เตือนภัยผู้ใช้รถ แต่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถ
สวัสดีค่ะ อยากจะมาเตือนภัยผู้ใช้รถ แต่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถค่ะ (ยาวหน่อยนะคะ แต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์ค่ะ)
เหตุการณ์เกิดขึ้นมา 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา รถของดิฉันมีปัญหาเรื่องเกียร์ค่ะ คือ เมื่อเข้าเกียร์แล้วรถไม่ไปค่ะ (แต่ในระหว่างนั้นยังพอขับได้)
ดิฉันก็เอารถเข้าศูนย์เพื่อให้ทางศูนย์เช็ค ในระหว่างที่รถอยู่ที่ศูนย์ ดิฉันก็ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาของรถตามเว็บไซต์
ที่ต้องหาข้อมูลจากเว็บไซต์เพราะว่า เห็นหลายคนแนะนำว่าถ้าปัญหาเรื่องเกียร์ ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงค่ะ หากเอาเข้าศูนย์จะค่อนข้างแพง ซึ่งเข้าซ่อมอู่น่าจะถูกกว่า
(ดิฉันใช้รถ Honda Civic Dimension ค่ะ)จนไปเจอเว็บๆนึงค่ะ ที่รวบรวมข้อมูล และปัญหาต่างๆที่เกียวกับรถรุ่น Civic ค่ะ
และได้เจอกระทู้นึง ซึ่งใช้รถรุ่นเดียวกัน และเจอปัญหาเรื่องเกียร์เหมือนกันค่ะ และดิฉันก็ได้ข้อมูลมาจากผู้ที่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้และได้มาโพสท์ความเห็นเกี่ยวกับอู่ที่ไปรับบริการมาว่า ดี ถูก และเชื่อใจได้ค่ะ ดิฉันจึงโทรไปแล้วแจ้งปัญหากับเค้า เค้าบอกว่า ทำได้ค่ะ น่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน เพราะเค้าเคยซ่อมปัญหานี้กับรถรุ่นเดียวกันกับฉันมาก่อน และค่าใช้จ่ายถูกกว่าศูนย์แน่นอน ก่อนจะวางสายเค้าก็บอกว่า เค้ามีบริการรถยกให้ด้วยค่ะ (ณ ตอนนั้นยังไม่คิดว่าในที่สุดจะได้ใช้บริการเค้า)
และเย็นวันนั้นทางศูนย์โทรมาแจ้งว่า ต้อง O/H ซึ่งค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แล้วพอดีดิฉันได้ข้อมูลจากเว็บไซต์ว่า หาก O/H ที่ศูนย์ค่าใช้จ่าย หลายหมื่นบาท!!!เลยค่ะ เลยตัดสินใจเอารถออกมาจากศูนย์แล้วกะว่าจะไปเข้าอู่แทนค่ะ แต่หลังจากที่ขับรถออกจากศูนย์มาได้ประมาณ 5 กิโล รถก็ไปต่อไม่ได้ค่ะ -*- สุดท้ายก็ต้องโทรหาอู่ ที่ได้ข้อมูลจากเว็บไซต์นั่นแหละค่ะ เพราะเห็นว่าเค้ามีบริการรถยก (เสียค่ารถยกต่างหากนะคะ)อู่เค้าอยู่ที่พุทธมณฑลสาย 4 อยู่ระหว่างเพชรเกษม 83-85 ค่ะ ชื่อ xxxx เจ้าของอู่ชื่อ xxxx ค่ะ เค้าเป็นคนพูดเก่งค่ะ ตะล่อมเก่งมากค่ะ และประกอบกับดิฉันไม่มีความรู้เรื่องรถ จึงหลงเชื่อ เพราะปกติก็จะเอารถเข้าศูนย์ตลอด เพราะไม่มีอู่ที่รู้จักและไว้ใจได้ แต่ ณ เวลานั้นหากซ่อมที่ศูนย์ค่อนข้างแพง เลยตัดสินใจซ่อมกับเค้า เพราะเห็นหลายคนว่าอู่นี้ดี ไม่โกง ไว้ใจได้
หลังจากที่ดิฉันได้เอารถเข้าอู่ไปแล้ว 4 วันแรก ไม่มีความคืบหน้าเลยค่ะ ฉันโทรไปทุกวัน แต่เจ้าของอู่ก็บอกว่ายังไม่ได้รื้อเกียร์ดูกำลังคิดหาสาเหตุอยู่ (คิด?)จนวันที่ 4 เค้าบอกว่าเค้ารื้อเกียร์ออกมาแล้ว น้ำมันเกียร์ดำมาก ต้องล้างเกียร์ดูก่อน ฉันก็โอเค หลังจากนั้นฉันก็โทรถามความคืบหน้าของรถดิฉันทุกวัน เค้าบอกว่าล้างน้ำมันเกียร์แล้วแต่ยังไม่หาย และเค้าก็ยังไม่มีข้อสรูปและยังไม่รู้สาเหตุเลยค่ะ ผ่านมาอาทิตย์กว่า ยังไม่รู้สาเหตุ เริ่มเครียด!!! เช้าวันที่ 8 เค้าโทรมาบอกว่า เค้าไม่รู้สาเหตุเลยเรียกช่างจากศูนย์มาดู (ย้อนนิดนึงค่ะ คือวันที่เอารถไปเข้าอู่เค้าบอกว่ารถฉันเครื่อง 2000 ซีซี น่าจะยากหน่อย แต่ไม่เปนไรลองดู ฉันก็พยายามเข้าใจว่า รถฮอนด้า คงยุ่งยากหน่อย ไม่เป็นไร เรียกช่างจากศูนย์มาดูก็น่าจะดี)
เค้าบอกว่าช่างจากศูนย์ที่เรียกมาดูบอกว่า ต้องเปลี่ยนอะไหล่ 2 ตัว มี โซลีนอยด์ กับ อะไหล่อีกตัวนึงอ่ะค่ะ (จำชื่อไม่ได้)แล้วก็จะหาย บ่ายๆก็น่าจะเสร็จ แต่ต้องขอเบิกเงินก่อนเพราะไม่มีเงินสำรอง ฉันก็เริ่มแปลกใจว่า ปกติซ่อมรถที่อู่ต้องขอเบิกเงินไปซื้ออะไหล่ด้วยหรอ (ปกติเข้าศูนย์ฮอนด้าตลอดเลยไม่รู้ข้อมูลตรงนี้)แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเค้าคงไม่มีเงินจริงๆ จึงได้ตกลงค่าใช้จ่ายทั้งหมดกับทางอู่ไปเลยคือราคา 22,000 บาท โดยมีค่าอะไหล่ 2 ตัวที่จะเปลี่ยนราคา 12,000 และค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆอีก 10000 บาท แต่ทางอู่ขอเบิก 20,000 ดิฉันก็ปรึกษากับพี่ชายแล้วตกลงว่าโอนให้ 12,000 บาท เฉพาะแค่ค่าอะไหล่ก่อน ที่เหลือจะจ่ายให้วันรับรถ ดิฉันโอนให้ตอน เที่ยงแล้วโทรไปแจ้งทางอู่ ว่าโอนเงินให้แล้ว ตอนนั้นดิฉันก็เริ่มสบายใจว่า จะได้จบเรื่องซะที เพราะจำเป็นต้องใช้รถทุกวันเพราะบ้านอยู่ในซอยลึกและกลับดึกทุกวัน แต่ปรากฏว่า ตอนเย็น โทรไปถามที่อู่ว่ารถเสร็จหรือยังคะ เค้าบอกว่า ยังไม่ได้เปลี่ยน เพราะเราโอนเงินไปช้า (ฉันผิดหรอเนี่ย T_T)ประกอบกับเค้าเช็คแล้วว่าไม่น่าจะเสียที่อะไหล่ 2 ตัวนั้น ดิฉันคิดในใจว่า ทำไมๆ เค้าไม่เช็คก่อนว่ามันเสียจริงรึป่าว ถึงค่อยให้เราโอนเงิน หรือว่าาาาา เค้ารู้ว่าเค้าซ่อมรถไม่ได้จึงให้เราโอนเงินก่อน เพราะกลัวเราไม่จ่ายให้เพราะรถซ่อมไม่ได้
วันรุ่งขึ้น ดิฉันไปกับพี่ชายเพื่อไปดูว่า ตกลงรถเป็นอะไรกันแน่
ฉันถามเค้าว่า
ดิฉัน:เอาเงินไปแล้วทำไมไม่ซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนล่ะคะ
ช่าง:ผมคิดว่าไม่น่าจะเสียที่อะไหล่ 2 ตัวนี้ แต่ถ้าคุณอยากจะให้เปลี่ยนผมก็เปลี่ยนได้
พี่ชาย:อ้าว พี่เป็นช่าง ควรต้องเป็นคนแนะนำผมซิครับ ว่ามันควรจะเปลี่ยนหรือไม่ควร
ช่าง:ผมว่าไม่น่าเกี่ยว งั้นเดี๋ยวผมรื้อเกียร์ออกมาล้างและเช็คดูรอบสอง ถ้าไม่หาย ช่วยเรียกช่างจากศูนย์ฮอนด้ามาดูให้หน่อยได้มั้ยครับ (ตาย ตาย ตาย!!! แล้วคุณไม่ใช่ช่างหรอออ ถ้าฉันต้องเรียกช่างจากฮอนด้ามาดูให้ แล้วฉันจะมาจ้างคุณทามมายยย)
พี่ชาย:ผมก็ไม่รู้ว่าจะเรียกเค้ามาได้ยังไง พี่ช่วยหาให้หน่อยแล้วกันนะครับ
ช่าง:ผมก็ไม่รู้จักเหมือนกัน แล้วอีกอย่างผมก็ดูเรื่องระบบไฟรถฮอนด้าไม่เป็นด้วย (ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกกกกก โอ๊ยยย กรรมๆๆ)งั้นเอางี้มั้ยล่ะ เปลี่ยนเกียร์มือสองได้เร็วด้วย
พี่ชาย:เท่าไหร่ครับ
ช่าง:35000
พี่ชาย:ที่ศูนย์ประเมินให้ผมว่า O/H อยู่ที่ 40000-45000 งั้นผมเอาเข้าศุนย์ดีกว่าครับ
พี่ชายดิฉันจึงเสนอต่อไปว่า ถ้ารื้อเกียร์ออกมาดูรอบสองแล้วยังไม่หาย ผมจะลากรถไปเข้าศูนย์ (เพราะขืนทิ้งไว้ที่อู่ก็คงไม่มีประโยชน์)จากนั้นฉันจึงถามที่อู่ว่า
ดิฉัน:แล้วเงิน 12000 บาทล่ะคะ
ช่าง:ก็เป็นของผมซิครับ ก็หักเป็นค่าอะไหล่และค่าแรงของผมไป กร๊ากกก!!! แค่ล้างเกียร์ กับเปลี่ยนกรองเกียร์ กับประเก็น แล้วก็รถลาก 12000 เลยหรอคะ แต่รถฉันยังใช้ไม่ได้เลยนะคะ แล้วถ้าเอาไปเข้าศูนย์ก็ต้องเสียเงินอีกต่อ แถมคุณรื้อเกียร์ฉันออกมา แล้วใส่กลับได้เหมือนเดิมรึป่าว มีอะไรเสียหายเพิ่มรึป่าว ก็ยังไม่รู้
-ในระหว่างนี้ต่อรองกันอยู่นานนนนนนนนนนน จึงสรุปว่า-
พี่ชาย:งั้นพี่เปลี่ยนอะไรไปบ้าง ช่วยลิสต์รายการให้ผมดูด้วยแล้วกันครับ (ตัดใจว่าคงไม่ได้เงินคืน T_T)แล้วผมจะได้เอาไปให้ที่ศูนย์ดูว่าพี่เปลี่ยนตามรายการนี้ไปแล้ว แต่รถยังใช้ไม่ได้
ช่าง:ได้อยู่แล้ว เดี๋ยวผมจัดให้ (ฟังดูกวนๆ)
พี่ชาย:แล้วพี่จะรื้อเกียร์ออกมาดูอีกรอบเสร็จเมื่อไหร่ครับ
ช่าง:พรุ่งนี้
-ในเย็นวันนั้นก็คุยกับพี่ชายว่า เค้าคงซ่อมไม่ได้แล้ว คงต้องลากรถเข้าศูนย์-
เย็นวันรุ่งขึ้น โทรไปถามว่า
ดิฉัน:รถเป็นยังไงบ้างคะ
ช่าง:ยังไม่ได้ดูเลย
ดิฉัน:อ้าว(ไหง นัดฉันว่าจะรู้ผลวันนี้งายยย เครียดๆ)
โทรไปรอบ 2 เค้าก็บอกว่า ดูอยู่ยังไม่เสร็จ
ดิฉันจึงถามเค้าว่า:อะไหล่ที่พี่จะลิสต์มาให้ พี่ซื้อจากศูนย์ใช่มั้ยคะ
ช่าง:ใช่
ดิฉัน:งั้นขอใบเสร็จด้วยนะคะ (ต้องการทดสอบว่าฉันไม่ได้โดนหลอก)
ช่าง:ไม่มีครับ ที่ศูนย์เค้าไม่ให้มา
ดิฉัน:ปกติซื้อของก็ต้องมีใบเสร็จซิคะ ไม่งั้นก็ของที่ซื้อมามีปัญหา พี่จะเอาอะไรไปยืนยันกับเค้าว่าซื้อจากที่นี่จริง
ช่าง:ก็ไม่มีอ่ะ ไม่มี แต่ถ้าอยากได้ เดี๋ยวพี่ออกเองให้ก็ได้
ดิฉัน:โอ๊ยยยยยยย กรูโดนหลอกกกกกกแล้วววววว (ขอใช้คำหยาบนิดนึงนะคะ ไม่ไหวจริงๆ)ตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องถึงตำรวจ แต่รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบมากเกินไป ทนไม่ไหวค่ะ
พอตกเย็นก็ไปปรึกษาน้า และญาติๆ ได้ข้อสรุปว่าควรจะต้องเอาเรื่อง!!! แล้วพอดีว่าญาติดิฉันรู้จักกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ท่านนึง (ขอเว้อนิดนึงนะคะ จริงๆแล้วไม่อยากต้องให้เป็นเรื่องขนาดนี้)วันต่อมาจึงติดต่อให้ทางตำรวจช่วยโทรศัพท์ไปไกล่เกลี่ยให้ สรุปว่าดิฉันขอเงินคืนแค่ครึ่งเดียวค่ะ 6000 บาท ซึ่งรวมค่าแรง 1500 ด้วยแล้ว อะไหล่ที่เค้าเอามาเปลี่ยนให้ ดิฉันไม่เอาค่ะ ขออะไหล่เก่าคืน (แต่เค้าบอกว่า "ไม่เป็นไร ผมยกให้"ยังอุตส่าห์ใจดีด้วยค่ะ แต่ดิฉันคิดว่าอะไหล่คงไม่ได้ซื้อ หรือไม่ก็ เงินที่ได้ไปคงพอกับค่าอะไหล่แล้ว ถึงยอมยกให้)
วันรุ่งขึ้น ดิฉันก็ไปรับรถคืนพร้อมกับเงินค่ะ พอไปรับเงินคืน ช่างก็ทำหน้าไม่พอใจค่ะ (ก็เข้าใจค่ะ คงโมโหที่โกงไม่สำเร็จ)ส่วนรถตอนลากมายังสตาร์ทติดอยู่ แต่ตอนเอากลับสตาร์ทไม่ติด เฮ้อออ และตอนจะกลับก็ได้คุยกับลูกน้องเค้าค่ะ ลูกน้องเค้าบอกว่า ที่เจ้าของอู่บอกว่าจะรื้อเกียร์ออกมาดูรอบสอง ไม่ได้รื้อค่ะ เพราะเจ้าของเค้าบอกว่า ไม่ต้องรื้อแล้ว -*- หลังจากที่ลากรถเข้าศูนย์แล้วช่างที่ศูนย์เช็คแล้วโทรมาบอกว่า ที่อู่เค้าลืมต่อสายไฟอะไรซักอย่างค่ะ เลยทำให้รถสตาร์ทไม่ติด ส่วนอะไหล่ที่เค้าเปลี่ยนมาไม่ใช่ของศูนย์เลยค่ะ แล้วน้ำมันเกียร์ก็ไม่มี แต่ตอนนี้ทางศูนย์ทำให้รถสตาร์ทติดได้แล้วค่ะ ดิฉันได้ลองถามศูนย์เกี๋ยวกับราคาเกียร์มือสองค่ะ ทางศูนย์บอกว่าราคาน่าจะประมาณ 10000-20000 บาทค่ะ แต่ที่อู่จะเอา 35000 เลยค่ะ ดีนะคะ ที่พี่ชายฉันไม่ยอมให้เปลี่ยนค่ะ ไม่งั้นคง.......-*-
(หลังจากที่ลากรถออกมาแล้ว พอดีวันที่ไปเอารถมีเพื่อนไปด้วยค่ะ เจ้าของอู่เค้าถามเพื่อนดิฉันว่า ฉันมีปัญหาเรื่องเงินรึป่าว โธ่ๆๆๆ คนเรา ตัวเองทำผิด ยังโยนความผิดส่งให้คนอื่นอีก)
-เฮ้ออออ อยากถอนหายใจยาวๆๆๆ หมดเวร หมดกรรม กันซะทีค่ะ กับประสบการณ์ซ่อมอู่ครั้งแรก ขอบคุณนะคะ ที่อุตส่าห์ตั้งใจอ่านจนจบ หวังว่ากระทู้นี้คงจะเป็นประโยชน์ กับผู้ที่ใช้รถ บ้างนะคะ และอย่าให้ใครมาเอาเปรียบเราได้ค่ะ-
เตือนอีกรอบค่ะ อู่ xxxx พุทธมณฑลสาย 4 เพชรเกษม 83-85
จากคุณ : Sun. - [ 9 เม.ย. 52 14:23:50 A:58.9.209.3 X: TicketID:211515 ]
http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V7721216/V7721216.html 
ผู้เขียน
