:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Discuss => ห้องคนขับ => ข้อความที่เริ่มโดย: Pantamitr ที่ 17 มีนาคม 2011, 23:10:04



หัวข้อ: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 17 มีนาคม 2011, 23:10:04
 :-[ เพิ่งจะเสียวๆ ไปไม่กี่วัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลับจากสุพรรณ เกือบถึงบ้านแล้ว เกียร์ พังเลย ต้องลากเข้าอู่
ช่างประเมินราคา 28000 บาท เล่นเอาหนาวใจเลย ถามว่า ทำไมแพงจังพี่ เขาบอกอะไหล่มันแพง เฉพาะน้ำมันเกียร์ก็ 2 พันแล้ว ::)
เขาไม่รู้มั้งว่า ผมซื้อประจำ รู้ราคาดี ว่ามันไม่ถึงพัน ก้เลย บอก งั้นพี่คิดค่าแรงมา เท่าไหร่ เขาบอกค่าแรงเบ็ดเสร็จ 3 พัน ผมโอเค เดี๋ยวไปซื้ออะไหล่มาให้เอง และก็เป็นดังนี้


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 17 มีนาคม 2011, 23:13:29
ผ้าคลัทช์ สั่ง 0  12แผ่น ราคา5856 ยังไม่รวมแวท


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 17 มีนาคม 2011, 23:14:41
ชุดปะเก็น ชุดใหญ่ ราคา 4484 บาท ยังไม่รวมแวท


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 17 มีนาคม 2011, 23:16:24
เขาเรียก แผ่นเพลท รองแผ่นคลัทช์หรือเปล่า ไม่แน่ใจ แผ่นละ 210 บาท เปลี่ยนเฉพาะแผ่นที่มีรอยไหม้ 3 แผ่น 630 บาท


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 17 มีนาคม 2011, 23:17:18
ตัวกรองเกียร์ รุ่นตัวใหญ่ 1149 บาท ไม่รวมแวท


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 17 มีนาคม 2011, 23:18:15
น้ำมันเกียร์ ช่างบอก ต้องใช้ 5 ลิตร ก็ตามนั้น ราคา 850 บาท ยังไม่รวมแวท


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 17 มีนาคม 2011, 23:21:51
อันนี้ ไม่เกี่ยวกับเกียร์ แต่ก็เกี่ยวแฮะ ยางรองแท่นเกียร์ มันขาด ก็ต้องเปลี่ยน ราคา 667 ไม่รวมแวท


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 17 มีนาคม 2011, 23:26:50
 :-[ ก็มีเท่าเนี้ย เบ็ดเสร็จ รวมค่าของ +แวท เท่ากับ 14000 กว่าๆ ถ้ารวมค่าแรงด้วย ก็เท่ากับ ประมาณ 2 หมื่นเอง พอผมซื้อของไปให้ช่าง เขาก็เหมือนจะรู้ว่า เราคำณวนแล้วว่าเขาเรียกทีแรก เวอร์เกินไป ก้เลยบอก(โดยที่ผมไม่ได้ถาม)ว่า ตอนที่เขาเช็คของ เพื่อทำการประเมินราคานั้น เขาบอก เขาไปเช็คเอาอะไหล่ของ CRV เข้า ดู๊ดู ไปได้น้ำขุ่นๆ ถ้าแค่นี้ พลาดได้ แล้วจะไว้ใจได้ไหมเนี่ย แต่ก็เข้าใจว่า คงต้องการค่าส่วนต่างแหละ ก็ไม่ว่าอะไรหรอก ดีที่ประหยัดตังค์ไปได้ตั้ง 8 พันบาท เดี๋ยวรอทำเสร็จแล้ว จะมารายงานอีกครั้งครับ


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: jam-maew ที่ 18 มีนาคม 2011, 08:21:39
ขนาดนี้แล้วพี่ยังจะทำกะร้านมันอีกเหรอ 


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 18 มีนาคม 2011, 09:15:40
ขนาดนี้แล้วพี่ยังจะทำกะร้านมันอีกเหรอ 
หมดทางเลือกครับ เพราะ เขารื้อเกียร์ลงมาหมดแล้ว :'( และก็ใกล้บ้านด้วย


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: p jung ที่ 18 มีนาคม 2011, 09:36:44
ขอให้ซ่อมแล้วดี ไม่ยืดเยื้อก็พอครับ  :-*


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: sam_ek ที่ 18 มีนาคม 2011, 10:08:32
ยังดีครับที่รู้ทันช่าง เป็นผมโดนไปแล้ว หัวแบะ โดนช่างฟัน
 :-[ :-[
:-[ ก็มีเท่าเนี้ย เบ็ดเสร็จ รวมค่าของ +แวท เท่ากับ 14000 กว่าๆ ถ้ารวมค่าแรงด้วย ก็เท่ากับ ประมาณ 2 หมื่นเอง พอผมซื้อของไปให้ช่าง เขาก็เหมือนจะรู้ว่า เราคำณวนแล้วว่าเขาเรียกทีแรก เวอร์เกินไป ก้เลยบอก(โดยที่ผมไม่ได้ถาม)ว่า ตอนที่เขาเช็คของ เพื่อทำการประเมินราคานั้น เขาบอก เขาไปเช็คเอาอะไหล่ของ CRV เข้า ดู๊ดู ไปได้น้ำขุ่นๆ ถ้าแค่นี้ พลาดได้ แล้วจะไว้ใจได้ไหมเนี่ย แต่ก็เข้าใจว่า คงต้องการค่าส่วนต่างแหละ ก็ไม่ว่าอะไรหรอก ดีที่ประหยัดตังค์ไปได้ตั้ง 8 พันบาท เดี๋ยวรอทำเสร็จแล้ว จะมารายงานอีกครั้งครับ


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: thanawat6 ที่ 18 มีนาคม 2011, 10:34:20
อย่าให้เค้าวางยานะครับพี่ ด้วยความเป็นห่วง   :-*


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: pun1000 ที่ 18 มีนาคม 2011, 10:40:41
ES01 วิ่งไปเท่าไหร่ครับ เกียร์ถึงพัง EK Lev ของผม เกือบ ๆ จะ 3 แสนแล้วหวั่นๆอยู่เหมือนกัน คราวก่อนมีปัญหาเรื่องไฟ เกียร์กระตุกนึกว่าไปซะแล้ว ;) ;)


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: ham_ter ที่ 18 มีนาคม 2011, 16:16:14
ขนาดนี้แล้วพี่ยังจะทำกะร้านมันอีกเหรอ 
    นั่นสิ หมั่นใส้ ระวังวางยาเลยเด้อ.. :D :D


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 18 มีนาคม 2011, 18:19:04
เออเนาะประเด็นวางยาก็เสียวๆเหมือนกัน



หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: 97civic ที่ 18 มีนาคม 2011, 19:06:30
ขอให้หายเร้วๆวันนะครับ


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 18 มีนาคม 2011, 22:36:02
 :-[ ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงเรื่องวางยาครับ ก็กลัวอยู่ครับ แต่ผมก็พูดกับเขาดีๆแหละครับ เพราะเราตกอยู่ในสภาพจำยอม ทำไงได้ ก็ไปดูการซ่อมอยู่ คงไม่วางยาหรอกครับ เพราะเขาก็รับประกันงานซ่อมด้วย และมีการโทรมาถามอยู่ว่า ตรงนั้น ตรงนี้ จะให้ทำอย่างไร คือ เราแบบมีมารยาทอะ ไม่ได้ไปทำให้เขารู้สึกเสียหน้า ว่าเรารู้ทัน แต่ ครั้งนี้ คงครั้งสุดท้ายแล้วสำหรับอู่นี้


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 18 มีนาคม 2011, 22:58:43
:-[ ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงเรื่องวางยาครับ ก็กลัวอยู่ครับ แต่ผมก็พูดกับเขาดีๆแหละครับ เพราะเราตกอยู่ในสภาพจำยอม ทำไงได้ ก็ไปดูการซ่อมอยู่ คงไม่วางยาหรอกครับ เพราะเขาก็รับประกันงานซ่อมด้วย และมีการโทรมาถามอยู่ว่า ตรงนั้น ตรงนี้ จะให้ทำอย่างไร คือ เราแบบมีมารยาทอะ ไม่ได้ไปทำให้เขารู้สึกเสียหน้า ว่าเรารู้ทัน แต่ ครั้งนี้ คงครั้งสุดท้ายแล้วสำหรับอู่นี้
อ้อดีครับ จบไวๆครับ


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 19 มีนาคม 2011, 21:22:05
 :'( รายงานผล หลังการซ่อมดังนี้

Dimension Vtec 2001 Auto ติดแก๊ส LPG ระบบหัวฉีด

1. ไฟเครื่องโชว์ ก่อนสตาร์ท มันดับไป แต่พอสตาร์ทติดแล้ว ไฟเครื่องก็กลับมาโชว์อีก
2. มีอาการรอบเดินเบาสวิง คล้ายๆจะดับ
3. ทดสอบขับ ตามแบบที่ใช้งานปกติ หลังจากระบบเปลี่ยนน้ำมันเป็นแก๊ส เครื่องจะตื้อๆ
4. kick down แล้วเกียร์ไม่้เปลี่ยน ไปแต่รอบ แต่พอสวิทช์กลับไปใช้น้ำมัน เกียร์ก็เปลี่ยนเป็นปกติ
5. ลองดับเครื่อง แล้วใช้แต่น้ำมัน ไม่ใช้แก๊ส สตาร์ทใหม่ ไฟเครื่องก็กลับมาโชว์เหมือนเดิม

ไปรับรถ เย็นมากแล้ว ช่างบอกให้ไปจูนแก๊ส ก็จะหาย เพราะตอนที่ถอดเกียร์ มันต้องถอดปลั๊กไฟทั้งหมด อาจจะทำให้ กล่องไม่จำ
ท่านใดที่พอจะทราบ หรือมีประสบการณ์ มาแชร์บ้างนะครับ ตอนนี้ ไม่รู้เป็นที่เกียร์ หรือระบบแก๊สกันแน่ แต่กะจะทำที่ง่ายที่สุดก่อน คือ จะไปจูนแก๊สดูละครับ ถ้าไม่หาย ค่อยให้เขารื้อเกียร์ใหม่ครับ เฮ้อ เซ็งเลย หรือนี่คือการวางยา




หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 19 มีนาคม 2011, 22:12:50
:'( รายงานผล หลังการซ่อมดังนี้

Dimension Vtec 2001 Auto ติดแก๊ส LPG ระบบหัวฉีด

1. ไฟเครื่องโชว์ ก่อนสตาร์ท มันดับไป แต่พอสตาร์ทติดแล้ว ไฟเครื่องก็กลับมาโชว์อีก
2. มีอาการรอบเดินเบาสวิง คล้ายๆจะดับ
3. ทดสอบขับ ตามแบบที่ใช้งานปกติ หลังจากระบบเปลี่ยนน้ำมันเป็นแก๊ส เครื่องจะตื้อๆ
4. kick down แล้วเกียร์ไม่้เปลี่ยน ไปแต่รอบ แต่พอสวิทช์กลับไปใช้น้ำมัน เกียร์ก็เปลี่ยนเป็นปกติ
5. ลองดับเครื่อง แล้วใช้แต่น้ำมัน ไม่ใช้แก๊ส สตาร์ทใหม่ ไฟเครื่องก็กลับมาโชว์เหมือนเดิม

ไปรับรถ เย็นมากแล้ว ช่างบอกให้ไปจูนแก๊ส ก็จะหาย เพราะตอนที่ถอดเกียร์ มันต้องถอดปลั๊กไฟทั้งหมด อาจจะทำให้ กล่องไม่จำ
ท่านใดที่พอจะทราบ หรือมีประสบการณ์ มาแชร์บ้างนะครับ ตอนนี้ ไม่รู้เป็นที่เกียร์ หรือระบบแก๊สกันแน่ แต่กะจะทำที่ง่ายที่สุดก่อน คือ จะไปจูนแก๊สดูละครับ ถ้าไม่หาย ค่อยให้เขารื้อเกียร์ใหม่ครับ เฮ้อ เซ็งเลย หรือนี่คือการวางยา



เอ ถอดแบตทิ้งไว้ reset กล่อง จะพอช่วยได้ไม๊ครับ ลองดูครับ แล้งลองทำตามกระทู้ล้างลิ้นเร่งดูก็ได้ครับ


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 19 มีนาคม 2011, 23:09:45
เอ ถอดแบตทิ้งไว้ reset กล่อง จะพอช่วยได้ไม๊ครับ ลองดูครับ แล้งลองทำตามกระทู้ล้างลิ้นเร่งดูก็ได้ครับ
ต้องถอดทิ้งไว้นานแค่ไหน เพราะลองถอด reset แล้ว ที่อู่ ก็ไม่หายครับ  :'(


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 20 มีนาคม 2011, 10:42:36
ต้องถอดทิ้งไว้นานแค่ไหน เพราะลองถอด reset แล้ว ที่อู่ ก็ไม่หายครับ  :'(
โอ้ ถอดจริงๆก็5นาทีก็ได้ล่ะครับ แล้วลองไปปรับตั้งรอบ รองไปขับแบบที่แนะนำไว้ในกระทู้ล้างลิ้นเร่งดูครับจำไม่ได้ว่าหน้าไหน :-\ :-\ :-\ :-\ :-\ :-\
ถ้าทำตามกระทู้ล้างลิ้นเร่งแล้วไม่หายผมก็จนด้วยเกล้าครับ :-[ :-[ :-[ :-[


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: ham_ter ที่ 20 มีนาคม 2011, 16:08:08
:'( รายงานผล หลังการซ่อมดังนี้

Dimension Vtec 2001 Auto ติดแก๊ส LPG ระบบหัวฉีด

1. ไฟเครื่องโชว์ ก่อนสตาร์ท มันดับไป แต่พอสตาร์ทติดแล้ว ไฟเครื่องก็กลับมาโชว์อีก
2. มีอาการรอบเดินเบาสวิง คล้ายๆจะดับ
3. ทดสอบขับ ตามแบบที่ใช้งานปกติ หลังจากระบบเปลี่ยนน้ำมันเป็นแก๊ส เครื่องจะตื้อๆ
4. kick down แล้วเกียร์ไม่้เปลี่ยน ไปแต่รอบ แต่พอสวิทช์กลับไปใช้น้ำมัน เกียร์ก็เปลี่ยนเป็นปกติ
5. ลองดับเครื่อง แล้วใช้แต่น้ำมัน ไม่ใช้แก๊ส สตาร์ทใหม่ ไฟเครื่องก็กลับมาโชว์เหมือนเดิม

ไปรับรถ เย็นมากแล้ว ช่างบอกให้ไปจูนแก๊ส ก็จะหาย เพราะตอนที่ถอดเกียร์ มันต้องถอดปลั๊กไฟทั้งหมด อาจจะทำให้ กล่องไม่จำ
ท่านใดที่พอจะทราบ หรือมีประสบการณ์ มาแชร์บ้างนะครับ ตอนนี้ ไม่รู้เป็นที่เกียร์ หรือระบบแก๊สกันแน่ แต่กะจะทำที่ง่ายที่สุดก่อน คือ จะไปจูนแก๊สดูละครับ ถ้าไม่หาย ค่อยให้เขารื้อเกียร์ใหม่ครับ เฮ้อ เซ็งเลย หรือนี่คือการวางยา




    วางยาเป่าไม่รู้ รู้แต่ หนักใจ :( :(


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 21 มีนาคม 2011, 07:23:46
 :'(
    วางยาเป่าไม่รู้ รู้แต่ หนักใจ :( :(
เมื่อวาน ลองรื้อเองเลยครับ พบว่า สายไฟเข้ามอเตอร์เดินเบา หลวม จัดการแก้ไขแล้ว ก็ดีขึ้น แต่ไฟเครื่องยังโชว์ และเหยียบเร่งด้วยแก๊ส ยังไม่ดีขึ้น ครับ


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Leo ที่ 21 มีนาคม 2011, 08:55:39
เง้อ

งานเข้า เลย ทีนี้

ยังไง ก็ กลับมา ซิ่ง ไวๆ นะครับ


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 21 มีนาคม 2011, 10:42:47
:'( เมื่อวาน ลองรื้อเองเลยครับ พบว่า สายไฟเข้ามอเตอร์เดินเบา หลวม จัดการแก้ไขแล้ว ก็ดีขึ้น แต่ไฟเครื่องยังโชว์ และเหยียบเร่งด้วยแก๊ส ยังไม่ดีขึ้น ครับ
ถ้าไฟเครื่องโชว์ก็เช็คโค็ตครับ ว่าแต่ ES เช็คยังไงล่ะเนี่ย :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หรือต้องพึ่งอู่ที่มีเครื่องมืออย่างเดียว


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 21 มีนาคม 2011, 11:18:37
ถ้าไฟเครื่องโชว์ก็เช็คโค็ตครับ ว่าแต่ ES เช็คยังไงล่ะเนี่ย :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หรือต้องพึ่งอู่ที่มีเครื่องมืออย่างเดียว
คงต้องเข้าศูนย์ละครับ ชัวร์กว่า แต่ว่าไม่ซ่อมนะ อิอิ เช็คว่าเสียตรงไหนเฉยๆ


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 21 มีนาคม 2011, 11:23:56
คงต้องเข้าศูนย์ละครับ ชัวร์กว่า แต่ว่าไม่ซ่อมนะ อิอิ เช็คว่าเสียตรงไหนเฉยๆ

:-\ :-\ :-\ :-\ ดีครับชัวดี


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: ES01 328 ที่ 21 มีนาคม 2011, 17:09:08
มารอฟังผลครับ
ขอให้ไม่เป็นไรมาละกัน ลุ้น ๆ ๆ  :-[


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 23 มีนาคม 2011, 20:48:11
มารอฟังผลครับ
ขอให้ไม่เป็นไรมาละกัน ลุ้น ๆ ๆ  :-[
:-\ :-\ :-\ :-\ ดีครับชัวดี
   
  ขอบคุณครับ
 และขอบคุณในความห่วงใยของทุกๆท่านครับ

จบแล้วครับ ตกลงว่า O2 Censor เสียครับ ไปให้ร้าน พี่ คำไพ อู่ K.P Speed เช็คโคดให้ ฟรี แกบอกว่า ตัว O2เซนเซอร์ เสีย ทั้งสองตัว ไม่มีอะไหล่ ถ้าจะเอา ราคา เซียงกง ตัวละ 1500 2 ตัวก็ 3000 แต่ผมชะงักนิดหนึ่งนะพี่คำไพ แต่ถึงยังไงก็ขอขอบคุณที่พี่ตรวจเช็คให้ฟรีนะครับ แต่ทำไมมันเสียทีเดียว ทั่ง 2 ตัว ก็เลยกลับไปอู่ขาประจำของผม พี่แจ๊ค แห่งซอยมังกร ( ซึ่งเขาไม่มีเครื่องตรวจเช็ค ) โชคดี ที่ตอนนั้น มีรถ ซีวิค รุ่นเดียวกัน เกียร์พีงเหมือนกัน มาซ่อมพอดี ก็เลยขอยืม ตัวเซนเซอร์ของเขามาลองใส่ดู ปรากฏว่า เสียจริงๆครับ แต่เสียที่ตัวล่าง ตัวเดียว ตัวบน หน้าเครื่อง ไม่เสีย พี่แจ๊คก็เลยจัดการโมดีฟาย ของแอคคอร์ดมาใส่ให้ ใช้ได้ครับ อาการไฟโชว์หาย รอบสวิง หาย ทุกอย่าง กลับมาเป็นปกติ ดีใจมาก ขอบคุณพี่แจ๊ค ที่ช่วยทำให้ คิดค่าซ่อมแค่ 800 เอง

แต่พอขับออกมาได้นิดเดียว โดนตำรวจจับครับ ข้อหาติดไฟ LED แบบแผงยาว หลอดขาว ๆ เหมือนกับ ออดี้ และเบนซ์ อะ ร้อยเวรจับเองเลย แกบอก ข้อหา ไม่ร้ายแรง ปรับ 300 อาจจะม่ไดโนก็ได้ แต่ให้ไปผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบก่อนว่าผิดหรือไม่ เซ้งเลย


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 23 มีนาคม 2011, 23:54:54
   
  ขอบคุณครับ
 และขอบคุณในความห่วงใยของทุกๆท่านครับ

จบแล้วครับ ตกลงว่า O2 Censor เสียครับ ไปให้ร้าน พี่ คำไพ อู่ K.P Speed เช็คโคดให้ ฟรี แกบอกว่า ตัว O2เซนเซอร์ เสีย ทั้งสองตัว ไม่มีอะไหล่ ถ้าจะเอา ราคา เซียงกง ตัวละ 1500 2 ตัวก็ 3000 แต่ผมชะงักนิดหนึ่งนะพี่คำไพ แต่ถึงยังไงก็ขอขอบคุณที่พี่ตรวจเช็คให้ฟรีนะครับ แต่ทำไมมันเสียทีเดียว ทั่ง 2 ตัว ก็เลยกลับไปอู่ขาประจำของผม พี่แจ๊ค แห่งซอยมังกร ( ซึ่งเขาไม่มีเครื่องตรวจเช็ค ) โชคดี ที่ตอนนั้น มีรถ ซีวิค รุ่นเดียวกัน เกียร์พีงเหมือนกัน มาซ่อมพอดี ก็เลยขอยืม ตัวเซนเซอร์ของเขามาลองใส่ดู ปรากฏว่า เสียจริงๆครับ แต่เสียที่ตัวล่าง ตัวเดียว ตัวบน หน้าเครื่อง ไม่เสีย พี่แจ๊คก็เลยจัดการโมดีฟาย ของแอคคอร์ดมาใส่ให้ ใช้ได้ครับ อาการไฟโชว์หาย รอบสวิง หาย ทุกอย่าง กลับมาเป็นปกติ ดีใจมาก ขอบคุณพี่แจ๊ค ที่ช่วยทำให้ คิดค่าซ่อมแค่ 800 เอง

แต่พอขับออกมาได้นิดเดียว โดนตำรวจจับครับ ข้อหาติดไฟ LED แบบแผงยาว หลอดขาว ๆ เหมือนกับ ออดี้ และเบนซ์ อะ ร้อยเวรจับเองเลย แกบอก ข้อหา ไม่ร้ายแรง ปรับ 300 อาจจะม่ไดโนก็ได้ แต่ให้ไปผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบก่อนว่าผิดหรือไม่ เซ้งเลย
มันจับเดย์ไลน์ด้วยหรอเนี่ย ว่าแต่กลางวันกลางคืนครับ


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 24 มีนาคม 2011, 08:06:35
หน้าตาของ เซนเซอร์ O2 ครับ ตัวที่เสียคือ ตัวที่อยู่ใต้ท้องครับ


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 24 มีนาคม 2011, 09:07:25
มันจับเดย์ไลน์ด้วยหรอเนี่ย ว่าแต่กลางวันกลางคืนครับ
   โดนจับตอนเย็นๆ ครับ หลอดแบบนี้ เขาห้ามเปิดกลางคืนหรือครับ


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 24 มีนาคม 2011, 10:45:33
   โดนจับตอนเย็นๆ ครับ หลอดแบบนี้ เขาห้ามเปิดกลางคืนหรือครับ
เอาตามที่อ่านมานะครับ ตอนนี้มันมีเรื่องของกฎหมายห้ามเปิดไฟตัดหมอกตอนกลางคืนซึ่งตอนนี้ก็เปิดกันมั่วไปหมด ตำรวจจับอันนี้ผมเห็นด้วยขับในเมืองไม่ควรเปิด และผมเคยขับผ่านหมอกก็ไม่เห็นมันจะช่วยอะไรได้ไอ้ตัดหมอกเนียอยากรู้คนออกแบบเค้าคิดยังไง ส่วนเดย์ไลน์ ตำรวจคงเอาไปรวมๆกับไฟตัดหมอกเพราะมันก็สว่างเหมือนกันนะครับ ถ้าจับตอนเย็นๆแล้วใกล้มืดอันนี้ก็ต้องดูแหละครับ ถ้าผมเป็นตำรวจแล้วดูว่ามันสว่างแยงตาจริงๆผมก็คงโบกเรียก
แต่จริงๆเดยไลน์เนี่ย มันมาจากยุโรป ทางนู่นอากาศมันขมุกขมัว เหมือนหมอกลงตลอดเวลา ทางนู่นเลยมีไฟเดยไลน์มาให้ ลองไปดูใน Youtube ก็ได้ครับ จะเห็นว่ามันน่าใช้ยังไง
บ้านเราถ้าเปิดกลางวันผมว่าไม่มีปัญหานะ ทำให้เห็นรถได้ชัดดีอีก แค่ถ้าเปิดตอนมืดๆหรือโพ้เพ้ อันนี้ผมไม่เห็นด้วยครับ


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: ham_ter ที่ 24 มีนาคม 2011, 10:47:26
เอาตามที่อ่านมานะครับ ตอนนี้มันมีเรื่องของกฎหมายห้ามเปิดไฟตัดหมอกตอนกลางคืนซึ่งตอนนี้ก็เปิดกันมั่วไปหมด ตำรวจจับอันนี้ผมเห็นด้วยขับในเมืองไม่ควรเปิด และผมเคยขับผ่านหมอกก็ไม่เห็นมันจะช่วยอะไรได้ไอ้ตัดหมอกเนียอยากรู้คนออกแบบเค้าคิดยังไง ส่วนเดย์ไลน์ ตำรวจคงเอาไปรวมๆกับไฟตัดหมอกเพราะมันก็สว่างเหมือนกันนะครับ ถ้าจับตอนเย็นๆแล้วใกล้มืดอันนี้ก็ต้องดูแหละครับ ถ้าผมเป็นตำรวจแล้วดูว่ามันสว่างแยงตาจริงๆผมก็คงโบกเรียก
แต่จริงๆเดยไลน์เนี่ย มันมาจากยุโรป ทางนู่นอากาศมันขมุกขมัว เหมือนหมอกลงตลอดเวลา ทางนู่นเลยมีไฟเดยไลน์มาให้ ลองไปดูใน Youtube ก็ได้ครับ จะเห็นว่ามันน่าใช้ยังไง
บ้านเราถ้าเปิดกลางวันผมว่าไม่มีปัญหานะ ทำให้เห็นรถได้ชัดดีอีก แค่ถ้าเปิดตอนมืดๆหรือโพ้เพ้ อันนี้ผมไม่เห็นด้วยครับ
    ความจริง คิดว่า มันก็เหมือน มอไซค์ เปิดไฟใส่หมวกแหละ
ถ้าไม่สว่างมาก ก็ไม่โดนข้อหาหมั่นใส้ :-[ :-[


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 24 มีนาคม 2011, 11:03:28
    ความจริง คิดว่า มันก็เหมือน มอไซค์ เปิดไฟใส่หมวกแหละ
ถ้าไม่สว่างมาก ก็ไม่โดนข้อหาหมั่นใส้ :-[ :-[
มอไซค์ ผมเปิดไฟสูง ใส่หมวก มาตั้งแต่ยังไม่มีกฏหมายบังคับล่ะไม่เคยโดนเรียกเลย  เคยโดนแต่ ข้อหาอุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ(เอารถมอไซค์แข่งมาวิ่งเล่นบนถนนหลวง) ที่โดนเพราะท่านเล่นเอาตรทั้งโรงพัก รถมอไซค์สายตรวจ รถยนต์ตาโล่ เกือบทั้งหมดมาล้อมจับผม ตอนนั้นมันมาก ถ้ามีกล้องโทสับแบบสมัยนี้คงเอาลงยูตูบไปล่ะ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 24 มีนาคม 2011, 13:05:28
เอาตามที่อ่านมานะครับ ตอนนี้มันมีเรื่องของกฎหมายห้ามเปิดไฟตัดหมอกตอนกลางคืนซึ่งตอนนี้ก็เปิดกันมั่วไปหมด ตำรวจจับอันนี้ผมเห็นด้วยขับในเมืองไม่ควรเปิด และผมเคยขับผ่านหมอกก็ไม่เห็นมันจะช่วยอะไรได้ไอ้ตัดหมอกเนียอยากรู้คนออกแบบเค้าคิดยังไง ส่วนเดย์ไลน์ ตำรวจคงเอาไปรวมๆกับไฟตัดหมอกเพราะมันก็สว่างเหมือนกันนะครับ ถ้าจับตอนเย็นๆแล้วใกล้มืดอันนี้ก็ต้องดูแหละครับ ถ้าผมเป็นตำรวจแล้วดูว่ามันสว่างแยงตาจริงๆผมก็คงโบกเรียก
แต่จริงๆเดยไลน์เนี่ย มันมาจากยุโรป ทางนู่นอากาศมันขมุกขมัว เหมือนหมอกลงตลอดเวลา ทางนู่นเลยมีไฟเดยไลน์มาให้ ลองไปดูใน Youtube ก็ได้ครับ จะเห็นว่ามันน่าใช้ยังไง
บ้านเราถ้าเปิดกลางวันผมว่าไม่มีปัญหานะ ทำให้เห็นรถได้ชัดดีอีก แค่ถ้าเปิดตอนมืดๆหรือโพ้เพ้ อันนี้ผมไม่เห็นด้วยครับ
เป็นความรู้จริงๆ ไม่เคยรู้มาก่อน ไม่ว่าตำรวจหรอกครับ เราไม่รู้เอง :'(


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 24 มีนาคม 2011, 13:46:49
เป็นความรู้จริงๆ ไม่เคยรู้มาก่อน ไม่ว่าตำรวจหรอกครับ เราไม่รู้เอง :'(
มันไม่เผยแผ่มากหรอกครับ เดี๋ยวไม่มีคนมาให้จับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 25 มีนาคม 2011, 07:15:12
 :-* ผลพลอยได้ หลังจากซ่อมเกียร์มา แล้วมาเปลี่ยนตัว O2 Censor ก็คือ รอบเดินเบา นิ่งสนิท ทั้งแก๊ส ทั้งน้ำมัน ปกติ ใช้แก๊ส ยังมีสวิงบ้าง แต่ตอนนี้ ไม่มีอาการนี้เลย :-*


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: ES01 328 ที่ 25 มีนาคม 2011, 08:45:04
:-* ผลพลอยได้ หลังจากซ่อมเกียร์มา แล้วมาเปลี่ยนตัว O2 Censor ก็คือ รอบเดินเบา นิ่งสนิท ทั้งแก๊ส ทั้งน้ำมัน ปกติ ใช้แก๊ส ยังมีสวิงบ้าง แต่ตอนนี้ ไม่มีอาการนี้เลย :-*

ยินดีด้วย ที่ซ่อมแล้วรถสมบูรณ์ ๆ   :D


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 25 มีนาคม 2011, 09:55:41
:-* ผลพลอยได้ หลังจากซ่อมเกียร์มา แล้วมาเปลี่ยนตัว O2 Censor ก็คือ รอบเดินเบา นิ่งสนิท ทั้งแก๊ส ทั้งน้ำมัน ปกติ ใช้แก๊ส ยังมีสวิงบ้าง แต่ตอนนี้ ไม่มีอาการนี้เลย :-*
O2 Sensor  ถ้ามันเสีย มันมีผลกระทบหลายอย่างครับ แล้วลองดูการกินเชื้อเพลิงด้วยครับ ผมว่าน่าจะประหยัดขึ้นด้วย 8) 8)


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 25 มีนาคม 2011, 20:51:48
O2 Sensor  ถ้ามันเสีย มันมีผลกระทบหลายอย่างครับ แล้วลองดูการกินเชื้อเพลิงด้วยครับ ผมว่าน่าจะประหยัดขึ้นด้วย 8) 8)
ใช่ครับ ไม่น่าเชื่อ ตัวเล็กๆ 2 ตัวแค่นี้  มีผลกับเครื่องยนต์มหาศาลเลย เครื่องยนต์ เกียร์ สมูทขึ้นเยอะเลย


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 25 มีนาคม 2011, 22:41:18
ใช่ครับ ไม่น่าเชื่อ ตัวเล็กๆ 2 ตัวแค่นี้  มีผลกับเครื่องยนต์มหาศาลเลย เครื่องยนต์ เกียร์ สมูทขึ้นเยอะเลย
สงสัยจะต้องยาว ผมเองก็จำไม่ได้หมดนะเอาที่วิ่งๆอยู่ในหัวนี่แหละ
เซนเซอร์ตัวนี้(เรียกโอทูเซนล่ะกัน)เป็นตัววัดอ๊อกซิเจนที่เหลือจากการเผาไหม๊(คือเครื่องยนต์ที่เผาไม๊สมบูณร์ ส่วนผสมน้ำมัน+อากาศได้อัตราส่วนพอดี จะมีอ๊อกซิเจนออกมาพร้อมไอเสียจำนวนนึง)
แลมดาอะไรไม่พูดถึงนะงงป่าวๆ ถ้า โอทูเซนอ่านค่าอ๊อกซิเจนได้มากขึ้นหรือน้อยลงกล่องก็จะรับรู้ได้ว่าส่วนผสมบางหรือหนาเกินไป กล่องก็จะส่งจ่ายน้ำมัน เพิ่มหรือลดตาม ค่าอ๊อกซิเจนที่อ่านได้ ที่นี้ถ้าโอทูเซนอ่านค่าเพี้ยนไปจากเดิมกล่องก็จะสั่งจ่ายน้ำมันไม่เหมาะสมทำให้แรงตกหรือการเผาไหม้ไม่หมด เปลืองน้ำมันเดินเบาไม่เรียบ (ซึ่งอากาศเย็นหรือร้อนกมีผลกล่องอาศัยการวัดค่าหลายๆส่วน)
ที่นี้โอทูเซน อ่านค่าเพี้ยนได้ไง?  โอทูเซน เสียบหลังไม่ไกลจากพอร์ตไอเสีย ซึ่งไอเสียก็มีทั้งก๊าซเขม่า ความร้อน ยิ่งถ้ากรองอากาศสกปรกมากๆ หรือกรองน้ำมันต่างๆ หรืออ๊อกเทนไม่เหมาะกับเครื่องยนต์แต่เรื่องอ๊อกเทนไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่สำหรับในเมืองไทย
ทีนี้ สิ่งสกปรกที่อยู่ตามกรองต่างๆก็เข้ามาเผาไหม้พร้อม อากาศหรือเชื้อเพลิง เผาไหม้ออกมาไม่หมดก็ไปเกาะอยู่ตามวาว์ลต่างๆหัวลูกสูบห้องเผาไหม้ ลามไปยังโอทูเซน วิ่งไปเรื่อยก็สะสมไปเรื่อย  กล่องก็พยายามส่งจ่ายตามที่อ่านค่าได้ วันไหนอากาศเย็นหน่อนส่วนผสมก็อย่างนึงอากาศร้อนก็อย่างนึงจนวันนึงอ่านค่าเพี้ยนจนกล่องรับค่าไม่ได้ ไฟเครื่องก็โชว์ ด้วยประการนี้แหละครับ
งงไม๊ ;D
สงสยถามต่อได้


หัวข้อ: Re: ถึงคราวซ่อมเกียร์ ES01 กับเล่ห์กล การเรียกค่าซ่อมเกินจริงของช่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Pantamitr ที่ 26 มีนาคม 2011, 07:25:13
สงสัยจะต้องยาว ผมเองก็จำไม่ได้หมดนะเอาที่วิ่งๆอยู่ในหัวนี่แหละ
เซนเซอร์ตัวนี้(เรียกโอทูเซนล่ะกัน)เป็นตัววัดอ๊อกซิเจนที่เหลือจากการเผาไหม๊(คือเครื่องยนต์ที่เผาไม๊สมบูณร์ ส่วนผสมน้ำมัน+อากาศได้อัตราส่วนพอดี จะมีอ๊อกซิเจนออกมาพร้อมไอเสียจำนวนนึง)
แลมดาอะไรไม่พูดถึงนะงงป่าวๆ ถ้า โอทูเซนอ่านค่าอ๊อกซิเจนได้มากขึ้นหรือน้อยลงกล่องก็จะรับรู้ได้ว่าส่วนผสมบางหรือหนาเกินไป กล่องก็จะส่งจ่ายน้ำมัน เพิ่มหรือลดตาม ค่าอ๊อกซิเจนที่อ่านได้ ที่นี้ถ้าโอทูเซนอ่านค่าเพี้ยนไปจากเดิมกล่องก็จะสั่งจ่ายน้ำมันไม่เหมาะสมทำให้แรงตกหรือการเผาไหม้ไม่หมด เปลืองน้ำมันเดินเบาไม่เรียบ (ซึ่งอากาศเย็นหรือร้อนกมีผลกล่องอาศัยการวัดค่าหลายๆส่วน)
ที่นี้โอทูเซน อ่านค่าเพี้ยนได้ไง?  โอทูเซน เสียบหลังไม่ไกลจากพอร์ตไอเสีย ซึ่งไอเสียก็มีทั้งก๊าซเขม่า ความร้อน ยิ่งถ้ากรองอากาศสกปรกมากๆ หรือกรองน้ำมันต่างๆ หรืออ๊อกเทนไม่เหมาะกับเครื่องยนต์แต่เรื่องอ๊อกเทนไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่สำหรับในเมืองไทย
ทีนี้ สิ่งสกปรกที่อยู่ตามกรองต่างๆก็เข้ามาเผาไหม้พร้อม อากาศหรือเชื้อเพลิง เผาไหม้ออกมาไม่หมดก็ไปเกาะอยู่ตามวาว์ลต่างๆหัวลูกสูบห้องเผาไหม้ ลามไปยังโอทูเซน วิ่งไปเรื่อยก็สะสมไปเรื่อย  กล่องก็พยายามส่งจ่ายตามที่อ่านค่าได้ วันไหนอากาศเย็นหน่อนส่วนผสมก็อย่างนึงอากาศร้อนก็อย่างนึงจนวันนึงอ่านค่าเพี้ยนจนกล่องรับค่าไม่ได้ ไฟเครื่องก็โชว์ ด้วยประการนี้แหละครับ
งงไม๊ ;D
สงสยถามต่อได้
  ขอบคุณสำหรับคำอธิบายครับ  :-* แจ่มเลย