ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
20 กรกฎาคม 2025, 04:04:50
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: ek96 LXI ออกตัวอืด 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ek96 LXI ออกตัวอืด  (อ่าน 3771 ครั้ง)
darknesspic
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 179



« เมื่อ: 18 มกราคม 2012, 07:54:06 »



ผมใช้ EK96 LXI ติด LPG ออกตัวแก๊สอืดมาก ประมาณว่ารอบไม่ยอมขึ้นอะครับ แต่ปลายพอใช้ได้ เกิดจากอะไรครับ
บันทึกการเข้า
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #1 เมื่อ: 18 มกราคม 2012, 10:45:11 »

เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง ทำให้ออกตัวช้าอืด   ต้องเอาไปให้ช่างปรับจูนแก็สใหม่   หรือท่านเจ้าของกระทู้ลองปรับที่ตัวเพาเวอร์วาวล์  ซึ่งตัวที่ว่านี้ จะติดตั้งอยู่ระหว่างหม้อต้มแก็สกับท่ออากาศ  ให้ท่านเจ้าของกระทู้ลองปรับหมุนหัวปรับเพาเวอร์วาวล์ไปทางตามเข็มนาฬิกา สักครึ่งรอบ  แล้วรองใช้รถดูว่าออกตัวดีขึ้นหรือไม่  หากหม้อต้มแก็สยังมีสภาพที่ใช้ได้  จะเห็นว่า รถมีกำลัง ออกตัวได้ดีกว่าเก่า  หากปรับแล้วไม่ค่อยมีผล  น่าจะมาจากหม้อต้มแก็สเสื่อม จ่ายแก็สไม่พอ   ลองดูก่อนครับ  ก่อนที่จะนำไปให้ช่างตรวจสอบหม้อต้มแก็สต่อไป .     

ลองอ่านเรื่องของหม้อต้มแก็สดูครับว่ามันมีอะไรที่ควรรู้ประกอบปัญหาที่เกิดขึ้นครับ
การติดแก็ส LPG แบบดูด หรือ  Fix mixer  ในกรณีที่ใช้รถแล้วออกตัวอืด รถไม่ค่อยมีกำลัง  ช่างทั่วไปก็จะต้องบอกว่า ในระบบอัตราส่วนผสมในการจุดระเบิด มีแก็สน้อยในส่วนผสม  ทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์  รถไม่ค่อยมีกำลัง   โดยมากก็จะให้ช่างทำการปรับจูนแก็ส ให้มีการจ่ายแก็สที่พอเหมาะ ในการใช้รอบเครื่องยนต์ ประมาณ 3000 รอบ  หรือที่ 120 กม/.ชม  ซึ่งช่วงดังกล่าวนี้  ช่างจะปรับให้มีแก็สพอดีกับส่วนผสมกับอากาศ  แต่หากใช้ความเร็วรถมากขึ้นเกินกว่า 3000 รอบ การจ่ายปริมาณแก็สที่ปรับโดยเพาเวอร์วาวล์ จะไม่ค่อยพอ  คือแก็สจะเริ่มน้อยลงที่รอบเครื่องยนต์สูงกว่าที่ปรับไว้ 3000 รอบ
และถ้าหากใช้รอบเครื่องยนต์ ต่ำกว่าสามพันรอบ นั้นหมายความว่า เริ่มมีแก็สหนาหรือมาก  ในอัตราส่วนผสม   อะไรที่มากหรือน้อยกว่า ย่อมทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ ทั้งสองอย่าง   แต่หากมากเกินไป  ทำให้กินแก็สมากและเปลืองแก็ส และมีปัญหาเรื่องรอบเดินเบา และสตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก
แต่ถ้าหากน้อยเกินไป  ก็มีผลเช่นเดียวกับมาก  แต่ทางน้อยจะเกิดความเสียหายกับเครื่องยนต์มากกว่า  จะทำให้เกิดความร้อนสูงกับเครื่องยนต์ เพราะเมื่อในระบบอัตราส่วนผสมมีแก็สน้อยกว่าอากาศอ๊อกซิเจน   อ๊อกซิเจนเป็นตัวช่วยทำให้การติดไฟได้ง่าย และเกิดความร้อนสูง ซึ่งเป็นคุณสมบัติประจำตัวของมัน  ดังนั้นในการจุดระเบิดในห้องสูบที่มีปริมาณอากาศออกซิเจนมาก จึงมีความร้อนสูง   แถมรถไม่มีกำลัง เวลาออกตัวจะอืดมาก  และก่อให้เกิดแบ็คไฟร์ในท่ออากาศหน้าลิ้นปีกผีเสื้อ เกิดการชิงจุดระเบิดก่อนจะทำการสันดาปในห้องสูบ
แต่อาการที่รถออกตัวแล้วอืดนอกจากที่ผมกล่าวมาข้างต้นแล้ว  ยังมีเหตุปัจจัยที่เป็นตัวแปรอีกคือระบบหม้อต้มแก็ส   หม้อต้มแก็สหากใช้งานมานาน ย่อมทำให้ อุปกรณ์ภายใน ไม่ว่าจะเป็นแผ่นผ้าไดอะแฟรม แผ่นยางวาวล์ปิดเปิดช่องแก็สและผ่าน แผ่น ยางที่ทำหน้าที่กันน้ำในห้องต้ม  เพื่อสร้างความร้อน และเป็นตัว transfer ความร้อนผ่านผนังโลหะที่กันระหว่างห้องต้มและห้องเปลี่ยนสถานะน้ำแก็สให้กลายเป็นไอ   แผ่นยางที่ว่านี้เมื่อใช้งานกับน้ำที่ร้อนในหม้อต้ม  จะทำให้มันหดตัวย่น ผิวแผ่นยางที่สัมผัสกับเนื้อโลหะ กลับไม่สัมผัสเต็มพื้นที่   ทำให้การทรานเฟอร์ความร้อนจากน้ำในหม้อต้มไปยังห้องเปลี่ยนสถานะ  มีน้อย จึงเป็นเหตุให้อุณหภูมิในห้องเปลี่ยนสถานะมีอุณหภูมิไม่สูงพอที่จะทำให้ แก็สที่อยู่ในสถานะของเหลวให้กลายเป็นไอได้หมด  เกิดขี้แก็สขึ้นในระบบ  ขี้แก็สที่เกิดขึ้นนี้จะมีลักษณะคล้ายน้ำมันเครื่องเหนียวๆ   เป็นผลทำให้มีขี้แก็สจับที่ภายในส่วนต่างของหม้อต้ม  และที่แผ่นผ้าไดอะแฟรม  ทำให้ผิวแผ่นผ้าไดอะแฟรมย่นไม่ตึงคงรูป  ปกติมันจะตึงมีรูปทรงคล้ายฝาชี  เมื่อพื้นผิวแผ่นไดอะแฟรมของหม้อต้มแก็สย่น  ทำให้แรงดูดของแว็คคั่มที่มาจากท่อไอดี มาดูดแผ่นไดอะแฟรม ให้มีแรงกดก้านกระเดื่องวาวล์ฉิ่งฉับ มีแรงกดไม่เต็มที่  เป็นผลให้แรงกดที่ก้านวาวล์ฉิ่งฉับ  ถูกแรงดันของสปริงตัวไอเดิล  ดันให้ก้านวาวล์พยายามปิดหรือเปิดให้แก็สผ่านได้น้อย ทำให้แก็สไม่พอจ่ายไปที่ที่มิ๊กเซอร์หน้าลิ้นปีกผีเสื้อ   ที่ก้านกระเดื่องวาวล์ฉิ่งฉับที่กล่าวนี้ มันเหมือนกระดานหก ที่มีจุดฟัลคั่มตรงกลาง  มีปลายด้านหนึ่งถูกกดด้วยแผ่นไดอะแฟรมให้กดวาวล์เปิดสุด  และระหว่างจุดฟัลคั่มกับจุดกดของแผ่นไดอะแฟรม กลับมีแรงดันของสปริงตัวไอเดิล ปรับให้เกิดแรงต้านการกดของแผ่นไดอะแฟรม  เพื่อทำให้วาวล์เกิดการบาล้านซ์ ระหว่างแรงกดและแรงต้านของสปริงตัวไอเดิล   ทำให้วาวล์ฉิ่งฉับเปิดให้แก็สผ่านที่พอเหมาะ กับอัตราส่วนผสม ในจังหวะรอบเดินเบาของเครื่องยนต์  และเมื่อใดที่มีรอบเครื่องยนต์สูงกว่ารอบเดินเบานั้นหมายความว่า  แรงกดที่กระทำจากแผ่นไดอะแฟรม ย่อมมีแรงกดเอาชนะการต้านของแรงดันสปริงตังไอเดิล  ทำให้ฉิ่งฉับเปิดสุด ให้แก็สผ่านได้เต็มฟิกัด ตามสเป็คที่ระบุเอาไว้   ซึ่งแก็สที่ออกจากหม้อต้มแก็สนี้  จะถูกบังคับการไหลของไอแก็สที่ตัวเพาเวอร์วาวล์ไปที่ท่อมิ๊กหน้าลิ้นปีกผีเสื้อ  จึงเป็นจุดออ่อนและข้อเสียขอระบบแก็สแบบดูด   
แต่เมื่อใดที่แผ่นผ้าไดอะแฟรมถูกขึ้แก็สที่เป็นน้ำมันจับที่ผิวผ้า  การย่นของแผ่นผ้า ทำให้แรงดูดของแว็คคั่มที่กระทำต่อผิวแผ่นผ้า  ดูดดึงแผ่นผ้าได้น้อยลง  หรือมีแรงกดได้น้อย   ทำให้แรงดันของตัวสปริงไอเดิล ที่พยายามดันให้ก้านวาวล์ปิดวาวล์ตลอดเวลา  จึงมีจำนวนแก็สไหลผ่านวาวล์ฉิ่งฉับน้อย ในรอบเดินเบา  เป็นผลให้รอบเครื่องเดินเบาตกลง สั่นเมื่อมีโหลด
ในทำนองเดียวกัน ที่อัตราเร่งของเครื่องยนต์ในรอบสูง ก็มีปัญหา อันเนื่องมาจากมีแรงกดจากแผ่นไดอะแฟรมน้อย  ทำให้วาวล์ฉิ่งฉับเปิดให้ไอแก็สผ่านไม่เต็มที่หรือน้อย  ทำให้มีปริมาณแก็สไม่พอจ่ายให้กับเครื่องยนต์   ผลที่เกิดจากแผ่นไดอะแฟรมย่น  จึงทำให้แก็สไม่พอกับความต้องการของเครื่องยนต์ เป็นเหตุให้รถไม่มีกำลัง  ออกตัวอืดและเร่งไม่ค่อยขึ้น ความเร็วรถตกลงมาก
แต่ถ้าหากช่างที่เข้าใจระบบแก็สและระบบเครื่องยนต์ มีความสัมพันธ์กับการจ่ายแก็สอย่างไร  ก็จะรู้ว่าการจ่ายแก็สที่ต้องมิ๊กแก็สกับอากาศที่หน้าลิ้นปีกผีเสื้อ  ที่ทำให้เกิดปัญหามากมาย  ยากที่จะให้มันทำการได้เต็มประสิทธิภาพหัน   ดังนั้นทางที่ดี  ควรหันมาจ่ายปริมาณแก็สเข้าที่ท่อไอดีโดยตรงแบบระบบหัวฉีด จะได้ไม่มีปัญหา  และ ย่อมทำได้หากช่างเข้าใจระบบ และรู้จักต่อยอดดัดแปลงการควบคุมปริมาณแก็ส ที่จ่ายไปยังท่อไอดี ด้วยระบบแม็คคานิคธรรมดา  แต่ได้ประโยชน์ในการใช้งานที่ดีกว่า การมิ๊กที่หน้าลิ้นปีกผีเสื้อ   ทำให้ไม่มีปัญหาทั้งรอบเดินเบาและอัตราเร่ง 
ข้อย้อนกลับมาที่เรื่องของท่านเจ้าของกระทู้  ว่าทำไมรถวิ่งอืดเวลาออกตัว  นอกจากจะบอกให้ไปทำการปรับแก็สใหม่แล้ว หากหม้อต้มแก็สใช้มานานก็ควรเปลี่ยนชุดซ่อมของหม้อต้มแก็สเสียใหม่  ก็จะใช้งานรถได้ปกติ    หากท่านเจ้าของกระทู้ใช้แก็สระบบหัวฉีด ก็ขับรถไปให้ช่างเขาปรับจูนแก็สด้วยโปรแกรมแม็ปคอมพิวเตอร์  ช่างเขาทราบว่าจะปรับและทำอย่างไร   แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในระบบแก็สหัวฉีด หากหม้อต้มแก็สเสื่อมภาพ ก็มีอาการไม่ต่างจากระบบดูดสักเท่าใด  เพราะหัวใจมันอยู่ที่หม้อต้มแก็สเช่นกัน   เรื่องราวรายละเอียดมันมีมาก  ก็ขอกล่าวพอสังเขปครับ  …..srithanon
บันทึกการเข้า
tunesuke
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 363


ทูน.......แม่กลอง + มหาชัย


« ตอบ #2 เมื่อ: 18 มกราคม 2012, 12:12:52 »

ขอเข้ามาเก้บเป็นความรู้นะครับ
 :(อาการเดียวกัน น่าจะเป็นที่หม้อต้ม
บันทึกการเข้า
darknesspic
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 179



« ตอบ #3 เมื่อ: 19 มกราคม 2012, 08:14:25 »

ขอบคุณอย่างสูงครับ กำลังหาข้อมูลจูนพอดรเลย แต่ว่าผมไม่รู้จักพาวเวอร์วาล์วอะครับ ว่ามันอยู่ตรงไหน ใครมีรูปกรุณาด้วยนะคคับ
บันทึกการเข้า
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #4 เมื่อ: 19 มกราคม 2012, 09:33:55 »

ให้ดูสายท่อยางที่ต่อจากหม้อต้มแก็สไปที่ม่ออากาศ  ท่อยางนั้นจะมีตัวเพาเวอร์วาวล์ เป็นทองเหลือง  ต่อระหว่างกลางของท่อยางนั้น   ที่ตัวเพาเวอร์วาวล์ จะมีที่ปรับคล้ายหัวน๊อตห้าเหลี่ยม มีสปริงดันหัวปรับนี้ไว้ด้วย   เพื่อกันเคลื่อนหรือขยับตัว   ลองปรับไปตามเข็มนาฬิกาสักครึ่งรอบก็พอ   หากหม้อต้มแก็สจ่ายแก็สปกติ  จะพบว่ารถมีกำลัง ออกตัวได้ดี  หากปรับมากจะกินแก็ส  ปรับน้อยไปรถก็วิ่งไม่ออก
หรือจะทดลองปรับพีคในรอบเครื่องยนต์   เช่นให้ปรับวงล้อสายคันเร่งที่ตัวเรือนปีกผีเสื้อ ให้มีรอบเครื่องยนต์ สัก 3000 รอบ   แล้วให้ปรับเพาเวอร์วาวล์ ไปตามเข็มนาฬิก่ก่อน ในระหว่างปรับก็ให้สังเกตุว่าเสียงเครื่องยนต์  มีรอยสูงกว่าเดิมหรือไม่  หากมีรอบสูงกว่าเดิม(ดูรอบเครื่องยนต์ที่หน้าปัทม์ด้วยก็ได้)  ก็ให้ลองปรับไปตามเข็มนาฬิกาต่อไปอีก  จะพบว่ารอบเครื่องจะลดลง  เพราะแก็สมาก การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์   ก็ให้ปรับย้อนกลับมาที่ต่ำแหน่งที่มีรอบเครื่องยนต์สูงสูด     
จากนั้นให้ทดลองปรับไปทางทวนเข็มนาฬิกา ลงไปเรื่อยๆ หากมีรอบเครื่องยนต์สูงกว่าครั้งแรก  ก็ให้ปรับต่อไปอีก  จนกว่ารอบเครื่องยนต์จะเริ่มตกลง   หากเริ่มตกลงก็ให้ปรับกัลที่เดิม  ที่มีรอบสูงสุด   ถือว่าเป็นการปรับพีคสูงสุด  ที่มีการจ่ายแก็สที่มีอัตราส่วนผสมที่พอดีในการจุดระเบิด  ที่ความเร็วรอบของเครื่องยนต์ที่วัดได้ในขณะนั้น
ถามว่าหากใช้รอบเครื่องยนต์หรือความเร็วสูงกว่านั้น  จะมีผลอย่างไร   หากรอบเครื่องสูงกว่านั้น การจ่ายแก็สที่เราปรับที่ตัวเพาเวอร์วาวล์ที่รอบเครื่องยนต์สูงสุด ในครั้งแรก  จะจ่ายให้กับรอบที่สูงน้อยไป และน้อนไปเรื่อยๆเมื่อรอบเครื่องยนต์ที่สูงอย่างต่อเนื่องจนสุดรอบเครื่องที่ทำได้   ยิ่งรองสูงแก็สที่จ่ายให้ก็ยิ่งน้อย  ผลของการจ่ายแกสน้อยทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์  เครื่องยนต์ไม่กำลัง  แถมเกจวัดความร้อนจะสูงขึ้น
ในกรณีตรงข้าม  หากเราใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำจากที่สูงในตอนแรก  มันก็จะมีแก็สหนาหรือมากขึ้นเมื่อรอบเครื่องยนต์ต่ำลง  จนกระทั้งมาอยู่ที่รอบเดินเบาของเครื่องยนต์   เช่นเดียวกัน  อะไรที่มันมากหรือน้อย  ย่อมเกิดความไม่พอดี ในการจุดระเบิดที่ส่วนผสมสมบูรณ์  เครื่องยนต์ก็มีกำลังน้อยลง 
ในกรณีที่เครื่องยนต์ มาอยู่ในรอบเดินเบา   การจ่ายปริมาณแก็ส จะเป้นหน้าที่ของตัวไอเดิยและตัวเซ็นซิทีป  รวมกับแรงกดของแผ่นไดอะแฟรม  โดยในรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ ที่ไม่มีโหลด  จะเป็นการทำงานระหว่างการปรับตัว ไอเดิลและแรงดูดของแว็คคั่มจากท่อไอดี ที่ดูดแผ่นผ้าไดอะแฟรมให้มีแรงกดให้ก้านกระเดื่องวาวล์เปิด  ในขณะเดียวกันเจ้าตัสสปริงของตัวไอเดิล ที่ปรับเพื่อต้านการเปิดของแรงกดก้านกระเดื่องวาวล์ที่มาจากแผ่นไดอะแฟรม  ปรับสปริงแรงต้านที่ตัวไอเดิลให้เกิดการบาลานซ์ ทำให้ที่วาวล์ฉิ่งฉับ เปิดพอร์ทช่องให้แก็สผ่าน ไปที่มิ๊กเซอร์  มีอัตราส่วนผสมที่พอเหมาะกับรอบเดินเบาที่ไม่มีโหลด
ในขณะที่เครื่องยนต์มีโหลด จากการเปิดแอรื เข้าเกียร์ Auto รอบเครื่องยนต์มันก็จะตก จะเป็นที่เจ้าตัวเซ็นซิทิฝจะทำหน้าที่จ่ายแก็สเพิ่ม   มันทำหน้าที่อะไรของเจ้าตัวเซ็นซิทีฝ
มันทำหน้าที่บายพาสแก็ส หรือจ่ายแก็สจากห้องที่เปลี่ยนสถานะจากน้ำแก็สเป็นไอแก็ส  ผ่านเข้ามาที่ห้องจ่ายแก็สโดยตรง โดยไม่ผ่านวาวล์ฉิ่งฉับ ที่ถูกคอนโทรลโดยการปรับตัวไอเดิล  ดังนั้นเมื่อปรับรอบเดินเบาในรอบเครื่องยนต์ที่ไม่มีโหลด  เมื่อมีโหลดเครื่องยนต์ต้องการเชื้อเพลิงแก็สเพิ่มเพื่อช่วยให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์  ดังนั้นเราจึงปรับตัวเซ้นซิทีฝเอาไอแก็สมาช่วยในขณะที่รอบเดินเบามีโหลด      จะปรับอย่างไรค่อยว่ากันทีหลัง   สำหรับในกรณีที่เครื่องยนต์มีรอบอัตราเร่ง การคอนโทรลจ่ายแก็สในรอบเดินเบา จะถูกแรงกดจากแผ่นไดอะแฟรมที่รอบเครื่องยนต์สูง กดเอาชนะแรงต้านสปริงของตัวไอเดิล ทำให้กระเดื่องวาวล์เปิดให้ไอแก็สผ่านได้เต็มที่    จากนั้นมันก็จะไปถูกการบังคับจากตัวเพาเวอร์วาวล์อีกครั้ง  ว่าจะให้แก็สผ่านจ่ายให้พอเหมาะกับรอบเครื่องยนต์ที่เท่าใด  ตามที่ผมกล่าวมาข้างบน.....srithanon
บันทึกการเข้า
darknesspic
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 179



« ตอบ #5 เมื่อ: 20 มกราคม 2012, 08:05:44 »

เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง ทำให้ออกตัวช้าอืด   ต้องเอาไปให้ช่างปรับจูนแก็สใหม่   หรือท่านเจ้าของกระทู้ลองปรับที่ตัวเพาเวอร์วาวล์  ซึ่งตัวที่ว่านี้ จะติดตั้งอยู่ระหว่างหม้อต้มแก็สกับท่ออากาศ  ให้ท่านเจ้าของกระทู้ลองปรับหมุนหัวปรับเพาเวอร์วาวล์ไปทางตามเข็มนาฬิกา สักครึ่งรอบ
ไปลองปรับเพาเวอร์วาล์วมาแล้วครับ ออกตัวดีขึ้นครับ เด้วจะลองดูอาการอีกซักพัก แต่ยังสงสัยในหลักการ คือว่าในเมื่อหมุนตามเข็มมันเป็นการปิดวาล์วนี้ครับ แต่ทำไมมันได้แรงเยอะขึ้น
อีกอย่างครับ มีบางช่วงตอนรอบปลายมีตกบ้างเหมือนกันต้องปรับวาล์วตัวไหนอะครับ
ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #6 เมื่อ: 20 มกราคม 2012, 09:41:21 »

การที่ความเร็วปลายมีปัญหาไม่ค่อยตอบสนอง  ก็เพราะว่าเราปรับปริมาณแก็สไม่พอกับรอบความเร็วสูง เนื่องจากเราปรับที่ตัวเพาเวอร์วาวล์ ให้แก็สไหลพอดีกับรอบเครื่องยนต์ ที่ความเร็วรอบจุดใดจุดหนึ่งเท่านั้น หากปรับไว้ที่รอบ 3000 รอบ หรือ 120 กม/ชม  หมายความว่าที่รอบความเร็วรถ 3000 รอบ มีการจ่ายแก็สพอดีในอัตราส่วนผสม    หากสูงไปกว่านั้น การจ่ายแก็สปริมาณแก็สไม่พอหรือน้อยลงทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์   เครื่องยนต์กำลังตก  ไม่ค่อยมีแรงฉุด  รถก็วิ่งไม่ค่อยออกเพราะแก็สไม่พอ  ที่ไม่พอเพราะเราปรับตัวเพาเวอร์วาวล์ ให้แก็สไหลผ่านพอดีที่สามพันรอบ    หากความเร็วรอบต่ำลงกว่าสามพันรอบ การจ่ายแก็สก็จะเริ่มหนาหรือมากในส่วนผสม  ทำให้กินแก็ส แต่กำลังเครื่องยนต์ก็ตกลงบ้าง  แต่ดีในอัตราเร่งที่ตอบสนอง ที่มีแก็สจ่ายพอดี ที่สามพันรอบ
นี้เป็นจุดด้อยของระบบดูด   เพราะตัวเพาเวอร์วาวล์ไม่สามารถจ่ายปริมาณแก็สได้พอดีกับการแปรผันของรอบเครื่องยนต์    ในเบื้องต้นของการแก็ไขในระบบดูดนี้  จึงเกิดการแก้ไขโดยเอาระบบแลมป์ด้า ที่เป็นการคอนโทรลด้วยเสต็ปมอเตอร์ ที่มีโปรแกรมทาง ชีป ECU มาเป็นตัวกำหนดให้สเต็ปมอเตอร์เปิดให้มีปริมาณแก็สจ่ายตามการแปรผันของรอบเครื่องยนต์
ต่อคำถามว่า หากไม่ให้ตีนปลายความเร็วรถตก  ปรับตัวไหน   ก็ต้องตอบว่าปรับที่ตัวเพาเวอร์วาวล์ไปตามเข็มนาฬิกาเพิ่มขึ้นอีก  จะทำให้มีแก็สไหลเพิ่มไปห้องไอดีมาก  พอดีกับการจุดระเบิดที่สมบูรณ์ ทำให้รถมีกำลังทำความเร็วเพิ่มขึ้น
แต่การที่ปรับปริมาณแก็สให้พอดีกับความเร็วปลายสุด  ทำให้กินแก็สมากในรอบความเร็วต่ำ แถมกำลังเครื่องยนต์ได้ไม่เต็มที่   ก่อให้เกิดมีปรมาณแก็สตกค้างในท่อไอดีมาก หลังจากดับเครื่องยนต์  เวลาดับเครื่องยนต์ แล้ววกลับมาสตาร์ทในเวลาไร่เรี่ยกัน  จะสตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก  มีกลิ่นแก็สหลงเหลือที่ท่อไอเสีย  ที่หัวเทียนสกปรกมีเขม่าจับสีดำ เพราะจุดระเบิดไม่หมด ดังนั้นจึงควรปรับที่ตัวเพาเวอร์วาวล์ให้พอเหมาะกับการใช้รถประจำวัน  เช่นวิ่งไม่เกินร้อยหรือร้อยยี่สิบ ก็ปรับเพาเวอร์วาวล์ให้พอดีกับรอบเครื่องยนต์  จะทำให้ประหยัดแก็สด้วย  ส่วนวิธีการปรับก็กล่าวไว้แล้สข้างบนครับ…..srithanon
บันทึกการเข้า
darknesspic
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 179



« ตอบ #7 เมื่อ: 10 มีนาคม 2012, 22:56:46 »

สอบถามอีกหน่อยครับ ตอนรอบเดินเบา ผมลองเบิ้ลเครื่องดู ดูเหมือนว่ารอบเครื่องจะตอบสนองช้าส่งผลทำให้ถ้าจะออกตัวจริงๆต้องเลี้ยงครัช ถึงจะมีรอบ อันนี้แก้ไงดีครับ อีกอย่างถ้ากรองอากาศตันจะเคไงครับ
บันทึกการเข้า
hydromatic
Gold Member
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 239


๑Tottemo Daisuke EK๑


« ตอบ #8 เมื่อ: 10 มีนาคม 2012, 23:25:24 »

srithanon  ตัวจิงเลยนะเนี่ย เยี่ยมเลยคับ   ยิ้ม
บันทึกการเข้า

------------ >>>S Y S T  E M      ALL      G R E E N !!!<<< -------------
ham_ter
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 9,223



« ตอบ #9 เมื่อ: 10 มีนาคม 2012, 23:26:11 »

สอบถามอีกหน่อยครับ ตอนรอบเดินเบา ผมลองเบิ้ลเครื่องดู ดูเหมือนว่ารอบเครื่องจะตอบสนองช้าส่งผลทำให้ถ้าจะออกตัวจริงๆต้องเลี้ยงครัช ถึงจะมีรอบ อันนี้แก้ไงดีครับ อีกอย่างถ้ากรองอากาศตันจะเคไงครับ
    หมุน IDLE ตามเข็มนาฬิกา ทีละครึ่งรอบ  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

darknesspic
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 179



« ตอบ #10 เมื่อ: 11 มีนาคม 2012, 10:21:59 »

ขอบคุณครับเด้ยวจะลองดู ว่าแต่ว่าการปรับไอเดิลตามเข็มเป็นการลดปริมาณแก๊สใช่มั้ยครับ พอดีไปเจอกระทู้นี้มา
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=15189.0
บันทึกการเข้า
ham_ter
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 9,223



« ตอบ #11 เมื่อ: 11 มีนาคม 2012, 10:28:24 »

ขอบคุณครับเด้ยวจะลองดู ว่าแต่ว่าการปรับไอเดิลตามเข็มเป็นการลดปริมาณแก๊สใช่มั้ยครับ พอดีไปเจอกระทู้นี้มา
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=15189.0
    ถูกต้องจ้า ยิ่งหมุนเพิ่ม มันยิ่งดูดเพิ่ม
ยิ่งดูดเพิ่มยิ่งหนา ทำให้ตอบสนองช้า ต้องหมุนลงให้มันดูดน้อยหน่อย
    ลองหมุนทีละครึ่งรอบจ้า  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

darknesspic
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 179



« ตอบ #12 เมื่อ: 18 มีนาคม 2012, 15:59:31 »

ไปลองมาแล้วครับ ดีขึ้นครับ แต่ยังสั่นอยุ่นิดๆ ต้องลากรอบซัก2000แล้วออกตัวจึงจะนิ่ม ว่าแต่ว่ากลัวคลัชหมด/ลื่นอะครับ เป็นไปได้มั้ย
บันทึกการเข้า
firstjung
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 458


JDM


« ตอบ #13 เมื่อ: 27 มีนาคม 2012, 20:10:43 »

 จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: ek96 LXI ออกตัวอืด
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |