Octillion
งงอ่ะดิ
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 8,854

|
 |
« เมื่อ: 10 มีนาคม 2011, 00:39:46 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Octillion
งงอ่ะดิ
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 8,854

|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 มีนาคม 2011, 00:40:14 » |
|
2. เลือก แบตเตอรี่ แบบไหนดีล่ะ
ตอบง่ายๆครับ อยู่ที่การใช้งานและสตางค์ในกระเป๋าท่าน ซึ่งส่วนใหญ่ ยิ่งแพงก็ยิ่งดีครับ แต่ก็ไม่เสมอไปนะ ซื้อแบตเตอรี่ต้องมีดวงด้วย คำถามต่อมาคือว่า เงินที่ลงไป คุ้มกับคุณภาพหรือประสิทธิภาพที่ได้มาหรือไม่
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว รถบ้านๆจนถึงรถซิ่งที่ไม่มีของกินไฟเยอะๆ โหลดที่ใช้ไฟจากแบตเตอรี่ ถือว่าน้อย เพราะเขาออกแบบมาให้ใช้ไฟได้นานๆ จนถึงรถติดเครื่องเสียงหนักๆ ต้องใช้ขนาดแบตเตอรี่เพิ่ม หรือย้ายแบตเตอรี่ไว้กลางรถหลังรถ
ขอพูดถึงเรื่องคุณภาพกับประสิทธิภาพนิดนึง คุณภาพของแบตเตอรี่ ผมหมายถึง ใช้ได้นาน ไม่บวมง่าย ไม่งอแง เปอร์เซนต์เครมน้อยๆ ประสิทธิภาพ ผมหมายถึง รับภาระโหลดมากได้ดี (กราฟ discharge) แรงดันไม่ตกมาก
รถเดิมๆเนี่ย เลือกแบบไหนก็ได้ครับ อันนี้ผมเน้นคุณภาพ ผมแนะนำว่า แบบเติมน้ำกลั่น จะมีน้ำกรดระเหยบ้าง ต้องสม่ำเสมอเช็คน้ำกลั่น ตามที่บอกไปแล้วข้อ 1. ส่วนแบบ maintenance free อายุการใช้งาน มักจะไม่แตกต่างกัน สำหรับคนที่ขี้เกียจดูแล สำหรับแบบ maintenance free ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ส่วนมากจะราคาสูงกว่าแบบอื่นพอสมควร ผู้ผลิตมักจะตั้งใจทำ คุณภาพเลยสูงตาม สังเกตว่า ค่าเฉลี่ยของอายุการใช้งานจะมากกว่า
อย่างที่บอกไปข้างบนนะ ส่วนมาก ยิ่งแพงก็ยิ่งดี อยู่ที่ว่า เงินที่ลงไปกับการใช้งาน จะคุ้มค่ากับคุณภาพหรือประสิทธิภาพที่ได้มาหรือไม่
สำหรับรถติดเครื่องเสียง หรือใช้ไฟมากๆ อันนี้ควรจะใช้ประสิทธิภาพดีๆ หลายๆคน อาจจะเลือกถึงเปิด datasheet ดูสเปคกันเลยทีเดียว ต้องยอมรับว่า แบตเตอรี่เกรดสูงๆ มักจะมาจากฝั่งยุโรป แต่ราคาสูงเหลือเกิน แต่แบตเตอรี่ผลิตจากไทยหรือจีนหลายๆยี่ห้อ ก็ไม่ได้ด้อยกว่ากันมาก ถ้าวางแบตเตอรี่ไว้ในรถแล้ว หากซื้อแบตเตอรี่ยุโรป ก็พอที่จะคุ้มค่าหน่อย เพราะอายุแบตเตอรี่ หลักๆเลย คืออุณหภูมิใช้งาน
มาพูดถึงเรื่องดวงบ้าง หมายถึงคุณภาพที่พูดไปครับ แบตเตอรี่บางยี่ห้อ ก็ใช้งานดีแต่ราคาไม่แพง แต่ถ้าใครโชคดีได้แบตเตอรี่มีปัญหาขึ้นมา เสีย self แน่เลยครับ ยิ่งถ้าจ่ายเงินซื้อแบตเตอรี่เกรดสูงๆด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติในการผลิด อาจจะมีซัก 1-2 % ที่เป็นแบตเตอรี่มีปัญหา เสีย หรืออายุการใช้งานสั้นผิดปกติ ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนก็ตาม
อย่าลืมนะครับ ว่า แบตเตอรี่ส่วนใหญ่ รับประกันประมาณ 1 ปี ถ้ามีปัญหา เครมกับร้านที่ซื้อได้เลย แต่ถ้าแบตเตอรี่บวม จะเครมยากครับ
ส่วนจะเลือกยี่ห้อไหนดี ติดตามตอนต่อไปนะจีะ

|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 มีนาคม 2011, 01:48:18 โดย Octillion »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
bangsaen6
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 6,233

ล่องลอย
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: 10 มีนาคม 2011, 07:10:39 » |
|
|

IMG00780-20110310-0701.jpg (43.98 KB, 640x480 - ดู 836 ครั้ง.)
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 มีนาคม 2011, 07:12:30 โดย Boww_EK »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
thanawat6
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 3,230

Japan Garbage Car & THE GANG DIY SERVICE
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: 10 มีนาคม 2011, 07:58:28 » |
|
ทำแบบเดียวกันครับ ไม่ได้ยึดแบตฯ ไว้ด้วยครับ ใส่ลงช่องพอดิบพอดี 
|

PB090301.JPG (52.11 KB, 640x480 - ดู 827 ครั้ง.)
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
Octillion
งงอ่ะดิ
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 8,854

|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: 10 มีนาคม 2011, 12:53:33 » |
|
ถ้ามีช่อง ทำขายึดใหม่ หรือไม่ก็เดิน ไปเก็บหลังรถเลย
ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ เพราะว่า อุณหภูมิต่ำกว่าห้องโดยสาร แต่ต้องคำนึงถึงกระแส charge จากไดชาร์จด้วยนะครับ
ไม่ใช่ว่า ใส่ลูกใหญ่ๆเข้าว่า จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว เพราะชาร์จไม่ค่อยเต็ม ไดชาร์จทำงานหนัก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Octillion
งงอ่ะดิ
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 8,854

|
 |
« ตอบ #21 เมื่อ: 10 มีนาคม 2011, 19:12:50 » |
|
มีวงจรเด็ดๆ มาช่วยแชร์หน่อย เผื่อได้ไอเดีย แยกแบตเตอรี่เครื่องเสียง
ไม่ก็ DIY ทำขายเลย 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
ham_ter
อาจารย์ปู่
      
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 9,223

|
 |
« ตอบ #26 เมื่อ: 10 มีนาคม 2011, 22:26:47 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
ham_ter
อาจารย์ปู่
      
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 9,223

|
 |
« ตอบ #30 เมื่อ: 10 มีนาคม 2011, 22:39:07 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
thanawat6
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 3,230

Japan Garbage Car & THE GANG DIY SERVICE
|
 |
« ตอบ #37 เมื่อ: 11 มีนาคม 2011, 08:15:56 » |
|
แบตฯ ลูกที่สอง เอาชาร์จแบบมือถือไม่ได้เหรอครับ 
ออกแบบวงจรชาร์จ แยกต่างหาก ใช้พวกอินเวอร์เตอร์ช่วยอะ โดยใช้ไฟจากรถ ถ้าทำวงจรชาร์จแบบใช้ไฟถอด เสียบได้ ก็จะได้ไม่ต้องยุ่งกับไดชาร์จ ไม่ต้องยุ่งเรื่องพ่วงสายพาน ให้เยอะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
bangsaen6
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 6,233

ล่องลอย
|
 |
« ตอบ #39 เมื่อ: 11 มีนาคม 2011, 22:13:57 » |
|
ไอ้กรณีรถใส่เครืองเสียงนะรถคันเก่าผมเคยใส่สองลูกนะ....ไว้ที่เดิมลูกนึง แล้วไว้ข้างหลังลูกนึง120Aแบบแห้ง เดินสายแบ๊ตจากไดช๊าตมา(สายทองแดงใหญ่)แล้วใช้เฉพาะเครื่องเสียงเท่านั้นและทำการขยายไดให้สามารถปั่นไฟได้พอ แก้ปัญหาเปิดเพลงแล้วแบ๊ตหมดได้ครับ เวลาเปิดเพลงก็สามารถสตาร์รถได้โดยไม่ต้องปิดเครื่องเสียงนะ และก็เหมาะกับรถautoนะครับ แต่คันปัจจุบันใช้ลูกเดียวเนื่องจากเครื่องเสียงเหลือนิดเดียว 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|