ความจริงมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากอย่างที่คิด การที่คุณสตาร์ทเครื่องยนต์ที่รอบเดินเบาแล้วเปิดไฟหน้ารถทิ้งไว้ เวลาผ่านไปพักใหญ่ๆ แสงไฟหน้ารถเริ่มหรี่ลง ไม่สว่าง ปกติแล้วที่ระบบรอบเดินเบาของเครื่องยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 850-900 รอบต่อนาที กระแสไฟที่ตัวไดน์ชาร์ท จะผลิตกระแสออกมาที่ประมาณ 10 Amp และ ที่ 2000 รอบต่อนาที่ ที่เครื่องยนต์มีโหลด ไม่ว่าจะเปิดแอร์ ใช้ไฟเต็มระบบ กระแสไฟที่ตัวไดน์ชาร์ทผลิตได้ จะมีประมาณ 30 Amp เป็นอย่างน้อย
แต่ที่ท่านเจ้าจองกระทู้เปิดไฟหน้ารถ นั้น ระบบไฟหน้ารถของคุณเปลี่ยนหรือดัดแปลงเพิ่มเติมหรือเปล่า หากเพิ่มเติมดัดแปลงระบบไฟส่องสว่างใหม่ แล้วทำให้กินกระแสไฟมากกว่า 10 Amp มันก็เป็นเรื่องปกติ ที่กระแสไฟในแบ็ตเตอรี่ ถูกจ่ายออกไปมากกว่า กระแสไฟที่ถูกชาร์ทเข้ามา ประการสำคัญก็คือ แบ็ตเตอรี่ของคุณอาจจะเสื่อม เก็บไฟไม่ค่อยอยู่
ปกติทั่วๆไปแล้ว การเปิดไฟหน้ารถทั้งสองดวง กระแสที่ใช้ในระบบไฟต่ำประมาณข้างละไม่เกิน 3-4 Amp 2 ดวงก็ไม่น่าจะเกิน 10 Amp และไฟสูง ดวงละ 6-8 Amp (ขึ้นกับจำนวนวัตต์ของหลอดไฟ) สองดวงก็ไม่น่าจะเกิน 15 Amp สามารถที่จะเปิดไฟหน้ารถได้มากกว่า 1-2 ชั่วโมง โดยไมjต้องสตาร์ทเครื่องยนต์ สำหรับแบ็ตเตอรี่ที่สมบูรณ์
กรณีเหตุการณ์นี้ น่าจะมาจากสาเหตุ ที่รอบเดินเบาของเครื่องยนต์ต่ำกว่า 800 รอบคาดว่าไม่นาจะเกิน 600 รอบ ทำให้กระแสไฟที่ออกมาจากไดน์ชาร์ทมีกระแสไฟต่ำกว่า 10 Amp สาเหตุที่สองก็คือ แบ็ตเตอรี่เก็บไฟไม่ค่อยจะอยู่
สำหรับระบบไฟชาร์ทของรถคุณ คิดว่าปกติครับ เพราะคุณบอกว่าพอเร่งเครื่องยนต์ทำให้ระบบไฟสว่างปกติ การเทสระบบไฟชาร์ทของตัวไดน์ชาร์ททำได้ไม่ยาก ช่างตามร้านไดน์ทราบดี สำหรับแบ็ตเตอร์รี่ก็ทดสอบโดยการถอดเอาแบ็ตไปให้ร้าน ชาร์ทไฟให้เต็ม แล้วทำการวัดกระแสไฟและโวลเต็จเอาไว้ ว่าได้กี่แอมป์และกี่โวล เมื่อชาร์ทไฟเต็มระบบ หลังจากนั้นทิ้งไว้ข้ามคืน ตอนเช้ามาวัดกระแสไฟและโวลเต็จดูใหม่อีกครั้ง ว่ากระแสและโวลเต็จยังเท่ากับเมื่อวัดตอนชาร์ทเต็มหรือไม่ ก็พอจะทราบได้ ว่าแบ็ตของรถคุณมีสภาพอย่างไร ....srithanon
ขอบคุณครับ แต่รถผมไม่ได้ดัดแปลงอะไรเลยครับ ไฟหน้าจากโรงงานเดิมๆ 55/60 แบตเปลี่ยนมาไม่กี่เดือนเอง
มันเป็นๆหายๆอะครับ แต่ก็ไม่ถึงกับดับไปเลยนะครับ แค่มันหรี่ลงหน่อยเวลารอบเครื่องตก