ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
29 เมษายน 2024, 15:23:52
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: รถคันแรกกับ CIvic Ek 96 ขอคำปรึกษาพี่ๆในกลุ่มครับ !!! 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: รถคันแรกกับ CIvic Ek 96 ขอคำปรึกษาพี่ๆในกลุ่มครับ !!!  (อ่าน 4080 ครั้ง)
tAnGzxymO
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


« เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2017, 23:09:39 »



สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน ....
มีเรื่องที่จะมาปรึกษาครับ ผมซื้อรถที่เล็งๆๆไว้ มา 1 คัน นั้นก็คือ Civic Ek 96 (รถคันแรกเล่นมือ 2 เลยครับ ) ก็ดูคร่าวๆ ลองขับ ดูสีร้อบๆ ก็ ok ตกลงเอามา
ซื้อมาก็ขับจากแถวๆ รังสิต---> สมุรปราการ กลางทาง พระเจ้าช่วยไฟ Engine สีส้มๆๆขึ้น (ตอนลองไฟไม่ขึ้นซวยแท้) ขับมาจันถึงบ้านโล่งใจ โอเคค่อยดูรอบๆตอนเช้า
ตอนเช้าก็ตื่นขึ้นมาดู มาลองเครื่องเปิดฝากระโปร สิ่งที่เจอ
-อย่างแรกเลยครับ มีสายไฟที่เสียบตรงท่อไอเสียหลุด มีหัวปลั๊กอะไรหลุดอีก 1 อันไม่ทราบเหมือนกันครับ !! (รูปขออนุญาติลงไห้พรุ้งนี้ครับ)
-พังเสียเครื่องมีเสียง หวี่ๆๆแหลมๆ   อายจัง  [เครื่องรหัส D16Y8 เกียร์ Auto]
-กระจกไฟฟ้าลงไม่ตรงบาน (อันนี้ทราบตั้งแต่ตอนซื้อครับ)
-เซ็นทรัลล๊อก ประตูหลังซ้ายไม่ล๊อก ต้อง Auto มือ (อันนี้ทราบตั้งแต่ตอนซื้อครับ)

ตอนนี้อยากเปลี่ยนของเหลวทั้งหมด  เช็คเเครื่อง ช่าวงล่าง เบรค และอยากเปลี่ยนสีรถครับ

อยากถามประสบการณ์ของพวกพี่ๆๆ ว่าควรทำอะไรก่อน เครื่อง-ช่วงล่าง-ระบบไฟ หรือ สี ครับ
ผมมีงบอยู่ประมาน 85,000 อยากทำรถคันนี้ไห้มันกลับมาใช้งานยาวๆอีกครั้งครับ
ไม่ได้ทำแรงนะครับ ทำสวยเดิมใช้งาน ( อยากหาร้านที่ทำครบวงจรจะดีมากเลยครับ ) ที่เซิจๆหาข้อมูลดูคนแนะนำประมานนี้ครับ 

"AUTOWAY SERVICE"   พี่ก่ำ จรัญสนิทวงศ์ 28
"พรเทพ โช๊คอัพ" อุดมสุข  โช๊คอัพ
"สนามเป้าศูนย์ล้อ" แถวๆ ททบ.5 ตั้งล้อ
"ร้านเช็คระบบไฟทั้งคันยังหาไม่เจอครับ

ผมอยู่สมุทรปราการ มีร้านที่ไว้ใจได้แนะนำบ้างหรือเปล่าครับ  ร้องไห้

ขอบคุณพี่ๆล่างหน้าครับ รถคนนี้รถคันแรก และกระทู้แรกด้วยครับ ผิดพลาดประการได้ขออภัยด้วยครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #1 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2017, 00:17:20 »

สายอ็อกซิเจนเซนเซอร์ท่าจะหลุด ลองเสียบกลับเข้าไปใหม่ ถอดขั้วลบแบตทิ้งไว้สัก 5 นาที ค่อยประกอบกลับ ลองขับ ถ้าไม่ขึ้นไฟเอนจิ้นก็ถือว่าจบ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #2 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2017, 00:22:23 »

ถ้าเบรกอยู่ดี ไม่มีเสียงดัง ก็ไม่ต้องไปทำอะไร เปลืองเงินเปล่าๆ ดูน้ำมันเบรกถ้าสีดำก็เปลี่ยน ถ้าไม่ดำก็ไม่ต้องเปลี่ยน น้ำมันเครื่องอยากเปลี่ยนก็ควรเปลี่ยน พร้อมทั้งน้ำมันเกียร์ ส่วนระบบเครื่องล่าง ถ้าไม่มีเสียง โป้กๆ เป๊กๆ เวลาขับลงหลุม เบาๆ แสดงว่ายังแน่น หรือยังพอใช้ ไม่หลวม ก็ไม่ควรเปลี่ยน เสียดายตัง ขับแบบปล่อยมือบนพื้นราบ ปล่อยมือ ถ้าขับรถไปได้ตรงทางสักตั้งแต่ 5-10 เมตรขึ้นไปโดยที่รถไม่กินไปทางซ้ายจนรู้สึกได้ หรือกินไปทางขวา แสดงว่าศูนย์ยังใช้ได้ ดูด้วยว่าพวงมาลัยตั้งตรงแล้ว ถ้าพวงมาลัยเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง แต่รถวิ่งตรง แสดงว่าตั้งสูนย์ล้อไม่ตรงพวงมาลัย ไปตั้งใหม่ จะได้ไม่ขัดความรู้สึกครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #3 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2017, 00:25:27 »

ระบบไฟจะไปทำอะไร ในเมื่ออยากได้ระบบเดิมๆ แต่รถจะไม่ค่อยสว่างเวลากลางคืน มีปัญหาเรื่องไฟหน้าที่ไม่สว่างนี่เอง เห็นมีกระทู้เรื่องเปลี่ยนไฟฟน้าอะไรนี่แหละในห้อง DIY ลองค้นดู ผมก็ไม่ได้เปลี่ยน แต่ผมเพิ่มไฟเข้าไปตรงช่วงล่าง เปิดช่วยเวลากลางคืน ส่วนสี อยากทำใหม่ก็จัดไปครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #4 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2017, 00:27:24 »

รถขับได้ ใช้ได้ ก็ไม่เห็นจะต้องไปทำเครื่องอะไรตรงไหน อย่าเพิ่งหาเรื่องเสียเงินก่อนอื่นครับ เรียนรู้ในกระทู้ DIY เยอะๆ แล้วจะได้ไม่เสียตังค์มากเกินจำเป็นครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #5 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2017, 00:29:36 »

ไม่ทราบว่า ท่านซื้อมาในราคาเท่าใดครับคันนี้
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #6 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2017, 00:35:39 »

อย่าเพิ่งรีบไปให้ช่างเชือดเลยนะครับ ใจเย็นๆ อ่านกระทู้ในห้อง DIY ไปเยอะๆก่อนครับ รถตราบใดที่ยังสตาร์ทติดได้ ขับตรงทาง ไม่มีเสียงดังเวลาเบรค เบรคอยู่ ผมตีให้ว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้ดีอยู่ครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #7 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2017, 09:14:26 »

อ้อ อีกอย่าง EK96 ศูนย์ล้อมันตายตัวมาจากโรงงานนะ ไม่มีที่ให้ปรับตั้ง แค่สวมชิ้นส่วนทุกส่วนเข้าก็ใช้ได้แล้ว จะมีที่ตั้งแค่ที่เดียวคือ แขนคันชักคันส่ง ตัวนี้ผมใช้เวอร์เนียร์ตั้งเอง (หลังจากที่ถอดเปลี่ยน) ใช้เวอร์เนียร์ฯ วัดก่อนถอด เวลาประกอบตัวใหม่ก็วัดระยะให้เท่าเดิมตอนประกอบ จริงๆแล้วไม่ได้มีมุมอะไรมากมายเลย มีแต่มุมหุบ มุมแบะออกเท่านั้นเอง คือใช้เวอร์เนียร์ตั้งศูนย์ล้อก็ตั้งได้แล้ว ที่เห็นเขามีเครื่องนั่นนี่ให้ดูไฮเทค ล้ำสมัยนั้น ไม่ได้ใช้เลย ยิ่งล้อหลัง ผมหาที่ตั้งแล้วก็ไม่มีเลย มีแค่ล้อหน้าอย่างเดียว อันที่บอกตั้งศูนย์ 4 ล้อนั้น จริงแล้วตั้งไม่ถึง 4 ล้อหรอก แต่กินเงินค่าบริการไปคิด 4 ล้อ (EK96) นะ
บันทึกการเข้า
tAnGzxymO
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


« ตอบ #8 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2017, 09:46:35 »

ขอบคุณครับ  จุมพิต ผมซื้อมา 66 ครับ .

กำลังศึกษาจากพี่ๆเว็บบี้ไปเรื่อยๆครับ

แถวสมุทรปราการ ผมอยู่แถวบางปลาครับ
มีร้านพวกเช็คเครื่อง ถ่ายของเหลวแนะนำบ้างไหมครับ
บันทึกการเข้า
ohmygod14
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 240


Ek เมืองชล


« ตอบ #9 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2017, 10:00:47 »

อ้อ อีกอย่าง EK96 ศูนย์ล้อมันตายตัวมาจากโรงงานนะ ไม่มีที่ให้ปรับตั้ง แค่สวมชิ้นส่วนทุกส่วนเข้าก็ใช้ได้แล้ว จะมีที่ตั้งแค่ที่เดียวคือ แขนคันชักคันส่ง ตัวนี้ผมใช้เวอร์เนียร์ตั้งเอง (หลังจากที่ถอดเปลี่ยน) ใช้เวอร์เนียร์ฯ วัดก่อนถอด เวลาประกอบตัวใหม่ก็วัดระยะให้เท่าเดิมตอนประกอบ จริงๆแล้วไม่ได้มีมุมอะไรมากมายเลย มีแต่มุมหุบ มุมแบะออกเท่านั้นเอง คือใช้เวอร์เนียร์ตั้งศูนย์ล้อก็ตั้งได้แล้ว ที่เห็นเขามีเครื่องนั่นนี่ให้ดูไฮเทค ล้ำสมัยนั้น ไม่ได้ใช้เลย ยิ่งล้อหลัง ผมหาที่ตั้งแล้วก็ไม่มีเลย มีแค่ล้อหน้าอย่างเดียว อันที่บอกตั้งศูนย์ 4 ล้อนั้น จริงแล้วตั้งไม่ถึง 4 ล้อหรอก แต่กินเงินค่าบริการไปคิด 4 ล้อ (EK96) นะ
เคยไปตั้งศุนย์โดนไป 400 แถมพวงมาลัยคืนช้ากว่าเดิมอีก
บันทึกการเข้า

รถก็เหมือนเมียของเรา
tAnGzxymO
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


« ตอบ #10 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2017, 20:02:11 »

เคยไปตั้งศุนย์โดนไป 400 แถมพวงมาลัยคืนช้ากว่าเดิมอีก

ต้องขอคำแนะนำจากพี่ๆด้วยครับ  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #11 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2017, 21:28:57 »

ขอบคุณครับ  จุมพิต ผมซื้อมา 66 ครับ .

กำลังศึกษาจากพี่ๆเว็บบี้ไปเรื่อยๆครับ

แถวสมุทรปราการ ผมอยู่แถวบางปลาครับ
มีร้านพวกเช็คเครื่อง ถ่ายของเหลวแนะนำบ้างไหมครับ
ไม่แพงนะ ราคาใช้ได้เลย
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #12 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2017, 21:31:09 »

เคยไปตั้งศุนย์โดนไป 400 แถมพวงมาลัยคืนช้ากว่าเดิมอีก
จริงๆแล้วเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ตัวเดียวก็ตั้งศุนย์ล้อได้แล้วครับ ผมใช้เวอร์เนียร์ตั้ง ใช้จนเดี๋ยวนี้เลย
บันทึกการเข้า
tAnGzxymO
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


« ตอบ #13 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2017, 21:47:33 »

ไม่แพงนะ ราคาใช้ได้เลย

ขอบคุณมากครับ ตอนนี้หาอู่เช็คเครื่อง + ไฟ Engine ขึ้น / เปลี่ยนของเหลวแถวสมุทรปราการ จากพี่ๆในกลุ่มอยู่ครับ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #14 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2017, 23:18:03 »

ขอบคุณมากครับ ตอนนี้หาอู่เช็คเครื่อง + ไฟ Engine ขึ้น / เปลี่ยนของเหลวแถวสมุทรปราการ จากพี่ๆในกลุ่มอยู่ครับ  ยิ้ม
เข้าไปดูห้อง DIY เช็คเองก็ได้ ไฟรูปเครื่องยนต์น่ะ เขาทำสอนไว้หมดแล้ว ร้องไห้
บันทึกการเข้า
Civic EK 2000
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 724



« ตอบ #15 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2017, 07:49:21 »

อ้อ อีกอย่าง EK96 ศูนย์ล้อมันตายตัวมาจากโรงงานนะ ไม่มีที่ให้ปรับตั้ง แค่สวมชิ้นส่วนทุกส่วนเข้าก็ใช้ได้แล้ว จะมีที่ตั้งแค่ที่เดียวคือ แขนคันชักคันส่ง ตัวนี้ผมใช้เวอร์เนียร์ตั้งเอง (หลังจากที่ถอดเปลี่ยน) ใช้เวอร์เนียร์ฯ วัดก่อนถอด เวลาประกอบตัวใหม่ก็วัดระยะให้เท่าเดิมตอนประกอบ จริงๆแล้วไม่ได้มีมุมอะไรมากมายเลย มีแต่มุมหุบ มุมแบะออกเท่านั้นเอง คือใช้เวอร์เนียร์ตั้งศูนย์ล้อก็ตั้งได้แล้ว ที่เห็นเขามีเครื่องนั่นนี่ให้ดูไฮเทค ล้ำสมัยนั้น ไม่ได้ใช้เลย ยิ่งล้อหลัง ผมหาที่ตั้งแล้วก็ไม่มีเลย มีแค่ล้อหน้าอย่างเดียว อันที่บอกตั้งศูนย์ 4 ล้อนั้น จริงแล้วตั้งไม่ถึง 4 ล้อหรอก แต่กินเงินค่าบริการไปคิด 4 ล้อ (EK96) นะ

ปี 96 มันเหมือนกับปี 99-00 รึปล่าวครับ  ช่วงล่างล้อหลัง  ของผม( ปี 99)มันปรับ  Toe in  Toe out ได้ครับ  คือล้อหุมเข้า-ออก  แต่ Camber มุมแบะ  ปรับไม่ได้  นี่คือปัญหาของรถโหลด
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #16 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2017, 22:00:54 »

ปี 96 มันเหมือนกับปี 99-00 รึปล่าวครับ  ช่วงล่างล้อหลัง  ของผม( ปี 99)มันปรับ  Toe in  Toe out ได้ครับ  คือล้อหุมเข้า-ออก  แต่ Camber มุมแบะ  ปรับไม่ได้  นี่คือปัญหาของรถโหลด
เท่าที่ดูและทำมา มันฟิกไว้แล้วครับ ไม่มีที่ปรับ ถ้าไปดูจาก DIY ที่ผมรื้อเปลี่ยนนะครับ ไม่มีจุดปรับตั้งอะไรเลย เปลี่ยนอะไหล่ใส่จบเลย จะปรับแค่มุมล้อหน้า หุบ แบะเท่านั้นเองครับ
บันทึกการเข้า
Civic EK 2000
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 724



« ตอบ #17 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2017, 08:15:52 »

เท่าที่ดูและทำมา มันฟิกไว้แล้วครับ ไม่มีที่ปรับ ถ้าไปดูจาก DIY ที่ผมรื้อเปลี่ยนนะครับ ไม่มีจุดปรับตั้งอะไรเลย เปลี่ยนอะไหล่ใส่จบเลย จะปรับแค่มุมล้อหน้า หุบ แบะเท่านั้นเองครับ
ของผมเห็นช่างเขาปรับตรงนี้อ่ะครับ    แต่ฝั่งเกลียวก็น่าจะ Fix คงที่นะ  ไม่แน่ใจว่าอีกฝั่งเป็น Nut หรือ เกลียวที่ตัวถัง


* AR.jpg (113.15 KB, 1260x637 - ดู 394 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ธันวาคม 2017, 06:44:11 โดย Civic EK 2000 » บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #18 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2017, 21:46:33 »

ของผมเห็นช่างเขาปรับตรงนี้อ่ะครับ    แต่ฝั่งเกลียวก็น่าจะ Fix คงที่นะ  ไม่แน่ใจว่าอีกฝั่งเป็น Nut หรือ เกลียวที่ตัวถัง
อ้อ ของผมไม่มีครับ รูฟิกเลย
บันทึกการเข้า
Civic EK 2000
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 724



« ตอบ #19 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2017, 07:35:28 »

อ้อ ของผมไม่มีครับ รูฟิกเลย

อ้าว ผมนึกว่า Body EK เหมือนกันทุกตัวนะเนี่ย 
 
ตอนนี้ของผมน้ำดันอีกแล้ว  วิ่งสัก 200 กิโล น้ำก็ปริ่มๆจะเต็มหม้อพักแล้วครับ   อาการฟองปุดๆ  เปลี่ยนหม้อน้ำ  ท่อยาง  วาล์วน้ำ  Test น้ำมันไม่ใช้แก๊ส
ก็ยังเป็นฟอง  พอดับเครื่องท่อยางนิ่มเลย  ชัดเลยครับ  แรงดันมาจากห้องเผาไหม้
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #20 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2017, 11:51:27 »

อ้าว ผมนึกว่า Body EK เหมือนกันทุกตัวนะเนี่ย 
 
ตอนนี้ของผมน้ำดันอีกแล้ว  วิ่งสัก 200 กิโล น้ำก็ปริ่มๆจะเต็มหม้อพักแล้วครับ   อาการฟองปุดๆ  เปลี่ยนหม้อน้ำ  ท่อยาง  วาล์วน้ำ  Test น้ำมันไม่ใช้แก๊ส
ก็ยังเป็นฟอง  พอดับเครื่องท่อยางนิ่มเลย  ชัดเลยครับ  แรงดันมาจากห้องเผาไหม้
รถติดแก๊สไหม ถ้ารถติดแก๊ส ต่อให้ไม่ใช้ขับด้วยแก๊ส ก็น้ำดันได้ เพราะท่อทางน้ำในหม้อต้มมันตีบตัน ถ้ารถติดแก๊ส ให้ผ่าหม้อต้มดูด้วยครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #21 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2017, 11:54:02 »

ก่อนจะไล่ไปฝาสูบ ลองดูรอบๆนอกก่อนครับ สมัยก่อนผมก็เกือบจะเปิดฝาสูบแล้วเหมือนกัน ดีที่ไล่รอบๆนอกก่อน ไปเจอสาเหตุที่แท้จริง ยางในหม้อต้มแก๊สพอง
บันทึกการเข้า
Civic EK 2000
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 724



« ตอบ #22 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2017, 07:04:08 »

ก่อนจะไล่ไปฝาสูบ ลองดูรอบๆนอกก่อนครับ สมัยก่อนผมก็เกือบจะเปิดฝาสูบแล้วเหมือนกัน ดีที่ไล่รอบๆนอกก่อน ไปเจอสาเหตุที่แท้จริง ยางในหม้อต้มแก๊สพอง

ลองวิเคราะห์หน่อยครับ อาจารย์   
ผมต่อท่อทางเข้าหม้อน้ำ สามทางจากตัว U  วาล์วเปิด  น้ำไหลแรงดีครับ  แรงจนผิดปกติที่เคยเจอคือ  ถ้าเปิดฝาหม้อน้ำ  ปกติมันจะนิ่งๆ ปริ่มๆ  แต่นี้จะไหลแบบวนๆ และเริ่มมีฟองอากาศ  เปิกฝาหม้อน้ำ Start เครื่อง  น้ำนิ่งปกติ   น้ำจะดูดกลับเท่าเดิมเมื่อเครื่องเย็นครับ  ไม่มีรอยรั่วซึม   ประวัตินะครับ  ตั้งแต่ซื้อรถมา  เปิดฝาไปแล้ว  3 ครั้ง  อาการเป็นตามด   ล้างหน้าเปลี่ยนประเก็น  และเคยทำเกลียวเสื้อสูบแบบไม่เปิดฝา เกือบ 2 ปีแล้ว   3  ตัวครับ
สิ่งที่เปลี่ยนมาแล้ว  หม้อน้ำ  ท่อน้ำ  ฝาหม้อน้ำ  หม้อต้มแก๊ส เปลี่ยนมา 8 เดือนแล้ว   รอบๆไม่มีคราบสักนิดเดียว ท่อหลังเครื่องช่างบอกว่ายังดี  ไม่ผุ  ที่ดูๆ ไม่น่าจะรั่ว เพราะเครื่องเย็นน้ำดูดกลับเท่าเดิมเป๊ะ  เหมือนๆ  มีแรงดันจากฝาสูบเข้ามาในระบบ  แต่ไม่มีคราบน้ำในน้ำมันเครื่อง  น้ำมันเครื่องถ่ายมาปกติ  ลักษณะการต่อท่อน้ำเข้าหม้อต้ม ก็เป็นแบบ Bypass กับระบบหล่อเย็นของเครื่องยนต์  ไม่น่าทำให้ระบบน้ำตัน  ตอนนี้ชักมันแล้ว  เล็งๆ D15B ไว้นะเนี่ย


* EK.jpg (89.54 KB, 907x813 - ดู 412 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #23 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2017, 10:59:37 »

ที่ท่านเล่ามา เอางี้ ถ้าท่านลองไม่ใช้แก๊สนะ เอาท่อน้ำที่เข้าหม้อต้มแก๊สออกก่อน ทั้งสองข้าง แล้วหาท่อตัวยู สวมเข้าไปต่อแทน (ต่อตรง) แล้วลองขับรถดู ใช้น้ำมันไปก่อน ถ้าน้ำเดินได้ปกติ ไม่ร้อน ความร้อนไม่ขึ้น ไม่ดัน แสดงว่า ท่อทาง ในหม้อต้มอาจเดินไม่สะดวกครับ เปลี่ยนหม้อต้มใหม่ รึหม้อเก่า ถ้าถอดท่อน้ำออกจากหม้อต้ม แล้วมาใช้ท่อตัวยูแทน แล้ว ความร้อนไม่ขึ้น น้ำไม่ดัน ให้ไปผ่าหม้อต้มดูเลย มันจะมียางที่เป็นซีลกันน้ำ รูมันนิดเดียว ถ้ารูมันตีบเพราะความร้อน ยางมันจะพอง โก่งตัว แล้วไปบีบให้ทางเดินน้ำเล็กลง น้ำเดินไม่สะดวก จนความร้อนสะสมที่ฝาสูบ ไปดันน้ำออกจากระบบ ลองตามที่ผมว่ามาก่อนครับ  ส่วนที่บอกว่าแรงดันจากฝาสูบ มันจะดันยังไง ถ้าปะเก็นไม่แตก ไม่รั่ว ขันน็อตฝาสูบเท่ากันได้ทุกตัว ไม่มีทางที่จะมีแรงดัน ดันน้ำออกมาทิ้งได้ อย่าลืมว่าปะเก็นมันกันแต่ละห้องเอาไว้อยู่ ถ้ามันกั้นเอาไว้ไม่ได้จริง ป่านนี้ น้ำกับน้ำมันก็ควรที่จะเข้าผสมกันแล้วครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #24 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2017, 11:02:55 »

ตามรูป ไปซื้อท่อตัวยูมาลองต่อดูก่อนครับ วิ่งน้ำมันไปก่อน ทดสอบทางยาวๆ ยอมเปลืองน้ำมันไปก่อน ถ้าน้ำไม่หาย ไม่มีความร้อนขึ้น ผมแนะนำให้ไปผ่าหม้อต้มแก๊สออกมาดูครับ ไม่ต้องเข้าอู่ ทำเองเลย ทำไม่ยากครับ ไม่ต้องไปกลัวว่าจะทำไม่อยู่ ไม่ต้องไปกลัวว่าผ่าออกมาแล้วหม้อต้มจะรั่ว มันไม่รั่วหรอกครับ ขันน็อตคืนให้แน่นทุกตัวก็ไม่รั่วแล้วครับ ผมผ่ามาไม่รู้กี่รอบละ ทั้งหม้อต้มแก๊ส ทั้งคอมแอร์ ไม่รั่วครับ
บันทึกการเข้า
Civic EK 2000
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 724



« ตอบ #25 เมื่อ: 04 มกราคม 2018, 07:01:21 »

ตามรูป ไปซื้อท่อตัวยูมาลองต่อดูก่อนครับ วิ่งน้ำมันไปก่อน ทดสอบทางยาวๆ ยอมเปลืองน้ำมันไปก่อน ถ้าน้ำไม่หาย ไม่มีความร้อนขึ้น ผมแนะนำให้ไปผ่าหม้อต้มแก๊สออกมาดูครับ ไม่ต้องเข้าอู่ ทำเองเลย ทำไม่ยากครับ ไม่ต้องไปกลัวว่าจะทำไม่อยู่ ไม่ต้องไปกลัวว่าผ่าออกมาแล้วหม้อต้มจะรั่ว มันไม่รั่วหรอกครับ ขันน็อตคืนให้แน่นทุกตัวก็ไม่รั่วแล้วครับ ผมผ่ามาไม่รู้กี่รอบละ ทั้งหม้อต้มแก๊ส ทั้งคอมแอร์ ไม่รั่วครับ

ยังไม่ได้เปลี่ยนท่อตัว U แต่ลองตัดเป็นน้ำมันอย่างเดียว วิ่ง ระยอง - บางนา  น้ำยังดันครับ  เพราะปกติเคยท่อน้ำของแก๊สตัน ผลคือเครื่องเดินไม่เรียบ ท่อน้ำเย็นเกือบเป็นน้ำแข็งเกาะที่ท่อน้ำเข้า  อีกฝั่งยังอุ่นๆครับ   ปีใหม่วิ่ง บางนา - หาดใหญ่  จอดเติมน้ำไปหลายรอบ  ตอนนี้เริ่มมีคราบน้ำมันลอยบนผิวน้ำนิดๆ  ต้องมองเอียงๆ ให้สะท้อนแสง ถึงจะเห็น   ร่องลิ่มก็ไม่สวยแล้ว  ซ่อมไปแล้วด้วย ส่วนเสื้อก็เป็นตามด  เงื่อนไขถ้าเปลี่ยนเครื่อง ใช้เวลาไม่เกิน 2 วัน เพราะต้องใช้งาน  ช่างเลยแนะนำ B15B   จับวางชนเกียร์เดิม MT จับสายไฟเสียบได้เลย คุณ Sitti 2519 คิดว่าไงบ้างครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #26 เมื่อ: 10 มกราคม 2018, 23:12:46 »

ขอโทษทีครับ ไม่ได้เข้ามาอ่านเลย ลองเปิดฝาสูบดูเองเลยครับ ดูด้วยตาตัวเองนี่แหละ ถ้ามันไม่ผุมาก และดูปะเก็นฝาสูบด้วยว่ามันแตกรั่้วไหม ถ้าแตกรั่ว ไม่ถึงกะโก่ง ก็ไม่ต้องทำอะไร เปลี่ยนปะเก็นฝาสูบอย่างเดียว 950 บาท ทำเองได้นี่ครับ ไม่ยากเลย
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #27 เมื่อ: 10 มกราคม 2018, 23:15:51 »

ยังไงผมก็อยากให้หาท่อตัวยูลองต่อตามที่ผมบอกดูก่อน ถ้าวาวล์เปิดปกติ แสดงว่ามีท่อทางเดินตัน อีกอย่างลองเอาวาล์วน้ำออกดูสิ วิ่งดู ความร้อนขึ้นไหม ถ้าไม่ขึ้น น้ำไม่ดัน ผมว่าน่าจะมีทางเดินน้ำตัน ถ้าลองหาท่อตัวยูมาใส่วิ่งน้ำมันลองดูแล้ว ผมแนะนำให้เปิดฝาสูบเองเลยครับ ไม่ต้องอาศัยช่างหรอก ถ้าสงสัยอะไร บอกได้ผมจะบอกผ่านเว็บรี้ก็ได้ครับ จะช่วยดูให้ไปด้วยครับ เป็นผมนี่จะลองรื้อเองทำเองครับ จะได้หายข้องใจ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #28 เมื่อ: 10 มกราคม 2018, 23:17:20 »

ทำตามผมดูก่อนครับ ท่ตัวยูน่าจะร้อยกว่าบาทมั้ง จ่ายน้อยก่อนจ่ายมากดีกว่าครับ ส่วนการเปิดฝาสูบ ผมบอกได้ครับ ถ้าจะทำเอง
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #29 เมื่อ: 10 มกราคม 2018, 23:20:06 »

น้องอีกคนที่เคยบอก ที่ว่าจะชุบชีวิตเครื่องใหม่ไม่รู้หายไปไหน นี่ถ้าอยู่ใกล้ยกเครื่องมาให้ผมผ่าเล่นนี่ ผมจะลองทำเล่นสักหน่อย แต่น้องเขาหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ว่าจะแนะนำผ่านเว็บนี้แหละ อยากเห็นมันวิ่งได้อีก แต่ไม่รู้เจ้าตัวหายไปไหนแล้ว
บันทึกการเข้า
tAnGzxymO
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


« ตอบ #30 เมื่อ: 15 มกราคม 2018, 01:59:46 »

ถามนิดนึงครับพอดี Civic 96 คันนี้ไปเปลี่ยน ของเหลว(ศูนย์ honda) มาเมื่อปายเดือน ธ.ค 60 ผ่านไปประมาน 1 เดือน วันนึงเอารถมาจอดที่บ้าน มีรอยน้ำยาคูลเลนซ์รั่วครับ ส่องๆ ดู อือหื้อรั่วมาจากใต้ท้องรถครับ(ตามรูป)  จากนั้นผมก็รีบดับเครื่อง รอเครื่องเย็นเปิดฝาหม้อน้ำ + ถังพักดู ปรากฏว่า น้ำหายเกลี้ยงเลย ครับ ในใจคิดว่าแย่แน่ๆ ก็เติมรีบน้ำกลับไปครับ ลองขับดูก็ปกติ แต่เวลาเข้าเกียร์ D จะมีอาการเครื่องเหมือนจะกับ รอบตกๆ ด้วยครับ

เป็นมาได้ 2 อาทิตแล้วครับ ควรเริ่มซ่อมที่ตรงไหนดี แต่เข็มความร้อนนี่ ก็ปกติเลยครับเกือบครึ่ง  ขยิบตา

กังวลมากครับตอนนี้ ขอบคุณพี่ๆๆร่วงหน้าครับ

ปล.รถคันนี้เคยไปให้ช่างดูสภาพเครื่อง ช่างบอกเคยฮีตมาแล้วครับ


* 25994672_1605931796140816_8614303888055121369_n (1).jpg (43.41 KB, 960x540 - ดู 284 ครั้ง.)

* 26056083_1605931692807493_3707256012325337249_n.jpg (40.15 KB, 960x540 - ดู 324 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Civic EK 2000
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 724



« ตอบ #31 เมื่อ: 15 มกราคม 2018, 07:12:23 »

น้องอีกคนที่เคยบอก ที่ว่าจะชุบชีวิตเครื่องใหม่ไม่รู้หายไปไหน นี่ถ้าอยู่ใกล้ยกเครื่องมาให้ผมผ่าเล่นนี่ ผมจะลองทำเล่นสักหน่อย แต่น้องเขาหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ว่าจะแนะนำผ่านเว็บนี้แหละ อยากเห็นมันวิ่งได้อีก แต่ไม่รู้เจ้าตัวหายไปไหนแล้ว

อาการล่าสุด bolt หน้าเครื่องขาดอีกครับ  ที่เค้าว่าถ้ามันขาดครั้งแรก  เด่วครั้งที่สองจะตามมา ไม่น่าจะมาจากตัว bolt เป็นหลัก  น่าจะมาจากเกลียวในของเพลา  เพราะผมขันด้วยมือ มันหลาวมๆ  ไม่ฟิตเลย  อาจเป็นอาการนี้ก็ได้  เริ่มเย๊อะขึ้นทุกที  พอ bolt ขาด มันก็ปีนร้องลิ่มมาครึ่งรอบเลย   เลยตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องเลย D15B 3 stage  เกียร์เดิม MT   กล่องเดิม D16Y8  คอไอดีเดิม   head เดิม   เพราะใส่กันได้หมด  เนื่องจาก Sensor มีจำนวนสายไฟไม่เท่ากัน  ปัญหายอดฮิตคือ  ลูก Vtec 2 ตัว  มัดเข้าด้วยกัน   เพราะกล่องเดิม Vtec ทำงาน step เดียว  ถ้าเราจะเอาสัญญาณรอบที่ 2500 มาสั่ง Vtec Stage แรกเนี่ย ไม่รู้มันจะได้รึปล่าว   ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำต่างๆครับ  ใจจริงผมก็อยากจะเปิดฝาเองเหมือนกันครับ  ประแจมีพร้อม  ถังลมก็มี  แต่ติดปัญหาเวลา  เพราะต้องใช้รถไปทำงานทุกวัน  กลัวไม่จบในวัน  งานเข้าเลย  เลยตัดสินใจลง D15b เพราะจับวางได้เลย  สายไฟเดิมเพราะเป็น MT  1.5  วัน ขับรถออกจากอู่ได้เลยครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #32 เมื่อ: 16 มกราคม 2018, 15:10:17 »

ถามนิดนึงครับพอดี Civic 96 คันนี้ไปเปลี่ยน ของเหลว(ศูนย์ honda) มาเมื่อปายเดือน ธ.ค 60 ผ่านไปประมาน 1 เดือน วันนึงเอารถมาจอดที่บ้าน มีรอยน้ำยาคูลเลนซ์รั่วครับ ส่องๆ ดู อือหื้อรั่วมาจากใต้ท้องรถครับ(ตามรูป)  จากนั้นผมก็รีบดับเครื่อง รอเครื่องเย็นเปิดฝาหม้อน้ำ + ถังพักดู ปรากฏว่า น้ำหายเกลี้ยงเลย ครับ ในใจคิดว่าแย่แน่ๆ ก็เติมรีบน้ำกลับไปครับ ลองขับดูก็ปกติ แต่เวลาเข้าเกียร์ D จะมีอาการเครื่องเหมือนจะกับ รอบตกๆ ด้วยครับ

เป็นมาได้ 2 อาทิตแล้วครับ ควรเริ่มซ่อมที่ตรงไหนดี แต่เข็มความร้อนนี่ ก็ปกติเลยครับเกือบครึ่ง  ขยิบตา

กังวลมากครับตอนนี้ ขอบคุณพี่ๆๆร่วงหน้าครับ

ปล.รถคันนี้เคยไปให้ช่างดูสภาพเครื่อง ช่างบอกเคยฮีตมาแล้วครับ
ลองหาที่รั่วตามข้อต่อให้เจอครับ ลองบีบท่อน้ำบนล่างดูครับ ถ้าน้ำเต็มท่อ ท่อจะแข็งๆนิดนึง ถ้าน้ำในท่อไม่มี มันจะมีแต่ลม ดันน้ำหายออกไปหมดครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #33 เมื่อ: 16 มกราคม 2018, 15:12:09 »

 ฮืม
อาการล่าสุด bolt หน้าเครื่องขาดอีกครับ  ที่เค้าว่าถ้ามันขาดครั้งแรก  เด่วครั้งที่สองจะตามมา ไม่น่าจะมาจากตัว bolt เป็นหลัก  น่าจะมาจากเกลียวในของเพลา  เพราะผมขันด้วยมือ มันหลาวมๆ  ไม่ฟิตเลย  อาจเป็นอาการนี้ก็ได้  เริ่มเย๊อะขึ้นทุกที  พอ bolt ขาด มันก็ปีนร้องลิ่มมาครึ่งรอบเลย   เลยตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องเลย D15B 3 stage  เกียร์เดิม MT   กล่องเดิม D16Y8  คอไอดีเดิม   head เดิม   เพราะใส่กันได้หมด  เนื่องจาก Sensor มีจำนวนสายไฟไม่เท่ากัน  ปัญหายอดฮิตคือ  ลูก Vtec 2 ตัว  มัดเข้าด้วยกัน   เพราะกล่องเดิม Vtec ทำงาน step เดียว  ถ้าเราจะเอาสัญญาณรอบที่ 2500 มาสั่ง Vtec Stage แรกเนี่ย ไม่รู้มันจะได้รึปล่าว   ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำต่างๆครับ  ใจจริงผมก็อยากจะเปิดฝาเองเหมือนกันครับ  ประแจมีพร้อม  ถังลมก็มี  แต่ติดปัญหาเวลา  เพราะต้องใช้รถไปทำงานทุกวัน  กลัวไม่จบในวัน  งานเข้าเลย  เลยตัดสินใจลง D15b เพราะจับวางได้เลย  สายไฟเดิมเพราะเป็น MT  1.5  วัน ขับรถออกจากอู่ได้เลยครับ
ฮืม ฮืม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: รถคันแรกกับ CIvic Ek 96 ขอคำปรึกษาพี่ๆในกลุ่มครับ !!!
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |