domegdomeg
ชาวยุทธ

ออฟไลน์
กระทู้: 3
|
 |
« เมื่อ: 14 มกราคม 2009, 11:17:59 » |
|
สอบถามพี่ๆหน่อยครับผมเพิ่งมาเป็นสมาชิกด้อยความรู้จริงๆ แค่อยากรู้ความหมายของมันว่าคืออะไร type R type S ES 01,02,03 ผมไม่รู้ความหมายมันจริงๆครับว่าคืออะไรเห็นบางคันก็มีติดอยู่ที่ท้ายรถ บางคันก็ไม่มี รบกวนพี่ๆให้ความรู้ผมหน่อยนะครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 มกราคม 2009, 16:09:46 โดย ITc@t »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
neat_boy?
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
กระทู้: 14,994

|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: 14 มกราคม 2009, 11:25:39 » |
|
สาระวิทยา (แถวๆศรีปทุม)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Honda Civic Type R แตกไลน์เพื่อตลาดแต่ละกลุ่ม
จากแนวคิดรุ่นเดียวตัวถังเดียวสำหรับขายในญี่ปุ่นก่อนแพร่หลายออกไปนิยมในหมู่ลูกค้าฝั่งยุโรปในเวลาต่อมา ถึงตอนนี้เวอร์ชันไทป์ อาร์ของซีวิคเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ เมื่อรุ่นแฮทช์แบ็ก 3 ประตูไม่ใช่ตัวถังหลักของสายพันธุ์นี้อีกต่อไป แต่ถูกปรับบทบาทให้จำกัดตัวเองอยู่แค่ในยุโรป
และหลักฐานที่ยืนยันถึงเรื่องนี้คือ การที่ฮอนด้านำซีวิค ไทป์ อาร์ใหม่สำหรับตลาดญี่ปุ่นออกมา เปิดตัวที่สนามซึซึกะในระหว่างการแข่งขันเจแปนีส กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันที่ 6--8 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมา พร้อมกับตัวถังซีดาน 4 ประตูสีขาวและล้อขาวตามฟอร์แม็ทที่เป็นรูปแบบของเวอร์ชันไทป์ อาร์
4 ประตูเพื่อคนญี่ปุ่น
ก่อนการเปิดตัวครั้งนี้ มีเครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นกับอนาคตของซีวิค ไทป์ อาร์ในญี่ปุ่นว่าจะเป็นไปในทิศทางใด จะยังยึดรูปแบบเช่นเดิมเหมือนกับรุ่นแรก (EK9) และรุ่นที่ 2 (EP3) ซึ่งถูกพัฒนาบนพื้นฐานของตัวถังแฮทช์แบ็ก 3 ประตูต่อไป หรือว่าจะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพตลาดในปัจจุบัน ?
ข่าวลือที่ว่าฮอนด้าจะเปลี่ยนแปลงตัวถังสำหรับใช้ในการพัฒนาเวอร์ชันไทป์ อาร์ของซีวิคในญี่ปุ่นเริ่มเป็นรูปเป็นร่างหลังจากที่รุ่นปกติของซีวิค FD เปิดตัวออกมาได้ไม่นาน และสื่อมวลชนพร้อมใจกันนำเสนอข่าวว่าในรุ่นนี้จะเปลี่ยนมาใช้ตัวถัง 4 ประตูแทนที่ 3 ประตูด้วยเหตุผลที่ว่าตลาดรถยนต์แฮทช์แบ็ก 3 ประตู และคูเป้ขนาดกลางในญี่ปุ่นถึงจุดอิ่มตัวและยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งลางร้ายนี้บ่งบอกออกมาตั้งแต่ซีวิครุ่นที่แล้ว เพราะฮอนด้าไม่นำรุ่น 3 ประตูเวอร์ชันปกติเข้ามาขายในญี่ปุ่นยกเว้นรุ่นไทป์ อาร์ และฐานการผลิตก็มีแห่งเดียวที่เมืองสวินดอน ประเทศอังกฤษ
ตรงนี้คือประเด็นหลักของการเปลี่ยนแปลงที่ถูกชูขึ้นมา
และทำให้สายพันธุ์ไทป์ อาร์ ที่แต่เดิมอิงอยู่กับตัวถัง 3 ประตูจำเป็นต้องปรับตัวตามสภาพของตลาด
แม้ว่าจะเป็นการยกเลิกเอกลักษณ์ดั้งเดิมก็ตาม โดยหันมาพัฒนาบนพื้นฐานของรุ่น 4 ประตูซึ่งเป็นตัวถังเดียวของซีวิคที่มีขายในญี่ปุ่น และข่าวนี้ก็เป็นจริงขึ้นมาในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
น่าเสียดายมากที่รายละเอียดของตัวรถถูกเปิดเผยออกมาน้อยมาก มีแค่มิติตัวถังซึ่งมีความยาว 4,540 มิลลิเมตร กว้าง 1,771 มิลลิเมตร สูง 1,425 มิลลิเมตร พร้อมกับชุดแต่งรอบคันที่เพิ่มความสปอร์ตเต็มพิกัด ล้อแม็กสีขาวพร้อมโลโก้ตัว H บนพื้นสีแดงตามสไตล์เวอร์ชันไทป์ อาร์ของฮอนด้า
ขณะที่เครื่องยนต์ ทางฮอนด้าเปิดเผยว่าเป็นบล็อก 4 สูบ 2,000 ซีซี i-VTEC ที่ไม่ระบุว่า เป็นรหัสอะไร แต่ถ้าจะให้คาดเดาก็น่าจะยังอิงอยู่บนพื้นฐานของบล็อก K20 เพียงแต่ คราวนี้ มีการพัฒนาและรีดกำลังออกมาได้มากถึง 220 แรงม้าส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะสู่ล้อหน้า ซึ่งเรียกว่าเป็นซีวิค ไทป์ อาร์ที่มีแรงม้าจากโรงงานมากที่สุดเท่าที่เคยผลิตกันมาเลยทีเดียว
มีการเปิดเผยว่าเหตุผลที่ ฮอนด้า ยกระดับความแรงของซีวิค ไทป์ อาร์ใหม่ให้สูงขึ้น
ก็เพราะต้องการกินรวบตลาดสปอร์ตคูเป้ขนาดกลาง ที่ในตอนนี้ทางฮอนด้าประกาศเลิกผลิตรุ่นอินเทกราไปแล้ว ด้วยเหตุผลข้างต้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเปิดตัวออกมาให้สัมผัสกันแล้ว แต่การทำตลาดจริงในญี่ปุ่นยังต้องรออีก พักใหญ่ เพราะทางฮอนด้าจะเริ่มส่งขายในช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า โดยที่ยังไม่มีการเปิดเผยราคาออกมา ในตอนนี้ ส่วนเมืองไทยคงต้องรอพึ่งจากผู้นำเข้ารายย่อยเหมือนเดิม
3 ประตูเพื่อคนยุโรป
นับจากซีวิค ไทป์ อาร์รุ่นที่แล้ว (EP3) ยุโรปทวีบทบาทในฐานะที่เป็นตลาดสำคัญของซีวิค ตัวถังแฮทช์แบ็กทั้งรุ่นปกติและตัวแรงในตระกูลไทป์ อาร์ ซึ่งสังเกตได้จากการที่ฮอนด้าเลือกเจนีวา มอเตอร์ โชว์ 2001 เป็นเวทีในการเปิดตัวครั้งแรกของรถยนต์รุ่นนี้ และในรุ่นใหม่นี้ก็เช่นเดียวกัน
ซีวิค ไทป์ อาร์ใหม่บนตัวถังแฮทช์แบ็ก 3 ประตู อาจจะเรียกว่าเป็น Euro Spec โดยเฉพาะก็คงไม่ผิด เพราะเป็นการผลิตและพัฒนาสำหรับตลาดกลุ่มนี้เพื่อแข่งขันกับพวก Hot Hatch สัญชาติยุโรป เช่น โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ จีทีไอ, โอเปิล แอสตรา โอพีซี, เปอโยต์ 307 เทอร์โบ, ฟอร์ด โฟกัส เอสที ฯลฯ
การพัฒนามีขึ้นบนพื้นฐานของตัวถังแฮทช์แบ็ก 3 ประตู
พร้อมเครื่องยนต์เป็น 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2,000 ซีซี i-VTEC 201 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที และเมื่อส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะผ่านล้อคู่หน้า มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 6.6 วินาที และความเร็วปลาย 235 กิโลเมตร/ชั่วโมง
เช่นเดียวกับไทป์ อาร์ของญี่ปุ่น กว่าแม้จะเปิดตัวในปีนี้ แต่กว่าจะเริ่มส่งมอบรถได้ต้องรอจนถึง เดือนมีนาคมปีหน้าเลยทีเดียว
Si เพื่อคนอเมริกัน
สำหรับคนอเมริกัน มีเวอร์ชันตัวแรงของซีวิคเอาไว้รองรับกับความต้องการมานานแล้ว กับรหัส Si ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1986 หรือเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งในซีวิครุ่นใหม่ รุ่น Si ก็ประเดิมตลาดพร้อมกัน แต่มีให้เลือกเฉพาะตัวถังคูเป้เท่านั้น ก่อนที่จะมาเพิ่มอีกทางเลือกด้วยตัวถังซีดาน 4 ประตูเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ทั้งรุ่นคูเป้และซีดานของ Si วางเครื่องยนต์รหัส K20Z3 บล็อก 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว i-VTEC 2,000 ซีซี 197 แรงม้า ที่ 7,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 19.2 กก.-ม. ที่ 6,100 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะสู่ล้อหน้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
neat_boy?
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
กระทู้: 14,994

|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: 14 มกราคม 2009, 11:26:40 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ArRey
นังตัวเขียว
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
    
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 4,793

มาวิ่งเล่นกันเหอะ . . . .
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: 14 มกราคม 2009, 11:31:52 » |
|
~ เยี่ยม 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
ArRey
นังตัวเขียว
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
    
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 4,793

มาวิ่งเล่นกันเหอะ . . . .
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: 14 มกราคม 2009, 11:58:38 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
Aod61 : มิสซิสซิปปี้
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
    
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 18,391

รับแก้ทอม ซ่อมดี้
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: 14 มกราคม 2009, 12:19:18 » |
|
Type R หรือ Type S มันเป็นชื่อรุ่นนึง ของซีวิค มีรูปโฉม ของแต่ง และเครื่องยนต์ ที่ต่างไปจากรถทั่วๆไปในท้องตลาด เช่นคันที่ 1 Type S คันที่ 2 Type R ซึ่งมันก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อยลงไปอีก ของแท้ ต้องนำเข้ามาอย่างเดียวครับ คันละประมาณ 3 ล้าน +/- ส่วนที่เห็นตามบ้านเรา แค่เอาแอร์โรว์ พาร์ท เค้ามาใส่ให้เหมือนครับ ส่วนใหญ่ เค้าจะเล่นแต่ตัว Type R กันครับ ส่วน ES01-02 ก็คือ ซีวิค ไดเมนชั่น ที่วิ่งกันตามท้องถนนเราเองครับ 01-02 คือปีรถ ES จะมี ถึง 05 พอ 06 ก็จะเป็น FD ซีวิค โฉมปัจจุบัน ผี รปภ. ฮอนด้า บางพลี เข้าสิงหรอเนี้ย 
|
|
|
|
|
neat_boy?
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
กระทู้: 14,994

|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: 14 มกราคม 2009, 15:55:10 » |
|
เห็นเขาลือกันว่ามีผีระดับผู้บริหารเข้ามาสิงสมาชิกชาวซีวิค เลยขับ Type เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์มาเยี่ยมชม  / เซมากูเตะ-san , ประธานระดับสูง แผนกล้าง-ขัด-เคลือบ Honda
|
|
|
|
neat_boy?
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
กระทู้: 14,994

|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: 14 มกราคม 2009, 16:20:43 » |
|
ผียุ่นเข้าอีกแว้ว  Type R -- Racing Type S -- Sport ... กว่าจะมาเป็น Type R
กุมภาพันธ์ 1992 ? ทีมวิศวกรของฮอนด้าซึ่งได้รับคำแนะนำที่หาค่าไม่ได้ของยอดนักขับรถอย่างไอร์ตัน เซนน่า เตรียมพร้อมในการพัฒนารถสปอร์ตรุ่น NSXให้มีสมรรถนะเทียบเคียงกับตัวแข่ง และนั่นเป็นที่มาของเวอร์ชัน NSX-R ซึ่งตัว R ที่ต่อท้ายมาจากคำว่า Racing
? การเปลี่ยนแปลงในเวอร์ขัน R คือ การอัพเกรดระบบช่วงล่างให้หนึบขึ้น ลดน้ำหนักของตัวรถลง เช่น ถอดเครื่องเสียง, กระจกไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศออกไป ทำให้มีน้ำหนักลดจาก 1,350 กิโลกรัมในรุ่นปกติลงมาอยู่ที่ 1,230 กิโลกรัม
? นอกจากนั้น ยังมีการนำก้านสูบที่ผลิตจากไททาเนียมซึ่งมีใช้อยู่ในตัวแข่ง มาใช้กับเครื่องยนต์วี6 รุ่นนี้ และตัวรถมาพร้อมกับสีขาวChampionship White พร้อมกับโลโก้ H บนพื้นแดงซึ่งเป็นสีตัวถังของRA272รถแข่ง F1 คันแรกของฮอนด้าที่คว้าแชมป์กรังด์ปรีซ์ ส่วนการผลิตมีจำกัดเอาไว้เพียง 1,995 คันเท่านั้น รู้หรือยังทำไมรถ Type R ถึงสีขาวและโลโก้ H แดง
กันยายน 1995 ? ฮอนด้าประกาศเดินหน้าขยายทางเลือกของเวอร์ชัน Type R สู่รถสปอร์ตรุ่นอื่น และคราวนี้เป็นคิวของอินเทกรา รหัส DC2 ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์รหัส B18C 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว VTEC รีดกำลังออกมาได้ 200 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที
? ฟูมิยาซึ ซึกะ ผู้ช่วยหัวหน้าวิศวกรโครงการ Type R ประกาศออกมาว่า ฮอนด้าจะพัฒนาเครื่องยนต์บล็อกนี้โดยอิงอยู่บนพื้นฐานของการผลิตและพัฒนาเครื่องยนต์สำหรับรถแข่ง ซึ่งบางชิ้นส่วนของเครื่องยนต์จะถูกผลิตและตกแต่งด้วยมือ ซึ่งนั่นก็รวมถึงการประกอบชิ้นส่วนบางชิ้นและการขัดพอร์ตไอดี-ไอเสียของฝาสูบ ซึ่งตรงนี้ฮอนด้าอ้างว่ามีส่วนช่วยให้เครื่องยนต์มีสมรระถนะเพิ่มขึ้น 10 แรงม้าเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์แบบเดียวกันแต่ผลิตด้วยเครื่องจักรล้วนๆ
สิงหาคม 1997 ? จากเอ็นเอสเอ็กซ์และอินเทกรา คราวนี้เวอร์ชัน Type R แพร่ขยายลงสู่รถยนต์จ่ายกับข้าวอย่างซีวิค  ด้วยเวอร์ชัน Type R ที่พัฒนาบนตัวถังแฮทช์แบ็ก 3 ประตูพร้อมเครื่องยนต์ B16B 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว1,600 ซีซี VTEC ที่มีกำลังถึง 185 แรงม้า ที่ 8,200 รอบ/นาที โดย ขุมพลังบล็อกนี้มากับระบบวาล์วแบบใหม่ที่ทำให้สามารถพัฒนาให้เครื่องยนต์ตอบสนองด้วยรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น มีการลดความฝืดในการทำงานของชิ้นส่วน และเพิ่มอัตราส่วนการอัด
มกราคม 1998 ? ฮอนด้าส่งเวอร์ขัน Type R ของแอคคอร์ดบุกตลาดอังกฤษ โดยมาพร้อมเครื่องยนต์รหัส H22A แบบ 4 สูบ 2,200 ซีซี VTEC
กรกฎาคม 2001 ? ฮอนด้าเปิดตัวสายพันธุ์ที่ 2 ของอินเทกรา Type R ในรหัส DC5 ออกสู่ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา โดยมีสีตัวถังแบบ Championship White เป็นสีพิเศษเพื่อฉลองการคว้าแชมป์กรังด์ปรีซ์ครั้งแรกของฮอนด้าใน F1 โดยอินเทกรา Type R ใหม่มากับเครื่องยนต์ K20A แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2,000 ซีซี i-VTEC มีกำลังสูงสุด 220 แรงม้า และใช้เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะรุ่นใหม่ รวมถึงใช้เบรกหน้าของ Brembo รู้หรือยังทำไมพวกรถแต่งซีวิคถึงชอบใช้เบรก Brembo (ส่วนมากของปลอม 55+ )
ตุลาคม 2001 ? ถึงคิวสายพันธุ์ที่ 2 ของซีวิค Type R ซึ่งคราวนี้พัฒนาบนตัวถังของซีวิค สายพันธุ์ที่ 7 หรือใช้ชื่อ Dimension ในบ้านเรา ซีวิค Type R หรือCTR ในอังกฤษ มาพร้อมเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี i-VTEC ที่มีกำลังสูงสุด197 แรงม้า ที่ 7,400 รอบ/นาที และกวาดยอดขายไปได้มากกว่า 35,000คันตลอด 5 ปีที่ทำตลาด รวมถึงได้รับรางวัลเกียรติยศมากมายขอบคุณ v v
T H A I D R I V E R M A G A Z I N E
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
neat_boy?
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
กระทู้: 14,994

|
 |
« ตอบ #23 เมื่อ: 15 มกราคม 2009, 10:18:43 » |
|
Type K เท่ห์ ไปเลยครับ
ทำไม มันลงตัว อย่างงี้.............................
ใครมีโลโก้ Type K ขายไหมครับ
มี ! ไป 7-11 แล้วถามที่เคาท์เตอร์ v v
|
|
|
|
|
|