|
|
beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 8,890

เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: 04 มีนาคม 2009, 21:03:41 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 มีนาคม 2009, 21:07:19 โดย beer4353 »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 8,890

เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: 05 มีนาคม 2009, 08:48:01 » |
|
|

B20B.jpg (108.49 KB, 530x398 - ดู 4366 ครั้ง.)
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
pop96
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 3,208
EK96 TypeR/Domani จนๆ
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: 05 มีนาคม 2009, 09:10:01 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
anarvin
ศิษย์น้อง
 
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 78

DOHC : Standard
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: 09 มีนาคม 2009, 23:14:12 » |
|
หามาให้อ่านกันเล่น b20b จากญี่ปุ่น จะแบ่งออกเป็น 3 รุ่นใหญ่ๆ ที่มีความแตกต่างกัน b20b ปี 96-98 เครื่องจะมีกำลังอัด 8.8 ต่อ 1 b20b ปี 99-01 เครื่องจะมีกำลังอัด 9.6 ต่อ 1 b20b รหัสฝา P75 วาวล์ไอดี 31 มม. ไอเสีย 28 มม. และรหัส P8R กำลังอัด 9.2 ต่อ 1 วาวล์ไอดี 33 มม. ( เท่ากับฝาวีเทค) วาวล์ไอเสีย 28 มม. ข้อมูลนี้มีประโยชน์อย่างไร? ถ้าได้เครื่องปี 96-98 มาประกบกับฝา b16a กำลังอัดจะอยู่ แถวๆ 9.09 ต่อ 1 ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำ (เมื่อเทียบกับของ b16a 10.2 ต่อ 1 ) ถ้าจะให้ได้กำลังอัดประมาณ 10.5 ต่อ 1 จะต้องไสฝาออกประมาณ 2 มม. ซึ่งจะทำให้ระยะวาวล์กับลูกสูบใกล้กันมากเข้าไปอีก โอกาสที่วาวล์จะกระทบลูกสูบมีมากขึ้น ยิ่งถ้าจะต้องขุดลูกสูบเพื่อให้หลบวาวล์ และรักษากำลังอัดไว้ คงจะต้องไสฝามากกว่า 2 มม. และมันก็จะมีปัญหาเรื่องสายพานไทม์มิ่ง ที่มีระยะที่หย่อนมากขึ้นอีกหน่อย โอกาสที่จะกระโดดข้ามร่องยามที่สายพานเก่าๆที่รอบสูงๆ จะมีมากกว่า ถ้าใช้กับฝา b18c ฝาดำ กำลังอัดจะสูงกว่า เนื่องจากห้องเผาไหม้เล็กกว่า ( 42.7 cc. กับ 41.6 cc) ดังนั้นถ้าได้เครื่อง ปี 99-01 หรือ เครื่องที่มีรหัสฝา P8R มาใช้น่าจะดีกว่า เนื่องจากว่ากำลังอัดจะสูงกว่าถึงจะปาดฝาเพิ่มกำลังอัด ก็จะปาดออกไม่มาก สรุป จากการคำนวน เครื่อง ปี 96-98 ประกบฝา b16a กำลังอัดจะได้ 9.09 ต่อ 1 เครื่อง ปี 99-01 ประกบฝา b16a กำลังอัดจะได้ 9.96 ต่อ 1 เครื่อง ปี 96-98 ประกบฝา b18c ฝาดำ กำลังอัดจะได้ 9.24 ต่อ 1 เครื่อง ปี 99-01 ประกบฝา b18c ฝาดำ กำลังอัดจะได้ 10.14 ต่อ 1 ลองเอาไปใช้ดูแล้วกันครับ.... ขอบคุณข้อมูล EG 3D CLUB http://rcw.ms/forums/showthread.php?t=266026
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
No Group, No Club, No Team.
" Just Drive EK "
|
|
|
acer3608
ศิษย์น้อง
 
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 146
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009, 08:45:54 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 8,890

เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^
|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009, 09:05:41 » |
|
หามาให้อ่านกันเล่น b20b จากญี่ปุ่น จะแบ่งออกเป็น 3 รุ่นใหญ่ๆ ที่มีความแตกต่างกัน b20b ปี 96-98 เครื่องจะมีกำลังอัด 8.8 ต่อ 1 b20b ปี 99-01 เครื่องจะมีกำลังอัด 9.6 ต่อ 1 b20b รหัสฝา P75 วาวล์ไอดี 31 มม. ไอเสีย 28 มม. และรหัส P8R กำลังอัด 9.2 ต่อ 1 วาวล์ไอดี 33 มม. ( เท่ากับฝาวีเทค) วาวล์ไอเสีย 28 มม. ข้อมูลนี้มีประโยชน์อย่างไร? ถ้าได้เครื่องปี 96-98 มาประกบกับฝา b16a กำลังอัดจะอยู่ แถวๆ 9.09 ต่อ 1 ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำ (เมื่อเทียบกับของ b16a 10.2 ต่อ 1 ) ถ้าจะให้ได้กำลังอัดประมาณ 10.5 ต่อ 1 จะต้องไสฝาออกประมาณ 2 มม. ซึ่งจะทำให้ระยะวาวล์กับลูกสูบใกล้กันมากเข้าไปอีก โอกาสที่วาวล์จะกระทบลูกสูบมีมากขึ้น ยิ่งถ้าจะต้องขุดลูกสูบเพื่อให้หลบวาวล์ และรักษากำลังอัดไว้ คงจะต้องไสฝามากกว่า 2 มม. และมันก็จะมีปัญหาเรื่องสายพานไทม์มิ่ง ที่มีระยะที่หย่อนมากขึ้นอีกหน่อย โอกาสที่จะกระโดดข้ามร่องยามที่สายพานเก่าๆที่รอบสูงๆ จะมีมากกว่า ถ้าใช้กับฝา b18c ฝาดำ กำลังอัดจะสูงกว่า เนื่องจากห้องเผาไหม้เล็กกว่า ( 42.7 cc. กับ 41.6 cc) ดังนั้นถ้าได้เครื่อง ปี 99-01 หรือ เครื่องที่มีรหัสฝา P8R มาใช้น่าจะดีกว่า เนื่องจากว่ากำลังอัดจะสูงกว่าถึงจะปาดฝาเพิ่มกำลังอัด ก็จะปาดออกไม่มาก สรุป จากการคำนวน เครื่อง ปี 96-98 ประกบฝา b16a กำลังอัดจะได้ 9.09 ต่อ 1 เครื่อง ปี 99-01 ประกบฝา b16a กำลังอัดจะได้ 9.96 ต่อ 1 เครื่อง ปี 96-98 ประกบฝา b18c ฝาดำ กำลังอัดจะได้ 9.24 ต่อ 1 เครื่อง ปี 99-01 ประกบฝา b18c ฝาดำ กำลังอัดจะได้ 10.14 ต่อ 1 ลองเอาไปใช้ดูแล้วกันครับ.... ขอบคุณข้อมูล EG 3D CLUB http://rcw.ms/forums/showthread.php?t=266026 ไหนบอก เอาแค่ใช้งานประจำวันไงครับ!! 
เป็นผม คงไม่คิดประกบฝาแน่ๆ งบประมาณเยอะเกิ๊น
สิ่งที่อยากทำจิง ๆ คือใส่คอยส์จุดระเบิดแยก มากกว่าครับ เพราะคอยส์ โบร๊าณ โบราณ เปลี่ยนมาเป็นคอยส์โรตาฯ ดีฝ่า

|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
zn701
ศิษย์น้อง
 
ออฟไลน์
กระทู้: 138

ลูกหล่อในสายตา พ่อ เสมอ..อิอิ
|
 |
« ตอบ #16 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009, 10:45:51 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 8,890

เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: 10 มีนาคม 2009, 12:57:44 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 8,890

เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^
|
 |
« ตอบ #27 เมื่อ: 17 มีนาคม 2009, 23:10:24 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 มีนาคม 2009, 23:13:40 โดย beer4353 »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 8,890

เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^
|
 |
« ตอบ #28 เมื่อ: 18 มีนาคม 2009, 09:15:01 » |
|
เอาวิธีทำมาฝากคร่าวๆ ครับ อ่านเจอมา
วิธีต่อคอยแยกเราก็เลียนแบบของเดิมเปิด ฝากะลาจานจ่าย หาสายที่ต่อเข้า บวก กับ ลบของ coil ก็ tap เอาสัญญาณต่อสายยาวออกมานอกหัวจานจ่าย แล้วก็โยงไอ้สองเส้นนี้มาเข้า +,- ที่ coil แยก เข้าใจว่า + คือ 12 v แช่นะครับ ส่วน - มันเป็นสัญญาณ trigger เพื่อ switching ground สั่งโดยกล่อง ecu ที่นี้มันถูก trigger เป็นจังหวะ มันเลยเหมือนไฟ AC วิ่ง step up มาทางด้านแรงสูงได้ ผ่านสนามแม่เหล็ก ที่ coil แยก จะมีขั้วแรงสูงอยู่ ก็ต้องหาสาย ต่อจากขั้วแรกสูงกลับเข้าไปที่ จุดเดิมที่ขั้วแรงสูง coil เดิม แตะอยู่ เพื่อส่งผ่านแรงดันเข้าไปที่หัวโรเตอร์ตามแบบเดิมนะครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
AppZaa
Gold Member
จอมยุทธ
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 269

|
 |
« ตอบ #31 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 11:09:26 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มีนาคม 2009, 11:12:08 โดย AppZaa »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 8,890

เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^
|
 |
« ตอบ #32 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 11:42:01 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
AppZaa
Gold Member
จอมยุทธ
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 269

|
 |
« ตอบ #33 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 13:39:13 » |
|
ค่อนข้างจะหายากนิดนึงครับ สำหรับ B20B + เกียร์ธรรมดา ของมันตรงรุ่น ก็พอๆ กับ Es เกียร์ธรรมดา บ้านเราน่ะครับ ค่อนข้างจะหายาก เป็นอีกเหตุผลนึงเหมือนกัน ที่ผมตัดสินใจวางใหม่ เพราะส่วนมากจะเป็นเกียร์ ออโต้มาจากญี่ปุ่น จะหาเกียร์ธรรมดาชนก็ต้องพวกเกียร์ตระกูล B16 / 18 ชน ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพื่อนที่สั่งให้บอกว่า ปีนึงจะมีหลุดมาซัก 2 - 3 ตัวเท่านั้นครับ B20B + MT ของมันเนี่ย สนใจรายละเอียดต่างๆ ฯลฯ ปรึกษาได้ค๊าบบ ยินดี
จะได้มีเพื่อน B20 เพิ่มอีกคัน เย้ เย้  อ่อๆๆๆ...เข้าใจแล้วค้าบ เด๋วขอรอเก็บตังค์ก่อนถ้าอีก2-3เดือนไม่มีใครซื้อคันนี้ กะว่าจะเอามาทำเองดีกว่า เหอๆๆๆๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|