ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
07 มิถุนายน 2025, 21:15:17
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: เรื่องของชุดคิท E85 เอามาเล่าสู่กันฟัง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องของชุดคิท E85 เอามาเล่าสู่กันฟัง  (อ่าน 3788 ครั้ง)
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« เมื่อ: 02 มีนาคม 2014, 07:57:22 »



เนื่องจากเป็นกระทู้เนื้อหาที่ยาวห  หากบางท่านที่เบื่อในการอ่าน เพราะทราบมาบ้างแล้วก็ข้ามไปเลยครับ  หากเพื่อนๆน้องๆท่านใดอยากทราบไว้พอเป็นเนื้อหาเทียบเคียงเก็บความคิดเห็นไปเพื่อความคิดเห็นต่างก็เชิญอ่านต่อได้ครับ 



การทำงานของชุดคิท E85  เป็นการสร้างสัญญาณพัลส์ให้กับหัวฉีดน้ำมัน  ให้มีระยะเวลาการเปิดวาวล์ของหัวฉีดน้ำมันเข้าห้องสูบนานขึ้นจากเดิม เพื่อให้มีปริมาณน้ำมันเข้าไปผสมกับอากาศในห้องสูบมากขึ้น   โดยการเอาสัญญาณพัลส์ของหัวฉีดเดิมที่ใช้กับน้ำมันเบนซิล หรือแกสโซฮอล 95  ไปเข้าวงจรขยายความกว้างของสัญญาณพัลส์  ให้เพิ่มช่วงคาบเวลาในการฉีดน้ำมันให้มากกว่าการใช้น้ำมันเบ็นซิล    จึงจะทำให้เกิดค่าพลังงานความร้อนเทียบเท่ากับระบบน้ำมันเบ็นซิล  เนื่องจากน้ำมัน E85 เมื่อเทียบในปริมาตรที่เท่ากันกับน้ำมันเบนซิลหรือแก็สโซฮอล 95   น้ำมัน E85 จะให้ค่าพลังงานความร้อนน้อยกว่า  จึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มปริมาณน้ำมัน E85 ในอัตราส่วนผสมให้มากกว่าระบบน้ำมันเบ็นซิล ประมาณ 20-30% ในเชิงปริมาตร  จึงเป็นที่มาของการสร้างกล่องชุดคิท E85 เข้ามาทำหน้าที่ให้วาวล์ของหัวฉีดเปิดให้น้ำมันฉีดเข้าในกระบอกสูบนานขึ้น   อาจจะมีบางท่านถามว่า แล้วทำไม ECU ของเดิมที่ติดตั้งมากับรถจึงแก้ไขช่วงคาบเวลาดังกล่าวไม่ได้  ตอบได้ดังนี้ครับ

เนื่องจาก ECU ที่มีการออกแบบให้ใช้งานในช่วงแรกๆ ของเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ ด้วยระบบสมองกล ECU  ถูกออกแบบมาครอบคลุมการใช้กับน้ำมันเบ็นซิลอย่างเดียว  ผู้ออกแบบจึงออกแบบสร้างความกว้างของสัญญาณพัลส์ ให้กับหัวฉีด ที่สามารถยืดระยะเวลาเปิดของหัวฉีด แค่ควบคุมระยะเวลา  ที่สามารถเพิ่มและลดความกว้างของสัญญาณพัลส์หัวฉีด  ให้พอเหมาะในจังหวะการปรับอัตราส่วนผสมของน้ำมัน ทั้งในรอบเดินเบาและอัตราเร่งในวงจำกัดกับการใช้น้ำมันเบ็นซิลเท่านั้น  มันจึงไม่สามารถขยายคาบเวลาออกไปนอกเหนือจากที่กำหนดได้ จึงจำเป็นต้องสร้างกล่องขยายคาบเวลาของสัญญาณหัวฉีด  มาขยายหรือยืดเวลาให้หัวฉีดทำงานเปิดวาวล์  ให้ฉีดน้ำมันได้พอดีกับอัตราส่วนผสมที่สมบูรณ์ เทียบเท่ากับระบบน้ำมันเบนซิล

ผลของการเพิ่มระยะเวลาการฉีดน้ำมัน E85 เพิ่มขึ้น ทำให้กลับเป็นผลดีกับเครื่องยนต์  เนื่องจากน้ำมัน E85 ที่เป็นเอทานอลแอลกอฮอ  มันมีส่วนประกอบของอ็อกซิเจนในองประกอบของน้ำมันเอทานอล มีปริมาณมากกว่าน้ำมันเบ็นซิล อ็อกซิเจนเป็นตัวช่วยให้ติดไฟได้ดี จึงช่วยให้การจุดระเบิดที่สมบูรณ์และสะอาด เกิดการเผาไหม้ที่นานกว่าระบบน้ำมัน   ในระบบน้ำมันเบ็นซิลจะเป็นการจุดระเบิดที่รุนแรงเพียงระยะเวลาสั้นๆ   แต่การจุดระเบิดในระบบน้ำมัน E85 กลับจุดระเบิดแบบลากยาวตลอดการเคลื่อนที่ขาลงของลูกสูบ  ทำให้เกิดแรงบิดของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น  เครื่องยนต์เดินเรียบ  แถมยังมีอุณหภูมิในเผาไหม้เย็นกว่าระบบน้ำมันเบ็นซิล    การจุดระเบิดก็สมบูรณ์ มีกาซคาร์บอนด์มอนนอ๊คไซด์น้อยกว่าระบบน้ำมันเบ็นซิล  ทำให้ห้องสูบ หัวลูกสูบ เครื่องยนต์สะอาดกว่าการใช้ระบบน้ำมันเบ็นซิล

เนื่องจากการทำงานของระบบ ชุดคิท E85 ทีผลิตออกมา เป็นเพียงการแก้คาบเวลาในการยกของหัวฉีดให้ทำงานนานขึ้น  เพื่อให้การเผาไหม้มีค่าพลังงานความร้อนจากการจุดระเบิดได้เท่ากับระบบน้ำมัน   จึงไม่ได้แก้เรื่องการปรับมุมองศาการจุดระเบิดให้เหมาะสมเท่าที่ควร คือกล่าวง่ายๆว่า ยังไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์   หากจะให้เกิดความสมบูรณ์จะต้องมีการปรับมุมองศาการจุดระเบิดให้เหมาะสมอีกด้วย
เพราะว่าในน้ำมัน E85 จะมีค่าอ๊อกเทนสูงกว่าระบบน้ำมันเบ็นซิล  ค่าอ๊อกเทนเบ็นซิล = 95  E85=105 (105-113)   ค่าอ๊อกเทนนี้ไม่ใช่ตัวสร้างกำลังให้กับเครื่องยนต์  แต่เป็นการป้องการชิงจุดระเบิดก่อนที่ลูกสูบจะเคลื่อนตัวสู่มุมองศาที่กำหนดให้มีการจุดระเบิด  ตามอัตราส่วนกำลังอัดของกระบอกสูบ   หากใช้น้ำมันที่มีค่าอ๊อกเทนต่ำกับกำลังอัดของเครื่องยนต์ที่สูง เช่นที่ 9/1 หรือ 10/1 ในเครื่องยนต์ที่มีกำลังตั้งแต่ 140 ปอนด์ต่อตารางนิ้วขึ้นไป   การใช้ค่าอ๊อกเทนที่ต่ำ มันก็จะเกิดการชิงจุดระเบิดเสียก่อน   เพราะน้ำมันที่มีค่าอ็อกเทนต่ำจะมีความไวต่ออุณหภูมิที่ไม่สูงทำให้เกิดการชิงจุดระเบิดก่อน  ในจังหวะที่ลูกสูบเคลื่อนที่อัดอากาศ ยังไม่ถึงมุมองศาที่กำหนด ให้มีการจุดระเบิด  ทำให้การจุดระเบิดในขณะนั้นได้กำลังเครื่องยนต์ต่ำ  เพราะกำลังอัดภายในกระบอกสูบยังต่ำ หรือยังไม่สูงพอตามที่กำหนด  ทำให้เครื่องยนต์เกิดอาการน๊อค   เครื่องสดุดและสั่น  เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง

ดังนั้นเมื่อใช้น้ำมัน E85 ที่มีค่าอ๊อกเทนสูง  จึงควรที่จะมีการปรับมุมองศาในการจุดระเบิดเสียใหม่  ในเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบน้ำมันเบ็นซิลหรือแกสโซฮอล 95 มาก่อน และหันมาใช้ E85   เขาจึงต้องแก้ไขเรื่ององศาการจุดระเบิดให้มีมุมองศาน้อยลงก่อนที่ลูกสูบจะเคลื่อนตัวสู่จุดศูนย์ตายบน จากเดิมในระบบน้ำมันที่ 8-10 องศา  มาเป็น 5-7 องศา  ทั้งนี้เพื่อให้ลูกสูบเคลื่อนตัวอัดอากาศให้มีกำลังอัดเพิ่มขึ้น  ก็จะทำให้การจุดระเบิดที่ได้กำลังของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น  ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องมุมองศาการจุดระเบิดนี้ต้องดูว่า  ในเครื่องยนต์แต่ระรุ่นเขามีอัตราส่วนกำลังอัดในกระบอกสูบเท่าใด  ที่จะมีการปรับมุมองศาในการจุดระเบิด  เพื่อให้เกิดความเหมาสมและพอดีสำหรับเครื่องยนต์นั้นๆ  ใช่ว่าจะตั้งเอาตามใจ  เหมือนกับการตั้งไฟแก่อ่อน ในระบบจานจ่ายมากไปน้อยไปก็ไม่ดี 
หากในชุดคิท E85 มีการปรับเรื่องมุมองศาการจุดระเบิดเพิ่มขึ้นไปด้วยก็จะทำให้ เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน E85 มีกำลังของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น 5-10%  น่าใช้มากครับ  ซึ่งในรถยนต์บางยี่ห้อ บางค่าย เขาจะนำกล่อง ECU เดิมไปติดตั้ง 2 ROM  อัพโปรแกรม ปรับระยะคาบเวลาการทำงานของหัวฉีด และแก้ไขเปลี่ยนแปลงมุมองศาการจุดระเบิดให้ใช้กับ E85 และ โซฮอล 95  ก็จะได้ใช้น้ำมัน E85 ได้สมบูรณ์และได้พลังงานสูงสุด

สำหรับบางท่านที่ไม่ได้ใช้ชุดคิท E85 แล้วหันไปเปลี่ยนหัวฉีดให้มีขนาด CC เพิ่มขึ้น จำเป็นที่จะต้องเพิ่มแรงดันของน้ำมันในรางหัวฉีดให้เพิ่มขึ้นจากเดิม  รวมถึงตัวปั้มติ๊กด้วย  เพื่อให้มีแรงดันน้ำมันผ่านหัวฉีด เกิดเป็นฝอยละอองของน้ำมันกระจายคลุกเคล้ากับอากาศได้ดี  ซึ่งเป็นผลดีต่อระบบการใช้น้ำมัน E85  ในกรณีที่สภาวะอากาศเย็นในตอนเช้าๆ  หรืออากาศในถังน้ำมัน E85 เกิดความเย็น  เราจึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มแรงดันน้ำมันในท่อรางหัวฉีดเพิ่มขึ้น และให้เหมาะสมกับหัวฉีดที่เปลี่ยนใหม่   และตัวหัวฉีดที่เปลี่ยนใหม่ควรจะหาหัวฉีดที่มีรูฉีดเพิ่มขึ้น แต่จะรูเล็กกว่า เพื่อบีบรีดน้ำมัน ให้เกิดเป็นฝอยได้มากขึ้น  หรือทำให้เกิดอนุของละอองฝอยน้ำมันมีจำนวนมากเมื่อผสมกับอากาศ ก็จะทำให้เกิดเป็นไอน้ำมันได้ง่าย เมื่อคลุกเคล้ากับอากาศในห้องสูบที่เกิดแรงอัดสูง ความร้อนที่เกิดขึ้นในห้องสูบในสภาวะนั้น ก็จะทำให้ไอน้ำมัน ที่เป็นฝอยกระจายนั้น   กลายเป็นไอน้ำมันที่สมบูรณ์ ก็จะช่วยให้มีการสตาร์ทเครื่องยนต์ติดได้ง่าย ในตอนเช้าๆ  สำหรับเครื่องยนต์ที่มีการใช้น้ำมัน E85 

เนื่องจากคุณสมบัติของน้ำมัน E85 มีจุดที่ไม่พึงประสงค์อยู่อย่างหนึ่ง ก็คือมันมีผลต่ออุณหภูมิที่เย็น  ทำให้การเปลี่ยนสถานะของเหลวให้กลายเป็นไอ เกิดขึ้นยาก  ดังนั้นจะพบว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน E85  จะสตาร์ทเครื่องยนต์ในตอนเช้าๆที่มีอากาศเย็น  จะสตาร์ทติดยากหน่อย เพราะว่าน้ำมัน E85 มัยระเหยกลายเป็นไอได้น้อย เมื่อถูกฉีดเข้าไปในห้องสูบการจุดระเบิดก็ไม่สมบูรณ์ หากแก้ไขเรื่องหัวฉีดน้ำมัน ให้มีรูฉีดเพิ่มขึ้นแบบรุ่นใหม่ๆ จะทำให้เกิดละอองฝอยของน้ำมัน E85 กระจายเป็นฝอยได้ละเอียด และมีจำนวนอนูของฝอยน้ำมันที่กระจายแตกตัวมีจำนวนมากและคลุกเคล้ากับอากาศได้เหมาะสม ก็จะยิ่งทำให้การระเหยกลายเป็นไอได้ดี เมื่ออากาศและน้ำมันถูกอัดดันด้วยลูกสูบ ทำให้เกิดความร้อน อนูฝอยของน้ำมันก็จะระเหยเป็นไอได้ดี  ก่อนที่จะมีการจุดระเบิด  ทำให้การสตาร์ทเครื่องยนต์ในตอนเช้าๆ ติดง่ายขึ้น

ส่วนผลที่ได้จากการเปลี่ยนอุปกรณ์หัวฉีดและแรงดันน้ำมันในท่อรางหัวฉีดนี้ เพื่อให้ใช้กับน้ำมัน E85  มันก็เพียงได้ข้อดีตามที่กล่าวมาข้างบน  เพราะว่าในระบบการคอนโทรการฉีดน้ำมัน ให้เกิดความพอดีในเรื่องอัตราส่วนผม ระหว่างอากาศกับน้ำมัน   ECU จะยังคงทำหน้าที่เหมือนเดิมกล่าวคือ  เมื่อหัวฉีดใหม่ที่เปลี่ยนเข้าไปแทนหัวฉีดเดิม โดยช่างผู้เปลี่ยนคิดว่า หัวฉีดที่เปลี่ยนใหม่นี้ จะมีปริมาณการฉีดน้ำมันได้มากกว่าหัวฉีดเดิม  เพื่อแก้ไขให้ใช้กับน้ำมัน E85  แต่ความจริงแล้ว  ตัว ECU ยังคงทำหน้าที่ คอนโทลการจ่ายปริมาณน้ำมัน  โดยมีตัวอ๊อกซิเจนเซ็นเซอร์เป็นตัวส่งข้อมมูลโวลเต็จ ให้ ECU แก้ไข คาบเวลาการเปิดวาวล์ของหัวฉีดน้ำมัน ให้ฉีดน้ำมันให้พอดีกับอัตราส่วนผสม
นั่นแสดงให้เห็นว่า หากคาบเวลาการยกวาวล์ของหัวฉีดน้ำมัน ในคาบเวลาเดิมที่ใช้กับหัวฉีดที่ถูกเปลี่ยนไป  มันทำให้มีน้ำมันออกจากหัวฉีดใหม่หนาหรือมากขึ้น เจ้าตัวออกซิเจนเซ็นเซอร์ มันจับค่าปริมาณอ็อกซิเจนที่หลงเหลือจากการจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ เพราะมีน้ำมันมากไปกว่าที่เคยจ่ายในคาบเวลาเปิดวาวล์ของหัวฉีดเดิม   ออกซิเจนเซ็นเซอร์  ก็ส่งข้อมูลไปบอกให้ ECU ให้ทำการแก้ไข สั่งปรับคาบเวลาของสัญญาณพัลส์ ที่ส่งไปให้หัวฉีดทำงานเสียใหม่   ECU ก็จะปรับให้ค่าความกว้างของพัลส์ ที่ให้วาวล์เปิดให้น้ำมันผ่านมีค่าเวลาที่เร็วขึ้น  คือช่วงของคาบเวลายกหัวฉีดสั้นขึ้น หรือน้อยลง  ก็จะทำให้หัวฉีดน้ำมันฉีดน้ำมันลดลงเท่ากับปริมาณน้ำมันที่ผ่านหัวฉีดเดิมที่ถูกเปลี่ยนไป   งั้นเราจึงไม่ได้อะไรที่แตกต่างไปจากการใช้หัวฉีดใหม่เทียบกับหัวฉีดเก่า

สิ่งที่จะได้จากหัวฉีดใหม่ที่มีเบอร์ใหญ่ขึ้น  หรือฉีดน้ำมันได้เพิ่มขึ้น จะได้ประโยชน์ก็ตรงที่หัวฉีดใหม่นั้น มีรูฉีดเพิ่มขึ้น แรงดันน้ำมันในท่อรางหัวฉีดเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดละอองฝอยของน้ำมันที่ฉีดออกไปจากหัวฉีดใหม่ได้ดีเป็นฝอยกระจายมากขึ้น  ทำให้อนูฝอยของน้ำมันที่กระจายคลุกเคล้ากับอากาศ ได้ทั่วถึงมากกว่าเดิม  และยังช่วยให้การจุดระเบิดดีขึ้นและสตาร์ทติดง่ายในตอนเช้าๆ  เพราะการที่อนูของฝอยน้ำมันกระจายเป็นฝอยได้มากจากหัวฉีด  ก็ทำให้การระเหยกลายเป็นไอของน้ำมัน E85 ทำได้ดี ในสภาวะอุณหภูมิอากาศภายนอกและในเย็น ในตอนเช้าๆ  นี้ก็คือข้อดีของการเปลี่ยนหัวฉีดและเพิ่มแรงดันในท่อรางหัวฉีด มีแค่นี้เอง  นอกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลย 

ส่วนข้อไม่ดี  ที่มีกับการเปลี่ยนหัวฉีดเบอร์ใหญ่ขึ้น หรือ CC มากขึ้น  ทำให้มีผลต่อรอบเดินเบาของเครื่องยนต์  และเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น  เพราะว่าในระบบเครื่องยนต์ที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบสมองกล ECU  เมื่อเราถอนคันเร่งออก ระบบการจ่ายน้ำมันในระบบ close loop ในรอบอัตราเร่ง  จะถูกตัดการจ่ายน้ำมันจากอัตราเร่งมาอยู่ที่รอบเดินเบา   ณ ที่ตำแหน่งนี้ ตัว TPS sensor จะเป็นตัวส่งข้อมูลที่ได้จากมุมองศาการปิดเปิดของลิ้นปีกผีเสื้อ   เมื่อถอนคันเร่ง ลิ้นปีกผีเสื้อจะกลับมาอยู่ในตำแหน่งปิดไม่ให้อากาศผ่านลิ้นปีกผีเสื้อ  อากาศจะผ่านเข้าไปในท่อไอดีได้จะต้องผ่านจากระบบสกรูปรับอากาศช่วยรอบเดินเบา และที่ตัวระบบ ISC แบบต่างๆ ที่แต่ละค่ายและยี่ห้อเครื่องยนต์เป็นผู้ออกแบบให้ใช้ ว่าจะใช้แบบใด เช่น สเต็ปมอเตอร์ โรตารี่โซลินอยล์วาวล์  ช่วยให้อากาศจากหน้าลิ้นปีกผีเสื้อผ่านเจ้าตัวที่ว่านี้ผ่านเข้าไปในท่อร่วมไอดี เมื่อเครื่องยนต์อยู่ในจังหวะรอบเดินเบา

แล้วอาจจะมีบางท่านคิดว่า อ้าว! แล้ว ECU ไม่แก้ไขคาบเวลาการยกวาวล์ของหัวฉีดน้ำมันให้หรืออย่างไร   ความจริงน่าจะเป็นอย่างนั้น   คำตอบก็คือ เมื่อใดก็ตามที่เครื่องยนต์มาอยู่ในตำแหน่งรอบเดินเบา  ทาง ECU จะกลับมาใช้ข้อมูลของโปรแกรมพื้นฐาน  มาควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา ที่ถูกโปรแรมติดตั้งไว้ใน ECUมาจากโรงงาน ทำหน้าที่แทนในระบบ close loop
ดังนั้น จึงไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะโปรแกรมพื้นฐานนั้น จะออกแบบมา จากความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์ ที่ถูกออกแบบมาในกรสร้างต้นแบบ จึงทำให้กำลังอัดในกระบอกสูบ ไม่รั่วออกไปจากระบบ ทำให้เกิดแรงดูดที่ท่อร่วมไอดีสูงและคงที่  ซึ่งแรงดูดหรือแว็คคั่มในท่อไอดีนี้ จะถูกเอาไปใช้กับตัว Map sensor หรือ Vacuum sensor   ที่ตัวแว็คคั่มเซ็นเซอร์นี้ จะเปลี่ยนแรงดูดของแว็คคั่มในท่อไอดีเป็นโวลเต็จแล้วส่งไปให้ ECU  กำหนดคาบเวลาการเปิดวาวล์ของหัวฉีดน้ำมัน ให้มีน้ำมันในอัตราส่วนผสมที่สมบูรณ์ในรอบเดินเบา  ซึ่งการทำงานในช่วงนี้ จะถูกออกแบบและการกำหนดค่าพารามิเตอร์ต่างๆไว้ในโปรแกรมพื้นฐานทั้งหมด 
แล้วบางท่านอาจจะมีคำถามว่า แล้วจะทำแบบนี้ทำไม ไม่ปล่อยให้มันทำงานแบบ close loop
ECU มันจะได้แก้ไขได้  ก็น่าจะใช่และเห็นด้วย  ผมเองก็ไม่สามารถทราบเหตุผลได้ในตรงนี้  แต่ความคิดผม คิดและเข้าใจเอาเองว่า  ที่เป็นแบบนี้เพราะว่า จะทำให้ทราบว่าหากเครื่องยนต์ที่มีการใช้งานมานาน หรือเกิดความผิดปกติ กับความสมบูรณ์ของระบบของเครื่องยนต์ ที่เปลี่ยนไป เพราะความสึกหรอภายในกระบอกสูบ ผนังสูบ แหวน และวาวล์รั่ว วาวล์ยัน  เมื่อเครื่องยนต์มีอาการแบบที่กล่าวมา หลังจากใช้งานมานาน   จะทำให้กำลังอัดในกระบอกสูบตกลงไป กล่าวคือแรงดูดของแว็คคั่มในท่อไอดีจะตกลงและไม่คงที่เปลี่ยนไปมา จะมีผลต่อรอบเดินเบาโดยตรงที่มองให้เห็นเด่นชัด   

เมื่อใดที่แรงดูดของแว็คคั่มในท่อร่วมไอดีตกลง จะทำให้โวลเต็จที่ได้จากตัว Vacuum sensor ตกลงหรือเปลี่ยนไปจากค่าเดิม  แน่นอนผลที่กำหนดค่าไว้ในโปรแกรมพื้นฐานย่อมเปลี่ยนไป ไม่ได้ค่าเดิม เป็นผลให้รอบเดินเบาที่อ้างอิงจากความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์ ทำงานไม่ถูกต้องตามที่กำหนดไว้  รอบเดินเบาของเครื่องยนต์จึงตกและสวิงขึ้นลงตามค่าโหลดของเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนไป เช่นเปิดแอร์ เข้าเกียร์(ออโต้) หรือจังหวะหมุนพวงมาลัย รอบเครื่องยนต์จะตกและสั่น

จะพบว่าช่างหลายๆที่หลายแห่ง แก้ปัญหารอบเดินเบาไม่ตรงประเด็น  ไปเปลี่ยนตัวเซ็นเซอร์ต่างๆที่ทำหน้าที่คอนโทรลรอบเดินเบา หลายจุด ก็แก้ไม่ตก แต่ก็มีช่างบางที่บางแห่งก็แก้ไขได้ตรงประเด็น   คือในระบบเครื่องยนต์ที่ก่อให้เกิดปัญหา ส่วนมากจะมาจากระบบการคอนโทรลรอบเดินเบา  ดังนั้นการที่จะวิเคราะห์และแก้ปัญหา  จะต้องทำให้ระบบหลักของเครื่องยนต์ให้ มีความสมบูรณ์ถูกต้องในเบื้องต้นเสียก่อน  ระบบหลักที่ว่านี้ ก็คือ กำลังอัดของเครื่องยนต์ จะต้องไม่มีวาวล์รั่ว วาวล์ยัน หรือแหวนหลวมสึก ต้องมีกำลังอัดที่ถูกต้องตามที่กำหนด (วัดกำลังอัดด้วยเครื่องมือ เทียบกับสเป็คของเครื่องยนต์ ว่าได้กี่ปอนด์ต่อตารางนิ้ว)

ต่อไปก็คือระบบน้ำมัน คือเรื่องระบบแรงดันในท่อรางหัวฉีด ปั้มติ๊ก หัวฉีด หัวฉีดต้องไม่รั่วหรือตีบตัน
ระบบไฟจุดระเบิด ต้องมีแรงไฟสูงถูกต้อง  วัดได้จากเครื่องมือ ไฮโวลท์เต็จมิเตอร์ จะทราบว่า มีไฟรั่วหรือลี๊คเกิดขึ้นหรือไม่ หรือเกิดโวลเต็จดร๊อปในสายหัวเทียน หรือหัวเทียนบอด ส่วนระบบอากาศ  ไม่ค่อยมีปัญหาที่เด่นชัดในระบบกรองอากาศ  ยกเว้นระบบอากาศช่วยรอบเดินเบา ทีมาจากการคอนโทรลของ ECU สามารถตรวจเช็คได้ในภายหลัง ให้ตรวจข้างบนที่ผมกล่าวมาก่อน เมื่อตรวจเช็คความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์ถูกต้องแล้ว ปัญหารอบเดินเบาก็จะตีวงแคบลงมาให้แก้ไขได้รวดเร็ว   จากการสังเกตุปัญหารอบเดินเบา หลังจากที่ไปตั้งวาวล์เครื่องยนต์ใหม่ หรือแก้ไขส่วนสึกหรอในเรื่องกำลังอัดของเครื่องยนต์ให้ถูกต้องแล้ว จะพบว่าปัญหารอบเดินเบาก็จะกลับมาเป็นปกติทันที 

ก็ขออภัยท่านผู้อ่าน เพื่อนพ้องน้องพี่  ที่ผมร่ายยาวหลายหน้ากระดาษ  เพราะเนื้อหามันทำให้ตามไปยังเหตุและผลในส่วนที่เกี่ยวข้อง  ที่ควรจะทราบในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับระบบที่ผมกล่าวมา  และก็ขออภัยท่านทีทรงความรู้ ครู อาจารย์ ที่ให้ความรู้  หากมีเนื้อหาผิดพลาดไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย   เพราะผมเอาสิ่งที่กล่าวมาจากการทดสอบระบบการทำงาน ด้วยเครื่องมือระบบอีเลคทรอนิคส์   ในการทดสอบและวิเคราะห์การทำงานของเครื่องยนต์  และทดลองออกแบบวงจรชุดคิท E85 มาทดลองใช้  จึงได้ข้อมูลระหว่างการออกแบบและทดลอง ก็จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆน้องๆฟังในภายหลัง  ……srithanon
 
บันทึกการเข้า
lim689
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 212



« ตอบ #1 เมื่อ: 02 มีนาคม 2014, 09:31:39 »

 ยิ้ม ขอบคุณครับกระจ่างเลยครับ กำลังหาข้อมูลพวกนี้อยู๋พอดี

มีข้อสงสัย ครับ หลายท่านบอกว่า เติมน้ำมัน e85 หากไม่ได้ขับ ระเหยออกไวมาก
บันทึกการเข้า
portan28
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 49


« ตอบ #2 เมื่อ: 02 มีนาคม 2014, 15:20:50 »

ขอบคุณสำหรับความรู้มากครับ ท่าน
บันทึกการเข้า
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #3 เมื่อ: 02 มีนาคม 2014, 17:38:00 »

 E85 ระเหยได้ไวที่อุณหภูมิไม่สูง  แต่ก็มีผลต่อความเย็นของอุณหภูมิที่ต่ำครับ   
บันทึกการเข้า
Mr.Taweesak
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 520



« ตอบ #4 เมื่อ: 03 มีนาคม 2014, 12:07:39 »

"ในเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบน้ำมันเบ็นซิลหรือแกสโซฮอล 95 มาก่อน และหันมาใช้ E85   เขาจึงต้องแก้ไขเรื่ององศาการจุดระเบิดให้มีมุมองศาน้อยลงก่อนที่ลูกสูบจะเคลื่อนตัวสู่จุดศูนย์ตายบน จากเดิมในระบบน้ำมันที่ 8-10 องศา  มาเป็น 5-7 องศา "

หมายความว่าเราต้องตั้งองศาจุดระเบิดให้อ่อนลงใช่มั้ยครับ เพราะเคยได้ยินแต่ต้องตั้งให้แก่ขึ้นครับ
บันทึกการเข้า

DIM : DO IT MY SELF
EK 97 : D16Y8 MT
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #5 เมื่อ: 03 มีนาคม 2014, 16:59:52 »

น่าจะความหมายเดียวกัน ตามตัวเลขที่บอก คำว่าแก่ขึ้น น่าจะขยับจาก 10 ไป ประมาณ 7  องศา  หรือเข้าใกล้จุดศูนย์ตายบน   แต่ผมพูดแบบน้อยในทางตัวเลขครับ
บันทึกการเข้า
My_Mint
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,647



« ตอบ #6 เมื่อ: 03 มีนาคม 2014, 17:27:14 »

เยี่ยมเลยครับ ขอบคุณมากครับ
บันทึกการเข้า

Mr.Taweesak
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 520



« ตอบ #7 เมื่อ: 04 มีนาคม 2014, 08:54:56 »

คำว่าตั้งไฟแก่หมายถึงตั้งให้ จุดระเบิดก่อน TDC มากขึ้นใช่หรือเปล่าครับ ตกใจ
บันทึกการเข้า

DIM : DO IT MY SELF
EK 97 : D16Y8 MT
Backfour
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 45


« ตอบ #8 เมื่อ: 04 มีนาคม 2014, 12:59:01 »

ตอนนี้ผมใช้ชุดคิทอยู่ครับ อยากทราบว่าถ้าใช้ทั้ง โซฮอล 95/91 ,e20 และe85 สลับกัน  (ในกรณีที่หาปั้ม e85ไม่ได้ ) เราต้องตั้งองศาจุดระเบิดแบบไหนครับ หรือมีกล่องหรือโปรแกรมช่วยปรับองศาตามน้ำมันที่เติมบ้างมั้ยครับ ช่วยแนะนำด้วยครับ
บันทึกการเข้า
Mr.Taweesak
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 520



« ตอบ #9 เมื่อ: 04 มีนาคม 2014, 16:33:08 »

ผมตั้งไว้กลางๆครับ คือเติมได้ทั้ง E20 และ E85 แต่ไม่รู้กี่องศานะไม่เคยวัด
บันทึกการเข้า

DIM : DO IT MY SELF
EK 97 : D16Y8 MT
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #10 เมื่อ: 04 มีนาคม 2014, 19:54:59 »

ผมไม่ทราบว่ากล่อง E85 ที่เพื่อนๆไปติดตั้งมาเป็นแบบไหน แบบออโตหรือปล่าว เพราะรุ่นใหม่ๆที่ออกมา จะเป็นแบบออโต เติมชนิดอะไรก็ได้ที่กล่าวมา  หากเป้นแบบปรับตั้งค่าการปรับจูนวแบบปรับอลลุ่ม เพื่อให้วงจรที่ทำหน้าขยายคาบเวลาของการยกวาวล์ของหัวฉีด ให้มีค่าการยกของหัวฉีดพอดีกับน้ำมันนั้น ก็ต้องปรับใหม่  การปรับแบบลูกทุ่งที่ไม่่มีเครื่องดูสัญญาณพัลส์ ที่เหมาะสม และหรือดูจากการอ่านของอ็อกซิเขนเซ็นเซอร์ ที่ได้ค่า ประมาณ 0.45-0.5 volt  ก้ถือว่าโอเค

แต่เจ้าของรถทั่วไปจะปรับเอง โดยดูจากความรู้สึกต่อการตอบสนองเครื่องยนต์ หรือปรับที่กล่องแล้ว ไม่มีไปรูปเอ็นจิ้นโชว์ ก็ถือว่าใช้ได้  กล่อง E 85 ยังไม่มีการปรับองศาการจุดระเบิด นอกจากเครื่องยนต์ที่ยังมีการใช้จานจ่าย ก้ปรับได้  แต่ถ้าหากเครื่องยนต์ที่ใช้ไดเร็คคอยล์ ต้องปรับที่กล่อง ECU  หรือที่เขาไปเปลี่ยนกล่อง ECU แล้วอัพโปรแกรมใหม่ พวก สองรอมประเภทนั้นครับ

สำหรับการปรับตั้งไฟแก่ หมายความว่า จากเดิมที่ประมาณ 10 องศา ก็จะปรับให้จุดระเบิดที่ 8 หรือ 7 องศา  กล่าวคือลูกสูบจะเคลื่อนสู่จุดศูนย์ตายบน เพิ่มขึ้น  ( TDC )  เพื่อให้กำลังอัดในกระบอกสูบมีแรงอัดเพิ่มขึ้น ก่อนที่จะมีการจุดระเบิด  ผลก็คือทำให้เครื่องยนต์มีกำลัง รอบเดินเบาก็จะสูงขึ้น ก็ประมาณนี้ครับ.....srithanon

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 มีนาคม 2014, 19:57:43 โดย srithanon » บันทึกการเข้า
CorsaiR
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 127


: Made by CaptainJeK


« ตอบ #11 เมื่อ: 04 มีนาคม 2014, 22:27:55 »

ละเอียดยิบ. ..ขอบคุณมากครับ ยิ้ม
บันทึกการเข้า

Captain JeK
nus.ek
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 816


SIR


« ตอบ #12 เมื่อ: 04 มีนาคม 2014, 22:43:57 »

อยากติดตั้ง แนะนำหน่อยครับเห็นมีหลายเจ้า แบบไหนเวิร์คสุดครับ เอาแบบดีสุดตอนนี้เลย ต้องใช้งบประมาณเท่าไร ขยิบตา
บันทึกการเข้า

"มิตรภาพ ไม่มีวันหมด"
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: เรื่องของชุดคิท E85 เอามาเล่าสู่กันฟัง
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2009, Simple Machines -->
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |