|
|
|
|
|
Nuttaphon
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2007, 16:54:09 » |
|
ส่วนตัวผมแยกไม่ค่อยออกแฮะ แต่หลังๆมานี่เติมแต่โซฮอล์ 95 เน้นของ PTT ตลอดเลยคับ ไม่เคยเติมที่อื่นเลย ถ้าไม่จำเป็นอ่ะนะ ความรู้สึกผมคิดว่าถ้าเติมแต่ปั๊มเดิม น้ำมันเดิมตลอดน่าจะดีกับเครื่องอ่ะคับ ไม่รู้มีส่วนป่าว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
TooN2929
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 3,845

My BB Pin : 21514235
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2007, 11:54:05 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aod61 : มิสซิสซิปปี้
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
    
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 18,391

รับแก้ทอม ซ่อมดี้
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2007, 14:32:10 » |
|
โดยส่วนตัวผมก็ใช้ โซฮอล์ 95 สลับกับเบนซิน91 อยู่ แต่ผมสงสัยอยู่อย่างว่าที่ว่ากันว่ามันระเหยเร็วนะมันออกมาทางใหนไม่เข้าใจ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริงรถที่ขนส่งน้ำมันจากโรงกลั่นมาปริมาณไม่หายไปหรือ แล้วปั๊มนำ้มันที่เก็บไว้ไม่ขาดทุนหมดหรือครับถ้ามันระเหยเร็วอย่างที่ว่า
:Dไม่มีเจตนาอื่นใด นอกจากความสงสัยครับ
การระเหย ก็คือการที่ของเหลว กลายเป็นไอ หายไปในอากาศ ถ้าถามว่าหายไปตอนไหน จอดอยู่เฉยๆมันก็หายไปได้ครับ อากาศเอามาทำไม เครื่องยนต์ต้องใช้น้ำมันกับอากาศในการสร้างจังหวะ ดูด อัด ระเบิด( Power) คาย ผมดูทางทีวี ครั้งหนึ่ง คุณไก่ มีสุข เป็นฟรีเซ็นเตอร์รณรงค์ให้ใช้แก๊สโซฮอล์ (ไม่แน่ใจว่าของ ปตท หรือเปล่า) แล้วเค้ายอมรับแล้วว่าแก๊สโซฮอล์ระเหยเร็วกว่าเบนซิลธรรมดาเล็กน้อย แต่ราคาโดยรวมแล้วคุ้มกว่า ตอนนี้ผมเติมสลับกัน 95 กับ 91 ธรรมดา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
natpakorn
CIVIC CLUB NO. 11
Gold Member
จอมยุทธ
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 404

เปิ้ล Member # 11
|
 |
« ตอบ #17 เมื่อ: 26 กรกฎาคม 2007, 19:30:05 » |
|
ยังไงเหรอครับคุณ napakorn พอจะมีข้อมูลหรือเปล่า รบกวนแชร์ด้วยครับบบ  http://www.thaidriver.com/PDF_files/no_85/85_siriboon.pdfจาก ไทยไดร์เวอร์ หากให้ผมสรุป โดยความเข้าใจของผมเองนะ ผิดพลาดอย่างไรก็แชร์กันเพราะผมไม่ใช้จูนเนอร์มืออาชีพ อัตราส่วน อากาศ/เชื้อเพลิง ที่ทำให้เผาใหม้หมดจดคือ อากาศ 14.7 ต่อ น้ำมันเบนซิน 1 ส่วน Ethanol เพียว ๆ แต่ละกรัมมีค่าความร้อนของการสันดาปน้อยกว่า เบนซินประมาณ 3% ครึ่ง แต่ว่าเมื่อคุณซื้อแต่ละลิตร คุณได้น้ำหนัก 796 กรัม แทนที่จะเป็น 720-730 กรัม (หนักกว่าประมาณ 9%) แต่แก๊สโซฮอลสูตร E10 มันเป็นเบนซิน 9 ส่วนบวก Ethanol 1 ส่วน จึงหนักเพียงประมาณ 730-740 กรัม และด้วยค่าความร้อนต่อกรัมเพียงไม่ถึงครึ่งเปอร์เซ็นต์ ฟังดูเหมือนเจ๊ากันไปเกือบพอดี แต่ตรงที่ Ethanol เสียปรียบหนักคือ ความเข้มที่ต้องผสมกับอากาศ (Air-fuel Ratio) ในอัตรา 9:1 (อากาศ 9:Ethanol 1 โดยน้ำหนัก) แทนที่จะเป็น 14.7:1 อย่างของเบนซิน (อากาศ 14.7:เบนซิน 1 โดยน้ำหนัก) แก๊สโซฮอลสูตร E10 จึงต้องการ AFR ประมาณ 14.2:1 (ซึ่งเข้มกว่า 14.7:1 ของเบนซิน)... วัดกันเป็นกิโลเมตรต่อลิตร แก๊สโซฮอลต้องเปลืองกว่าแน่... แต่ถ้าวัดกันว่ากิโลเมตรละกี่บาท แก๊สโซฮอลจะเปลืองเงินน้อยกว่า เพราะราคาปัจจุบันต่ำกว่าเบนซิน 95 หลายบาทอยู่ ตามนั้น ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Civic Club No.11
|
|
|
ZODA
Gold Member
อาจารย์ปู่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 3,263

!@#&%!!
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: 26 กรกฎาคม 2007, 21:25:08 » |
|
http://www.thaidriver.com/PDF_files/no_85/85_siriboon.pdfจาก ไทยไดร์เวอร์ หากให้ผมสรุป โดยความเข้าใจของผมเองนะ ผิดพลาดอย่างไรก็แชร์กันเพราะผมไม่ใช้จูนเนอร์มืออาชีพ อัตราส่วน อากาศ/เชื้อเพลิง ที่ทำให้เผาใหม้หมดจดคือ อากาศ 14.7 ต่อ น้ำมันเบนซิน 1 ส่วน Ethanol เพียว ๆ แต่ละกรัมมีค่าความร้อนของการสันดาปน้อยกว่า เบนซินประมาณ 3% ครึ่ง แต่ว่าเมื่อคุณซื้อแต่ละลิตร คุณได้น้ำหนัก 796 กรัม แทนที่จะเป็น 720-730 กรัม (หนักกว่าประมาณ 9%) แต่แก๊สโซฮอลสูตร E10 มันเป็นเบนซิน 9 ส่วนบวก Ethanol 1 ส่วน จึงหนักเพียงประมาณ 730-740 กรัม และด้วยค่าความร้อนต่อกรัมเพียงไม่ถึงครึ่งเปอร์เซ็นต์ ฟังดูเหมือนเจ๊ากันไปเกือบพอดี แต่ตรงที่ Ethanol เสียปรียบหนักคือ ความเข้มที่ต้องผสมกับอากาศ (Air-fuel Ratio) ในอัตรา 9:1 (อากาศ 9:Ethanol 1 โดยน้ำหนัก) แทนที่จะเป็น 14.7:1 อย่างของเบนซิน (อากาศ 14.7:เบนซิน 1 โดยน้ำหนัก) แก๊สโซฮอลสูตร E10 จึงต้องการ AFR ประมาณ 14.2:1 (ซึ่งเข้มกว่า 14.7:1 ของเบนซิน)... วัดกันเป็นกิโลเมตรต่อลิตร แก๊สโซฮอลต้องเปลืองกว่าแน่... แต่ถ้าวัดกันว่ากิโลเมตรละกี่บาท แก๊สโซฮอลจะเปลืองเงินน้อยกว่า เพราะราคาปัจจุบันต่ำกว่าเบนซิน 95 หลายบาทอยู่ ตามนั้น ครับ ผมอ่านดูคร่าวๆ น้ำมันธรรมดาจะมีอัตราส่วนอากาศ/น้ำมัน เข้มน้อยกว่าแก๊ซโซฮอลแต่กำลังที่ได้อาจไม่ต่างกันเพราะน้ำมันธรรมดาไม่มีส่วนผสมของ Ethanol แก๊ซโซฮอลมีส่วนผสมของอ๊อกซิเจนผสมอยู่ใน Ethanol จึงทำให้การเผาไหม้ไม่ต้องการส่วนผสมจากอ๊อกซิเจนมาก ในตัวน้ำมันเบนซิน ธรรมดาต้องใช้อัตราส่วนของอ๊อกซิเจนมากกว่า ความร้อนในห้องเครื่องที่เกิดจากการเผาไหม้ก็จะสูงกว่าแก๊สโซฮอล การเผาไหม้ที่ได้ของแก๊สโซฮอลมีความสมบูรณ์มากกว่า มีผลให้อัตราเร่งดีอย่างต่อเนื่องและไหลลื่น อะไรประมาณนี้ป่าวครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับผม 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผิดตรงไหนก็ไม่รู้ ที่กลายเป็นคนแสนดี เป็นคนดีแล้วมันไม่มีใคร อยากจะเลว อยากเลวให้มันรู้ไป เผื่อมีใครสักคนต้องการก็พอ
Civic club # 231.2
|
|
|
|
hippo
ศิษย์พี่
  
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 249
|
 |
« ตอบ #20 เมื่อ: 27 กรกฎาคม 2007, 23:35:20 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
D17Z1@Productive
เข้าวงการ

ออฟไลน์
กระทู้: 38
|
 |
« ตอบ #21 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2007, 05:14:34 » |
|
http://www.thaidriver.com/PDF_files/no_85/85_siriboon.pdfจาก ไทยไดร์เวอร์ หากให้ผมสรุป โดยความเข้าใจของผมเองนะ ผิดพลาดอย่างไรก็แชร์กันเพราะผมไม่ใช้จูนเนอร์มืออาชีพ อัตราส่วน อากาศ/เชื้อเพลิง ที่ทำให้เผาใหม้หมดจดคือ อากาศ 14.7 ต่อ น้ำมันเบนซิน 1 ส่วน Ethanol เพียว ๆ แต่ละกรัมมีค่าความร้อนของการสันดาปน้อยกว่า เบนซินประมาณ 3% ครึ่ง แต่ว่าเมื่อคุณซื้อแต่ละลิตร คุณได้น้ำหนัก 796 กรัม แทนที่จะเป็น 720-730 กรัม (หนักกว่าประมาณ 9%) แต่แก๊สโซฮอลสูตร E10 มันเป็นเบนซิน 9 ส่วนบวก Ethanol 1 ส่วน จึงหนักเพียงประมาณ 730-740 กรัม และด้วยค่าความร้อนต่อกรัมเพียงไม่ถึงครึ่งเปอร์เซ็นต์ ฟังดูเหมือนเจ๊ากันไปเกือบพอดี แต่ตรงที่ Ethanol เสียปรียบหนักคือ ความเข้มที่ต้องผสมกับอากาศ (Air-fuel Ratio) ในอัตรา 9:1 (อากาศ 9:Ethanol 1 โดยน้ำหนัก) แทนที่จะเป็น 14.7:1 อย่างของเบนซิน (อากาศ 14.7:เบนซิน 1 โดยน้ำหนัก) แก๊สโซฮอลสูตร E10 จึงต้องการ AFR ประมาณ 14.2:1 (ซึ่งเข้มกว่า 14.7:1 ของเบนซิน)... วัดกันเป็นกิโลเมตรต่อลิตร แก๊สโซฮอลต้องเปลืองกว่าแน่... แต่ถ้าวัดกันว่ากิโลเมตรละกี่บาท แก๊สโซฮอลจะเปลืองเงินน้อยกว่า เพราะราคาปัจจุบันต่ำกว่าเบนซิน 95 หลายบาทอยู่ ตามนั้น ครับ ตามนั้นเลยครับ sohol ตอนนี้ลองใช้อยู่ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยคิดแต่ตอนนี้มันห่างกับ 95 4 บาทแล้วลองดูก็ไม่เสียหาย ขอสรุปสั่นๆนะครับจะได้ไม่งงส่วนใครอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมยินดีแลกเปลี่ยนความรู้ครับโทรมาหาได้เลย คือ 1. ระยะทางผมเทียบ Jet95 กับ Jet Sohol95 พอๆกันครับขับทางไกล+ในเมืองด้วยวิ่งเรื่อย(จริงๆ) + กดเล่น 200 ไป2ดอก ได้ 12.97Km/L (ES กระปุก ไม่ VTEC) เดิมๆ 2. อัตตราการเร่ง (รถผม tuneไฟ+ลดน้ำมันไว้พอดี95) และยังไม่ได้ปรับให้หนาตามหลักของ sohol เพราะขี้เกีลยดและแป็นรถของตัวเองจึงไม่ worry มาก พอมาเติม sohol ผลคือหายไปนิดๆ ยังไม่ได้ตั่งใจจับความรู้สึก 3. ถังนี้ที่ทดสอบจอดไว้เฉยๆ 5-6วัน ตามความรู้สึกผมระยะทางได้พอๆกับ 95 จึงไม่รู้สึกว่ามันระเหยอะไรต่างกับ 95 นัก 4. Temperture ในห้องเผาไหม้ที่ใช้soholนั้นสูงกว่า 95 แน่นอนครับ แต่ไม่น่า worry เพราะน้อยมากๆ เมือเทียบกับ LPG และแย่สุดคือ NGV 5. คราวนี้มายกตัวอย่างรถบ้านๆเดิมๆที่ไม่ได้ tune กันบางก็คือเอาเป็นว่าออกจากโรงงานมาเลยแล้วกับครับ ถ้าทุกอย่างสมบูรณ์เช่นปั๊มติกไม่เสียกรองไม่ตัน ฯลฯ Air/Fuel ration ตอนกดคันเร่งกว่า 50% จะอยู่ประมาณ 11.9:1-12.2:1 ถือว่าหนามากๆเกินความจำเป็นไปเยอะน้ำมันหนาไปรถก็ไม่วิ่งเวลาเราไปจูนกล่องกันก็คือปรับส่วนผสม AFนี้แหละเครื่อง NA โดยมากจะอยู่ประมาณ 12.5:1-13:1 แล้วแต่รถด้วยถึงจะวิ่งดี คราวนี้เวลาเราเติม sohol เกิดอะไรขึ้น ค่า Lamda (อัตราส่วน อากาศ/เชื้อเพลิง ที่ทำให้เผาใหม้หมดจด) จะเปลี่ยนไป เพราะ 1 Lamda ของ 95 คือ 14.7:1 1 Lamda ของ sohol คือ 14.2:1 สรุปก็คือส่วนผสมน้ำมันจะบางลงเองโดยทันที่ เพราะกล่องไม่สามารถรู้ได้ว่าคุณเติมอะไรลงไ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|