หมอรักษาสิว"พรเกษมคลินิก" ยอมรับมีพระสงฆ์มาใช้บริการจริง ตามรูปถ่ายที่มีคนส่งให้"ข่าวสด"นำมาลง อ้างเป็นลูกค้าเก่าดั้งเดิมตั้งแต่ยังไม่ได้บวช พอบวชแล้วก็ยังมารักษาต่อ ส่วนที่ให้พนักงานผู้หญิงกดสิวให้เพราะหมอผู้ชายไม่ว่าง แต่ก็ให้สวมถุงมือ ขณะที่คลินิกอื่นๆ เผยที่ผ่านมามีทั้งพระทั้งแม่ชีมาขอใช้บริการ แต่ก็เลี่ยงไม่ทำให้ โฆษกมหาเถรฯระบุถ้าเป็นการรักษาโรคก็ทำได้ แต่ถ้าเพื่อเสริมความงามก็ไม่เหมาะสม ผิดศีลข้อ 8 เป็นอาบัติแต่ไม่ร้ายแรง
จากกรณีที่มีประชาชนส่งภาพถ่ายพระสงฆ์ ขณะเข้าไปใช้บริการในคลินิกเสริมความงามและรักษาสิว "พรเกษมคลินิก" สาขาห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางแค โดยมีพนักงานสาวสวมถุงมือยางกำลังก้มหน้าก้มตากดสิวให้กับพระหนุ่มรูปดังกล่าว มาให้ทาง "ข่าวสด" เผยแพร่และช่วยตรวจสอบนั้น
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่คลินิกดังกล่าว พบกับน.พ.อภิยุช เนตตกุล หมอเจ้าของไข้ ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า พระรูปดังกล่าวเป็นคนไข้เก่าของทางคลินิกตั้งแต่ยังเป็นคนธรรมดา ไม่ได้บวชเป็นพระ
ตอนนั้นเป็นคลินิกสาขาวงเวียนใหญ่ ยังเป็นร้านแบบตึกแถวอยู่ หลังจากมาเปิดสาขาที่นี่ท่านก็เลยตามมาหลังจากบวชแล้วเพื่อมารักษาต่อ เท่าที่ตนดูแลนั้นพบว่าพระรูปดังกล่าวมีปัญหาเรื่องสิว ซึ่งเป็นค่อนข้างเยอะและอักเสบ
ทางเราก็ดูแลตามมาตรฐานทั่วไป อีกอย่างคือเราไม่ได้คิดค่ายา ค่ารักษา และปกติตนจะเป็นคนดูแลกดสิวเอง จะมีปัญหานิดหน่อยเพราะบางทีหมอไม่ว่างก็ให้พนักงานซึ่งเป็นผู้หญิงเป็นคนช่วยทำการรักษาให้ แต่ก็ป้องกันโดยการใส่ถุงมือ อีกอย่างพระสงฆ์รูปนี้ก็ไม่ได้มานานแล้ว
น.พ.อภิยุช กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ก้ำกึ่งว่าสิวเป็นโรค หรือเป็นเรื่องของความสวยความงาม ซึ่งต้องแล้วแต่มุมมองในเรื่องความเหมาะสม แต่หลังจากมีปัญหาทางร้านก็เลยตัดสินใจว่าถ้าพระท่านมาอีก เราคงจะต้องแนะนำให้ไปที่โรงพยาบาลจะสะดวกกว่า
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามไปยังคลินิกเสริมความงามและรักษาสิวต่างๆ ได้รับคำชี้แจงในทำนองเดียวกันว่า เคยมีพระและแม่ชีมาสอบถามหรือขอใช้บริการบ้างเหมือนกัน แต่น้อยมากและนานมาแล้ว คลินิกบางแห่งก็จะไม่รับรักษา แต่บางแห่งจะรักษาให้เฉพาะเรื่องสิวหรือโรคผิวหนังเท่านั้น แต่ถ้ามาเรื่องความสวยความงามทางคลินิกก็จะเลี่ยงไม่ทำให้
ด้านพระธรรมกิตติเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม กล่าวถึงกรณีพระสงฆ์เข้าไปใช้บริการคลินิกเสริมความงามและรักษาสิวว่า พระสงฆ์ที่ประพฤติด้วยการเข้าไปในร้านเสริมความงามคงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เป็นการผิดศีลข้อ 8 คือ มาลาคันธะวิเลปะนะธาระณะมัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ มีความหมายว่า เว้นจากการทัดทรงดอกไม้ของหอมและเครื่องลูบไล้ ซึ่งเป็นเครื่องประดับ ทั้งนี้ พระภิกษุที่ประพฤติดังกล่าวจะอาบัติขั้นปาจิตตีย์ เป็นอาบัติเบา ไม่ร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวมีข้อยกเว้น หากพระทาแป้งหรือโลชั่นเพื่อรักษาโรคผิวหนัง เช่น ผื่นแดง ตุ่มแดง เป็นต้น หรือเป็นโรคผิวหนังร้ายแรงต้องทำการรักษา ตรงนี้ถือเป็นข้อยกเว้น สำหรับการเข้าไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการทางผิวหนังสามารถปฏิบัติกิจได้ เราต้องดูที่เจตนาของพระสงฆ์เป็นสำคัญ หากเป็นไปเพื่อการรักษาโรคคงไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นการกระทำเพื่อเสริมความงามคงไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
พระธรรมกิตติเมธี กล่าวต่อว่า สำหรับหนทางแก้ปัญหา คงต้องให้พระสงฆ์แต่ละรูประมัดระวังในเรื่องความเหมาะสมแก่สมณสารูป มิให้ถูกติฉินนินทา รวมทั้งต้องขอความร่วมมือจากคลินิกทั่วไปด้วย มิให้ทำการอันเป็นไปเพื่อเสริมความงาม แต่ถ้ารักษาโรคผิวหนังอันตราย ตรงนี้สามารถดำเนินการได้
ที่มาจาก ข่าวสด
ผู้เขียน
