ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
22 กรกฎาคม 2025, 13:28:40
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: ฟันธงให้หน่อยครับว่า Civic 96 สามารถ ใช้ น้ำมันเครื่องเกรด 5w30 ได้ไหมครับ????? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ฟันธงให้หน่อยครับว่า Civic 96 สามารถ ใช้ น้ำมันเครื่องเกรด 5w30 ได้ไหมครับ?????  (อ่าน 4888 ครั้ง)
Vitty
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 725


« เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2009, 00:03:06 »



เผอิญได้คุยกับคนขายน้ำมันเครื่องคนนึง

คุยไปคุยมา ถูกคอดี จริงๆ จะซื้อน้ำมันเกียร์แหละครับ

เลยไปจนน้ำมันเครื่อง ตอนแรกผมจะซื้อ

Valvoline 5w40 มาลองใช้ดู

จากที่คุยๆ เขาก็ว่า ตัว valvoline นี่เกรด คุณภาพเป็นรอง mobil one กับ castrol ตัว slx มั้งที่เป็นของ bmw หน่อยเดียวเอง

ส่วน duckham เคยใช้ จะเจอปัญหา วาวล์ดัง กันเยอะ
(แต่ผมเองใช้อยู่ก็ไม่เจอ แต่มีแอบตื้อ รอรอบบ้าง)

ผมเองก็กะจะลองเปลี่ยนใหม่ดูบ้าง..

ตอนนี้ก็ใช้ duckham qs 0w40 อยู่

คนขายก็บอก ถ้าใช้ 0w40 ได้ ก็น่ามาใช้ 5w30 ได้เลย

ถ้าน้ำมันเครื่องหายก็เติมเอา ไม่เยอะหรอก

แต่ความลื่น และประหยัดน้ำมันต่างกัน

มันจริงหรอครับ ขอความรู้หน่อยครับ

ว่าเจ้า Civic 96 ผม วิ่งมาจะ 200,000 โล ละ
ติดแก๊สด้วย.. ตอนนี้ใช้ 0w40 น้ำมันเครื่องแทบไม่หายเลย
มีหายไปนิดเดียวมากๆ น่าจะไปตอนไปเขาๆ แหละรอบเยอะ

สามารถใช้ Valvoline 5w30 ได้ไหม

แล้วคุณภาพ valvoline ดีไหมครับ จากประสบการณ์คนใช้


ตอนนี้อยากลองเปลี่ยนดูบ้าง ราคาเย้ายวน

1400 ได้ น้ำมันเครื่อง + กรอง valvoline ด้วย

ปล. กะใช้สักหมื่นห้า หรือ 1 ปี ค่อยเปลี่ยนทิ้ง น่ะครับ

บันทึกการเข้า

~ รั บ ซ่ อ ม ใ จ ~


http://lonelysecret.hi5.com
Aod61 : มิสซิสซิปปี้
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18,391


รับแก้ทอม ซ่อมดี้


« ตอบ #1 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2009, 09:48:04 »

น้ำมันเครื่อง ต่างกันเบอร์เดียวไม่มีปัญหาหรอกครับ
บันทึกการเข้า

Marwin
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 740



« ตอบ #2 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2009, 11:27:23 »

ตอนนี้รถวิ่งมาเยแะแล้วลองมาใช้5W50 ดีกว่าใหมคับ
บันทึกการเข้า

BlaZter
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,282


ผมเป็น HonDaMania คร๊าบบ..


« ตอบ #3 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2009, 20:38:08 »


 ถ้า 5W30  มันไม่อืดก็ใช้ได้อ่ะนะ แต่ รถเกินแสนโลฯส่วนมากจะใช้ W40 เพราะเครื่องยนต์มันสึกหรอไปเยอะ..   อายจัง

 EK ของผมอีกไม่ถึงหมื่นจะครบ 200,000 โลฯล่ะ แต่อาศัยถ่ายทุกๆ 5,000 เป็นเกรดธรรมดา 15W40 ผมว่ามันสดดีนะไม่ต้องรอนาน..   ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
Octillion
งงอ่ะดิ
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,854



« ตอบ #4 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2009, 01:19:49 »

ใส่ 30 ถ้าควันขาวไม่ออก ไม่ซีเรียสเรื่องน้ำมันพร่อง ไม่กลัวเครื่องสึกหรอเร็วกว่า จัดไปเลยครับ ลื่นๆ

แต่ 40-50 ดีกว่าครับ

บันทึกการเข้า

Vitty
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 725


« ตอบ #5 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2009, 21:06:35 »

ใส่ 30 ถ้าควันขาวไม่ออก ไม่ซีเรียสเรื่องน้ำมันพร่อง ไม่กลัวเครื่องสึกหรอเร็วกว่า จัดไปเลยครับ ลื่นๆ

แต่ 40-50 ดีกว่าครับ




30 มันใสจนปกป้องไม่ได้ ใช่ป่าวครับ ...

แล้ว valvoline 5w40 ดีไหมครับ ว่าจะย้ายจาก duckham 0w40 มา
บันทึกการเข้า

~ รั บ ซ่ อ ม ใ จ ~


http://lonelysecret.hi5.com
My_Mint
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,647



« ตอบ #6 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2009, 21:23:38 »

กึ่งสังเคราะห์ 5w40  ก็พอครับ

สังเคราะห์แท้  1400-2200 บาทหมื่นโล
กึ่งสังเคราะห์  600-800  บาท   ห้าพันโล  เปลี่ยนได้ตั้งสองรอบแนะ
บันทึกการเข้า

Octillion
งงอ่ะดิ
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,854



« ตอบ #7 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2009, 22:30:09 »


30 มันใสจนปกป้องไม่ได้ ใช่ป่าวครับ ...

แล้ว valvoline 5w40 ดีไหมครับ ว่าจะย้ายจาก duckham 0w40 มา


รอบสูง วิ่งยาวๆ ออกตัวกระชาก คิกดาวน์บ่อย น้ำมันเครื่องมันใส เครื่องจะสึกหรอเร็วกว่า

แต่เครื่องอายุเยอะแล้ว เค้าแนะนำให้ใช้เบอร์ 40 ขึ้นไปครับ
บันทึกการเข้า

Vitty
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 725


« ตอบ #8 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2009, 00:08:23 »

ครับ ขอบคุณครับ

งั้นเอา 40 แหละ


งั้นถามต่อว่าใช้ Valvoline 5w40 หรือ duckham 0w40 ต่อไปดีครับ
บันทึกการเข้า

~ รั บ ซ่ อ ม ใ จ ~


http://lonelysecret.hi5.com
beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,890


เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^


« ตอบ #9 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2009, 00:41:06 »

- จริงๆแล้ว สามารถใช้ได้ครับ ถ้าเราเน้นประหยัด ขับสบายๆ ในเมือง ไม่ได้คิกดาวน์ หรือใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงมาก บ่อยๆ

แต่ถ้าคิกดาวน์และลากรอบสูงบ่อยๆ แนะนำให้ใช้เบอร์ 40 - 50 ขึ้นไปครับ จะช่วยลดการสึกหรอได้ดีกว่า แต่ว่าจะกินกำลังเครื่องทำให้เปลืองเชื้อเพลิงมากกว่า

เนื่องจากความหนืดที่มากขึ้นนั่นเองครับ        ยิ้ม



ธรรมชาติของน้ำมันเครื่อง
เมื่อมีอุณหภูมิต่ำ  ก็จะหนืดมากขึ้นหรือข้นขึ้น
เมื่อมีอุณหภูมิสูง ก็จะหนืดน้อยลงหรือใสขึ้น

น้ำมันเครื่องเบอร์เดี่ยว หรือที่เรียกกันว่าเกรดเดี่ยว
ถ้าเป็นเบอร์ 20 30 40 50  ก็จะมีค่าความหนืดที่ 100C เป็นไปตามตารางด้านล่าง
แต่พอเมื่อเจออุณหภูมิต่ำมาก(ติดลบ)  อาจจะทำให้น้ำมันเครื่องมีความหนืดมากเกินไป
ถ้าเป็นเบอร์ 5w 10w 15w ก็จะมีค่าความหนืดที่ช่วงอุณหภูมิต่ำตามตารางข้างบน
แต่พอเมื่อเจออุณหภูมิสูง  อาจจะทำให้ให้น้ำมันเครื่องมีความหนืดน้อยเกินไป
ด้วยเหตุนี้น้ำมันเครื่อง muti-grade จึงเกิดขึ้นมา
เพื่อให้สามารถใช้ได้ทั้งที่อุณหภูมิต่ำ และอุณหภูมิสูง


ตรงนี้จึงทำให้หลายคนเข้าใจว่า
ตัวเลขหน้า w ของ น้ำมันเครื่อง muti-grade  ไม่มีผลต่อการใช้งานในเมืองไทย
เพราะเมืองไทยไม่ได้มีอุณหภูมิติดลบมากๆ
แต่ในความเป็นจริงมันก็ไม่ใช่แบบที่เข้าใจกัน
จริงอยู่ที่ 0w-40 หรือ 15w-40  ก็สามารถใช้กับรถในหลายๆรุ่นได้โดยที่ไม่พัง
แต่ในความใช้ได้โดยที่ไม่พังเหมือนกันนั้น  มันใช้ได้ดีไม่เหมือนกัน

ตามที่มีขายอยู่ทั่วไป   น้ำมันเครื่องเบอร์ 0w-40 จะมีคุณสมบัติดีกว่า 15w-40
0w-40 จะเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์
ส่วน 15w-40 จะเป็นน้ำมันเครื่องแบบธรรมดา หรือ แค่กึ่งสังเคราะห์เท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ตัวเลขที่อยู่ข้างหน้า w จึงเป็นตัวเลขที่พอใช้บอกคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องได้
หลักในการดูแบบคร่าวๆ
ถ้าน้ำมันเครื่องมีเบอร์ข้างหลังเหมือนกัน แต่เบอร์ข้างหน้าต่างกัน
เช่น  0w-40  5w-40  10w40
ถ้ารู้คุณสมบัติของน้ำมันเครื่องเพียงเท่านี้
มีแนวโน้มสูงที่ 0w-40 จะเป็นน้ำมันที่ดีที่สุด  รองลงมาคือ 5w-40

หลักการแบบนี้จะมีความถูกต้องมากขึ้นถ้าน้ำมันเครื่องนั้นเป็นน้ำมันเครื่องยี่ห้อเดียวกัน
ตัวอย่างเช่น
Performa Super Synthetic 0w-40
Viscosity
@40C cSt (cal = 70.5)
@100C cSt  12.7
Viscosity Index  183
Cold-cranking Simulator, @ -35C, cP 5,890

PTT Performa Fully 5w-40
Viscosity
@40C cSt (cal = 84.4)
@100C cSt  14.26
Viscosity Index  176
Cold-cranking Simulator, @ -25C, cP 5,410
อย่างไรก็ดี  ถ้าต้องการดูคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องแบบที่ชัดเจนขึ้น
ควรจะดูจากค่าความหนืดที่ช่วงอุณหภูมิต่างๆ
และดัชนีที่เป็นตัวชี้ถึงคุณสมบัติสูงต่ำที่ชัดเจนคือ Viscosity Index
โดยที่มีค่ายิ่งสูง  จะยิ่งดี
น้ำมันเครื่องที่มีค่า VI สูงกว่า  จะคุณสมบัติการรักษาความหนืดได้ดีกว่าครับ

อ้างอิงจาก  คุณTon99   pantip ครับ


* Oil.jpg (76.97 KB, 743x259 - ดู 738 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 กุมภาพันธ์ 2009, 00:54:57 โดย beer4353 » บันทึกการเข้า

NEO
หนุ่มโสดย่านชิดลม
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,065

My Name is NEO


« ตอบ #10 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2009, 07:48:15 »

- จริงๆแล้ว สามารถใช้ได้ครับ ถ้าเราเน้นประหยัด ขับสบายๆ ในเมือง ไม่ได้คิกดาวน์ หรือใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงมาก บ่อยๆ

แต่ถ้าคิกดาวน์และลากรอบสูงบ่อยๆ แนะนำให้ใช้เบอร์ 40 - 50 ขึ้นไปครับ จะช่วยลดการสึกหรอได้ดีกว่า แต่ว่าจะกินกำลังเครื่องทำให้เปลืองเชื้อเพลิงมากกว่า

เนื่องจากความหนืดที่มากขึ้นนั่นเองครับ        ยิ้ม



ธรรมชาติของน้ำมันเครื่อง
เมื่อมีอุณหภูมิต่ำ  ก็จะหนืดมากขึ้นหรือข้นขึ้น
เมื่อมีอุณหภูมิสูง ก็จะหนืดน้อยลงหรือใสขึ้น

น้ำมันเครื่องเบอร์เดี่ยว หรือที่เรียกกันว่าเกรดเดี่ยว
ถ้าเป็นเบอร์ 20 30 40 50  ก็จะมีค่าความหนืดที่ 100C เป็นไปตามตารางด้านล่าง
แต่พอเมื่อเจออุณหภูมิต่ำมาก(ติดลบ)  อาจจะทำให้น้ำมันเครื่องมีความหนืดมากเกินไป
ถ้าเป็นเบอร์ 5w 10w 15w ก็จะมีค่าความหนืดที่ช่วงอุณหภูมิต่ำตามตารางข้างบน
แต่พอเมื่อเจออุณหภูมิสูง  อาจจะทำให้ให้น้ำมันเครื่องมีความหนืดน้อยเกินไป
ด้วยเหตุนี้น้ำมันเครื่อง muti-grade จึงเกิดขึ้นมา
เพื่อให้สามารถใช้ได้ทั้งที่อุณหภูมิต่ำ และอุณหภูมิสูง


ตรงนี้จึงทำให้หลายคนเข้าใจว่า
ตัวเลขหน้า w ของ น้ำมันเครื่อง muti-grade  ไม่มีผลต่อการใช้งานในเมืองไทย
เพราะเมืองไทยไม่ได้มีอุณหภูมิติดลบมากๆ
แต่ในความเป็นจริงมันก็ไม่ใช่แบบที่เข้าใจกัน
จริงอยู่ที่ 0w-40 หรือ 15w-40  ก็สามารถใช้กับรถในหลายๆรุ่นได้โดยที่ไม่พัง
แต่ในความใช้ได้โดยที่ไม่พังเหมือนกันนั้น  มันใช้ได้ดีไม่เหมือนกัน

ตามที่มีขายอยู่ทั่วไป   น้ำมันเครื่องเบอร์ 0w-40 จะมีคุณสมบัติดีกว่า 15w-40
0w-40 จะเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์
ส่วน 15w-40 จะเป็นน้ำมันเครื่องแบบธรรมดา หรือ แค่กึ่งสังเคราะห์เท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ตัวเลขที่อยู่ข้างหน้า w จึงเป็นตัวเลขที่พอใช้บอกคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องได้
หลักในการดูแบบคร่าวๆ
ถ้าน้ำมันเครื่องมีเบอร์ข้างหลังเหมือนกัน แต่เบอร์ข้างหน้าต่างกัน
เช่น  0w-40  5w-40  10w40
ถ้ารู้คุณสมบัติของน้ำมันเครื่องเพียงเท่านี้
มีแนวโน้มสูงที่ 0w-40 จะเป็นน้ำมันที่ดีที่สุด  รองลงมาคือ 5w-40

หลักการแบบนี้จะมีความถูกต้องมากขึ้นถ้าน้ำมันเครื่องนั้นเป็นน้ำมันเครื่องยี่ห้อเดียวกัน
ตัวอย่างเช่น
Performa Super Synthetic 0w-40
Viscosity
@40C cSt (cal = 70.5)
@100C cSt  12.7
Viscosity Index  183
Cold-cranking Simulator, @ -35C, cP 5,890

PTT Performa Fully 5w-40
Viscosity
@40C cSt (cal = 84.4)
@100C cSt  14.26
Viscosity Index  176
Cold-cranking Simulator, @ -25C, cP 5,410
อย่างไรก็ดี  ถ้าต้องการดูคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องแบบที่ชัดเจนขึ้น
ควรจะดูจากค่าความหนืดที่ช่วงอุณหภูมิต่างๆ
และดัชนีที่เป็นตัวชี้ถึงคุณสมบัติสูงต่ำที่ชัดเจนคือ Viscosity Index
โดยที่มีค่ายิ่งสูง  จะยิ่งดี
น้ำมันเครื่องที่มีค่า VI สูงกว่า  จะคุณสมบัติการรักษาความหนืดได้ดีกว่าครับ

อ้างอิงจาก  คุณTon99   pantip ครับ


พ่อนักวิชาการ   ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

Vitty
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 725


« ตอบ #11 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2009, 09:17:56 »

กระจ่างเลยครับ
บันทึกการเข้า

~ รั บ ซ่ อ ม ใ จ ~


http://lonelysecret.hi5.com
xixxers
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7


« ตอบ #12 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2009, 10:11:57 »

clear เลยครับ
บันทึกการเข้า
creamy
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


« ตอบ #13 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2009, 14:36:04 »

แล้วถ้ารถมือ2 ถูก กอไมล์ มาละค่ะ เราจะรู้ได้ไงว่า จริงๆแล้วรถวิ่งมากี่แสนโล

แล้วเราจะเลือกใช้น้ำมันเครื่องแบบเบอร์ไหน


บันทึกการเข้า
Aod61 : มิสซิสซิปปี้
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18,391


รับแก้ทอม ซ่อมดี้


« ตอบ #14 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2009, 15:57:08 »

แล้วถ้ารถมือ2 ถูก กอไมล์ มาละค่ะ เราจะรู้ได้ไงว่า จริงๆแล้วรถวิ่งมากี่แสนโล

แล้วเราจะเลือกใช้น้ำมันเครื่องแบบเบอร์ไหน










รถที่จูนไมล์ มาแล้ว....คงไม่รู้หรอกครับ ว่าจริงๆใช้มาจริงๆเท่าไรแล้ว
จึงมีวิธีง่าย ๆสำหรับรถมือ 2   ก็คือให้มันมาเริ่มนับ 1 ใหม่ที่คุณคือการ
เปลี่ยนถ่ายของเหลวทุกชนิดเช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์  ตลอดจนสายพานทุกเส้น

ไอ้ W อย่าไปสนใจมัน   มันย่อมาจากคำว่า Winter ที่แปลว่าฤดูหนาว  บ้านเราคงอุณหภูมิไม่ถึว 0 หรือ 5 องศาแน่ๆ
เอาเซฟ  ก็ 40 ก็พอครับ

กึ่งสังเคราะห์  ก็เปลี่ยนถ่ายทุก 1 หมื่น  กม.
สังเคราะห์     ก็อยู่ได้ถึง 1.5 หมื่นกม.     เปลี่ยนถ่ายก่อนถึงระยะได้  อันนี้แล้วงบประมาณและฐานะ

บันทึกการเข้า

หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: ฟันธงให้หน่อยครับว่า Civic 96 สามารถ ใช้ น้ำมันเครื่องเกรด 5w30 ได้ไหมครับ?????
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |