ถามเพื่อเป็นความรู้เรื่องโอเวอร์ฮอล+แก๊ส

[klottaninyo]

ถ้าจะทำโอเวอร์ฮอลเครื่องเนื่องจากเครื่องเริ่มมีอาการกินน้ำมันเครื่องผิดปกติจะถามว่ามันจะมีผลต่อการทำงานของแก๊สป่าวครับและต้องทำอะไรกับแก๊สมั่งป่าว

[cyu]

ถ้าจะทำโอเวอร์ฮอลเครื่องเนื่องจากเครื่องเริ่มมีอาการกินน้ำมันเครื่องผิดปกติจะถามว่ามันจะมีผลต่อการทำงานของแก๊สป่าวครับและต้องทำอะไรกับแก๊สมั่งป่าว

ไม่น่ามีผลกับแก้สนะคับ อย่างมากก้แค่จูนแก้สใหม่ เหมือนน้ำมันแหละครับ ว่าแต่ถ้ามันแพงมากๆ ก้ลองมองเชียงกงน่าจะดีนะคับ

[su_wit]

ไม่น่ามีผลกับแก้สนะคับ อย่างมากก้แค่จูนแก้สใหม่ เหมือนน้ำมันแหละครับ ว่าแต่ถ้ามันแพงมากๆ ก้ลองมองเชียงกงน่าจะดีนะคับ

วางเครื่องใหม่ครับ โอเวอร์ฮอลราคาไกล้เคียงกัน เพิ่มเงินอีกนิดได้เครื่องใหม่

[srithanon]

ถามว่า  การทำโอเวอร์ฮอลใหม่   จะมีผลกับระบบแก็สหรือไม่?
ตอบว่า   มีผลอย่างมากครับ  โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่ติดตั้งแก็สระบบดูด  หรือหัวฉีด  หรือระบบน้ำมัน  มีผลทั้งหมด  เครื่องยนต์ที่ผ่านการใช้งานมามาก  ทำให้แหวนและลูกสูบ  ผิวผนังกระบอกสูบ สึกหรอ ทำให้กำลังอัดของเครื่องยนต์ตก  เครื่องยนต์ไม่ว่าจะเป็นระบบน้ำมันหรือระบบแก็ส  หากกำลังอัดของเครื่องยนต์ตก จะทำให้แรงดูดหรือ Vacuum ที่ท่อไอดี ตกลง ทำให้ระบบการคอนโทรล ของ Vacuum sensor  or Map sensor  ที่กำหนดค่า default ที่เปลี่ยนค่าแรงดูดของ Vacuum ที่ได้จากกำลังอัดที่สมบูรณ์ในการผลิต  แล้วเปลี่ยนเป็นโวลเต็จ โวลเต็จที่ได้นี้ จะถูกโปรแกรมลงใน ECU และ ECU จะกำหนดระยะเวลาในการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหมาะกับอัตราส่วนผสม  ระหว่างอากาศกับน้ำมันให้กับเครื่องยนต์ทำงานในจังหวะรอบเดินเบา 
หากกำลังอัดของเครื่องยนต์ตกลงมาจากสาเหตุเครื่องหลวม   จะทำให้แรงดูดของแว็คคั่มที่กระทำต่อตัว Vacuum sensor มี โวลเต็จเปลี่ยนไป  เป็นผลให้โปรแกรมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ในครั้งผิดไป ทำให้อัตราส่วนผสมในการจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ในจังหวะรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ เป็นผลให้กำลังเครื่องยนต์ตกในจังหวะรอบเดินเบา หากเราใช้โหลดเช่นเปิดแอร์ รอบเครื่องจะตกและสวิง   อยากจะให้ยแกประเด็นเรื่องการคอนโทรลรอบเดินเบาโดยระบบอากาศช่วยรอบเดินเบา  ที่ควบคุมด้วย สเต็ปมอเตอร์ หรือโรตารี่โซลินอยวาวล์  (ใน CIVIC EK ตาโต ใช้โรตารี่โซลินอยวาวล์)
สำหรับเครื่องยนต์ที่หลวมหากนำไปใช้กับระบบแก็ส จะมีผลอย่างมากโดยเฉพาะระบบดูด เพราะระบบดูด หรือ Fix mixer จะอาศัยแรงดูดหรือแว็คคั่มจากท่อไอดี ไปสร้างแรงดูดให้แผ่นไดอะแฟรมของหม้อต้มแก็ส เกิดแรงกดก้านกระเดื่องวาวล์ฉิ่งโดยเฉพาะในรอบเดินเบา  ที่ต้องอาศัยแรงดูดที่สม่ำเสมอ ที่มาจากกำลังอัดของเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์ เมื่อค่าแรงดูดที่ท่อไอดี stable จะทำให้การปรับตัว ไอเดิลของหม้อต้มให้เกิดการ balance ระหว่างแรงกดของแผ่นไดอะแฟรม  กับสปริงของตัวไอเดิล  ที่ปรับให้การเปิดของวาวล์ฉิ่งฉับ  สมดุลในจังหวะรอบเดินเบา  ส่วนในรอบอัตราเร่งของเครื่องยนต์  แน่นอนที่แรงกดของแผ่นไดอะแฟรมจะชนะแรงต้านของสปริงตัวไอเดิล  ทำให้วาวล์ฉิ่งฉับเปิดเต็มที่  เพื่อให้ไอแก็สไหลเต็มที่ในรอบเครื่องยนต์ที่ใช้รอบสูง
หากแรงดูดของแว็คคั่มในท่อไอดีมีค่าแรงดูดไม่สม่ำเสมอ อันมาจากสาเหตุเครื่องหลวม แรงดูดของแว็คคั่มจะไม่คงที่ เพราะกำลังอัดในกระบอกสูบรั่ว   ในรอบเดินเบาจะมีคาบเวลาการขึ้นลงของลูกสูบช้า  ทำให้แรงอัดในกระบอกสูบมีโอกาสรั่วได้มากกว่า  การเคลื่อนในรอบเครื่องยนต์สูงๆ  มันจึงทำให้แรงดูดที่ได้จากท่อไอดีไม่คงที่ เมื่อนำเอาแรงดูดที่ได้นี้มาสร้างแรงกดของแผ่นไดอะแฟรมหม้อต้มแก็ส มันจึงสวิงตามไปด้วย 
ดังนั้นเครื่องยนต์ที่หลวมอันมาจากการใช้งานมานาน ก็จะมีผลตามที่ผมกล่าว  ทางที่ดีไม่ว่าจะเป็นระบบน้ำมันหรือแก็ส  ควรอย่างยิ่งที่จะต้องทำให้กำลังอัดของเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์ไว้ก่อน   กำลังอัดของเครื่องยนต์ไม่ได้มีปัจจัยเรื่องแหวนลูกสูบ ลูกสูบ  หรือผนังกระบอกสูบหลวมอย่างเดียวเท่านั้น  การที่จะให้เครื่องยนต์มีกำลังที่ดี  จะต้องประกอบไปด้วยระบบไฟในการจุดระเบิดที่หัวเทียน ระบบน้ำมัน  ระบบอากาศ ต้องมีความสมบูรณ์เช่นเดียวกันครับ
หากจะถามว่าเครื่องยนต์ที่จะทำโอเวอร์ฮอล กับเครื่องมือสอง  อย่างไหนจะคุ้มกว่า  ก็แล้วแต่ท่านเจ้าของรถ  หากโอเวอร์ฮอล ก็ควรจะได้ช่างที่ดี อะไหล่ของแท้ ก็จะได้เครื่องยนต์ที่ใช้ไปอีกนาน  สำหรับเครื่องมือสองก็ขึ้นอยู่กับโชคเหมือนกัน หากเลือกได้เครื่องไม่ค่อยดีก็จะใช้ได้ไม่นานก็ต้องซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่
หากได้ช่างที่มีประสบการณ์เลือกให้ ก็คุ้มครับ  โยนหัวโยนก้อยเอาก็แล้วกันครับ….srithanon

[ham_ter]

ถามว่า  การทำโอเวอร์ฮอลใหม่   จะมีผลกับระบบแก็สหรือไม่?
ตอบว่า   มีผลอย่างมากครับ  โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่ติดตั้งแก็สระบบดูด  หรือหัวฉีด  หรือระบบน้ำมัน  มีผลทั้งหมด  เครื่องยนต์ที่ผ่านการใช้งานมามาก  ทำให้แหวนและลูกสูบ  ผิวผนังกระบอกสูบ สึกหรอ ทำให้กำลังอัดของเครื่องยนต์ตก  เครื่องยนต์ไม่ว่าจะเป็นระบบน้ำมันหรือระบบแก็ส  หากกำลังอัดของเครื่องยนต์ตก จะทำให้แรงดูดหรือ Vacuum ที่ท่อไอดี ตกลง ทำให้ระบบการคอนโทรล ของ Vacuum sensor  or Map sensor  ที่กำหนดค่า default ที่เปลี่ยนค่าแรงดูดของ Vacuum ที่ได้จากกำลังอัดที่สมบูรณ์ในการผลิต  แล้วเปลี่ยนเป็นโวลเต็จ โวลเต็จที่ได้นี้ จะถูกโปรแกรมลงใน ECU และ ECU จะกำหนดระยะเวลาในการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหมาะกับอัตราส่วนผสม  ระหว่างอากาศกับน้ำมันให้กับเครื่องยนต์ทำงานในจังหวะรอบเดินเบา 
หากกำลังอัดของเครื่องยนต์ตกลงมาจากสาเหตุเครื่องหลวม   จะทำให้แรงดูดของแว็คคั่มที่กระทำต่อตัว Vacuum sensor มี โวลเต็จเปลี่ยนไป  เป็นผลให้โปรแกรมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ในครั้งผิดไป ทำให้อัตราส่วนผสมในการจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ในจังหวะรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ เป็นผลให้กำลังเครื่องยนต์ตกในจังหวะรอบเดินเบา หากเราใช้โหลดเช่นเปิดแอร์ รอบเครื่องจะตกและสวิง   อยากจะให้ยแกประเด็นเรื่องการคอนโทรลรอบเดินเบาโดยระบบอากาศช่วยรอบเดินเบา  ที่ควบคุมด้วย สเต็ปมอเตอร์ หรือโรตารี่โซลินอยวาวล์  (ใน CIVIC EK ตาโต ใช้โรตารี่โซลินอยวาวล์)
สำหรับเครื่องยนต์ที่หลวมหากนำไปใช้กับระบบแก็ส จะมีผลอย่างมากโดยเฉพาะระบบดูด เพราะระบบดูด หรือ Fix mixer จะอาศัยแรงดูดหรือแว็คคั่มจากท่อไอดี ไปสร้างแรงดูดให้แผ่นไดอะแฟรมของหม้อต้มแก็ส เกิดแรงกดก้านกระเดื่องวาวล์ฉิ่งโดยเฉพาะในรอบเดินเบา  ที่ต้องอาศัยแรงดูดที่สม่ำเสมอ ที่มาจากกำลังอัดของเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์ เมื่อค่าแรงดูดที่ท่อไอดี stable จะทำให้การปรับตัว ไอเดิลของหม้อต้มให้เกิดการ balance ระหว่างแรงกดของแผ่นไดอะแฟรม  กับสปริงของตัวไอเดิล  ที่ปรับให้การเปิดของวาวล์ฉิ่งฉับ  สมดุลในจังหวะรอบเดินเบา  ส่วนในรอบอัตราเร่งของเครื่องยนต์  แน่นอนที่แรงกดของแผ่นไดอะแฟรมจะชนะแรงต้านของสปริงตัวไอเดิล  ทำให้วาวล์ฉิ่งฉับเปิดเต็มที่  เพื่อให้ไอแก็สไหลเต็มที่ในรอบเครื่องยนต์ที่ใช้รอบสูง
หากแรงดูดของแว็คคั่มในท่อไอดีมีค่าแรงดูดไม่สม่ำเสมอ อันมาจากสาเหตุเครื่องหลวม แรงดูดของแว็คคั่มจะไม่คงที่ เพราะกำลังอัดในกระบอกสูบรั่ว   ในรอบเดินเบาจะมีคาบเวลาการขึ้นลงของลูกสูบช้า  ทำให้แรงอัดในกระบอกสูบมีโอกาสรั่วได้มากกว่า  การเคลื่อนในรอบเครื่องยนต์สูงๆ  มันจึงทำให้แรงดูดที่ได้จากท่อไอดีไม่คงที่ เมื่อนำเอาแรงดูดที่ได้นี้มาสร้างแรงกดของแผ่นไดอะแฟรมหม้อต้มแก็ส มันจึงสวิงตามไปด้วย 
ดังนั้นเครื่องยนต์ที่หลวมอันมาจากการใช้งานมานาน ก็จะมีผลตามที่ผมกล่าว  ทางที่ดีไม่ว่าจะเป็นระบบน้ำมันหรือแก็ส  ควรอย่างยิ่งที่จะต้องทำให้กำลังอัดของเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์ไว้ก่อน   กำลังอัดของเครื่องยนต์ไม่ได้มีปัจจัยเรื่องแหวนลูกสูบ ลูกสูบ  หรือผนังกระบอกสูบหลวมอย่างเดียวเท่านั้น  การที่จะให้เครื่องยนต์มีกำลังที่ดี  จะต้องประกอบไปด้วยระบบไฟในการจุดระเบิดที่หัวเทียน ระบบน้ำมัน  ระบบอากาศ ต้องมีความสมบูรณ์เช่นเดียวกันครับ
หากจะถามว่าเครื่องยนต์ที่จะทำโอเวอร์ฮอล กับเครื่องมือสอง  อย่างไหนจะคุ้มกว่า  ก็แล้วแต่ท่านเจ้าของรถ  หากโอเวอร์ฮอล ก็ควรจะได้ช่างที่ดี อะไหล่ของแท้ ก็จะได้เครื่องยนต์ที่ใช้ไปอีกนาน  สำหรับเครื่องมือสองก็ขึ้นอยู่กับโชคเหมือนกัน หากเลือกได้เครื่องไม่ค่อยดีก็จะใช้ได้ไม่นานก็ต้องซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่
หากได้ช่างที่มีประสบการณ์เลือกให้ ก็คุ้มครับ  โยนหัวโยนก้อยเอาก็แล้วกันครับ….srithanon

    คุณพี่ถามหน่อย รถเราถ้าจูนแก๊สหนาจะวิ่งรอบสูงๆดี ปลายดี แต่ถ้าใช้น้ำมันไฟจะโชว์ แต่ใช้แก๊สไม่โชว์
ถ้าจูนบางหน่อยพอวิ่งดี แต่ไม่ค่อยจะแรง ไฟจะไม่โชว์ทั้งแก๊สและน้ำมัน
    เคยเช็คโค้ดแล้วถ้าจำไม่ผิดจะเป็นที่ แม็ปเซนเซอร์ ใช่ป่าวหว่า ที่อยู่ตรงท่อดูดอากาศอ่ะ
แต่ไม่รู้แก้ไงดี เพราะมันจะโชว์ตอนจูนหนา แต่จูนบางไม่เป็น พี่ว่า ทำไงดีเนี่ย

[srithanon]

กำลังจะเข้าไปโพสภาพลาวเหนือต่อ      เลยแวะมาดูกระทู้ เห็นคุณ ham_ter มีคำถาม เรื่องการจูนแก็สหนาบาง มีไฟรูปเอ็นจิ้นติดโชว์
ปกติแล้วการจูนแก็สหนา  ในระบบดูด จะทำให้แก็สมีปริมาณเพียงพอกับอัตราส่วนผสมในรอบเครื่องยนต์สูงๆ  ทำให้รถมีกำลังวิ่งดี แต่มีผลเสียในรอบเดินเบา  จะมีอัตราส่วนผสมหนา  การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์  รถไม่มีกำลัง  แถมเวลาดับเครื่องยนต์แล้วสตาร์ทเครื่องจะติดยาก 
 การที่มีอัตราส่วนแก็สหนาในส่วนผสม  ทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ มีอ๊อกซิเจนหลงเหลือตกค้างในท่อไอเสีย  ไฟรูปเครื่องยนต์ก็ติดโชว์
ในทำนองเดียวกันหากปรับให้มีแก็สในส่วนผสมน้อย  การจุดระเบิดก็ไม่สมบูรณ์เช่นกัน  แต่ในกรณีที่มีแก็สน้อยหรือส่วนผสมบาง  จะมีผลทำให้เกิด Fire back ที่ท่อไอดี เนื่องจากอัตราส่วนผสมมีแก็สน้อยกว่าอากาศ   อากาศอ๊อกซิเจน เป็นตัวช่วยให้ติดไฟได้ง่ายและมีความร้อนสูง ทำให้เกืดการชิงจุดระเบิดก่อนที่จะเข้าสู่ห้องสูบ  ทั้งนี้ยังเป็นผลให้เครื่องยนต์มีอุณหภูมิความร้อนสูงกว่าปกติ  ในระบบหล่อเย็นของเครื่องยนต์
ที่บอกว่าเวลาจูนแก็สบางในอัตราส่วนผสม  ทำให้ไฟรูปเครื่องยนต์ไม่ติด  ทั้งระบบน้ำมันและแก็ส  หากจะพูดถึงการทำงานของเครื่องยนต์ในระบบแก็ส จะไม่มีผลต่อระบบน้ำมัน  หมายความว่าเมื่อสลับมาใช้ระบบน้ำมัน จะต้องปกติ คือไม่มีไฟโชว์ให้เห็น
แต่เวลาที่คุณ ham_ter จูนแกสให้หนา ในขณะใช้รถแล้วสลับมาใช้ระบบน้ำมันทันที  หรือในกรณีที่สตาร์ทเครื่องอยู่ในรอบเดินเบาด้วยระบบแก็ส แล้วสลับมาใช้ระบบน้ำมันทันที    ไฟรูปเครื่องยนต์ก็จะติดทันที่   ทั้งนี้เพราะว่าในระบบท่อไอดียังคงมีแก็สตกค้าง และเมื่อสลับมาใช้ระบบน้ำมัน  ก็จะยิ่งมีอัตราส่วนผสมหนา  คือมีทั้งแก็สที่ตกค้างและน้ำมันผสมรวมกัน  ทำให้อัตราส่วนผสมในขณะนั้นหนา มีเชื้อเพลิงแก็สบวกน้ำมันมากกว่าอากาศ  การจุดระเบิดก็ไม่สมบูรณ์  ผลก็คือไฟรูปเครื่องโชว์   และมันจะโชว์ตลอดในการใช้ระบบน้ำมัน   หากเป็นดังนี้ให้คุณดับเครื่องยนต์ แล้วสตาร์ทเครื่องด้วยระบบน้ำมันใหม่อีกครั้ง   หากยังคงติดอีก  ให้ทำการถอดขั่วบวกของแบ็ตเตอรี่ออก สักครู่แล้ค่อยต่อกลับ  เพื่อทำการรีเซ็ท ECU จากนั้นค่อยสตาร์ทเครื่องยนต์ในระบบน้ำมัน ไฟรูปเครื่องยนต์ก็จะไม่ติด  ทดลองทำดูครับ
เครื่องยนต์ที่ใช้ระบบน้ำมันจะไม่มีผลกับการปรับจูนระบบแก็ส  มันต่างระบบกัน  ยกเว้นจะเป็นตามที่ผมกล่าวมา.....srithanon

[cyu]

เข้ามาอ่านละได้ความรุ้ขี้นอีกเยอะเลยคับ

[ham_ter]

กำลังจะเข้าไปโพสภาพลาวเหนือต่อ      เลยแวะมาดูกระทู้ เห็นคุณ ham_ter มีคำถาม เรื่องการจูนแก็สหนาบาง มีไฟรูปเอ็นจิ้นติดโชว์
ปกติแล้วการจูนแก็สหนา  ในระบบดูด จะทำให้แก็สมีปริมาณเพียงพอกับอัตราส่วนผสมในรอบเครื่องยนต์สูงๆ  ทำให้รถมีกำลังวิ่งดี แต่มีผลเสียในรอบเดินเบา  จะมีอัตราส่วนผสมหนา  การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์  รถไม่มีกำลัง  แถมเวลาดับเครื่องยนต์แล้วสตาร์ทเครื่องจะติดยาก 
 การที่มีอัตราส่วนแก็สหนาในส่วนผสม  ทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ มีอ๊อกซิเจนหลงเหลือตกค้างในท่อไอเสีย  ไฟรูปเครื่องยนต์ก็ติดโชว์
ในทำนองเดียวกันหากปรับให้มีแก็สในส่วนผสมน้อย  การจุดระเบิดก็ไม่สมบูรณ์เช่นกัน  แต่ในกรณีที่มีแก็สน้อยหรือส่วนผสมบาง  จะมีผลทำให้เกิด Fire back ที่ท่อไอดี เนื่องจากอัตราส่วนผสมมีแก็สน้อยกว่าอากาศ   อากาศอ๊อกซิเจน เป็นตัวช่วยให้ติดไฟได้ง่ายและมีความร้อนสูง ทำให้เกืดการชิงจุดระเบิดก่อนที่จะเข้าสู่ห้องสูบ  ทั้งนี้ยังเป็นผลให้เครื่องยนต์มีอุณหภูมิความร้อนสูงกว่าปกติ  ในระบบหล่อเย็นของเครื่องยนต์
ที่บอกว่าเวลาจูนแก็สบางในอัตราส่วนผสม  ทำให้ไฟรูปเครื่องยนต์ไม่ติด  ทั้งระบบน้ำมันและแก็ส  หากจะพูดถึงการทำงานของเครื่องยนต์ในระบบแก็ส จะไม่มีผลต่อระบบน้ำมัน  หมายความว่าเมื่อสลับมาใช้ระบบน้ำมัน จะต้องปกติ คือไม่มีไฟโชว์ให้เห็น
แต่เวลาที่คุณ ham_ter จูนแกสให้หนา ในขณะใช้รถแล้วสลับมาใช้ระบบน้ำมันทันที  หรือในกรณีที่สตาร์ทเครื่องอยู่ในรอบเดินเบาด้วยระบบแก็ส แล้วสลับมาใช้ระบบน้ำมันทันที    ไฟรูปเครื่องยนต์ก็จะติดทันที่   ทั้งนี้เพราะว่าในระบบท่อไอดียังคงมีแก็สตกค้าง และเมื่อสลับมาใช้ระบบน้ำมัน  ก็จะยิ่งมีอัตราส่วนผสมหนา  คือมีทั้งแก็สที่ตกค้างและน้ำมันผสมรวมกัน  ทำให้อัตราส่วนผสมในขณะนั้นหนา มีเชื้อเพลิงแก็สบวกน้ำมันมากกว่าอากาศ  การจุดระเบิดก็ไม่สมบูรณ์  ผลก็คือไฟรูปเครื่องโชว์   และมันจะโชว์ตลอดในการใช้ระบบน้ำมัน   หากเป็นดังนี้ให้คุณดับเครื่องยนต์ แล้วสตาร์ทเครื่องด้วยระบบน้ำมันใหม่อีกครั้ง   หากยังคงติดอีก  ให้ทำการถอดขั่วบวกของแบ็ตเตอรี่ออก สักครู่แล้ค่อยต่อกลับ  เพื่อทำการรีเซ็ท ECU จากนั้นค่อยสตาร์ทเครื่องยนต์ในระบบน้ำมัน ไฟรูปเครื่องยนต์ก็จะไม่ติด  ทดลองทำดูครับ
เครื่องยนต์ที่ใช้ระบบน้ำมันจะไม่มีผลกับการปรับจูนระบบแก็ส  มันต่างระบบกัน  ยกเว้นจะเป็นตามที่ผมกล่าวมา.....srithanon

    อ้อ มันคือแก๊สค้างทำให้ ส่วนผสมหนา ไฟเลยติดนี่เอง ขอบคุณจ้า

เพราะตอนนี้ ถ้าวิ่งแก๊สแล้วกลับไปใช้น้ำมันแล้วไฟติด ดับเครื่องสตาร์ทใหม่แล้วไฟหายจริงๆด้วย
    แล้วพี่ว่า ปล่อยไว้ดี หรือว่า ปรับให้บางลงดี

[cyu]

    อ้อ มันคือแก๊สค้างทำให้ ส่วนผสมหนา ไฟเลยติดนี่เอง ขอบคุณจ้า

เพราะตอนนี้ ถ้าวิ่งแก๊สแล้วกลับไปใช้น้ำมันแล้วไฟติด ดับเครื่องสตาร์ทใหม่แล้วไฟหายจริงๆด้วย
    แล้วพี่ว่า ปล่อยไว้ดี หรือว่า ปรับให้บางลงดี

หาร้านจูนให้พอดีสิ ข้อเสียของมิกเปนแบบนี้แหล่ะนะ  ได้อย่างเสียอย่าง อย่าให้มันบางเกิน เดียว งาน จะตามเข้ามาติดๆ

[ham_ter]

หาร้านจูนให้พอดีสิ ข้อเสียของมิกเปนแบบนี้แหล่ะนะ  ได้อย่างเสียอย่าง อย่าให้มันบางเกิน เดียว งาน จะตามเข้ามาติดๆ

     พอดีว่าถ้าจูนแค่พอดีๆ น่ะมันทำยาก แบบดูดมันใช้แค่ความรู้สึก
ถ้าจูนแค่พอดีๆ น่ะ แล้วอีกอย่าง จูนแค่พอดีๆ สักเดือนก็จูนใหม่อยู่ดี เลยลองไปเรื่อยๆไง ว่าแบบไหนดีสุด

[cyu]

     พอดีว่าถ้าจูนแค่พอดีๆ น่ะมันทำยาก แบบดูดมันใช้แค่ความรู้สึก
ถ้าจูนแค่พอดีๆ น่ะ แล้วอีกอย่าง จูนแค่พอดีๆ สักเดือนก็จูนใหม่อยู่ดี เลยลองไปเรื่อยๆไง ว่าแบบไหนดีสุด

ก้อย่างที่บอกแหล่ะ ชื่อมันก้บอกว่า fix mixed มันก้ ได้ระดับหนึ่ง จะให้จี๊ดขี้นมาหน่อย ต้องเพิ่ม สเตปปิ้งมอเตอร์ เลย บวก กับ แรมด้า ไม่รุ้ จะราคาใกล้ๆ เปลี่ยนเป็น หัวฉีดรึป่าว 555 เม้มตังไว้เยอะไม่ใช่หรอ จัดเรย หุหุ

[ham_ter]

ก้อย่างที่บอกแหล่ะ ชื่อมันก้บอกว่า fix mixed มันก้ ได้ระดับหนึ่ง จะให้จี๊ดขี้นมาหน่อย ต้องเพิ่ม สเตปปิ้งมอเตอร์ เลย บวก กับ แรมด้า ไม่รุ้ จะราคาใกล้ๆ เปลี่ยนเป็น หัวฉีดรึป่าว 555 เม้มตังไว้เยอะไม่ใช่หรอ จัดเรย หุหุ

    แลมด้าน่ะมีอยู่แล้ว
ส่วนหัวฉีดน่ะใจเย็นๆ รอเครื่องใหม่ก่อน
    เพราะติดตอนนี้ ประหยัดกว่าเดิมไปแค่ โลละ 30 สตางค์
ติด 30000 ต้องวิ่งอยู่ แสนโลจะคุ้มทุน ถึงตอนนั้น
    เจ๊แกคงได้รถใหม่ไปแล้ว 5555+

[cyu]

    แลมด้าน่ะมีอยู่แล้ว
ส่วนหัวฉีดน่ะใจเย็นๆ รอเครื่องใหม่ก่อน
    เพราะติดตอนนี้ ประหยัดกว่าเดิมไปแค่ โลละ 30 สตางค์
ติด 30000 ต้องวิ่งอยู่ แสนโลจะคุ้มทุน ถึงตอนนั้น
    เจ๊แกคงได้รถใหม่ไปแล้ว 5555+

งั้น ก้ใช้แบบเดิมอะดีแล้ว จูนเองเปน จะขี้นเขาก็ คลาย ครึ่งรอบ วิ่งในเมือง ก้ หมุนคืนครึ่งรอบ  ไม่งั้น ก้เพิ่ม สเตรปปิ้งมอเตอร์อย่างเดียว คงสัก สามพันมั้ง

[ham_ter]

งั้น ก้ใช้แบบเดิมอะดีแล้ว จูนเองเปน จะขี้นเขาก็ คลาย ครึ่งรอบ วิ่งในเมือง ก้ หมุนคืนครึ่งรอบ  ไม่งั้น ก้เพิ่ม สเตรปปิ้งมอเตอร์อย่างเดียว คงสัก สามพันมั้ง

    เอา 3000 ไปกิน หมู กะทะ ดี กว่า 

[cyu]

    เอา 3000 ไปกิน หมู กะทะ ดี กว่า 

ป่ะๆ กำลังอยากกิน แต่อยากกิน อาหารยี่ปุ่นงะ

ชักจะนอกเรื่องละนะ