---เนื่องจากปัจจุบันยังมีคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับคำว่า "ไวรัส" อยู่มากโดยเฉพาะมือใหม่ หากเราอยากเป็นมือเก่ามือเก๋าก็ต้องรู้กันไว้บางล่ะครับว่ามันแปลว่าอะไรหมายถึงอะไรกันบ้าง ไม่ใช่เอะอะก็เรือกว่าไวรัสๆไปซะหมด (แต่ปกติผมก็เรียกยังงั้นมันเขียนง่ายดี ฮาา..) ไม่พูดพร่ำทำเพลงว่ากันไปเลย
---1.Malware ย่อมาจาก Malicious Software แปลตรงตัวว่า ซอฟท์แวร์ที่ "มุ่งร้าย" พูดง่ายๆมันคือตัวที่ใช้เรียกรวม virus spyware worm trojan ทั้งหมดนั่นแหละ แต่จริงๆความหมายมันกว้างกว่านั้นครับ มันยังหมายรวมไปถึงพวก hack tool ต่างๆของแฮ็กเกอร์ที่หวังเอาข้อมูลจากเครื่องเราด้วย เช่นพวก key logger โปรควบคุมเครื่อง และรวมไปถึงพวก phishing ต่างๆด้วย
---2.Virus มุ่งสร้างความเสียหายให้กับไฟล์หรือซอฟแวร์บางทีอาจหนักถึงขนาดส่งผลให้ฮาร์ดแวร์เสียหายก็เป็นได้ (เนื่องจากไปทำลายหรือแก้ไขไฟล์ระบบที่เกี่ยวกับการควบคุมฮาร์ดแวร์โดยตรง) จะส่งตัวเองไปเครื่องอื่นๆเองไม่ได้ มันจะต้องอาศัยไฟล์อื่นที่ติดเชื้อแพร่ไป หรือยกตัวอย่างง่ายๆมันจะเข้าไปแก้หรือเพิ่ม code ที่ทำให้ไฟล์นั้นทำงานปกติและในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ของไวรัสไปด้วย
---3.Worm มุ่งสร้างความเสียหายให้กับระบบเครือข่ายมากกว่า มีความสามารถคัดลอกตัวเองส่งต่อไปเครื่องอื่นได้ นั่นคือมันทำงานดดยลำพังได้ไม่ต้องฝังตัวไปกับไฟล์ใดๆ มักมาในรูปแบบการก่อกวนมากกว่าที่จะทำให้อะไรเสียหาย
---4.Trojan ความประสงค์ของมันค่อนข้างจะกว้างเนื่องจากเป็น malware ยุคใหม่ ส่วนใหญ่มีไว้เพื่อให้ผู้สร้างสามารถควบคุมเครื่องเป้าหมายได้ หรือแค่แอบเฝ้าดูการกระทำของเจ้าของเครื่อง มีลักษณะการโจมตีตามชื่อคือส่งม้าโทรจันที่มีทหารแอบอยู่ด้านในเข้ากรุงทรอย แล้วโจมตีจากภายใน (ใครเคยดูหนังน่าจะเคยเห็น) พูดง่ายๆคือมันจะมาในคราบของโปรแกรมธรรมดาๆ แล้วหลอกให้เราติดตั้งลงไปในเครื่องด้วยตัวเองนั่นเอง
---5.Spyware มุ่งเป็นสปายอย่างเดียวไม่แพร่เชื้อ อาศัยช่องโหว่เข้าไปติดตั้งตัวเองในเครื่องเหยื่อ แล้วแอบส่งข้อมูลออกมาอย่างลับๆให้ผู้ส่งมันเข้ามา มันจึงมักจะแอบไปฝังตัวใน web browser หรือ โปรแกรมพวกจัดการ e-mail ต่างๆเพื่อความสะดวกในการส่งข้อมูล
---6.Adware ไม่ใช่ Add ที่แปลว่าเพิ่มนะครับ แต่เป้น Ad ที่แปลว่าโฆษณา พูดง่ายๆคือโปรแกรมที่มันแอบ และไม่แอบ มาฝังตัวกับอะไรักอย่างของเราส่วนมากก็มีสองอย่างคือ Web Browser และ โปรแกรมต่างๆ(มักจะเป้นของฟรี) เพื่อจ้องจะโฆษณา หรือจ้องจะเปิดเวบเพจของบริษัทให้ได้นั่นเองครับ ส่วนมากไม่เป็นปัญหาอะไร แต่น่ารำคาญมากกว่า และที่บอกว่าไม่แอบก็เพราะว่าบางโปรแกรมมันบอกใน License Agrement เลยว่าจะมีโฆษณาแปะอยู่ แต่เราก็กด agree โดยไม่อ่าน และกด next ไปเรื่องใช่ไหม? ก็นั่นแหละรู้ตัวเสียว่าเรายอมรับมันเข้ามาเอง กรุณาอย่าโวยวายว่าน่ารำคาญ!!! อ้อแล้วเมื่อช่วงปีที่ผ่านมาก็มีการวิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า adware ควรจะถูกห้ามหรือไม่เพราะ adware บางตัวมันเล่นแอบรายงานด้วยว่าเราชอบเข้าเวบอะไรบ้าง่สงไปยังบริษัทนั้น เพื่อจะได้ปรับกลยุทธ์ในการขายได้ดีขึ้น ปัจจุบัน adware เลยเขยิบเข้าไปใก้เคียงกับ spyware เลยทีเดียว
---7.Phishing อันนี้น่ากลัวที่สุดถ้าเทียบระดับความเสียหายแบบโดนเต็มๆ เพราะมันเป้นการวางเหยื่อล่อให้เหยื่ออย่างเราๆท่านๆมางาบไปกินเอง โดยโปรแกรมหรือเวบเพจ หรือเมลล์พวกนี้จะหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวทางด้านการเงินของเราไป เพื่อคนวางเหยื่อล่อจะได้เอาไปใช้ได้สบายแฮ เช่นมาในรูปของธนาคารส่งเมลล์มาบอกว่าจะอัพเดทระบบฐานข้อมูลให้ท่านส่งรายละเอียดของบัตรเครดิตท่านมารวมทั้ง "รหัส" ด้วย ถ้าท่านส่งไปก็เสร็จโจรสิครับ
---แต่ malware สมัยนี้มันจำแนกเป็นประเภทๆอย่างนี้ได้ง่ายๆซะเมื่อไหร่ เพราะเทคโนโลยีมันพัฒนาขึ้น malware พวกนี้มันก็พัฒนาตามเช่นกัน ผู้เขียนเก่งๆเลยจับข้อดีข้อง malware ประเภทต่างๆมารวมๆกันเข้า ทำให้เดี๋ยวนี้ไม่รู้จะเรียกซอฟท์แวร์พวกนี้ว่าอะไรกันแล้ว บ้างก็เรียกว่า Hybrid malware หรือ Blended Threats บ้าง เพื่อบ่งบอกว่ามันเกิดจากการรวมเอาข้อดีของหลายๆตัวมารวมกัน แต่ยังไงก็ตามการเรียกพวกนี้ก็จะมาจากพื้นฐานของ 7 ข้อนี้นั่นแหละครับ หวังว่าจะเข้าใจกันมากขึ้น
ผู้เขียน
