webmaster@thaispeedcar.comครัชแต่งและฟลายวิลแต่ง
การแก้ปัญหาครัชลื่น บ้างครั้งนิยมเปลี่ยนเป็นครัชแต่ง ที่บรรดาสำนักแต่งต่างๆ ได้ทำออกมาขายให้กับนักซิ่ง ที่แต่งเครื่องยนต์ให้รุนแรงขึ้น หรือการขับขี่ที่รุนแรงขึ้น ซึ่งแต่ละสำนักจะมีการออกแบบมามากมายหลายแบบแต่ที่นิยมในปัจจุบันจะมีลักษณะตามจำนวนผ้าครัชดังนี้
1 . Single plate ชุดครัชแบบนี้เป็นลักษณะคล้ายกับของโรงงาน โดยมีผ้าครัชแผ่นเดียว และหวีครัชประกอบติดกับฟลายวิลเดิมของโรงงานได้เลย แบบนี้ทางสำนักแต่งจะทำการโมดิฟลาย
หวีครัชให้มีแรงกดเพิ่มมากขึ้น ผ้าครัชจะเปลี่ยนเป็นแบบทองแดง ที่มีลักษณะเป็นก้อนๆ เช่น 3 ก้อน หรือ 5 ก้อนต่อด้าน ส่วนมากจะมีการกำหนดขนาดแรงกดของหวีครัชมาเช่น 800 ก.ก. หรือ 900 ก.ก รับแรงม้าได้ไม่เกิน 300 - 350 แรงม้า
2. Twin plate แบบนี้เป็นแบบที่นิยมกันมากขึ้น มีการออกแบบได้อย่างชาญฉลาดมาก ด้วยการออกแบบให้มีผ้าครัชถึง 2 แผ่น และจานกดครัชถึง 2 ตัว ทำให้ครัชแบบนี้สามารถลดอาการลื่นของครัชได้มากขึ้น แต่ด้วยความที่ชุดครัชมีอุปกรณ์ที่มากขึ้น ทำให้น้ำหนักเพิ่มมาก ครัชแบบนี้จึงต้องออกแบบฟลายวิลเสียใหม่ ให้มีน้ำหนักเบาขึ้นเพื่อมาชดเชยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ฟลายวิลจึงเป็นแบบลดน้ำหนัก นิยมใช้ วัสดุโคโมลี่ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงมาก ราคาจึงแพงกว่าแบบธรรมดาอยู่หลายเท่าตัว
3. Tripple plate เป็นแบบที่พัฒนามาจาก twin plate โดยการเพิ่มชุดกดครัชให้มากขึ้นไปอีก 1 ชุดจึงทำให้มี ผ้าครัชและจานกดถึง 3 แผ่น แต่ในการจะกดชุดครัชให้อยู่นั้น ต้องเพิ่มแรงกดให้กับหวีครัชให้มากขึ้นขนาด 900 - 1,100 ก.ก. แบบนี้จะสามารถรับแรงม้าได้ตั้งแต่ 400 - 800 แรงม้าได้อย่างสบายๆ
4. Four plate มีลักษณะเดียวกับ twin plate และ tripple plate แต่จะมีผ้าครัช และจานกดครัชถึง 4 แผ่น หวีครัชมีแรงกดตั้งแต่ 1,200 ก.ก. ขึ้นไป สามารถรับแรงม้าได้มากกว่า 1,000 - 1,300 แรงม้า แบบนี้เนื่องจากมีแรงกดมาก ชุดแรงดันไฮโดรลิคกดครัชมักใช้แบบ direct clutch คือเป็นแบบไม่มีก้ามปูกดครัช แต่จะใช้ชุดแรงดันไฮโดรลิคติดตั้งไว้ในเสื้อเกียรเลย เพราะการใช้ก้ามปูอาจทำให้หักได้ และลดแรงเหยียบของผู้ขับ แบบนี้จะช่วยผ่อนแรงในการเหยียบครัชได้มาก

ฟลายวิลแต่ง
เครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งให้แรงขึ้นมักนิยมลดน้ำหนักที่ฟลายวิล
ให้มีน้ำหนักเบาขึ้น วิธีการลดน้ำหนักเริ่มตั้งแต่ นำฟลายวิลเดิมมาทำการขึ้นแท่นกลึง แล้วกัดผิวด้านต่างๆให้บางลง โดยเจียรจุดต่างๆและไม่จำเป็นทิ้งไป คำนึงถึงน้ำหนักเป็นหลักเช่นจากเดิมมีน้ำหนักที่ 8 ก.ก ก็กลึงทิ้งเสีย 2 ก.ก เหลือเพียง 6 ก.ก แบบนี้เป็นวิธีที่นิยม แต่จะทำให้สูญเสียความแข็งแรงอาจเกิดการแตกร้าวได้ อีกวิธีคือการเปลี่ยนเป็นฟลายวิลแต่ง ซึ่งเกือบทุกสำนักจะมีฟลายวิลแต่งแบบน้ำหนักเบาออกมาจำหน่าย ซึ่งส่วนมากจะนิยมใช้ เหล็กแบบโคโมรี่ ที่มีคุณสมบัติคือน้ำหนักเบาทนความร้อนสูง และมีความแข็งแรงมากกว่า หรือบางรุ่นทำจากวัสดุอย่างอลูมิเนียมผสมเกรดดี ที่สามารถทนความร้อนและแรงกดได้มากขึ้น การลดน้ำหนักฟลายวิลจะมีผลทำให้แรงบิดของเครื่องยนต์ลดลง หรือเพิ่มขึ้นในรอบเครื่องยนต์ต่างๆ เช่นอาจจะทำให้แรงบิดในรอบต้นหายไป แต่แรงบิดในรอบปลายดีขึ้น มีผลต่อความเร็ว และน้ำหนักของรถด้วย
การช่วยทำให้เหยียบครัชนิ่มขึ้น
ส่วนมากแล้วหลังจากที่เราโมดิฟายครัชใหม่ให้มีแรงกดมากขึ้น หรือการเปลี่ยนครัชแต่ง ปัญหาที่ตามมาคือการเหยียบครัชจะต้องออกแรงเพิ่มขึ้น ครัชแข็ง ออกตัวยาก หรือเวลาเห็นรถติดๆแล้วไม่ค่อยอยากไปไหน เพราะกลัวการเหยียบครัชจนขาชา วิธีทีนิยมกันส่วนมากมีหลายวีธีเช่น เปลี่ยนแม่ปั้มครัชบนให้มีขนาดโตขึ้น ส่วนมากนิยมยืมแม่ปั้มมาจากรถ 6 ล้อหรือ 10 ล้อ ทำให้มีแรงดันไฮโดรลิคเพิ่มมากขึ้น หรือหาปั้มครัชแบบที่มีหม้อลมช่วยแรง แบบของ Nissan Skyline การดามตัวถังหน้าแปลนครัชให้แข็งแรงขึ้น การเปลี่ยนสายอ่อนครัชเป็นสายถักแสตนเลส แบบนี้จะช่วยให้มีแรงดันส่งไปยังแม่ปั้มครัชล่างได้แบบเต็มๆ สายน้ำมันไม่โป่งตัวออก การสร้างก้ามปูให้ยาวขึ้น การเปลี่ยนปั้มครัชล่างให้มีขนาดโตขึ้น หรือการเปลี่ยนไปเป็นแบบ direct clutc ที่มีชุดไฮโดรลิคติดตั้งในหัวหมูเกียร์เลย

การดูแลรักษาครัชและการแก้ไข
อย่าลืมครับว่าถึงเครื่องจะดี แต่ถ้าครัชพังครัชรั่วเมื่อไหร่ก็ต้องแย่งอาหารลิงกันทีเหมือนกัน อาการที่เกิดกับครัชส่วนใหญ่
เช่น
ครัชรั่ว มักเกิดจากแม่ปั้มครัชบน หรือ ล่าง ลูกยางรั่วซึม หรือสายอ่อนครัชแตก จะไม่มีแรงดันน้ำมันไปกดชุดครัช ถ้าสังเกตเห็นอาการซึมๆของน้ำมันครัชตามกระบอกครัชบนล่างเมื่อไหร่ สายอ่อนครัชเก่าร้าว หรือน้ำมันครัชเริ่มลดลงอย่าเติม ให้เช็คดูหารอยรั่วและรีบแก้ไขทันที
ครัชลื่น มักเกิดจาการขับขี่ที่รุนแรง การที่เครื่องรับภาระหนัก ขับขี่รุนแรง หรือขึ้นเขา การตั้งสากครัชไม่เหมาะสมจนครัชยัน จะทำให้เกิดการลื่นทันที ผ้าครัชที่ลื่นจะเกิดอาการไหม้ ผ้าครัชอาจด้าน หวีและฟลายวิลเกิดรอยไหม้ ครัชจะเกิดอาการลื่นตลอด ต้องทำการเปลี่ยนผ้าครัช , หวีครัชใหม่ , เจียรฟลายวิล หรือหาชุดครัชแต่งให้เหมาะสมกับกำลังเครื่องยนต์
ครัชสั่น มักเกิดจากความไม่เรียบสม่ำเสมอของ ผ้าครัช หวีครัช และฟลายวิล หรือผ้าครัชแต่งแบบเป็นก้อนๆ จะทำให้การออกตัวของรถสั่นๆกระตุก ต้องทำการเปลี่ยนผ้าครัช และเจียรหน้าฟลายวิล หรือเปลี่ยนหวีครัช หรือเอาหวีครัชไปเจียรใหม่
ครัชแตก มักเกิดจากการขับขี่ที่รุนแรง โครงผ้าครัชไม่ดีไม่เหมาะกับกำลังเครื่องยนต์ สปิงจานครัชเสียหดตัวจนเฟืองกลางผ้าครัชให้ตัวมากเกินไป ผ้าครัชที่ย้ำด้วยหมุดแตกออก เรียกว่าครัชแตก จะทำให้รถเข้าเกียรไม่ได้ ต้องทำการเปลี่ยนผ้าครัชใหม่ให้เหมาะกับการใช้งาน และกำลังของเครื่องยนต์
น้ำมันครัช เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องดูแลเปลี่ยนถ่ายบ้าง เพราะการใช้งานที่ยาวนานจะทำให้น้ำมันสกปรก มีน้ำผสมอยู่ เศษลูกยางปั้มครัชปะปนอยู่ จะทำให้การสึกหรอในปั้มครัชเร็วขึ้น ลูกยางปั้มครัชเสื่อมเร็ว ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายบ้าง การเลือกใช้ต้องเลือกให้ถูกต้องของข้อกำหนดในการผลิตลูกยางในปั้มครัช เช่นปั้มครัชกำหนด DOT 3 แต่เอาน้ำมัน DOT 4 - 5 ใส่ลูกยางจะบวมพังอย่างรวดเร็ว