ขุนวาง - ล่องแพแม่วาง ทริปแรกของปี 53 (3)

[Uncle_T]

ทริปแรกแห่งปี 53  วันที่ 8-11 มกราคม 2553 ผมแบ่งออกเป็น 4 ตอนเพื่อความรวดเร็วในการโหลดภาพ นะครับ
     ตอนที่ 1 อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง   http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,51535.0.html
     ตอนที่ 2 ขุนแม่ยะ                             http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,51661.0.html
     ตอนที่ 3 ขุนวาง - ล่องแพแม่วาง        http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,51837.0.html
     ตอนที่ 4 พระพุทธบาท 4 รอย            http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,52016.0.html

ตอนที่ 3 ขุนวาง -  ล่องแพแม่วาง

ลงจากดอยขุนแม่ยะ รถตู้ที่เช่าไว้มารับเราเข้าไปทานอาหารในตัวเมืองเชียงใหม่ ชื่อ "ร้านแม่จำปา" อยู่หลังวิทยาลัยโปลีเทคนิค...แถวสารภี จุดเด่นของร้านดูเอาเองครับ ส่วนรถชาติของอาหารก็ OK นะ  อ้อลืมบอกไป มีทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าวซอย ส้มตำ กาแฟ ชาเย็น .... ระวังอย่าบอกว่า พิเศษ หรือ รวม  คุณจะได้ size ที่เห็นในภาพ

[Uncle_T]

หลังอาหารเที่ยงเราออกจากตัวเมืองโดยถนนเส้น 108 แล้วไปต่อสาย 1009 ที่จอมทองขึ้นสู่ดอยอินทนนท์

ที่ กม.39 ขวามือจะเป็นอาคารสำนักงานของ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เลยไปไม่ไกล เราแวะที่ตลาดแม้วข้างทาง

ซื้อผักผลไม้สด ๆ ราคาถูกเพื่อเข้าไปทานที่ขุนวาง โดยเฉพาะ สตรอวเบอรี่ ทั้งสด หวานหวานอมเปรี้ยวอร่อยมาก

[Uncle_T]

ตลาดนี้มีดอกไม้สวย ๆ และเด็กชาวเขาน่ารักด้วย

[Uncle_T]

จากตลาด ย้อนกลับลงมาแล้วเลี้ยวซ้ายตรงแยก "ขุนกลาง" ตรงผ่านโครงการหลวงขุนกลางเข้าไปอีก 17 กม. ถนนมีผิวชำรุดบ้าง แต่ JAZZ + ผู้หญิง 5 คน เข้าถึงอ่ะ

[Uncle_T]

เข้าถึงศูนย์เษตรหลวงขุนวาง ก็เกือบ 4 โมงเย็นแล้ว ไปที่สโมสรเช็คอิน เอาผักที่ซื้อมาจากข้างล่างจ้างครัวที่นี่ทำ ระหว่างเดินไปยังบ้านพัก จะเป็นสวนดอกไม้กลางของศูนย์ฯ

[Uncle_T]

ขวามือใต้ดงไม้โบราณ เต็มไปด้วยเต๊นท์หลากสีประมาณซักครึ่งร้อยได้ อาจจะเป็นว่าวันนี้วันเสาร์

[Uncle_T]

บรรยากาศภายในห้องพัก และหุบเขาด้านล่าง 

ข้อมูล  เรือนพัก คาร์ติมอร์ ราคา 2,000 บาท มีเครื่องนอน+เตียง 10 ชุด ห้องน้ำ 4 ห้อง(เครื่องทำน้ำอุ่น2ห้อง)
ห้องรับแขก นอนได้อีกเป็น 10 มีกระติกน้ำร้อนสำหรับชงกาแฟพร้อมถ้วย

ผมจองล่วงหน้า 2 เดือน

[Uncle_T]

ไกลออกไปในหุบเขาเบื้องล่าง มองจากเรือนพัก แดดค่อย ๆ ลับเหลี่ยมเขาทีละน้อย

[Uncle_T]

6 โมงเย็นคณะเราพร้อมที่ห้องอาหารของศูนย์ เป็นร้านอาหารจัดอยู่ในสวนไม้ประดับ หลังคาเป็น Slant เหมือนหลังคาชั่วคราว อาหารส่วนใหญ่เป็นผัดผัก ต้มจืด และปลาทับทิมทอด หัวละ 120 บาท เหมือนกันหมดทุกโต๊ะ จัดได้ว่าไม่ประทับใจเท่าไหร่

ดีที่มีผักและเห็ดแชมปิยองที่ฝากให้ไปผัดมา 2อย่าง รวม 6 จาน(คิดค่าผัด 200บาท)

[Uncle_T]

ข้าง ๆ ร้านอาหารเป็นแปลงปลูกไม้ตัดดอกใต้หลังคาพลาสติก หลากสี

[Uncle_T]

หลังจากทานอาหารเย็นก็ไม่มีที่ไปไหน เดินกลับเข้าบ้านพักหม่ำผลไม้กันต่อทั้ง สตรอวเบอรี่ พุทรานมสด ส้มจุก และส้มเขียวหวาน ดีไปอย่างที่มีผู้หญิงนักช๊อปไปด้วย

คืนนี้อากาศเย็นพอสมควร แต่ภายในบ้านอุ่น

[Uncle_T]

เช้าวันที่ 10 มกราคม 2553 ส่วนใหญ่จะตื่นก่อน 6 โมง ฟ้าเริ่มสางทางทิศตะวันออก เรามองตรง ๆ จากบ้านพักไม่เห็น แต่มีเจ้าหน้าที่บอกให้เดินลงไปในหุบเขาด้านทิศเหนือ ดงนางพญาเสือโคร่งยังพอมีให้เราได้ชม

[Uncle_T]

ระหว่างทางผ่านแปลงท้อที่ห่อผลไว้ เหมือนหิมะค้างอยู่ตามต้น

บนสันเขาด้านหลัง แสงทองเริ่มจับยอดเขา สวยไปอีกแบบ

[Uncle_T]

แล้วเราก็มาถึง ถนนสีชมพู จากจุดนี้เป็นสามแยกมีทั้งขึ้นและลงเนิน เรามองขึ้นไปบนเนินน่าจะซัก 200 กว่าเมตร ที่ปลายอุโมงค์ แสงทองของอาทิตย์ส่องถึงแล้ว

[Uncle_T]

เดินขึ้นเนินไปเรื่อย ๆ แดดเริ่มแรงขึ้นทุกที ทำให้สีของภาพแปลก ๆ

เสียดายนิดตรงที่ว่า 2-3 วันก่อนมีฝนลง ทำให้ใบอ่อนผลิขึ้นมาบ้างแล้ว จึงเห็นสีเขียวแซมชมพู

[Uncle_T]

มองย้อนกลับไปข้างล่าง สวนท้อที่ผ่านมาตัดกับเทือกเขาสลับซับซ้อนของอำเภอแม่วาง

[Uncle_T]

แดดแรงขึ้น นางพญาเสือโคร่ง หรือ ชมพูภูพิงค์ ก็ยิ่งสวยขึ้น

[Uncle_T]

เข้ามาดูใกล้ ๆ ว่าใบอ่อนผลิแซมดอกสีชมพูแล้ว อีกไม่นานขุนเขาแห่งนี้จะกลับมาเขียวขจีดังเดิม

[Uncle_T]

สุดเนิน ทางตัน ก็ย้อนเดินลงทางเก่า

[love ek]

ขอบคุณครับ  รูปสวยมากๆ     

[Uncle_T]

ลมภูเขาตอนเช้า พัดเย็นชื่นใจ ดอกนางพญาเสือโคร่ง ปลิดก้านทิ้งดอกลงบนถนนคอนกรีตที่เราเดินลงมา

อดกันไม่ได้ ที่จะหยุดนั่งลงกับพื้นถ่ายรูปกับดอกไม้สีชมพูนี้ ทั้งบนถนน และบนฟ้าเหนือศรีษะเราขึ้นไป

"ความทรงจำครั้งหนึ่งที่ขอบอกว่าประทับใจจริง ๆ"

[Uncle_T]

ขอชัด ๆ อีกรูปก่อนที่เราจะออกเดินเดินทางต่อลงไปยังหุบเขาเบื้องล่าง

อำเภอแม่วาง เราจะลงไปล่องแพไม่ไผ่ต่อที่นั่น

[tongyutya]

  :)สวยจังครับ

[BEbenjamin]

โดนแอบถ่ายตอนไหนไม่รู้    คนกะลังหิวเลยซัดเต็มที่ไม่สนใจใคร   

[taxman : ปทุมธานี]

ดูทีไร เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลยครับ

[pomthegreat]

อยากไปแบบลุงทีบ้างจัง

[nippon]

รูปสวยทุกรูปค่ะลุงที สถานที่ก็งามมั่ก มากค่า

[masaru]

 
  ดูแล้วอยากกลับไปญี่ปุ่นเลยคับลุง

[SAKURA]

สวยจังค่ะ.. :D

[BEbenjamin]

ดูทีไร เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลยครับ

เหมือนกันแหละ ดูทริปของพี่โอมก็เหมือนได้ไปเที่ยวด้วย เที่ยวบ่อยนะเรา ทำฟอร์มว่าไปทำงาน 

[Uncle_T]

เนื่องจากต้องหยุดรอรูปตอนล่องแพ จากสมาชิกทัวร์ เพราะลงน้ำไม่กล้าเอากล้องลงแพ เลยต้องอาศัยรูปจาก compact ของสมาชิก ช้าหน่อยต้องขออภัยด้วยนะครับ

10.30 น. เก็บกระเป๋าเสร็จเริ่มเดินทางออกจากศูนย์เกษตรหลวงขุนวาง  เราไม่ได้กลับทางเดิม แต่ออกจากศูนย์เลี้ยวซ้ายไปทางแม่จอนหลวง เป็นทางลงเขาเกือบตลอด

ถึงแยกแม่จอนหลวงเลี้ยวขวาไปทางบ้านป่ากล้วย - ห้วยเกี๋ยง - แม่วิน - แม่มูด ระยะทางประมาณ 50 กว่า กม. สภาพทางลาดยางตลอด มีชำรุดนิดหน่อยเป็นช่วง ๆ ถึงจุดล่องแพ ตรงนี้จะมีร้านอาหาร ซึ่งตั้งอยู่ริมลำธารแม่วาง บริการอาหารและรับจัดนักท่องเที่ยว ล่องแพและขี่ช้างด้วย

[Uncle_T]

สารถีของเราพาไปจอดที่ร้น "ป้าแต้" ซึ่งมีทั้งอาหาร ขี่ช้างและล่องแพ แต่จุดประสงค์เราแค่ล่องแพ สอบถามราคาแล้วแพละ 300 บาท นั่งได้ 3 คน + คนถ่อแพ 1 คน

ถ้าไม่เอาคนถ่อลดไป 50 บาท ระยะทางคาดว่าประมาณ 3 กม.หรือมากกว่า ใช้เวลาล่องเกือบชั่วโมง

[Uncle_T]

สภาพลำธารที่ล่องแพ เรียกว่าน้ำกำลังพอดี ไม่ลึกเกินไป ตื่นเต้นเล็กน้อย เที่ยบกับการล่องแก่งอยู่ที่ระดับ 1 เท่านั้น สองฝั่งน้ำร่มรื่นด้วยต้นไม้ทึบสลับโปร่ง มีบางช่วงต้องลงเดิน เนื่องจากทางน้ำแคบถูกบีบด้วยโขดหินใหญ่ น้ำเย็นสบาย บางช่วงมีทางช้างข้าม และระหว่างทางริมฝั่งมีร้านอาหาร 1 แห่ง สามารถจอดแพสั่งอาหารทานได้

[Uncle_T]

คณะเราตกลงล่องแพทุกคน รถ 4WD ของร้านป้าแต้พาเราไปส่งต้นน้ำขึ้นไปห่างจากร้านประมาณ 3 กม. แล้วปล่อยเราล่องลงมา แพละ 3 คน + 1 คนถ่อแพ

เวลาล่องดูสบาย ๆ ดี แต่ถึงกระนั้นยังมีคนพลาดตกน้ำตอนลงแก่งก็มี แต่ปีนขึ้นมาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนบนแพแทนที่จะถามคนตกน้ำว่าเป็นอะไรบ้าง แต่กลับถามว่าแว่นตาตกน้ำไปด้วยหรือเปล่า.... 555

สุดทางล่องแพที่ร้านป้าแต้ ที่เดิม

[Uncle_T]

ประมาณบ่ายโมงขึ้นจากแพเดินทางต่ออีก 26 กม. ก็ถึงสันป่าตอง แวะทานอาหารกลางวันที่ร้าน "รวมเส้น" มีทั้งขนมจีนน้ำเงี๊ยว ก๋วยเตี๋ยว ข้าวซอย ...ราคาไม่แพงรสชาติก็ OK ครับ

จากนั้นตีรถเข้าเมืองแวะกราบพระพุทธสิหิงค์ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่คณะทัวร์ ก่อนเข้าพักผ่อนใน Low Cost Hotel ที่ประจำของพวกเรา 450 B/day + ABF ด้วย เอาแรงไว้เที่ยวถนนคนเดินคืนวันนี้ซึ่งเป็นคืนวันอาทิตย์

เป็นอันว่าจบตอนที่ 3 พรุ่งนี้ 11 มกราคม 2553 คณะเราจะไปกราบพระพุทธบาท 4 รอย ที่แม่ริมกัน โปรดติดตามตอนต่อไป

ตอนที่ 4 พระพุทธบาท 4 รอย         http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,52016.0.html

[s_kungten]

 

[SAKURA]

ล่องแพน่าหนุกจัง....

[CEOKOY]

ไปมาแร๋วเหมือนกันค๊า ตอนปีใหม่ที่ผ่านมานี่เอง

สวยมากๆเลย