ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
21 กรกฎาคม 2025, 17:27:45
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: มาแปลง Flasher ไฟเลี้ยวแบบหลอดกลมมีใส้ มาเป็นแบบ LED 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: มาแปลง Flasher ไฟเลี้ยวแบบหลอดกลมมีใส้ มาเป็นแบบ LED  (อ่าน 18782 ครั้ง)
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« เมื่อ: 08 เมษายน 2013, 15:37:36 »



การดัดแปลงแก้ไข Flasher ไฟเลี้ยว  ของหลอดไฟแบบกลม ที่มีใส้หลอด  มาเป็นหลอดไฟแบบ LED ( Light Emitting diode)    ซึ่งจะเห็นความแตกกันทั้งรูปแบบการทำงานและโครงสร้างของวัสดุที่ใช้  จึงเป็นปัญหาที่ทำให้วงจรไฟเลี้ยว  ที่ใช้ Flasher เป็นระบบอีเลคโทรนิคส์  ทำงานร่วมกับระบบรีเรย์   ไม่สารถทำงานได้ในลักษณะของหลอดแบบกลมที่มีใส้หลอด   ที่ทำให้กระแสไฟไหลผ่านลงกราวด์หรือครบ  Loop circuit ของการใช้กระแสไฟของโหลด

 เพราะการทำงานของวงจรในตัว  Flasher ที่ใช้วงจรพวกวงจร Flip Flop IC/ Timer IC  แบบต่างๆ  ที่อาศัยการไหลของกระแสไฟของโหลด  ผ่านค่า ความต้านทาน   ที่มีค่า R และ C  ในการสร้างสัญญาณพัลส์โวลเต็จ  กำหนดช่วงเวลาของการเกิดพัลส์  และขับกระแสไฟให้ตัวรีเรย์ทำงาน  ให้หลอดไฟกระพริบ

เนื่องจากหลอด LED ไม่มีใส้หลอด  เหมือนกับหลอดไฟกลม  จึงทำให้กระแสไฟไม่สามารถไหลผ่านได้โดยตรงลงกราวด์  เพราะคุณสมบัติของ LED  ที่มันสามารถเปร่งแสงออกมาได้เพราะ ตัวมันเป็นสารกึ่งตัวนำ ที่อาศัยการเคลื่อนที่ของอีเล็คตรอนอิสระ  ในวงจรของนิวเคลียสวงนอกสุดข้ามไปยังจรในสุดของวงนิวเคลียส   มันจะปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปของแสงที่มีความถี่ต่ำ  ที่สายตามองเห็นได้  จึงทำให้ไม่มีกระแสไฟไหลผ่านหลอด LED  จะมีก็เพียงเปลี่ยนกระแสไฟให้เป้นพลังงานแสง  ตามที่กล่าว   ทำให้ไม่มีกะแสไฟไหลผ่านโหลดที่เป็นแบบหลอดไฟ LED

เมื่อเป็นดังนี้การที่จะเอาหลอด LED มาต่อแทนหลอดไฟกลมที่เป็นไส้หลอด  ก็จะเอามาแทนกันไม่ได้   หากนำมาติดตั้งแทนทันที่  จะทำให้กระแสไฟที่วงจร Flip Flop IC  ไม่มีกระแสไหลผ่าน หรือ Open  (หรือมีน้อยมาก)   ทำให้วงจร ที่ค่า R
มีกระแสไฟไหลผ่านน้อย  เป็นผลให้ไฟติดค้าางหรือมีความถี่ปิดเปิดเร็วมาก       ดังจะเห็นได้จากวงจรไฟเลี้ยวที่มีหลอดไฟแบบมีไส้  ข้างหนึ่งข้างใดของรถขาด  เช่นหลอดไฟเลี้ยวดวงหน้าขาด  ก็จะทำให้ไฟเลี้ยวด้านนั้น  อาจจะติดตลอดไม่กระพริบหรือ กระพริบเร็วมากๆ   ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่ากระแสไฟที่ไหลผ่านหลอดน้อยลงเพราะเหลือหลอดเดียว  ทำให้วงจร  Flip Flop  สร้างสัญญาณพัลส์เร็วขึ้น     

หรือจะพิสูจน์ง่ายๆในเรื่องนี้ก็ไม่ยาก  ลองเปลี่ยนหลอดไฟเลี้ยวกลม จาก 5 w  เป็น 10 w  เปลี่ยนทั้งสองหลอดหน้าหลัง  ของด้านไฟเลี้ยวซ้ายหรือขวา  ด้านใดด้านหนึ่ง   แล้วลองเปิดไฟเลี้ยวด้านที่เปลี่ยนหลอดดู   จะพบว่าหลอดไฟกระพริบช้าลง  ในทางตรงกันข้ามหาก  เปลี่ยนหลอดไฟให้มีค่าวัตต์น้อยลง  มันก็จะกระพริบเร็วขึ้น   ก็ลองดู    การกระพริบน้อยหรือมากโดยการเปลี่ยนค่าวัตต์ของหลอดไฟ       นอกจากนี้แล้วการที่จะกำหนดให้การกระพริบของหลอดไฟ ได้ตามต้องการ  ยังจะต้องเปลี่ยนแปลงค่า R หรือ C ในวงจร Flip  Flop ด้วย  ที่กล่าวมานี้เป็นไฟในรูปแบบของการใช้หลอดไฟกลมที่มีไส้หลอด

ต่อไปจะกล่าวถึงการใช้หลอด LED มาใช้แทนหลอดแบบใช้ไส้หลอด  ว่าจะมีวิธีการอย่างไรว่าให้ใช้แทนกันได้  จะต้องสร้างอะไรมาหรอกวงจร Flip Flop  ให้มันทำงานเช่นเดียวกับหลอดไฟกลม   ก็เนื้อหายาวสักนิด   เพราะมีการสร้างค่าโหลดของการใช้กระแสไฟให้สามารถไหลผ่านลงกราวด์ได้  เช่นเดียวกับหลอดกลม   ก็มีการคำนวณหาค่าโหลดที่จะนำมาใช้แทนหลอดกลม   

 มาต่อเนื้อหาเรื่องการดัดแปลงระบบไฟเลี้ยวแบบใช้หลอดกลมให้เป็นหลอด LED

ในตอนแรกที่ผ่านมาผมได้กล่าวไว้ว่า  การทำงานของระบบตัว Flasher ที่เป็นแบบอีเลคโทรนิคส์  ที่มีพวกวงจร Flip Flop เข้ามาเกี่ยวข้อง  หรือวงจรอื่นๆที่ทำงานคล้ายกัน   แล้วแต่ผู้ผลิตเขาจะใช้  แต่ตัวที่ผมทำการทดสอบการทำงาน  เป็นของ
TOYOTA  12-01 / DENSO 79007 DOT    การทำงานของมันขึ้นอยู่กับการใช้กระแสของหลอดไฟที่เป็นโหลดของวงจร

ดังนั้นววิธีการที่จะให้วงจรมันทำงานแบบการใช้กระแสของหลอดที่มีใส้หลอด  ก็จำเป็นที่จะต้องสร้างโหลด Resistance หรือค่าความต้านทาน  มาทำการใช้กระแสไฟแทนหลอดแบบมีใส้   เพราะหลอด LED และเปร่งพลังงานแสงออกมาในรูปของการเคลื่อนที่ของอีเลคตรอนอิสระ   และประการสำคัญ หลอด LED  มันกินกระแสไฟน้อย จึงจำเป็นที่จะต้องทำตามวิธีที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้

ประการแรกเราต้องทำการวัดกระแสไฟของหลอดกลม  ในขณะที่ใช้งานคือเปิดไฟเลี้ยว จะซ้ายหรือขวาก็ได้  ให้มา VOM มิเตอร์ ต่ออันดับกับสายไฟที่มาจาก SW ของสวิชไฟเลี้ยว   มาเข้าที่ขา L  (แอล)  ที่ด้านล่างของตัวแฟรชเชอร์   ตรงที่มีขั่วเสียบสามขาเสียบเข้ากับขาของตัวแฟขชเชอร์   เขาจะเขียนตำแหน่งของสายออกว่า ตัว  L 
โดยให้ตั้ง Range วัดกระแสที่ 10 Amp  (ในมิเตอร์ทั่วๆไปมีให้วัดได้ 10 A )  หากไม่เข้าใจดูภาพที่ผมแนบมาประกอบ รูปที่ 2A


* Flasher รูปที่ 2 A.jpg (15.71 KB, 261x534 - ดู 10109 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #1 เมื่อ: 08 เมษายน 2013, 15:38:41 »

ปกติไฟเลี้ยวไม่ว่าจะซ้ายหรือขวา   จะมีการต่อหลอดไฟแบบขนานกันสองหลอด  คือหลอดไฟเลี้ยวหน้าและหลอดไฟเลี้ยวข้างหลัง  และโดยทั่วไปหลอดไฟเลี้ยวมักจะใช้ขนาด 5 Watt   หรือไม่ก็ 10 Watt     สมมุติว่าวัดกระแสไฟเลี้ยวด้านหนึ่งด้านใด กินกระแสไฟประมาณ 1.5 Amp  หรือมากกว่า  หากใช้หลอดแบบ 10 Watt   เอาเป็นว่าสัก 1.5 Amp(1500ma)

ให้เราจดเอาไว้ว่า หลอดไฟกินกระแส 1500 ma(1.5A)   แล้วทำให้มีการกระพริบของหลอดไฟ ที่ 60 ครั้งต่อนาที  ขั้นตอนต่อไป  ให้เรามาทำการวัดกระแสไฟของหลอด LED  ไม่ว่าจะเป็นแบบหลอดที่สำเร็จรูป  หรือเป็นแบบ LED หลอดเล็กหลายๆสิบดวง  ที่นำมาประกอบ แบบที่เขาทำขายตามท้องตลาดบ้านหม้อ แบบเส้นยาวๆ   หรือทำเอง  จะทำเองหรือซื้อก็ไม่สำคัญ      สำคัญตรงว่าต้องนำมาใช้กับไฟ 12V ในรถยนต์ได้ทันที   หากทำเองก็ต้องหาค่า resistor มาต่ออันดับกับหลอด LED  เพื่อดร๊อปโวลเต็จจาก 12 V ให้เหลือ 3 V ใช้กับหลอด LED 

การตรวจงัดกระแสไฟของหลอด LED ก็ดูตามภาพที่ผมส่งมา เป็นรูปที่  3A     จากการวัดกระแสไฟที่หลอดLED จะพบว่ามันกินกระแสไฟไม่มาก  อย่างหลอดที่ผมซื้อมาสีเหลืองๆในภาพแรกๆที่ส่งมา   จะกินกระแสเพียง  250 ma เท่านั้นต่อหลอด  หากใช้สองหลอดหน้าหลัง  ก็ประมาณ 500 ma


* Flasher รูปที่ 3A.jpg (7.28 KB, 185x317 - ดู 7845 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #2 เมื่อ: 08 เมษายน 2013, 15:39:45 »

สมมุติว่าวัดค่ากระแสไฟของหลอด LED เท่ากับ 250 ma ต่อดวง  เท่กับว่าไฟเลี้ยวหน้าหลังใช้กระแสไฟเท่ากับ  500 ma
เราทราบการวัดการใช้ของกระแสไฟในหลอดกลมในตอนแรกแล้วว่า เราใช้ 1500 ma(1.5A)   เมื่อมาเทียบกันกับหลอดไฟ LED จะมีผลต่างกัน  1000 ma( 1 A)   เมื่อเราทราบว่ามีผลต่างอยู่ที่ 1000 ma   ที่จะทำให้วงจร Flasher ทำงาน ให้ไฟกระพริบที่ 60 ครั้งต่อนาที   ดังนั้เราก็จำเป็นที่จะต้องหาค่าโหลด Resistor  ที่ทำให้ใช้กระแสไฟที่ 1000 ma

ถึงตอนนี้ก็จะเป็นที่จะต้องมีการคำนวณเล็กๆน้อยๆ  สำหรับสูตรคำนวณเรื่องการหาค่ากระแสไฟ  โวลเต็จ  ค่าความต้านทาน   เพาเวอร์พลังงานที่ใช้ไปของวงจรไฟฟ้า   เป็นสูตรพื้นฐานมีมาตั้งแต่ระดับนักเรียนม.ต้น  เขาเรียนกัน
การหาค่า Load resistor  โดยใช้สูตร  R = E/I ,  I = E/R,  E = IR,  P = EI   P = power( วัตต์ )
ในที่นี้เราทราบว่า เราต้องการกระแสไฟของโหลดเท่ากับ 1000 ma( 1A )
                        จากสูตร  R = E/I
                                    ค่า R คือค่าที่ต้องการทราบ = ?
                                     ค่า E = 12 V
                                    ค่า I = 1000 ma  (ในสูตรการคำนวณ จะต้องทำให้เป็นหน่วยหลักของสูตรคำนวณ   คือ กระแส
                                                                   ( I )  มีหน่วยวัดเป็น Amp    E = โวลเต็จ  มีหน่วยวัดเป็น  Volt  และ R = ค่า
                                                                 ความต้านทาน  มีหน่วยวัดเป็น Ohm
ดังนั้นในที่นี้เราก็จะแปลง 1000 ma ให้เป็น Amp  ได้เท่า 1 A
แทนค่าในสูตร  จะได้                            R =  12/1  = 12 Ohm
ก็ทำให้เราทราบว่า การที่ให้โหลดค่าความต้านทานกินกระแสไฟ    ที่ 1 A   จะใช้ค่าความต้านทานเท่ากับ  12 Ohm   จริงอยู่  แต่เรายังไม่รู้เลยว่า  ค่าความต้านทานที่ใช้  สามารถทนกระแสไฟได้กี่วัตต์  เพราะเวลาเราซื้อค่าความต้านทาน  เราจะต้องบอกทั้งค่าความต้านทานและค่าวัตต์   เช่น ค่า R 10 Ohm 5 watt
ดังนั้นเราก็มาคำนวณหาค่าทนกระแสไฟค่าวัตต์  ว่ามันควจจะใช้ที่เท่าไหร่  จากสูตร
                                               P  = EI
P  =  คือวัตต์ที่ต้องการ ทราบ
E  =  ทราบแล้วคือ 12 V ( ค่า E คือค่าโวลเต็จที่ตกคร่อมค่า R ความต้านทาน  ในที่นี้เราใช่ค้า R โหลดต่อคร่อมกับแหล่งจ่ายไฟ 12 V คือบวกกับกราวด์  จึงเท่ากับว่า มีโวลตกคร่อมค่าความต้านทาน = 12V    หากวงจรไหน มีค่าความต้านทานหลายๆค่าต่ออันดับกัน   ก็จะต้องเอาค่าโวลเต็จดร๊อปที่ค่าความต้านทานแต่ละตัว  มาคำควนหาค่าวัตต์เพาเวอร์แต่ละต้ว
I  =  ทราบแล้วคือ 1 A                แทนค่าในสูตร   P =  12X1  = 12 Watt
แต่การใช้งานจริงเขาจะเพิ่มจากค่าที่คำนวณได้ อีก 10-15%    งั้น 12 watt ก็จะเป็น  13.8 watt  แต่ในท้องตลาด ค่า 13.8 watt ไม่มี  มีก็ 15 watt   
ดังนั้นเราก็จะใช้ค่าความต้านทาน R = 12 Ohm 15 watt
จากค่าความต้านทานที่เราได้  12 Ohm 15 watt   จะพบว่าค่า ความต้านทานมีตัวใหญ่เกินไป  ดังนั้นเวลาเรานำไปใช้งานจริง  เราจะทำดังนี้  ให้หาค่าความต้านทาน ที่มีค่าเท่ากับ  24 Ohm 8 watt มาสองตัว  ตัวต่อคร่อมกับหลอดไฟ LED  ด้านหน้า   และที่เหลืออีกตัวต่อคร่อมกับหลอด LED ที่ด้านท้ายรถ    ค่าความต้านทานสองตัว 24 Ohmต่อขนานกัน  ค่าความต้านทานจะเหลือเท่ากับ  12 Ohm   แต่เราได้ตัวเล็กกว่า   ไม่เกะกะเนื้อที่ในการติดตั้ง  แถมแบ่งกระแสกันอีก  ทำให้ใช้งานได้ทนกว่าแบบตัวเดียว

ดังนั้นเมื่อเราได้ค่าความต้านทานที่ต้องการแล้ว คือ 24 Ohm 8 watt  เราจะใช้ต่อคร่อมกับหลอด LED ทั้งสี่ดวง คือไฟเลี้ยวซ้าย สองดวง  ไฟเลี้ยวขวาสองดวง      คราวนี้ก็จะใช้งานกับหลอดไฟ LED ให้กระพริบเท่ากับหลอดไฟแบบมีใส้
การการวัดค่ากระแสไฟที่ผมยกตัวอย่างมาคำนวณนี้    ท่านที่นำไปใช้จรองจะต้องวัดกระแสไฟของหลอดกลมเดิมว่าใช้เท่าไหร่   และวัดการใช้กระแสไฟของหลอด LED ว่าใช้เท่าไหร่   แล้วเอากระแสไฟของหลอด LED  ไปลบออก  ที่เหลือก็นำไปใช้ในการคำนวณหาค่าความต้านและค่าวัตต์ตามที่แนะนำมา   ก็ใช้งานได้แล้ว

สำหรับบางท่านที่ต้องการความเร็วในการพริบที่แตกต่างจากนี้ เช่นให้เร็ว ให้ช้าตามต้องการ   ก็ไปเปลี่ยนค่า capacitor ในแผงวงจร แฟรชเชอร์  ที่มีค่า  3.3 Mfd  50V  เป็น 10 Mfd  การกระพริบก็จะช้า  หากเปลี่ยนให้น้อยลงกว่า 3.3Mfd  ก็จะเร็ว

สำหรับเรื่องการปรับปรุงระบบไฟเลี้ยว  ที่นำมาแนะนำนี้    มันเป็นแบบที่ใช้กับหลอดไฟกลมแบบมีไส้หลอด   แล้วนำมาใช้กับหลอดไฟแบบ LED      จริงแล้วปัจจุบันนี้ก็มีแฟรชเชอร์ที่ทำมาเฉพาะกับไฟ LED   แต่เห็นว่าเอาของเก่ามาแปลงก็ใช้ได้  ไม่เปลืองตังค์    หรืออาจจะทำขึ้นมาเองแบบ รีเรย์  ที่มีวงจรไอซีไทม์เมอร์ที่  มาทำหน้าที่ตัดต่อไฟให้กับหลอด LED  ก็นำมาใช้งานได้เช่นกัน  จะให้กระพริบช้าเร็วแบบไหนก็ทำได้ง่ายๆ    แล้วแต่ความชอบแต่ละท่านครับ  ก็ขอให้เพื่อนๆสมาชิกมีความสุขและสนุกกับการดัดแปลงใช้งานนะครับ  ……srithanon


* Flasher ดัดแปลงแก้ไขใช้กับ LED.jpg (19.11 KB, 339x521 - ดู 20641 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #3 เมื่อ: 08 เมษายน 2013, 15:42:55 »

ตัวอย่างที่ทดลองใช้กับหลอด Super  Bright LED  ตามคลิปวิดีโอ

http://youtu.be/CTdphpRn0DA


http://youtu.be/CMaHjxzOjjM
บันทึกการเข้า
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #4 เมื่อ: 08 เมษายน 2013, 16:10:13 »

หลอดไฟ  Super Bright LED  สีเหลือง  ราคา 220 บาท


* DSCN0111.JPG (107.32 KB, 850x638 - ดู 7854 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #5 เมื่อ: 08 เมษายน 2013, 16:11:39 »

ตัว Frasher  ของ TOYOTA  ราคา 100  บาท


* DSCN0114.JPG (125.56 KB, 850x638 - ดู 8081 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #6 เมื่อ: 08 เมษายน 2013, 16:13:38 »

ภายในตัว Relay


* DSCN0116.JPG (124.14 KB, 850x638 - ดู 13677 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #7 เมื่อ: 08 เมษายน 2013, 16:15:19 »

ส่วนที่ใช้ทดลอง


* DSCN0121.JPG (115.54 KB, 768x576 - ดู 8800 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Alex007
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 214


« ตอบ #8 เมื่อ: 08 เมษายน 2013, 20:28:39 »

ขอบคุณ..ในความพยายามที่จะอธิบายมากครับ... ผมก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องวงจรเท่าไหร่ครับ..อ่านแล้วตาลายงงงงงงครับ..ทำเองไม่ได้แน่  ตกใจ เศร้า เศร้า  ถ้าจะกรุณาสรุปสั้นๆ แล้ว เอาผลงานจริงแบบสำเร็จ มาให้ชมเลยได้มั้ยครับ...( ความเห็นส่วนตัวนะครับ..) แต่ยังไงก็ขอบคุณคุณ srithanon มากครับ..ติดตามมาหลายกระทู้แล้วครับ..เป็นผู้ให้ความรู้ประจำบอร์ดเลยจริงๆ  จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #9 เมื่อ: 09 เมษายน 2013, 08:11:48 »

ตอบคุณ Alex007   ขอบคุณที่เข้ามาคอมเม้นท์    อยากจะทำแบบที่คุณต้องการที่ว่าให้บอกมาเลยว่าทำอย่างไร   ถามว่าทำได้ไหม? ทำได้ครับแต่มันไม่พอดีเป๊ะ   หากเอาแบบเคร่าๆก็พอได้   หากใช้หลอด LED ตามที่ผมทดลองตามในภาพ   ก็ให้ไปซื้อค่าความต้านทาน ที่มีค่า  10 Ohm5w  มาคร่อมกับหลอดไฟ LED  ทั้งสี่ดวงของไฟเลี้ยว ซ้ายและขวา   หากต่อคร่อมหลอดไฟแล้วทำให้กระพริบช้าลงกว่าเดิม  ก็ให้เพิ่มค่าความต้านทานเป็น 15 Ohm 5w
การกระพริบของหลอดไฟก็จะเร็วขึ้น   
คือหากเร็วไปก็ให้ค่าความต้านทานมันน้อยลงมา   หากกระพริบช้าก็ให้เพิ่มค่าความต้านทานขึ้นไปครั้งละสองสามโมห์     ก็ประมาณนี้   ก็จัดให้ไป  ลองทำดูครับ   เพราะหากจะเอาแบบวิธีนี้ก็ต้องเป็นแบบนี้ครับ   หากเอาตามที่แนะนำมา  มันสามารถใช้กับแฟรชเชอร์ได้ทุกยี่ห้อ   และกำหนดค่าความต้านทานได้แน่่นอน  ที่เวลาเอามาบัดกรีคร่อมหลอดไฟ LED แล้วทำให้  การกระพริบของไฟมีความถี่เท่าเดิมครับ......srithanon
บันทึกการเข้า
nitis
+ + + ถึงจะแก่ แต่ก็รักเด็กนะครับ + + +
Gold Member
จอมยุทธ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 286



« ตอบ #10 เมื่อ: 09 เมษายน 2013, 08:41:41 »

 จุมพิต จุมพิต จุมพิต

บันทึกการเข้า
Alex007
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 214


« ตอบ #11 เมื่อ: 09 เมษายน 2013, 12:25:35 »

ตอบคุณ Alex007   ขอบคุณที่เข้ามาคอมเม้นท์    อยากจะทำแบบที่คุณต้องการที่ว่าให้บอกมาเลยว่าทำอย่างไร   ถามว่าทำได้ไหม? ทำได้ครับแต่มันไม่พอดีเป๊ะ   หากเอาแบบเคร่าๆก็พอได้   หากใช้หลอด LED ตามที่ผมทดลองตามในภาพ   ก็ให้ไปซื้อค่าความต้านทาน ที่มีค่า  10 Ohm5w  มาคร่อมกับหลอดไฟ LED  ทั้งสี่ดวงของไฟเลี้ยว ซ้ายและขวา   หากต่อคร่อมหลอดไฟแล้วทำให้กระพริบช้าลงกว่าเดิม  ก็ให้เพิ่มค่าความต้านทานเป็น 15 Ohm 5w
การกระพริบของหลอดไฟก็จะเร็วขึ้น   
คือหากเร็วไปก็ให้ค่าความต้านทานมันน้อยลงมา   หากกระพริบช้าก็ให้เพิ่มค่าความต้านทานขึ้นไปครั้งละสองสามโมห์     ก็ประมาณนี้   ก็จัดให้ไป  ลองทำดูครับ   เพราะหากจะเอาแบบวิธีนี้ก็ต้องเป็นแบบนี้ครับ   หากเอาตามที่แนะนำมา  มันสามารถใช้กับแฟรชเชอร์ได้ทุกยี่ห้อ   และกำหนดค่าความต้านทานได้แน่่นอน  ที่เวลาเอามาบัดกรีคร่อมหลอดไฟ LED แล้วทำให้  การกระพริบของไฟมีความถี่เท่าเดิมครับ......srithanon
จุมพิต จุมพิต ขอบคุณนะครับ.. ถ้าว่างจะพยายามลองดูครับ..เผื่อไฟเลี้ยว ek ผมมันจะได้ดูสว่างชัดกว่าทุกวันนี้  ยิ้ม ยิ้ม
บันทึกการเข้า
MANUTS
= ท่านรอง รปภ. สป. =
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,972


นัต.....สมุทรปราการ


« ตอบ #12 เมื่อ: 09 เมษายน 2013, 13:17:43 »

 จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า

Forgive  AND  Forget
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: มาแปลง Flasher ไฟเลี้ยวแบบหลอดกลมมีใส้ มาเป็นแบบ LED
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |