ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
21 กรกฎาคม 2025, 22:17:01
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: อยากรู้เกี่ยวกับ ซีวิคปี 96 ตาโต ใครใช้อยู่หรือมีคำแนะนำอะไรดีๆเข้ามาคุยกันครับ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 26 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: อยากรู้เกี่ยวกับ ซีวิคปี 96 ตาโต ใครใช้อยู่หรือมีคำแนะนำอะไรดีๆเข้ามาคุยกันครับ  (อ่าน 327013 ครั้ง)
beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,890


เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^


« ตอบ #640 เมื่อ: 22 มกราคม 2009, 08:27:19 »

ยิ้ม....น้องใหม่ครับพี่ๆ.......ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ......หุหุ

เพิ่งถอย ตาโต ปี96มาครับ........มีปัญหาอยากถามเหมือนกันครับ........แต่เพิ่งเข้าบอร์ดมาครั้งแรกครับยังเกรงใจอยู่ไม่กล้าถามคร้าบบบบบบบ    อิอิ

ยินดีต้อนรับค๊าบบบบ              จุมพิต จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า

beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,890


เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^


« ตอบ #641 เมื่อ: 22 มกราคม 2009, 08:28:55 »

ขอเสริมนิดหน่อย ถ้าเป็นรุ่น Lev จะมีไฟบอกที่หน้าปัทแล้วครับ

ขอเสริมอีกกะติ๊ด  ถ้าเป็นรุ่น LEV จะมีไฟบอกที่หน้าปัท ถูกต้องนะค๊าบบบ

ปล. มีไฟส่องแผนที่ด้วยน๊า . . .   ยิ้มกว้างๆ

ปล.2  เย็นนี้อย่าเบี้ยวนะ อ้ายยยเอ็กซ์ . . . . .  โกรธ โกรธ โกรธ

ปล. 3 ( ถ้าเบี้ยว ตูจะฟันธง ว่ากัวมะเอีย เอีย เอีย !! )                ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

taxman : ปทุมธานี
= ประธานคลับ . . . โอมเหม่ง =
ประธานคลับ
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23,937


Work hard, Play hard


« ตอบ #642 เมื่อ: 22 มกราคม 2009, 10:40:24 »

ขอบคุณมากเลยครับว่าแต่นอนดึกจังครับ. เชียร์บอลหรอครับ  อิอิ


บางคนแอบแชทกับกิ๊กทุกคืนครับ  ใช่มั๊ย NEO
บันทึกการเข้า

NEO
หนุ่มโสดย่านชิดลม
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,065

My Name is NEO


« ตอบ #643 เมื่อ: 22 มกราคม 2009, 12:34:06 »


บางคนแอบแชทกับกิ๊กทุกคืนครับ  ใช่มั๊ย NEO

ถูกต้องนะคราบบบบ
บันทึกการเข้า

kotan
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 65


« ตอบ #644 เมื่อ: 22 มกราคม 2009, 14:25:17 »

 แลบลิ้น โอ้โห.............พวกพี่ๆมีมะเอียยย......มีกิ๊ก กันแล้วหรอ..............ล้ำหน้ามั่กๆๆ
บันทึกการเข้า
kotan
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 65


« ตอบ #645 เมื่อ: 22 มกราคม 2009, 14:37:00 »

พี่ครับมีเรื่องรบกวนคร้าบบบบบบบบ.......................คือว่ารถผมรู้สึกว่าเร่งไม่ออกยังไงไม่รู้ครับ(เคยขับแต่ วีโก้ครับมันเลยแปลกๆ)แบบว่าออกตัวมันไม่ค่อยปรู๊ดปร๊าดดดเลยอ่ะครับ.......แต่ผมก็คิดว่ารถผมซื้อมือ 2มา ร้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ ยังไม่ได้เปลี่ยน แถมกรองอากาศที่มากะรถ เน่า มากๆๆๆ...............จึงอยากถามว่าหากผมเปลี่ยน น้ำมันเครื่อง กับน้ำมันเกียร์ แล้วก็กะว่าจะใส่กรองอากาศสแตนเลสของ เฮอลิเครน ดังนี้ รถผมจะดีขึ้นแบบรู้สึกได้เลยรึป่าวครับ
บันทึกการเข้า
jam-maew
"หำหรรษา"
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,997


เงี่ยนโว้ยย


« ตอบ #646 เมื่อ: 22 มกราคม 2009, 15:42:53 »

พี่ครับมีเรื่องรบกวนคร้าบบบบบบบบ.......................คือว่ารถผมรู้สึกว่าเร่งไม่ออกยังไงไม่รู้ครับ(เคยขับแต่ วีโก้ครับมันเลยแปลกๆ)แบบว่าออกตัวมันไม่ค่อยปรู๊ดปร๊าดดดเลยอ่ะครับ.......แต่ผมก็คิดว่ารถผมซื้อมือ 2มา ร้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ ยังไม่ได้เปลี่ยน แถมกรองอากาศที่มากะรถ เน่า มากๆๆๆ...............จึงอยากถามว่าหากผมเปลี่ยน น้ำมันเครื่อง กับน้ำมันเกียร์ แล้วก็กะว่าจะใส่กรองอากาศสแตนเลสของ เฮอลิเครน ดังนี้ รถผมจะดีขึ้นแบบรู้สึกได้เลยรึป่าวครับ

ผมใส่ herican แบบแผนสแตนเลส
รู้สึกลื่นขึ้นนิดหน่อยนะ...
แต่จะเป็นรอบปลายๆ ช่วงออกตัวผมว่าเหมือนเดิม.
ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า...นะ
บันทึกการเข้า
dear3231
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,382


I ROCK COUPE !


« ตอบ #647 เมื่อ: 22 มกราคม 2009, 19:02:43 »

ขอเสริมนิดหน่อย ถ้าเป็นรุ่น Lev จะมีไฟบอกที่หน้าปัทแล้วครับ

พอดีไม่มี Lev ขับกะเค้า   อายจัง


ขอบคุณมากเลยครับว่าแต่นอนดึกจังครับ. เชียร์บอลหรอครับ  อิอิ

เปล่หรอกครับ แต่ว่าดู....... อยู่      ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 มกราคม 2009, 19:07:02 โดย dear3231 » บันทึกการเข้า

gogopj
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4


« ตอบ #648 เมื่อ: 23 มกราคม 2009, 13:23:25 »

สวัสดีครับ มาใหม่ครับ      ยิ้มเท่ห์
รบกวนนิดนึงครับ พอดีเพิ่งถอยตาโตจากเต๊นมา เพิ่งมารู้ว่าเครื่องยนต์ไม่ใช่เครื่องเดิม(ด้วยความรู้อันน้อยนิด) มันเป็นรหัส ZC อะครับ ลองหาข้อมูลในgoogle ก็มีหลายตัวเหมือนกัน เลยอยากให้พี่ๆเพื่อนๆลุงๆ ช่วยบอกหน่อยครับว่ามันเป็นตัวไหน
ของผม ZC 1600 CC. เกียร์ A/T นะครับ
อ้อแล้วมันเป็น วีเทคด้วยรึป่าวครับ เห็นฝาครอบมันเป็นHonDa V-TEC (สงสัยจะโดนเต๊นหลอก)             เศร้า
บันทึกการเข้า
FunyuB
+++หม่อม 3 หยอย+++
Gold Member
เจ้ายุทธภพ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,146


++หม่อมใหม่ @ อ่อนนุช ซ.30++


« ตอบ #649 เมื่อ: 23 มกราคม 2009, 13:36:16 »

ผมใส่ herican แบบแผนสแตนเลส
รู้สึกลื่นขึ้นนิดหน่อยนะ...
แต่จะเป็นรอบปลายๆ ช่วงออกตัวผมว่าเหมือนเดิม.
ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า...นะ

ชักจะแรงใหญ่แล้วนะ พี่แมว ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

jam-maew
"หำหรรษา"
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,997


เงี่ยนโว้ยย


« ตอบ #650 เมื่อ: 23 มกราคม 2009, 13:49:19 »

ชักจะแรงใหญ่แล้วนะ พี่แมว ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์

 :'( แรงไม่มีอะเด่..
บันทึกการเข้า
Octillion
งงอ่ะดิ
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,854



« ตอบ #651 เมื่อ: 23 มกราคม 2009, 20:18:40 »

:'( แรงไม่มีอะเด่..

เอาสูตรป๋าเบียร์ไป เหยียบไม่ออก ออกตัวไม่ทันใจ ให้นั่งขย่มไปด้วย เพิ่มอีก 10 แรงม้า    ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

KriChy
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 93


« ตอบ #652 เมื่อ: 25 มกราคม 2009, 20:45:34 »

...ถ้าจะติดมิเตอร์ เอาแบบสวยงาม + ใช้งานได้จริง
ติดวัดอะไรดีครับ ลำดับตามใช้งานให้หน่อยน๊า...
บันทึกการเข้า
pt_kong
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 331


แรงแต่เงียบ เป็นความเฉียบส่วนตัว


« ตอบ #653 เมื่อ: 25 มกราคม 2009, 20:50:36 »

น่าจะได้นะคับ
บันทึกการเข้า
FunyuB
+++หม่อม 3 หยอย+++
Gold Member
เจ้ายุทธภพ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,146


++หม่อมใหม่ @ อ่อนนุช ซ.30++


« ตอบ #654 เมื่อ: 26 มกราคม 2009, 21:12:59 »

...ถ้าจะติดมิเตอร์ เอาแบบสวยงาม + ใช้งานได้จริง
ติดวัดอะไรดีครับ ลำดับตามใช้งานให้หน่อยน๊า...

1. มาตรวัดบูสต์ (BOOTS METER)
         มาตรวัดตัวนี้จะเห็นในรถยนต์แทบทุกคันที่มีการติดตั้งเทอร์โบเข ้าไป รวมถึงรถยนต์ที่มีเทอร์โบมาจากโรงงานก็อาจจะมีตัวนี้มาให้
เนื่องจากมันเป็นตัวบ่งบอกสำคัญให้ผู้ขับขี่ทราบว่า มีแรงดันอากาศ หรือแรงบูสต์เข้ามายังเครื่องยนต์มากน้อยเพียงไร มาตรวัดตัวนี้โดยปกติบนหน้าปัด
จะมีค่าตัวเลขด้านล่างขึ้นมาที่ 0 ซึ่งเป็นค่าของ แวคคั่ม หรือ แรงดันลบ  และจาก 0 ขึ้นไป จะเป็นของเทอร์โบ หรือ แรงดันบวก และในส่วนของเทอร์โบนี่เอง
ที่จะเป็นส่วนบ่งบอกว่า เทอร์โบ กำลังทำงานอยู่สำหรับการดูค่าอัตราบูสต์เทอร์โบนั้น ถ้าหากว่าเข็มบนมาตรวัดเดินช้ามาก เป็นตัวแสดงให้เห็นอย่างหนึ่งว่า
เทอร์โบมีขนาดใหญ่เกินไป ส่งผลให้ไอเสียที่ไปปั่นใบเทอร์โบไม่พอ การแก้ไขก็น่าจะเป็นการเปลี่ยนเป็นแคมฯ องศาสูง
รือไม่ก็เปลี่ยนจังหวะของวาล์วเป็นต้น นอกจากนี้หากบนมาตรวัดชี้ว่ามีแรงบูสต์สูงเกินไปจากที่มีการตั้ งค่าเอาไว้ ก็อาจจะสรุปได้ว่าเกิดปัญหาขึ้นที่สปริงวาล์ว
ของเวสต์เกต ที่เป็นตัวควบคุมแรงดันบูสต์ของเทอร์โบเป็นต้น สำหรับมาตรวัดอัตราการบูสต์นี้ อาจจะมีค่าการวัดไม่เหมือนกัน บางครั้งอาจบ่งบอกค่าการวัดเป็น
Bar (บาร์) หรือว่า psi (ปอนด์) อีกทั้งค่าสูงสุดของมาตรวัดบูสต์ ก็ไม่เท่ากัน จึงควรเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับความต้องการ

     2. มาตรวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ (WATER TEMP METER)
         สำหรับมาตรวัดความร้อน ตามปกติในรถธรรมดาทั่วไป ก็จะมีติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว
แต่ว่ารถยนต์ทั่วไปนั้นอาจไม่ได้อ่อนไหวในเรื่องของความร้อนมาก นัก ค่าแสดงให้เห็นจึงไม่ละเอียดมากนัก ทั้งนี้เป็นเพราะทางโรงงานตั้งใจทำมาอย่างนั้น
เพื่อคนขับจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมาก แต่ว่าเมื่อไหร่ที่เกจความร้อนขยับสูงขึ้น นั่นหมายความว่าความร้อนขึ้นค่อนข้างมาก ทว่าถ้าเป็นในรถธรรมดา
อาจจะยังไม่ก่อปัญหามากนัก ขณะที่รถยนต์ซึ่งใช้เครื่องยนต์เทอร์โบและมีการโมดิฟาย หรือปรับบูสต์ เรื่องปัญหาความร้อนมีความสำคัญมาก 
เพราะอาจหมายถึงความเสียหายที่เกิดกับเครื่องยนต์ได้เลยทีเดียว โดยปกติ เซ็นเซอร์ ที่ใช้วัดความร้อนของเครื่องยนต์จะติดตั้งอยู่ตรงท่อน้ำที่ออกจ ากเครื่อง
ซึ่งอุณหภูมิโดยปกติที่เครื่องยนต์ทำงานควรจะอยู่ที่ราว 90-100 องศาเซลเซียส และควรควบคุมไม่ให้สูงขึ้นเกินไปกว่า 120 องศาเซลเซียส
หากว่าอุณหภูมิยังสูงขึ้นก็พอมีวิธีแก้ไขคือ เพิ่มขนาดของหม้อน้ำให้ใหญ่ขึ้น เปิดกันชนหน้าให้ลมผ่านเข้าหม้อน้ำได้ง่ายขึ้น หรือไม่ก็เจาะสคูปดักลมบนฝากระโปรงหน้า
ให้ลมเข้ามาเป่าห้องเครื่อง วิธีการเหล่านี้พอจะสามารถทำให้เครื่องยนต์เย็นได้บ้างเหมือนกัน
   
   3. มาตรวัดรอบ (TACHO METER) RPM
         สำหรับมาตรวัดรอบ ก็เหมือนกับมาตรวัดความร้อน คือรถยนต์ส่วนใหญ่จะมีการติดตั้งมาให้จากโรงงานอยู่แล้ว  แต่สาเหตุที่มีบางคนต้องไปติดเพิ่มอาจจะมาจาก
เหตุผลต่างกันไป บางคนอาจคิดว่าเป็นอุปกรณ์ตกแต่งสร้างความสวยงาม  หรือความเท่ แต่กับบางคนอาจจะเป็นสิ่งจำเป็นจริง ๆ อย่างรถยนต์ที่ผ่านการโมดิฟายเปลี่ยน
ไปใช้แคมฯ องศาสูงมาก ๆ  จนทำให้สามารถเร่งรอบได้มากกว่าเดิม ซึ่งวัดรอบที่มีติดมากับรถ ไม่สามารถแสดงข้อมูลได้เพียงพอ จึงต้องหาอันใหม่มาติดเข้าไป
หรือในรถยนต์ที่ทำขึ้นมาสำหรับการแข่งขันควอเตอร์ไมล์ซึ่งจังหว ะการเปลี่ยนเกียร์ ถือเป็นสิ่งที่ต้องการให้ความสำคัญมาก การตัดสินแพ้ชนะอยู่ที่เวลาเพียงเศษเสี้ยว
วินาที ดังนั้นมาตรวัดรอบที่มาพร้อมไฟเตือน  จึงกลายเป็นอุปกรณ์ช่วยได้อย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตามการแพ้ชนะไม่ได้เพียงอุปกรณ์ที่ว่าเท่านั้น จังหวะฝีมือ สมาธิ
ในการเปลี่ยนเกียร์ของผู้ขับขี่เป็นเรื่องที่สำคัญกว่า &n bsp;   

     4. มาตรวัดอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง (OIL TEMP METER)
         อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง มีความสำคัญมากพอสมควร เพราะถือว่ามีผลกระทบกับเครื่องยนต์โดยตรง หากว่าอุณหภูมิของน้ำมันเครื่องสูงเกินไป เครื่องยนต์ก็
ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำมันเ ครื่องที่ใช้  ซึ่งในตลาดน้ำมันเครื่องแยกเป็นหลายประเภท
มีทั้งแบบทนความร้อนสูงที่อุณหภูมิสูงถึง 120 องศาเซลเซียส ส่วนบางประเภทอุณหภูมิแค่ 110 องศาเซลเซียส ก็ทนไม่ไหวกลายสภาพเป็นน้ำก็มี
โดยปกติของอุณหภูมิน้ำมันเครื่องจะสูง-ต่ำ ไปในแนวทางเดียวกับอุณหภูมิของเครื่องยนต์หรืออุณหภูมิหม้อน้ำ ซึ่งถ้าความร้อนของน้ำขึ้น
อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องก็จะขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ในสภาพการใช้งานเครื่องยนต์ควรรักษาอุณหภูมิของน้ำมันเค รื่องให้อยู่ในช่วง 80-110 องศาเซลเซียส
ถ้าหากอุณหภูมิสูงขึ้นไปเกิน 120 องศาเซลเซียส ควรทำให้เย็นลงก่อนจึงใช้งานเครื่องยนต์ต่อไป สำหรับทางออกในการช่วยรักษาอุณหภูมิของน้ำมันเครื่อง
รถยนต์ที่ผ่านการโมดิฟายมักมีการใส่ OIL COOLER เข้าไปช่วยก็ทำให้อุณหภูมิน้ำมันเครื่องไม่สูงเกินไป

     5. มาตรวัดแรงดันน้ำมันเครื่อง (OIL PRESSURE METER)         
มาตรวัดตัวนี้จะมีส่วนสำคัญในการแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ น้ำมันเครื่อง โดยค่าที่แสดงออกมาให้เห็นจะเป็นเวลาที่เครื่องยนต์ทำงานในรอบส ูงๆ
หรือขณะที่เครื่องยนต์ มีอุณหภูมิในการทำงาน เพราะเมื่อน้ำมันเครื่องเจอเข้ากับความร้อนสูง ๆ จะถูกหลอมให้เหลวลง และถ้าน้ำมันเครื่องเหลวมากเท่าไหร่
ประสิทธิภาพความหล่อลื่นก็จะลดลงการสึกหรอ จนถึงการ ระบายความร้อนก็จะลดประสิทธิภาพลงตามไปด้วย ดังนั้นการตรวจสอบตรงจุดนี้จึงมีความสำคัญ
ซึ่งมาตรวัดแรงดันน้ำมันเครื่องจะเป็นตัวบ่งบอกข้อมูลนี้ได้ โดยในการแสดงข้อมูลให้เห็นนั้น หากว่ามีแรงดูดน้อย ที่เรียกว่า "แรงดันต่ำ" จะถือว่าการหล่อลื่นไม่ดี
เพราะแสดงถึงว่าน้ำมันเครื่องเหลวมาก ใช้แรงดูดน้อยก็ไหลเข้ามาแล้ว ในทางกลับกัน ถ้าน้ำมันเครื่องมีความหนืดมาก แรงดูดก็ต้องใช้แรงมาก  เรียกว่า "แรงดันสูง"
จะสังเกตได้ว่าเวลาที่น้ำมันเครื่องยังคงเย็น มาตรวัดจะแสดงว่ามีแรงดันสูง แต่เมื่อความร้อนเพิ่มขึ้น น้ำมันเครื่องคลายความหนืดลง ความดันก็จะเริ่มต่ำลงมา
สำหรับรถยนต์โดยทั่วไปในขณะวิ่ง แรงดันน้ำมันเครื่องควรอยู่ที่ประมาณ
3 - 4 kg/cm2 หรือหากสูงมากก็ไม่ควรจะเกิน 6 kg/cm2

     6. มาตรวัดอุณหภูมิท่อไอเสีย (EX. TEMP METER)
         อุณหภูมิของท่อไอเสีย หลายคนอาจจะมองว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับประสิทธิภาพ การทำงานของเครื่องยนต์ ทว่าในความเป็นจริงมันมีส่วนที่สัมพันธ์กับแรงดันน้ำมัน
หรือการไหลของอากาศสำหรับรถที่ผ่านการโมดิฟาย นอกจากน้ำมันเครื่องแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญ ก็คือ ปริมาณการจ่ายน้ำมันเบนซิน ซึ่งปริมาณน้ำมันเบนซินจะมาก
จะน้อย ก็สามารถวัดได้จากมาตรวัดอุณหภูมิท่อไอเสียนี่เอง  ซึ่งหากมีการปรับน้ำมันให้อ่อนลง จะทำให้อุณหภูมิของท่อไอเสียเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเป็นในทางตรงกันข้ามน้ำมัน
แก่ อุณหภูมิของท่อไอเสีย ก็จะต่ำลง ดังนั้นมาตรวัดอุณหภูมิไอเสีย จึงสามารถบอกข้อมูลของรถในขณะวิ่งได้ อย่างไรก็ตามโดยทั่วไป มาตรวัดอากาศไหลเข้า 
หรือว่ามาตรวัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง ก็ใช้บอกข้อมูลในทางเดียวกัน

     7. มาตรวัดแรงดันเชื้อเพลิง (FUEL PRESSURE METER)
         สำหรับมาตรวัดตัวนี้ใช้เป็นตัวเช็คแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงว่า ในขณะที่เหยียบคันเร่งแล้วน้ำมันขึ้นมาตามปริมาณที่เราออกแรงกด ลงไปบนคันเร่งหรือไม่
สำหรับคนที่ใช้รถแบบปรกติหรือใช้บนถนนทั่วไป มาตรวัดตัวนี้คงจะไม่จำเป็น อย่างไรก็ดีหากว่า ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงหรือหัวฉีดเกิดมีปัญหาขึ้นมา มาตรวัดที่บอกค่า
ของแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง ก็สามารถเป็นตัวบอกความผิดปกติได้ วิธีดูมาตรวัดตัวนี้ จะใช้ดูค่าในขณะที่รถยนต์ติดเครื่องเดินเบาเป็นหลัก สำหรับรถยนต์ที่มีเทอร์โบ
ติดตั้งอยู่ด้วยค่าของแรงดันนี้จะขึ้น ไปตามอัตราการบูสต์ เช่น ค่าที่วัดได้ในขณะเดินเบามีค่าเป็น 3 บาร์ แต่เมื่อเทอร์โบบูสต์ไป 1 บาร์
ค่าบนของมาตรวัดจะชี้ไปที่ 4 บาร์ ซึ่งหากว่าแรงดันนี้ตกลง นั่นหมายถึงว่าขนาดของปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงหรือหัวฉีดที่ใช้ไม่ เพียงพอ เสียแล้ว
ดังนั้นมาตรวัดตัวนี้จึงมีความจำเป็นไม่น้อยสำหรับรถยนต์เทอร์โ บ ซึ่งผู้ขับขี่ความสังเกตค่าแรงดันในขณะที่เดินเบาเป็นหลัก และสังเกตว่าแรงดันน้ำมัน
นั้นขึ้นไปตามอัตราการบูสต์หรือไม่

     8. มาตรวัดส่วนผสมของอากาศกับน้ำมันเชื้อเพลิง (A/F METER)
         มาตรวัดตัวนี้เป็นการเช็คความสมดุลระหว่างอากาศกับน้ำมันเชื้อเ พลิง สำหรับ A/F คืออัตราส่วนระหว่างอากาศกับน้ำมันเชื้อเพลิง
ซึ่งโดยทั่วไปอัตราส่วนตามหลักการนี้จะต้องมีค่าเท่ากับ 14 ในขณะที่เครื่องเดินเบา เลข 14 ก็จะหมายถึงอากาศ 14 ส่วน/น้ำมัน 1 ส่วน 
ซึ่งจะผสมอยู่ในห้องเผาไหม้สำหรับจุดระเบิด และค่านี้จะต่ำลงไปในขณะที่มีการเร่งเนื่องจากปริมาณน้ำมันเพิ่ มขึ้น และค่า A/F นี้จะสูงขึ้นในขณะที่ทำการถอนคันเร่ง
โดยค่า A/F นี้จะถูกแบ่งออกเป็น "บาง" กับ "หนา" ซึ่งถ้าต้องการทำให้รถแรงขึ้น  ก็ต้องปรับให้ค่า A/F ให้มีค่าที่บางลง คือการปรับให้น้ำมัน
น้อยลง-อากาศมากขึ้น อย่างไรก็ตามการปรับในลักษณะดังกล่าว ก็มีผลทำให้อุณหภูมิในห้องเผาไหม้สูงขึ้นได้ จึงจำเป็นต้องมีการปรับอย่างระมัดระวัง
ทั้งนี้ค่า A/F ไม่ควรสูงเกินกว่า 12  เพราะนั่นหมายความว่าน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยเกินไป ซึ่งในรถที่มีการโมดิฟาย ควรจะให้มีค่า A/F ขณะเร่งอยู่ในช่วง
10.5- 11.5 ก็พอ

     9. แวคคั่ม มิเตอร์ (VACCUM METER)
         มาตรวัด VACCUM ตัวนี้ จริง ๆ แล้วมันก็อยู่ในมาตรวัดตัวเดียวกับมาตรวัดอัตราบูสต์เทอร์โบ มาตรวัดตัวนี้จะตอบสนองกับ  อัตราการเหยียบคันเร่ง
ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการเช็คความสิ้นเปลืองน้ำมันได้เหมือนกัน สำหรับการดูค่าของมาตรวัดตัวนี้ต้องดูเวลา เครื่องเดินเบา ซึ่งจะดูได้จากค่าสุญญากาศ
ถ้าค่าสุญญากาศนี้มีมาก ก็จะถือได้ว่าเครื่องยังคงมีสภาพที่สมบูรณ์ ไม่รั่วซึม แต่ถ้าค่านี้ลดลงไปมาก นั่นก็เป็นไปในทางตรงกันข้าม มาตรวัดตัวนี้จึงเป็นมาตรวัด
ที่อาจมีไว้เช็คสภาพของเครื่องยนต์ ได้  ทั้งนี้ในขณะเครื่องยนต์เดินเบาถ้าเข็มบนมาตรวัดนี้บอกค่าไม่ถึ ง 300 cmHg นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าเครื่องยนต์
มีสภาพย่ำแย่ โดยเครื่องยนต์ใหม่ ๆ ที่มีความสมบูรณ์ค่าตัวนี้จะอยู่ที่ประมาณ 450 cmHg
บันทึกการเข้า

My_Mint
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,647



« ตอบ #655 เมื่อ: 26 มกราคม 2009, 22:15:43 »

^
^
^
^
ข้อมูลแน่นเจงๆ  ยิ้มเท่ห์
ถ้าใส่ใช้งานก็   Volt , Oil Press , Water Temp  จะมีประโยชน์สุด
ถ้าอยากมีความสุขกับการกระดิกขึ้นๆ ลงๆ ของเข็มเกจ  ก็เปลี่ยนจาก Volt เป็น Vacuum ครับ  อายจัง
บันทึกการเข้า

beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,890


เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^


« ตอบ #656 เมื่อ: 27 มกราคม 2009, 00:51:09 »

เอาสูตรป๋าเบียร์ไป เหยียบไม่ออก ออกตัวไม่ทันใจ ให้นั่งขย่มไปด้วย เพิ่มอีก 10 แรงม้า    ยิ้มเท่ห์

ไอเน่ มีพาดพิง...!!      โกรธ โกรธ โกรธ

เด๋วนี้มะต้องขย่มแล้วเฟ้ยย  คิคิคิ            ยิ้มเท่ห์ ยิ้มกว้างๆ


1. มาตรวัดบูสต์ (BOOTS METER)
         มาตรวัดตัวนี้จะเห็นในรถยนต์แทบทุกคันที่มีการติดตั้งเทอร์โบเข ้าไป รวมถึงรถยนต์ที่มีเทอร์โบมาจากโรงงานก็อาจจะมีตัวนี้มาให้
เนื่องจากมันเป็นตัวบ่งบอกสำคัญให้ผู้ขับขี่ทราบว่า มีแรงดันอากาศ หรือแรงบูสต์เข้ามายังเครื่องยนต์มากน้อยเพียงไร มาตรวัดตัวนี้โดยปกติบนหน้าปัด
จะมีค่าตัวเลขด้านล่างขึ้นมาที่ 0 ซึ่งเป็นค่าของ แวคคั่ม หรือ แรงดันลบ  และจาก 0 ขึ้นไป จะเป็นของเทอร์โบ หรือ แรงดันบวก และในส่วนของเทอร์โบนี่เอง
ที่จะเป็นส่วนบ่งบอกว่า เทอร์โบ กำลังทำงานอยู่สำหรับการดูค่าอัตราบูสต์เทอร์โบนั้น ถ้าหากว่าเข็มบนมาตรวัดเดินช้ามาก เป็นตัวแสดงให้เห็นอย่างหนึ่งว่า
เทอร์โบมีขนาดใหญ่เกินไป ส่งผลให้ไอเสียที่ไปปั่นใบเทอร์โบไม่พอ การแก้ไขก็น่าจะเป็นการเปลี่ยนเป็นแคมฯ องศาสูง
รือไม่ก็เปลี่ยนจังหวะของวาล์วเป็นต้น นอกจากนี้หากบนมาตรวัดชี้ว่ามีแรงบูสต์สูงเกินไปจากที่มีการตั้ งค่าเอาไว้ ก็อาจจะสรุปได้ว่าเกิดปัญหาขึ้นที่สปริงวาล์ว
ของเวสต์เกต ที่เป็นตัวควบคุมแรงดันบูสต์ของเทอร์โบเป็นต้น สำหรับมาตรวัดอัตราการบูสต์นี้ อาจจะมีค่าการวัดไม่เหมือนกัน บางครั้งอาจบ่งบอกค่าการวัดเป็น
Bar (บาร์) หรือว่า psi (ปอนด์) อีกทั้งค่าสูงสุดของมาตรวัดบูสต์ ก็ไม่เท่ากัน จึงควรเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับความต้องการ

     2. มาตรวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ (WATER TEMP METER)
         สำหรับมาตรวัดความร้อน ตามปกติในรถธรรมดาทั่วไป ก็จะมีติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว
แต่ว่ารถยนต์ทั่วไปนั้นอาจไม่ได้อ่อนไหวในเรื่องของความร้อนมาก นัก ค่าแสดงให้เห็นจึงไม่ละเอียดมากนัก ทั้งนี้เป็นเพราะทางโรงงานตั้งใจทำมาอย่างนั้น
เพื่อคนขับจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมาก แต่ว่าเมื่อไหร่ที่เกจความร้อนขยับสูงขึ้น นั่นหมายความว่าความร้อนขึ้นค่อนข้างมาก ทว่าถ้าเป็นในรถธรรมดา
อาจจะยังไม่ก่อปัญหามากนัก ขณะที่รถยนต์ซึ่งใช้เครื่องยนต์เทอร์โบและมีการโมดิฟาย หรือปรับบูสต์ เรื่องปัญหาความร้อนมีความสำคัญมาก 
เพราะอาจหมายถึงความเสียหายที่เกิดกับเครื่องยนต์ได้เลยทีเดียว โดยปกติ เซ็นเซอร์ ที่ใช้วัดความร้อนของเครื่องยนต์จะติดตั้งอยู่ตรงท่อน้ำที่ออกจ ากเครื่อง
ซึ่งอุณหภูมิโดยปกติที่เครื่องยนต์ทำงานควรจะอยู่ที่ราว 90-100 องศาเซลเซียส และควรควบคุมไม่ให้สูงขึ้นเกินไปกว่า 120 องศาเซลเซียส
หากว่าอุณหภูมิยังสูงขึ้นก็พอมีวิธีแก้ไขคือ เพิ่มขนาดของหม้อน้ำให้ใหญ่ขึ้น เปิดกันชนหน้าให้ลมผ่านเข้าหม้อน้ำได้ง่ายขึ้น หรือไม่ก็เจาะสคูปดักลมบนฝากระโปรงหน้า
ให้ลมเข้ามาเป่าห้องเครื่อง วิธีการเหล่านี้พอจะสามารถทำให้เครื่องยนต์เย็นได้บ้างเหมือนกัน
  
   3. มาตรวัดรอบ (TACHO METER) RPM
         สำหรับมาตรวัดรอบ ก็เหมือนกับมาตรวัดความร้อน คือรถยนต์ส่วนใหญ่จะมีการติดตั้งมาให้จากโรงงานอยู่แล้ว  แต่สาเหตุที่มีบางคนต้องไปติดเพิ่มอาจจะมาจาก
เหตุผลต่างกันไป บางคนอาจคิดว่าเป็นอุปกรณ์ตกแต่งสร้างความสวยงาม  หรือความเท่ แต่กับบางคนอาจจะเป็นสิ่งจำเป็นจริง ๆ อย่างรถยนต์ที่ผ่านการโมดิฟายเปลี่ยน
ไปใช้แคมฯ องศาสูงมาก ๆ  จนทำให้สามารถเร่งรอบได้มากกว่าเดิม ซึ่งวัดรอบที่มีติดมากับรถ ไม่สามารถแสดงข้อมูลได้เพียงพอ จึงต้องหาอันใหม่มาติดเข้าไป
หรือในรถยนต์ที่ทำขึ้นมาสำหรับการแข่งขันควอเตอร์ไมล์ซึ่งจังหว ะการเปลี่ยนเกียร์ ถือเป็นสิ่งที่ต้องการให้ความสำคัญมาก การตัดสินแพ้ชนะอยู่ที่เวลาเพียงเศษเสี้ยว
วินาที ดังนั้นมาตรวัดรอบที่มาพร้อมไฟเตือน  จึงกลายเป็นอุปกรณ์ช่วยได้อย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตามการแพ้ชนะไม่ได้เพียงอุปกรณ์ที่ว่าเท่านั้น จังหวะฝีมือ สมาธิ
ในการเปลี่ยนเกียร์ของผู้ขับขี่เป็นเรื่องที่สำคัญกว่า &n bsp;   

     4. มาตรวัดอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง (OIL TEMP METER)
         อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง มีความสำคัญมากพอสมควร เพราะถือว่ามีผลกระทบกับเครื่องยนต์โดยตรง หากว่าอุณหภูมิของน้ำมันเครื่องสูงเกินไป เครื่องยนต์ก็
ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำมันเ ครื่องที่ใช้  ซึ่งในตลาดน้ำมันเครื่องแยกเป็นหลายประเภท
มีทั้งแบบทนความร้อนสูงที่อุณหภูมิสูงถึง 120 องศาเซลเซียส ส่วนบางประเภทอุณหภูมิแค่ 110 องศาเซลเซียส ก็ทนไม่ไหวกลายสภาพเป็นน้ำก็มี
โดยปกติของอุณหภูมิน้ำมันเครื่องจะสูง-ต่ำ ไปในแนวทางเดียวกับอุณหภูมิของเครื่องยนต์หรืออุณหภูมิหม้อน้ำ ซึ่งถ้าความร้อนของน้ำขึ้น
อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องก็จะขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ในสภาพการใช้งานเครื่องยนต์ควรรักษาอุณหภูมิของน้ำมันเค รื่องให้อยู่ในช่วง 80-110 องศาเซลเซียส
ถ้าหากอุณหภูมิสูงขึ้นไปเกิน 120 องศาเซลเซียส ควรทำให้เย็นลงก่อนจึงใช้งานเครื่องยนต์ต่อไป สำหรับทางออกในการช่วยรักษาอุณหภูมิของน้ำมันเครื่อง
รถยนต์ที่ผ่านการโมดิฟายมักมีการใส่ OIL COOLER เข้าไปช่วยก็ทำให้อุณหภูมิน้ำมันเครื่องไม่สูงเกินไป

     5. มาตรวัดแรงดันน้ำมันเครื่อง (OIL PRESSURE METER)        
มาตรวัดตัวนี้จะมีส่วนสำคัญในการแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ น้ำมันเครื่อง โดยค่าที่แสดงออกมาให้เห็นจะเป็นเวลาที่เครื่องยนต์ทำงานในรอบส ูงๆ
หรือขณะที่เครื่องยนต์ มีอุณหภูมิในการทำงาน เพราะเมื่อน้ำมันเครื่องเจอเข้ากับความร้อนสูง ๆ จะถูกหลอมให้เหลวลง และถ้าน้ำมันเครื่องเหลวมากเท่าไหร่
ประสิทธิภาพความหล่อลื่นก็จะลดลงการสึกหรอ จนถึงการ ระบายความร้อนก็จะลดประสิทธิภาพลงตามไปด้วย ดังนั้นการตรวจสอบตรงจุดนี้จึงมีความสำคัญ
ซึ่งมาตรวัดแรงดันน้ำมันเครื่องจะเป็นตัวบ่งบอกข้อมูลนี้ได้ โดยในการแสดงข้อมูลให้เห็นนั้น หากว่ามีแรงดูดน้อย ที่เรียกว่า "แรงดันต่ำ" จะถือว่าการหล่อลื่นไม่ดี
เพราะแสดงถึงว่าน้ำมันเครื่องเหลวมาก ใช้แรงดูดน้อยก็ไหลเข้ามาแล้ว ในทางกลับกัน ถ้าน้ำมันเครื่องมีความหนืดมาก แรงดูดก็ต้องใช้แรงมาก  เรียกว่า "แรงดันสูง"
จะสังเกตได้ว่าเวลาที่น้ำมันเครื่องยังคงเย็น มาตรวัดจะแสดงว่ามีแรงดันสูง แต่เมื่อความร้อนเพิ่มขึ้น น้ำมันเครื่องคลายความหนืดลง ความดันก็จะเริ่มต่ำลงมา
สำหรับรถยนต์โดยทั่วไปในขณะวิ่ง แรงดันน้ำมันเครื่องควรอยู่ที่ประมาณ
3 - 4 kg/cm2 หรือหากสูงมากก็ไม่ควรจะเกิน 6 kg/cm2

     6. มาตรวัดอุณหภูมิท่อไอเสีย (EX. TEMP METER)
         อุณหภูมิของท่อไอเสีย หลายคนอาจจะมองว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับประสิทธิภาพ การทำงานของเครื่องยนต์ ทว่าในความเป็นจริงมันมีส่วนที่สัมพันธ์กับแรงดันน้ำมัน
หรือการไหลของอากาศสำหรับรถที่ผ่านการโมดิฟาย นอกจากน้ำมันเครื่องแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญ ก็คือ ปริมาณการจ่ายน้ำมันเบนซิน ซึ่งปริมาณน้ำมันเบนซินจะมาก
จะน้อย ก็สามารถวัดได้จากมาตรวัดอุณหภูมิท่อไอเสียนี่เอง  ซึ่งหากมีการปรับน้ำมันให้อ่อนลง จะทำให้อุณหภูมิของท่อไอเสียเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเป็นในทางตรงกันข้ามน้ำมัน
แก่ อุณหภูมิของท่อไอเสีย ก็จะต่ำลง ดังนั้นมาตรวัดอุณหภูมิไอเสีย จึงสามารถบอกข้อมูลของรถในขณะวิ่งได้ อย่างไรก็ตามโดยทั่วไป มาตรวัดอากาศไหลเข้า 
หรือว่ามาตรวัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง ก็ใช้บอกข้อมูลในทางเดียวกัน

     7. มาตรวัดแรงดันเชื้อเพลิง (FUEL PRESSURE METER)
         สำหรับมาตรวัดตัวนี้ใช้เป็นตัวเช็คแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงว่า ในขณะที่เหยียบคันเร่งแล้วน้ำมันขึ้นมาตามปริมาณที่เราออกแรงกด ลงไปบนคันเร่งหรือไม่
สำหรับคนที่ใช้รถแบบปรกติหรือใช้บนถนนทั่วไป มาตรวัดตัวนี้คงจะไม่จำเป็น อย่างไรก็ดีหากว่า ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงหรือหัวฉีดเกิดมีปัญหาขึ้นมา มาตรวัดที่บอกค่า
ของแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง ก็สามารถเป็นตัวบอกความผิดปกติได้ วิธีดูมาตรวัดตัวนี้ จะใช้ดูค่าในขณะที่รถยนต์ติดเครื่องเดินเบาเป็นหลัก สำหรับรถยนต์ที่มีเทอร์โบ
ติดตั้งอยู่ด้วยค่าของแรงดันนี้จะขึ้น ไปตามอัตราการบูสต์ เช่น ค่าที่วัดได้ในขณะเดินเบามีค่าเป็น 3 บาร์ แต่เมื่อเทอร์โบบูสต์ไป 1 บาร์
ค่าบนของมาตรวัดจะชี้ไปที่ 4 บาร์ ซึ่งหากว่าแรงดันนี้ตกลง นั่นหมายถึงว่าขนาดของปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงหรือหัวฉีดที่ใช้ไม่ เพียงพอ เสียแล้ว
ดังนั้นมาตรวัดตัวนี้จึงมีความจำเป็นไม่น้อยสำหรับรถยนต์เทอร์โ บ ซึ่งผู้ขับขี่ความสังเกตค่าแรงดันในขณะที่เดินเบาเป็นหลัก และสังเกตว่าแรงดันน้ำมัน
นั้นขึ้นไปตามอัตราการบูสต์หรือไม่

     8. มาตรวัดส่วนผสมของอากาศกับน้ำมันเชื้อเพลิง (A/F METER)
         มาตรวัดตัวนี้เป็นการเช็คความสมดุลระหว่างอากาศกับน้ำมันเชื้อเ พลิง สำหรับ A/F คืออัตราส่วนระหว่างอากาศกับน้ำมันเชื้อเพลิง
ซึ่งโดยทั่วไปอัตราส่วนตามหลักการนี้จะต้องมีค่าเท่ากับ 14 ในขณะที่เครื่องเดินเบา เลข 14 ก็จะหมายถึงอากาศ 14 ส่วน/น้ำมัน 1 ส่วน 
ซึ่งจะผสมอยู่ในห้องเผาไหม้สำหรับจุดระเบิด และค่านี้จะต่ำลงไปในขณะที่มีการเร่งเนื่องจากปริมาณน้ำมันเพิ่ มขึ้น และค่า A/F นี้จะสูงขึ้นในขณะที่ทำการถอนคันเร่ง
โดยค่า A/F นี้จะถูกแบ่งออกเป็น "บาง" กับ "หนา" ซึ่งถ้าต้องการทำให้รถแรงขึ้น  ก็ต้องปรับให้ค่า A/F ให้มีค่าที่บางลง คือการปรับให้น้ำมัน
น้อยลง-อากาศมากขึ้น อย่างไรก็ตามการปรับในลักษณะดังกล่าว ก็มีผลทำให้อุณหภูมิในห้องเผาไหม้สูงขึ้นได้ จึงจำเป็นต้องมีการปรับอย่างระมัดระวัง
ทั้งนี้ค่า A/F ไม่ควรสูงเกินกว่า 12  เพราะนั่นหมายความว่าน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยเกินไป ซึ่งในรถที่มีการโมดิฟาย ควรจะให้มีค่า A/F ขณะเร่งอยู่ในช่วง
10.5- 11.5 ก็พอ

     9. แวคคั่ม มิเตอร์ (VACCUM METER)
         มาตรวัด VACCUM ตัวนี้ จริง ๆ แล้วมันก็อยู่ในมาตรวัดตัวเดียวกับมาตรวัดอัตราบูสต์เทอร์โบ มาตรวัดตัวนี้จะตอบสนองกับ  อัตราการเหยียบคันเร่ง
ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการเช็คความสิ้นเปลืองน้ำมันได้เหมือนกัน สำหรับการดูค่าของมาตรวัดตัวนี้ต้องดูเวลา เครื่องเดินเบา ซึ่งจะดูได้จากค่าสุญญากาศ
ถ้าค่าสุญญากาศนี้มีมาก ก็จะถือได้ว่าเครื่องยังคงมีสภาพที่สมบูรณ์ ไม่รั่วซึม แต่ถ้าค่านี้ลดลงไปมาก นั่นก็เป็นไปในทางตรงกันข้าม มาตรวัดตัวนี้จึงเป็นมาตรวัด
ที่อาจมีไว้เช็คสภาพของเครื่องยนต์ ได้  ทั้งนี้ในขณะเครื่องยนต์เดินเบาถ้าเข็มบนมาตรวัดนี้บอกค่าไม่ถึ ง 300 cmHg นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าเครื่องยนต์
มีสภาพย่ำแย่ โดยเครื่องยนต์ใหม่ ๆ ที่มีความสมบูรณ์ค่าตัวนี้จะอยู่ที่ประมาณ 450 cmHg


หึหึ  ข้อมูลแน่นปึ๊ก  เอามาจากใครหว่า. . . . . คุ้นๆ นะเนี่ย    อิอิ  ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

NEO
หนุ่มโสดย่านชิดลม
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,065

My Name is NEO


« ตอบ #657 เมื่อ: 27 มกราคม 2009, 07:53:30 »

สงสัยเอาความรู้นี้มาจากโต๊ะกลมๆ ที่มีเศษอะไหล่เยอะๆ แล้วก็มีขวดเบียร์กับแก้วเบียร์วางอยู่ด้วย         ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

FunyuB
+++หม่อม 3 หยอย+++
Gold Member
เจ้ายุทธภพ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,146


++หม่อมใหม่ @ อ่อนนุช ซ.30++


« ตอบ #658 เมื่อ: 27 มกราคม 2009, 11:16:51 »

ไอเน่ มีพาดพิง...!!      โกรธ โกรธ โกรธ

เด๋วนี้มะต้องขย่มแล้วเฟ้ยย  คิคิคิ            ยิ้มเท่ห์ ยิ้มกว้างๆ


หึหึ  ข้อมูลแน่นปึ๊ก  เอามาจากใครหว่า. . . . . คุ้นๆ นะเนี่ย    อิอิ  ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์

เอามาจากท่านนั่นแหละ ก้อเหนเค้าถามมา ไม่มีคนตอบ เลยช่วยตอบให้  ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 มกราคม 2009, 11:18:34 โดย funyub » บันทึกการเข้า

kotan
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 65


« ตอบ #659 เมื่อ: 27 มกราคม 2009, 21:19:25 »

 ตกใจ พี่ๆครับ ผมเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ามันเกียร์(แพงจังเลย 2500ของเชลล์อ่ะครับไม่รุโดนหลอกป่าวววว) กรองน้ำมันเครื่อง กรองอากาศก็แล้ว(แถมล้างรถอีกต่างหาก อิอิ) มันก็ยังเล่งไม่ออกอยู่ดี........รอบขึ้นไปจะ3000 อยู่และแต่รถยังวิ่งไม่ถึง 100เลย ต้องเหยียบแช่สักพัก กว่าจะ100 เศร้า แล้วทีนี้ผมจะทำไงต่อดีอ่ะครับบบบบ............ช่างบอกจะลองเปลี่ยนหัวเทียนดูไหมผมก็บอกว่ายังและกันดูลาดลาวก่อน  พี่ๆว่าเอาแบบแก้ปัญหาได้แบบตรงจุดเลย.....มันเป็นที่ไรอ่ะครับ.......กลัวเสียเงินเปลี่ยนแล้วอาการไม่ดีขึ้นเซ็งเลยยย ตังยิ่งหายากๆอยู่.....รบกวนด้วยนะพี่ครับบบบบ
บันทึกการเข้า
puiza02
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 291


« ตอบ #660 เมื่อ: 27 มกราคม 2009, 23:55:04 »

หลังจากที่เข้ามาซุ่มอยู่นาน ถามไปก็มาก ยังไม่ได้แนะนำตัวเลยครับ ผมชื่อปุ้ยครับ ขับ EK96 สีแดงครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ ใครขับผ่านหรือเจอกันก็แนะนำได้ครับ เดิมๆ เลยครับ


* P1010266.JPG (136.22 KB, 700x525 - ดู 602 ครั้ง.)

* P1010267.JPG (86.19 KB, 700x525 - ดู 627 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 มกราคม 2009, 23:57:36 โดย puiza02 » บันทึกการเข้า

EK96 VTi E ภายในตัวใน ภายนอกก็ตัวใน สรุปว่าเดิมๆ หุหุ
รถสุดรักของผม http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,54398.0.html ติชมได้เต็มที่นะครับ
taxman : ปทุมธานี
= ประธานคลับ . . . โอมเหม่ง =
ประธานคลับ
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23,937


Work hard, Play hard


« ตอบ #661 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 00:01:26 »

ว๊าวววววววว ถั่วแดง


ยินดีต้อนรับน้องใหม่คร๊าบบบบ   จุมพิต
บันทึกการเข้า

dear3231
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,382


I ROCK COUPE !


« ตอบ #662 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 00:05:23 »

หลังจากที่เข้ามาซุ่มอยู่นาน ถามไปก็มาก ยังไม่ได้แนะนำตัวเลยครับ ผมชื่อปุ้ยครับ ขับ EK96 สีแดงครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ ใครขับผ่านหรือเจอกันก็แนะนำได้ครับ เดิมๆ เลยครับ

สมัครสมาชิกเลยครับ เจอกันเห็น sticker CIVIC CLUB จะได้ทักกันได้ถูก

รถสวยครับ รักษาได้ดีมากๆเลย  ยิ้ม
บันทึกการเข้า

Big_EyE
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 79



« ตอบ #663 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 01:01:36 »

แล้วมิเตอร์เหล่านี้มีใครติดเยอะๆบ้างครับ อยากเห็นรูปที่ติดใช้กันจริงๆน่ะครับ ยิ้ม อายจัง
บันทึกการเข้า
NEO
หนุ่มโสดย่านชิดลม
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,065

My Name is NEO


« ตอบ #664 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 08:18:04 »

หลังจากที่เข้ามาซุ่มอยู่นาน ถามไปก็มาก ยังไม่ได้แนะนำตัวเลยครับ ผมชื่อปุ้ยครับ ขับ EK96 สีแดงครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ ใครขับผ่านหรือเจอกันก็แนะนำได้ครับ เดิมๆ เลยครับ

ยินดีต้อนรับครับ ไม่ทราบว่าอยู่โซนไหนหรอครับ
บันทึกการเข้า

My_Mint
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,647



« ตอบ #665 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 08:26:53 »

ถั่วแดงเนี่ย  ถ้าอยู่บอร์ดนี้ซักพัก บอดี้เดิมๆจะเริ่มถูกแทนที่ด้วยของแต่งแน่เลย  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

jam-maew
"หำหรรษา"
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,997


เงี่ยนโว้ยย


« ตอบ #666 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 09:06:10 »

^
^
^
^
ระวังให้ดีแก๊งนี้ชอบพาเสียตัง...โดยเฉพาะคนที่ชื่อเบียร์
บันทึกการเข้า
FunyuB
+++หม่อม 3 หยอย+++
Gold Member
เจ้ายุทธภพ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,146


++หม่อมใหม่ @ อ่อนนุช ซ.30++


« ตอบ #667 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 09:50:18 »

^
^
^
^
พูดอีกก้อถูกอีก
บันทึกการเข้า

FunyuB
+++หม่อม 3 หยอย+++
Gold Member
เจ้ายุทธภพ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,146


++หม่อมใหม่ @ อ่อนนุช ซ.30++


« ตอบ #668 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 09:55:35 »

หลังจากที่เข้ามาซุ่มอยู่นาน ถามไปก็มาก ยังไม่ได้แนะนำตัวเลยครับ ผมชื่อปุ้ยครับ ขับ EK96 สีแดงครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ ใครขับผ่านหรือเจอกันก็แนะนำได้ครับ เดิมๆ เลยครับ

ใหนว่าเดิม ใส่ท่อแล้วด้วย กระจังหน้าก้อเปลี่ยน โกรธ โกรธ
บันทึกการเข้า

puiza02
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 291


« ตอบ #669 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 10:35:55 »

ยินดีต้อนรับครับ ไม่ทราบว่าอยู่โซนไหนหรอครับ
ผมอยู่แถวบางบัวทองครับ
บันทึกการเข้า

EK96 VTi E ภายในตัวใน ภายนอกก็ตัวใน สรุปว่าเดิมๆ หุหุ
รถสุดรักของผม http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,54398.0.html ติชมได้เต็มที่นะครับ
puiza02
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 291


« ตอบ #670 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 10:37:12 »

^
^
^
^
ระวังให้ดีแก๊งนี้ชอบพาเสียตัง...โดยเฉพาะคนที่ชื่อเบียร์

555+ ช่วงนี้ทรัพย์จางเพิ่งได้รถมาคงจะยังไม่เสียตังครับ ค่อยๆ ทำไปรถยังอยู่กับเราอีกนานครับ
บันทึกการเข้า

EK96 VTi E ภายในตัวใน ภายนอกก็ตัวใน สรุปว่าเดิมๆ หุหุ
รถสุดรักของผม http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,54398.0.html ติชมได้เต็มที่นะครับ
puiza02
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 291


« ตอบ #671 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 10:42:15 »

ใหนว่าเดิม ใส่ท่อแล้วด้วย กระจังหน้าก้อเปลี่ยน โกรธ โกรธ

อ่า เล็กๆ น้อยๆ เองครับ
บันทึกการเข้า

EK96 VTi E ภายในตัวใน ภายนอกก็ตัวใน สรุปว่าเดิมๆ หุหุ
รถสุดรักของผม http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,54398.0.html ติชมได้เต็มที่นะครับ
FunyuB
+++หม่อม 3 หยอย+++
Gold Member
เจ้ายุทธภพ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,146


++หม่อมใหม่ @ อ่อนนุช ซ.30++


« ตอบ #672 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 11:01:22 »

อ่า เล็กๆ น้อยๆ เองครับ
ล้อเล่นนะครับ  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยินดีต้อนรับเช่นกันครับ จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า

FunyuB
+++หม่อม 3 หยอย+++
Gold Member
เจ้ายุทธภพ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,146


++หม่อมใหม่ @ อ่อนนุช ซ.30++


« ตอบ #673 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 11:10:13 »

จะว่าไป เราก้อยังไม่ได้แนะนำตัวในห้องนี้เลยแหะ!!! อายจัง อายจัง
เด๋วไปล้างรถมาเอี่ยมๆก่อน ถ่ายรูปลงกระทู้กะเค้ามั่งละ  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,890


เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^


« ตอบ #674 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 11:10:59 »

ถั่วแดงเนี่ย  ถ้าอยู่บอร์ดนี้ซักพัก บอดี้เดิมๆจะเริ่มถูกแทนที่ด้วยของแต่งแน่เลย  ยิงฟันยิ้ม

 แลบลิ้น

^
^
^
^
ระวังให้ดีแก๊งนี้ชอบพาเสียตัง...โดยเฉพาะคนที่ชื่อเบียร์

 ฮืม

^
^
^
^
พูดอีกก้อถูกอีก

อ้ายพวกเน้. . . .!!!~    มีชงกันมาเป็นทอดๆเลยนะ            โกรธ โกรธ โกรธ

โปรเจคนี้ จบเมื่อไหร่ จะหยุดแต่งชั่วคราวแระ ระวังรถพวกท่านให้ดีๆ                  ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์

จะยุแยงตะแคงรั่วให้ เต็มสูตรกันเป็นแถวเลย  คิ คิ คิ             ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ

ปล. ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ด้วยนะค๊าบบ  ผมเบียร์ อยู่โซนโชคชัย4 วังหิน เจอกันก็ทักทายได้นะค๊าบบบ          จุมพิต จุมพิต

ปล.2  ถ้าใส่กันสาดแท้ ซักชุด รถจะดูดีขึ้นมาอีก 15% เลยนะครับ  คิ คิ       ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
บันทึกการเข้า

FunyuB
+++หม่อม 3 หยอย+++
Gold Member
เจ้ายุทธภพ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,146


++หม่อมใหม่ @ อ่อนนุช ซ.30++


« ตอบ #675 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 11:18:54 »

^
^
^
เหนมั้ย เริ่มยุแล้ว
บันทึกการเข้า

jam-maew
"หำหรรษา"
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,997


เงี่ยนโว้ยย


« ตอบ #676 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 11:22:33 »

^
^
^
^
ต้องปักหมุด บุคคลอันตราย... ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
Octillion
งงอ่ะดิ
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,854



« ตอบ #677 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 11:50:35 »

หลังจากที่เข้ามาซุ่มอยู่นาน ถามไปก็มาก ยังไม่ได้แนะนำตัวเลยครับ ผมชื่อปุ้ยครับ ขับ EK96 สีแดงครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ ใครขับผ่านหรือเจอกันก็แนะนำได้ครับ เดิมๆ เลยครับ

หวัดดีค้าบ ตรูดสวย เอ๊ย ท่อสวยครับ    จุมพิต
บันทึกการเข้า

puiza02
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 291


« ตอบ #678 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 11:52:33 »

แลบลิ้น

 ฮืม

อ้ายพวกเน้. . . .!!!~    มีชงกันมาเป็นทอดๆเลยนะ            โกรธ โกรธ โกรธ

โปรเจคนี้ จบเมื่อไหร่ จะหยุดแต่งชั่วคราวแระ ระวังรถพวกท่านให้ดีๆ                  ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์

จะยุแยงตะแคงรั่วให้ เต็มสูตรกันเป็นแถวเลย  คิ คิ คิ             ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ

ปล. ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ด้วยนะค๊าบบ  ผมเบียร์ อยู่โซนโชคชัย4 วังหิน เจอกันก็ทักทายได้นะค๊าบบบ          จุมพิต จุมพิต

ปล.2  ถ้าใส่กันสาดแท้ ซักชุด รถจะดูดีขึ้นมาอีก 15% เลยนะครับ  คิ คิ       ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม


หุหุ กำลังหาอยู่ครับ
บันทึกการเข้า

EK96 VTi E ภายในตัวใน ภายนอกก็ตัวใน สรุปว่าเดิมๆ หุหุ
รถสุดรักของผม http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,54398.0.html ติชมได้เต็มที่นะครับ
Mr.t.s
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,635

ชิวชิว


« ตอบ #679 เมื่อ: 28 มกราคม 2009, 13:47:19 »

จากรูป
1.น้ำมันคลัช
2.น้ำมันเบรค
3.คูแลนท์ หรือน้ำยาหม้อน้ำ
4. เหมือน3 ครับ แต่ตรงนี้ ถ้าเติมเต็มแล้วก็ดูระดับน้ำในหม้อพักแทน
5.น้ำยาแอร์
6.น้ำมันเครื่อง
7.น้ำมัน power
8.น้ำฉีดกระจก

รายละเอียดการบำรุงรักษาก็ดูจากคู่มือครับ 
เยี่ยมเลยอ่ะมีรูปด้วย คนไม่รู้จะได้เข้าใจง่ายๆ
ว่าแต่ ผมเคยได้ยินคนคุยกันว่า เปลี่ยนน้ำมันเฟืองท้ายยัง
เอ๊ะ อ้าว รถกรูเคยแต่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ยังมีเฟืองท้ายอีกเหรอเนี่ยยยย โกรธ
บันทึกการเข้า

มีเมียแล้วครับ
หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 26 ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: อยากรู้เกี่ยวกับ ซีวิคปี 96 ตาโต ใครใช้อยู่หรือมีคำแนะนำอะไรดีๆเข้ามาคุยกันครับ
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2009, Simple Machines -->
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |