ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
22 กรกฎาคม 2025, 09:16:57
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: การเดินทางกับเจ้า "ไวท์กี้" 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 2 3 [4] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: การเดินทางกับเจ้า "ไวท์กี้"  (อ่าน 39843 ครั้ง)
toys1924
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 511


เด็กสิงบูลส์คร้าบ..........


« ตอบ #120 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012, 12:53:17 »

อยากจะขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ ได้อะไรดีๆ เยอะเลย ความสนุก ปนความฮาบ้าง และที่สำคัญ ได้ประโยชน์จากประสบการจริง
ทั้งทางอุบัติเหตุ และความรักที่มีต่อ พ่อและ แม่ ซึ้งกินใจครับ
  ปล. ผมอินมาเลยครับ อยา่งกับดูหนัง 3 d  เลย อิอิอิ
 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

my car my style....
wanger
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 502


no.744


« ตอบ #121 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012, 14:21:18 »

ไวท์กี้ ไวท์กี้ ไวท์กี้ จงออกมามอบตัวซะเหอๆๆๆๆ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

EK  ฝั่งพระประแดง
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #122 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2012, 14:55:03 »

ช่วงแวะทักทายเพื่อนๆ ค่ะ!

สวัสดีค่ะทุกคน.... และสวัสดีคุณเพื่อนๆ ที่น่ารักทั้งหลายเหล่านี้ ที่ช่วยประกาศหาคนหายนะเจ้าคะ ยิ้มกว้างๆ

อ้างถึง
คุณ eak99
เจ้าไวท์กี้หายไป อีกแล้วคับพี่น้อง ฮืม ฮืม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ้างถึง
คุณ joepao
ประกาศหาคนหายเลยครับ
 ขยิบตา แลบลิ้น
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ้างถึง
คุณ coupe4wd
เป็นห่วงเจ้าไวท์กี้นะ
 อายจัง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ้างถึง
คุณ wanger
ไวท์กี้ ไวท์กี้ ไวท์กี้ จงออกมามอบตัวซะเหอๆๆๆๆ  ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #123 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2012, 17:53:46 »

 ยิ้มช่วงแวะทักทายเพื่อนๆ ค่ะ!

สวัสดีค่ะ...

อ้างถึง
คุณ golf4338
ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ...สนุกคับ..อ่านแล้วเพลิน รูดซิบปาก รูดซิบปาก
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ้างถึง
คุณ toys1924
อยากจะขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ ได้อะไรดีๆ เยอะเลย ความสนุก ปนความฮาบ้าง และที่สำคัญ ได้ประโยชน์จากประสบการจริง
ทั้งทางอุบัติเหตุ และความรักที่มีต่อ พ่อและ แม่ ซึ้งกินใจครับ
  ปล. ผมอินมาเลยครับ อยา่งกับดูหนัง 3 d  เลย อิอิอิ
 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 ยิ้มกว้างๆ  ยิ้ม พอได้เห็นคอมเม้นแบบนี้แล้ว รู้สึกอยากรีบกลับมาเล่าเรื่องสนุกๆ ให้เพื่อนๆ อ่านกันต่อค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะคะ
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #124 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2012, 17:57:30 »

"นอกเรื่อง"...แอบไปผ่าไส้ติ่งมาค่ะ

ลืมตาขึ้น...สิ่งแรกที่สายตาจับภาพได้หลังจากยาสลบหมดฤทธิ์คือ เพดานห้องพักคนไข้ ระบบประสาทยังทำงานไม่เต็มร้อย ร่างกายยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติง โดยมีผ้าห่มสีขาวสะอาดคลุมทับอยู่ จากนั้นค่อยๆ กวาดสายตาไปรอบห้อง ทีวีจอแบนแปะติดอยู่ที่ผนังห้องด้านปลายเตียง ที่หัวเตียงมีดอกไม้สดหลายชนิดหลากสีสันคละกันอยู่ในแจกันขนาดเล็กกระทัดรัด โซฟาสีครีมดูนุ่มน่านั่งสองตัววางชิดติดกับผนังห้องด้านขวาของเตียง นอกนั้นยังมีเก้าอี้ 2 ตัว กับโต๊ะกลมขนาดเล็กวางอยู่อีกด้านของห้อง...อื้ม! ห้องคนไข้ของโรงพยาบาลเอกชนนี่มันน่าอยู่ไม่ใช่เล่นแฮะ

ใจคิด...นี่เราหลับไปนานเท่าไหร่แล้ว กี่โมงแล้วหว่า มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นแต่ความมืด ระหว่างกำลังย้อนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่ คุณพยาบาลสาวสวยก็เคาะประตูแล้วเปิดพรวดเข้ามา เล่นเอาตกใจเลย “สวัสดีค่ะ ตื่นแล้วเหรอคะ เป็นยังไงบ้าง เจ็บแผลไหมคะ” คุณพยาบาลถามด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มเหมาะกับหน้าตา เราตอบกลับว่า “ไม่ค่อยเจ็บ แต่แน่นท้องมากค่ะ” คุณพยาบาลเดินมายืนข้างเตียงแล้วค่อยๆ เลื่อนผ้าห่มลงไปจนเห็นตำแหน่งแผลที่ผ่า ทันทีที่เห็นท้องตัวเอง...เฮ้ย! นี่ท้องเหรอ ทำไมมันถึงได้ดูบวมเหมือนศพขึ้นอึดแบบนี้ คุณพยาบาลบอกว่า “ไม่ต้องกังวลนะคะ ท้องจะค่อยๆ ยุบแฟบลงค่ะ และที่แน่นท้องเพราะเป็นอาการข้างเคียงของวิธีการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ตอนผ่าคุณหมอจะต้องอัดก๊าซเข้าไปในช่องท้องเพื่อขยายพื้นที่ในช่องท้อง สามารถให้กล้องสอดเข้าไปได้สะดวกและมองเห็นไส้ติ่งได้ชัดเจน

คุณพยาบาลค่อยๆ ปรับเตียงให้ตั้งขึ้นและบอกว่า “พรุ่งนี้ให้พยายามลุกขึ้นเดินและขยับตัวบ่อยๆ เพื่อให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหว ไม่เกาะเป็นผังผืด (เห่อๆ เจ็บขนาดนี้ คงเดินหรอกนะ) เราถามคุณพยาบาลว่ากี่โมงแล้ว คุณพยาบาลตอบว่า “สี่ทุ่มแล้ว เดี๋ยวคุณนอนพักผ่อนนะคะ พรุ่งนี้เช้าคุณหมอจะขึ้นมาตรวจอาการและดูแผลประมาณ 9 โมงค่ะ” พอคุณพยาบาลพูดจบปุ๊บ เรารีบถามหามือถือของเราทันที คุณพยาบาลเดินไปเปิดตู้เซฟขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กที่วางอยู่ชั้นล่างของชั้นวางของที่ทำขึ้นในลักษณะ built in ติดกับผนังห้องด้านข้างประตูทางออก แล้วหยิบกระเป๋าเป้มาวางไว้ข้างเตียง คุณพยาบาลพูดว่า “ตอนที่แผนกผ่าตัดพาคุณขึ้นมาส่งก็มีแค่เป้ใบนี้ใบเดียวค่ะ มือถือน่าจะอยู่ในกระเป๋านะคะ” เรารีบเปิดดูข้าวของในเป้ทันทีแบบไม่เกรงใจพยาบาลเลย เฮ้อ!! โล่งอก ทุกอย่างอยู่ครบ...มือถือ กระเป๋าตังค์ สมุดบันทึก

ทันทีที่คุณพยาบาลก้าวพ้นประตู เรารีบเปิดไอโฟนดูทันที ...โอ้ว แม่เจ้า! แม่โทรมาตั้ง 4 ครั้ง จะบอกว่าไงดีนะ ทำไมไม่รับสาย ขืนบอกว่าผ่าไส้ติ่งแล้วนอนอยู่โรงพยาบาล แม่ต้องตกใจ แล้วพรุ่งนี้พ่อกับแม่ต้องรีบมาภูเก็ตแน่ๆ โอ้ย! ไม่ให้มาเด็ดขาด ถ้าพ่อแม่มามีหวังเราไม่หายป่วยแน่เพราะมัวแต่เป็นห่วงพวกท่าน ตอนนี้ตัวเราเองยังดูแลตัวเองไม่ได้เลย แล้วจะไปดูแลพวกท่านยังไง ว่าแล้วก็ต้อง “โกหก” เฮ้อ! ไม่ดีเลย บาปอีกแล้วเรา

“หวัดดีค่ะแม่ แม่โทรมาตั้งหลายที มีอะไรหรือเปล่าคะ” เราตั้งคำถามกับแม่ก่อน แม่บอกว่าไม่มีอะไร พ่อเค้าคิดถึงหนู แต่ไม่ยอมโทรเอง บอกให้แม่โทร (แล้วแม่ก็หัวเราะ) ...แล้วทำไมหนูไม่รับสาย นี่แม่โทรหาตั้งแต่เย็นแล้วนะ วันนี้หนูก็ไม่เห็นโทรหาแม่เลย” ดีนะที่ตั้งใจเตรียมคำตอบที่ไม่จริงไว้เรียบร้อย “วันนี้หนูลืมมือถือไว้ที่ห้องพักค่ะ นี่เพิ่งเสร็จงานแล้วเพิ่งกลับมาถึงห้องค่ะ”...ขอโทษนะคะแม่ ขอโทษนะคะพ่อ ที่หนูโกหกเพราะหนูรักพ่อแม่นะคะ

หลังจากวางสายจากแม่ก็นอนคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ยังมีสติ
11 โมงกว่าๆ นั่งทำงานอยู่ดีๆ ก็ปวดท้องน้อยเยื้องไปทางขวาขึ้นมาเฉยเลย ทนปวดนั่งตัวงอเป็นกุ้งได้สักสิบนาที น้องโรสเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ถามขึ้น “เจ๊! เป็นอะไร นั่งตัวงออยู่ได้” พอหันไป แต่ยังไม่ทันจะตอบอะไร โรสรีบพูดขึ้น “เฮ้ยยย! เจ๊ ทำไมเหงื่อแตก หน้าซีดมากขนาดนั้น เจ๊ไม่สบายแน่ๆ ไปหาหมอมั๊ย” (หาหมอเหรอ ฝันไปเห่อ ไม่เอาหรอก) เราตอบกลับไปว่าไม่เป็นอะไร แค่ปวดท้องเฉยๆ เป็นแบบนี้บ่อย เดี๋ยวก็หายแหละ น้องโรสเลยหันไปทำงานต่อ

โอ้ย! ไม่ไหวแล้วโว้ย เจ็บชิบหา...ไปหล่ะคร๊าบ ว่าแล้วก็คว้ากระเป๋าเป้ แล้วลุกขึ้นพรึบ “โรส...เจ๊ปวดท้อง ไปหาหมอก่อนนะ มีอะไรก็โทรเข้ามือถือนะ” เรารีบเดินแบบไม่รอคำตอบไปที่รถ ออฟฟิตกับโรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลกันมาก เวลาเดินทางปกติประมาณ 10 นาที แต่วินาทีนั้น...เจ็บจนแทบจะทนไม่ไหว เหยียบมิดคันเร่งเลยค่ะ แต่ถึงจะเจ็บมากแค่ไหนก็ยังไม่วายห่วงรถ อุสาห์ขับไปจอดที่ลานจอดรถ แล้วค่อยๆ เดินตัวงอมาที่แผนกตอนรับของโรงพยาบาล พอพนักงานเห็นสภาพเราเดินเค้าก็รีบเอา Wheelchair มาให้นั่ง แล้วเข็นไปส่งที่แผนกทางเดินอาหารและตับ (อ่านตามป้าย)

นอนรอในห้องตรวจสักครู่ คุณหมอผู้ชาย หน้าตาดี ใส่เจลซะผมตั้งมาเชียว เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับคุณพยาบาลรุ่นป้า (อิอิ) คุณหมอแนะนำตัวเอง “สวัสดีครับ ผมเป็นหมอที่ดูแลคุณนะ เดี๋ยวผมขอตรวจดูอาการหน่อยนะ” พูดจบคุณหมอก็เอา steth ที่ใช้จังหวะเต้นของหัวใจมาแนบที่หน้าอกเรา จากนั้นก็เปิดชายเสื้อเราขึ้นแล้วก็กดบริเวณที่เราเจ็บ พอคุณหมอกดถูกตรงที่เราเจ็บ เราร้องโอ้ยทันที คุณหมอตรวจเสร็จก็พูดขึ้น “น่าจะเป็นไส้ติ่ง” (เฮ้ยย! น่าจะไม่ได้สิ มันต้องชัดเจน ระบุมาเลยว่าเป็นอะไร) คุณหมอพูดต่อว่าต้องส่งเราไปทำอัลตร้าซาวน์และตรวจปัสสาวะ ไอ้ตรวจปัสสาวะมันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่ตอนที่ทำอัลตร้าซาวน์นี่สิปัญหาใหญ่ เพราะคุณหมอที่ทำอัลตร้าซาวน์ให้เราเธอเล่นกดบริเวณที่เจ็บหลายครั้งจนเราทนไม่ไหว เราเลยบอกคุณหมอว่าถ้ากดต่ออีกเราจะร้องแล้วนะ คุณหมอเลยหยุดแล้วบอกว่าน่าจะไส้ติ่งอักเสบค่ะ (เห่อๆ ใช้คำว่า “น่าจะ” เหรอ ไม่ดีมั้ง) แต่ยังไม่ทันพูดแย้งหมอ หมอก็ชิงพูดขึ้นก่อนว่า “หมอขอทำ CT scan นะคะ เพราะจะเห็นชัดเจนว่าเป็นอะไร” (เอ่อ! แค่นั้นแหละ จะทำอะไรก็รีบๆ ทำเถอะ ตรูเจ็บจะตายแล้วโว้ย) เรารีบพยักหน้าเป็นลิงตีฉาบ

บุรุษพยาบาลพยุงเรานอนบนเตียงแล้วเข็นไปที่แผนกฉุกเฉิน รอผลอัลตร้าซาวน์...เอ่อ! ยังไงหล่ะนี่ ทำไมเอาตรูมาไว้ตรงนี้หว่า เอ้อ! ก็ดีเหมือนกัน เผื่อมีอะไรๆ ตื่นเต้นให้ดู และก็เป็นไปตามคำขอ...ได้เห็นวินาเป็นวินาทีตายของคนอื่นด้วย (นอนดูเพลินเลย หุหุ) แต่เชื่อเถอะค่ะว่าถ้าคุณเจ็บแบบที่เราเจ็บ แล้วได้เห็นคนอื่นที่ได้รับบาดเจ็บเลือดสาด คุณจะมีตื่นเต้นกับภาพที่เห็นได้ไม่เกินสามนาที คุณก็จะไม่สนใจมันอีก เพราะเจ้าความเจ็บมันจะดึงสติของคุณให้กลับมาหมกมุ่นอยู่กับมันอีก

นอนปวดจนเกือบบ่ายสอง ก็มีคุณหมอผู้ชายหน้าออกตี๋ วัยกลางคน เดินมาหาที่เตียง “ผมเป็นหมอที่จะทำการผ่าตัดให้คุณ ผลอัลตร้าซาวน์มาแล้ว คุณเป็นไส้ติ่งอักเสบ แต่ผมอยากขอวัดไข้อีกครั้ง และขอตรวจปัสสาวะคุณด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไส้ติ่งแน่ๆ” (ลืมบอกไปค่ะ หมอคนแรกยังไม่ได้ตรวจปัสสาวะเรา) ใจคิด...เอ๊ะ! ยังไงกัน ก็ดูผลจากอัลตร้าซาวน์แล้วนิ ทำไมต้องตรวจฉี่อีก วุ่นวายจริงนิ๊ จะทำอะไรก็รีบทำๆ เห่อ เจ็บจะตายแล้ว

นอนรอผลตรวจปัสสาวะอีกพักใหญ่ แล้วคุณหมอผู้ชายหน้าตี๋คนเดิมเดินมาหาแล้วบอกว่า “ผลตรวจปัสสาวะคุณมาแล้ว ผลคือติดเชื้อนะ ก็เป็นไส้ติ่งนั่นแหละ” เรางงและไม่เข้าใจกับคำว่า “ติดเชื้อ” เราเลยถามคุณหมอเพื่อให้หายข้องใจ “เอ่อ คุณหมอคะ ติดเชื้อหมายความว่ายังไงคะ คือหนูก็รักษาความสะอาดตัวเองดีมากนะคะ แฟนก็ไม่มีค่ะ” คุณหมอตอบกลับ “อ๋อ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์ครับ เวลาที่ไส้ติ่งอักเสบจะมีหนองบริเวณไส้ติ่งแล้วทำให้ภายในติดเชื้อได้ และคุณก็มีไข้อ่อนๆ แล้ว” คุณหมอพูดจบก็หันไปบอกบุรุษพยาบาลว่า “เข็นไปห้องผ่าตัดเลย”

ในห้องผ่าตัดดูทุกอย่างสะอาดไปหมด ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การแพทย์ หรือแม้แต่คนที่อยู่ในห้องก็ดูสะอาด ทุกคนใส่ชุดคลุมสีเขียว มีผ้าปิดปากปิดจมูก ได้เห็นโคมไฟอันใหญ่สำหรับใช้ผ่าตัดของจริงแล้วเรา แสงในห้องดูสว่างมาก อากาศเย็นจนหนาว ตอนนั้นตื่นเต้นหรือเปล่าไม่แน่ใจ รู้แค่ว่า “เจ็บไส้” มีพยาบาลผู้หญิงคนหนึ่งมายื่นข้างๆ แล้วจับแขนเรากางออกทั้งสองข้าง จากนั้นก็เอาหน้ากากที่ให้ออกซิเจนมาครอบบนจมูก เวลาผ่านไปไม่กี่นาทีเราก็....คอกฟี้ (บ๊าย บายนะจ๊ะ เจ้าความเจ็บ)

นี่แหละคะ...เหตุการณ์ในวันที่เราผ่าไส้ติ่ง จากนั้นก็นอนโรงพยาบาลต่ออีก 2 วัน รวมเป็นอยู่โรงพยาบาล 2 คืน 3 วัน อ้อ! แล้วตอนที่นอนอยู่โรงพยาบาล คุณพยาบาลหลายคนก็ถามเราทุกวัน วันละหลายรอบ ว่าไม่มีใครมาเยี่ยมเหรอ ไม่มีญาติมานอนเฝ้าเหรอ ตอนแรกคิดว่าเค้าถามเพราะเป็นห่วง แต่พอถามบ่อยๆ เราชักไม่แน่ใจว่าพวกเค้าคิดอะไร แต่บางทีเราก็ตอบแบบขำๆ ว่า “กลางคืนไม่ต้องมีคนเฝ้าหรอกค่ะ มีผีเฝ้าอยู่แล้ว” สาเหตุที่เราไม่ได้บอกให้ใครรู้เพราะเราเกรงใจคนอื่นและก็อยากพักผ่อนด้วย นานเหลือเกินที่เราไม่ได้นอนเต็มอิ่มแบบนี้ ดังนั้นการเข้าโรงพยาบาลครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนอย่างแท้จริง (อิอิ)

ตอนนี้หายเกือบเป็นปกติแล้ว เหลือแค่อาการท้องอืด และทานอาหารได้ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน รวมถึงยังทานอาหารรสเผ็ดไม่ได้ วันนี้ทดลองทานพริกแล้ว โอ่ย! แสบไส้มากค่ะ

ข้อคิดที่ได้รับ
1. การโกหกเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง แต่ในบางเหตุการณ์ และสำหรับบางคน ก็จำเป็นต้องทำ เพื่อผลลัพธ์ที่จะตามมา
2. อวัยวะบางอย่างก็ไม่น่าภิรมย์ ไร้ซึ่งประโยชน์
3. ชีวิตจะดำเนินไปอย่างมีคุณภาพได้เช่นไร เมื่อร่างกายต้องเสื่อมสลาย ในขณะจิตใจยังคงแข็งแรง


* Appendix.jpg (118 KB, 750x497 - ดู 435 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 มิถุนายน 2012, 11:42:22 โดย Tom-Keyray » บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
dirtyshoes
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 338



« ตอบ #125 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2012, 18:15:13 »

ช่วงแวะทักทายเพื่อนๆ ค่ะ!

ที่หายไปหลายวัน...แอบไปผ่าไส้ติ่งมาค่ะ
ปล. ภาพประกอบอาจไม่น่าดู แต่ก็อยากให้เห็นภาพเวลาเล่าเรื่องค่ะ

เคยสงสัยไหม ว่าไส้ติ่งมีประโยชน์อะไรในร่างกายเรา
ทำไมธรรมชาติยังหลงเหลือมันไว้อยู่ ไม่หายไปตามวิวัฒนาการของคนเรา
ใครรู้คำตอบช่วยบอกที
บันทึกการเข้า
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #126 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2012, 22:33:52 »

สงสัยคับ ไอ้วิโก้สีดำ ที่ตามตูดมา แล้วมันแตะเบรคจนรถคุณคว่ำ เหมือนมันตั้งใจเบรคป่าว
หรือว่าขับมาเร็วเจอโค้งแล้วเบรคไม่ทันบวกกับไม่รู้จักเส้นทาง
แล้วมันหายไปไหน

แค่สังสัย เพื่อดันกระทู้คับ

 ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์

สวัสดีค่ะ คุณ BeeR_ZeeD_ZaaD
เราไม่รู้ว่าเค้าเบรคด้วยจุดประสงค์ใด แต่รู้แน่ๆ ว่าเค้าควบคุมรถไปตามทางได้ แถมหายพ้นไม่หันมาเหลียวแลเราบ้างเลย ปล่อยให้เรากลิ้งแถกๆ อยู่คนเดียว (แง แง)
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
coupe4wd
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 394


ผู้การชอบซิ่ง


« ตอบ #127 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2012, 09:35:41 »

อึ้งกับอาหารมื้อแรก
บะหมี่น้ำ!
ผมแค่คิดว่าน่าจะเป็นอาหารอ่อนๆมากกว่าน่ะครับ

ปล.หายไวๆนะคร้าบบ
 ยิ้ม  ยิ้ม  ยิ้ม
บันทึกการเข้า
eak99
"Saturday Man"
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,742


EAK_EK


« ตอบ #128 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2012, 11:01:32 »

นึกว่าแอบไปซิ่งรถ ที่แท้ก็แอบไปนอนพักผ่อนที่โรงบาลนี่เอง  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

แล้วเป็นไงบ้าง ขอให้หายเร็วๆ นะครับ

 ยิ้ม ยิ้ม
บันทึกการเข้า
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #129 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2012, 16:11:05 »

สวัสดีค่ะ...
อ้างถึง
คุณ coupe4wd
อึ้งกับอาหารมื้อแรก
บะหมี่น้ำ!
ผมแค่คิดว่าน่าจะเป็นอาหารอ่อนๆมากกว่าน่ะครับ

ปล.หายไวๆนะคร้าบบ
 ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนแรกที่เห็นก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ แต่พอถามน้องคนที่เอาอาหารมาให้ เค้าบอกว่าคุณหมอไม่ได้สั่งว่าคนไข้ต้องทานอาหารอะไรเป็นพิเศษ เราก็เลยทานตามเมนูที่ รพ. จัดให้ ส่วนใหญ่จะซดน้ำมากกว่าทานเนื้อ ทานได้นิดหน่อยก็ไม่ไหวแล้ว มันเกิดอาการแน่นท้องมาก แน่นจนเจ็บ ตอนนั้นเป็นจังหวะที่คุณหมอมาตรวจเราพอดี เราเลยถามคุณหมอว่าอาการที่เราเป็นอยู่มันผิดปกติหรือเปล่า คุณหมอบอกว่าเป็นผลข้างเคียงของการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (คำตอบเดียวกับที่คุณพยาบาลบอกเมื่อวานเลย) อาการแน่นท้องแบบนี้จะเป็นอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ก็จะหาย สุดท้ายคุณหมอสั่งยาทานสำหรับลดอาการท้องอืดและยาฉีดเข้าสายน้ำเกลือที่ช่วยให้หลับสนิทเพื่อให้เราได้พักผ่อน ยาตัวหลังคิดว่าเป็นมอร์ฟีน พอฉีดได้ไม่ถึงนาทีก็เริ่มมีอาการ...อาหารที่ทานเข้าไปย้อนกลับออกมาหมด น้ำลายฟูมปาก แต่เป็นแค่แปบเดียวก็หาย จากนั้นหนังตาเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนลืมไม่ขึ้นแล้วก็หลับไปเลย

 :Dปล. ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ จะรีบหายให้เร็วที่สุดค่ะ
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #130 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2012, 16:13:39 »

สวัสดีค่ะ...
อ้างถึง
คุณ coupe4wd
อึ้งกับอาหารมื้อแรก
บะหมี่น้ำ!
ผมแค่คิดว่าน่าจะเป็นอาหารอ่อนๆมากกว่าน่ะครับ

ปล.หายไวๆนะคร้าบบ
 ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนแรกที่เห็นก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ แต่พอถามน้องคนที่เอาอาหารมาให้ เค้าบอกว่าคุณหมอไม่ได้สั่งว่าคนไข้ต้องทานอาหารอะไรเป็นพิเศษ เราก็เลยทานตามเมนูที่ รพ. จัดให้ ส่วนใหญ่จะซดน้ำมากกว่าทานเนื้อ ทานได้นิดหน่อยก็ไม่ไหวแล้ว มันเกิดอาการแน่นท้องมาก แน่นจนเจ็บ ตอนนั้นเป็นจังหวะที่คุณหมอมาตรวจเราพอดี เราเลยถามคุณหมอว่าอาการที่เราเป็นอยู่มันผิดปกติหรือเปล่า คุณหมอบอกว่าเป็นผลข้างเคียงของการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (คำตอบเดียวกับที่คุณพยาบาลบอกเมื่อวานเลย) อาการแน่นท้องแบบนี้จะเป็นอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ก็จะหาย สุดท้ายคุณหมอสั่งยาทานสำหรับลดอาการท้องอืดและยาฉีดเข้าสายน้ำเกลือที่ช่วยให้หลับสนิทเพื่อให้เราได้พักผ่อน ยาตัวหลังคิดว่าเป็นมอร์ฟีน พอฉีดได้ไม่ถึงนาทีก็เริ่มมีอาการ...อาหารที่ทานเข้าไปย้อนกลับออกมาหมด น้ำลายฟูมปาก แต่เป็นแค่แปบเดียวก็หาย จากนั้นหนังตาเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนลืมไม่ขึ้นแล้วก็หลับไปเลย

 :Dปล. ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ จะรีบหายให้เร็วที่สุดค่ะ
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #131 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2012, 16:16:53 »

สวัสดีค่ะ...
อ้างถึง
คุณ eak99
นึกว่าแอบไปซิ่งรถ ที่แท้ก็แอบไปนอนพักผ่อนที่โรงบาลนี่เอง ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

แล้วเป็นไงบ้าง ขอให้หายเร็วๆ นะครับ
 ยิ้ม ยิ้ม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 ยิ้มกว้างๆ อุ๋ย!! ขอบคุณมากมายสำหรับความห่วงใยนะคะ

ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ไม่นานก็คงตะลุยทานได้เหมือนเดิม  ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #132 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2012, 16:31:27 »

"การชนครั้งที่ 3"....ชีวิตเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง (ตอน 4: หาที่ซ่อมรถ)

วันนี้หยุดค่ะ เลยมานั่งเล่นริมทะเลที่แหลมกาน้อยค่ะ แหลมกาน้อยเป็นหาดเล็กๆ อยู่ก่อนถึงหาดราไวน์ เส้นทางจากถนนใหญ่เข้ามาริมหาดค่อนข้างลำบากสักหน่อย ถนนขลุขละมากทีเดียว แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเจ้าไวท์กี้ค่ะ

ก่อนจะขนข้าวของจากรถมาวางบนเสื่อ ขอไปเดินเล่นให้เท้าสัมผัสกับน้ำทะเลสักหน่อย....
แสงแดดไม่ร้อนจนเกินรับได้ มีลมพัดอ่อนๆ อากาศกำลังสบาย โย้วว! น้ำใสแจ๋วจนมองเห็นพื้นทรายเลย เสียดายที่ไม่มีปลาว่ายไปว่ายมาให้เห็น เพราะมีเรือสปีดโบ๊ทค่อยจอดรับ-ส่งนักท่องเที่ยวไปตามเกาะต่างๆ แต่ยังไงน้ำทะเลก็ยังใสสวยอยู่ดี...อยากให้เพื่อนๆ ได้มาเห็นจังเลยค่ะ

เอาหล่ะ...ถึงเวลากลับมาเล่าเรื่องของเจ้าวีออสสักที ว่าแล้วก็ต้องเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือก่อน
เราปูเสื่อผืนเล็กใต้ต้นไม้ที่ขึ้นและเติบโตอยู่ริมหาด (ที่ประจำ) จากนั้นก็ขนโน๊ตบุค Dell จอ 15 นิ้ว ตัวเดิม กล้อง canon 550D และก็เป้ใบใหม่ที่เพิ่งถอยมาจากห้างโรบินสัน (ลดราคาค่ะ) ในเป้มีสมุดบันทึก ปากกาหมึกซึม แดง ดำ น้ำเงิน พร้อมด้วยขนมปังใส้หมูหยองผสมลูกเกดอีก 1 ปอนด์ น้ำเปล่า 1 ขวด

โอเค เริ่มเลยนะคะ....

16 กพ. 2552 ....วันนี้จะทำยังไงกับปัญหาดีน๊ะ
เมื่อคืนกว่าจะกลับถึงอพาต์เม้นที่บริษัทเช่าไว้ให้ก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว ทั้งที่เหนื่อยมากอยากพักอยากนอน แต่ก็นอนไม่หลับ สมองคิดหมกมุ่นอยู่กับเรื่องรถ ปัญหาครั้งนี้แปลกใหม่และใหญ่หลวงสำหรับเรามาก เพราประเมินดูแล้วไม่มีตังค์มากพอจะซ่อมรถแน่ อย่าพูดถึงซ่อมทั้งคันเลย เอาแค่กระจกไฟฟ้าที่หักห้อยต่องแต่งยังไม่รู้จะมีปัญญาหรือเปล่า (อิ อิ)... เฮ้อ! จะหาเงินจากไหนดีน๊ะ? เราอออบัตรเครดิตที่อยู่ตามซอกกระเป๋าตังค์ออกมาวางเรียง ดูว่ามีกี่ใบ แล้วก็คิดคำนวนดูว่าแต่ละใบมีวงเงินเหลือกี่บาท รวมยอดแบบคร่าวๆ แล้วยังไงก็ไม่พอแน่
ไอเดียใหม่ปิ้งขึ้นมา...ขายข้าวของที่ไม่จำเป็นทั้งหมด เอาเงินมาใช้ก่อน ...มองดูไปรอบๆ ห้องอย่างพินิจพิเคราะห์ ดูว่าจะขายอะไรได้บ้าง... เห่อๆ ทีวี ตู้เย็น ไมโครเวฟ แอร์ ตู้เสื้อผ้า ราวตากผ้า ฯลฯ เป็นของใช้ของอพาต์เม้นทั้งนั้น เฮ้อเซ็ง! ขายไม่ได้สักอย่าง ...เฮ้ย! นี่ไง กล้องถ่ายรูป Canon 40D น่าจะขายได้สักสองหมื่นแหละ

“เค้าบอกให้ทำ เค้าบอกให้ดู เค้าบอกว่าดี พอสักทีเถิด อยากทำตามฝัน ก็ฉันนั้นห้ามไม่ไหว ใจอยากลอง ผู้ใหญ่ก็มองผู้ใหญ่ก็เตือน คุณอาจจะดูว่าฉันเหลว ไม่คิดไม่แคร์ แต่อยากบอกให้รู้ ชีวิตฉันไม่ได้ง่ายดายอย่างนั้น......” เสียงมือถือดังขึ้น (เพลง...เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย...ชอบค่ะ) ทำให้ตกใจตื่น (เฮ้ย! หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย) ค่อยๆ เลิกหนังตาข้างขวาขึ้นดูเบอร์ที่โทรเข้ามา “แพตตี้” อ๋อ! เพื่อนสาวคนสนิท (เจ้าเก่า) เราคุยปรึกษากับเพื่อนว่าควรจะเอารถไปซ่อมที่กรุงเทพดีหรือเปล่า ส่วนคุณเพื่อนก็แนะนำให้เราหาช่างไปดูรถก่อนว่าต้องซ่อมอะไรบ้าง เสียหายแค่ไหน บางทีอาจไม่มากอย่างที่คิด จะได้ไม่ต้องเสียค่ารถที่ต้องบรรทุกรถเราเข้ากรุงเทพด้วย คุยจบว่าจะหลับต่ออีกนิด แต่เสียงมือถือเพลงเดิมดังขึ้นมาอีก เหลือบตาดู เห็นแต่ตัวเลข ไม่มีชื่อโชว์ แปลว่าไม่รู้จัก

“สวัสดีค่ะ” ตอบรับสาย แล้วรอฟังว่าฝ่ายโน้นคือผู้ใด “ขอโทษที่โทรมาแต่เช้าครับ แต่ผมเห็นรถคุณแล้วตกใจมาก เลยโทรมาถามว่าคุณบาดเจ็บมากหรือเปล่า อยู่โรงพยาบาลไหนครับ แล้วเรื่องมันเป็นยังไงมายังไง...เค้าพูดถามสาระทุกข์สุขดิบอีกยาวเชียว” (ใจคิด...เฮ้ย! ใครว๊ะ รู้ได้ไงว่ารถพัง เมื่อคืนเจอแค่พี่บีตอนลากรถไปจอดที่บ้านพักแกคนเดียวนิ นอกนั้นไม่เจอใครสักหน่อย ว่าแล้วรีบถามกลับสั้นๆ) “ขอโทษนะคะ ใครพูดสายอยู่คะ แล้วไปเห็นรถเราที่ไหนเหรอคะ” เค้าตอบกลับมาว่า “อ๋อ! ผมโกต้นไง (“โก” เป็นภาษาภูเก็ต ใช้แทนคำว่าพี่) เป็นลูกค้าที่เคยให้คุณออกแบบโบว์ชัวร์ขายคอนโดที่ปากคอกให้ไง พอดีผมไปติดต่อธุระที่ ตม. (บ้านพักของพี่บีเป็นบ้านพักราชการที่อยู่ในรั้วเดียวกับสำนักงาน ตม. เพราะสามีแกเป็นสารวัตร ตม ค่ะ) แล้วเห็นรถคุณจอดอยู่ ผมจำทะเบียนได้ 6696 กรุงเทพ ก็เลยโทรมาถามดูว่าคุณปลอดภัยดีมั๊ย” เราเล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณลูกค้าฟัง รวมทั้งเรื่องประกันขาดด้วย โกต้นเลยอาสาช่วยหาอู่ซ่อมรถที่ราคาไม่แพงให้

อู่ที่ว่าเป็นอู่เล็กๆ ซ่อนอยู่กลางใจเมืองภูเก็ต เจ้าของอู่ชื่อ “โกดำ” รูปร่างแกอ้วน เตี้ย ล่ำ ส่วนผิวก็ตามชื่อนั่นแหละค่ะ ชอบเวลาแกยิ้มมากค่ะ ฟันแกขาวจั๊วตัดกับสีผิวอย่างชัดเจน เวลาคุยกับแกต้องตั้งใจมากเป็นพิเศษ เพราะแกจะพูดภาษาและสำเนียงภาคกลางผสมกับภาคใต้ (พัทลุง) แถมพูดเร็วจนบางประโยคเราฟังไม่รู้เรื่อง ต้องขอให้แกพูดใหม่อีกรอบ และพูดช้าลงด้วย (ตอนนี้...พอมีเวลาแล้วคิดย้อนไปก็ฮาดีค่ะ ในช่วงหนึ่งของชีวิตเราได้เจอเรื่องราวมากมาย รู้จักผู้คนมากหน้า ต่างถิ่น หลายภาษา หลากวัฒนธรรม) โกดำประเมินราคาเบื้องต้นอยู่ที่ 35,000 – 40,000 บาท ไม่รวมกระจกหน้าและหลังที่ต้องเปลี่ยน แกบอกว่าแกไม่รับใส่กระจกแต่มีร้านแนะนำให้ แต่เราไม่เอาร้านที่แกแนะนำ เพราะเราเช็คราคาแล้ว ราคาของแกแพงกว่าของศูนย์โตโยต้าเกือบสองพัน ซึ่งเราคิดส่วนต่างนี้ว่าน่าจะเป็นค่าน้ำชาที่ร้านให้กับโกดำที่ช่วยแนะนำลูกค้าให้

ระหว่างที่รถซ่อมอยู่ เราแวะเวียนไปดูเป็นระยะๆ ไม่สิ เรียกว่า “ถี่” น่าจะถูกต้องกว่า เราไปบ่อยจนช่างซ่อมบอกว่า “อาทิตย์หรือสองอาทิตย์คุณค่อยมาดูก็ได้ มาวันเว้นวันแบบนี้งานมันก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าหรอก” (แหม! ก็มันห่วงนิ จะให้รอเป็นอาทิตย์แล้วค่อยมาดูเหรอ...แค่คิดเถียงในใจ) เรารับฟังที่ช่างเค้าแนะนำ แต่จะให้ปฏิบัติตามนั้นคงยากส์อ่ะนะ (อิอิ)

เราตั้งใจว่าทันทีที่เอารถออกจากอู่เราจะขับไปไหว้พระตามวัดต่างๆ ในเกาะภูเก็ต เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ตัวเองและอยากให้เจ้าวีออสไปอาบน้ำมนต์อีกสักครั้ง เวลาหนึ่งเดือนกับอีก 20 วัน ที่ถูกใช้ไปในการซ่อมรถ...ทั้งรออะไหร่มือสองจากกรุงเทพไปจนถึงการซ่อมแซม ตัดหลังคาเก่าทิ้ง ประกอบหลังคาใหม่เข้าไป เปลี่ยนกระจกมองข้างที่หักออกแล้วใส่อันใหม่เข้าไป เคาะบริเวณที่บุบออกมาให้คล้ายของเดิม ขัดสีเก่าออกแล้วพ่นสีใหม่ทับ ทุกครั้งที่เห็นรถก็ต้องคอยปลอบใจตัวเองว่า “ต้องยอมรับสัจจะธรรมความจริงนะ...ของถูกและดีไม่มีในโลกใบนี้”เพราะสภาพก็เป็นไปตามที่ควรจะเป็น อู่เล็กๆ อุปกรณ์เก่าไม่ทันสมัย ช่างสูงอายุ 2 คน ที่ต้องดื่มน้ำเมาระหว่างทำงาน จะไปคาดหวังอะไรมากไม่ได้ เดี๋ยวผิดหวังจะยิ่งเศร้าเข้าไปอีก เฮ้อ!

“เค้าบอกให้ทำ เค้าบอกให้ดู เค้าบอกว่าดี พอสักทีเถิด....” เพลงมือถือเพลงเดิมดังขึ้น โกดำโทรมาแต่เช้า ก่อนรับสาย โค ต ร ตื่นเต้นเลยค่ะ... ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง 55 หุหุ อิอิ ไม่รู้จะหัวเราะเป็นภาษาอะไรดี “สวัสดีค่ะโกดำ ไปรับรถได้เลยใช่ไหมคะ” โกดำพูดขึ้นว่า “รถซ่อมเสร็จแล้ว แต่ยังขับไม่ได้ เครื่องยนต์มันทะลุ” เราฟังแล้วงงๆ ไม่เข้าใจ เครื่องทะลุแปลว่าอะไร แต่รู้สึกไม่สะบายใจเลย เราถามกลับไปว่ามันหมายความว่ายังไงเหรอ เครื่องยนต์ทะลุ แกบอกว่าให้เราไปดูเองดีกว่า แกอธิบายไม่ถูก

“ก้มลงไปดูใต้ท้องรถสิ” เป็นคำพูดของโกดำ เราก็ทำตาม “เฮ้ย! ทำไมตรงเครื่องยนต์มีรูเบ้อเล่อเลย” โกดำบอกว่านั่นแหละที่แกบอกไว้ตอนต้นว่าเครื่องยนต์ทะลุ

...แล้วต้องทำยังไงต่อหล่ะ ? แล้วต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่เนี๊ยะ” โอ้ย! คิดไม่ออก ทำอะไรไม่ถูกเลย
บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
Tom-Keyray
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 56


ชีวิตติดปีก


« ตอบ #133 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2012, 19:47:25 »

"การชนครั้งที่ 3"....ชีวิตเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง (ตอน 5: เครื่องทะลุ)

 :)ก่อนจะเล่าต่อ ขอแทรกเรื่องอื่นนิดนุงนะ....เรามีภาพน่ารักมาฝากเพื่อนๆ ด้วยค่ะ
ระหว่างที่นั่งพิมพ์เรื่องเจ้าวีออสอยู่ก็หันไปเห็นผู้ชายแก้ผ้า...โอ้ว! แม่เจ้า พลาดไม่ได้ ต้องรีบถ่ายเก็บเอาไว้ (อิอิ)
จากนั้นก็เห็นเหตุการณ์ที่ทำให้เรานั่งอึ้ง (แอบอิจฉานิดๆ ปนเศร้าใจหน่อยๆ)
 :'(คู่ชีวิต...บางคนเกิดมาและจากไปพร้อมกับความรัก แต่บางคนก็ไม่มีโชคด้านนี้เอาซะเลย...เฮ้อ!

กลับเข้าเรื่องเจ้าวีออสต่อค่ะ...
ยืนนิ่งเงียบอยู่พักใหญ่ ให้เวลากับสมองได้คิด ...ต้องทำยังไงต่อ ...ต้องใช้เงินอีกกี่บาท ...คือคำถามที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น

เราตัดสินใจเอารถเข้าศูนย์โตโยต้า ซึ่งติดต่อเรื่องติดกระจกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว พอถึงศูนย์เราก็ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ให้ช่วยประเมินราคาค่าซ่อมเครื่องยนต์ก่อน เพราะอยากรู้ว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ พนักงานบอกว่ายังให้คำตอบไม่ได้ ต้องให้ช่างตรวจดูความเสียหายก่อนว่ามีมากน้อยแค่ไหนก่อน (ใจคิด...เอาหล่ะ! ซ่อมมาจนถึงขนาดนี้แล้ว ยังไงก็ต้องทำต่อให้เสร็จ และในเมื่อเราไม่รู้จะไปปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือจากใครแล้ว เราก็ต้องจัดการกับปัญหาเองสิ) “ตกลงให้ช่างดูได้เลยค่ะ แต่ถ้าดูแล้วไม่ซ่อมได้ใช่ไหมคะ” พนักงานตอบว่าได้ค่ะ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนที่ช่างตรวจเช็ค ประมาณพันกว่าบาทค่ะ แล้วแต่เวลาในการตรวจเช็ค (อ๋อเหรอ เดี๋ยวนี้เค้าคิดค่าซ่อมรถตามเวลาทำงานของช่างเหรอ แล้วถ้าช่างดึงงานหล่ะ ไม่ต้องจ่ายอ้วกรึ) ตอนแรกว่าจะคิดเฉยๆ แต่ด้วยความอยากรู้ก็เลยตัดสินใจถาม พนักงานตอบกว่าว่าเรามีมาตราฐานอยู่แล้วว่าอุปกรณ์ส่วนต่างๆ ต้องใช้เวลาตรวจ เช็ค ซ่อมนานเท่าไหร่ (อ๋อ! ค่อยยังชั่ว)

เราตัดสินใจซ่อมเครื่องยนต์ที่ทะลุและติดกระจกที่ศูนย์ โดยขอความเห็นใจจากพนังงานบางคนให้ช่วยซ่อมแบบประหยัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งมันก็ได้ผลเมื่อเราเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น รวมถึงสถานการณ์การเงินของเราให้เค้าฟัง สรุปคือเราจ่ายเงินให้กับศูนย์ค่าซ่อมเครื่องและค่ากระจกประมาณหกหมื่นกว่า และจ่ายค่าติดกระจกต่างหากอีก 500 บาทให้กับพนักงาน
...รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดตั้งแต่วันที่รถคว่ำจนถึงวันที่รถซ่อมเสร็จประมาณแสนกว่า (นิดๆ)

อ้อ! ขอเกรินล่วงหน้านิดนุงว่า...ตอนนั้นเพิ่งผ่อนเจ้าวีออสมาได้แค่ 24 งวด จาก 48 งวด
เดี๋ยวมาดูกันว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นตอนที่ขายรถ เมื่อขายแล้วมีตังค์เหลือกี่มะน้อย
ขอบอกว่า...เศร้าสวดยอด แถมร้องไห้ขี้มูกโป่งเลยแหละ (อิอิ)

แต่ตอนนี้...มาดูเบื้องหลังของเงินที่เราหามาจ่ายค่าซ่อมรถกันดีกว่า
เพื่อนๆ จะได้เห็นความพยายามของชะนีนางหนึ่งที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เงินมา
ขอบอกว่า...ทั้งฮาทั้งทุเรศตัวเองค่ะ
1. เงินสดที่มีอยู่ทั้งหมดในตอนนั้น... 24,750 บาท (อายุไม่น้อยแล้ว เก็บตังค์ได้แค่เนี๊ยะ ...อายจัง อิอิ)
2. ขายกล้อง Canon 40D ให้เพื่อน... 25,000 บาท (ขาดทุนย่อยยับ)
3. ขายกล้องฟูจิ (จำรุ่นไม่ได้ แต่เก่าแล้ว) ให้น้อง... 10,000 บาท (อ้อนวอนมันตั้งนานกว่าจะยอมซื้อราคานี้)
4. ขายขนมปังปิ้ง (แบบมนต์นมสด แต่หน้าตากับรสชาติคนละเรื่อง)...1,120 บาท (หักทุนแล้วไม่เวิร์ค ร้อนด้วย)
5. ขายเสื้อผ้าที่ใส่แล้วแต่ยังสภาพดี (มือสอง) ที่ตลาดนัด... 3,200 บาท (เปลี่ยนแผนหลังจากขายหนมปังไม่รุ่ง)
6. รูดบัตรเครดิต หมดหน้าตักจ่ายค่าซ่อมเครื่องและกระจก... 60,000 บาท (ดอกเบี้ยมหาศาล)
 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม


* Laem-Ka.jpg (121.87 KB, 750x308 - ดู 377 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 มิถุนายน 2012, 19:50:03 โดย Tom-Keyray » บันทึกการเข้า

ออกไปมองฟ้า ออกไปมองน้ำ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้นพัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า...โลกนั้นกว้างใหญ่ รอเราก้าวออกไป
s.chart
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 559



« ตอบ #134 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2012, 15:15:48 »

1. เงินสดที่มีอยู่ทั้งหมดในตอนนั้น... 24,750 บาท (อายุไม่น้อยแล้ว เก็บตังค์ได้แค่เนี๊ยะ ...อายจัง อิอิ)
ไม่ต้องอายครับ ผมอายุสี่สิบกว่าแล้ว ยังไม่มีเงินเก็บสักบาท

อ่านสนุกมากครับ รีบมาเขียนต่อนะ
บันทึกการเข้า
chira711
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,526


NO.674 อยุธยา-บางปะหัน-หนองแขม..


« ตอบ #135 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2012, 22:49:36 »

 เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง...................อ้าวไปๆ มาๆ  ไปนอนให้คุณหมอ ชำแหละ เครื่อง ใน ซะงั้นครับ.....ส่วนผมก็หายไป ซะ 2 เดือน เหมือนกันครับ....ที่เคยบอกจะได้ทุนเรียน แต่ต้อง

สอบ ตอนนี้สอบติด และได้ทุน สมใจครับ เริ่มเรียน มา เดือนกว่า ๆ  บวกกับทำงานด้วย....หนักเอาเรื่อง ครับ ...

หลังจากมาสัมผัส ชีวิต เรียน ด้วย ทำงาน ด้วย แล้วเข้าใจ ชีวิต น้องๆ รู่น หลัง ๆ ที่เรียนด้วยทำงานด้วย เลยว่า ไม่หมู กว่าจะจบ....หลังจากได้สัมผัสเอง

ที่สำคัญ มันเหนื่อย ที่ต้องขับรถ จากอยูธยา ไปเรียน ที่แจ้ง วัฒน นี่สิครับ ..โชคดี  มีทางด่วน ไม่งั้นจบ เห่ ......ส่วนเรื่องราว ที่ว่ามา ผมก็ยังไม่ได้อ่านเลย

เน้น มาทักทายก่อน ก็่ขอให้หาย ไวๆ  นะครับ เพื่อน พี่ น้อง เป็นกำลังใจให้ครับ.... ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
บันทึกการเข้า

"ไม่สูงต้องเขย่ง  ไม่เก่ง ต้องขยัน  สักวันก็ได้ดี "
dirtyshoes
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 338



« ตอบ #136 เมื่อ: 28 มิถุนายน 2012, 13:41:42 »

เดาต่อได้เลยว่า ขายรถแล้วไม่ได้ตังค์สักบาท แถมยังไม่พอปิดยอดที่กู้มา ต้องหาเงินใช้หนี้เพิ่ม
มันจะขายแล้วมีเงินเหลือเมื่อผ่อนถึงงวดท้ายๆโน่นล่ะ
บันทึกการเข้า
nu_tspc
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 178


« ตอบ #137 เมื่อ: 28 มิถุนายน 2012, 23:16:09 »

มารอฟังต่อ

ผมก็เป็นอีกหนึ่งคนล่ะครับที่ทำงานมา10ปีแล้ว แต่ไม่มีเงินเก็บซักบาท

 เศร้า เศร้า เศร้า
บันทึกการเข้า
JP@PB
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 193


ไม่หรู แต่ดูดี co2 factory


« ตอบ #138 เมื่อ: 28 มิถุนายน 2012, 23:17:30 »

อ่านแล้วเพลินดี ชอบการนำเสนอ จิงๆๆ  ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
บันทึกการเข้า
wanger
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 502


no.744


« ตอบ #139 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2012, 10:28:32 »

และแล้วเจ้า ไวท์กี้ ก้อหายไปอีกแระ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

EK  ฝั่งพระประแดง
BeeR_ZeeD_ZaaD
Tracking !!
เจ้าสำนัก
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 617


รถร้ายหล๊องแหล๊ง


« ตอบ #140 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2012, 11:05:07 »

ไอย๊ะ หนุกๆๆๆ

ปูเสื่อ ปอกถั่วต้ม

รอพระเอกของเรื่องต่อไป(เหมือนเดิม)

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

ขอให้หายมาม่านะคับ
บันทึกการเข้า

B20@VTec
patpat
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 651


พัดโบก - สมุทรปราการ


« ตอบ #141 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2012, 11:07:21 »

จากกันไม่ไกล..ไปไม่นาน ไม่กี่วันคงกลับมา ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

อย่าเรียกร้องความสนใจ โดยการเร่งเครื่อง..(เบิ้ลรถ) ขอร้อง
eak99
"Saturday Man"
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,742


EAK_EK


« ตอบ #142 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2012, 08:10:23 »

หายไปไหน หลายวันแล้วคร้าบ  ขยิบตา ขยิบตา
บันทึกการเข้า
neang
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,536


เหนี่ยง no.681 คับผม


« ตอบ #143 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2012, 08:22:31 »

สวัสดีคับ ชอบจัง อ่านเพลินดีคับ เหมือนนั่งอ่านนิยายอยู่เลย... จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า

จะเก่ามาจากไหน ก้อมาใหม่ที่เรา <<< ยังดี ที่มีขับ >>> RAMBO
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=91023.0
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=158209.0
หน้า: 1 2 3 [4] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: การเดินทางกับเจ้า "ไวท์กี้"
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |