ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
07 มิถุนายน 2024, 23:13:55
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: เครื่องเดิมๆ EG 4D รหัสอะไร 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 [2] 3 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องเดิมๆ EG 4D รหัสอะไร  (อ่าน 45032 ครั้ง)
jkung_27
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,751


« ตอบ #40 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 13:44:59 »

คนให้ข้อมูล มาแล้ว ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
อายจัง  เอาตำรามาเปิดให้ดูเลยง่ายดี จำข้อมูลไม่ค่อยใด้ ร้องไห้   เครื่องตัวนี้ใช่อะไหล่ของเครื่องตัวอื่นใด้ เช่น ก้านสูบ ใช้ของ B16A ลูกใช้ของ vitara   จะผูกโบยังใด้ หรือจะvtecก็ไม่ยาก  ฝา แล้วแต่ชอบ ส่วนตัวชอบตรงที่สามารจูนใด้นี่แหละครับ ประหยัดตังใด้มากมาย ยิ้ม    แต่กล่องต้องดูสภาพนะครับ c (  คาปาซิเตอร์ ) มันชอบพัง รองแกะมาดูก่อนครับ คิดว่าน่าจะบวม ถ้ารายปิ้นไม่ทลุ ก็รีบเปลี่ยครับ 
บันทึกการเข้า

มีปัญหา ติดต่อใด้โดยตรง
https://www.facebook.com/profile.php?id=100013364359216&ref=bookmarks
desperado
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,943


ไม่มีคำอธิบายใดๆ จนกว่าจะได้ลอง


« ตอบ #41 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 13:52:40 »

อายจัง  เอาตำรามาเปิดให้ดูเลยง่ายดี จำข้อมูลไม่ค่อยใด้ ร้องไห้   เครื่องตัวนี้ใช่อะไหล่ของเครื่องตัวอื่นใด้ เช่น ก้านสูบ ใช้ของ B16A ลูกใช้ของ vitara   จะผูกโบยังใด้ หรือจะvtecก็ไม่ยาก  ฝา แล้วแต่ชอบ ส่วนตัวชอบตรงที่สามารจูนใด้นี่แหละครับ ประหยัดตังใด้มากมาย ยิ้ม    แต่กล่องต้องดูสภาพนะครับ c (  คาปาซิเตอร์ ) มันชอบพัง รองแกะมาดูก่อนครับ คิดว่าน่าจะบวม ถ้ารายปิ้นไม่ทลุ ก็รีบเปลี่ยครับ 
ตอนนี้ผมสับสน ZC 1600 แคมเดี่ยว พยายามหาที่มา เจอแต่ พวกVTEC แล้วไอ้ตัวธรรมดา มันมีที่มายังไง ครับ...มันเคยอยู่ในรถรุ่นไหนกันแน่ ตกใจ
บันทึกการเข้า

4D ผุๆอย่างข้าฯจะขออยู่ค้ำฟ้าให้ดู...................-><-
cyu
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,713



« ตอบ #42 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 13:53:24 »

เบี่ยงเบนประเดนเล็กน้อย เป็นไปได้มั้ย ว่า เครื่องเปลี่ยนมา ขยิบตา ขยิบตา ขยิบตา
บันทึกการเข้า

แอบแซงเพราะแรงน้อย

https://www.facebook.com/cyu.boonyawat
desperado
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,943


ไม่มีคำอธิบายใดๆ จนกว่าจะได้ลอง


« ตอบ #43 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 13:57:11 »

เบี่ยงเบนประเดนเล็กน้อย เป็นไปได้มั้ย ว่า เครื่องเปลี่ยนมา ขยิบตา ขยิบตา ขยิบตา
ก็อาจจะเป็นไปได้ ครับ....EG4D มันเริ่มมาตั้งแต่ D13B โน่นเลย....มาไล่ดูรหัสเครื่องสับสนพอสมควร(ถึงมากเลยล่ะ)
บันทึกการเข้า

4D ผุๆอย่างข้าฯจะขออยู่ค้ำฟ้าให้ดู...................-><-
cyu
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,713



« ตอบ #44 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 13:58:59 »

ก็อาจจะเป็นไปได้ ครับ....EG4D มันเริ่มมาตั้งแต่ D13B โน่นเลย....มาไล่ดูรหัสเครื่องสับสนพอสมควร(ถึงมากเลยล่ะ)

เอ๊ะ แต่ถ้า เปลี่ยน เครื่อง มาแผ่นเพลท ทำไมเป็น CVC เหมือนกับตัวเครื่องเลยลัครับ รึว่าร้านเค้าก้รับทำด้วย
บันทึกการเข้า

แอบแซงเพราะแรงน้อย

https://www.facebook.com/cyu.boonyawat
jkung_27
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,751


« ตอบ #45 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 14:01:28 »

ตอนนี้ผมสับสน ZC 1600 แคมเดี่ยว พยายามหาที่มา เจอแต่ พวกVTEC แล้วไอ้ตัวธรรมดา มันมีที่มายังไง ครับ...มันเคยอยู่ในรถรุ่นไหนกันแน่ ตกใจ
เครื่อง cv มันพัฒนาต่อมาจากเครื่อง คาบูครับ หรือจะเรียกว่ารุ่นบุกเบิกหัวฉีด honda ในไทย ก็ว่าใด้ ส่วน vtec จะเป็นเครื่องที่พัฒนาต่อยอดอีกทีครับเพื่อการตอยสนองในการขับขี่ที่ดีขึ้น  ผมจำไม่ค่อยใด้อะ เหมือว่าhonda ทำรถแข่ง ที่มีวีเทค แล้วจึงนำมาใส่ลงในเครื่องยนตร์ของ honda อะไรประมาณนี้ จุมพิต   ขนาดมอไซยังมีวีเทคเลย
บันทึกการเข้า

มีปัญหา ติดต่อใด้โดยตรง
https://www.facebook.com/profile.php?id=100013364359216&ref=bookmarks
desperado
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,943


ไม่มีคำอธิบายใดๆ จนกว่าจะได้ลอง


« ตอบ #46 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 14:03:17 »

เอ๊ะ แต่ถ้า เปลี่ยน เครื่อง มาแผ่นเพลท ทำไมเป็น CVC เหมือนกับตัวเครื่องเลยลัครับ รึว่าร้านเค้าก้รับทำด้วย
อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจนะ...แต่ว่ารอพี่สาวมาก่อน แกใช้ 4D(เหมือนผม) ออกจาก 0 เลยมือเดียวยังไม่เคยยกเครื่องทำสี สภาพเดิมๆทุกอย่างตั้งแต่ล้อยันอุปกรณ์ภายในทุกชิ้น
(รถไม่เคยมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์เลย...เป็นปรากฏการณ์ที่ดีมากเลย)
บันทึกการเข้า

4D ผุๆอย่างข้าฯจะขออยู่ค้ำฟ้าให้ดู...................-><-
jkung_27
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,751


« ตอบ #47 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 14:03:24 »

เบี่ยงเบนประเดนเล็กน้อย เป็นไปได้มั้ย ว่า เครื่องเปลี่ยนมา ขยิบตา ขยิบตา ขยิบตา
ไม่ใด้เปลี่ยนมาแน่นอน 100%  ผมเองก็ใช้เครื่องตัวนี่แหละ ยิ้มเท่ห์  eg4d lxi 
บันทึกการเข้า

มีปัญหา ติดต่อใด้โดยตรง
https://www.facebook.com/profile.php?id=100013364359216&ref=bookmarks
Regis100
ม่อนเงาะ ณ เชียงใหม่
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18,639


ผมก็แค่ผู้โง่เขลาคนนึงที่พยายามอยากฉลาด@ เชียงใหม่เจ้า


« ตอบ #48 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 14:05:46 »

ตอนนี้ผมสับสน ZC 1600 แคมเดี่ยว พยายามหาที่มา เจอแต่ พวกVTEC แล้วไอ้ตัวธรรมดา มันมีที่มายังไง ครับ...มันเคยอยู่ในรถรุ่นไหนกันแน่ ตกใจ
ZC แท่นเครื่องตรงนั้นก็พิม ZC เลยครับ มีทั้งเทคและไม่เทค

เบี่ยงเบนประเดนเล็กน้อย เป็นไปได้มั้ย ว่า เครื่องเปลี่ยนมา ขยิบตา ขยิบตา ขยิบตา
ไม่เปลี่ยนมาแน่นอนครับ เครื่องตัวนี้อยู่ใน EG ตัวหัวฉีด 1600 ซึ่งรุ่นนี้มีน้อยครับ

ก็อาจจะเป็นไปได้ ครับ....EG4D มันเริ่มมาตั้งแต่ D13B โน่นเลย....มาไล่ดูรหัสเครื่องสับสนพอสมควร(ถึงมากเลยล่ะ)
EG ที่เห็นวิ่งๆกันตอนนี้ส่วนมากถ้าเครื่องเดิมจะเป็นD15 :ซ่ะเยอะ D16  น้อยกว่า





บันทึกการเข้า

ค้นคำตอบก่อนรอคำตอบนะครับ พิมพ์ไว้เยอะแล้ว หาอ่านกันดู
เชื่อผมไม่เชื่อผมไม่มีปัญหา
jkung_27
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,751


« ตอบ #49 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 14:21:50 »

ขออนูญาตตัดมาบางส่วนนะครับ มันยาว

แล้วในที่สุด Honda Cars (ประเทศไทย) ก็เผยโฉม Honda Civic EG เวอร์ชันไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก
เมื่อวันที่  เมษายน 1992 และถูกนำไปจัดแสดงในงาน Bangkok Motor Show 1992 อันเป็นที่ซึ่งผมไปพบ
มันตัวเป็นๆครั้งแรกนั่นแหละ

Honda ชูจุดเด่นด้วยคำว่า "ศิลปะแห่งยนตรกรรมระดับโลก" อันพยายามสื่อถึงรูปทรงและดีไซน์ของรถ
ซึ่งเมื่อนำไปเทียบกับ Corolla และ Sentra แล้วรู้สึกเหมือนกับจะดูวัยรุ่นกว่ากันอยู่ 5 ปีเห็นจะได้
ช่วงล่างดับเบิลวิชโบน, ยางรองแท่นเครื่อง 5 ตำแหน่ง, และคลัทช์ไฮดรอลิกถูกนำมาเป็นจุดขายในเอกสาร
โบรชัวร์ต่างๆด้วยเช่นกัน

นอกนั้นไม่รู้จะชูจุดขายอะไรดี...

ช่วงแรกที่เปิดตัว วางเครื่องยนต์ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1,493 ซีซี แต่ยังใช้คาร์บิวเรเตอร์เดี่ยวท่อคู่ดูด
ลงล่าง ทั้งที่ชาวบ้านชาวช่อง เขาเริ่มมีเครื่องยนต์หัวฉีดอิเล็คโทรนิคส์ให้เลือกกันแล้ว พละกำลังในแค็ตตาล็อก
ระบุเอาไว้เพียง 91 แรงม้า (PS)ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 11.6 กก-ม.ที่ 4,000 รอบ/นาที
ลองเอาสเป็กตัวเลขดังกล่าว มากางเทียบกับรถยนต์รุ่นใหม่ในปัจจุบัน คุณก็จะพบได้ว่า ณ วันนี้
รถยนต์ที่มีสมรรถนะพอกันกับ Civic EG 4 ประตู เวอร์ชันไทย ก็คือ Honda Brio นั่นเอง!

โลกรถยนต์นี่ผ่านไป 20 ปีมันก็ก้าวหน้าไปเยอะเนาะ..

นอกจากนี้ อย่าหวังอะไรมากจากลิสต์อุปกรณ์ ไม่มีล้ออัลลอย เบาะหุ้มด้วยหนังเทียมเกรดพอๆกับรถเครื่อง
1.3 ลิตรของคู่แข่ง กระจกมือหมุน! มีเซ็นทรัลล็อคให้ อยากได้พวงมาลัยเพาเวอร์ ต้องซื้อรุ่นเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น!
เข็มขัดนิรภัย..ในโบรชัวร์ระบุไว้ว่ามีเข็มขัด 3 จุดสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าเท่านั้น..เว่ย..อันนี้ไม่ไหวนะ
ระบบเบรก เป็นแบบหน้าดิสก์ หลังดรัม..อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก สมัยนั้นรถ C-Segment ส่วนใหญ่ใช้ดรัมหลัง
ทั้งนั้น

Honda เปิดตัวมาให้เลือก 2 รุ่น
รุ่นเกียร์ธรรมดา 1.5 LX ราคา 499,000 บาท
รุ่นเกียร์อัตโนมัติ 1.5 EX ราคา 539,000 บาท

สีตัวถังมีให้เลือกแค่ 5 สี คือ เงิน Frosty silver Metallic, น้ำตาล Silk Brown (ไม่ค่อยเห็นบนถนนเท่าไหร่
บางคนเรียกว่าสีกะปิ สมัยนี้ใครเจอรีบกราบโดยไว..มันหายาก)  น้ำเงิน Blue Mica(สีนี้ ในยุคนั้น
เห็นบนถนนกันจนเบื่อ) แดง Phoenix Red, และ สีขาว Frost White 

ต่อมาเดือนมิถุนายน 1993 หลังจากที่ผ่านมาปีเศษ ดูเหมือน Honda เพิ่งจะรู้ตัวว่ามีช่องว่างในตลาด
ซึ่งตัวเองไม่มีรถไปแข่งกับชาวบ้านในกลุ่ม C-Segment รุ่นท้อปๆอย่าง Corolla 1.6GLi, Nissan Sentra
Super Saloon, Mitsubishi Lancer 1.6GLXi ที่ล้วนแล้วแต่มีพละกำลังสูงกว่า มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
ครบครัน
บันทึกการเข้า

มีปัญหา ติดต่อใด้โดยตรง
https://www.facebook.com/profile.php?id=100013364359216&ref=bookmarks
jkung_27
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,751


« ตอบ #50 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 14:23:00 »

ว่าแล้วก็จัดแจงเพิ่มรุ่น 1.6 ลิตร บล็อค D16A7 หัวฉีด PGM-FI SOHC 16 วาล์วเข้าไป แม้จะยังไม่มีระบบ
VTEC แต่พละกำลังระบุเอาไว้ 120 แรงม้าที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.5 กก-ม.ที่ 5,500 รอบ/นาที
ก็เรียกเสียงซู้ดปากจากพวกวัยรุ่นเท้าหนักได้มากอยู่ เพราะมันกลายเป็นรถยนต์เครื่อง 1.6 ลิตรไร้ระบบ
อัดอากาศประกอบในประเทศที่มีแรงม้าสูงที่สุด..Corolla GTi 130 แรงม้า? นั่นก็เลิกขายไปแล้ว อย่าลืม

ถ้าคุณสงกะสัยว่ายุคบ้าแรงม้าของ Honda ในไทยมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่..ผมว่ามันเริ่มที่ไอ้เจ้านี่นั่นล่ะ

ครั้นจะเพิ่มแค่พลังและความทันสมัย (เสียทีเหอะว่ะ) ของเครื่องยนต์อย่างเดียวก็คงไม่เกิด Honda
จึงเพิ่มอุปกรณ์และการตกแต่งให้กับรถเครื่อง 1.6 ลิตรใหม่นี้ด้วย ภายในจะสังเกตได้ว่าเบาะนั่งถูกเปลี่ยน
จากหนังเทียม เป็นเบาะสักหลาดมีขอบเบาะเป็นหนังเทียม ซึ่งยังไงก็ช่วยให้ภายในดูมีสีสันน่ามอง
ขึ้นเป็นกอง นอกจากนี้พวงมาลัยของรุ่น 1.6 ลิตรนั้นจะมีเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง และปรับระดับสูง-ต่ำได้
ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติก็ตาม  เข็มขัดนิรภัยในรุ่น 1.6 ลิตรจะมีแบบ 3 จุด
ให้สำหรับเบาะนั่งแถวหลังด้วย (จริงๆควรจะมีมาให้ในรุ่น 1.5 ด้วย)

ส่วนภายนอกนั้นสิ่งที่บอกความแตกต่างระหว่างรถเครื่อง 1.5 และ 1.6 ลิตรได้ดีที่สุดก็คือคิ้วขอบโครเมียม
รอบกระจกรถนั่นเองล่ะ

ส่วนล้อ..ก็ยังให้เป็นล้อเหล็กพร้อมฝาครอบอยู่ดี แต่เป็นลายใหม่ที่เหมือนกับยกมาจากรุ่น ETi ของญี่ปุ่น
ซึ่งรุ่น 1.5 ลิตรก็ได้ฝาครอบล้อลายนี้ไปใช้แทนลายเก่าๆเชยๆที่เคยใช้อยู่แต่เดิมด้วย

Civic เครื่อง 1.6 ลิตรหัวฉีด PGM-Fi มีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น
1.6 LXi เกียร์ธรรมดา ราคา 560,000 บาท
1.6 EXi เกียร์อัตโนมัติ ราคา 590,000 บาท

ถือว่ามีราคาไล่ๆกันกับคู่แข่ง

ในปี 1993 นี้ Civic จะมีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี โดยยุบสีแดงฟีนิกซ์ สีกะปิ Silk Brown และสีน้ำเงินไมก้าทิ้ง
แต่สีขาวฟรอสท์ และสีเงินฟรอสตี้ยังคงอยู่ และเพิ่มเฉดสีใหม่เข้ามา ได้แก่ แดงมิลาโน, น้ำเงินฮาร์เวิร์ด,
เทาพิวเตอร์ และสีเขียวโลว์ซานน์

เพิ่งสังเกตแฮะว่ายุคนั้นสีขาวไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ที่ต้องรอคิวหรือเสียเงินเพิ่มเนาะ!?!

Civic 1.5 และ 1.6 ช่วยกันสร้างยอดขายให้ Honda ต่อมาอีกสักพัก แม้ว่ารถรุ่น LXi และ EXi จะได้
กระแสตอบรับที่ดีและมีผู้คนทั้งที่บ้าแรงม้าและไม่บ้า..แต่มีตังค์ ถอยไปใช้กัน พวกเราก็รู้กันอยู่แล้วว่า
มันจะไม่ใช่ Civic EG รุ่นที่สร้างประวัติศาสตร์..เพราะต้องรอหลังจากนั้นอีกราว 2 เดือน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 กันยายน 2011, 14:33:01 โดย jkung_27 » บันทึกการเข้า

มีปัญหา ติดต่อใด้โดยตรง
https://www.facebook.com/profile.php?id=100013364359216&ref=bookmarks
jkung_27
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,751


« ตอบ #51 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 14:24:22 »

พอเดือนสิงหาคม 1993 Honda ระเบิดถล่มตลาดรถยนต์เมืองไทยลูกโต ช็อควงการ ด้วยการเปิดตัว
Civic 3 Door ในราคา โคตรถูก รุ่นเกียร์ธรรมดา 1.5 LX ตั้งราคาขายเพียง 361,000 บาท ส่วนรุ่น
เกียร์อัตโนมัติ 1.5EX แปะป้ายเอาไว้ 396,000 บาท

เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคที่คนไทยยังไม่รู้จัก Hotmail ไม่ได้คาดคิดกันมาก่อนว่า Honda จะแอบซ่อนเขี้ยวเช่นนี้!
แน่นอนว่ากระแสตอบรับนั้นโด่งดังชนิดที่เราต้องไปเขียนถึงกันในบทความ 50 รถดังแห่งยุคเลยทีเดียว

ฮิตขนาดไหน ก็ลองฟังตา J!MMY ของเรา เล่าไว้แล้วกัน ในฐานะที่เกิดทันเห็นปรากฎการณ์บ้าระห่ำครั้งนั้น

"ตอนนั้น ผมเรียนอยู่ชั้น ม.2 ที่ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ตั้งอยู่ในซอย ประมวญ อันเป็นสถานที่
ตั้งแต่ดั้งเดิมของ โชว์รูม Honda หนึ่งในไม่กี่สาขาที่มีอยู่ในกรุงเทพฯ ตอนนั้น เช้าวันที่ 1 สิงหาคม 1993
Honda เปิดตัว และลงโฆษณา Civic 3 ประตู ในหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หนึ่งหน้าเต็ม พร้อมกับราคาขาย
ปลีกเล่นเอาผมช็อคไปเลย เพราะถือเป็นเรื่องไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์เมืองไทย ว่า Honda
จะกล้าตั้งราคาขายรถยนต์ของตน ได้ถูกเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนี้ (คิดดูแล้วกันว่า ขนาด รุ่นถูกสุดของ Honda
 Brio ในปี 2011 ก็ยังมีราคาตั้ง แพงกว่า เจ้า Civic 3 ประตูในตอนนั้น)

ไม่ต้องแปลกใจเลยว่า พอเลิกเรียน ผมเดินออกไปดูหน้าโชว์รูม Honda สภาพในโชว์รูมนั้น
เต็มไปด้วยผู้คนที่มาดูรถ แม้ว่า จะมีม่านบังแดดปิดลงมาครึ่งหนึ่ง เพราะตอนบ่าย แสงแดด จะปะทะกับผู้คน
ในโชว์รูมกันเต็มๆ แต่ก็บังสภาพผู้คนที่เต็มโชว์รูมไม่มิด งานนี้พนักงานขาย รับสายโทรศัพท์กันจ้าละหวั่น

และเพียง 3 วันหลังจากนั้น Honda ก็กวาดยอดจอง Civic 3 ประตูไปมากถึง 9,000 คัน!!
กลายเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์รถยนต์เมืองไทย เพราะไม่เคยมีใครทำสถิติยอดสั่งจอง
เยอะมากขนาดนี้มาก่อน จน Honda ประกาศขอปิดรับจองชั่วคราว เพื่อเร่งผลิตและระบายยอดสั่งจองทั้งหมด
ให้เรียบร้อยเสียก่อน"

ผมเสริมให้อีกว่าขนาดรับจองแทบไม่ทัน และบางที่ปิดรับจองไปเลย ยอดก็ยังไหลมาเทมา แม้ 4 วัน
หลังจากนั้นยอดจองก็ยังเดินหน้าต่อจนทะลุ 10,000 คัน และถ้ามองไกลไปอีก..เอาเป็นว่ายอดขายของ
Honda ปี 1994 เขยิบมาอยู่ที่ 24,000 คันโดยประมาณ ซึ่งเพิ่มมากกว่าปีก่อนถึง 60%! ไม่ต้องบอกก็รู้
ว่าใครเป็นตัวดัน

ความแตกต่างระหว่างเมืองไทยที่เด่นชัดกับตลาดแม่อย่างญี่ปุ่นก็คือ ในขณะที่เมืองแม่ของเขา มีรุ่น ระดับ
การตกแต่งและเครื่องยนต์ต่างๆให้เลือกมากมาย แต่ในเมืองไทย Honda Cars เลือกที่จะมีให้เลือกแค่รุ่นเดียว
กับระบบส่งกำลังสองแบบ และเป็นขุมพลังแบบเดียวกันกับ Civic 4 ประตูรุ่น 1.5LX/EX ซึ่งมีแรงม้าแค่ 91 ตัว

พอได้ทราบว่าธีมของรถรุ่นนี้ในเมืองไทยคือ "Drive your city life!" มันก็บ่งชี้กันอยู่ชัดเจนแล้วว่าพวกเขา
กะจะลงเล่นในตลาดซิตี้คาร์ ซึ่งนี่เองเป็นเหตุผลที่พวกเขาเลือกสเป็ครุ่นต่ำมาทำตลาดและพยายามกดราคา
ให้ต่ำมากจนคนที่กำลังคิดจะซื้อรถ C-Segment เครื่อง 1.3 ลิตร 4 ประตูจากค่ายของคู่แข่งต้องคิดกัน
หลายตลบ เพราะการยอมเสียจำนวนประตูไป แต่ได้เครื่องยนต์พิกัดโตกว่า แถมด้วยภาพลักษณ์ความเป็น
Honda ซึ่งสมัยนั้นเป็นรถญี่ปุ่นที่ได้ชื่อว่าอะไหล่แพง มันจึงทำให้มีความเชื่อกันว่าคนที่ใช้ Honda ต้อง
มีเงินติดกระเป๋ามากอยู่พอสมควร


อุปกรณ์ติดรถ..หึหึ...ใครที่บ่นว่าให้ของมาน้อย กรุณาย้อนกลับไปดูราคาเปิดตัวเสียก่อน ราคามิตรภาพแบบนี้
ได้กระจกไฟฟ้ามาก็บุญแล้ว นอกเหนือไปจากนี้อุปกรณ์อื่นๆแทบจะลอกตารางมาจากรุ่น 1.5 4 ประตู
เบาะหนังเทียม ล้อ 185/70/13 พร้อมฝาครอบ พวงมาลัยเพาเวอร์มีในเฉพาะรถรุ่นเกียร์อัตโนมัติ
เข็มขัดนิรภัยสำหรับคนนั่งหน้าจะเป็นแบบ 3 จุด ELR แต่เบาะหลังจะให้แบบ 2 จุด สองตำแหน่ง ..นี่สิยอด!
เพราะคู่แข่งที่เบิ้มกว่าอย่าง Nissan NX Coupe ที่ผมใช้อยู่ ราคา 600,000 บาท แต่ไม่มีเข็มขัดคนนั่งหลังให้
นะครับ สองจุดของ Honda ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย

จุดเด่นอีกประการหนึ่งก็คือเบาะหลังของรุ่น 3 ประตูนี้จะออกแบบให้สามารถพับได้เพื่อสะดวกแก่การขนของ
ชิ้นโตๆ ฝากระโปรงท้ายก็ออกแบบให้เปิดแยกได้ 2 ชิ้น (ซึ่งโดยส่วนตัวผมชอบมาก) ยิ่งไปกว่านั้น Honda
ได้ติดตั้งเครื่องกรองไอเสีย Catalytic Converter มาให้กับรถรุ่นนี้ด้วย เพื่อสนับสนุนเทรนด์ลดมลภาวะ
ซึ่งในช่วงนั้นต่างค่ายต่างก็พากันทยอยติดเครื่องกรองไอเสียนี้ใส่ให้กับรถที่จำหน่ายในประเทศกัน

ที่สำคัญ..ฮี่ฮี่ฮี่..รถราคาสามแสนหกในวันนั้น มีปัดน้ำฝนกระจกหลังมาให้ด้วยว้อยย!

สำหรับโทนสีที่มีให้เลือกในล็อตแรกนั้น ประกอบไปด้วยสีแดงมิลาโน่ น้ำเงินฮาร์เวิร์ด ขาวฟรอสต์ และ
เงินฟรอสตี้ (ไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง กับอาหารเช้าซีเรียล ของ Kellogs แต่อย่างใด)

นอกจากความดังในเรื่องยอดขายแล้ว Civic 3 ประตูยังเป็นข่าวในสื่อสิ่งพิมพ์ (ก็สมัยนั้นมันไม่มี facebook)
อยู่พักใหญ่ เนื่องจากมี Civic 3 ประตูเกิดอุบัติเหตุ และความเสียหายก็เผยให้เห็นวัสดุซับเสียง
ที่ดันซวยมีหน้าตาคล้ายกระดาษลัง คนเลยพากันเข้าใจว่า Honda เอากระดาษลังมาบุหลังคา
ซึ่งที่จริงมันไม่ได้บ้าขนาดนั้น แค่ดูคล้ายกันเท่านั้นเอง คิดมากฉี่เหลืองเปล่าๆ

ภายใน 1 ปีหลังจากการเปิดตัว Honda ก็มีรายการปรับเสริมเพิ่มแต่ง Civic รุ่นต่างๆอีกเป็นระยะๆ

Honda Civic 3 ประตู มีการเพิ่มแถบกันกระแทกด้านข้างตัวรถ เพิ่มเหล็กกันโคลงหลัง
เพิ่มคานเสริมนิรภัยในประตู (Side door beam) ส่วนโทนสีที่มีให้เลือก ก็มีการเปลี่ยนแปลงบ้าง
แดงมิลาโน่ และขาวฟรอสต์ยังอยู่ แต่สีอื่นหายไปหมด กลายเป็นสีเงินสกาย น้ำเงินแอทแลนติกมาแทน
แล้วที่เด็ดสุด ก็น่าจะเป็นสีเหลืองเดซี่ที่ใจป้ำพ่นออกมาให้เลือก และนับว่าเป็นรถสีแปลกที่ได้รับ
กระแสตอบรับดีมากที่สุดรุ่นหนึ่ง ซึ่งหลังจากนั้น กว่าที่ Honda จะเอาสีเหลืองกลับมาให้คนไทยใช้อีกครั้งก็ต้องรอ
จนถึง Jazz GD ไมเนอร์เชนจ์ประมาณ 1 ทศวรรษให้หลัง

นอกจากนี้ก็มีการปรับราคาขึ้น จากเดิมกลายเป็น 398,000 บาทในรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 425,000 บาท
ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ

ส่วน Honda Civic รุ่น 4 ประตูมีความเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดกว่า!

เดือนสิงหาคม ปี 1994 Honda กำลังอยู่ในยุคปรับภาพลักษณ์ทางเทคโนโลยีในตลาดเมืองไทยขนานใหญ่
หลังจากที่ได้ชื่อว่าทำรถภาพลักษณ์สูงแต่ให้ของเล่นแบบไม่เต็มหน่วย ก็กลายเป็นลุย และชูจุดเด่นทาง
เทคโนโลยีเครื่องยนต์และอุปกรณ์กันเต็มที่ ในช่วงปีนั้น Honda เมืองไทยพยายามสร้าง Customer
Recognition ให้ลูกค้าได้รู้จักกับคำว่า "VTEC" อย่างจริงจัง รูประบายสีน่ารักเขียนว่า "I AM VTEC"
สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ Honda ยังนำรถหายากอย่าง Prelude VTi-R VTEC
แรงม้าเฉียด 200 ตัว และ Integra VTi-R 170 แรงม้าซึ่งทั้งคู่เป็นสเป็คออสเตรเลียมาให้คนไทยได้สัมผัส
ของแรง ส่วนทางด้านรถบ้าน Honda เปิดตัว Accord ใหม่ในปีนั้น ซึ่งแม้รุ่นหลักๆจะยังเป็น LXi/EXi
แต่ก็มีการนำรุ่นนำเข้าพิเศษ เครื่อง F22A SOHC VTEC มาให้เลือกใช้ด้วย (ราคา 1,170,000 บาท!)

แล้ว Civic ล่ะ? จะถูกทิ้งให้เป็นอนุกรมเดียวที่ไม่มีพลัง VTEC ให้เลือกเหรอ..บ้าน่า รถที่ทำยอดได้มาก
ที่สุดของค่ายนี่ล่ะ สมควรที่จะมีเครื่อง VTEC มากที่สุดแล้ว ดังนั้น จึงมีการนำเข้า Civic 1.6 VTi 4 ประตู
มาขายในราคา 745,000 บาท ซึ่งราคานี้ถือว่าสูงมากสำหรับรถยนต์นั่ง C-Segment สมัยนั้น แต่คุณได้
รถที่มีอุปกรณ์ครบครัน แถมมีมูนรูฟมาให้ด้วย มีที่เท้าแขนตรงกลาง เข็มขัดนิรภัย 3 จุด 4 ตำแหน่งครบ
พร้อม 2 จุด 1ตำแหน่งสำหรับคนนั่งหลังตรงกลาง เบาะนั่งหุ้มด้วยสักหลาดทั้งตัว เบาะหลังพับได้
กระจกมองข้างปรับด้วยไฟฟ้า

นอกจากนี้ยังเพิ่มดิสก์เบรก 4 ล้อ และล้ออัลลอยขอบ 14 นิ้ว ลายพิเศษเฉพาะรถรุ่น VTi ที่นำเข้าเท่านั้น

แต่ส่วนที่น่าสนใจที่สุด ก็แน่นอนว่าต้องเป็นขุมพลัง D16 SOHC VTEC ซึ่งเหมือนกับรุ่น 1.6LXi, EXi
นั่นล่ะ ต่างกันตรงที่ฝาสูบแบบ VTEC ซึ่งการที่สามารถใช้ลูกเบี้ยว 2 ชุด ช่วยให้สามารถคงแรงบิด
รอบต่ำไว้ได้ในขณะที่รอบสูงก็จี๊ดจ๊าดขึ้นอีกหน่อย แรงม้าสูงสุดที่ได้คือ 130 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 14,8 ก.ก.ม./5,200 รอบต่อนาที

ตัวเลขช่างมันส์เขี้ยวขาโหดเท้าหนักเป็นยิ่งนักในยุคที่คู่แข่งค่ายอื่นๆม้าป้วนเปี้ยนกันแถวๆ 100-116 ตัว

ใครที่อยากได้ ก็มีให้เลือกกันทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด

ถ้าใครอยากรู้ว่า Civic EG คันไหนเป็น CBU จำไว้เลยว่ารถนำเข้ารุ่นนี้จะไม่มีการขลิบขอบกระจกด้วย
โครเมียม มีมูนรูฟ กระจกมองข้างและมือจับเปิดประตูเป็นสีเดียวกับตัวรถ นอกจากนี้จะมีให้เลือกเพียง
2 สีเท่านั้น คือแดงโทริโน่ (Torino) และสีเงินโว้ก (Vogue)

แต่..ขอให้โชคดี เพราะขนาดผมจำลักษณะแตกต่างแบบนี้ได้ ก็ได้เคยเห็นรถรุ่นนี้ไม่กี่คันตลอดชีวิตที่ผ่านมา
คิดว่าไม่น่าถึง 20 คันด้วยซ้ำครับ ถ้าใครมีใช้อยู่ ก็ถือว่าโชคดีมาก มีของดีเก็บไว้เถอะครับ

ในช่วงท้ายตลาด Honda Civic ยังมีการปรับโฉมครั้งสุดท้าย..เรียกได้ว่า Swan Song (คำภาษาอังกฤษ เอาไว้
ใช้อธิบายถึงการฝากผลงานชิ้นโบว์แดงชิ้นสุดท้ายไว้ก่อนจากลา) จาก Civic EG ก็ยังถือว่าไม่ธรรมดา
โดยหลังจากที่เปิดตัวรุ่น 1.6VTi ในแบบนำเข้า (และขายได้แบบกระปริบกระปรอย) Honda ก็ประกาศ
ออกสื่อว่าเห้ย..ถ้ารุ่นประกอบนอกแพงไป รออีกแป๊บ เดี๋ยวก็จะมีตัวประกอบในประเทศมาให้เลือก

บันทึกการเข้า

มีปัญหา ติดต่อใด้โดยตรง
https://www.facebook.com/profile.php?id=100013364359216&ref=bookmarks
jkung_27
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,751


« ตอบ #52 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 14:26:41 »

ว่าแล้วก็มาจริงๆ Honda เปิดตัวรุ่นเครื่อง VTEC ประกอบในประเทศ ซึ่งใช้เครื่องยนต์บล็อคเดียวกัน
ตามสเป็คแจ้งแรงม้าแรงบิดสูงสุดเหมือนกันเด๊ะๆ แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่เหมือนกัน กล่าวคืออัตราทดเกียร์
ซึ่งรถประกอบนอกจะมีอัตราทด 2 เกียร์สุดท้ายที่จัดกว่ารถประกอบใน (เป็นแบบนี้ทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา
และเกียร์อัตโนมัติ) ประการที่ลองคืออัตราทดพวงมาลัยซึ่งรุ่นประกอบนอกจะทดไวกว่า หมุนระยะ
ล็อคถึงล็อคซ้ายขวาได้ 3.1 รอบในขณะที่รุ่นประกอบในจะได้ 3.6 รอบ

ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ก็เรียกได้ว่ายกชุดออพชั่นตัวนอกมาให้ใช้กันหลายอย่าง แต่มีบางอย่างที่ต่างกัน
เช่นมูนรูฟและเบาะหลังพับได้ เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าที่ปรับสูงต่ำได้ และเข็มขัดสำหรับผู้โดยสารคนที่ 5
ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไม่มีในรุ่นประกอบในประเทศ แต่รุ่นประกอบในประเทศก็มีคิ้วโครเมียมเดินรอบกระจกให้
 ส่วนล้อรถ รุ่นประกอบในจะเป็นลายดาวห้าแฉกสีเงินมีร่องตรงกลางห่อหุ้มด้วยยางขนาด 185/65/14
ในขณะที่รุ่นประกอบนอกจะใช้ยาง 185/60/14



ขณะเดียวกัน จะไม่ทำอะไรกับรถรุ่นอื่นเลยก็กระไรอยู่ รุ่น 1.5 และ 1.6 ที่ไม่มี VTEC ก็ได้รับการอัพเกรด
ขึ้นไปพร้อมๆกัน ณ จุดนี้ รถ 1.5LX มีพวงมาลัยเพาเวอร์มาให้เสียที และทั้ง LX/EX จะเปลี่ยนเบาะ
มาเป็นแบบสักหลาดที่มีขอบที่นั่งเป็นไวนิล เข็มขัดนิรภัยมาครบ 3 จุด 4 ตำแหน่ง

ส่วนรุ่น LXi/EXi เพิ่มล้ออัลลอยลายเดียวกันกับรุ่น VTEC มาให้
เรื่องอุปกรณ์ ถ้าให้ง่าย ก็ดูจากตารางด้านล่างนี้ได้เลยครับ
บันทึกการเข้า

มีปัญหา ติดต่อใด้โดยตรง
https://www.facebook.com/profile.php?id=100013364359216&ref=bookmarks
jkung_27
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,751


« ตอบ #53 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 14:29:34 »

แต่เดี๋ยวก่อน มีอีกเรื่องนึงที่สงสัย ..ที่จริงอยากถามคนทำโบรชัวร์สมัยนั้นว่า..
"พวกพี่จะไม่ตรวจทานความสมจริงของรูปต่างๆกันหน่อยเหรอครับ?"

เพราะบางที มันก็ออกมาแบบมึนๆอย่างรูปสแกนจากโบรชัวร์ข้างล่างนี้


เริ่มเป็นข่าว Honda ก็จับตัว 3 ประตูมาแต่งหน้าทาปากด้วยการเพิ่มเฉดสีสะท้านใจพ่อเช่นสีเขียว ที่เขียวจัด
แบบงูเขียวเรียกพ่อ และสีส้มที่ส้มประชดโลกชนิดน้ำส้มไบเล่เรียกแม่  แต่ทว่าทั้งสองสีนี้หายากหน่อย
แล้วยังเปลี่ยนล้อมาเป็นล้อลาย 8 ก้านปัดเงาอย่างสวยจาก Enkei ขอบ 13 นิ้วอีกด้วย

สิ่งหนึ่งที่ยังงงอยู่ว่า "เพราะอะรายย" ก็คือความต่างระหว่าง Civic 3 ประตูช่วงแรกกับช่วงท้ายตลาด
อยู่ที่คิ้วกันกระแทกด้านข้างครับ..มองจากข้างนอกไม่รู้หรอก ต้องแกคิ้วออกถึงจะทราบ เพราะในขณะที่
รถล็อตแรกๆจะใช้กาวอย่างดีแปะคิ้ว รุ่นหลังๆ(ปลายปี 94 จนถึงคันสุดทัายในปี 95) จะเปลี่ยนเป็นแบบ
หมุดยึดตลอดแนว ซึ่งถ้าแกคิ้วออก คุณจะเห็นประตูเป็นรูๆเลยครับ แปลกดี ทำไมต้องหาเรื่องเปลี่ยนแบบ
วิธีการยึดคิ้วทั้งๆที่แบบกาวยึด 3M มันไม่ได้หลุดกันง่ายๆ (แต่สิ่งนี้ก็เกิดขึ้นอีกครั้งกับ Civic ES
ซึ่งรถโฉมแรกเป็นคิ้วยึดด้วยกาว และโฉมหลังจะเป็นหมุดกิ๊บยึด) ความรู้เสริมตรงนี้ขอเครดิตคุณแป๋ง
พัชรพงศ์ รุ่นน้องใน MU Car Club ของผมครับ

แถมกันนิดหน่อยกับ Accessories (อุปกรณ์ตกแต่ง) ที่ต้องว่ากันแบบบรรยายตามภาพไป
ไม่คิดว่าจะได้เห็นแคตตาล็อกของแต่งจากศูนย์ Honda ในยุคนั้นเหมือนกัน ก็ต้องขอบคุณตาจิม
ที่ยังเก็บรักษาเอาไว้ได้อย่างดี


แบบต่างๆที่มีให้สั่งครับ ล้อหมายเลข (14) นั้นคือล้อแบบที่คุณจะพบได้ในรถ Civic VTi สเป็คนำเข้า
ที่ว่ากันว่าหายากสุดๆ ส่วนอันซ้ายสุดนั้นคือล้อลายใบพัดขอบ 15 นิ้ว เป็นของแต่งตามแบบของรถนอกเช่นกัน
ผมมองว่าเป็นล้อที่สวยและเข้ากับบอดี้ได้ดีที่สุด..แถมเป็น 15 นิ้วด้วย สมัยนั้นชาวบ้านชาวช่องในไทย
ใช้กับแต่ 13-14 นิ้วสำหรับรถ C-Segment

แต่พอเปิดใบแจ้งราคาดู..วงละ 7,500 บาท ..(- -') แพงกว่าล้อแต่งอีก เก็บเงินไว้ซื้อข้าวให้น้องผู้หิวโหยกินเถอะ

 

ที่มา  http://board.eg3d-club.com/index.php?topic=60583.0
บันทึกการเข้า

มีปัญหา ติดต่อใด้โดยตรง
https://www.facebook.com/profile.php?id=100013364359216&ref=bookmarks
MANUTS
= ท่านรอง รปภ. สป. =
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,972


นัต.....สมุทรปราการ


« ตอบ #54 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 16:55:32 »

ของป๋ม ฝามี VTEC เครื่องมีรหัส CVC xxxxxxx เล่มก็ CVCxxxxxx แต่เพลตดันเป็น D16Y8 โซลินอย VTEC ก็มี งงครับหรือมันเกิดจากกระบอกไม้ไผ่เนี๊ย  ตกใจ ตกใจ
บันทึกการเข้า

Forgive  AND  Forget
cyu
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,713



« ตอบ #55 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 16:56:22 »

ของป๋ม ฝามี VTEC เครื่องมีรหัส CVC xxxxxxx เล่มก็ CVCxxxxxx แต่เพลตดันเป็น D16Y8 โซลินอย VTEC ก็มี งงครับหรือมันเกิดจากกระบอกไม้ไผ่เนี๊ย  ตกใจ ตกใจ

เอาฝาเทคมาประกบป่าวคับ
บันทึกการเข้า

แอบแซงเพราะแรงน้อย

https://www.facebook.com/cyu.boonyawat
desperado
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,943


ไม่มีคำอธิบายใดๆ จนกว่าจะได้ลอง


« ตอบ #56 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 16:57:18 »

ของป๋ม ฝามี VTEC เครื่องมีรหัส CVC xxxxxxx เล่มก็ CVCxxxxxx แต่เพลตดันเป็น D16Y8 โซลินอย VTEC ก็มี งงครับหรือมันเกิดจากกระบอกไม้ไผ่เนี๊ย  ตกใจ ตกใจ
ไม่หรอก...ครับ คนประกอบตัวรถ เมาคับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

4D ผุๆอย่างข้าฯจะขออยู่ค้ำฟ้าให้ดู...................-><-
MANUTS
= ท่านรอง รปภ. สป. =
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,972


นัต.....สมุทรปราการ


« ตอบ #57 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 17:04:47 »

ไม่หรอก...ครับ คนประกอบตัวรถ เมาคับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

 ร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้
บันทึกการเข้า

Forgive  AND  Forget
jkung_27
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,751


« ตอบ #58 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 17:29:52 »

ของป๋ม ฝามี VTEC เครื่องมีรหัส CVC xxxxxxx เล่มก็ CVCxxxxxx แต่เพลตดันเป็น D16Y8 โซลินอย VTEC ก็มี งงครับหรือมันเกิดจากกระบอกไม้ไผ่เนี๊ย  ตกใจ ตกใจ
เครื่องเดิมติดรถหน้าจะเป็น d16y8  แต่เครื่องมีปัญหา จึงซื้อท่อนล่างของ d16a มาใช้( อาจจะของ d16a7)  แล้วก็ประกบฝาตัวเทคลงไป อาจจะฝาเก่าของ d16y8 แล้วก็ไปแจ้งเปลี่ยนเครื่อง จุมพิต
บันทึกการเข้า

มีปัญหา ติดต่อใด้โดยตรง
https://www.facebook.com/profile.php?id=100013364359216&ref=bookmarks
ham_ter
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 9,223



« ตอบ #59 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 17:42:49 »

    ยาวจริงๆ EG 4D จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า

MANUTS
= ท่านรอง รปภ. สป. =
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,972


นัต.....สมุทรปราการ


« ตอบ #60 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 18:44:09 »

   ยาวจริงๆ EG 4D จุมพิต จุมพิต

เครื่องเดิมติดรถหน้าจะเป็น d16y8  แต่เครื่องมีปัญหา จึงซื้อท่อนล่างของ d16a มาใช้( อาจจะของ d16a7)  แล้วก็ประกบฝาตัวเทคลงไป อาจจะฝาเก่าของ d16y8 แล้วก็ไปแจ้งเปลี่ยนเครื่อง จุมพิต


แล้วแบบนี้ก้ไม่มี " จิตวิณญาน VTEC " อะดิ  ร้องไห้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 กันยายน 2011, 18:49:40 โดย MANUTS » บันทึกการเข้า

Forgive  AND  Forget
jkung_27
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,751


« ตอบ #61 เมื่อ: 15 กันยายน 2011, 19:45:12 »


แล้วแบบนี้ก้ไม่มี " จิตวิณญาน VTEC " อะดิ  ร้องไห้
ถ้า ท่อนล่าง cv 1600 (d16a7) จริง  มันไม่มีจิตวิณญานของ vtec ตั้งแต่เกิด  แต่มันเกิดมาเพราะ 120 แรงม้าที่ 6,300 รอบ/นาที+ฝา vtec รอบปาย โอ้จ๊อดมันยอดมาก ถ้ากล่องเป็น p28  ด้วยนะ สุดยอด na ทั้งต้นทั้งปาย ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

มีปัญหา ติดต่อใด้โดยตรง
https://www.facebook.com/profile.php?id=100013364359216&ref=bookmarks
Chaowaluk_Lxi
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 71



« ตอบ #62 เมื่อ: 19 กันยายน 2011, 10:03:13 »

ไม่ใด้เปลี่ยนมาแน่นอน 100%  ผมเองก็ใช้เครื่องตัวนี่แหละ ยิ้มเท่ห์  eg4d lxi 

ขอบคุณมากๆเลยครับ...รู้ประวัติมันแระจาได้ตอบถูก..ฮ่าๆ....เป็นว่าตัวนี้ประวัติยาวนาน...แถมเป็นตัวหายากอีก..ฮ่า...แต่อะไหล่คงไม่หายากหรอกมั้ง..
บันทึกการเข้า

ครูหนุ่มอยู่ปายดอย...คอยรัก...
cyu
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,713



« ตอบ #63 เมื่อ: 19 กันยายน 2011, 10:06:28 »

ขอบคุณมากๆเลยครับ...รู้ประวัติมันแระจาได้ตอบถูก..ฮ่าๆ....เป็นว่าตัวนี้ประวัติยาวนาน...แถมเป็นตัวหายากอีก..ฮ่า...แต่อะไหล่คงไม่หายากหรอกมั้ง..

ไม่น่ายากคับ น่าจะใส่แทนกันได้ ผมยังเอาคอท่อของ ef มาใส่ได้เลย ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

แอบแซงเพราะแรงน้อย

https://www.facebook.com/cyu.boonyawat
Regis100
ม่อนเงาะ ณ เชียงใหม่
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18,639


ผมก็แค่ผู้โง่เขลาคนนึงที่พยายามอยากฉลาด@ เชียงใหม่เจ้า


« ตอบ #64 เมื่อ: 19 กันยายน 2011, 10:07:03 »

ขอบคุณมากๆเลยครับ...รู้ประวัติมันแระจาได้ตอบถูก..ฮ่าๆ....เป็นว่าตัวนี้ประวัติยาวนาน...แถมเป็นตัวหายากอีก..ฮ่า...แต่อะไหล่คงไม่หายากหรอกมั้ง..
บางอย่างยากบางอย่างง่ายครับ อายจัง อายจัง อายจัง อายจัง
บันทึกการเข้า

ค้นคำตอบก่อนรอคำตอบนะครับ พิมพ์ไว้เยอะแล้ว หาอ่านกันดู
เชื่อผมไม่เชื่อผมไม่มีปัญหา
ko2011
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 357


แรกกว่าก็แซงไป..


« ตอบ #65 เมื่อ: 19 กันยายน 2011, 10:33:05 »

ของผมก็หน้าตาแบบนี้เลยแต่ ระหัสเครือ่งเป็น CV มะใช่ CVC เครือ่งพันหกหัวฉีด  ตอนนี้น้ำหายช่างก็บอกว่าฝาโก่งแต่กำลังเครื่องไม่ตก กินนำมันเครื่องกับน้ำ....ต้องเปิดเติมๆบ่อยๆ น้ำมันเครื่องวิ่งห้าพันโลหายครึ่งลิตรได้ น้ำเติมทุก 300-400 กิโล


กะว่าไม่ซ่อมอะใช้ๆไปให้มันพัง จะได้เครื่องใหม่ กะวาง B20 เลย
บันทึกการเข้า
Chaowaluk_Lxi
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 71



« ตอบ #66 เมื่อ: 19 กันยายน 2011, 11:45:32 »

ของผมก็หน้าตาแบบนี้เลยแต่ ระหัสเครือ่งเป็น CV มะใช่ CVC เครือ่งพันหกหัวฉีด  ตอนนี้น้ำหายช่างก็บอกว่าฝาโก่งแต่กำลังเครื่องไม่ตก กินนำมันเครื่องกับน้ำ....ต้องเปิดเติมๆบ่อยๆ น้ำมันเครื่องวิ่งห้าพันโลหายครึ่งลิตรได้ น้ำเติมทุก 300-400 กิโล


กะว่าไม่ซ่อมอะใช้ๆไปให้มันพัง จะได้เครื่องใหม่ กะวาง B20 เลย

ของผมตอนแรกน้ำก็หายครับ...ดูแล้วก็คล้ายๆกับของพี่นั่นแหละ...แต่เปิดที่เช็คน้ำมัน...น้ำมันเครื่องก็ดำปกติ..ไม่เป็นสีกาแฟอย่างที่หลายท่านว่าครับ...ก็เลยไปเช็คหม้อน้ำแล้วเปลี่ยนเลย....คราวนี้รู้สึกว่าน้ำไม่หายแระ...แต่ยังอยู่ในขั้นทดสอบอยุ่ครับ...ว่าจะปกติจริงๆไหม...แต่หลายๆวันที่ผ่านมาทดสอบเบื้องต้นแล้วไม่หายครับ....คงต้องทดสอบยาวๆกันต่อไป...ครับ
บันทึกการเข้า

ครูหนุ่มอยู่ปายดอย...คอยรัก...
ko2011
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 357


แรกกว่าก็แซงไป..


« ตอบ #67 เมื่อ: 19 กันยายน 2011, 12:23:30 »

ของผม น้ำมันเครื่องก็สีปรกติคับ....น้ำไม่ได้เข้าไป คงรอเช็คหัวเทียนอีกรอบก่อน ว่ามีน้ำเข้าไหม...แต่น้ำก็ยังหายไม่มีรอยหยด เลยมึนๆ กะว่าจะเอาน้ำเขียวเติมซะหน่อย หยดหรือออกทางไหน ก็จะได้เห็นกันจะจ๊ะ ละงานนี้


ปล. เพิ่งรู้ว่ารถตัวเองมี 120 แรงม้า   นึกว่ามีแต่แรงโม้ ฮุฮุ

เอาเสื้อกะฝาเทคประกบไปจะเกิดไรขึ้นคับผู้รู้บอกหน่อยจิ..... น้ำมันเกียร์มันก็ซึมอีก เฮ้อ เลยไม่อยากจะซ่อมเลย
บันทึกการเข้า
Chaowaluk_Lxi
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 71



« ตอบ #68 เมื่อ: 19 กันยายน 2011, 13:55:43 »

ของผม น้ำมันเครื่องก็สีปรกติคับ....น้ำไม่ได้เข้าไป คงรอเช็คหัวเทียนอีกรอบก่อน ว่ามีน้ำเข้าไหม...แต่น้ำก็ยังหายไม่มีรอยหยด เลยมึนๆ กะว่าจะเอาน้ำเขียวเติมซะหน่อย หยดหรือออกทางไหน ก็จะได้เห็นกันจะจ๊ะ ละงานนี้


ปล. เพิ่งรู้ว่ารถตัวเองมี 120 แรงม้า   นึกว่ามีแต่แรงโม้ ฮุฮุ

เอาเสื้อกะฝาเทคประกบไปจะเกิดไรขึ้นคับผู้รู้บอกหน่อยจิ..... น้ำมันเกียร์มันก็ซึมอีก เฮ้อ เลยไม่อยากจะซ่อมเลย

นั่นแหละครับ...ผมก็กะว่าจะลองเปิดหัวเทียนเช่นกัน....ไอ้ผมก็ชอบเดิมๆซะด้วยซิ...คงไม่แต่เติมอะไรแล้วละครับถ้าไม่จำเป็น....อยากให้มันเดิมๆอย่างนี้...ขอให้มันดีเถอะครับ...ฮ่าๆ..จะรักษาไว้อย่างนี้...
บันทึกการเข้า

ครูหนุ่มอยู่ปายดอย...คอยรัก...
ko2011
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 357


แรกกว่าก็แซงไป..


« ตอบ #69 เมื่อ: 19 กันยายน 2011, 14:16:23 »

ล่าสุดเปิดหัวเทียนมาดู สูป 2 - 3 มีรอยสนิม ช่างบอกว่าน้ำเข้า...แต่มันมากับเจ้าของเก่าหัวเทียนไม่รู้ใช้มาชาติไหนแล้วตอนนี้ลองของอูที่เขาเก็บที่พื้นมาใส่เเทน 4 หัว ว่างๆจะลองเปลี่ยนดู พอถอดใจแล้วก็ไม่อยากทำอะไรมันเลย....แท่นเครื่องตัวล่างสุดก็ขาดแต่ขับได้ปรกติ เลยยังไม่ได้ทำอะไรคับ   ช่วงนี้ไล่เปลี่ยนโช๊ค สปริง ทำช่วงล่างให้เเน่นๆก่อน...ของเดิมตัดมา ไม่ไหว

ตอนซื้อผมมีเวลาตัดสินใจน้อย พอดีติดงานประมูลต้องรีบใช้รถเลยต้องรีบซื้อ  เลยต้องมาไล่ซ่อมกันยาว....เห็นรถในคลับขายกันก็อยากจะซื้อเพิ่มอีกซักคันเง้อ สวยๆทั้งนั้น  สงสัยถ้าเปลียนเครื่องมาก็คงต้องใช้กันอีกยาวเลย งานนี้ 55
บันทึกการเข้า
Chaowaluk_Lxi
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 71



« ตอบ #70 เมื่อ: 19 กันยายน 2011, 15:44:31 »

ล่าสุดเปิดหัวเทียนมาดู สูป 2 - 3 มีรอยสนิม ช่างบอกว่าน้ำเข้า...แต่มันมากับเจ้าของเก่าหัวเทียนไม่รู้ใช้มาชาติไหนแล้วตอนนี้ลองของอูที่เขาเก็บที่พื้นมาใส่เเทน 4 หัว ว่างๆจะลองเปลี่ยนดู พอถอดใจแล้วก็ไม่อยากทำอะไรมันเลย....แท่นเครื่องตัวล่างสุดก็ขาดแต่ขับได้ปรกติ เลยยังไม่ได้ทำอะไรคับ   ช่วงนี้ไล่เปลี่ยนโช๊ค สปริง ทำช่วงล่างให้เเน่นๆก่อน...ของเดิมตัดมา ไม่ไหว

ตอนซื้อผมมีเวลาตัดสินใจน้อย พอดีติดงานประมูลต้องรีบใช้รถเลยต้องรีบซื้อ  เลยต้องมาไล่ซ่อมกันยาว....เห็นรถในคลับขายกันก็อยากจะซื้อเพิ่มอีกซักคันเง้อ สวยๆทั้งนั้น  สงสัยถ้าเปลียนเครื่องมาก็คงต้องใช้กันอีกยาวเลย งานนี้ 55

ก็อวยพรให้ไม่เป็นไรมากครับ...ไอ้ผมก็กังวลอยู่นี่ละครับ...แต่ก็ขอลองยาวๆกันละกัน...ว่าจาเป็นไรไหม...ช่วงนี้อยู่ในขั้นทดลอง...เดวช่วงปิดเทอมจาลงไปหาท่านพี่เงาะสักวัน..อ่าๆๆ...เดวจะลองไปขอยืมบล๊อกหัวเทียนจาช่างแถวๆบ้านแล้วจะลองถอดออกมาดู...ว่าจะเป็นไรหรือป่าว...หวังว่าคงโชคดีเช่นกัน
...
ครั้งที่แล้วอยู่โรงเรียนหลังเลิกเรียนเห็นน้ำม้นมันซึมออกฝาวาล์นิดๆ...หาประแจมาเลยเปิดฝาวาล์ลองดูประเก็นแต่ไม่มีกาวยาประเก็นก็เลยปิดไปงั้นๆแหละ....กะว่าจะมันยังซึมอีกเดวจะซื้อกาวมาทา...แต่เท่าที่ใส่แระก็ไม่เห็นแระ....แต่ก็มีตรงซีลจานจ่ายไม่กล้า...เดวถอดออกมาจะกลับบ้านไม่ได้...รอไปหาช่างดีก่า...ฮ่าๆๆ...ถ้ามีวิธีถอดก็ขอความรู้หน่อยละกันครับ..ฮ่าๆๆ...ขอบคุณครับ..
บันทึกการเข้า

ครูหนุ่มอยู่ปายดอย...คอยรัก...
ko2011
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 357


แรกกว่าก็แซงไป..


« ตอบ #71 เมื่อ: 19 กันยายน 2011, 15:48:19 »

มะกล้าถอดคับกลัวญี่บุ่นทำเกิน แค่รู้ว่าความทำอะไรรื้อตรงไหนแต่ให้ทำก็คงทำไม่เป็นอะคับ...เดี๋ยวมันเกิน 55

ไงก็สู้ๆคับ
บันทึกการเข้า
Chaowaluk_Lxi
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 71



« ตอบ #72 เมื่อ: 19 กันยายน 2011, 15:59:24 »

มะกล้าถอดคับกลัวญี่บุ่นทำเกิน แค่รู้ว่าความทำอะไรรื้อตรงไหนแต่ให้ทำก็คงทำไม่เป็นอะคับ...เดี๋ยวมันเกิน 55

ไงก็สู้ๆคับ

ครับ..ไอ้ที่เกินความสามารถก็ไม่กล้าหรอกครับ...ไอ้ที่พอถอดได้ก็จาลองถอด..ฮ่าๆ...เรียนรู้กันไป...ฮ่าๆๆ...กัวเหมือนกันครับ....
บันทึกการเข้า

ครูหนุ่มอยู่ปายดอย...คอยรัก...
ham_ter
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 9,223



« ตอบ #73 เมื่อ: 19 กันยายน 2011, 17:00:12 »

ครับ..ไอ้ที่เกินความสามารถก็ไม่กล้าหรอกครับ...ไอ้ที่พอถอดได้ก็จาลองถอด..ฮ่าๆ...เรียนรู้กันไป...ฮ่าๆๆ...กัวเหมือนกันครับ....
    น้ำยังหายอยู่หรือเปล่า จะเข้ามาก็บอกเน้อ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

Chaowaluk_Lxi
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 71



« ตอบ #74 เมื่อ: 19 กันยายน 2011, 19:20:51 »

    น้ำยังหายอยู่หรือเปล่า จะเข้ามาก็บอกเน้อ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ

หลังจากเปลี่ยนหม้อมารู้สึกดีขึ้นนะครับ...มันค่อนข้างจะเกือบปกติ...อ่าๆๆ...เริ่มใจชื่นขึ้นมาหน่อย....แต่ยังไม่แน่ใจกะลังอยู่ในขั้นทดสอบอยู่ครับ...ยังไม่ได้ลองวิ่งยาวๆๆ  วิ่งยาวสุดก็แค่สี่สิบห้าสิบโล
เดวจะลองวิ่งสักร้อยกว่าโลครับ....ทดสอบก่อนละกันครับ...แต่ถ้าลงไปคงไปล้างปีกผีเสื้อ...แล้วเปลี่ยนซีลจานจ่ายครับ..ถ้าลงไปจะบอกครับ...ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

ครูหนุ่มอยู่ปายดอย...คอยรัก...
Regis100
ม่อนเงาะ ณ เชียงใหม่
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18,639


ผมก็แค่ผู้โง่เขลาคนนึงที่พยายามอยากฉลาด@ เชียงใหม่เจ้า


« ตอบ #75 เมื่อ: 19 กันยายน 2011, 21:37:24 »

ถ้าน้ำในหม้อพักหายไปซัก เซนสองเซน ก็ปกติครับ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ มันร้อนๆเย็นก็ต้องมีหายบ้าง แต่ถ้าหายไป เซนสองเซนทุกวันอันนี้ไม่ปกติล่ะ
บันทึกการเข้า

ค้นคำตอบก่อนรอคำตอบนะครับ พิมพ์ไว้เยอะแล้ว หาอ่านกันดู
เชื่อผมไม่เชื่อผมไม่มีปัญหา
ko2011
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 357


แรกกว่าก็แซงไป..


« ตอบ #76 เมื่อ: 21 กันยายน 2011, 08:49:25 »

ของผมมะวานถ่ายน้ำใหม่ ใส่น้ำเขียวลงไปกาจุดรั่วๆ    ม้อพักน้ำเกือบแห้ง.....(เข้าข้างตัวเอง....เราไม่ไล่อากาศ...เลยหายเยอะ) ลอยรั่วยังไม่เจอ....หายรอบนี้..ชัวแน่ๆ...แต่  นมค. ยังสีเดิมไม่มีน้ำเข้ามา.....
บันทึกการเข้า
cyu
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,713



« ตอบ #77 เมื่อ: 21 กันยายน 2011, 08:52:11 »

ถ้าน้ำในหม้อพักหายไปซัก เซนสองเซน ก็ปกติครับ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ มันร้อนๆเย็นก็ต้องมีหายบ้าง แต่ถ้าหายไป เซนสองเซนทุกวันอันนี้ไม่ปกติล่ะ

ของผมหาย เหมือนกันนะ ยุบไปวันละหน่อย กำลัง กลัวๆอยุ่ แถมมี ตะกอนจากไหนมาก้ไม่รุ้ คาดว่ามาจากในเครื่อง ที่ เปนคูลแล้นน สีเขียวๆ ตอนนี้หม้อพักกลายเป็น สี ขุ่นไปละ  เห้อออ
บันทึกการเข้า

แอบแซงเพราะแรงน้อย

https://www.facebook.com/cyu.boonyawat
ko2011
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 357


แรกกว่าก็แซงไป..


« ตอบ #78 เมื่อ: 21 กันยายน 2011, 09:23:21 »

ใช่คับมะก่อนน้ำผมก็ใสหลังจากฮีทมา 1 รอบ ไปล้างม้อน้ำทะลวง....น้ำขุ่นตลอดเหมือนน้ำไหลมาจากภูเขาเลย....
บันทึกการเข้า
cyu
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,713



« ตอบ #79 เมื่อ: 21 กันยายน 2011, 09:25:22 »

ใช่คับมะก่อนน้ำผมก็ใสหลังจากฮีทมา 1 รอบ ไปล้างม้อน้ำทะลวง....น้ำขุ่นตลอดเหมือนน้ำไหลมาจากภูเขาเลย....

งั้น ก้เป็น ไปได้ ว่ารถผมก้เคยฮีทอะสิ เศร้า เศร้า เศร้า
บันทึกการเข้า

แอบแซงเพราะแรงน้อย

https://www.facebook.com/cyu.boonyawat
หน้า: 1 [2] 3 ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: เครื่องเดิมๆ EG 4D รหัสอะไร
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2009, Simple Machines -->
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |