ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
23 กรกฎาคม 2025, 02:22:38
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: ความร้อนของเครื่องยนต์ จนหม้อน้ำเดือด ในซีวิคตาโต วีเท็ค 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ความร้อนของเครื่องยนต์ จนหม้อน้ำเดือด ในซีวิคตาโต วีเท็ค  (อ่าน 13590 ครั้ง)
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« เมื่อ: 23 เมษายน 2008, 13:21:08 »



เมื่อเทศการสงกรานต์ ได้นำรถคู่ใจ ซีวิคตาโต วีเทค เดินทางท่องเที่ยวถาคใต้ ที่นครศรีธรรมราช ขากลับ เต็มไปด้วยความกังวลและหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะว่าตอนขาล่องใต้ ก็เกิดความร้อนของเครื่องยนต์ขึ้นสูง แรกๆก็แปลกใจ ในขณะที่ความร้อนขึ้นสูง จำเป็นที่จะต้องแซงรถบรรทุก จึงกดคันเร่งเพื่อเร่งแซง ความเร็วรอบขณะนั้นประมาณสี่พันรอบ ลากความเร็วได้สักอึดใจ เมื่อแซงพ้น หันมาดูที่เกจวัดความร้อน เอ้าทำเข็มวัดความร้อนกลับมาอยู่ที่ปกติ  มันเกิดอะไรขึ้น ก็หลงดีใจ ก็ขับต่อไป แต่ยังไม่หายจากความสบายใจ เพียงชั่วครู่ความร้อนก็กลับมาขึ้นสูงอีก ในใจว่าเมื่อกี้นี้เราเร่งเครื่องยนต์ให้ความเร็วรอบสูงแล้วความร้อนมันก็ลดลงมาปกติ  งั้นก็ลองใหม่ กดคันเร่งให้รอบเครื่องยนต์ประมาณสี่พันรอบ สักอึดใจ ได้ผล ความร้อนลดลง เป็นอยู่อย่างนี้เกือบถึงชุมพร ยิ่งเวลารถติดตามทางแยก ยิ่งความร้อนขึ้นไว มีอยู่ช่วงหนึ่ง ตัดสินใจใช้ความเร็วประมาณร้อยสามสิบ ความร้อนก็มาอยู่ที่ปกติ แต่อย่าขับต่ำกว่าร้อยยี่สิบ ความร้อนก็จะขึ้นสูงอีก
เมื่อมาถึงชุมพร ก็เลยแวะหาร้านหม้อน้ำ  ให้เขาตรวจสอบหม้อน้ำว่าตันหรือไม่ เมื่อช่างถอดน้ำออกมา ช่างบอกว่าหม้อน้ำตัน จนใช้ไม่ได้ ควรเปลี่ยนใหม่ เมื่อช่างหม้อน้ำบอกว่าเป็นอย่างนี้ ก็เลยให้ช่างเปลี่ยนหม้อน้ำให้ใหม่ หมดไปสองพันแปด หลังจากที่เปลี่ยนหม้อน้ำเสร็จ ในใจก็คิดว่าคงจะใช่สาเหตุนี้ และช่างก็ทดลองสตาร์ทเครื่องวอมอยู่สักสิบนาที ความร้อนไม่ขึ้น  ก็เลยออกเดินทางต่อ  พอขับมาได้สักห้ากิโลเท่านั้น อาการที่เป็นครั้งแรกก็กลับมาเยือนอีก ซวยล่ะซิตู เสียเงินไปแล้ว ยังแก้ไม่หาย ก็ยังคงใช้วิธีการแบบครั้งแรกๆ พยุงขับรถไปเรื่อยๆ จนถึงเวียงสระ สุราษฏธานี แวะให้ร้อนซ่อมหม้อน้ำตรวจอีก เล่าเหตุการให้ฟัง สรุป ช่างบอกว่าให้เปลี่ยน เทอร์โมวาวสล์น้ำ เอ้าเปลี่ยนก็เปลี่ยน หมดไปอีกแปดร้อยบาท ดีใจว่าคงจะหายอาการนี้เสียที  ที่ไหนได้หลังจากขับรถมาได้สักสิบกิโล  เอาอีกแล้ว กลับมาเหมือนเดิม ความร้อนขึ้นสูง  แบบแรกๆ  ก็ใช้วิธีการแบบต้นๆที่เล่าให้ฟัง ประคองรถจนถึงที่พัก นครศรี  ก็มานั่งวิเคราะห์หาสาเหตุว่ามันเกิดอะไรกันแน่ หม้อน้ำก็เปลี่ยนแล้ว วาวล์น้ำก็เปลี่ยนแล้ว
แล้วต่อไปจะเป็นอะไรอีกล่ะ สรุปว่าไม่เปลี่ยนอะไรอีกแล้ว กะว่าจะประคองขับกลับกรุงเทพ แล้วจะให้ช่างเขาเปิดฝาสูบออกดูว่า มันโก่งหรือเปล่า
เมื่อวันที่เดินทางกลับ ก็เต็มไปด้วยความกังวลว่าจะไปรอดหรือไม่ ระยะทางเกือบเก้าร้อยกิโลเมตร ทำงัยดี  ตัดสินใจกะว่าเป็นงัยเป็นกัน แล้วค่อยว่ากัน พังเป็นพัง ขั้นแรกผมก็ต่อสายไฟพัดลมหม้อน้ำแบบต่อตรง ให้พัดลมทำงานตลอด เพื่อให้ระบายความร้อนแบบไม่ให้หยุดทำงาน  หลังจากนั้น ก็ขับรถกลับ ระหว่างทางเต็มไปด้วยความกังวล มีความเครียดตลอดทาง เปิดแอร์ก็ไม่ได้ เปิดกระจกหน้าต่างรถก็มีแต่ไอร้อน หน้าตามันเหนียวเหนอะหนะ  เหงื่อไหล ทรมานจริงๆ   วิ่งมาได้ไม่ไกลก็เริ่มอาการความร้อนขึ้นสูง แบบขาล่องมา ต้องใช้ความเร็วรถสูงๆ ช่วยพยุงไม่ให้ความร้อนขึ้นสูง ก็ได้ผลบ้าง แต่บางบางครั้งเอาไม่อยู่ ความร้อนขึ้นสูงจนหม้อน้ำเดือด มีแรงดันน้ำออกจากหม้อพักน้ำ ต้องจอดรถ แล้วค่อยๆเปิดฝาหม้อพักน้ำ แล้วเติมน้ำ แล้วรีบขับรถออกทันที่ด้วยความเร็วอย่างน้อยร้อยสามสิบ  ก็ได้ผลบ้าง  เป็นอย่างนี้ตลอดเส้นทาง จนเริ่มเป็นหนัก ก็เริ่มเข้าตัวเมืองเพชรบุรี มันติดไปแดงตามสี่แยก เหงื่อการไหลแตก เพราะความร้อนมันขึ้นมาก จอดรถเติมน้ำที่หม้อพักน้ำหลายหน ไม่เคยขับรถครั้งไหน สะใจเท่าครั้งนี้เลย สุดยอด  จวบจนกระทั้งถึงบ้าน  ด้วยความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า
รุ่งเช้าก็พยายามขับรถไปให้เพื่อนที่อู่ ทำการตรวจเช็ค ทดสอบว่าฝาสูบโก่งหรือไม่ ทดสอบแล้วเพื่อนบอกไม่โก่ง เครื่องยนต์เดินเรียบ ไม่มีแรงดันของน้ำออกทางหม้อน้ำ เพื่อนตรวจสอบหลายอย่าง จนกระทั้งมีอยู่อีกหนทางเดียวที่จะทำ ก็คือ ล้างระบบทางเดินของน้ำหล่อเย็นทั้งหมด ทั้งท่อน้ำต่างๆ หม้อน้ำรถ และผนังช่องที่น้ำขังที่ผนังเสื้อสูบ ช่องต่างๆ ล้างถ่ายน้ำหลายครั้ง ทั้งไล่ด้วยแรงดันของน้ำ เพื่อขับไล่สิ่งที่เป็นตะกอนสนิมที่เกิดและจับเกาะติดตามผนังเสื่อสูบ และท่อทางเดินของน้ำ จนน้ำที่ไล่ออกมาครั้งสุดท้ายดูสะอาดและใส ไม่มีสนิมติดออกมา  หลังจากที่ประกอบส่วนต่างๆของท่อยางเข้าระบบจนเรียบร้อย เติมน้ำลงหม้อน้ำ สตาร์ทเครื่องยนต์วอมประมาณสิบห้านาที  เห็นความร้อนขึ้นปกติยังไม่ถึงครึ่งของเกจความร้อน ก็เลยลองขับรถออกไปวิ่ง ทั้งขับด้วยความเร็ว และหยุดนิ่งแบบจรจรติดขัด ความร้อนปกติดี ลองขับไปเที่ยวสมุทรสงคราม พาช่างที่เป็นเพื่อนไปทานอาหารทะเล ทั้งขับไปและกลับ อาการความร้อยของเครื่องยนต์ปกติดี
เพื่อนบอกว่าการที่เราเปลี่ยนหม้อน้ำแล้วยังเป็นอีก เพราะว่าสนิมที่มันคั้งค้างอยู่ตามผนังเสื้อสูบ และส่วนต่างๆของท่อทางเดินของน้ำ มันมีตะกรันสนิมเกาะอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นก้อนๆ ใช้วิธีถ่ายน้ำธรรมดา ใช้ไม่ได้ผล เพราะว่าหลังจากที่เราเปลี่ยนหม้อน้ำ แล้วตระกันสนิมมันยังอยู่อีกมาก มันก็ใหลมาที่ช่องระบายความร้อนของหม้อน้ำ ก็ไปอุดตันอีก แต่ที่สำคัญก็คือ ความเป็นตระกันของสนิมมันไปพอกเกาะตามผนังเสื้อสูบและส่วนของหม้อน้ำ ท่อยาง ที่เป็นส่วนระบายความร้อน มันทำให้ระบายความร้อนออกได้ยาก และน้อย  การที่เราขับรถด้วยความเร็ว ก็เพราะว่าอาการที่หน้ากระจังรถ ได้รับการระบายความร้อน จากอาการที่มาปะทะหม้อน้ำ จึงช่วยให้ระบายความร้อนได้ ในขณะที่รถวิ่ง เมื่อรถมีความเร็วช้า การระบายความร้อนด้วยอากาศก็น้อย ความร้อนจึงขึ้นสูงอีก ดังที่ผมเล่ามา
ก็อยากเล่าให้เพื่อนๆฟัง เพื่อเป็นข้อสังเกตอาการที่เกิดขึ้น อาจจะเจอแบบผมก็ได้  เสียค่าเปลี่ยนหม้อน้ำและวาวล์น้ำโดยไม่จำเป็น  ?srithanon
บันทึกการเข้า
Genozited
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 641


« ตอบ #1 เมื่อ: 24 เมษายน 2008, 00:07:24 »

ขอบคุณครับ แต่กว่าจะอ่านจบ ตาลายเลย  อายจัง  ตกใจ
บันทึกการเข้า

Octillion
งงอ่ะดิ
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,854



« ตอบ #2 เมื่อ: 24 เมษายน 2008, 00:15:42 »

ขอบคุณครับ ไม่น่าเชื่อว่าต่างจังหวัด ช่างนี่มั่ว(หรือหลอกฟัน)กันเยอะจิงๆคับ    :'(

ของผมเป็นสองรอบครับ ครั้งแรก thermo sensor ครั้งที่สอง ยางอุดหม้อน้ำรั่ว    อายจัง

ปอลิง คราวหลังพิมพ์ ช่วยเคาะ enter หน่อยครับ อ่านแล้วตาลาย     ตกใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 เมษายน 2008, 00:17:18 โดย Octillion » บันทึกการเข้า

YUYU
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,876


« ตอบ #3 เมื่อ: 24 เมษายน 2008, 15:57:29 »

อ่านแล้วลุ้นตามเลย  แต่ยังกล้าขับตอนความร้อนขึ้นสูงอีก  กัวพัง อ่ะ


 :'( :'(
บันทึกการเข้า
best
ho ho ho
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 832


« ตอบ #4 เมื่อ: 24 เมษายน 2008, 16:24:50 »

 ยิ้ม อ่านจบตาลายพอดีเรยครับ แต่ก็ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

ตอบช้า ก็ยังดีกว่าไม่ตอบ
ไม่ถูกใจอะไร pm. มาได้
chat_ek
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 208


« ตอบ #5 เมื่อ: 24 เมษายน 2008, 21:44:27 »

ขอบคุณมากครับผมเคยเจอแบบคุณเปียบเลยเหมือนกันทุกอย่างทำทุกอย่างก็ไม่หาย (ยกเว้นสิ่งที่คุนทำ) ผมทนไม่ไหวเลยเปลี่ยนเครื่องเลย โหท่ารู้งี้ทำแบบนี้ดีกว่า โง่จิงๆเลยเรา
บันทึกการเข้า
NEO
หนุ่มโสดย่านชิดลม
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,065

My Name is NEO


« ตอบ #6 เมื่อ: 28 เมษายน 2008, 10:12:04 »

อ่านไปลุ้นไป ดีใจด้วยที่หาทางแก้ไขจนได้ครับ
บันทึกการเข้า

srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #7 เมื่อ: 28 เมษายน 2008, 15:55:14 »

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน บางครั้งเราไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ก็โดนช่างร้านหม้อน้ำทำให้เสียเงินโดยที่ไม่สามารถแก้ไขได้ตรงจุด ก็อยากให้เพื่อนๆสมาชิกจำรูปแบบอาการที่ผมประสบมา ไว้เป็นจุดเปรียบเทียบว่าอาการที่เกิดขึ้น แบบที่เล่ามานั้น ตรงกับท่านที่มีปัญหาอย่างผมหรือไม่ จะได้เสียตังค์ในการแก้ไขที่ถูกจุด  หรือเอาไว้ทดลองเปลี่ยนถ่ายน้ำ และล้างคราบสนิม ในส่วนต่างๆของช่องทางเดินของน้ำหล่อเย็น บางครั้งออกจะแก้ถูกจุดเลยก็ได้ เอาไว้เป็นตัวเลือกครับ
เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมก็ได้นำรถคันดังกล่าว เดินทางไปจังหวัดสุโขทัย ไปกลับ ใช้ความเร็ว 130-140 กม/ชม
ตลอดเส้นทาง ความร้อนปกติมากๆครับ.......srithanon 
บันทึกการเข้า
Octillion
งงอ่ะดิ
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,854



« ตอบ #8 เมื่อ: 28 เมษายน 2008, 15:59:54 »

ช่วงนี้ก็เช็คหม้อน้ำบ่อยๆนะครับ ให้แน่ใจว่า ฝาสูบไม่โก่ง    อายจัง
บันทึกการเข้า

2290
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15


« ตอบ #9 เมื่อ: 28 เมษายน 2008, 16:07:51 »

ผมเคยเจออาการลักษณะใกล้เคียงนี้ครับ ช่างตรวจหาสาเหตุเกือบเดือนวิ่งเข้า ออกอู่เป็นว่าเล่นต้องพกแกนลอนน้ำไว้ตลอด สุดท้ายเปลี่ยนเซนเซอร์พัดลมระบายความร้อนตัวเดียวครับหาย
   ตอนช่างตรวจเช็คพัดลมก้อทำงานติด - ดับปรกติครับก้อเลยไม่สงสัย
บันทึกการเข้า
apostophy
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 104


« ตอบ #10 เมื่อ: 28 เมษายน 2008, 18:09:33 »

สุดยอดเลยครับ....................ยังกะอ่าน ดาวินชี่โคด ตื่นเต้นตามเลย แถมได้สาระความรู้อีก

ปล. ครั้งหน้าลองเล่าประสบการเสียว ๆ (แบบอิ่น)  ยิงฟันยิ้ม................................ น่าจะแหล่มนะครับ อิอิ  ยิ้มกว้างๆ
(ล้อเล่นนะ แต่รออ่านจิง )
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: ความร้อนของเครื่องยนต์ จนหม้อน้ำเดือด ในซีวิคตาโต วีเท็ค
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |