พ่อค้าเปิดศึกต่อย- ถีบพระต่างถิ่น เหตุทับเส้นทาง บิณฑบาตพระหลานชาย
[size=11]ภาพประกอบจาก Internet[/size]พระคุณเจ้าจากแปดริ้ว มาจำวัดในเมืองกรุงได้ 2 วัน ออกบิณฑบาตไปหน้าตลาด ถูกพ่อค้าขายข้าวใส่บาตรชกต่อยและถีบซ้ำ เจ้าตัวเชื่อสาเหตุ ไปบิณทบาตทับเส้นทางพระหลานชายพ่อค้าเข้า วันนี้ (16 ส.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. ร.ต.ท.ปัญญา สันธานเดชา ร้อยเวร สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทกัน บริเวณหน้าตลาดอมรพันธ์ 9 ถนนเสนานิคม แขวงและเขตลาดพร้าว จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ชัยรัตน์ หิรัญบูรณะ รอง สว.สส.สน.โชคชัย
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าตลาดอมรพันธ์ 9 พบพระเริงชัย อมรรัตน์ อายุ 45 ปี กำลังยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในสภาพใบหน้าบวมปูด ปากเจ่อ พร้อมกับแจ้งว่าถูก นายสำรวม อุบลจินดา อายุ 41 ปี พ่อค้าขายอาหารและดอกไม้สำหรับใส่บาตร ที่ตั้งแผงขายอยู่บริเวณที่เกิดเหตุชกเข้าที่ใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นตัวทั้ง 2 ฝ่าย พบว่าต่างก็พกอาวุธมีดปอกผลไม้ด้วยกันทั้งคู่ เบื้องต้นจึงพาตัวสอบสวนที่ สน.โชคชัย
จากการสอบสวนพระเริงชัยให้การว่า ตนเป็นพระลูกวัดลาดบัวขาว อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา แต่มาจำวัดอยู่ที่วัดลาดปลาเค้าได้ประมาณ 2 วัน โดยก่อนเกิดเหตุได้เดินมาบิณฑบาตที่บริเวณหน้าตลาดอมรพันธ์ 9 ระหว่างนั้นได้มีชาวบ้านมาบอกว่านายสำรวมซึ่งขายอาหารและดอกไม้สำหรับใส่บาตร นินทาว่าตนไม่ใช่พระ และเป็นบ้า จึงเดินเข้าไปสอบถามนายสำรวมทำให้เกิดการโต้เถียงกันขึ้นถึงขั้นจะลงไม้ลงมือ ตนจึงหยิบมีดปอกผลไม้ห่อพลาสติกที่พกไว้ในย่ามออกมาถือ แต่ยังไม่ได้แกะพลาสติกออกมา โดยนายสำรวมได้เข้ามาบิดข้อมือและแย่งมีดออกไป ขณะนั้นได้มีชาวบ้านเข้ามาห้ามปราม ตนจึงเก็บของเพื่อเตรียมตัวกลับวัด แต่จังหวะที่ตนยังไม่ได้ตั้งหลัก นายสำรวมได้เดินตรงเข้ามาชก 3-4 ครั้ง และถีบซ้ำอีก 1 ครั้ง จนล้มลงกับพื้น จากนั้นจึงตัดสินใจเข้าความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย
พระเริงชัย ให้การต่อว่า สาเหตุที่ตนถูกทำร้ายครั้งนี้น่าจะมาจากที่ตนมาบิณฑบาตทับเส้นทางกับพระรูปหนึ่งของวัดสาครสุ่นประชาสรรค์ ซึ่งเป็นหลานชายของนายสำรวม และจะมายืนรอบิณฑบาตบริเวณหน้าตลาดอมรพันธ์ 9 เป็นประจำ แต่เมื่อตนเดินบิณฑบาตผ่านมาแถวนี้บ้าง ก็มีชาวบ้านมาใส่บาตรเช่นกัน อาจจะทำให้นายสำรวมไม่พอใจที่ชาวบ้านไม่ค่อยใส่บาตรกับพระหลานชายเช่นเดิม ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านก็ยังมีชาวบ้านมาถวายสังฆทานกับตนอยู่ และที่ผ่านมาทราบว่านายสำรวมมักจะนำอาหารที่พระบิณฑบาตได้ไปขายให้กับคนงานก่อสร้างในช่วงเย็น ราคาถุงละ 3-5 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ปรับทั้ง 2 ฝ่าย เป็นเงินคนละ 100 บาท ฐานพกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร หลังจากนั้นพระเริงชัยได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายสำรวมเพิ่มเติม ข้อหาทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งตัวไปตรวจสอบร่างกายที่ รพ.เปาโลสยาม โดยแพทย์ระบุว่าพบรอยฟกช้ำบริเวณแก้มซ้าย ต้นแขนซ้ายและด้านหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
ที่มา: ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์
16 สิงหาคม 2550 17:13 น.