รถอัลพาร์ด หาย6เดือน มาเจอ พตท. เอาไปขับใช้อ้างยึดมา

[jojo-civic 96]

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 28 ก.ย. นายปพน วงศ์ตระกูล อายุ 40 ปี เจ้าของธุรกิจส่วนตัวร้านคาร์แคร์ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย สว.สส.สน.ลุมพินี ว่า พบรถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด คันละ 3 ล้านกว่าบาท สีบรอนซ์เงิน ป้ายแดง ของตนที่ถูกโจรกรรมจากร้านคาร์แคร์ ชั้น 3 ห้างฟิวเจอร์พาร์ค ถนนพระราม 3 และแจ้งหายไว้กับศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะนี้พบว่าจอดอยู่บริเวณลานจอดรถชั้น 3 ของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล สี่แยกราชประสงค์ ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.

จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.ท.อรรถพร สุริยเลิศ รอง ผกก.ศส.น และเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถ บช.น.ไปตรวจสอบ พบรถดังกล่าวจอดอยู่ภายในลานจอดรถของโรงแรม ต่อมานายวัญชัย บุญนุกูล แผนกติดตามรถหายของบริษัทธนชาตประกันภัย

เดินทางไปตรวจสอบร่วม พร้อมทั้งนำกุญแจรถตัวจริง และรีโมตรถคันดังกล่าวไปเปิด ปรากฏว่า สามารถเปิดใช้กันได้ เมื่อตรวจสอบเลขตัวถังรถก็ตรงกัน ผิดเพียงแค่ป้ายทะเบียนรถยนต์ ซึ่งใช้ป้ายทะเบียนปลอมมาสวม เจ้าหน้าที่จึงรอหาผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของเพื่อนำตัวไปสอบสวน

จากการตรวจสอบภายในรถพบว่า มีบัตรข้าราชการตำรวจ ระบุชื่อ พ.ต.ท.ชาญชัย งามธุระ สว.กอ.รมน.แขวนอยู่ กระทั่งต่อมาเวลา 22.30 น. พ.ต.ท.ชาญชัย ปรากฏตัวขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเพื่อสอบถามความเป็นมาในการนำรถตู้แจ้งหายมาใช้

เบื้องต้น พ.ต.ท.ชาญชัยอ้างว่า รถคันดังกล่าวทางกองปราบปรามไปตรวจยึดมาจากเมืองทองธานี เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว แต่เนื่องจากไม่มีที่จอดรถของกลาง และไม่มีใครดูแลรักษา จึงได้นำมาใช้เป็นการส่วนตัว ส่วนหลักฐานการเข้าตรวจยึดนั้น จะขอประสานไปยังลูกน้องให้นำเอกสารมายืนยันในภายหลัง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดรถของกลางไปเก็บไว้ที่ สน.ลุมพินี พร้อมทั้งให้ พ.ต.ท.ชาญชัยเซ็นรับทราบการตรวจยึดรถดังกล่าวไว้

ทางด้านนายปพนเจ้าของรถ เปิดเผยว่า รถคันดังกล่าวเพิ่งซื้อได้ไม่นาน และเป็นรถป้ายแดง แต่ไม่ใช่ทะเบียน จ-9699 กรุงเทพมหานคร ที่ติดอยู่ ทั้งนี้ ยืนยันว่า รถคันนี้มีการซื้อขายอย่างถูกต้อง และไม่มีทางเป็นไปได้ที่รถถูกอายัด เพราะถ้าหากรถถูกอายัดจริง ทางบริษัทธนชาตประกันภัย ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำประกันไว้ ต้องรับทราบด้วย แต่ปรากฏว่า ไม่มีการแจ้งอะไรกับทางบริษัทเลย

?ผมมีหลักฐานการเป็นเจ้าของรถ และมีหลักฐานแจ้งความรถไว้เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว กระทั่งวันนี้เป็นความบังเอิญมาก เพราะไปทำธุระในโรงแรมแห่งนี้ เมื่อพบรถได้โทร.แจ้งบริษัทประกันทันที เพื่อให้มาตรวจสอบ ปรากฏว่าใช่ จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ?

ที่มาจาก ไทยรัฐ

[neat_boy?]

เฮ๊ยยยยยยยยยย มืดแล้วหรอเนี่ย จู๋มาแล้วอ่ะ

งั้นเราต้องเตรียมตัวกลับบ้านแล้วซิ  .. เล่นเน็ทลืมดูเวลาเลย พับผ้าซิ  :'(

[jojo-civic 96]

เฮ๊ยยยยยยยยยย มืดแล้วหรอเนี่ย จู๋มาแล้วอ่ะ

งั้นเราต้องเตรียมตัวกลับบ้านแล้วซิ  .. เล่นเน็ทลืมดูเวลาเลย พับผ้าซิ  :'(

ไม่สบายครับ จารยืปู่ ติดหวัดนิดหน่อย โดนฝนวันนี้เลยลาหยุดวันนึงครับ

[Namwhan]

  อ๋อ อู้งานนี่เอง 

[jojo-civic 96]

อ๋อ อู้งานนี่เอง 

ใครอู้งานๆ แค่ไม่ซาบายนิดหน่อย

[Nuttaphon]

เฮ๊ยยยยยยยยยย มืดแล้วหรอเนี่ย จู๋มาแล้วอ่ะ

งั้นเราต้องเตรียมตัวกลับบ้านแล้วซิ  .. เล่นเน็ทลืมดูเวลาเลย พับผ้าซิ  :'(

ชื่อเล่นน่ารักดี เพ่โจโจ้ 

[KING 99]

 :'(  นายตำรวจคนนี้เป็น คอยดูแลเรื่องรถให้ผมด้วยดิ 

 และรถที่จัดมาให้ผมนั่งจะมีปัญหามั๊ย

[kingkong88]

:'(  นายตำรวจคนนี้เป็น คอยดูแลเรื่องรถให้ผมด้วยดิ 

 และรถที่จัดมาให้ผมนั่งจะมีปัญหามั๊ย

รถรุ่นไหนครับ ยี่ห้ออะไร ปีไหนครับ

จักรยานเด็กแถวบ้านผมหาย

ผมเริ่มสงสัยรถพี่คิงซะแล้ว

[KING 99]

 นายตำรวจคนนี้มีจุดเด่นตรงชื่อเล่นนะ  ชื่อเล่นว่า   " แม้ว " 

 อันนี้เรื่องจริง  ไม่ได้พาดพิงถึงท่านประธานสโมสรที่อังกฤษ (นายเก่า)

[jibi11]

อืม...ไม่ไหวเลย

[masaru]

ตอนนี้คดีไปถึงไหนแล้วครับ  เห็นเงียบ ๆ ไป

[pompojung]

ตำรวจสมัยนี้แย่มากเลย

[racaravan]

เซ็งแทนเรย

[jojo-civic 96]

 

ตอนนี้คดีไปถึงไหนแล้วครับ  เห็นเงียบ ๆ ไป

 ความคืบหน้า ครับ  พี่ชัย

 พนักงานสอบสวนเตรียมเรียกพ.ต.ท.ชาญชัยสอบกรณีรถอัลพาร์ด

 (29กย.) เวลา 13.30 น. พ.ต.ท.สมชาย เชยกลิ่น รองผกก.(สส.) สน.วัดพระยาไกร กล่าวถึงคดีที่นายปพน วงศ์ตระกูล อายุ 40 ปี เจ้าของธุรกิจส่วนตัว เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.อนวัตร สะมะแอ ร้อยเวรสน.วัดพระยาไกร ว่า รถยนต์ยี่ห้ออัลพาร์ด ราคาคันละ 3 ล้านกว่าบาท สีบรอนซ์เงิน ป้ายแดง หายไปเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมาและล่าสุดปรากฎว่าได้พบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ลานจอดรถชั้น 3 ของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.ว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ตนได้รับรายงานจาก ร.ต.ท.อนวัตร เจ้าของคดีแล้วว่า นายปพนพบรถที่แจ้งหายแล้วและพบว่ามี พ.ต.ท.ชาญชัย งามธุระ สว.กอ.รมน.เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวและอ้างว่าเป็นรถที่ตำรวจกองปราบยึดมาได้

เรื่องนี้พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกรจะเรียกพ.ต.ท.ชาญชัย มาสอบสวนถึงข้อเท็จจริงถึงที่มาที่ไปเกี่ยวกับรถของนายปพนที่ได้แจ้งหายไว้ที่สน.วัดพระยาไกรถึงสาเหตุที่นำรถคันนี้ไปใช้ หากตำรวจกองปราบได้ตรวจยึดรถคันนี้จริงก็ต้องมีการลงบึนทึกประจำวันยืนยันไว้เป็นลายลักษณ์อักษรซึ่งพ.ต.ท.ชาญชัยก็ต้องมีหลักฐานมายืนยันกับพนักงานสวบสวน

ทั้งนี้หากปรากฎว่า พ.ต.ท.ชาญชัยครอบครองรถคันดังกล่าวไม่ถูกต้องก็ถือผิดกฎหมายเข้าข่ายข้อหารับของโจร อีกทั้งถ้าเป็นรถที่มีการตรวจยึดมาได้จริง ก็ถือว่าพ.ต.ท.ชาญชัยกระทำผิดเพราะรถของกลางเจ้าหน้าที่จะนำมาขับไม่ได้ อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนจะสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป พ.ต.ท.สมชาย กล่าว

 ที่มา คม ชัด ลึก

[jojo-civic 96]

 เรียก"พ.ต.ท.ชาญชัย"สอบเจ้าตัวเปิดแถลง11.00น.วันนี้

 
ตำรวจสน.วัดพระยาไกร เรียก"พ.ต.ท.ชาญชัย งามธุระ"มาสอบปากคำวันนี้ เจ้าตัวยันเตรียมแถลงการตรวจยึดรถอื้อฉาว เวลา 11.00 น.วันนี้ (1ตุลาคม)


(1ตค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนายปพน วงศ์ตระกูล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กลุ่มกรุงเทพ 50 และเจ้าของธุรกิจคาร์แคร์-ประดับยนต์ พักอยู่บ้านเลขที่ 1 ซอยทวีสิทธิ์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม.เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.อนวัช สะมาแอ ร้อยเวร สน.วัดพระยาไกร รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีบอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดงเลขที่ ว-9261 กทม.หายไปจากลานจอดรถชั้น 3 ห้างฟิวเจอร์มาร์ท ถนนพระราม 3 แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กทม.ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมาและนายปพนมาพบรถยนต์ดังกล่าวถูกปลอมแปลงป้ายทะเบียนป้ายแดงเป็นเลขที่ จ-9699 กทม.จอดอยู่บนลานจอดรถชั้นที่ 3 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.โดยมีบัตรข้าราชการตำรวจระบุชื่อ พ.ต.ท.ชาญชัย งามธุระ สว.กอ.รมน.แขวนอยู่ในรถนั้น


พ.ต.ท.สมชาย เชยกลิ่น รอง ผกก.สส.สน.วัดพระยาไกร กล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นขณะที่ พ.ต.ท.ชาญชัย ยังดำรงตำแหน่งอยู่ที่บก.ป. โดยพ.ต.ท.ชาญชัย อ้างว่า ยึดรถคันดังกล่าวมาจากย่านเมืองทองธานี และส่งมอบให้พนักงานสอบสวนกองปราบไปแล้วแต่ไม่มีที่จอดของกลางจึงถือวิสาสะนำมาใช้เป็นรถส่วนตัว ซึ่งในวันนี้ (1 ต.ค.50) ตนได้แจ้งให้พ.ต.ท.ชาญชัย รีบนำเอกสารทางคดีรถคันดังกล่าวเข้ามายืนยันแล้ว และยังได้ทำหนังสือถึง พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ รักษาการ ผบก.ป.แล้วว่าจะขอทำการตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับคดีนี้อย่างละเอียด โดยผู้บังคับบัญชาก็กำชับมาให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เนื่องจากพฤติกรรมลักษณะที่พ.ต.ท.ชาญชัยทำเข้าข่ายรับของโจรซึ่งการนำรถของคนอื่นมาใช้เป็นการส่วนตัวก็ถือว่าความผิดอยู่แล้ว


"พ.ต.ท.ชาญชัย"เตรียมแถลงข่าวชี้แจงใช้รถของกลางที่กองปราบปราม ระบุตรวจยึดถูกต้องสมัยอยู่กองปราบมีหลักฐานยืนยัน บ.เจ้าของรถขอให้ตามรถให้ไม่ได้ขโมยมา ด้าน รรท.ผบก.ป.ยืนยัน ป.ไม่ได้ตรวจจับรถคันดังกล่าวคาดเจ้าตัวจับเองใช้เอง





พ.ต.ท.ชาญชัย งามธุระ กล่าวว่า ไปตรวจยึดรถดังกล่าวมาอย่างถูกต้อง มีการลงบันทึกประจำวันไว้ด้วย ตนเป็นคนไปตรวจยึดเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาขณะที่เป็นสารวัตรกองกำกับการ 2 กองปราบปราม เนื่องจากมีบริษัทไพน์แอปเปิ้ล ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้ารถยนต์คันดังกล่าวเข้ามาแจ้งให้ช่วยติดตามรถคันนี้ให้เนื่องจากได้ขายรถคันดังกล่าวให้นายบุญชู ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ แต่นายบุญชูจ่ายค่ารถมาไม่ครบตามราคาที่ซื้อ และคาดว่าจะนำรถไปหลอกขายต่อ แต่ไม่ทราบว่าเป็นการหลอกขายให้ใคร ตนรวบรวมเอกสาร ทั้งเอกสารกรรมสิทธิ์และเอกสารการจับกุมที่กองปราบปราม เพื่อที่จะแถลงข่าวชี้แจงให้สื่อมวลชนได้ทราบในวันนี้(1ตค.) เวลา 11.00 น. ที่กองปราบปราม


"ผมสามารถชี้แจงได้ทุกอย่าง มีหลักฐานทั้งหมดว่าเป็นการตรวจยึดที่ถูกต้อง ถ้าผมขโมยรถมาคงไม่นำรถไปที่โรงแรมเพราะรู้ว่านายปพนธ์ก็มาที่โรงแรมด้วยและประชุมอยู่ด้วยกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยคุยกันแต่ไม่ได้สนิทสนมมาก รายละเอียดและหลักฐานทุกอย่างจะเปิดเผยในวันนี้ตอนนี้ไม่อยากจะพูดอะไรมาก"พ.ต.ท.ชาญชัยกล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่า พ.ต.ท.ชาญชัยเคยเป็นสารวัตร กก.2 กองปราบฯ และเคยติดตามพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตรมว.มหาดไทย เคยลงสมัครส.ส.กทม.มาแล้ว แต่สอบตกปัจจุบันสังกัดกลุ่มกรุงเทพ 50

 
 


 ที่มา คม ชัด ลึก

 

[jojo-civic 96]

กองปราบโต้ไม่เคยยึด"อัลพาร์ด" ชี้ พ.ต.ท.ชาญชัยจับเองใช้เอง

 รักษาการ ผบก.ป. ยืนยันไม่เคยตรวจยึด "โตโยต้า อัลพาร์ด" ชี้พ.ต.ท.ชาญชัยจับเองใช้เอง ด้านตำรวจ สน.วัดพระยาไกร เรียกสอบเพิ่มพรุ่งนี้ ลั่นดำเนินคดีเด็ดขาด ระบุพฤติกรรมเข้าข่ายรับของโจร แค่เอารถของคนอื่นมาใช้ส่วนตัวถือว่าความผิดแล้ว

 ความคืบหน้ากรณีที่ นายปพน วงศ์ตระกูล เจ้าของธุรกิจคาร์แคร์-ประดับยนต์ เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.อนวัช สะมาแอ ร้อยเวร สน.วัดพระยาไกร ว่ารถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีบอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดง เลขที่ ว 9261 กรุงเทพมหานคร หายไปจากลานจอดรถชั้นที่ 3 ห้างฟิวเจอร์มาร์ท ถนนพระราม 3 แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ล่าสุดนายปพน พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวถูกปลอมแปลงแผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดง เป็นเลขที่ จ 9699 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บนลานจอดรถชั้นที่ 3 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยมีบัตรข้าราชการตำรวจระบุชื่อ พ.ต.ท.ชาญชัย งามธุระ สว.กอ.รมน.แขวนอยู่ในรถ ตำรวจจึงเชิญ พ.ต.ท.ชาญชัย มาสอบถาม ได้ความว่า เป็นผู้ยึดรถคันดังกล่าวมาจากเมืองทองธานี เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน บก.ป. แต่ที่กองปราบปรามไม่มีที่จอดรถของกลางจึงนำมาใช้เป็นการส่วนตัว

  ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 30 กันยายน ร.ต.ท.อนวัช เรียกตัวนายปพน เข้ามาดูรถและสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังจากให้การเป็นที่เรียบร้อยแล้วนายปพนเปิดเผยต่อกลุ่มผู้สื่อข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้สั่งซื้อรถคันดังกล่าวมาจากบริษัทวีเทค ย่านสาทร ผ่านนายชูเกียรติ ในราคาคันละ 3 ล้านบาท โดยนำเข้าไฟแนนซ์ในเครือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ธนชาติด้วยการวางเงินดาวน์จำนวน 1 ล้านบาท และขอผ่อนงวดละ 4.8 หมื่นบาท แต่ผ่อนชำระไปได้เพียง 2 งวด รถก็มาถูกโจรกรรมไปเสียก่อน

นายปพน กล่าวอีกว่า ในวันที่เกิดเหตุประมาณ 09.00 น.ได้ขับรถคันดังกล่าวขึ้นมาจอดบนลานจอดรถล็อก พี 3 ชั้นที่ 3 ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์มาร์ท ซึ่งอยู่ห่างจากร้านสตาร์คาร์แคร์ของตนเพียงไม่ถึง 10 เมตร จากนั้นก็ลงจากรถเข้าไปเซ็นเอกสารในออฟฟิศที่ตั้งอยู่ในห้าง สักพัก น.ส.พิณ (นามสมมติ) พนักงานที่ร้านโทรศัพท์มาสอบถามว่า ได้ใช้ใครให้มาขับรถออกไปหรือไม่ เมื่อได้ยินดังนั้นก็ตกใจและพยายามวิ่งลงไปสกัดที่ป้อมยามด้านล่างของอาคารแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว จากนั้น น.ส.พิณ เล่าให้ฟังว่าก่อนเกิดเหตุมีชายฉกรรจ์ 2 คน คนหนึ่งรูปร่างสันทัด ไว้หนวดเครา สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ อีกคนเป็นชายรูปร่างสูงสวมชุดซาฟารี เดินมาใช้กุญแจรีโมทกดเปิดประตูรถ ก่อนจะใช้กุญแจไขสตาร์ทขับออกไป ซึ่ง น.ส.พิณ คิดว่าทั้งสองเป็นคนขับรถที่รับมาใหม่จึงไม่ได้เอะใจตั้งแต่แรก ซึ่งหลังเกิดเหตุตนได้ไปขอดูภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดของทางห้าง พบชายที่มีลักษณะต้องสงสัยทั้งสองคนมาป้วนเปี้ยนอยู่ในห้างจริงจึงได้ก๊อบปี้เทปไปมอบให้ ร.ต.ท.อนวัช เก็บไว้เป็นหลักฐานแล้ว

นายปพน กล่าวด้วยว่า บริษัทวีเทคที่ติดต่อขอซื้อรถมานั้นปิดทำการไปแล้ว โดยตอนที่ไปติดต่อขอซื้อนายชูเกียรติได้อ้างว่า บริษัทมีรถรุ่นดังกล่าวเพียงคันเดียว อีกทั้งยังมีคนจองอยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการจริงๆ ก็สามารถจะหาให้ได้อีกคันจึงตกลงทำสัญญาซื้อขายด้วย แต่เมื่อถึงเวลาส่งมอบรถเจ้าหน้าที่ของบริษัทกลับมอบกุญแจมาให้เพียงดอกเดียว ทั้งที่น่าจะมี 3 ดอกเหมือนอย่างที่คนทั่วไปซื้อกัน ซึ่งในขณะนี้ก็เริ่มเอะใจว่าบริษัทวีเทคจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความสัมพันธ์ระหว่าง นายปพน กับ พ.ต.ท.ชาญชัย ว่ารู้จักคุ้นเคยกันมาก่อนหรือไม่นั้น นายปพน ยืนยันว่า เพิ่งจะรู้จักกันประมาณ 1 เดือน ในฐานะสมาชิกของกลุ่มกรุงเทพ 50 ด้วยกัน แต่ไม่สนิท จนมาพบว่า พ.ต.ท.ชาญชัย ขับรถรุ่นอัลพาร์ด สีเดียวกับของตนที่หายไปมาเข้าร่วมประชุมกลุ่มถึง 3 ครั้ง เมื่อเข้าไปตรวจสอบตำหนิรอบคันรถโดยเฉพาะบริเวณแผ่นฟิล์มกรองแสง ซึ่งทำตำหนิตามเทคนิคของช่างติดฟิล์มไว้ จึงมั่นใจว่าต้องเป็นรถของตนแน่นอน ต่างกันแค่หมายเลขทะเบียนป้ายแดงที่ถูกปลอมแปลงขึ้นมาเท่านั้น จึงเดินทางเข้าแจ้งความและติดต่อพนักงานของบริษัทธนชาติประกันภัยให้นำกุญแจรีโมทมาทดลองเปิดรถ

ด้าน พ.ต.ท.สมชาย เชยกลิ่น รอง ผกก.สส.สน.วัดพระยาไกร กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า คดีนี้เกิดขึ้นในขณะที่ พ.ต.ท.ชาญชัย ยังดำรงตำแหน่งอยู่ที่ บก.ป. โดย พ.ต.ท.ชาญชัย อ้างว่า ได้ยึดรถคันดังกล่าวมาจากย่านเมืองทองธานี และส่งมอบให้พนักงานสอบสวนกองปราบฯ ไปแล้ว แต่ไม่มีที่จอดของกลางจึงถือวิสาสะนำมาใช้เป็นรถส่วนตัว ซึ่งได้แจ้ง พ.ต.ท.ชาญชัย รีบนำเอกสารทางคดีของรถคันดังกล่าวเข้ามายืนยันภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสือไปถึง พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รักษาการ ผบก.ป.แล้วว่า จะขอตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับคดีนี้อย่างละเอียด โดยผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เนื่องจากพฤติกรรมลักษณะที่ พ.ต.ท.ชาญชัย ทำลงไปนี้เข้าข่ายรับของโจรซึ่งการนำรถของคนอื่นมาใช้เป็นการส่วนตัวก็ถือว่ามีความผิดอยู่แล้ว

ด้าน พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกองปราบปราม และจากการตรวจสอบข้อมูลทุกกองกำกับการในกองปราบปรามไม่ได้ไปยึดรถคันดังกล่าวมาแต่อย่างใด คาดว่า พ.ต.ท.ชาญชัย เป็นคนไปตรวจจับเองและใช้เอง และไม่ได้ทำตอนที่อยู่กองปราบปรามด้วย แต่ข้อมูลที่ออกมาอาจจะเป็นการเข้าใจผิดว่า กองปราบปรามไปตรวจเพราะ พ.ต.ท.ชาญชัย เคยเป็นตำรวจกองปราบปรามก่อนหน้านี้

ส่วน พ.ต.ท.ชาญชัย กล่าวว่า ไปตรวจยึดรถคันดังกล่าวมาอย่างถูกต้องด้วยตัวเองเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา และมีการลงบันทึกประจำวันไว้ด้วย ขณะที่เป็นสารวัตรกองกำกับการ 2 กองปราบปราม เนื่องจากมีบริษัท ไพน์แอปเปิ้ล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้ารถยนต์คันดังกล่าวเข้ามาแจ้งให้ช่วยติดตามรถคันนี้ให้เนื่องจากขายรถคันดังกล่าวให้นายบุญชู ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ แต่นายบุญชูจ่ายค่ารถมาไม่ครบตามราคาที่ซื้อ และคาดว่าจะนำรถไปหลอกขายต่อ แต่ไม่ทราบว่าเป็นการหลอกขายให้นายปพนหรือไม่ ตอนนี้ตนกำลังรวบรวมเอกสารต่างๆ ทั้งเอกสารกรรมสิทธิ์และเอกสารการจับกุมที่กองปราบปราม เพื่อที่จะแถลงข่าวชี้แจงให้สื่อมวลชนได้ทราบในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เวลา 11.00 น.ที่กองปราบปราม

 
   ที่มา คม ชัด ลึก

[masaru]

เดี๋ยวก็เงียบ เหมือนหลาย ๆ คดีที่ลูกเสือพกปืนมีเอี่ยวด้วย เชื่อดิ   

[jojo-civic 96]

 
  'พ.ต.ท.' โผล่กองปราบฯแจงรถหรู'อัลพาร์ด' ของเพื่อนขายต่อถูกโกงยึด

 "พ.ต.ท.ชาญชัย" ควงทนายโผล่กองปราบฯ ขอคัดประจำวันยึดรถ ยันมีหลักฐานพร้อมชี้แจง เผยรถมีที่มาที่ไป ด้าน รอง ผกก.วัดพระยาไกร ขู่ไม่มาภายใน 7 วันเจอหมายจับ ชี้เจตนาบ่ายเบี่ยง ขณะที่ต้นสังกัดใหม่เล็งตั้ง กก.สอบเอาผิดเหตุมารายงานตัวล่าช้า
ความคืบหน้าคดีนายปพน วงศ์ตระกูล เสี่ยคาร์แคร์ เจ้าของรถโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด ราคากว่า 3 ล้านบาท ที่ถูกขโมยแล้วแจ้งหายไว้ที่ สน.วัดพระยาไกร เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งมาพบรถของตัวเองจอดอยู่ในลานจอดรถโรงแรมสยาม อินเตอร์คอนติเนนตัล โดยมี พ.ต.ท.ชาญชัย งามธุระ ที่เพิ่งถูกคำสั่งย้ายไปเป็น สว.สป.สภ.อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เป็นคนขับรถคันดังกล่าวมาจอด แต่อ้างว่าเป็นรถที่ถูกกองปราบฯ ยึดไว้แล้วไม่มีที่จอดจึงนำมาใช้ส่วนตัว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ต.ท.สมชาย เชยกลิ่น รอง ผกก.สส.สน.วัดพระยาไกร เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีว่า ได้ให้เวลา พ.ต.ท.ชาญชัย มาหลายวันแล้ว นัดกี่ครั้งก็ไม่เคยมาให้ปากคำ มีเพียงการพูดคุยทางโทรศัพท์ อย่างไรก็ตาม จะให้เวลาอีกไม่เกิน 7 วัน หากยังไม่มาให้ปากคำ พร้อมกับนำหลักฐานมายืนยัน ก็จะแจ้งข้อกล่าวหารับของโจรทันที

"ตอนนี้หลักฐานต่างๆ ยังไม่ถึงมือพนักงานสอบสวนเลยแม้แต่ชิ้นเดียว จึงไม่รู้ว่าเกิดปัญหาอะไร ในเมื่อเขาอ้างว่ากองปราบฯ ตรวจยึดรถไว้เมื่อ 2 เดือนก่อน ข้อมูลจึงไม่น่าจะค้นยาก ส่วนรถคันนี้เราตรวจสอบแล้วพบว่าถูกขโมยไปจริง ดังนั้นถ้าภายใน 7 วัน สารวัตรชาญชัยยังไม่หอบหลักฐานมายืนยัน ผมก็จะขออนุมัติออกหมายจับทันที" พ.ต.ท.สมชาย กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ต่อมาเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.ชาญชัย พร้อมด้วยนายศรันย์ นาคถนอม ผู้แทนบริษัท ไพน์แอปเปิ้ล เอพริว จำกัด ทำธุรกิจนำเข้ารถยนต์หรูหลายยี่ห้อ และนางสุรีย์ภรณ์ ชัยชนะ ทนายความอิสระ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อขอคัดบันทึกประจำวันเมื่อครั้งตรวจยึดรถคันดังกล่าวจากเมืองทองธานี เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2550 เพื่อนำหลักฐานไปยืนยันกับพนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร

นายศรันย์ กล่าวว่า รถคันนี้ได้นำเข้าอย่างถูกต้องเมื่อเดือนธันวาคม 2549 ต่อมาทางบริษัทได้ขายให้แก่นายบุญชู ลิ้มสุขศรีกุล เจ้าของบริษัท วีเทค ออโต้ อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 459-461 ถ.พระราม 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. ซึ่งเป็นบริษัทขายรถยนต์รายย่อย ในราคา 3.6 ล้านบาท โดยนายบุญชูได้จ่ายเงินสดมาเพียง 1 ล้านบาท ส่วนที่เหลือได้สั่งจ่ายเช็คล่วงหน้า 2 ฉบับ ฉบับละ 1.6 ล้านบาท และ 1 ล้านกว่าบาท แต่เมื่อถึงกำหนดชำระเงินปรากฏว่าไม่สามารถนำเช็คไปขึ้นเงินได้ จึงได้ทวงถามนายบุญชูอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับเงิน จึงได้แจ้งความไว้ที่ สน.วัดพระยาไกร และ สน.บางโพงพาง เพื่อดำเนินคดีกับนายบุญชู ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.เช็ค ส่วนรถก็ไม่ทราบว่าบริษัท วีเทค ได้นำไปทำอะไรบ้าง แต่เมื่อมีปัญหาอยู่ก็ต้องติดตามรถกลับคืนบริษัท กระทั่งมาพบรถจอดอยู่ในเมืองทองธานี จึงได้ประสาน พ.ต.ท.ชาญชัย ซึ่งเคยรู้จักกันมาก่อนให้ช่วยติดตามรถคืนมา

นายศรันย์ กล่าวต่อว่า หลังจาก พ.ต.ท.ชาญชัย ยึดรถมาแล้วก็ได้ลงประจำวันไว้ที่กองปราบฯ และส่งรถกลับคืนให้บริษัท ระหว่างนั้นตนได้ขอทางบริษัทนำรถคันนี้มาใช้ทำธุระและติดตามคดีให้บริษัท โดยเฉพาะเมื่อจะติดตามความคืบหน้าคดี ก็จะขอให้ พ.ต.ท.ชาญชัยช่วยเหลือโดยให้ขับรถไปรับเพื่อเดินทางไปด้วยกัน กระทั่งวันเกิดเหตุตนได้ขับรถคันนี้ไปรับ พ.ต.ท.ชาญชัย มาตามเรื่องคดี และไปทำธุระให้บริษัทที่ย่านชิดลม แต่ พ.ต.ท.ชาญชัยติดธุระต้องเข้าประชุมร่วมกับกลุ่มกรุงเทพ 50 ที่โรงแรมสยาม อินเตอร์คอนติเนนตัล เมื่อขับรถมาถึงย่านชิดลม จึงได้แยกย้ายกันไปทำธุระ โดยตนได้ขอให้ พ.ต.ท.ชาญชัยขับรถไปจอดไว้ที่โรงแรม เพราะเห็นว่าหาที่จอดรถง่ายกว่า

"พอผมเสร็จธุระจึงกลับมาหาสารวัตรชาญชัยที่โรงแรม ก็เจอตำรวจกำลังตรวจสอบรถอยู่ แต่ผมไม่ได้เข้าไปแสดงตัว เพราะเอกสารรถตัวจริงไม่ได้อยู่กับผม หลังจากนั้นสารวัตรชาญชัยก็โทรมาบอกให้ผมเอาเอกสารมาชี้แจง แต่หามาให้ไม่ได้เพราะเป็นวันหยุดบริษัท จนมาได้เอาตอนช่วงเย็นวันที่ 1 ตุลา ที่ผ่านมา" นายศรันย์ กล่าว

พ.ต.ท.ชาญชัย กล่าวว่า หลังจากตรวจยึดรถมาแล้ว ได้ทำบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อนคืนรถให้บริษัทไป โดยช่วงนั้นยังไม่ทราบว่านายปพน ซื้อรถคันนี้อีกทอด และไม่ทราบว่าแจ้งหายไว้ ส่วนบริษัท ไพน์แอปเปิ้ลฯ ตนเคยช่วยเหลือเรื่องคดีต่างๆ มาก่อน และที่ผ่านมานายศรันย์ได้มาขอให้ช่วยขับรถคันนี้ไปทำธุระด้วยกันทุกครั้ง ทั้งนี้ หลังเกิดเรื่องได้พยายามรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อเข้าชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ในวันที่ 3 ตุลาคม นี้ รวมทั้งจะชี้แจงผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ให้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

นางสุรีย์ภรณ์ ชัยชนะ ทนายความอิสระ กล่าวว่า กรณีที่แจ้งความดำเนินคดีกับนายบุญชูไว้นั้น พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ได้รวบรวมหลักฐานและไปขออนุมัติหมายจับจากศาลแขวงพระนครใต้ไว้ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.เช็ค แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ และทราบมาว่าบริษัทของนายบุญชูปิดกิจการไปแล้ว

"ดิฉันอยากตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดทางบริษัท วีเทคฯ จึงสามารถออกเอกสารเกี่ยวกับรถ รวมทั้งนำรถเข้าไฟแนนซ์ได้ เพราะเอกสารตัวจริงของรถคันนี้ยังอยู่กับบริษัท ไพน์แอปเปิ้ลฯ จึงอยากให้ตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย" ทนายความอิสระ กล่าว

พ.ต.อ.ปรีชา กลัดสวัสดิ์ ผกก.สภ.อ.ป่าบอน จ.พัทลุง กล่าวว่า จริงๆ แล้ว พ.ต.ท.ชาญชัยจะต้องมารายงานตัวพร้อมกับใบส่งตัวจากต้นสังกัดเดิม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม โดยจะต้องไม่ให้ต้นสังกัดใหม่รอนานจนเกินไป เนื่องจากตำแหน่งนี้จะปล่อยว่างไม่ได้ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มารายงานตัว ทั้งนี้ เข้าใจว่าอาจเป็นไปได้ที่ตำรวจที่เข้ารับตำแหน่งใหม่อาจติดธุระ หรืออยู่ระหว่างการลาพักร้อน แต่เมื่อมารายงานตัวแล้วต้องมีเหตุผลมาชี้แจงให้สมเหตุสมผล

"ผมจะให้เวลาประมาณ 5 วัน ถ้ายังไม่มารายงานตัว ทางเราก็จะทำเรื่องไปยังต้นสังกัดเดิม ให้ชี้แจง และเร่งรัดให้รีบมารายงานตัวที่ต้นสังกัดใหม่ และเมื่อไรที่สารวัตรชาญชัยมารายงานตัว ผมจะตั้งคณะกรรมการสอบทันที ทั้งเรื่องคดีที่เอารถของกลางไปใช้ ว่าไปร่วมกับแก๊งโจรกรรมรถหรือเปล่า ซึ่งจะมีความผิดอาญา รวมทั้งการมารายงานตัวล่าช้า ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้นก็จะถูกลงโทษทางวินัย ฐานละเว้นและมีเจตนาหลีกเลี่ยงต่อหน้าที่" พ.ต.อ.ปรีชา กล่าว


ข้อมูลจาก คม ชัด ลึก