ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
20 กรกฎาคม 2025, 18:10:15
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: การจอดรถขณะติดไฟแดงควรเปลี่ยนจาก D เป็น P หรือ N อันไหนยืดอายุรถได้ดีกว่ากัน 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: การจอดรถขณะติดไฟแดงควรเปลี่ยนจาก D เป็น P หรือ N อันไหนยืดอายุรถได้ดีกว่ากัน  (อ่าน 16918 ครั้ง)
cupid568
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2


« เมื่อ: 03 มีนาคม 2010, 13:11:26 »



 ขยิบตา ขยิบตา 1. การจอดรถขณะติดไฟแดงควรเปลี่ยนจาก D เป็น P หรือ N อันไหนยืดอายุรถได้ดีกว่ากันค่ะ คือสงสัยมาก เหมือนเคยอ่านเจอในเว็บบอกว่าไม่ควรเปลี่ยนเกียร์จาก D ไป N บ่อยๆ ใครรู้บอกหน่อยนะค่ะ

2.เวลาจอดรถเรายังต้องใส่เบรคมืออีกไหม๊ค่ะ รบกวนเพื่อนๆ Civic ทุกคนด้วยนะค่ะ จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า
cyu
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,713



« ตอบ #1 เมื่อ: 03 มีนาคม 2010, 13:25:08 »

ขยิบตา ขยิบตา 1. การจอดรถขณะติดไฟแดงควรเปลี่ยนจาก D เป็น P หรือ N อันไหนยืดอายุรถได้ดีกว่ากันค่ะ คือสงสัยมาก เหมือนเคยอ่านเจอในเว็บบอกว่าไม่ควรเปลี่ยนเกียร์จาก D ไป N บ่อยๆ ใครรู้บอกหน่อยนะค่ะ

2.เวลาจอดรถเรายังต้องใส่เบรคมืออีกไหม๊ค่ะ รบกวนเพื่อนๆ Civic ทุกคนด้วยนะค่ะ จุมพิต จุมพิต

ส่วนใหญ่หยุดรถไม่นาน ผมไม่เปลี่ยนเกียร์ และจะหยียบเบรคด้วย ถ้านานหน่อย จะใช้ N เพราะไม่อยากผ่าน R รู้สึกว่ามันจะกระตุกนิดหน่อย เลยคิดว่า ไม่เปลี่ยนบ่อยๆ น่าจะเป็นการถนอมเกียร์ครับ ส่วนถ้าแน่ใจว่าจอดนาน ก็ P
บันทึกการเข้า

แอบแซงเพราะแรงน้อย

https://www.facebook.com/cyu.boonyawat
panna
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 34


« ตอบ #2 เมื่อ: 03 มีนาคม 2010, 13:40:54 »

 :)lผมเลื่อนที่Nครับ เพราะจะช่วยยืด  อายุงานของสลิงเพราะระยะห่างระหว่าD .
กับN  ห่างกันแค่นิดเดียว   ถ้าไปP  ห่างเยอะ    ไม่ค่อยดีครับ  ใส่ว่างดึงเบรกมือดีกว่า
บันทึกการเข้า
cupid568
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2


« ตอบ #3 เมื่อ: 03 มีนาคม 2010, 13:42:37 »

ขอบคุณมากนะค่ะสำหรับคำแนะนำ เวลาเปลี่ยนเกียร์จาก P ไป D ผ่าน R มันชอบกระตุกจิงๆอ่ะแหละ 

เด๋วลองใหม่ค่ะ^^ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
ncboy
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 30


« ตอบ #4 เมื่อ: 03 มีนาคม 2010, 14:04:27 »

ตอบข้อแรกก่อน ผมคิดว่า ถ้าจอดติดไฟแดงนานๆ ควรเป็น N นะ
จะได้ไม่เปลืองน้ำมัน เพราะมันจะมีกำลังเร่งอยู่แล้วตอนอยู่ที่ D แม้ว่าเรา
ไม่ได้เหยียบคันเร่งนะครับ
ถ้าจะอยู่ที่ P น่าจะเฉพาะตอนที่จอดเท่านั้นครับ
ส่วนถ้าติดไฟแดงไม่นานก็น่าจะ ไม่ต้องเปลี่ยนเป็น N นะครับ

ทีนี้ตอบข้อสอง  ส่วนการจอดรถไม่ต้องดึงเบรคมือนะ เพระว่ารถมันจะไม่เคลื่อนอยู่แล้ว
นอกจากเราไปจอดรถขวางทางใคร ตอนจอดรถต้องให้อยู่ N แล้วค่อยจอด
แต่ต้องกด ตัว Shift นะ ไม่งั้นจะให้อยู่ที่ N ไม่ได้ครับผม
ไม่รู้นะครับความคิดเห็นส่วนตัว...^__^ ขยิบตา
บันทึกการเข้า
PoteK9
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229


« ตอบ #5 เมื่อ: 03 มีนาคม 2010, 14:07:07 »

 อายจัง ส่วนใหญ่ถ้าจอดเฉยๆก็จะแตะเบรค..แต่ถ้ามีกิจกรรม (เช่นหยิบของเบาะหลัง) ก็ N แล้วดึงเบรคมือครับ..ไม่รู้ว่าช่วยยืดอายุได้ป่าว..รอผู้รู้ครับ
บันทึกการเข้า
My_Mint
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,647



« ตอบ #6 เมื่อ: 03 มีนาคม 2010, 15:05:55 »

เกียร์มันถูกออกแบบมาให้เลื่อนไปมาอยู่แล้วครับ  จะค้าง D หรือเลื่อนไป  Pกับ N ก็แล้วแต่สถานการณ์และความถนัดครับ ฉะนั้นใครถนัดแบบไหนก็ทำไปเถอะครับ อย่าไปซีเรียสกับเรื่องพวกนี้เลย   มีผลไม่เยอะหรอก ผมยังไม่เห็นรถเกียร์ออโต้พังเพราะว่ากรณีนี้ซักที    แค่ระวังอย่าเข้า Pหรือ R ตอนรถยังไม่หยุดก็พอ อันนี้จะพังจริง   อายจัง
บันทึกการเข้า

cyu
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,713



« ตอบ #7 เมื่อ: 03 มีนาคม 2010, 15:14:09 »

เอามาฝากครับ ในเน็ตมีเยอะแยะครับ
เทคนิคการใช้เกียร์ออโต้เมติค

ปัจจุบัน รถยนต์ที่เป็นเกียร์ออโตเมติกเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากขับขี่สบายไม่ต้องเมื่อยเปลี่ยนเกียร์และเหยียบคลัตช์ (Clutch) ตลอดเวลายามรถติด แต่อาจมีบางท่านเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้เกียร์ออโต ส่งผลให้ทอนอรยุการใช้งานของรถโดยไม่รู้ตัว...

การเปลี่ยนเกียร์จาก D ไป N ในเวลาที่รถติดไฟแดงบ่อยๆ นั้นหลายคนคงเคยปฏิบัติกันอยู่
เนื่อง จากเวลารถติดขี้เกียจเหยียบเบรกก็เข้าเกียร์ N ไว้ เมื่อรถเคลื่อนก็เปลี่ยนเป็น D ถ้าช่วงรถติดแล้วขยับเคลื่อนทีละนิดทีละหน่อย ทำให้ต้องเปลี่ยน D-N-D-N-D-N อยู่อย่างนี้เท่ากับคุณกำลังทำร้ายระบบเกียร์ของคุณอยู่
ระบบ เกียร์ออโตเมติกนั้นจะประกอบด้วยชุดเกียร์ที่ขบกันตลอดเวลา การส่งแรงจาก N ไป Dจะต้องมีการสึกหรอของเฟืองนั้นต้องมีการปล่อยและจับอยู่ตลอดเวลา อายุการใช้งานก็จะสั้นลง เพราะถ้าเบรกอยู่เฉยๆ
ระบบเบรกก็ไม่ได้ร้อนขึ้นเพราะว่าจานดิสเบรกหรือดุมเบรกไม่ได้หมุน ผ้าเบรกก็ไม่สึกหรอเพราะว่าล้อไม่หมุน
แรงที่ใช้ในการเหยียบก็ไม่มากขนาดจะทำให้ชุมแม่ปั๊มเบรกพังหรือทำให้อายุการใช้งานน้อยลง

หลายคนที่เปลี่ยนเกียร์ D-N-D-N-D-N
อ่าน ถึงบรรทัดนี้แล้วก็อยากจะเถียงว่าไม่เห็นมีการเปลี่ยนแปลงเลย รถยังคงสามารถขับได้ตามปกติ ระบบเกียร์ก็ยังปกติดอยู่ แต่พฤติกรรมอย่างนี้จะส่งผลแก่รถคุณในระยะยาว เปรียบเหมือนกับการสูบบุหรี่นั่นแหละ ระบบคลัตช์ของคุณจะลื่น ทำให้เวลาออกตัวคุณจะต้องเหยียบคันเร่งมากขึ้นทำให้รอบสูงขึ้น น้ำมันก็เปลืองขึ้น แต่รถกลับไม่ได้วิ่งอย่างนั้นเลยสูงขึ้น น้ำมันก็เปลืองขึ้น แต่รถกลับไม่ได้วิ่งอย่างนั้นเลย

การใช้เกียร์ออโตเมติค

ปัจจุบันรถยนต์เกียร์ออโตเมติคได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรติดขัด
เนื่อง จากขับขี่ได้ง่ายสะดวกสบายเพราะใช้เพียงคันเร่งและเบรกเท่านั้น คันเกียร์ของเกียร์ออโตเมติคจะมีตำแหน่งสำหรับใช้งานต่าง ๆ กันดังนี้

ตำแหน่ง P ใช้สำหรับจอดอยู่กับที่หรือบนพื้นที่ลาดเอียง โดยรถจะถูกล็อกให้หยุดอยู่กับที่ด้วยตัวล็อกภายในเกียร์

ตำแหน่ง R ใช้สำหรับการถอยหลัง

ตำแหน่ง N ใช้สำหรับการหยุดรออยู่กับที่บนพื้นราบ ซึ่งในตำแหน่งนี้รถสามารถเข็นให้เคลื่อนที่ได้

ตำแหน่ง D ใช้สำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติโดยเกียร์จะเปลี่ยนไปเองโดยอัตโนมัติตามคันเร่งและความเร็วของรถ
ใช้ ขับขี่ได้ตั้งแต่การเริ่มออกตัวและเพิ่มความเร็วได้ไปเรื่อย ๆ จนถึงความเร็วสูงสุด การขับขี่โดยทั่วไปสามารถใช้เกียร์นี้เพียงเกียร์เดียวเท่านั้นก็ได้

หมายเหตุ สำหรับรถที่มีสวิตซ์โอเวอร์ไดร์ว ซึ่งเป็นอุปกรณ์พิเศษในเกียร์ออโต 4 สปีดบางรุ่น

เมื่อสวิตซ์โอเวอร์ไดร์วอยู่ที่ตำแหน่ง ON เกียร์ออโตจะสามารถทำงานได้ตั้งแต่เกียร์ 1 ถึงเกียร์ 4 โดยอัตโนมัติ
สวิตซ์โอเวอร์ไดร์วอยู่ที่ตำแหน่ง OFF เกียร์ออโตจะทำงานโดยอัตโนมัติได้ตั้งแต่เกียร์ 1 ถึงแค่เกียร์ 3 เท่านั้น

ฉะนั้น การปรับสวิตซ์โอเวอร์ไดร์วจากตำแหน่ง ON ไปเป็น OFF จึงเป็นการลดเกียร์จากเกียร์ 4 มาเป็นเกียร์ 3 เพื่อให้เหมาะกับการเร่งแซงขณะความเร็วสูง และเมื่อปรับสวิตซ์โอเวอร์ไดร์วจากตำแหน่ง OFF ไปเป็น ON จะทำให้เกียร์ 3 กลับไปเป็นเกียร์ 4 อย่างเดิม ทำให้การลดเกียร์เพื่อเร่งแซง หรือเข้าโค้งเป็นไปอย่างคล่องตัวมากขึ้น
ตำแหน่ง 2 ใช้สำหรับการขับขี่ขึ้นทางลาดชันที่ไม่สูงมากนัก และสามารถใช้ความเร็วได้พอสมควร

ตำแหน่ง L ใช้สำหรับการขับขี่ขึ้นทางลาดชันที่สูงมาก และต้องใช้ความเร็วต่ำ
หมายเหตุ
การสตาร์ทเครื่องยนต์ถูกออกแบบให้สามารถกระทำได้เฉพาะ ตำแหน่ง P กับ N เท่านั้น เพื่อความปลอดภัย

ขอขอบคุณข้อมูลจากกระทรวงคมนาคม

สาระควรรู้เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

ที่ความเร็ว 20 กม./ชม. ระยะเบรกที่ต้องใช้อย่างน้อยที่สุด คือ 7 เมตร
ที่ความเร็ว 40 กม./ชม. ระยะเบรกที่ต้องใช้อย่างน้อยที่สุด คือ 18 เมตร
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. ระยะเบรกที่ต้องใช้อย่างน้อยที่สุด คือ 34 เมตร
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. ระยะเบรกที่ต้องใช้อย่างน้อยที่สุด คือ 54 เมตร
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ระยะเบรกที่ต้องใช้อย่างน้อยที่สุด คือ 80 เมตร

หลาย คนมักเข้าใจว่า เกียร์ออโตเมติกสามารถตอบสนองการขับขี่ได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะในความเร็วและอัตราเร่งขณะแซง หากมีความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคต่างๆ ในการใช้เกียร์ออโตเมติก เชื่อว่าจะขับรถเกียร์ออโตเมติกได้อย่างสบาย และเพลิดเพลินด้วยความปลอดภัยไม่แพ้รถเกียร์ธรรมดาเลย

ผู้ขับขี่ส่วนมากใช้เกียร์อยู่เพียง 4 ตำแหน่ง นั่นคือ "D4" เมื่อต้องการขับรถไปข้างหน้า
"R" เมื่อต้องการถอยหลัง "N" หรือ "P" เมื่อต้องการจอดหรือสตาร์ตรถ
อันที่จริงแล้วควรใช้เกียร์ตำแหน่งอื่น เพื่อเหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์เช่นกัน

เทคนิค การขับรถเกียร์ออโตเมติกเมื่อลงทางลาดชันและการคิกดาวน์ (Kick Down) เมื่อต้องการเร่งแซง สำหรับการขับรถลงทางลาดชัน ขอแนะนำให้เลื่อนเกียร์ไปที่ตำแหน่ง "D3" กรณีที่ทางลงนั้นมีระยะเวลายาวแต่ไม่ชันมากนัก แต่กรณีที่ทางลงนั้นชันมากๆ ให้เลื่อนเกียร์ไปที่ตำแหน่ง "2" เพื่อใช้เครื่องยนต์ช่วยเบรก (Engine Brake) ในขณะเดียวกันควรเหยียบเบรกไปด้วยหรืออาจใช้เบรกมือเพื่อช่วยในการหยุดรถที่ ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้อย่าใช้เกียร์ "N" หรือ "D4" ในการขับรถลงทางชัน เพราะจะไม่มีกำลังเครื่องยนต์ช่วยเบรกและช่วยชะลอความเร็ว นับเป็นการขับที่ผิดวิธีและเป็นอันตรายอย่างมาก

กรณีที่ต้องการเร่ง แซงรถคันอื่น หรือต้องการแรงเพิ่มขับเคลื่อนรถอย่างกะทันหัน สามารถเพิ่มความเร็วของรถด้วยการคิกดาวน์ (Kick Down) โดยเหยียบคันเร่งลงไปเกินกว่า 80% ในครั้งเดียวเกียร์จะเปลี่ยนลงอย่างรวดเร็ว สังเกตได้จากรอบเครื่องยนต์จะสูงขึ้น ในขณะที่รถจะมีความเร็วเพิ่มขึ้น

http://www.bmweasternclub.com/forum/index.php?topic=4953.0

http://www.kradarndum.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4.html
http://kamuishirou.multiply.com/journal/item/2
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 มีนาคม 2010, 15:20:40 โดย cyu » บันทึกการเข้า

แอบแซงเพราะแรงน้อย

https://www.facebook.com/cyu.boonyawat
kumanza17
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 996

professional


« ตอบ #8 เมื่อ: 03 มีนาคม 2010, 17:07:35 »

ถ้าติดไฟแดงไม่นานประมาณ 1-2 นาที ผมว่าเหยีบเบรกไว้ ส่วนเกียร์อยู่ตำแหน่งเกียร์ D น่าจะดีกว่า กว่าครับ แต่ถ้ากลัวเผลอปล่อยเบรกก็ ใส่เกียร์ N เลยครับ พร้อมเบรกมือ
ส่วนเกียร์ P น่าจะช่วยเวลารถติด ช่วงบนเนินสพาน หรือ จอดในที่ราดชันครับ
บันทึกการเข้า

fd_2010
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74


« ตอบ #9 เมื่อ: 04 มีนาคม 2010, 17:59:19 »

1 เปลี่ยนตอนติดไฟแดง สึกหรอมากกว่า แต่ประหยัดน้ำมันนิดนึง
2 ไม่เปลี่ยนสึกหรอน้อยกว่า แต่กินน้ำมันมากกว่านิดนึง   เลือกเอา
บันทึกการเข้า
BlaZter
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,282


ผมเป็น HonDaMania คร๊าบบ..


« ตอบ #10 เมื่อ: 04 มีนาคม 2010, 20:55:49 »


  อันนี้เจอมากับตัวเองครับเอามาแชร์กันเป็นความรู้นะ..   อิ  อิ     


 ติดไฟแดงไม่เกิน 60 วิ. เข้า D เหยียบเบรกไว้ครับ

 ติดไฟแดงเกิน 90 วิ. เข้า N ดึงเบรกมือไว้ครับ



 การที่เราเหยียบเบรกแช่ค้างไว้เป็นเวลานานๆจะทำให้ลูกสูบในคาลิเปอร์แข็งและเสื่อมเร็วกว่าปกติครับ 

 เพราะเพิ่งไปเปลี่ยนลูกสูบเบรกมาเองเกือบปีแหระเปลี่ยนที่0ครับช่างเค้าเอามาให้ดูเออ... ถึงได้เข้าใจ

 สังเกตุง่ายๆครับ เหยียบเบรกลึกลงกว่าเดิมโดยที่ผ้าเบรกยังใหม่หรือไม่สึกมากนักและต้องแน่ใจว่าหม้อลมเบรกไม่รั่วด้วยครับ..   ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
หมูอ้วนกทม
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 691



« ตอบ #11 เมื่อ: 06 มีนาคม 2010, 00:19:27 »

ใช้ตามข้อมูลข้างบนเลยครับเป็นการถนอมเกียร์
ติดไม่นานไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ ขี้เกียจเหยียบเบรค ก็ดึงเบรคมือไว้
ติดนานมากค่อยเลื่อนมาN แล้วจะเหยียบเบรคหรือดึงเบรคมือตามแต่ถนัด
จอดยาวเข้าp ดึงเบรคหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าเป็นทางลาดเนิน ให้ดึงเบรคมือก่อนแล้วค่อยเข้าp เพื่อป้องกัน
การเสียดสีทีรุนแรงเวลาเปลี่ยนเกียร์มา n  เพื่อออกตัว  อายจัง
บันทึกการเข้า
nay_mugen
Gold Member
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 247


« ตอบ #12 เมื่อ: 06 มีนาคม 2010, 00:49:24 »

ขอมั่งนะ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ผมว่าถ้าเรา ติดไฟแดงแล้วไม่เปลี่ยนเป็นเกียร์N เหยียบเบรกเอาใว้แทนผมว่ามันเป็นการฉุดเครื่องเอาใว้ทำให้เปลืองน้ำมันมากกว่าเข้าเกียร์Nนะ
สังเกตหรือเปล่าว่าเวลาเข้าเกียร์Dแล้วเหยียบเบรกใว้เครื่องยนต์จะมีแรงวิ่งอยู่พอปล่อยเบรก วิ่งเลย ยิงฟันยิ้ม ;Dเปลืองครัชอีก
บันทึกการเข้า

Drager
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,371


WAZA Cover of skills


« ตอบ #13 เมื่อ: 06 มีนาคม 2010, 14:06:56 »

     สาระดีๆ มีหลักการคับ

    http://www.innentertainment.com/home/news/shownews.php?Nid=3678&Ncate=Variety

     กระทู้หัวข้อคลายกันนี้มีทุกบอร์ด รู้สึกจะตัดสินกันที่ไม่ควรเปลี่ยน  ขยิบตา  เหยียบไว้เฉยๆ จะดีกว่าเปลี่ยนบ่อยๆ ซื้อ MT มาขับสิคับ   ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: การจอดรถขณะติดไฟแดงควรเปลี่ยนจาก D เป็น P หรือ N อันไหนยืดอายุรถได้ดีกว่ากัน
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |