ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
21 กรกฎาคม 2025, 16:29:53
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: NGV กำลังจะหมด อนาคต แว๊ว............... 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: NGV กำลังจะหมด อนาคต แว๊ว...............  (อ่าน 1726 ครั้ง)
teelex123
ไม่อยากเป็น
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,191


« เมื่อ: 03 ธันวาคม 2007, 04:04:10 »



พลังงานทางเลือกสำหรับรถยนต์ถือเป็นสิ่งใหม่สำหรับเมืองไทย ทั้งความรู้ ความเข้าใจ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ยังต้องสร้างกันอีกในระยะยาว แม้เราจะเห็นรถแท๊กซี่ติดแก๊สใช้งานมานานนับ 10 ปี แต่ถ้าถามว่า คุณรู้หรือไม่ว่าแก๊สที่เขาติดเป็นอย่างไร? ปลอดภัยหรือเปล่า และใช้งานได้ดีเทียบเท่าเชื้อเพลิงน้ำมันแค่ไหน?
       คำตอบอยู่ในใจคุณแล้ว ฉะนั้นหนทางที่จะสร้างองค์ความรู้และทำให้พลังงานทางเลือกแจ้งเกิดได้ แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญอยู่ที่นโยบายของภาครัฐต้องชัดเจน ประกอบกับผู้ผลิตรถยนต์ต้องมีรถยนต์ผลิตออกมาจำหน่ายพร้อมกับการให้ข้อมูลที่ถูกต้องเชื่อถือต่อผู้บริโภค แต่ ณ เวลานี้เมืองไทยมีผู้ผลิตรถยนต์เพียงรายเดียวเท่านั้นที่มีรถยนต์พลังงานทางเลือก (ผลิตโดยตรงจากโรงงาน) ออกมาจำหน่าย นั่นก็คือ ?เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่นอี200 เอ็นจีที(E200 NGT)?
       
       ครั้งหนึ่ง ?ผู้จัดการมอเตอริ่ง? เคยนำเสนอบททดสอบมาแล้ว ในโฉมเก่า ดังนั้นเมื่อมีการปรับโฉมใหม่เราจึงขอกระตุ้นการรับรู้เรื่องรถยนต์พลังงานทดแทนด้วยการทดสอบ อี200 เอ็นจีที โฉมเฟคลิฟท์กันอีกสักหน และเป็นเรื่องบังเอิญของผู้เขียนที่ รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส ป้ายแดง (โฉมเฟคลิฟท์) 5 คันหลังสุดที่พบเจอ มี 3 คันเป็นรุ่น อี200 เอ็นจีที และ อี220 ซีดีไอ กับ อี200 คอมเพรสเซอร์ อีกอย่างละคัน
       
       เมื่อเห็นเช่นนั้นต่อมความคิดประมวลผลออกมาว่า ?ฤ กระแสของการใช้พลังงานทางเลือกกำลังเกิดขึ้นในหมู่ผู้ใช้รถระดับบน? แน่นอนว่าส่วนหนึ่งคงรวมกับเหตุผลด้านราคา เนื่องจากอี200 เอ็นจีทีเป็นรุ่นถูกที่สุดของตระกูล อี-คลาส ส่งผลให้ผู้บริโภคกล้าตัดสินใจเลือกใช้รถแบบไบ-ฟิว (ใช้เชื้อเพลิงได้ 2 ชนิด) มากขึ้น แต่หลักใหญ่ใจความ คงเป็นเรื่องความรู้และมั่นใจ เพราะถ้าไม่รู้ ใครจะกล้าเสี่ยงจ่ายเงินเป็นล้าน
       
       มาเข้าเรื่องของตัวรถ เมอร์เซเดส กล่าวว่า อี200 เอ็นจีที เป็นรถรุ่นที่ให้ความคุ้มค่าด้านอัตราความสิ้นเปลืองดีที่สุด เมื่อเทียบกับรถเบนซ์ในตระกูลอี-คลาสด้วยกัน อี200 เอ็นจีที พัฒนาโดยใช้พื้นฐานมาจากรุ่น อี200 คอมเพรสเซอร์ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,796 ซีซี กำลังสูงสุด 163 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตรที่ 3,000-4,000 รอบ/นาที ทว่ามีการปรับเปลี่ยนทางเทคนิคเพื่อความเหมาะสมในการใช้ก๊าซเล็กน้อย
       
       ด้านความแตกต่างทางเทคนิครุ่น เอ็นจีที มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลา 10.8 วินาที ช้ากว่ารุ่น คอมเพรสเซอร์ 0.1 วินาที แต่ความเร็วสูงสุดยังคงเท่ากันที่ 227 กม./ชม. และปริมาณไอเสียเอ็นจีทีปล่อยออกมาน้อยกว่าคือ 168 กรัม/กม. ขณะที่รุ่นคอมเพรสเซอร์ปล่อยออกมาถึง 215 กรัม/กม.
       
       จุดใหญ่ใจความอยู่ตรงอัตราความสิ้นเปลืองเฉลี่ยรุ่น คอมเพรสเซอร์ 9.0 ลิตร/100 กม. หรือคิดเป็นเงิน 2.7 บาท/กม. (ในกรณีน้ำมันเบนซิน95 ราคาลิตร 30 บาท จะใช้เงิน 270 บาท/100 กม.) ส่วน เอ็นจีที 6.1 กิโลกรัม/ 100 กม. หรือ ประมาณกม.ละ 0.50 บาท (ก๊าซเอ็นจีวีราคากิโลกรัมละ 8.50 บาท จะใช้เงิน 49.14 บาท/100 กม.)
       
       ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองดังกล่าวอ้างอิงตามข้อกำหนดมาตรฐานของสหภาพยุโรป 93/116/EC และใช้อ้างอิงสำหรับก๊าซธรรมชาติกลุ่ม H โดยอาจจะแตกต่างกันขึ้นกับประเทศ แต่ความคาดเคลื่อนถ้ามีเราคาดว่าคงจะไม่มากเท่ากับตัวเลขการใช้เงินเติมพลังงานที่แตกต่างกันถึง 5 เท่า และด้วยเหตุผลนี้ทำให้เอ็นจีทีเป็นรุ่นที่น่าสนใจที่สุด สอดคล้องกับสิ่งที่เราประสบมา
       
       เมื่อมีจุดเด่นระดับสุดยอดอาจจะมีข้อสงสัยว่า แล้วสมรรถนะหรืออุปกรณ์ จะแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ หรือไม่ เราพิสูจน์มาให้ท่านทราบแล้วว่า วัสดุและอุปกรณ์ของอี-คลาสทุกรุ่นมีคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน ส่วนจุดต่างคือ น้ำหนักรถหนักกว่าเล็กน้อยเป็น 1,765 กิโลกรัม และพื้นที่บรรจุของด้านท้ายรถลดลงเหลือ 400 ลิตร จาก 510 ลิตรในรุ่นคอมเพรสเซอร์ เหตุจากติดตั้งถังบรรจุก๊าซเอ็นจีวี
       
       ด้านสมรรถนะการขับขี่ เอ็นจีที ออกตัวนุ่มนวล อัตราเร่งเมื่อคิกดาวน์ตอบสนองแม้จะไม่ปรู๊ดปร๊าด แต่กระชับกระเฉงทันใจ และเมื่อนึกถึงว่า 1 แรงม้าต้องรับน้ำหนักถึงกว่า 10 กิโลกรัมแล้วได้ขนาดนี้ดีเกินคาด ส่วนการเร่งแซงขณะวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 60-80 กม./ชม. มั่นใจแซงพ้นชัวร์ ซึ่งไม่เห็นความแตกต่างทั้งใช้น้ำมันและก๊าซเอ็นจีวี
       
       ความเร็วสูงสุดเราลองวิ่งถึง 180 กม./ชม. สบายๆ เสียงลมเริ่มดังรบกวนที่ความเร็ว 160 กม. ส่วนความเร็วระดับ 120 กม./ชม.เป็นช่วงที่เราชอบ เพราะรู้สึกว่าขับสบายที่สุด รถนิ่ง เสียงรบกวนต่ำ พวงมาลัยน้ำหนักพอเหมาะมือ ขับเพลินๆ อาจไหลไปถึง 140 กม./ชมโดยไม่รู้สึก สอบผ่านทุกย่านความเร็ว
       
       สิ่งสำคัญอย่างที่จะอดพูดถึงไม่ได้ คือเรื่องของสถานีบริการก๊าซ เอ็นจีวี โดยส่วนตัวผู้เขียนเองถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากในบริเวณที่พักอาศัยแม้จะมีสถานีให้บริการถึง 2 แห่งคือที่ปั๊มปตท. ริมถนนวิภาวดีตรงข้ามสำนักงานใหญ่ปตท. และปั๊มตรงหมอชิต2 แต่กลับติดปัญหาเรื่องการรอคิวครั้งละไม่ต่ำกว่า 6 คิว (จำนวน 5 ใน 6 ที่รอเป็นแท็กซี่)
       
       คิดง่ายๆ ถ้าแต่ละคันใช้เวลาเติม 5 นาที 6 คัน ผู้เขียนต้องเสียเวลารอถึง 30 นาที ซึ่งเป็นสิ่งที่เราขอออกตัวว่า ?รับไม่ได้? หากต้องเสียเวลาเติมเชื้อเพลิงนานขนาดนั้น และเมื่อย้อนไปดูข่าวเก่าของ ปตท.พบว่า มีการพูดถึงการขยายสถานีบริการปั๊มเอ็นจีวีให้มากขึ้นถึงกว่า 200 สถานีภายในปี 2549 แต่จนแล้วจนรอดจะสิ้นปี 2550 อยู่ไม่กี่เดือนยังขยายไม่ถึง 100 สถานีเลยด้วยซ้ำ
       
       ซ้ำร้ายกว่านั้นเมื่อเปิดสมุดซึ่งแสดงสถานีให้บริการเติมเอ็นจีวีและโทรสอบถามพบว่า หลายแห่งปิดกิจการไปแล้ว ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าอนาคตของพลังงานทดแทนชนิดนี้จะสดใสเหมือนอย่างในโฆษณาว่าเอาไว้จริงหรือโม้กันแน่
       
       นั่นยังไม่รวมถึงการที่ปตท. ออกมาขอขึ้นราคาค่าก๊าซเอ็นจีวีจากกิโลกรัมละ 8.50 บาท เพิ่มเป็นเต็มเพดานราคาคือครึ่งหนึ่งของราคาน้ำมันดีเซลหรือประมาณ 12 บาทกว่า โดยอ้างเหตุผลด้านต้นทุน แต่ฟ้ายังมีตาให้ประชาชนไทยยังได้ใช้ของถูก เมื่อรมต.พลังงานไม่บ้าจี้ตามปตท. พร้อมสั่ง กลับไปทบทวน-คำนวณต้นทุนมาให้ดูใหม่และระงับการขึ้นราคาเอาไว้อย่างไม่มีกำหนด เว้นหากการเมืองเปลี่ยนเราต้องรอลุ้นกันอีกที
       
       ดังนั้นเราขอตั้งธงสำหรับผู้ที่สนใจก่อนจะออกเจ้า อี 200 เอ็นจีที นอกจากท่านจะมั่นใจเรื่องนโยบายพลังงานแล้ว เราแนะนำว่าควรสำรวจสถานีบริการเชื้อเพลิงใกล้บ้านว่า มีก๊าซเอ็นจีวี ไว้บริการด้วยหรือไม่ ถ้ามีสังเกตอย่าต้องรอคิวนานๆ เหมือนแถวบ้านของผู้เขียนก็ดี หรือหากคุณรอได้ คงไม่มีปัญหา
       
       บทสรุป ถ้าตัดเรื่องทิศทางของรัฐกับนโยบายเอ็นจีวีออกไป แล้วดูเฉพาะตัวรถ พูดได้ไม่อายใครว่า มีดีแบบไร้ซึ่งข้อสงสัย กอปรกับราคาสมเหตุสมผล 3.7 ล้านบาท ถูกที่สุดในตระกูลอี-คลาส ผสานการประหยัดเงินค่าเชื้อเพลิงระดับเหนือเทพ ทำให้เราเอ่ยได้เต็มปากว่า ?ขอฝาก อี200 เอ็นจีที เป็นหนึ่งตัวเลือกในดวงใจสำหรับเศรษฐีน้อย-ใหญ่ทั้งหลายด้วย?

http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9500000134123
บันทึกการเข้า

   
ES01 328
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 941

รถคันใหม่ผมครับใครอยากลองนั่งบ้าง


« ตอบ #1 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2007, 08:12:11 »

ต่อคิวนาน ก้อยังได้เติม แต่ที่เห็นบ่อย ๆ คือ หมด  :'(  หาที่เติมใหม่จ้า เศร้า
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: NGV กำลังจะหมด อนาคต แว๊ว...............
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2009, Simple Machines -->
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |