ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
30 เมษายน 2024, 15:01:14
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Car Knowledge => คลังความรู้คู่รถ  |  หัวข้อ: ส่วนลดประวัติดีกับการต่อประกัน 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ส่วนลดประวัติดีกับการต่อประกัน  (อ่าน 14472 ครั้ง)
Ernestino
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,684



« เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2006, 13:55:40 »



เครดิต : คุณ 666

คงจะเคยเห็นหรือเคยทราบกันมาบ้างแล้วว่าการทำประกันนั้นถ้าไม่มีการเคลมเกิดขึ้น จะมีการจูงใจเพื่อให้ต่ออายุประกันในปีต่อไปด้วยการลดราคาหรือมีส่วนลดให้ เช่น

20% สำหรับปีที่สองหรือไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายในปีแรก
30% สำหรับปีที่สามหรือไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายในสองปีที่ผ่านมา
40% สำหรับปีที่สี่หรือไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายในสามปีที่ผ่านมา
50% สำหรับปีที่ห้าหรือไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายในสี่ปีที่ผ่านมาหรือนานกว่านั้นเป็นต้นไป

แล้วที่บอกว่าลดราคาหรือเบี้ยให้นั้นเป็นความจริงหรือ?

ถ้ามองผิวเผินหรือไม่คิดอะไรจะเห็นว่ามีการลดเบี้ยประกันให้จริงๆ แต่ถ้ามองลึกลงไปในรายละเอียดหรือสังเกตดีๆแล้วจะพบว่า มีการแอบแฝงข้อความหนึ่งไว้ว่า..

?..ส่วนลดเบี้ยประกันนั้นเป็นส่วนลดที่คิดจากเบี้ยประกันภัยในปีที่ต่ออายุ..?

อธิบายขยายความได้ว่า การลดเบี้ยประกันไม่ว่า 20-30-40-50%นั้น ไม่ใช่การลดจากเบี้ยประกันเดิมหรือไม่ใช่การลดจากกรมธรรม์ในปีที่ทำอยู่แล้วเอามาคิดเพื่อเป็นส่วนลดในปีถัดไป เช่น

ในปีแรกจ่ายเบี้ยไป 30000บาทและไม่เคยเรียกค่าทดแทนเลย ปีถัดมาถ้าลด 20%ก็จะเหลือ 24000บาท แต่ทำไมเรียกเก็บจริงไม่เป็นไปตามนั้นเช่นเรียกเก็บ 26000บาทเป็นต้น ซึ่งก็คือ 13.33% ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

เคยมีบางท่านบอกว่ามันมีแว็ต 7%รวมอยู่ด้วย เอ้ามาลงลึกไปอีกหาเบี้ยที่แท้จริง

จาก 30000 หักแว็ต 7% หรือ 1962.62บาท ก็จะเหลือเบี้ยจริง 28037.38 บาท(รวมอากรราว 50บาท)

ถ้าคิดส่วนลด 20% จาก 28037.38 บาทหรือ 5607.48 บาท ก็จะเหลือ 22429.90 บาท

ดังนั้นเบี้ยปีต่อไปเมื่อรวมแว็ตอีก 7%หรือ 1570บาทก็ควรจะแค่ 24000 บาท

(รวมค่าอากรแล้วก็อีกไม่กี่บาทยังไงก็ไม่เกินร้อยหรอก)

แล้วทำไมจึงเรียกเก็บเกินจากนี้หละ เป็นไปได้ยังไง


มีอะไรแอบแฝงอยู่?

ก็อย่างที่เรียนข้างต้นว่าการคิดเบี้ยนั้นเขาคิดจากเบี้ยในปีนั้นๆที่จะทำประกัน ไม่ได้คิดจากเบี้ยในปีที่ผ่านมา แต่เบี้ยในปีนั้นๆหรือเบี้ยในปีที่จะต่อประกัน จะมีใครทราบบ้างว่ามันเท่าไหร่หรือเพิ่มลดยังไงเพราะไม่เคยมีใครหรือบริษัทประกันที่ไหนบอก จะบอกเฉพาะในปีแรกที่จะทำเท่านั้นซึ่งส่วนใหญ่ในปีแรกจะไม่แพงเท่าไหร่ดูสมน้ำสมเนื้อดี แต่พอเข้าปีที่สองหรือปีถัดไปกลับมาการปรับเพิ่มเบี้ย(ยังไม่เคยเห็นว่ามีการปรับลด)แต่ไม่เคยแจ้งให้ผู้ทำประกันได้ทราบ ถ้าผู้ทำประกันหรือต่อประกันไม่คิดอะไรเพราะเห็นเพียงแค่ว่ามันถูกลงแล้วก็จะจ่ายตามที่ถูกเรียกเก็บ แต่พอมีคนโวยวายออกมาว่าทำไมไม่ลดตามที่ระบุก็จะได้รับคำตอบว่าเป็นนโยบายของบริษัทที่มีการปรับอัตราเบี้ยประกันใหม่ตามประกาศเลขที่....(อยู่ไหนหรือประกาศตั้งกะเมื่อไหร่ไม่ให้ดูหรอก)หรือมันไม่ได้คิดเฉพาะเบี้ยประกันมันยังมีค่าอากรค่าแว็ตเข้ามาคิดด้วย(ก็แล้วแต่จะกล่าวอ้างไปต่างๆนาๆ) เช่นในกรณีที่ยกมาว่าจาก 30000 บาทหลังลดแล้วต้องจ่าย 26000 บาท ก็แสดงว่ามีการปรับเบี้ยก่อนได้รับส่วนลดจาก 30000 บาท เป็น 32500บาทเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะนำมาคิดส่วนลด แต่ที่น่าเจ็บกระดองใจคือจากการสอบถามของผู้ที่ใช้รถรุ่นเดียวกันที่ออกใหม่ป้ายแดงนำไปทำประกันก็ยังเสียเบี้ยปีแรก 30000 บาทอยู่ แสดงว่ามีการปรับเพิ่มเฉพาะผู้ที่ต่อประกันอย่างนั้นหรืออย่างงี้หมายความว่ายังไง


เคยทราบมั๊ยว่าไม่ได้ลดเบี้ยอย่างเดียว!

ถึงแม้บริษัทประกันจะอ้างว่าลดเบี้ยให้กับรถประวัติดีเพื่อแสดงความชื่นชมและจริงใจและจูงใจหรือตอบแทนลูกค้าหรือด้วยคำอะไรก็แล้วแต่ที่สุดแสนจะเริดหรู มันจริงอย่างที่เขาว่าจริงๆหรือเปล่า?

ลองดูรายละเอียดซักนิดตรงช่อง(เอาช่องเดียวก็พอ)ที่กล่าวถึงการชดเชยในกรณีที่เกิดความเสียหายต่อรถยนต์หรือรถสูญหายหรือรถไฟไหม้อะไรพวกนี้ซึ่งอาจจะแตกต่างกันในคำพูดแต่ละบริษัทประกัน เอาง่ายๆว่ารถหายจ่ายเท่าไหร่นั่นแหละ

ในปีแรกจ่าย 30000 ได้รับความคุ้มครอง 850000 บาท

ในปีต่อมา(อ้างว่าลด 20%)จ่ายไป 26000 บาท ได้รับการคุ้มครอง 650000 บาท

ซึ่งจะเห็นได้ว่ามันลดลงถึง 23.5 % แถมลดจริงๆก็แค่ 13.33% ไม่ใช่ 20%

นี่ยกมาเฉพาะรายละเอียดแค่ช่องเดียวเท่านั้นนะครับยังมีอื่นๆอีกเยอะ


การต่อประกัน!

ลองสละเวลาซักนิดนะครับเช็คดูซักหน่อยว่าเป็นอย่างที่ผมพูดไปหรือเปล่าเพราะที่พูดถึงนี่เป็นเพียงบางบริษัทเท่านั้นเพราะบางที่ก็ยังซื่อตรงอยู่ก็ยังมี แต่ถ้าท่านเจอเหตุการณ์ดังกล่าวจะทำยังไง

ก่อนหมดอายุประกันราว 2เดือน(อย่างน้อยที่สุดก็ 1เดือน)หรือถ้ามีหนังสือแจ้งยอดที่ต้องไปชำระค่าเบี้ยประกันในปีถัดไป ให้ลองโทรฯไปสอบถามบริษัทประกันว่าเบี้ยประกันเท่าไหร่และยอดความคุ้มครองเป็นอย่างไร เอาหลักๆเลยเช่นรถหายจ่ายเท่าไหร่หรือผู้ขับขี่เสียชิวิตจ่ายเท่าไหร่

นำข้อมูลที่ได้มาคำนวนตามตัวอย่างที่ยกมาข้างบนว่าส่วนลดตรงตามเปอร์เซ็นต์ที่แจ้งหรือเปล่ามีส่วนต่างอยู่เท่าไหร่ ถ้าใกล้เคียงกันหรือห่างกันไม่เกิน 2-300บาทก็ถือว่าพอยอมรับได้แต่ถ้ามากกว่านั้น

โทรฯสอบถามบริษัทประกันอื่นว่ารถเรายี่ห้อนี้/ปีนี้ ถ้าต้องการการคุ้มครองแบบเดียวกัน(กับที่บริษัทเดิมเสนอความคุ้มครองให้)ต้องจ่ายเบี้ยประกันเท่าไหร่

ถ้าพบว่าความคุ้มครองเท่ากันแต่ราคาถูกกว่าหรือให้ความคุ้มครองมากกว่าในราคาเท่ากัน แนะนำให้เปลี่ยนบริษัทประกันครับ แสดงว่าบริษัทที่ทำอยู่เริ่มมีอะไรที่หมกเม็ดแล้วและในปีต่อๆไปเราก็จะเจอเช่นเดิมอีก

ถ้าเกิดมีการเคลมเกิดขึ้นอาจจะต้องจ่ายเบี้ยเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นเช่น ถ้าเรียกร้องค่าเสียหายเกิน 200%ของเบี้ยในปีนั้น ในปีต่อไปต้องจ่ายเบี้ยเพิ่มขึ้น 20%(จากเบี้ยที่กำหนดโดยไม่ทราบที่มา)เป็นต้น อันนี้แนะนำให้เปลี่ยนบริษัทประกันทันทีไม่ต้องลังเล ปล่อยให้บริษัทประกันเดิมภาคภูมิใจกับตัวเลขที่หวังว่าจะเก็บเพิ่มจากเราไปเรื่อยๆแต่ไม่ต้องต่อเปลี่ยนทันทีเพราะราคาเบี้ยประกันจะถูกลงทันที หาที่ถูกกว่าที่จะต่อกับบริษัทเดิมได้ไม่ยากหรอกครับ


*****คงฝากไว้เป็นข้อคิดเล็กๆน้อยๆนะครับบางท่านอาจจะเคยสังเกตหรือเคยทราบมาแล้วแต่บางท่านอาจจะยังไม่เคยทราบหรือเคยสังเกตเรื่องเหล่านี้เลย เพราะมันเป็นการเอารัดเอาเปรียบกันซึ่งหน้าทีเดียว ลองดูนะครับไม่เสียหลายหรอกสละเวลาซักนิดยกหูโทรศัพท์เสียไม่กี่บาทแต่ท่านอาจจะประหยัดเงินได้หลายร้อยหรือหลายพันบามเลยทีเดียว(ผมเคยได้สูงสุดกว่า 2000บาทครับ)*****


*****เราเป็นผู้จ่ายเงินจงเลือกในสิ่งที่เห็นว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากที่สุด เราเป็นลูกค้ามีสิทธิ์เลือก อย่าตกเป็นเหยื่อของความไม่ชอบธรรม บริษัทประกันต้องเป็นฝ่ายง้อเราถึงจะถูก ไม่ใช่ให้เราเป็นฝ่ายไปง้อ*****


*****ยังมีบริษัทประกันอีกมากมายให้เราเลือกใช้บริการ ใช่ว่าบริษัทใหญ่จะดีเสมอไป(อย่าให้เอ่ยชื่อเลย)บางที่ก็ใหญ่แต่ชื่อแต่บริการไม่เป็นสัปะรดแมวแถมเล่นแง่สุดๆก็มีถมไป ปล่อยให้เขาตายไปพร้อมกับชื่อเสียงและความภาคภูมิใจนั้นเหอะครับ*****


*****เลือกที่ซื่อสัตย์จริงใจกับเรามากที่สุด ใหญ่เล็กไม่สำคัญ ขอให้บริการดีเป็นใช้ได้ ไม่ใช่ว่าเวลาเก็บตังค์นะพูดดี แต่เวลาจะเรียกร้องค่าเสียหายยังจะเราเป็นชู้จะลูกเมียท่านยังไงยังงั้นแหละ อันนี้พูดดีก็น่าต่อประกันด้วยแม้จะแพงบ้างนิดหน่อยก็ถือว่าซื้อบริการ แต่ถ้ามีการเรียกร้องค่าเสียหายแล้วเจอประเภทนี้เปลี่ยนเหอะครับไม่นานเดี๋ยวก็เจ๊งไปเอง*****


*****การเปลี่ยนบริษัทประกันเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถติดต่อกันนานๆหรืออาจจะไม่คิดจะขายเท่านั้น ส่วนผู้ที่วางแผนขายล่วงหน้าไว้แล้วการเปลี่ยนบริษัทประกันอาจจะถูกมองว่าเป็นการหมกเม็ดหรือลบประวัติไม่ดีทิ้งก็อาจจะเป็นได้ แต่ถ้าการวางแผนขายนั้นอยู่ในรูปของการตีเทิร์นหรือขายเข้าเต็นท์ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด มันก็เป็นดาบสองคมเสมอ แต่สิ่งที่ได้รับจากการเปลี่ยนบริษัทประกันคือเราจะรู้ว่าบริษัทถูกกว่า-บริการดีกว่า-ไม่เล่นแง่ตอนเคลม และเมื่อนั้นเราก็สามารถผูกขาดการทำประกันกับบริษัทที่เราเห็นว่าดีที่สุดได้เลย เป็นสิ่งที่น่าค้นหาคำตอบนะครับ*****


..........ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงความรู้สึกและบทเรียนจากประสบการณ์ส่วนตัวเท่านั้น...ไม่ได้ต้องการสร้างศัตรูหรือว่ากล่าวให้ร้ายกับบุคคลหนึ่งบุคคลใดหรือบริษัทหนึ่งบริษัทใด......แค่อยากสื่ออกไปในสิ่งที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตเท่านั้น....โปรดไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ........ถ้าส่งหนึ่งสิ่งใดหรือคำพูดใดๆสร้างความขุ่นข้องหมองใจให้กับใครหรือท่านใดก็ขอกราบอภัยล่วงหน้านะครับ........


ป.ล.เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวครับ
666
บันทึกการเข้า
common
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5


« ตอบ #1 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2006, 01:45:23 »

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ คารวะจริงใจ
เห็นด้วยกับการเอารัดเอาเปรียบและไม่ซื่อตรงของพวกนี้
แหม รบกวน แนะนำบริษัทที่ดีให้ด้วยก็น่าจะดีน่ะครับ
rngamsiripol@hotmail.com พอดีกำลังจะได้รถใหม่ครับ
บันทึกการเข้า
Second to None
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27



« ตอบ #2 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2006, 19:01:54 »

ขอบคุณมากครับ

ได้ความรู้เพิ่มอีกมากเลย

ขออนุญาตเซฟเก็บไว้นะครับ
บันทึกการเข้า
mr_insure
Gold Member
ศิษย์น้อง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 53


« ตอบ #3 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2006, 23:16:17 »

ข้อความนี้น่าจะประกอบด้วย 2 ส่วน
ส่วนแรก คือ ข้อเท็จจริง (หรือ ความไม่รู้)
ส่วนที่ 2 คือ ความรู้สึก

ข้อความที่นำมาอ้างถึง มีส่วนถูก 100 % ---> ถ้ายึดตัวผู้เขียนข้อความเป็นหลัก
ข้อความที่นำมาอ้างถึง มีส่วนถูกน้อยกว่า 30 % (เฉพาะเรื่องประกันเท่านั้น) ---> ถ้ายึดข้อเท็จจริง

ส่วนที่เหลือเป็นความไม่เข้าใจ ของเจ้าของข้อความ
และทำให้คิดไปว่าโดนเอารัดเอาเปรียบจากประกัน
รวมไปถึงคนที่ไปสอบถาม และปรึกษา ไม่มีความรู้ในด้านนี้เลย ทำให้เข้าใจผิดอย่างแรง

เพื่อนๆ ที่ได้อ่าน อย่าได้จำไป และบอกต่อกับคนอื่นๆ เชียวนะครับ

เดี๋ยวผมจะ copy ข้อความเดิมทั้งหมด และเพิ่มเติมสิ่งที่ผิดพลาดไป
โดย ข้อความสึดำ คือ เข้าใจถูก
       ข้อความสึแดง คือ เข้าใจผิด
       อธิบายในส่วนสีแดง ว่า ที่ถูกต้องเป้นอย่างไร ด้วยตัวหนังสือ สีน้ำเงิน
       ข้อความสีน้ำตาล คือ ผมไม่มีความเห็น คนอ่านตัดสินใจกันเอาเอง เพราะเป้นเรื่องของความรู้สึก

ขอเวลาสัก 2-3 วันนะ เดี๋ยวมาต่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 พฤศจิกายน 2006, 23:37:33 โดย mr_insure » บันทึกการเข้า

" อูครับ" ยังไงๆ ก็ รถสีดำ (อิอิ เลียนแบบซะเลย) อีกอย่างนะ ผมมีแฟนแล้ว อย่าคิดอะไรกับผมเลยเถิดนะ
mr_insure
Gold Member
ศิษย์น้อง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 53


« ตอบ #4 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2006, 14:19:27 »

งานเยอะ ไว้หลังปีใหม่แล้วกัน
บันทึกการเข้า

" อูครับ" ยังไงๆ ก็ รถสีดำ (อิอิ เลียนแบบซะเลย) อีกอย่างนะ ผมมีแฟนแล้ว อย่าคิดอะไรกับผมเลยเถิดนะ
Paris
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 432



« ตอบ #5 เมื่อ: 08 มกราคม 2007, 03:02:39 »

ฐานเบี้ยประกันภัย กรมการประกันภัย จะเป็ยผู้กำหนด ซึ่งมีขอบเขตต่ำสุดเท่าไหร่ สูงสุดเท่าไหร่

ซึ่งบริษัทประกันภัยทุก ๆ บริษัทจะใช้เบี้ยที่อยู่ในช่วงที่กำหนด ส่วนมากจะอยู่กลาง ๆ ไม่ต่ำกว่าเกินไป หรือสูงเกินไป

ฐานเบี้ยประกันภัย จะคิดคำนวนจากความเสี่ยงของรถยนต์แต่ละรุ่น ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

เช่น เป็นรถนำเข้า อะไหล่ต้องพึ่งศูนย์อย่างเดียว เบี้ยก็จะสูงตาม  ถ้าเป็นรถประกอบภายในประเทศ มีหลากหลาย อะไหล่มากมายทั้ง แท้ เทียบ มือสอง เบี้ยก็จะถูกลง

ฐานเบี้ยอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามกำหนดของกรมการประกันภัย ล่าสุด 2549 ที่ผ่านมา มีการปรับฐานเบี้ย

การให้ส่วนลดประวัติ จะต้องคำนวนจาก เบี้ยสุทธิ - ส่วนลดประวัติ + อากร + ภาษี = เบี้ยรวมภาษี

การให้ส่วนลดจะคิดเป็นขั้น ๆ 

ปีแรก ไม่มีเคลม ปีที่ 2 ลด 20 %

ปีที่ 2  ไม่มีเคลม ปีที่ 3 ลด 30 %

ปีที่ 3  ไม่มีเคลม ปีที่ 4 ลด 40 %

ปีที่ 4  ไม่มีเคลม ปีที่ 5 ลด 50 %

กรณีมีการเคลมเกิดขึ้น ตามหลักจะลดประวัติดีลง 1 ขั้น

แต่บางบริษัทอาจอนุโลมให้ท่านในกรณีที่เคลมไม่เกินวงเงิน XXXX บาท ทั้งนี้และทั้งนั้นขึ้นกับนโยบายบริษัทนั้น ๆ

ยิ่งปัจจุบัน รถยิ่งเก่า เบี้ยก็ยิ่งแพงขึ้น เพราะความเสียงเพิ่มมากตามอายุรถ

กรณีเรื่องทุนประกัน

ทุนประกันจะคำนวนจากราคารถในท้องตลาด โดยที่ทุนจะอยู่ที่ 70-90%

ท่านสามารถปรับทุนที่ต้องการเพื่อให้เบี้ยลดถูกลง แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 70 % ของราคา ณ ปัจจุบัน

 ยิงฟันยิ้ม  ไม่รู้จะเขียนอะไรแล้ว จบก่อนดีกว่า  ยิ้มกว้างๆ


คลิ๊กอ่านรายละเอียด ได้ทั้ง 3 หัวข้อ
วิธีคำนวนเบี้ยประกัน

พิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ : ข้อบังคับทั่วไป

รถยนต์นั่ง

กลุ่มอัตราเบี้ยประกันภัยรถ โทร. 0-2547-4521
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 มกราคม 2007, 02:40:03 โดย Paris » บันทึกการเข้า

              
neat_boy?
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14,994



« ตอบ #6 เมื่อ: 09 มกราคม 2007, 16:58:15 »

งานเยอะ ไว้หลังปีใหม่แล้วกัน

รออ่านอยู่คร๊าบ
บันทึกการเข้า

<a href="http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2DB07BPB0&amp;Autoplay=0" target="_blank">http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2DB07BPB0&amp;Autoplay=0</a>
mr_insure
Gold Member
ศิษย์น้อง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 53


« ตอบ #7 เมื่อ: 09 มกราคม 2007, 18:20:44 »

ไปเจอแหล่งทีมาของบทความนี้ http://www.one2car.com/Car2Care/read_dtl.aspx?Know_Car_Id=J010320362&Know_Topic_Id=4

มีคนตอบไว้แล้ว ถูกบ้าง ผิดบ้าง มั่วบ้าง

ใกล้จะว่างแล้ว... ต้นเดือนหน้าต้องไปสอบซ่อมอีก  :'(
บันทึกการเข้า

" อูครับ" ยังไงๆ ก็ รถสีดำ (อิอิ เลียนแบบซะเลย) อีกอย่างนะ ผมมีแฟนแล้ว อย่าคิดอะไรกับผมเลยเถิดนะ
csirinant
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 71



« ตอบ #8 เมื่อ: 17 มกราคม 2007, 00:26:50 »

รบกวนปรึกษาเรื่องการเคลมประกันหน่อยครับ
คือ รถผมเกิดอุบัติเหตุ รถคันหน้าแซงขวาไปเหยียบยางนอกสิบล้อ
ซึ่งแตกอยู่บนถนนแล้วกระเด็นมาโดนรถผม กันชนหน้าน๊อตหลุด
(ข้างขวา) สีแตกล่อน สปอยเล่อร์มีรอยกระเทาะแตกแต่แผลไม่ใหญ่นัก
แจ้งประกันแล้ว ประกันแจ้งว่าถ้าไม่มีคู่กรณี ต้องเสียค่า accept
2,000.00 บาท ผมเลยคิดว่าถ้าผมเอาเงินค่า accept 2,000.00 บาท
ไปซ่อมเอง โดยไม่เคลมประกันจะไม่ดีกว่าหรือ เพราะจะไม่เสียประวัติดี
มีสิทธิ์ได้รับส่วนลดประวัติดีในปีต่อไป ไม่ทราบว่าคิดถูกหรือเปล่า
ขอความกรุณาผู้รู้ช่วยแนะนำให้ด้วย ขอบคุณล่วงหน้าครับ!!
บันทึกการเข้า
jojo-civic 96
ผมเป็นบุคคลอันตรายหมายเลข " หนึ่ง " ของ
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,658


Playboy Club No. 1


« ตอบ #9 เมื่อ: 11 เมษายน 2007, 03:44:30 »

ถ้าอย่างรถไปเฉี่ยวชนกะเสาไฟฟ้า สีหน้ากันชนถลอกมาก ประกันชั้น 1 อย่างนี้ต้องมีคู่กรณีไหมครับ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

Honda miracle civic ferio
pookpik799
Gold Member
เข้าวงการ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 24


« ตอบ #10 เมื่อ: 14 เมษายน 2007, 00:04:38 »

ช่วยแนะนำบริษัทประกันดี ๆ หน่อยคะ

จะได้ไม่โดนเอาเปรียบ

เพราะไม่แน่ใจว่าที่ใช้อยู่จะดีจริงป่าว
บันทึกการเข้า

ศรัทธาที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา ก็คืองมงาย
mr_insure
Gold Member
ศิษย์น้อง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 53


« ตอบ #11 เมื่อ: 19 เมษายน 2007, 13:08:51 »

ถ้าอย่างรถไปเฉี่ยวชนกะเสาไฟฟ้า สีหน้ากันชนถลอกมาก ประกันชั้น 1 อย่างนี้ต้องมีคู่กรณีไหมครับ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

ไม่เสียตังค์ครับ
เสาไฟฟ้าเป็นคู่กรณี
บันทึกการเข้า

" อูครับ" ยังไงๆ ก็ รถสีดำ (อิอิ เลียนแบบซะเลย) อีกอย่างนะ ผมมีแฟนแล้ว อย่าคิดอะไรกับผมเลยเถิดนะ
mr_insure
Gold Member
ศิษย์น้อง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 53


« ตอบ #12 เมื่อ: 19 เมษายน 2007, 13:11:39 »

ประกันแจ้งว่าถ้าไม่มีคู่กรณี ต้องเสียค่า accept
2,000.00 บาท ผมเลยคิดว่าถ้าผมเอาเงินค่า accept 2,000.00 บาท
ไปซ่อมเอง โดยไม่เคลมประกันจะไม่ดีกว่าหรือ เพราะจะไม่เสียประวัติดี
มีสิทธิ์ได้รับส่วนลดประวัติดีในปีต่อไป ไม่ทราบว่าคิดถูกหรือเปล่า
ขอความกรุณาผู้รู้ช่วยแนะนำให้ด้วย ขอบคุณล่วงหน้าครับ!!

ต้องเปรียบเทียบส่วนลด ปีหน้า กับ 2000 ที่จะเสีย ว่าตัวไหนคุ้มกว่ากัน
บันทึกการเข้า

" อูครับ" ยังไงๆ ก็ รถสีดำ (อิอิ เลียนแบบซะเลย) อีกอย่างนะ ผมมีแฟนแล้ว อย่าคิดอะไรกับผมเลยเถิดนะ
Z-VIC
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 82



« ตอบ #13 เมื่อ: 25 เมษายน 2007, 19:06:15 »


แจ้งประกันแล้ว ประกันแจ้งว่าถ้าไม่มีคู่กรณี ต้องเสียค่า accept
2,000.00 บาท ผมเลยคิดว่าถ้าผมเอาเงินค่า accept 2,000.00 บาท
ไปซ่อมเอง โดยไม่เคลมประกันจะไม่ดีกว่าหรือ เพราะจะไม่เสียประวัติดี
มีสิทธิ์ได้รับส่วนลดประวัติดีในปีต่อไป ไม่ทราบว่าคิดถูกหรือเปล่า
ขอความกรุณาผู้รู้ช่วยแนะนำให้ด้วย ขอบคุณล่วงหน้าครับ!!


ถ้าค่าซ่อมถูกว่า 2000 บาท ก็ซ่อมเอง  รอรับส่วนลดประกันปีต่อไป

หรือ เคลมประกันไป   แล้วเปลี่ยนบริษัทประกัน
บันทึกการเข้า
sudlor_k007
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 377


« ตอบ #14 เมื่อ: 26 เมษายน 2007, 14:52:33 »

ของผมประกันปีแรก 20000 กว่า ๆ ปีที่สองก็ยัง 20000 กว่า ๆ อยู่เลย แต่ก็ทำเพราะไม่ค่อยอยากเปลี่ยนประกัน เพราะไม่ค่อยมีเวลาเลย
บันทึกการเข้า
Dejin
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11


« ตอบ #15 เมื่อ: 16 เมษายน 2008, 19:40:10 »

ของผม โดนพี่ชายถอยกระบะมาสอยเพราะว่ามองไม่เห็น

กันชนท้ายถลอกปอกเปิกเลย
เรียกประกันมาเคลม ออกใบเคลมแห้งเพราะนามสกุลเดียวกันเคลมไม่ได้
ผมก้อรับใบเคลม ถามหาอู่ เค้าบอกว่าไปอู่ตามที่เค้าบอก
ผมก้อลางานไปเลยวันนั้นเป็นวันเสาร์บังเอิญผมทำงานเสาร์เว้นเสาร์
ปรากฏว่าอู่เค้าบอกให้เอารถไปที่ศูนย์กลางประกันก่อนแล้วเขาจะส่งมาอีกที
พอไปที่ศูนย์ประกันมันบอกว่าปิดเสาร์อาทิตย์(เซงหว่ะอาไรกันวะเนี่ย)
โทรไปหาประกันในวันถัดมา เค้าบอกว่าเอาไปถามอู่อื่นได้แล้วโทรมาให้เค้าคุมราคา
ก้อทำตามนั้นพอคุมราคาก้อให้แค่ 6000  เพราะเปลี่ยนกันชนหลัง+ทำสี เพราะมันฉีก
ไอ้เราก้อใจร้อนเอาเข้าอู่ไปให้ดูตัวเทียบสี โอเคจบ อีก 1 อาทิตย์มารถของคุณมาติด 2 ชั่วโมง
พอจ่ายสดไปเองเส็ดเอาใบเคลม+ใบเส็ดไปเคลมค่าซ่อม ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกา 2550
เค้าบอกว่าไม่เกิน 45 วันทำงานได้เชค
ปัจจุบัน 16 เมษายน 2551 แล้วเมงยังไม่ให้ตังเลย ทุกวันนี้โทรไปทวงประจำครับ เด๋วกะว่า
พรุ่งนี้จะโทรไปทวงอีก

ฮ่าๆๆๆ ดูไว้ อู่เมงก้อมีน้อง บริการก้อแย่ ค่าเบี้ยก้อแพง

บันทึกการเข้า
Dejin
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11


« ตอบ #16 เมื่อ: 16 เมษายน 2008, 19:49:18 »

แต่ถ้ายังดึงดันไม่จ่าย ก้อคงต้องงัดไม้เด็ด แจ้ง สคบ ปล่อยข่าวฉาวหน้าเวป  เอิ๊กๆ
แค่ 6000 ไม่เสียดายครับ เสียดายความรู้สึกที่เค้าเป็นประกันมากกว่า
ชื่อประกัน แต่ไม่ประกันอาไรเลย น่าเขก กบาล ฮ่าๆๆ โกรธ
 ยิ้มกว้างๆ   
บันทึกการเข้า
nanmaster
Gold Member
จอมยุทธ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 404


« ตอบ #17 เมื่อ: 16 เมษายน 2008, 19:52:16 »

ขอบคุณมากครับ  ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

~"รักนี้มีเพื่อมือที่สาม"~
orbit
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4


« ตอบ #18 เมื่อ: 30 กันยายน 2008, 13:20:54 »

ข้อความนี้น่าจะประกอบด้วย 2 ส่วน
ส่วนแรก คือ ข้อเท็จจริง (หรือ ความไม่รู้)
ส่วนที่ 2 คือ ความรู้สึก

ข้อความที่นำมาอ้างถึง มีส่วนถูก 100 % ---> ถ้ายึดตัวผู้เขียนข้อความเป็นหลัก
ข้อความที่นำมาอ้างถึง มีส่วนถูกน้อยกว่า 30 % (เฉพาะเรื่องประกันเท่านั้น) ---> ถ้ายึดข้อเท็จจริง

ส่วนที่เหลือเป็นความไม่เข้าใจ ของเจ้าของข้อความ
และทำให้คิดไปว่าโดนเอารัดเอาเปรียบจากประกัน
รวมไปถึงคนที่ไปสอบถาม และปรึกษา ไม่มีความรู้ในด้านนี้เลย ทำให้เข้าใจผิดอย่างแรง

เพื่อนๆ ที่ได้อ่าน อย่าได้จำไป และบอกต่อกับคนอื่นๆ เชียวนะครับ

เดี๋ยวผมจะ copy ข้อความเดิมทั้งหมด และเพิ่มเติมสิ่งที่ผิดพลาดไป
โดย ข้อความสึดำ คือ เข้าใจถูก
       ข้อความสึแดง คือ เข้าใจผิด
       อธิบายในส่วนสีแดง ว่า ที่ถูกต้องเป้นอย่างไร ด้วยตัวหนังสือ สีน้ำเงิน
       ข้อความสีน้ำตาล คือ ผมไม่มีความเห็น คนอ่านตัดสินใจกันเอาเอง เพราะเป้นเรื่องของความรู้สึก

ขอเวลาสัก 2-3 วันนะ เดี๋ยวมาต่อ

ตกลงจะยังไงเนี่ย รออ่านอยู่นะเนี่ย เข้าใจผิด เข้าใจถูกเนี่ย
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Car Knowledge => คลังความรู้คู่รถ  |  หัวข้อ: ส่วนลดประวัติดีกับการต่อประกัน
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2009, Simple Machines -->
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |