอดดับสับเป็นแก็ส พอให้รถวิ่งต่อได้ แล้วก็สับเป็นน้ำมัน ต่อ ไม่อย่างงั้น ถ้าดับไปแล้ว จะสตาทยาวมากเพราะ น้ำมันน่าจะมีน้อยเกินจนปั้มติ้กดูดไม่พอ รอบที่สองเลยเติม 2 ลิตร ขับไปได้ 20 กม สบายๆ พอ กิโล ที่25 เริ่มมีปัญหาวอดดับ แต่ก้ยังตื้อ จนขับไปได้ที่ประมาณ 60 กิโลเมตร ก้เลยขี้เกียจลองแล้ว ที่วอดดับ สับมาเป็ฯแก้สทัน แล้วรอให้ปั้มติ้ำกดูดมาจนเต็มรางหัวฉีด ก้สับไปเป็นน้ำมันวิ่งได้ต่อเรื่อยๆ โดยประมาณ ขับที่ความเร็ว 50-70 กม/ชม รอบเครื่องประมาณ 1500-1900 การทำงานของเครื่องยนต์ ส่วนใหญ่ อยู่ในสเตจที่1 วาวล์ทำงาน 12วาวล์ ลมยาง 34 ยาง185/65R14 น้ำมัน e20 Caltex เส้นทาง วงแหวนรอบสอง เชียงใหม่สมโภช700ปี และเส้น เชียงใหม่-ลำพูน เวลา22.00-00.54น ไว้มีตัง จะลองเติมแบบเต็มถังดูอีกรอบคับ 555 ชัดเจนครับข้อมูล..., แต่อย่างที่หลายท่านบอกไว้ และคุณคิวก็ได้แจ้งไว้ ขึ้นอยู่ปัจจัยหลายอย่างๆในการใช้งานครับ วางในบอดี้ไหน EG/EG (น้ำหนักรถต่างกัน) ความสมบูรณ์ของเครื่อง ความสมบูรณ์ของการวางเครื่องและวายสายไฟ ในสภาพการใช้งานจริง ขับเปิดแอร์ ซิ่งบ้าง ขับช้าๆบ้าง รถติด เบรกบ่อย น้ำหนักบรรทุกเยอะฯลฯ รวมหลายๆปัจจัยต่างๆพวกนี้ ได้อัตราสิ้นเปลืองรวมๆ เกิน 17-18 โล/ลิตร ก็เยี่ยมแล้วครับ สำหรับเครื่องยนต์และเทคโลโลยีระดับสิบกว่าปีของฮอนด้า ไม่ต้องอะไรมาก แค่ d16y8 และy4 ทั้งเกียร์ธรรมดาและออโต้ ถ้าสภาพเครื่องสมบูรณ์ ในเมือง 12โล/ลิตรขึ้นมีเห็น ทางไกลมี 16โลลิตร++ แน่ๆครับ ผมเคยใช้y4 เคยวิ่งทางไกลได้ 15-16 โลลิตรครับ ขับแค่90-110 แถวๆนี้ ในเมือง 8-10โล/ลิตรครับ ปัจจุบันขับ new city 2012 วิ่งทางไกล เติมน้ำมันเต็มถัง(e20) จาก กทม-พิษณุโลก เติมอีกทีพิษณุโลก ขับไปโน่น ไปแล้วก้อ กลับ กทม. รวมๆระยะทาง 1,000 โล++ ค่าน้ำมันประมาน 2,300-2,500 คิดๆออกไป ก็บริโภคน้ำมันประมาน 16-18 โลลิตรครับ AVG ในรถจะขึ้นประมาณ 17.5-18.5 + - แล้วแต่สภาพการขับครับ ใช้ความเร้วที่เฉลี่ย 90-120 ครับ สำหรับเทคโนโลยี I-VTEC ปัจจุบัน ส่วน d15b 3stage. ทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆแล้วครับสำหรับเครื่องยุคสิบกว่าปี ***แต่ส่วนตัวผมก็ยังชอบ b20 เหมือนเดิมครับ :-* หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: chira711 ที่ 24 กันยายน 2013, 21:04:04 :D :D :D ผมไม่แน่ใจว่าเครื่อง d15b 3stage กะ 1NZ 1500cc. ที่วางอยู่ใน yaris ระบบเกียร์ ออโต้ เหมือนกันปล่าว เรื่อง อัตราเร่ง
และการซดน้ำมัน ในรถ yaris จากที่ขับรถแฟนมา 2 เดือน วิ่ง 100-120 เติม e20 รู้สึก ว่ามันซด น้ำมันพอกะ บี20 เกียร์ธรรมดา ผมเลย อีกอย่างตอนแรก เพื่อนบอกว่า บี20 ออโต้กินน้ำมันกว่า บี20เกียร์ธรรมดา ไปๆมามันสวนทาง ด้วยความที่มันสวนทาง กับบุคลิก เกียร์ธรรมดา จะมาขับติ๋ม ก็ไม่ทันใจ เลยกด กดไปกดมา มันเลยกินน้ำมัน โดยความเห็นส่วนตัว พิกัดเครื่อง 2000 วิ่ง ถึงใจ แบบไม่ต้อง ออกแรง ลุ้น อย่างใน เครื่อง พิกัด (1500 ของ1nz ยาริส) ครับ แชร์ประสบการณ์เฉยๆนะครับ ในใจก็เลยยังชอบ บี20บี ครับ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 24 กันยายน 2013, 22:09:48 ตามมาอ่านทุกกระทู้ครับ มีที่ยังไม่เข้าใจดังนี้ครับ มีหลายๆท่าน มักพูดว่าD15B 3S จะวางให้ดี ต้องวายสายให้ครบ ไม่งั้นไม่จบง่ายๆ แล้ววายสายให้ครบ มันวายไปใหนบ้างที่ต่างจาก รถบ้านเรา รบกวนท่านผู้รู้หน่อยครับ เอาง่ายๆนะคับ วายสายให้ครบ ไม่ว่าเครื่องอะไรก้ตามทุกรุ่น เวลาวายสายเส็ดแล้ว สตาทเครื่องต้องไม่มีไฟเครื่องโช คับ ถ้ามีไฟเครื่องโช คือไม่สมบูรณ์ ส่วนมีไฟเครื่องโช แล้วจะแก้ยังไงนั้น มีหลายวิธีคับ ตั้งแต่ หาของมาใส่ให้ครบ หรือต่อวงจรคร่อมหลอกกล่อง หรือเอาไฟเครื่องออก หรือไม่ต่อไฟเครื่อง วิธีที่ หลอกกล่อง ทำวงจรคร่อม เป็นวิธีที่ช่างผมไม่ทำคับ ช่างผมจะแก้ที่กล่องโดยตรงเลย คือเอา ชิป หรือ ตัวต้านทานบางตัวออกเพื่อไม่ให้กล่องตรวจหาเซนเซอร์บางอย่างที่เราไม่จำเป็ฯต้องใช้ อย่างเช่น ผมเอาเครื่องเกียออโต้มาชนเกียธรรมดา ก้แก้โดยการ เอาชุดที่ประมวลผลเกียออโต้ออกให้หมด อะไรประมาณนี้คับ วายสายไม่ครบ ไฟเครื่องโช เครื่องก้ทำงาน ผิดปรกติ ก้กินน้ำมันเพราะระบบไม่สมบูรณ์คับ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 24 กันยายน 2013, 22:11:47 ชัดเจนครับข้อมูล..., แต่อย่างที่หลายท่านบอกไว้ และคุณคิวก็ได้แจ้งไว้ ขึ้นอยู่ปัจจัยหลายอย่างๆในการใช้งานครับ วางในบอดี้ไหน EG/EG (น้ำหนักรถต่างกัน) ความสมบูรณ์ของเครื่อง ความสมบูรณ์ของการวางเครื่องและวายสายไฟ ในสภาพการใช้งานจริง ขับเปิดแอร์ ซิ่งบ้าง ขับช้าๆบ้าง รถติด เบรกบ่อย น้ำหนักบรรทุกเยอะฯลฯ รวมหลายๆปัจจัยต่างๆพวกนี้ ได้อัตราสิ้นเปลืองรวมๆ เกิน 17-18 โล/ลิตร ก็เยี่ยมแล้วครับ สำหรับเครื่องยนต์และเทคโลโลยีระดับสิบกว่าปีของฮอนด้า ไม่ต้องอะไรมาก แค่ d16y8 และy4 ทั้งเกียร์ธรรมดาและออโต้ ถ้าสภาพเครื่องสมบูรณ์ ในเมือง 12โล/ลิตรขึ้นมีเห็น ทางไกลมี 16โลลิตร++ แน่ๆครับ ผมเคยใช้y4 เคยวิ่งทางไกลได้ 15-16 โลลิตรครับ ขับแค่90-110 แถวๆนี้ ในเมือง 8-10โล/ลิตรครับ ปัจจุบันขับ new city 2012 วิ่งทางไกล เติมน้ำมันเต็มถัง(e20) จาก กทม-พิษณุโลก เติมอีกทีพิษณุโลก ขับไปโน่น ไปแล้วก้อ กลับ กทม. รวมๆระยะทาง 1,000 โล++ ค่าน้ำมันประมาน 2,300-2,500 คิดๆออกไป ก็บริโภคน้ำมันประมาน 16-18 โลลิตรครับ AVG ในรถจะขึ้นประมาณ 17.5-18.5 + - แล้วแต่สภาพการขับครับ ใช้ความเร้วที่เฉลี่ย 90-120 ครับ สำหรับเทคโนโลยี I-VTEC ปัจจุบัน ส่วน d15b 3stage. ทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆแล้วครับสำหรับเครื่องยุคสิบกว่าปี ***แต่ส่วนตัวผมก็ยังชอบ b20 เหมือนเดิมครับ :-* ต้องออกตัวก่อนคับ ว่าวิธีที่ผมทดสอบนั้น มันไม่ค่อยเป็นสากลสักเท่าไหร่ จิงๆควรจะเติมเต็มถังแล้วก้วิ่งไปสักพักแล้วก้มาเติมอีกรอบถึงจะแน่นอนกว่า แต่ก้อย่างว่าละครับ จะเติมเต็มถังเลย ก้คงหมดหลายพัน :o :o :o :o หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: kanta ที่ 25 กันยายน 2013, 08:25:41 ไปลองมาแระ d15b 3 stage สรุปคือเฉลี่ยได้ประมาณ 25-28 กม/ลิตร ไม่เลวทีเดียว :) :) :)รอบแรก ขับจนน้ำมันหมดจนเครื่องดับไปเอง เติมน้ำมันไป 1 ลิตร ขับไปได้ 10 กิโล สบายๆ พอประมาณ กิโลที่15 เริ่ม วอด ดับ เป็นระยะ แต่ ก้ยังพอขับต่อไปได้ เพราะน้ำมันยังไม่หมด ตื้อไปจนได้ประมาณ 32 กิโล แต่ตอนน้ำมันวอดดับสับเป็นแก็ส พอให้รถวิ่งต่อได้ แล้วก็สับเป็นน้ำมัน ต่อ ไม่อย่างงั้น ถ้าดับไปแล้ว จะสตาทยาวมากเพราะ น้ำมันน่าจะมีน้อยเกินจนปั้มติ้กดูดไม่พอ รอบที่สองเลยเติม 2 ลิตร ขับไปได้ 20 กม สบายๆ พอ กิโล ที่25 เริ่มมีปัญหาวอดดับ แต่ก้ยังตื้อ จนขับไปได้ที่ประมาณ 60 กิโลเมตร ก้เลยขี้เกียจลองแล้ว ที่วอดดับ สับมาเป็ฯแก้สทัน แล้วรอให้ปั้มติ้ำกดูดมาจนเต็มรางหัวฉีด ก้สับไปเป็นน้ำมันวิ่งได้ต่อเรื่อยๆ โดยประมาณ ขับที่ความเร็ว 50-70 กม/ชม รอบเครื่องประมาณ 1500-1900 การทำงานของเครื่องยนต์ ส่วนใหญ่ อยู่ในสเตจที่1 วาวล์ทำงาน 12วาวล์ ลมยาง 34 ยาง185/65R14 น้ำมัน e20 Caltex เส้นทาง วงแหวนรอบสอง เชียงใหม่สมโภช700ปี และเส้น เชียงใหม่-ลำพูน เวลา22.00-00.54น ไว้มีตัง จะลองเติมแบบเต็มถังดูอีกรอบคับ 555 เยี่ยมเลยครับ แต่ถามนิดนึงครับ รอบแรกหลังจากวิ่ง 15 โล วิ่งต่อได้อีก 17 รอบ 2 หลังจากวิ่ง. 25 โล วิ่งต่อได้อีก 35 หลังจากวอดนี่มันวิ่งได้ต่างกันเยอะเลยนะครับ แต่ก็เป็นข้อมูลที่ดีมากครับ มีการทดสอบจริง มีโอกาศวิ่งทางไกลก็ลองแบบเต็มถังดู จะได้เห็นว่าใช้งานจริงเป็นไง วิ่งไกลๆ ข้อมูลเยอะ ความผิดผลาดจะน้อยลงครับ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 25 กันยายน 2013, 08:30:03 :) :) :) เยี่ยมเลยครับ แต่ถามนิดนึงครับ รอบแรกหลังจากวิ่ง 15 โล วิ่งต่อได้อีก 17 รอบ 2 หลังจากวิ่ง. 25 โล วิ่งต่อได้อีก 35 หลังจากวอดนี่มันวิ่งได้ต่างกันเยอะเลยนะครับ แต่ก็เป็นข้อมูลที่ดีมากครับ มีการทดสอบจริง มีโอกาศวิ่งทางไกลก็ลองแบบเต็มถังดู จะได้เห็นว่าใช้งานจริงเป็นไง วิ่งไกลๆ ข้อมูลเยอะ ความผิดผลาดจะน้อยลงครับ วิ่งต่อได้คือ มันดับอยู่เรื่อยๆ อะคับ พอลากไปเรื่อยมันติดแล้วก้ขับได้ต่อ เป็นแบบนี้ตลอดการขับคับ ไม่ใช่ดับครั้งเดียวแล้วได้ยาว ถามว่าพอติดแล้ว มันไปได้ต่ออีกมั้ย มันก้ดับๆ ติดๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ คงเพราะน้ำมันน้อยพอน้ำมันไม่พอจ่ายมันก้ดับคับพอแรงดันพอก้ขับต่อได้คับ เอาแบบโดยประมาณคับ รอบที่สองเติม 2 ลิตรเพราะ รำคาญมันดับบ่อย มันก้ยังไม่พอ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 25 กันยายน 2013, 09:43:32 ประหยัดขนาดนี้ เอาค่าน้ำมันซื้อได้อีกคันเลยทีเดียว :-[
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 25 กันยายน 2013, 09:45:24 ประหยัดขนาดนี้ เอาค่าน้ำมันซื้อได้อีกคันเลยทีเดียว :-[ แต่ถ้าขับ แบบปรกติ ก้ 10โลลิตร เหมือนกันนะคับ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 25 กันยายน 2013, 11:35:56 พึ่งไปเจอมา สเปคเครื่อง
D16Y8 VTEC Found in 1997-1998 Honda Civic EX Sedan 1996-1998 Honda Civic EX Coupe 1996-2000 Honda Civic EX (USDM) 1996-2000 Honda Civic SI (Canada Only) 1996-2000 Acura 1.6EL (Canada Only) 1996-1997 Honda del Sol Si ขนาด ของ เครื่อง/ : 1590 cm? กระบอกสูบ and : 75 mm X 90 mm แรงอัด: 9.6:1 D16Y8 1.6 16V SOHC VTEC-II PGM-FI 1590 127 hp@6600 rpm 108tq@5500 rpm Head Code : P2J Piston Code : P2P RPM 7200 rpm VTEC switchover : 5200 rpm D15B VTEC Found in: 1991-1999 Honda Civic VTi EG4 (Japanese Market) ขนาด ของ เครื่อง/ : 1493 cm? กระบอกสูบ and : 75 mm X 84.5 mm Rod Length : 137 mm แรงอัด: 9.3:1 แรง ม้า : 130 hp (97 kW) @ 5800 rpm & 102 ft?lbf @ 4200 rpm RPM : 7200 rpm Fuel Cut : 7411 rpm Valvetrain : SOHC VTEC Head Code : P08 (same head as D16Z6) Fuel Control : OBD-1 MPFI [] D15B (3 stage VTEC) 3-stage VTEC 1996-1999 Honda Civic VTi EK3 and Ferio Vi ขนาด ของ เครื่อง/ : 1493 cm? กระบอกสูบ and : 75 mm X 84.5 mm Rod Length : 137 mm แรงอัด: 9.3:1 แรง ม้า : 130 hp (97 kW) @ 5600 rpm & 102 ft?lbf @ 3800 rpm Valvetrain : SOHC VTEC Fuel Control : OBD-2 MPFI D15Z1 VTEC-E 1992-1995 Honda Civic VX 1992-1995 Honda Civic VEi (European Market) ขนาด ของ เครื่อง/ : 1493 cm? กระบอกสูบ and : 75 mm X 84.5 mm Rod Length : 137 mm แรงอัด: 9.3:1 แรง ม้า : 92 hp (69 kW) @ 5600 rpm & 97 ft?lbf @ 4800 rpm Valvetrain : SOHC VTEC-E (2 valves per cylinder) Piston Code : P07 Fuel Control : OBD-1 MPFI B20B NON-VTEC Found in: Honda CR-V, Honda Orthia ขนาด ของ เครื่อง/: 1973 แรง ม้า: 126 hp (94 kW) @ 5500 rpm กำลังบิด : 133 ft?lbf (180 N?m) @ 4200 rpm แรงอัด 8.8:1 กระบอกสูบ: 84 mm (3.31 in) : 89 mm (3.50 in) RPM : 6300 rpm red line [] B20Z NON-VTEC Found in: 1999-2001 Honda CR-V ขนาด ของ เครื่อง/: 1973 แรง ม้า: 142 hp @ 5500 rpm กำลังบิด : 133[vague] @ 4500 rpm แรงอัด 9.6:1 กระบอกสูบ: 84 mm : 89 mm RPM : 6900 rpm หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 25 กันยายน 2013, 12:01:04 b20 ตัวธรรมดา แทบไม่ต่างกับ1600 tec เลย 1600จบกว่าเยอะ ;)
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 25 กันยายน 2013, 12:33:37 b20 ตัวธรรมดา แทบไม่ต่างกับ1600 tec เลย 1600จบกว่าเยอะ ;) b20 แรงบิดมาในรอบทำงานต่ำกว่าคับ เพราะเครื่องใหญ่กว่ามั้ง ส่วน d16 แรงบิดมาในรอบสูง เพราะ มีวีเทคช่วย แต่ถ้าตัวที่ไม่มี ก้ไม่น่าจะสู้ได้คับ ถามคำเดียว อยู่ในกรุงเทพ วันๆ นึง จะต้องการแรงบิดมากแค่ไหนกัน ในเมื่อทุกวันนี้ ถนนไม่พอให้รถวิ่งแล้ว หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 25 กันยายน 2013, 12:37:31 b20 แรงบิดมาในรอบทำงานต่ำกว่าคับ เพราะเครื่องใหญ่กว่ามั้ง ส่วน d16 แรงบิดมาในรอบสูง เพราะ มีวีเทคช่วย แต่ถ้าตัวที่ไม่มี ก้ไม่น่าจะสู้ได้คับ ถามคำเดียว อยู่ในกรุงเทพ วันๆ นึง จะต้องการแรงบิดมากแค่ไหนกัน ในเมื่อทุกวันนี้ ถนนไม่พอให้รถวิ่งแล้ว จริง ;D ;D ขับมา 1 ปี กว่า เหยียบถึง 190-200 แค่ 2 ครั้ง ก็ไม่รู้จะเร็วไปไหน ;D หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: junkhung ที่ 25 กันยายน 2013, 12:38:20 ประหยัดขนาดนี้ เอาค่าน้ำมันซื้อได้อีกคันเลยทีเดียว :-[ เรียกกินน้ำมันไม่ได้แล้ว ต้องเรียกจิบน้ำมัน แต่พอประหยัดมาก ก็เที่ยวมากขึ้น ;D ;Dหัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 25 กันยายน 2013, 12:41:04 จริง ;D ;D ขับมา 1 ปี กว่า เหยียบถึง 190-200 แค่ 2 ครั้ง ก็ไม่รู้จะเร็วไปไหน ;D ถามอีกครั้ง 190 นี่ นานกี่ชั่วโมงอะ ประเทศไทยมีถนนเรียบๆ ยาวๆ โล่งๆ แบบนั้น แค่ไหนกัน หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 25 กันยายน 2013, 12:41:39 เรียกกินน้ำมันไม่ได้แล้ว ต้องเรียกจิบน้ำมัน แต่พอประหยัดมาก ก็เที่ยวมากขึ้น ;D ;D ขับจิงๆ มันก้ไม่ได้ประหยัดอย่างที่คิดหรอกคับ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Taweesak ที่ 25 กันยายน 2013, 16:03:22 เอาง่ายๆนะคับ วายสายให้ครบ ไม่ว่าเครื่องอะไรก้ตามทุกรุ่น เวลาวายสายเส็ดแล้ว สตาทเครื่องต้องไม่มีไฟเครื่องโช คับ ถ้ามีไฟเครื่องโช คือไม่สมบูรณ์ ชัดเจนครับ ขอบคุณมากๆ สงสัยมานานแล้วส่วนมีไฟเครื่องโช แล้วจะแก้ยังไงนั้น มีหลายวิธีคับ ตั้งแต่ หาของมาใส่ให้ครบ หรือต่อวงจรคร่อมหลอกกล่อง หรือเอาไฟเครื่องออก หรือไม่ต่อไฟเครื่อง วิธีที่ หลอกกล่อง ทำวงจรคร่อม เป็นวิธีที่ช่างผมไม่ทำคับ ช่างผมจะแก้ที่กล่องโดยตรงเลย คือเอา ชิป หรือ ตัวต้านทานบางตัวออกเพื่อไม่ให้กล่องตรวจหาเซนเซอร์บางอย่างที่เราไม่จำเป็ฯต้องใช้ อย่างเช่น ผมเอาเครื่องเกียออโต้มาชนเกียธรรมดา ก้แก้โดยการ เอาชุดที่ประมวลผลเกียออโต้ออกให้หมด อะไรประมาณนี้คับ วายสายไม่ครบ ไฟเครื่องโช เครื่องก้ทำงาน ผิดปรกติ ก้กินน้ำมันเพราะระบบไม่สมบูรณ์คับ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: chira711 ที่ 25 กันยายน 2013, 20:22:11 ถามอีกครั้ง 190 นี่ นานกี่ชั่วโมงอะ ประเทศไทยมีถนนเรียบๆ ยาวๆ โล่งๆ แบบนั้น แค่ไหนกัน ;D ;D ;D ;D เรื่องถนนที่ จะให้ไปใช้ ที่ความเร็ว ขนาด นั้น ไม่ต้อง ถามครับ ขาซิ่ง เค้ารู้ดีว่า ความเร็ว ขนาด นั้นจะวิ่งได้ที่ไหน รู้แต่ว่าถนน รองรับ เยอะครับ....ตาม มิดไนท์ ........ 555..... :D :D :D หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 25 กันยายน 2013, 22:20:02 ;D ;D ;D ;D เรื่องถนนที่ จะให้ไปใช้ ที่ความเร็ว ขนาด นั้น ไม่ต้อง ถามครับ ขาซิ่ง เค้ารู้ดีว่า ความเร็ว ขนาด นั้นจะวิ่งได้ที่ไหน รู้แต่ว่าถนน รองรับ เยอะครับ....ตาม มิดไนท์ ........ 555..... :D :D :D ;) ;) ;) หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 26 กันยายน 2013, 10:12:19 ทางด่วน หลังเที่ยงคืน โล่งแน่นอน ขับเอาประหยัด สบาย :o
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 26 กันยายน 2013, 10:13:53 ทางด่วน หลังเที่ยงคืน โล่งแน่นอน ขับเอาประหยัด สบาย :o เอาประหยัดรึเอาสนุกคับ ;) ;) ;) หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 26 กันยายน 2013, 10:34:52 ผมไม่เคยขับช้าได้สักที โล่งจัด เหยียบสุดตลอด ;)
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 26 กันยายน 2013, 10:38:16 ผมไม่เคยขับช้าได้สักที โล่งจัด เหยียบสุดตลอด ;) ผมนี่ ถนนโล่งๆ ขับสบายๆ ชิวชิว แต่ถ้า ถนนไม่ว่าง รำคาญอิพวกขวางทางช้าก้ช้า แต่เสือกอยู่ขวา ผมนี่ตบประจำ >:( ;D ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: tanakhon ที่ 26 กันยายน 2013, 11:28:58 ติดแก็ส น้ำหนักบรรทุกเยอะ ต้องการอัตราเร่งดีๆ b20 ครับ
ถ้าใช้น้ำมัน d15 น่าจะประหยัดกว่าในการวิ่งแบบชิ่วๆ แต่เห็นเจ้าของกระทู้ชอบขับเร็วผมเชียร์ b 20 ครับ เผลอๆผมว่าหากซัดกัน ในระดับความเร็วเกิน 120 b 20อาจกินน้ำมันน้อยกว่า d 15 ผมวาง b20 ตัว crv g1 ขับสองออโต้ไฟฟ้าอยู่ จบๆก็ 35000 ครับ ใช้น้ำมันอย่างเดียวครับ ยังไม่คิดติดแก็สเพราะ เติม e20 ก็ได้เกิน 12โล/ลิตร อย่างว่าครับ ตจว.ถนนโล่งๆ เคยขับเข้ากรุงเทพ ขั้นต่ำก็ 140 (ความเร็วจริงน่าจะอยู่ 130 เพราะตอนนั้น ใช้ยาง 195/55/15) เติมน้ำมันอุตรดิต ถึงบ้านบางปะอิน น้ำมัน แตะๆขีดแดงครับ ผมว่าเครื่องตัวนี้ ชอบวิ่งทางยาวครับมันประหยัดดี(อันนี้เป็นการแชร์ข้อมูลกันน่ะครับ) เมื่อก่อนใช้ y4 ออโต้ เห็นใครบอกขับ 140-160 แม่งส่งสารเครื่องครับ เค้นน่าดู แต่พอวาง b20 140 แค่แตะๆครับ ผมอยู่ แพร่ครับ ใครอยากวางตัวนี้มาลองรถผมก่อนก็ได้ไม่ว่ากันครับ สรุป ชอบเร็วเชียร์ b20 ครับ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 26 กันยายน 2013, 12:27:27 ติดแก็ส น้ำหนักบรรทุกเยอะ ต้องการอัตราเร่งดีๆ b20 ครับ ถ้าใช้น้ำมัน d15 น่าจะประหยัดกว่าในการวิ่งแบบชิ่วๆ แต่เห็นเจ้าของกระทู้ชอบขับเร็วผมเชียร์ b 20 ครับ เผลอๆผมว่าหากซัดกัน ในระดับความเร็วเกิน 120 b 20อาจกินน้ำมันน้อยกว่า d 15 ผมวาง b20 ตัว crv g1 ขับสองออโต้ไฟฟ้าอยู่ จบๆก็ 35000 ครับ ใช้น้ำมันอย่างเดียวครับ ยังไม่คิดติดแก็สเพราะ เติม e20 ก็ได้เกิน 12โล/ลิตร อย่างว่าครับ ตจว.ถนนโล่งๆ เคยขับเข้ากรุงเทพ ขั้นต่ำก็ 140 (ความเร็วจริงน่าจะอยู่ 130 เพราะตอนนั้น ใช้ยาง 195/55/15) เติมน้ำมันอุตรดิต ถึงบ้านบางปะอิน น้ำมัน แตะๆขีดแดงครับ ผมว่าเครื่องตัวนี้ ชอบวิ่งทางยาวครับมันประหยัดดี(อันนี้เป็นการแชร์ข้อมูลกันน่ะครับ) เมื่อก่อนใช้ y4 ออโต้ เห็นใครบอกขับ 140-160 แม่งส่งสารเครื่องครับ เค้นน่าดู แต่พอวาง b20 140 แค่แตะๆครับ ผมอยู่ แพร่ครับ ใครอยากวางตัวนี้มาลองรถผมก่อนก็ได้ไม่ว่ากันครับ สรุป ชอบเร็วเชียร์ b20 ครับ คันนี้ผมสรุปแล้วครับ ทำเดิมๆ ไม่ต้องแรงแล้วครับ ผมมีอีก2คัน 4g63 sr-20 ซดน้ำมัน 5-8กิโล e85 คันcivic ยังมี10กิโลลิตรให้เห็น ต้องหนีไปขับพวกดีเซลแล้วครับ 15-16กิโลลิตร :-\ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 26 กันยายน 2013, 12:43:35 คันนี้ผมสรุปแล้วครับ ทำเดิมๆ ไม่ต้องแรงแล้วครับ ผมมีอีก2คัน 4g63 sr-20 ซดน้ำมัน 5-8กิโล e85 คันcivic ยังมี10กิโลลิตรให้เห็น ต้องหนีไปขับพวกดีเซลแล้วครับ 15-16กิโลลิตร :-\ เดิมเดิมก้แซงพวกฟอจูนเนอรืได้นะ ;) ;) ;) หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: parkpoop_ek_98 ที่ 26 กันยายน 2013, 13:03:46 ิb20z +แก๊ส=ประหยัดบาทกว่าๆ+อัตราเร่งดีขึ้นไววิ่ง ตจว.เรนสวนขับเร่งแซงสบาย+รอบต่ำไม่ต้องลากรอบ ความทนต้องมาแน่น
ิd15d+น้ำมันหรือแก็ส=ประหยัดตาม cc.1500+ถ้าไปตจว.หรือขึ้นเขาต้องกะดีๆส่งดีแต่ก็น่าเสียวบ้าง+ในเมื่อใช้ต้องใช้รอบสูงๆเพื่อให้เร็วขึ้น ความทนก็ต้องลดบ้างนะ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 26 กันยายน 2013, 13:05:56 ิb20z +แก๊ส=ประหยัดบาทกว่าๆ+อัตราเร่งดีขึ้นไววิ่ง ตจว.เรนสวนขับเร่งแซงสบาย+รอบต่ำไม่ต้องลากรอบ ความทนต้องมาแน่น ิd15d+น้ำมันหรือแก็ส=ประหยัดตาม cc.1500+ถ้าไปตจว.หรือขึ้นเขาต้องกะดีๆส่งดีแต่ก็น่าเสียวบ้าง+ในเมื่อใช้ต้องใช้รอบสูงๆเพื่อให้เร็วขึ้น ความทนก็ต้องลดบ้างนะ ยืนยันคับ d15 ขี้นเขาแรงไม่ตกคับ ผมแซงรวดเดียวได้เปนสิบคัน แซงเลนซ้ายด้วยนะ เชียงใหม่ ลำปาง มันอยุ่ที่ว่าคุณกล้าสาดโค้งได้เร็วแค่ไหน หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: konloi ที่ 26 กันยายน 2013, 13:13:47 63 โบ กินดุเดือดมาก แสดงว่าทำมาพอสมควร เป็นตัวไหนครับ
เพราะของผมบอดี้ ck กิน 8โลลิตรนะ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: JOe1323 ที่ 26 กันยายน 2013, 13:38:56 เดิมเดิมก้แซงพวกฟอจูนเนอรืได้นะ ;) ;) ;) vigo preruner 2.5 vn ครับ จะออกเร็วๆนี้ ขับ100วิ่งกัน 15โลลิตร 63 โบ กินดุเดือดมาก แสดงว่าทำมาพอสมควร เป็นตัวไหนครับ ของผมบอดี้galant 63 na ทำเยอะครับ ขับสนุกครับ เปลืองน้ำมันก็ขับคันอื่น :-[เพราะของผมบอดี้ ck กิน 8โลลิตรนะ หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: konloi ที่ 26 กันยายน 2013, 15:12:20 ถ้าเครื่อง vr4 วิ่ง 5 โลลิตรนี่ไม่ธรรมดานะครับ :)
หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 27 กันยายน 2013, 10:04:08 ข้อมูล ยังไม่ชัว ก็เอามาแชร์ให้ชาวบ้านเข้าใจผิดกัน คนมันเห่อทำไงได้ :-X :-X
;D ;D หัวข้อ: Re: D15 3stage vs B20 ในek เริ่มหัวข้อโดย: Hooto cha-am ที่ 18 มีนาคม 2016, 11:59:16 กระทู้นานและ.....แต่ตอบเล่นๆนะ ผมใช้ 3 stage mt อยู่ จานจ่าย หัวนกกระจอก เอามาขัดๆ ล้างลิ้นปีก เป่ากรอง ทำความสะอาด ก็วิ่งดีนะ ขึ้นเขาก็แรงดีไม่ตกนะ ผมว่าก็โอเคนะ แต่ใครว่าประหยัดวิ่งได้ 30 โลต่อลิตร......55555555 ไม่จริ๊ง ไม่จริง ผมใช้ถ้าขับไม่เกิน 100 คิดว่าน่าจะประมาณ 11- 14 โลต่อลิตร แค่นั้น แต่ถ้าลากรอบสูง บอกตามตรงกินฉิบหาย
|