"การชนครั้งที่ 3"....ชีวิตเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง (ตอน 5: เครื่องทะลุ)
:)ก่อนจะเล่าต่อ ขอแทรกเรื่องอื่นนิดนุงนะ....เรามีภาพน่ารักมาฝากเพื่อนๆ ด้วยค่ะ
ระหว่างที่นั่งพิมพ์เรื่องเจ้าวีออสอยู่ก็หันไปเห็นผู้ชายแก้ผ้า...โอ้ว! แม่เจ้า พลาดไม่ได้ ต้องรีบถ่ายเก็บเอาไว้ (อิอิ)
จากนั้นก็เห็นเหตุการณ์ที่ทำให้เรานั่งอึ้ง (แอบอิจฉานิดๆ ปนเศร้าใจหน่อยๆ)
:'(คู่ชีวิต...บางคนเกิดมาและจากไปพร้อมกับความรัก แต่บางคนก็ไม่มีโชคด้านนี้เอาซะเลย...เฮ้อ!
กลับเข้าเรื่องเจ้าวีออสต่อค่ะ...
ยืนนิ่งเงียบอยู่พักใหญ่ ให้เวลากับสมองได้คิด ...ต้องทำยังไงต่อ ...ต้องใช้เงินอีกกี่บาท ...คือคำถามที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น
เราตัดสินใจเอารถเข้าศูนย์โตโยต้า ซึ่งติดต่อเรื่องติดกระจกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว พอถึงศูนย์เราก็ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ให้ช่วยประเมินราคาค่าซ่อมเครื่องยนต์ก่อน เพราะอยากรู้ว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ พนักงานบอกว่ายังให้คำตอบไม่ได้ ต้องให้ช่างตรวจดูความเสียหายก่อนว่ามีมากน้อยแค่ไหนก่อน (ใจคิด...เอาหล่ะ! ซ่อมมาจนถึงขนาดนี้แล้ว ยังไงก็ต้องทำต่อให้เสร็จ และในเมื่อเราไม่รู้จะไปปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือจากใครแล้ว เราก็ต้องจัดการกับปัญหาเองสิ) “ตกลงให้ช่างดูได้เลยค่ะ แต่ถ้าดูแล้วไม่ซ่อมได้ใช่ไหมคะ” พนักงานตอบว่าได้ค่ะ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนที่ช่างตรวจเช็ค ประมาณพันกว่าบาทค่ะ แล้วแต่เวลาในการตรวจเช็ค (อ๋อเหรอ เดี๋ยวนี้เค้าคิดค่าซ่อมรถตามเวลาทำงานของช่างเหรอ แล้วถ้าช่างดึงงานหล่ะ ไม่ต้องจ่ายอ้วกรึ) ตอนแรกว่าจะคิดเฉยๆ แต่ด้วยความอยากรู้ก็เลยตัดสินใจถาม พนักงานตอบกว่าว่าเรามีมาตราฐานอยู่แล้วว่าอุปกรณ์ส่วนต่างๆ ต้องใช้เวลาตรวจ เช็ค ซ่อมนานเท่าไหร่ (อ๋อ! ค่อยยังชั่ว)
เราตัดสินใจซ่อมเครื่องยนต์ที่ทะลุและติดกระจกที่ศูนย์ โดยขอความเห็นใจจากพนังงานบางคนให้ช่วยซ่อมแบบประหยัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งมันก็ได้ผลเมื่อเราเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น รวมถึงสถานการณ์การเงินของเราให้เค้าฟัง สรุปคือเราจ่ายเงินให้กับศูนย์ค่าซ่อมเครื่องและค่ากระจกประมาณหกหมื่นกว่า และจ่ายค่าติดกระจกต่างหากอีก 500 บาทให้กับพนักงาน
...รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดตั้งแต่วันที่รถคว่ำจนถึงวันที่รถซ่อมเสร็จประมาณแสนกว่า (นิดๆ)
อ้อ! ขอเกรินล่วงหน้านิดนุงว่า...ตอนนั้นเพิ่งผ่อนเจ้าวีออสมาได้แค่ 24 งวด จาก 48 งวด
เดี๋ยวมาดูกันว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นตอนที่ขายรถ เมื่อขายแล้วมีตังค์เหลือกี่มะน้อย
ขอบอกว่า...เศร้าสวดยอด แถมร้องไห้ขี้มูกโป่งเลยแหละ (อิอิ)
แต่ตอนนี้...มาดูเบื้องหลังของเงินที่เราหามาจ่ายค่าซ่อมรถกันดีกว่า
เพื่อนๆ จะได้เห็นความพยายามของชะนีนางหนึ่งที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เงินมา
ขอบอกว่า...ทั้งฮาทั้งทุเรศตัวเองค่ะ
1. เงินสดที่มีอยู่ทั้งหมดในตอนนั้น... 24,750 บาท (อายุไม่น้อยแล้ว เก็บตังค์ได้แค่เนี๊ยะ ...อายจัง อิอิ)
2. ขายกล้อง Canon 40D ให้เพื่อน... 25,000 บาท (ขาดทุนย่อยยับ)
3. ขายกล้องฟูจิ (จำรุ่นไม่ได้ แต่เก่าแล้ว) ให้น้อง... 10,000 บาท (อ้อนวอนมันตั้งนานกว่าจะยอมซื้อราคานี้)
4. ขายขนมปังปิ้ง (แบบมนต์นมสด แต่หน้าตากับรสชาติคนละเรื่อง)...1,120 บาท (หักทุนแล้วไม่เวิร์ค ร้อนด้วย)
5. ขายเสื้อผ้าที่ใส่แล้วแต่ยังสภาพดี (มือสอง) ที่ตลาดนัด... 3,200 บาท (เปลี่ยนแผนหลังจากขายหนมปังไม่รุ่ง)
6. รูดบัตรเครดิต หมดหน้าตักจ่ายค่าซ่อมเครื่องและกระจก... 60,000 บาท (ดอกเบี้ยมหาศาล)
