tastanon
ชาวยุทธ

ออฟไลน์
กระทู้: 2
|
 |
« เมื่อ: 12 เมษายน 2009, 20:20:35 » |
|
ตอนนี้สนใจ honda civic มาก อยากได้สีขาว เพราะจะเป็นรถคันแรกที่จะซื้อครับ ถือว่าใหม่มากสำหรับผม เลยสงสัยว่า โลโก้ H มันมีสีแดงด้วยหมายความว่าอะไรเหรอ ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
Khao Kee
อาจารย์ปู่
      
ออฟไลน์
กระทู้: 2,395

The Car Gods,Amen
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: 12 เมษายน 2009, 21:58:30 » |
|
H สีแดง เป็นของ civic Type R ราคามหาโหดค่ะ  รถสีขาวอย่างเราๆ จึงสละ H สีเงิน ไปหา H สีแดงมาใส่แทน  ตามป้าคนนี้เลยคร๊าบบบ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Spoon.........................
|
|
|
|
|
|
|
pat_meaw
++ เจ๊แมว เหมียวหง่าว ++
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
    
ออฟไลน์
กระทู้: 8,579

ใครมาแก้ฉายาตรูฟ่ะ!!
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: 15 เมษายน 2009, 11:13:58 » |
|
อันนี้เป็น Type R ของจริง แบบเทพจริงๆ ไม่ใช่รถบ้านจับแต่งตัวเป็น Type R  Honda Civic Type R แบบเครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ปริมาตรกระบอกสูบ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 225 แรงม้า/8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 21.9 กก.-ม./6,100 รอบ/นาที ระบบขับเคลื่อน ล้อหน้า ระบบเกียร์ ธรรมดา 6 สปีด ระบบกันสะเทือน (หน้า/หลัง) แม็คเฟอร์สัน สตรัท/ดับเบิลวิชโบน ระบบเบรก (หน้า/หลัง) ดิสก์ ช่องระบายความร้อน/ดิสก์ มิติ (ย. x ก. x ส.) 4,540 x 1,770 x 1,430 มม. ความยาวฐานล้อ 2,700 มม. ยาง(หน้า/หลัง) 225/40 R18 นํ้าหนัก 1,270 กก

สำหรับ Civic Type R คันล่าสุดก็พกพาเอกลักษณ์ความเป็น Type R มาอย่างเต็มตัว ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกที่เสริมความดุดันแบบสปอร์ตด้วยชุดบอดี้พาร์ทรอบคัน พร้อมสปอยเลอร์หลังชิ้นโต โดยทุกชิ้นส่วนถูกออกแบบโดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ สามารถสร้าง Down force ให้ประสิทธิภาพการขับขี่ที่มั่นคงขณะใช้ความเร็วสูง กันชนหน้าออกแบบให้มีช่องดักลมเพื่อไประบายความร้อนของเบรกคู่หน้า ล้ออัลลอยนํ้าหนักเบาเป็นสีขาวหรือสีเทา (เลือกได้ตามสีของรถ) ขนาด 18 นิ้ว ที่มาพร้อมยางสมรรถนะสูงของ Bridgestone Potenza RE070 หนา 225/40 ส่วนสีของตัวถังมีให้เลือกเพียง 3 สี อันได้แก่ สีนํ้าเงิน สีเทาเงิน และสีที่ขาดไม่ได้เพราะเป็นเอกลักษณ์ของ Type R อย่างสีขาว

การตกแต่งค็อกพิตภายในห้องโดยสารมีกลิ่นอายของ Type R อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งทรงบั๊กเก็ตซีตสีแดงดำ แผงข้างประตูและพรมบุด้วยผ้าสีแดง พวงมาลัยแบบหุ้มหนังพร้อมด้ายแดง แป้นเหยียบอะลูมิเนียม และหัวเกียร์ทรงกลม ส่วนแผงหน้าปัดที่มาตรวัดรอบจะมีโลโก "Type R" ติดอยู่ พร้อมมาตรวัดการทำงานของระบบ i-VTEC หรือ i-VTEC REV Indicator เพื่อเป็นการเตือนให้ผู้ขับเปลี่ยนเกียร์ในจังหวะที่เหมาะสม ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับชิฟต์ไลต์นั่นเอง
โครงสร้างของ Civic Type R มีความแข็งแกร่งและนํ้าหนักเบา เพราะได้ใช้วัสดุอย่างอะลูมิเนียมมาแทนการใช้เหล็กที่มีนํ้าหนักมากกว่า โดยเมื่อเทียบกับรุ่น Integra Type R โครงสร้างของ Civic จะแข็งกว่าถึง 50% ส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม การควบคุมรถมีความมั่นคงและแม่นยำขึ้น บวกกับระบบกันสะเทือนที่ถูกสับเปลี่ยนทั้งเซ็ตเพื่อรองรับการขับขี่แบบเรซซิ่งอย่างเต็มรูปแบบ ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สัน สตรัท และด้านหลังเป็นแบบดับเบิลวิชโบน สปริงถูกเปลี่ยนไปใช้แบบที่มีค่าสปริงเรตที่แข็งขึ้น พร้อมลดระดับความสูงลง 10 มม. ที่ล้อคู่หน้า และ 5 มม. ที่ล้อคู่หลัง โช้คอัพมีความหนึบขึ้นและเหล็กกันโคลงก็ใช้ขนาดใหญ่กว่าของเดิม
 ส่วนระบบเบรกนั้น ได้ใช้แบบดิสก์ทั้ง 4 ล้อ โดยเฉพาะล้อคู่หน้าที่ต้องรับภาระหนักกว่า ซึ่งเปลี่ยนมาใช้ของ Brembo เป็นดิสก์แบบช่องระบายความร้อนขนาด 17 นิ้ว พร้อมคาลิเปอร์แบบ 4 pot นอกจากนี้ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD ก็ถูกพัฒนาให้สามารถตอบสนองได้ฉับไวมากกว่าของเดิม
ไฮไลต์อีกอย่างหนึ่งของตระกูล Type R ที่ต้องพูดถึงก็คือ เครื่องยนต์สมรรถนะสูงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เครื่องยนต์รหัส K20A เป็นบล็อกที่ประจำการใน Civic Type R โดยได้รับการโมดิฟายใหม่ให้มีสมรรถนะที่เร้าใจ เครื่องยนต์เป็นบล็อกแบบ 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน i-VTEC ติดตั้งคันเร่งไฟฟ้า Drive-By-Wire ให้การตอบสนองที่แม่นยำ ความจุมีขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 225 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที โดยรอบการทำงานสูงสุดถูกลิมิตไว้ที่ 8,400 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดเมื่อสังเกตจากเส้นกราฟแล้ว ที่รอบเพียง 3,000 รอบ/นาที ก็มีแรงบิดให้ใช้กว่า 20.0 กก.-ม. จากนั้นเส้นกราฟก็ตกลงเหลือประมาณ 18.0 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที จากนั้นที่ 5,000 รอบ/นาที เส้นกราฟก็จะเริ่มพุ่งขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานของไฮแคมของระบบ VTEC จนได้แรงบิดสูงสุด 21.9 กก.-ม. ที่ 6,100 รอบ/นาที ส่วนระบบเกียร์ แน่นอนว่าต้องเป็นแบบธรรมดา 6 สปีด เพราะสามารถสับเปลี่ยนเกียร์ได้เอง สร้างฟิลลิ่งแบบสปอร์ตได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ด้านอัตราทดยังเป็นแบบ Close-ratio พร้อมระยะชิฟต์เกียร์ที่สั้นตามมาตรฐานรถสปอร์ตชั้นดี
แบบว่าอันนี้ก็ข่าว(นานเระ) จาก นิตยสารกรังด์ปรีซ์ ก็น่าทำให้เห็นความแตกต่าง ว่ามันต่างจากรถบ้านๆเรายังๆ  อยากได้อ่ะ อยากได้สักคันนุง โน๊ะๆ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คิดถึงฉันบ้างรึเปล่า.. ....อย่างที่ใจฉันคอยคิดถึงเธอทุกวัน
|
|
|
|
thammarong
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: 16 เมษายน 2009, 01:15:48 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 เมษายน 2009, 01:18:09 โดย thammarong »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|