เลมิงซวึ๊ก (ซ้าย) บอกกับเพื่อนคนหนึ่งว่า การ์ตูนพวกนี้อ่านแล้ว ทำให้ปลอดโปร่งและสุขภาพจิตดี คิดอะไรก็คล่องพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิดๆ คิดว่า ลูกจะเป็นนักเรียนเก่งสอบได้ที่ 1 ของประเทศได้ จะต้องใช้ชีวิตอยู่กับหนังสือและตำราเรียน และ จะต้องไม่ยุ่งกับเรื่องอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง แต่.. เลมิงซวึ๊ก (Le Minh Duc) เบอร์ 1 ของเวียดนามในการสอบปลายภาค นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 6 ปีนี้.. เป็นอีกอย่างหนึ่ง
ซวึ๊กได้คะแนนรวม 58 จากคะแนนเต็ม 60 ในการสอบปลายภาครวม 6 รายวิชา ขาดหายไปเพียง 2 คะแนนเท่านั้น นี่คือคะแนนสูงสุดที่นักเรียน ม.6 ทั่วทั้งประเทศทำได้ในปีนี้ จากการใช้ข้อสอบมาตรฐานร่วมกัน ท่ามกลางความเข้มงวดกวดขัน ให้มีหลักประกันว่าไม่มีการรั่วไหล
"Work and no play makes Jack a dull boy," โจ๋วัย 17 จากโรงเรียนมัธยมปลายฟานดิ่งฟุง (Phan Dinh Phung) กรุงฮานอยกล่าวถึงคำพังเพยของทางซีกโลกตะวันตก อย่างยิ้มแย้ม เบอร์ 1 ม.6 ของปีนี้ ใช้ชีวิตที่สบายๆ เขากล่าวว่า มีสิ่งที่ขาดไม่ได้อยู่อย่างหนึ่งก็คือ เกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะต้องเล่นมันวันละ 1-2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
"ไม่งั้นความคิดไม่โลดแล่น ไม่ลื่นไหล" ซวึ๊กบอกกับสำนักข่าวดั่งจิ (Dang Tri) สำนักข่าวออนไลน์ภาษาเวียดนาม ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักศึกษาปัญญาชนของประเทศ
ไม่เพียงเท่านั้น ?นายซวึ๊กผู้ปราดเปรื่อง? ยังกล่าวอีกว่า แต่ละวันยังจะต้องเล่นบาสเกตบอลหรือไม่ก็ฟุตบอลอีกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ส่วนใหญ่จะเป็นตอนหลังเลิกเรียนก่อนกลับบ้าน ไม่เพียงเท่านั้น..เพื่อนๆ ทุกคนทราบดีว่า
ซวึ๊กไม่ใช่เด็กเรียนที่หมกหมุ่น แต่เขาอ่านหนังสือการ์ตูนโดเรมอน แทบจะทุกตอน ชนิดติดงอมแงม ไปไหนต้องพกไปด้วย เช่นเดียวกันกับ.. ทอม แอนด์ เจอร์รี่ การ์ตูนชุดแมวไล่จับหนู กับพวกการ์ตูนของวอลท์ ดิสนีย์ อีกจำนวนหนึ่ง
ซวึ๊กยังมีหนังสือนิยายกับการ์ตูนภาพเรื่องราวขี้โม้ทางวิทยาศาสตร์ เรื่องลึกลับซับซ้อน และ หนังสือเกี่ยวกับเหตุการณ์-เรื่องราวแปลกประหลาดต่างๆ อีกพะเรอเกวียน ซึ่งเจ้าตัวจะอ่านอย่างไม่รู้เบื่อ ในสายตาของหลายคน.. หมอนี่ไม่ควรจะสอบอะไรได้แม้แต่น้อย การสอบปลายภาคปีนี้มีเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกับซวึ๊กราว 960,000 คน ทั่วประเทศ ในนั้นกว่า 32% หรือ อาจจะมากกว่านั้นสอบตก
แต่ซวึ๊กกล่าวว่าทางบ้านไม่เคยห้าม ไม่เคยอนาทรร้อนใจ เพียงแต่กำชับให้เอาใจใส่ศึกษานอกเวลาเรียนบ้าง
เพื่อถนอมน้ำใจของทุกคน เขาใช้เวลาวันละประมาณ 4 ชั่วโมง ศึกษาตำราวิชาที่สนใจ ซึ่งในนั้นวิชาวรรณคดี น่าหน่ายมากที่สุด "ผมคิดว่าคงจะได้สัก 8 คะแนนกระมัง ตอนสอบวรรณคดี แต่คงเป็นเพราะโชคมั๊งครับ ข้อสอบถามเรื่องที่ผมชอบก็เลยทำได้ดีพอสมควร" ซวึ๊กบอกกับสำนักข่าวดั่งจิอย่างถ่อมตน
ซวึ๊กเป็นนักฝันไม่ต่างกันเพื่อนร่วมวัยอีกหลายล้านทั่วประเทศ.. เขาเคยฝันจะเป็นกุ๊ก.. เป็นคนทำกับข้าวที่ร้านอาหารสักแห่งหนึ่ง มันคงจะมีความสุขดีแท้ เมื่อได้ทำอาหารอร่อยๆ ให้คนอื่นได้รับประทาน
"แต่ทัศนคติของผมเปลี่ยนไปเมื่อเร็วๆ นี้ เมื่อได้เห็นบิล เกตส์.. อยากจะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างเขา" หนุ่มซวึ๊กกล่าวถึงสิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่อได้เข้าใกล้ "เจ้าพ่อไมโครซอฟท์" เมื่อปีที่แล้ว ตอนเรียนอยู่ชั้น ม.5 
สำหรับสาวเฮื่องเป็นอีกแบบหนึ่ง ความสำเร็จของเธอส่วนหนึ่งมาจากการจัดระบบระเบียบให้ลงตัวระหว่างงานบ้านกับการเรียน เด็กหัวกระทิคนอื่นๆ ในระดับมัธยมปลายเวียดนาม ก็ดำเนินชีวิตที่ไม่หรูหรา และ ค่อนข้างจะธรรมดาเอามากๆ แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาและเธอ มีเหมือนๆ กันก็คือ ความปราดเปรื่องทางสติปัญญา การศึกษาใฝ่ที่จะรู้ ความเชื่อมั่น และ ความทะเยอทะยาน
เลฟานอ๋ายเญิน (Le Phan Ai Nhan) สาวน้อยวัย 17 ปี จาก จ.เถื่อเทียนเหว (Thua Thien Hue) เป็นสุดยอดหัวกระทิอีกคนหนึ่งในปีนี้ เธอได้คะแนนเฉลี่ยสอบปลายภาคเท่ากับซวึ๊ก ตลอดเวลา 12 ปีในโรงเรียน อ๋ายได้รับรางวัลชนะเลิศมากมาย ทั้งในระดับจังหวัดและในระดับชาติ รวมทั้งรางวัลดีเลิศวิชาภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส
เก่งภาษา.. แต่อ๋าย เลือกเคมีเป็นวิชาหลักที่โรงเรียนมัธยมปลายแห่งชาติ เถื่อเทียนเหว อ๋ายกล่าวว่าคุณพ่อซึ่งเป็นครูสอนวิชาเคมี เป็นแรงบันดาลใจสำคัญทำให้เธอผูกพันกับวิชานี้.. แม้ว่าท่านจะเสียชีวิตไปตั้งแต่ลืมตาดูโลกได้เพียง 4 เดือน.. แต่สาวน้อยก็มีความสนใจในเรื่องต่างๆ อย่างหลากหลาย และ ได้หมายตาเลือกอนาคตที่คณะการเงินการธนาคาร มหาวิทยาลัยการค้าต่างประเทศกรุงฮานอย.. ด้วยความตั้งใจอยากจะเป็น
?นายแบงก์? ที่ประสบความสำเร็จ
เมื่อพูดถึงซวึ๊กกับอ๋าย เรื่องของคนเรียนเก่งจะจบลงไม่ได้ หากไม่ได้พูดถึงกรณีของ "เฮื่อง" หัวกระทิจาก จ.ล่าวกาย (Lao Cai) ในภาคเหนือของประเทศ ต่างกับนักเรียนที่เรียนเก่งอีกหลายคน โด๋ถิถวีเฮื่อง (Do Thi Thuy Huong) บอกกับทุกคนครอบครัวว่า
"หนูจะเป็นที่ 1 ของประเทศค่ะ".. ซึ่งแน่นอนไม่มีใครเชื่อ เรื่องที่อาจจะต้องมีปาฏิหาริย์เข้าช่วยแบบนั้น
อ๋าย.. ปราดเปรื่องทั้งภาษาและวิชาเคมี สอนคณิตศาสตร์ให้น้องๆ เพื่อนบ้าน เฮื่องเป็นประธานนักเรียนระดับ ม.6 ของโรงเรียนมัธยมปลายประจำจังหวัด และ เธอก็สามารถปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาได้ โดยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรเป็นพิเศษ เมื่อข่าวดีไปถึง สมาชิกในครอบครัวพากันส่งเสียงฮือ.. โอ้โฮ... แต่สาวเฮื่องบอกกับคุณแม่ด้วยสีหน้าปกติว่า
"หนูก็คิดอยู่แล้วว่า คงจะออกมาประมาณนั้น" เธอเป็นอีกคนที่ได้คะแนนเฉลี่ย 58 จากคะแนนเต็ม 60 ต่างกับนายซวึ๊กอย่างมาก.. ความสำเร็จของสาวเฮื่องนั้น การจัดระบบระเบียบในชีวิตประจำวันมีส่วนสำคัญยิ่ง เธอยังจะต้องหมั่นศึกษาด้วยตัวเองอย่างมีสมาธิอีกด้วย "หนูต้องจัดเวลาให้ลงตัวระหว่างเวลาเรียนกับเวลาทำงานบ้าน และอีกอย่างยังจะต้องมีเวลาพักผ่อนกับเล่นเกมที่เกี่ยวกับการเรียนอีกด้วย" สาววัย 18 จากภาคเหนือกล่าว
เฮื่องเคยไปเรียนพิเศษเพื่อติววิชาพวกยาขมทั้งหลายมาก่อน แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เธอบอกว่า ไม่ว่าจะไปเรียนที่ไหน วันละกี่ชั่วโมง ก็จะไม่มีประโยชน์มากนัก หากไม่ศึกษาด้วยตัวเอง "ยามที่หนูศึกษาอะไรต่างๆ ด้วยตัวเองนี่ มันทำให้มีสมาธิมั่นคงในการทบทวนบทเรียนที่คุณครูสอนแต่ละวัน" เฮื่องกล่าว
ตอนนี้สาวเฮื่องกำลังเตรียมตัวสอบเอ็นทรานซ์ เช่นเดียวกันกับ นักเรียน ม.6 อีกเรือนล้าน แต่จะไม่ไปติวหรือไปเรียนพิเศษในกรุงฮานอยเพื่อเตรียมสอบ
เธอบอกกับสำนักดั่งจิอย่างเชื่อมั่นว่า "การเรียนเป็นกระบวนการค่ะ มันไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในเวลาแค่เดือนสองเดือนก่อนเข้าห้องสอบ"
เฮื่องบอกว่าสิ่งเดียวที่ต้องเตรียมตัวก็คือ เริ่มมองมหาอพาร์ทเม้นท์สักแห่งในเมืองหลวงในเดือน ก.ค.นี้ เพื่อเป็นที่พักระหว่างการสอบเอ็นทรานซ์ เป้าหมายของหัวกระทิจาก จ.ล่าวกาย คนนี้คือ มหาวิทยาลัยการค้าต่างประเทศกรุงฮานอย.. ไปเป็นรุ่นน้องของมายเฟืองถวี (Mai Phuong Thuy) เจ้าของตำแหน่ง Miss Vietnam 2006.
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
ผู้เขียน
