:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Car Knowledge => คลังความรู้คู่รถ => ข้อความที่เริ่มโดย: man1978 ที่ 20 ธันวาคม 2010, 09:49:57



หัวข้อ: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: man1978 ที่ 20 ธันวาคม 2010, 09:49:57
จอดททิ้งไว้เสาร์อาทิตย์เช้าวันจันทร์มาสตาร์ไม่ติดเฉยเลยเพิ่งเปลี่ยนแบตมาใหม่ด้วย บิดกุญแจไม่มีเสียงอะไรเลยส่วนไฟแบตโชว์เครื่องโชว์น้ำมันเครื่องโชว์ เคยเป็นแล้วครั้งนึงแต่ตอนนั้นไฟแบตไม่โชว์ก็เลยเปลี่ยนแบตแล้วก็สตาร์ทติด ช่างคนที่แล้วบอกว่าเป็นที่ไดสตาร์เกี่ยวกันมั้ยคับช่วยหน่อยนะคับพี่น้อง


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: srithanon ที่ 20 ธันวาคม 2010, 12:55:45
อาการนี้น่าจะมาจากระบบไดน์ชาร์ทมีปัญหา มากกว่าระบบมอเตอร์สตาร์ท  อยากจะให้ทดลองดังนี้
ในกรณีที่คิดว่าเป็นที่ระบบมอเตอร์สตาร์ท ให้ทดลองยืมแบ็ตเตอรี่รถคันอื่นมาพ่วง  แล้วสตาร์ทเครื่อง หากมอเตอร์ทำงานและสตาร์ทเครื่องยนต์ติด   แสดงว่าระบบมอเตอร์สตาร์ทปกติ  หากสตาร์ทไม่ติด ได้ยินเสียงรีเรย์ทำงานดังชะๆ แต่มอเตอร์ไม่ทำงาน ให้สงสัยว่า ตัวโซลินอยของมอเตอร์สตาร์ท มใหน้าสัมผัสของหน้าคอนแท็คสำหรับให้กระแสไฟผ่านไปที่ฟีลคอยของมอเตอร์สตาร์ท ไม่สัมผัสแตะกัน เป็นหลุมรอยอาร์คของกระแสไฟ  กระแสไฟผ่านไม่สะดวก ก็ถอดออกมาซ่อมได้
ปัญหาที่สองที่ตามมาก็คือระบบไดน์ชาร์ท มีปั้ญหา เนื่องจากที่ตัวไดน์ชาร์ท อาจจะมีไดโอดเร็คติไฟร์ชอร์ท ทำให้กระแสไฟจากแบ็ตเตอรี่ไหลผ่านไดโอดลงกราวด์ ทำให้ไฟแบ็ตเตอรี่หมด  ช่วงเวลาข้ามคืนหรือสามสี่ชั่วโมง  ทำให้แบ็ตไม่มีไฟสำหรับสตาร์ท
หรืออีกประเด็นหนึ่งอาจจะมาจากระบบวงจรสายไฟในรถยนต์ หรือ ที่ตัวอุปกรณ์เครื่องเสียง เครื่องที่ใช้ระบบไฟของแบ็ตเตอรี่  เกิดมีระบบภายในชอร์ท ทำให้กระแสไฟจากแบ็ตรั่วลงกราวด์
ในกรณีอย่างนี้ให้ทำการตรวจวัดกระแสไฟ ของแบ็ต ในขณะที่เรายังไม่ได้สตาร์ทเครื่องยต์ และปิดอุปกรณ์เครื่องเสียงทั้งหมด
วิธีการก็คือ ให้หาแอมป์มิเตอร์ที่มีเร้นจการอ่านกระแสไฟ สักสิบห้าแอมป์ก็พอ เพื่อสะดวกในการอ่านค่ากระแสที่วัดได้บนหน้าปัทม์มิเตอร์วัดแอมป์  เพราะกระแสไฟที่คาดว่ารั่วไม่น่าจะเกิน 5-15 Amp    โดยใช้แอมป์มิเตอร์ต่ออนุกรมกับขั่วบวกของแบ็ตกับสายไฟบวกทั้งหมดที่ถอดออก  ขั่วบวกของแอมป์มิเตอร์ก็ต่อกับขั่วบอกของแบ็ต ขั่วลบของแอมป์มิเตอร์ก็ต่อเข้ากับสายไฟทั้งชุดที่ถอดออกจากขั่วบวก   แล้วสังเกตุว่าที่แอมป์มิเตอร์เข็มชี้ได้กี่แอมป์  สมมุติว่าอ่านได้นิดหน่อย(ประมาณ 100 ma) ถือว่าปกติ กระแสที่อ่านได้เล็กน้อนอาจจะมาจากมีอุปกรณ์พวกเครื่องวิทยุที่ใช้สำหรับนาฬิกาหรือระบบสัญญาณป้องกันขโมย

แต่ถ้าหากอ่านค่ากระแสไฟได้ ตั้งแต่ 5 Amp ขึ้นไป อาจจะมาจากอุปกรณ์ตัวหนึ่งตัวใดขอ
งระบบเสียง หรือระบบไดน์ชาร์ท  อันดับแรกให้เราทดลองเอาสายไฟที่มาจากไดน์ชาร์ท เส้นที่เป็นสายไฟชาร์ทจากแบ็ตออก  แล้วสังเกตุว่าที่แอมปมิเตอร์ อ่านค่ากระแสลดลงหรือไม่ สมมุติว่าลดลงมาเกือบศูนย์ แสดงว่าระบบไดน์ชาร์ทชำรุด  หากยังอ้านได้ เท่าเดิม ก็ลองเอาสายไฟที่ป้อนเข้าระบบเครื่องเสียงออกทีละชุด ก็อาจจะพบได้ ว่ามีชุดหนึ่งชุดไดเสียหรือมีระบบไฟชอร์ทลงกราวด์
ลองทำไปทีละชุด ของอุปกรณ์ที่ใช้ไฟทั้งหมด ก็จะพบว่าเป็นที่อุปกรณ์ตัวใด...srithamom


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: man1978 ที่ 20 ธันวาคม 2010, 13:26:45
ขอบคุณมากคับ อยากถามอีกหน่อยว่าถ้าเปลี่ยนไดชาร์ทแล้วแบตผมจะเสื่อมหรือป่าวอะคับแบตผมเป็นแบบแห้งด้วยเพิ่งเปลี่ยนเมื่อต้นเดือนเองอะคับ แล้วไดชาร์ทลูกละเท่าไหร่คับ มีแต่เรื่องเสียตังตลอด


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: desperado ที่ 20 ธันวาคม 2010, 13:27:36
 ;)
จอดนาน ขนาดนั้นก็หมด ธรรมดาล่ะครับ แบตฯก็ใช่ว่าจะลูกใหญ่ที่ไหนกันรถเก๋ง...
-เปลี่ยนใหม่ควรชาร์ทแบบช้าๆนานๆค่อยมาใส่..
-ใส่แล้ววิ่งเลยชาร์ทไม่เต็มที่หรอก...
-ตอนที่รถเดินเครื่อง โอเค มีไฟออกมาจาก ไดร์ชาร์ทแน่นอน...(แต่ตอนรถวิ่ง ไฟจ่ายไปไหนกันบ้าง แอร์ พัดลม(กี่ตัว..ลองนับดู)  วิทยุ ระบบควบคุมรถ ฯลฯ)
-ไดร์ชาร์ท ทำหน้าที่จ่ายไฟไปเลี้ยงระบบ แบตฯ ทำหน้าที่เป็น ฟิลเตอร์ไม่ให้ไฟเกิน...
-ไดร์ชาร์ทยังอาศัย ไฟจาก แบตฯ เพื่อการทำงานเลยนะ ครับท่าน...
-ควรชาร์ทให้เต็มที่ก่อนค่อยเอาใส่..............
***ถ้ายังมีปัญหาอยู่ ค่อยวิเคราะห์ อีกที***
 ;)


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: desperado ที่ 20 ธันวาคม 2010, 13:30:26
ขอบคุณมากคับ อยากถามอีกหน่อยว่าถ้าเปลี่ยนไดชาร์ทแล้วแบตผมจะเสื่อมหรือป่าวอะคับแบตผมเป็นแบบแห้งด้วยเพิ่งเปลี่ยนเมื่อต้นเดือนเองอะคับ แล้วไดชาร์ทลูกละเท่าไหร่คับ มีแต่เรื่องเสียตังตลอด
:D
เอาแบตฯไปชาร์ทให้เต็มที่ก่อนครับ...
เสียเวลา แค่ 2-3 ชั่วโมงเอง...แล้วค่อยมาวิเคราะห์กันอีกที
 ;)


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: srithanon ที่ 20 ธันวาคม 2010, 21:31:44
ในกรณีทีไดน์ชาร์ทมีปัญหาอันเนื่องมาจากตัวไดโอดเร็คติไฟร์ เกิดการชอร์ทระหว่างเพลตและแคโทด ทำให้มีกระแสไหลจากแบ็ตเตอรี่ลงกราวด์  ทำให้แบ็ตเตอรี่ไ-ม่มีกระแสไฟในหม้อ  มันไม่เสื่อมหรอกครับ นำแบ็ตไปทำการชาร์ทให้เต็มเสียใหม่มันก็สามารถเก็บไฟได้ตามปกติ  อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเดี๋ยวมีปัญหา
ในกรณีที่จะเปลี่ยนไดน์ชาร์ทควรตรวจสอบว่ามันเสียจริงเสียก่อน แล้วค่อยเปลี่ยน ตามที่ผมแนะนำ หรือให้ร้านที่ซ่อมไดน์ชาร์ทเขาตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสียก่อนครับ  สำหรับราคาตัวไดน์ชาร์ทก็อยู่ที่ประมาณพันกว่าบาท แล้วแต่ละยี่ห้อ 
บางครั้งน่าเห็นใจท่านเจ้าของรถยนต์ ที่อุปกรณ์ภายในตัวไดน์ชาร์ทเสียบางตัวมันแค่เปลี่ยนก็ใช้ได้ ราคาไม่กี่บาท บางร้านซ่อมบอกกับลูกค้าว่าเสียมากต้องเปลี่ยนทั้งลูก  เอาเปรียบลูกค้าเกินไป ก็ระวังด้วย ก็ไม่รู้จะแนะนำท่านที่เป็นเจ้าของรถได้อย่างใด ที่จะไม่โดนร้านซ่อมหรอก เพราะท่านเจ้าของรถไม่มีความรู้ด้านนี้  ก็ขอให้เจอร้านซ่อมที่เขามีความสำนึกในความเป็นช่างและไม่เอาเปรีรยลลูกค้าจนเกินความพอดี  ก็ขอให้โชคดีครับ`....srithanon


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 21 ธันวาคม 2010, 00:26:26
ไฟรั่วป่าวครับ


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: desperado ที่ 21 ธันวาคม 2010, 12:39:07
 :D
วันนี้มีข้อมูลเล็กๆน้อยๆมาแชร์เพื่อเป็นแนวคิดในการวิเคราะห์ เรื่อง อยู่ๆ แบตฯหมดโดยไม่รู้สาเหตุของชาว CIVIC ครับ
วันนี้ผมแวะร้านแอร์&ไดนาโมของรุ่นพี่...เลยลองถามแกว่าเคยเจอแบบนี้มั๊ย...
แกบอกโดยไม่ลังเล แม้แต่น้อยว่า บ่อยมาก...
จากประสบการณ์จริงแกบอกว่าถ้าระบบอื่นไม่เป็นไร ที่น่าสงสัยมากที่สูดคือ รีเลย์คอมฯแอร์ และรีเลย์พัดลม
ปัญหาคือมันตัวเล็กเกินไปที่จะทำงาน นานๆ ทำให้ หน้าคอนแท็ค(contact)ละลายติดกัน เป็นส่วนใหญ่ที่เจอมา
ทำให้แม้ว่าเราจะปิดสวิทช์หมดแล้ว แต่รีเลย์มันยังต่ออยู่ ถ้าเป็นคอมฯแอร์จะสังเกตูยากหน่อย...ถ้าพัดลมก็หมุนตลอดเวลา ดูง่าย
ลองๆไปเช็ค และวิเคราะห์กันดูครับ...ถ้าใครเคยเจอปัญหานี้ จะได้ ไม่หลงทาง...
 :D


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 21 ธันวาคม 2010, 12:52:39
:D
วันนี้มีข้อมูลเล็กๆน้อยๆมาแชร์เพื่อเป็นแนวคิดในการวิเคราะห์ เรื่อง อยู่ๆ แบตฯหมดโดยไม่รู้สาเหตุของชาว CIVIC ครับ
วันนี้ผมแวะร้านแอร์&ไดนาโมของรุ่นพี่...เลยลองถามแกว่าเคยเจอแบบนี้มั๊ย...
แกบอกโดยไม่ลังเล แม้แต่น้อยว่า บ่อยมาก...
จากประสบการณ์จริงแกบอกว่าถ้าระบบอื่นไม่เป็นไร ที่น่าสงสัยมากที่สูดคือ รีเลย์คอมฯแอร์ และรีเลย์พัดลม
ปัญหาคือมันตัวเล็กเกินไปที่จะทำงาน นานๆ ทำให้ หน้าคอนแท็ค(contact)ละลายติดกัน เป็นส่วนใหญ่ที่เจอมา
ทำให้แม้ว่าเราจะปิดสวิทช์หมดแล้ว แต่รีเลย์มันยังต่ออยู่ ถ้าเป็นคอมฯแอร์จะสังเกตูยากหน่อย...ถ้าพัดลมก็หมุนตลอดเวลา ดูง่าย
ลองๆไปเช็ค และวิเคราะห์กันดูครับ...ถ้าใครเคยเจอปัญหานี้ จะได้ ไม่หลงทาง...
 :D
เสริมให้นะครับ รีเลย์มันจะพังหลังจากที่มอเตอร์มันลมมันเจ๊งครับมันหมุนยากขึ้นโหลดมันมากขึ้นรีเลย์ก็ต้องรับภาระกระแสมากขึ้นตาม พอเปลี่ยนพัดลมบางทีรีเลย์อาจจะพังไปด้วย แต่อาจจะมองข้ามไปครับ


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: RG ที่ 13 กันยายน 2011, 19:50:28
up


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 14 กันยายน 2011, 09:59:00
ผมก้เจอปัญหาเกี่ยวกับรีเลย์เหมือนกันครับ ตอนนั้น ไปปราจีน ไปหาพี่ชาย ตอนเช้าก้สตาร์ทปรกติ พอตอนเที่ยงก้ไปเปลี่ยนยางด้วยกัน เหนสตาร์ทปรกติ พอตกบ่ายๆ ผมก้ออกเดินทางกลับมาอุตรดิตถ์ เดินทางมาถึงพระพุทธบาทละ พี่ชายโทรมาบอกว่า รถสตาร์ทไม่ติด แบตหมดเกลี้ยง เอาละงานเข้า ผมก้ต้องตีรถกลับไป ปราจีนบุรี ไปเชคๆดู เอาแบตท้ายรถ มาเปลี่ยน พอดี เอาแบตติดท้ายรถมาด้วยจากบ้าน อีกลูกนึง พอเอาขั้วแบทแตะเท่านั้นแหล่ะ เป็นประกายไฟเลย อย่างที่สันนิษฐานไว้เลย มันต้องมีการดึงไฟไปใช้แน่นอน เลยไปดูไฟหน้า อ้อ ไฟติด ไปดูสวิต อ้าว สวิตไม่ได้เปิด เลยถอดรีเลย์แล้ว เอาขั้วแตะ เอ้อ ไม่มีประกายไฟ พอเสียบรีเลย์เข้าไปใหม่ ก้ปรกติดี ผมเลยเอาทิ้งไปเลย เอา รีเลย์ อื่น มาใส่ไปก่อน แล้วก็ เใส่แบต สตาร์ทติด ปรกติ แล้วก้ไปหาซื้อรีเลย์มาเปลี่ยนทีหลังเอา ผมเลยคิดว่ารีเลย์มันก้มีการเสื่อมสภาพเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยมีคนรู้เท่าไร


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 14 กันยายน 2011, 10:08:50
ผมก้เจอปัญหาเกี่ยวกับรีเลย์เหมือนกันครับ ตอนนั้น ไปปราจีน ไปหาพี่ชาย ตอนเช้าก้สตาร์ทปรกติ พอตอนเที่ยงก้ไปเปลี่ยนยางด้วยกัน เหนสตาร์ทปรกติ พอตกบ่ายๆ ผมก้ออกเดินทางกลับมาอุตรดิตถ์ เดินทางมาถึงพระพุทธบาทละ พี่ชายโทรมาบอกว่า รถสตาร์ทไม่ติด แบตหมดเกลี้ยง เอาละงานเข้า ผมก้ต้องตีรถกลับไป ปราจีนบุรี ไปเชคๆดู เอาแบตท้ายรถ มาเปลี่ยน พอดี เอาแบตติดท้ายรถมาด้วยจากบ้าน อีกลูกนึง พอเอาขั้วแบทแตะเท่านั้นแหล่ะ เป็นประกายไฟเลย อย่างที่สันนิษฐานไว้เลย มันต้องมีการดึงไฟไปใช้แน่นอน เลยไปดูไฟหน้า อ้อ ไฟติด ไปดูสวิต อ้าว สวิตไม่ได้เปิด เลยถอดรีเลย์แล้ว เอาขั้วแตะ เอ้อ ไม่มีประกายไฟ พอเสียบรีเลย์เข้าไปใหม่ ก้ปรกติดี ผมเลยเอาทิ้งไปเลย เอา รีเลย์ อื่น มาใส่ไปก่อน แล้วก็ เใส่แบต สตาร์ทติด ปรกติ แล้วก้ไปหาซื้อรีเลย์มาเปลี่ยนทีหลังเอา ผมเลยคิดว่ารีเลย์มันก้มีการเสื่อมสภาพเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยมีคนรู้เท่าไร
รีเลย์นี่ ส่วนมากอาการเสียคือ หน้า คอนแทค ค้างไม่ก็ไม่ยอมต่อวงจรครับ  อันนี้เช็คไม่ยาก ส่วนมากจะเสียเมื่อใช้กับโหลดเยอะๆ แต่ถ้าเป็นรีเลย์มอเตอร์พัดลม พวกนนี้จะเสียเพราะ พัดลมมันฝืด เลยกินกระแสมากขึ้น รีเลย์ก็รับพาระมากขึ้น ก็พังง่ายขึ้น


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 14 กันยายน 2011, 10:12:50
รีเลย์นี่ ส่วนมากอาการเสียคือ หน้า คอนแทค ค้างไม่ก็ไม่ยอมต่อวงจรครับ  อันนี้เช็คไม่ยาก ส่วนมากจะเสียเมื่อใช้กับโหลดเยอะๆ แต่ถ้าเป็นรีเลย์มอเตอร์พัดลม พวกนนี้จะเสียเพราะ พัดลมมันฝืด เลยกินกระแสมากขึ้น รีเลย์ก็รับพาระมากขึ้น ก็พังง่ายขึ้น

ตอนขับรถกลับบ้าน พ่อบอกว่า คราว นี้จะไล่เปลี่ยนรีเลย์ เก่าๆ แม่มให้หมดเลย  ;D ;D ;D แต่เสียแบบที่คอนแทคมันไม่ทำงาน ผมว่า เคยเจอ แต่ แบบที่คอนแทคติดกัน เพิ่งเคยเจอครั้งแรกครับ แต่เร่องความเสื่อมสภาพนี่พอเข้าใจคับ สวิทไฟห้องน้ำ ผมที่บ้าน เปลี่ยนเป็น อันที่สามละ เพราะว่าใช้บ่อยเลยเสีย ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 14 กันยายน 2011, 10:15:09
ตอนขับรถกลับบ้าน พ่อบอกว่า คราว นี้จะไล่เปลี่ยนรีเลย์ เก่าๆ แม่มให้หมดเลย  ;D ;D ;D แต่เสียแบบที่คอนแทคมันไม่ทำงาน ผมว่า เคยเจอ แต่ แบบที่คอนแทคติดกัน เพิ่งเคยเจอครั้งแรกครับ แต่เร่องความเสื่อมสภาพนี่พอเข้าใจคับ สวิทไฟห้องน้ำ ผมที่บ้าน เปลี่ยนเป็น อันที่สามละ เพราะว่าใช้บ่อยเลยเสีย ;D ;D ;D
มันรับกระแสมาก เวลามันแตะกันมันก็สปาคมาก เลยละลาย แค่นิดเดียว มันก็ติดกันล่ะ จุดเล็กๆแค่ 1mm 


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 14 กันยายน 2011, 10:16:22
มันรับกระแสมาก เวลามันแตะกันมันก็สปาคมาก เลยละลาย แค่นิดเดียว มันก็ติดกันล่ะ จุดเล็กๆแค่ 1mm 

ภัยเงียบ  :o :o :o


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: darknesspic ที่ 14 มกราคม 2012, 09:53:01
ทั้งไว้คืนนึงวัดไฟได้ประมาณ11-12VDC ถือว่าแบตปกติป่าวครับ


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: jkung_27 ที่ 14 มกราคม 2012, 10:41:00
ผมก้เจอปัญหาเกี่ยวกับรีเลย์เหมือนกันครับ ตอนนั้น ไปปราจีน ไปหาพี่ชาย ตอนเช้าก้สตาร์ทปรกติ พอตอนเที่ยงก้ไปเปลี่ยนยางด้วยกัน เหนสตาร์ทปรกติ พอตกบ่ายๆ ผมก้ออกเดินทางกลับมาอุตรดิตถ์ เดินทางมาถึงพระพุทธบาทละ พี่ชายโทรมาบอกว่า รถสตาร์ทไม่ติด แบตหมดเกลี้ยง เอาละงานเข้า ผมก้ต้องตีรถกลับไป ปราจีนบุรี ไปเชคๆดู เอาแบตท้ายรถ มาเปลี่ยน พอดี เอาแบตติดท้ายรถมาด้วยจากบ้าน อีกลูกนึง พอเอาขั้วแบทแตะเท่านั้นแหล่ะ เป็นประกายไฟเลย อย่างที่สันนิษฐานไว้เลย มันต้องมีการดึงไฟไปใช้แน่นอน เลยไปดูไฟหน้า อ้อ ไฟติด ไปดูสวิต อ้าว สวิตไม่ได้เปิด เลยถอดรีเลย์แล้ว เอาขั้วแตะ เอ้อ ไม่มีประกายไฟ พอเสียบรีเลย์เข้าไปใหม่ ก้ปรกติดี ผมเลยเอาทิ้งไปเลย เอา รีเลย์ อื่น มาใส่ไปก่อน แล้วก็ เใส่แบต สตาร์ทติด ปรกติ แล้วก้ไปหาซื้อรีเลย์มาเปลี่ยนทีหลังเอา ผมเลยคิดว่ารีเลย์มันก้มีการเสื่อมสภาพเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยมีคนรู้เท่าไร
แล้วอย่างถอดขั้วแบตลบออก เพื่อรีค่ากล่อง ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วใส่กลับ เวลาใส่กลับมันก็จะมีไฟแป๊บเป็นสะเกต ทุกครั้งเลย อาการนี้ปกติใหมครับ  ::)    แต่รถผมจอดเป็นอาทิตย์ก็สตาทติดนะ


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: morarch ที่ 02 เมษายน 2012, 14:37:24
 :-[ :-[
มันรับกระแสมาก เวลามันแตะกันมันก็สปาคมาก เลยละลาย แค่นิดเดียว มันก็ติดกันล่ะ จุดเล็กๆแค่ 1mm 

 :-[ :-[ เพิ่งโดนคับขับ3dคู่ใจมาดีๆไฟทุกอย่างดับครับ ทั้งหน้าปัด ไฟเลี้ยว เครื่องยนต์ยังทำงานวิงได้อยู่  รีบปิดแอร์ทันที เพราะรู้สึกมีแต่ลม กะจะเลื่อนกระจกลงดันไม่ทำงาน วิ่งมาถึงบ้าน ขับมาอย่างใจเสียๆมึนงงกับอาการเข้าใจว่าแบตจะหมดกลางอากาศได้ไงหว่า พอจอด จะลองเลื่อนกระจกอีกครั้ง ลงได้คืบเดียว ดันใดนั้นเครื่องดับไปเลยครับ อารมย์เหมือนถอดปลั๊กออก ลองสตาร์ทอีกที คราวนี้เงียบเลยดับสนิท เช็คที่แบต เอ้ยไฟยังเต็ม (ดูง่ายเพราะแบตแห้งครับ)คราวนี้ลองดูที่ฟิวส์ ดึงออกมาดูทุกตัวก็ปกติดีครับ แต่ปัญหาน่าจะมาจากระบบไฟแน่ๆ คราวนี้ใส่ฟิวไปใหม่ ลองสตาร์ทไฟมาครับเพราะบิดกุณแจไฟขึ้น ไฟกระพิบ แต่สตาร์ทแล้วไดส่งเสียงแก๊ะๆๆๆทั้งๆที่แบตยังแสดงว่าเต็ม ถึงตอนนี้งงเลย ไม่แน่ใจเรื่อง รีเลย์ วานผู้รู้ชี้แนะด้วยครับ :-[ :-[


หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยรถสตาร์ทไม่ติด
เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 02 เมษายน 2012, 14:43:29
แล้วอย่างถอดขั้วแบตลบออก เพื่อรีค่ากล่อง ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วใส่กลับ เวลาใส่กลับมันก็จะมีไฟแป๊บเป็นสะเกต ทุกครั้งเลย อาการนี้ปกติใหมครับ  ::)    แต่รถผมจอดเป็นอาทิตย์ก็สตาทติดนะ

มีไฟเป็นสะเกด นี่ ไม่ต้องห้านาทีก้มี แสดงว่า ต้องมีอะไรสักอย่าง ที่มันดึงไฟไปใช้ ติดเครื่องเสียง ติดแอมป์เพิ่มรึป่าว พวกเครื่องเสียง ช่างส่วนใหญ่ ชอบเดิน ไฟตรงไปรอเลย โดยไม่ผ่านรีเลย์ และกุญแจ เจอมาหลายคันละ ;D ;D ;D