กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผมได้เจ้า Blitz R-Vit Type I มาเพื่อเชื่อมต่อกับ OBD II ในรถ เพื่อดูค่าต่างๆ ซึ่งจริงๆ แล้วมันยังมีอุปกรณ์อีกชุดที่เกิดมาคู่กันคือเจ้า R-Fit หรือชื่อเป็นทางการว่า Blitz R-FIT Fuel Intensity Tracer ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับปรับแต่งน้ำมันในแต่ละรอบเครืองยนต์ ซึ่งก็ทำงานคล้ายๆ กับพวก AFC ต่างๆ ของยี่ห้ออื่น จากสิ่งที่มันเกิดมาคู่กัน แล้วผมมีอยู่เพียงหนึ่งเท่านั้นก็คือเจ้า R-Vit Type I ก็เห็นเหตุให้พยายามหาของมาสะสมให้ครบๆ ไว้เพื่อจะได้ จบโปรเจคไปอีกหนึ่งสุดท้ายเมื่อไม่กิ่วันมานี้ผมก็ได้ เจ้า R-Fit มาสมใจครับ ก็เลยถือโอกาศ เอามาให้ทำความรู้จักกันว่า เจ้าตัวอุปกรณ์ชุดนี้มันคืออะไรนะครับ
หลายๆ ท่านอาจจะรู้จักหรืออาจจะไม่รู้จัก ยี้ห้อ Blitz แต่จริงๆ แล้วของ Blitz นั้นทำอุปกรณ์พวก electronic ที่ใช้กับรถยนต์ออกมาเยอะหลายอย่างเช่นเดี่ยวกับ GReddy และ Apexi แต่กระแสในบ้านเรานั้นไม่แรง เท่าไหร่สำหรับ แต่ลักษณะที่โดดเด่นของ Blitz เมือเทียบกับยี้ห้ออื่นคือขนาดที่เล็กแต่ประสิทธิภาพที่สูงและความแน่นอนของมาตราฐานที่ได้ พูดง่ายๆ คือ ไม่มีปัญหามาให้ยุ่งยาก แม้ว่าเมื่อดูที่ขนาดของอุปกรณ์แล้ว อาจจะมีคำถามในใจว่าไอ้ตัวแค่เนี้ยอ่ะนะจะดีเหรอ แต่ตอบได้เลยครับว่าดี มากๆ ยี้ห้อหนึ่งในตลาดเลย อย่างเจ้าตัว R-Vit Type I ผมใช้งานมันมาประมาณ 4 ปี แล้ว ก็ปกติไม่มีเสียหรือปัญหาอะไรมาให้ ปวดหัวเลย ก็แสดงว่าทนทานใช้ได้ล่ะครับแบบนี้
เอาๆๆ ไปไหนแล้วเนี้ยมาเข้าประเด็นกันที่ตัว เจ้า Blitz R-FIT Fuel Intensity Tracer กันดีกว่าครับ ผมจะเล่าให้ฟังว่าเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ทำอะไรได้บ้างนะ
เจ้าตัว R-Fit เนี้ยสามารถควบคุมการทำงานของการปรับแต่งการจ่ายน้ำมันได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งสามารถใช้งานได้ในรถที่เป็นเครือง N/A และ พวกรถที่มีระบบอัดอากาศ ที่ต้องการปรับแต่งการจ่ายน้ำมัน ซึ่งปกติแล้วรถที่มีการปรับแต่งเครื่อง หรือพูดง่ายๆ ก็อยากให้มันแรงขึ้น ปัจจัยหนึ่งก็คือเรื่องของการปรับจ่ายน้ำมันเน้ยแหละครับ และเจ้าตัว R-Fit เนี้ยมันก็จะอ่านค่าจาก ECU แล้วก็เอามาปรับตั้งต่าเพื่อให้ได้อัตราส่วนผสมระหว่างอากาศกับน้ำมัน ให้เหมาะสมโดยที่ไม่จำเป็นต้องทำการสร้างตารางอัตราส่วนผสมให้ เรียกง่ายๆ คือ ECU ก็ส่งค่าการจ่ายส่วนผสมตามตารางปกติแล้วไอ้เจ้าตัวนี้อ่านค่าออกมาแล้วน้ำมาตกแต่งก่อนไปส่งส่วนอื่นทำงานต่อ โดยที่เจ้าตัว R-Fit เนี้ยจะสามารถเลือกใช้งาน Profile ได้ทั้งหมด 2 Profile ตามที่ได้เลือกไว้ และสามารถเก็บตารางที่มีการปรับแต่งไว้ในตัวอุปกรณ์ได้ถึง 64 ตาราง ซึ่งถ้าหากว่า อยากจะใช้ ตารางอื่นๆ ก็เลือกแล้วมา Save บน Profile ใดก็ได้
ในส่วนของการแสดงผลออกมานั้นก็สามารถแสดงผลบนหน้าจอได้หลายรูปแบบ และ แสดงได้หลาย Parameters เช่น แสดงค่าแรงดันไฟฟ้าของ Airflow, ความเร็ว, หรือ แสดงข้อมูลในส่วนของตารางน้ำมันที่เราปรับแต่งไว้ก็ได้ และที่ผมว่าเทห์ดี คือ ถ้าเรามีตารางอยู่ใน R-Fit ตัวใดตัวหนึ่งก็สามารถ เชื่อมต่อและถ่ายโอนข้อมูลได้ผ่านทางช่องส่งข้อมูลอินฟราเรส ในการปรับแต่งตารางน้ำมันนั้นทำได้ถึง 16 จุด ซึ่งปรับได้ละเอียดขนาดที่ว่า 100 rpm และจุดสุดยอดอยู่ตรงที่ว่าเมื่อเชื่อต่อ R-Vit และ R-Fit เข้าด้วยกัน จะสามารถส่งรับข้อมูลผ่านทาง อินฟราเรส ได้ และจำทำให้สามารถเปิดการใช้งาน Anti Engine Stall Feature สำหรับรถที่มีการใช้งาน Turbo ได้ด้วย และเมื่อใช้เชื่อมต่อกันระหว่าง R-Fit และ R-Vit จะทำให้การติดตั้งทำได้ง่ายขึ้นด้วยครับเพราะว่าแทนที่จะต้องตัดต่อสายเยอะในการติดตั้ง R-Fit ก็ไม่จำเป็นเพราะว่าจะรับค่าจาก ทาง R-Vit ที่อ่านค่าจาก OBD II มาป้อนให้เอง เท่ห์ดีมีการสื่อสารเป็น อินฟราเรส ซึ่งก็จะมีการส่งข้อมูลของรอบเครื่องและตำแหน่งการกดคันเร่งแทนที่ต้องมีการตัดต่อสาย
ในเรื่องของอุปกรณ์นั้น จะมี ด้วยกัน 2 สีนะครับ คือสีดำ แล้วสีเงินเทาๆ โดย Part # ก็ตามข้อมุลด้านล่าง
Part # R-Fit Models
15120 R-FIT, Silver Case
15121 R-FIT, Black Case
มาทำความรู้จักกันต่อโดยดูจากภาพกันดีกว่านะครับ
เห็นกันชัดๆ ไปนะครับว่า สีดำเป็นไงสีเงินเป็นไง
มาดู R-Vit กันชัดๆ ก่อนนะครับ
ตามมาด้วย R-Fit กันชัดๆ
อันนี้เป็นชุดสายไฟของ R-Fit
ส่วนเจ้านี้คือชุดสายไฟแล้วหัวต่อ OBD II ของ R-Vit
เอาล่ะครับ มาสรุปนะครับไอ้เจ้าตัว R-Fit เนี้ย มันก็ติดตั้งได้มาจากอะไรแล้วก็ขนาดเล็กมากแต่ความสามารถในการปรับแต่งตารางน้ำมันทำได้เต็มระบบ สามารถใช้งานกับรถยนต์ได้หลากหลายรุ่นหลากหลายยี้ห้อ และก็ Calibration ก็ทำได้ ไม่ยาก สามารถปรับตั้งได้ ถึง 16 จุด โดยที่ปรับได้ละเอียดถึง ระดับ 100 rpm ซึ่งสามารถเพิ่มหรือลดระดับน้ำมันตามรอบที่ต้องการได้ ยังสามารถ monitor การปรับตั้งค่าได้จากจอแสดงผลหลักและสามารถตั้ง Profile ได้ 2 Profile โดยที่เก็บตารางได้มากถึง 64 ตาราง ตัวหน้าจอก็สามารถปรับตั้งความสว่างได้ด้วย แต่ถ้าหากว่ามีการปรับตั้งให้มีการเตือนตามรอบเครื่องนั้นก็สามารถใช้เตือนในส่วนของการเข้าเกียร์ได้ด้วย มีรูปแบบการแสดงค่าด้วยกัน ทั้งหมด 4 แบบ ไม่ต้องห่วงด้วยว่าตารางจะหายเพราะว่ามี memory ที่เก็บไว้ จะหายก็ต่อเมือมีการทำ Factory Reset เท่านั้นและสามารถตั้ง lock อุปกรณ์ได้ด้วยเพื่อป้องกันการเปลี่ยนค่าโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ สามารถ Cloning ข้อมุลและการปรับตั้งค่าจาก unit อื่นได้ด้วยผ่านช่องส่งข้อมูลอินฟราเรส และสุดท้ายคือถ้าต่อร่วมกับ R-Vit ก็จะสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชั่น Anti Engine Stall Feature ได้ ส่วนเจ้า R-Vit เนี้ยก็ใช้งานเป็นตัว Multi Fuction Display ที่อ่านค่าจาก OBD II เช่นเดี่ยวกับที่ R-Vit I-Color ทำได้ครับ
ผู้เขียน
