ประเภทต่างๆของแบตเตอรี่ (คัดลอกมาอีกที)
ประเภทต่างๆของแบตเตอรี่ แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
1 แบบธรรมดา(Conventional) หรือ แบตเตอรี่ชนิดน้ำ
เป็นแบตเตอรี่ ที่ใช้โลหะตะกั่วผสมพลวงเหมาะกับการใช้งานทั่วไป ราคาถูก เหมาะกับรถยนต์ที่ใช้งานทั่วไป
2 แบตเตอรี่แบบไฮบริด(HYBRID) หรือ ชนิดกึ่งแห้ง ใช้ตะกั่วผสมแคลเซียมในโครงแผ่นธาตุลบ เป็นเทคโนโลยีของญี่ปุ่น มีข้อดีคือ อายุการใช้งานทนทานกว่าแบตเตอรรี่ธรรมดา และไม่ต้องกังวลเรื่องเติมน้ำกลั่น การใช้งานจริงจึงสามารถเติมน้ำกลั่นทุกๆ 5,000 หรือ 10,000 กม. พร้อมกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่ทนทานกว่า Ca-MF ในภาวะที่ใช้งานหนัก (Deep Cycle –Heaty Duty) เช่น รถบรรทุก,รถโดยสาร และรถรับจ้าง
3. แบบแคลเซียม แมนเทนแนนซ์ฟรี (Calcium-Maintenance Free) หรือ แบตเตอรี่ชนิดแห้ง
ใช้ตะกั่วผสมแคลเซียมทั้งในโครงแผ่นธาตุบวกและลบ มีคุณสมบัติดีกว่า HYBRID คือไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน(แต่ในเมืองไทยที่มีอากาศร้อน ดังนั้นอาจต้องมีการเติมน้ำกลั่นบ้าง)ในเมืองไทย รถยนต์ที่ประกอบตั้งแต่ปี 2545 จะใช้แบตเตอรี่ชนิด
Ca-MF ทั้งหมด สะดวกต่อการใช้งาน และไม่ต้องบำรุงรักษา
ผมสรุปนะครับ.. แบตทั้งสามชนิดก็ยังมีแผ่นธาตุต่างๆที่แช่อยู่ในน้ำกรด แม้แต่ชนิดที่ 3 ที่บอกว่า Maintenance Free ก็ยังให้เติมน้ำกลั่นได้ ของผมก็ใช้แบบนี้แหละ
ใช้ไปสักปีนึง ก็แกะสติกเกอร์แถบที่คาดบนแบตออก ก็จะเห็นฝาปิดช่องเติมน้ำกลั่น ให้ใช้เหรียญห้าบาทแทนไขควงหมุนออก แล้วก็เติมน้ำกลั่นเสร็จแล้วปิดไว้เหมือนเดิม ก็จะทำให้ยืดอายุการใช้งานออกไปได้อีกระยะนึง
ลองดูตามลิงค์นี้ครับ
http://www.bpbattery.com/webboard.asp