รวบแล้ว 2 ลูกจ้างฆ่าโหด "เถ้าแก่เนี้ย" ชิงเงินก๊งเหล้าตำรวจตามจับกุมลูกจ้างชาวไทยร่วมกับชาวกะเหรี่ยงฆ่า ?เถ้าแก่เนี้ย? ค้าวัสดุก่อสร้างได้แล้ว เผยพฤติกรรมโหดชกจนล้มแล้วรุมกระทืบซ้ำ จากนั้นใช้ไฟฟ้าช็อตจิ๋ม เหตุเพื่อชิงทรัพย์หาเงินไปก๊งเหล้าต่อ แต่เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ขณะที่ ผบช.น.วอนขอให้เป็นอุทธาหรณ์นายจ้างที่นิยมแรงงานต่างด้าวราคาถูก วันนี้ (11 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.5 พ.ต.อ.ชาญ ชุณหวงศ์ รอง ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า ผกก.สส.บก.น.5 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมลูกจ้างฆ่าชิงทรัพย์นายจ้าง โดย พ.ต.ท.พสิษฐ์ เก็งทอง สว.สส.บก.น.5 และ พ.ต.ท.ฐาปกรณ์ อินทะชัย สว.สส.สน.พระโขนง และพวกร่วมจับกุม นายจรินทร์ หรือ อ๊อด พันธ์ศิริ อายุ 20 ปี สัญชาติไทย อยู่บ้านเลขที่ 32/1 หมู่ที่ 5 ตำบลอุโคกสี่หมื่น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี และนายปลาย อายุ 23 ปี ชาวพม่า พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น และหนัก 1 สลึงอีก 1 เส้น โดยจับกุมนายจรินทร์ได้ริมถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ส่วนนายปลายถูกจับกุมได้หน้าบ้านพักคนงาน หจก.นำเจริญวัสดุด่วน เลขที่ 6/1 หมู่ 5 ถ.กิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงกล่าวหาร่วมกันชิงทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อนายปลายอีกกระทง
พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค. เวลา 09.05 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง รับแจ้งพบศพนางวาสนา แซ่ตั้ง ถูกคนร้ายแทงเสียชีวิตภายใน หจก.ศรีสาธิต จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เลขที่ 875/1 สุขุมวิท 101/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. และพบกางเกงเปื้อนเลือดทิ้งในถังขยะ สอบสวนทราบว่าเป็นของนายปลายคนงานชาวพม่า และสอบถามคนงานทราบว่า นายปลาย และนายจรินทร์หายตัวไปหลังพบศพนางวาสนา จึงติดตามจับกุมคนร้ายได้ดังกล่าว โดยนายปลายได้ขัดขืนและต่อสู้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม
ด้าน นายปลาย รับสารภาพว่า เคยรับจ้างขับรถไถนาที่ประเทศพม่า ก่อนลักลอบหนีมาทำงานในเมืองไทย โดยเพื่อนชาวกะเหรี่ยงที่ทำงานอยู่ร้านดังกล่าวชักชวนมาทำงานเป็นคนงานในร้าน ได้ค่าแรงวันละ 200 บาท ทำมาได้ประมาณ 6 เดือน ก่อนเกิดเหตุได้ไปกินเหล้าขาวกับ นายจรินทร์หมดไป 2 ขวด พอเงินหมดจึงวางแผนชิงทรัพย์นางวาสนา นายจ้างซึ่งอยู่เฝ้าร้านเพียงลำพัง เพื่อหาเงินมาซื้อเหล้ามากินต่อ เมื่อไปถึงพบ นางวาสนานายจ้างกำลังนั่งทำบัญชีที่โต๊ะทำงาน อาศัยจังหวะที่นายจ้างเผลอชกใบหน้าจนล้มลงก่อนรุมกระทืบ จากนั้นได้ใช้เชือกรัดคอจนแน่นิ่ง ส่วนนายจรินทร์ถอดกางเกงแล้วใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าที่ซื้อมาจากตลาดคลองถม ในราคา 100 บาท ช็อตผู้ตายที่อวัยวะเพศเพื่อเบี่ยงเบนเจ้าหน้าที่ว่าเป็นคดีฆ่าข่มขืน เมื่อนางวาสนาเสียชีวิตจึงหยิบเงินสด จำนวน 40,000 บาทในกระเป๋าสะพายของผู้ตายแบ่งให้นายจรินทร์ 10,000 บาท และนำติดตัว 30,000 บาท ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี ส่วนเงินนำไปใช้จนหมดแล้ว
พล.ต.ท.อดิศร กล่าวอีกว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งสอง ซึ่งต้องรอผลชันสูติศพนางวาสนาจากสถาบันนิติเวชอย่างละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้จะส่งผู้ต้องหาทั้งสองไปตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด และอยากฝากเตือนไปยังนายจ้างที่ชอบจ้างแรงงานต่างด้าวมาทำงานเพราะราคาถูกกว่าแรงงานชาวไทย และหากเป็นไปได้ขอให้ใช้แรงงานที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย หรือจ้างคนไทยจะดีกว่าเพราะหากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้แล้วเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมคนร้ายได้ยากมาก
ที่มา: ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์
11 กรกฎาคม 2550 13:56 น.