ODB II
? on: April 01, 2008, 04:18:35 PM ?
OBD II คืออะไร
มันคือตัวย่อของคำว่า ออนบอร์ด ไดโกนอสซิส หรือแปลง่ายๆก็คือระบบประมวลผลวิเคราะห์ปัญหาการทำงานของรถยนต์ครับ
รถ ยนต์หัวฉีด จำเป็นต้องได้รับข้อมูลจากเซนเซอร์ต่างๆ มาประมวลผลเพื่อการจ่ายน้ำมันให้ถูกต้องกับรอบเครื่องยนต์ ปริมาณอากาศ ปริมาณไฟ ฯลฯ สารพัด
และระบบจะแจ้งให้เจ้าของรถ หรือช่างทราบทันทีที่เซนเซอร์หรือชิ้นส่วนใดใดมีปัญหา เช่น จะจ่ายน้ำมันไม่ได้ ถ้าไม่รู้ว่า อากาศเข้ามากี่บาร์
หรือไม่กล้าจ่ายไฟ เข้าที่คอยล์จุดระเบิด ถ้าไม่รู้ว่าสูบแต่ละลูก อยู่ในตำแหน่งใดบ้าง เพราะมันกลัวการชิงจุดระเบิดจนเครื่องยนต์เสียหาย
ซึ่งทันที ที่เกิดข้อผิดพลาดในเซนเซอร์หรือชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง นอกจากรถจะมีอาการผิดปกติแล้ว ระบบ ยังส่งสัญญานโวลท์มาที่หลอดไฟแลมด้า เพื่อให้เราทำการตรวจเช็คก่อน ว่ามีปัญหาที่ส่วนไหน แล้วจะได้ไปแก้ไขให้ตรงจุด ไม่ต้องนั่งเดากันเป็นวันๆ หรือลองเปลี่ยนอะไหล่ทุกชิ้น จนกระเป๋าฉีก
และการติดต่อกับกล่องควบคุมการจุดระเบิดในรถเรานั้น ก็มีวิทีเดียวคือการใช้เครื่องมืออ่านค่า ว่าเซนเซอร์อะไร ที่มีปัญหา
ซึ่งเครื่องมือตัวนี้เรียกว่า Reader หรือ Scanner หรือ DTCs แล้วแต่จะเรียก โดยฝรั่งทำขึ้นมานานแล้ว
บางตัวที่เป็นมัลติฟังค์ชั่น อ่านได้ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ราคาจะอยู่ในขั้นหลักแสนบาท
แต่ บางตัวที่พัฒนามาแบบเจาะจง ให้อ่านค่าในรถบางกลุ่ม รู้จักโปรโตคัลบางตัว เท่านั้น ก็จะมีราคาถูกลง แต่ถูกที่สุดก็ไม่ต่ำกว่า 3000 บาทครับ
ทั้ง หมดที่กล่าวมา เค้าก็ใส่ลูกเล่นแปลงค่าไฟฟ้าเป็นตัวเลข หรือมีสวิตช์ที่สามารถสั่งการครั้งเดียว แต่ไปแอคชั่นในหลายกระบวนการ มีรูปทรง และวัสดุที่ดี มีคุณภาพ ใช้งานง่าย ซึ่งก็แน่นอน ยิ่งทำให้มันมีราคาที่สูงขึ้นไปด้วย ทั้งทั้งที่เราต้องการผลของมันเท่านั้น แต่ต้องซื้อดีไซน์ ต้องซื้อความสะดวก และค่าการตลาดของมันมาด้วย
Vmai OBD2 Reader สำหรับรถปี 1996-1998 ตัดทุกอย่างที่ไม่ได้ใช้งานออก(ตัดออก เพราะทำไม่เป็น อิอิ)
และทำให้ราคาถูกลง ในขั้นที่ถูกกว่า การนำรถเข้าศูนย์ เพื่อลบไฟแรมด้า1 ครั้ง
ใช้งานได้ง่าย ปลอดภัย ไม่กระทบระบบคอมพวเตอร์ของรถ และอยากให้กลายเป็นเครื่องมือมาตรฐานที่ต้องมีติดรถ VOLVO ปี 96-98 ไว้ทุกคัน
คน ที่อยู่ ต่างจังหวัดไม่ต้องขับรถทางไกลเข้ามาหาอู่เช็คโค๊ด หรืออยู่ กทม. ก็สามารถขับรถไปต่างจังหวัดได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีศูนย์ซ่อม
เพราะ เรารู้ได้เอง ว่าควรตรวจเช็คอุปกรณ์ตัวไหน, สามารถวินิจฉัยอาการเบื้องต้นได้เองโดยไม่ต้องกลัวว่าช่างจะมั่วเปลี่ยน อะไหล่ มั่วๆ แล้วไม่หาย
ฯลฯ อีกมาก สำหรับท่านที่อยู่ห่างอู่นอก ที่มีเครื่องเช็ค
แต่ ที่สำคัญ ก็คือเพื่อลดการผูกขาด อย่างย่ามใจของศูนย์บริการ ที่คิดว่ามีเครื่องมือที่ราคาแพงแล้ว จะสามารถโกร่งราคาค่าบริการจนแพงเกินจริง
และเพื่อไม่ให้มัน ทำมาหากินกับความไม่รู้ของลูกค้าได้อีกต่อไป
เพียงเท่านี้.......คุ้มค่าของการพัฒนา และการแจกจ่ายให้นำไปใช้ในราคาที่ประหยัดแล้วครับ
ที่มา
http://www.volvomania.com/forum/index.php?topic=5117.0 