| 
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	
		
		
			
				
					
						
							lim689 
							
								ศิษย์พี่ 
								    
								  ออฟไลน์
  
								กระทู้: 212 
								 
								  
								
								
								
								 
							
						 | 
						
							
								  | 
								
									
									« ตอบ #58 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2013, 09:03:23 » | 
								
								 | 
							  		
							 
							
							
								
								
							   ดูดเอง ไม่ขึ้นเลยเข้าอู่ให้ถ่ายเลยครับ เล่าอาการไป เค้าถามกรองน้ำมันเครื่องตันป่าว ผมก้อบอก เพิ่งเปลี่ยน พร้อมน้ำมันเครื่อง แล้วไปทำงานกลับมารับรถ พอดีรูบน ถามว่า ถ่ายไปเยอะไหม เค้าบอกไม่ได้วัด    พอลองอาการที่ว่าเครื่องร้อน สตราทยาก ลองจอดดับเครื่องหลังจากวิ่งมา6-7โล ทิ้งซัก10นาที ยังมีอาการ สตารทติดแต่ลากยาวกว่าตอนเครื่องเย็น ไฟแรงดันน้ำมันเครื่องดับช้ากว่าแบต เหมือนเดิม พอดีเสริทข้อมูล เจอกระทุ้กตอบจาก พี่srithanon  http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=87935.0ขอยกตัวอย่างมาครับ  กรณีที่เครื่องร้อนแล้วสตาร์ทติดอยาก มีสองกรณีหลัก   กรณีแรกก็คือรับบหัวฉีดที่ฉีดน้ำมันรั่ว และระบบแรงดันน้ำมันในรางหัวฉีดมีแรงดันน้ำมันต่ำเกินไป  หรือในเครื่องยนต์ที่มีระบบห้วฉีดสตาร์ทเย็น หัวฉีดรั่ว  ในกรณีที่หัวฉีดรั่ว โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่กำลังใช้งาน หรือเครื่องร้อน เพราะว่าในขณะที่ดับเครื่องยนต์ จะมีน้ำมันหยดรั่วไปในท่อไอดีหรือใกล้ปากกระบอกสูบ ทำให้มีน้ำมันหนาในอัตราส่วนผสม เมือผสมกับอากาศ ทำให้การจุดระเบิดเกิดขึ้นยาก สตาร์ทติดยาก  แต่เมื่อดับเครื่องยนต์และทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง  น้ำมันเชื้อเพลิงที่หยุดจากการั่วของหัวฉีด จะระเหยออกไปหมด  ทำให้สตาร์ทเครื่องติดได้ปกติ   อาจจะมีคำถามต่อไปอีกว่า แล้วทำไมมันไม่ใหลหยดตลอด  ก็ตอบว่า ในขณะที่ในรางท่อหัวฉีดที่ได้รับแรงดันน้ำมันจากปั้มติ๊กในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน  แต่เมื่อเครื่องยนต์ดับ การทำงานของแรงดันน้ำมันในรางหัวฉีดก็หยุด แต่แรงดันที่ควบคุมด้วย Regulator ยังคงมีอยู่ ทำให้เกิดแรงดัน ดันให้หัวฉีด มีน้ำมันหยดรั่วลงไปที่ท่อไอดี พอรั่วหรือหยดได้สักระยะ แรงดันที่ในท่อรางหัวฉีดก็ลดลง ทำให้น้ำมันไม่มีแรงดันผ่านหัวฉีดได้ การรั่วของหัวฉีดไม่ใช่ว่าจะรั่วได้ง่ายหากขาดแรงของดันน้ำมันเป็นปัจจัย ส่วนที่ว่าแรงดันน้ำมันในรางหัวฉีดต่ำ จะเกิดขึ้นได้น้อยมาก  โดยมากจะมีอาการอย่างอื่นเข้ามาบ่งอาการว่าแรงดันน้ำมันในรางหัวฉีดต่ำ ก็คือ การทำงานของเครื่องยนต์จะเร่งไม่ขึ้นหรือมีอัตราเร่งตอบสนองช้า เครื่องยนต์อาจจะสดุดบางจังหวะของการทำงาน  จึงน่าจะมาจากหัวฉีดรั่วครับ ให้ช่างทอดหัวฉีดออกมาทำการตรวจเช็คหรือเปลี่ยนใหม่ครับ  อาจจะไม่ทุกหัว  แต่ถ้าหากเปลี่ยนควรเปลี่ยนทั้งชุด หรือจะใช้ซ่อมหรือซื้อมือสองจากร้านอะไหล่แถวเชียงกงปทุมวันก็ได้....srithanon ( ในกรณีที่คิดว่ามีน้ำมันรั่วจากหัวฉีด  เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์ ควรเหยียบคันเร่งให้สุด  เพื่อให้ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดสุด เพื่อให้อากาศเข้าไปผสมกับน้ำมันที่ตกค้างที่ท่อไอดีให้มาก จะช่วยให้เกิดอัตราส่วนผสม ระหว่างอากาสกับน้ำมัน ใกล้เคียงกับอัตราส่วนผสมที่สมบูรณ์ในการจุดระเบิด  จะช่วยให้สตาร์ทเครื่องติดได้ง่ายขึ้น เมื่อเครื่อิงยนต์ติดแล้ว ค่อยถอนคันเร่งออก แล้วเบิลสักสองสามครั้ง) « แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 กุมภาพันธ์ 2011, 11:34:09 โดย srithanon »  ประเด็นนี้ ผมก้อสงสัยอยู่เพื่อนก้อแนะนำให้ไปเช็คหัวฉีด   แต่ผมอยากจะสอบถามว่า ถ้าแบบนั้นผมซื้อของ หัวฉีดเจ มาใส่ดีไหมครับ ถ้าใส่ต้องจูน อะไรรึป่าวครับ 
						 | 
					 
					
						
							
								| 
								 | 
							 
								| 
								 | 
								
									 
									บันทึกการเข้า
								 | 
							  
						 | 
					 
				 
			 |  
		 
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 | 
	| 
		
		
	 |