:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Discuss => ห้องคนขับ => ข้อความที่เริ่มโดย: thanawat6 ที่ 07 ตุลาคม 2010, 13:23:55



หัวข้อ: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: thanawat6 ที่ 07 ตุลาคม 2010, 13:23:55
ek ครับพี่น้อง 

         พอดีอยากรู้ว่าตัวปี96  มันใช้แรงดันน้ำมันกับปี00 ขี้นไปที่ใช้กล่องควบคุมการเปลี่ยนเกียร์
คำถามนะครับ   ถ้าขับในเมืองแบบใช้ความเร็วได้ไม่เต็มที่คือประมาณขับเกียร์ 3 อย่างเดียวรถ
ขึ้นเกียร์ 4 ไม่ได้เพราะความเร็วไม่ถึง ความเร็ว 30 - 40 ไม่เกิน 40 km/h ครับปี 00  ลากรอบกันไหม
ของผมลากอยู่ประมาณ 2000 รอบครับในเมืองเปลืองน้ำมันมาก ๆ   แต่ขับทางไกลประหยัดดีครับ
ถ้าขับเกียร์ 3 ในเมืองแล้วทำให้รอบมันต่ำลงมาไม่ลากคงประหยัดอยู่หละครับ

         ปล. เดิมเคยขับ MT เปลี่ยนมาเป็น AT ครับเนื่องจากอยากสบาย แต่ไม่นึกว่าขับในเมือง
กินน้ำมันมากขนาดนี้เพราะต้องลากรอบให้ถึงความเร็วเกียร์ถึงจะเปลี่ยน ถ้าเป็น MT คงยัดเกียร์
4 ไปแล้วใช่ไหมครับ  :-*


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kru_jed ที่ 07 ตุลาคม 2010, 14:34:59
ek ครับพี่น้อง 

         พอดีอยากรู้ว่าตัวปี96  มันใช้แรงดันน้ำมันกับปี00 ขี้นไปที่ใช้กล่องควบคุมการเปลี่ยนเกียร์
คำถามนะครับ   ถ้าขับในเมืองแบบใช้ความเร็วได้ไม่เต็มที่คือประมาณขับเกียร์ 3 อย่างเดียวรถ
ขึ้นเกียร์ 4 ไม่ได้เพราะความเร็วไม่ถึง ความเร็ว 30 - 40 ไม่เกิน 40 km/h ครับปี 00  ลากรอบกันไหม
ของผมลากอยู่ประมาณ 2000 รอบครับในเมืองเปลืองน้ำมันมาก ๆ   แต่ขับทางไกลประหยัดดีครับ
ถ้าขับเกียร์ 3 ในเมืองแล้วทำให้รอบมันต่ำลงมาไม่ลากคงประหยัดอยู่หละครับ

         ปล. เดิมเคยขับ MT เปลี่ยนมาเป็น AT ครับเนื่องจากอยากสบาย แต่ไม่นึกว่าขับในเมือง
กินน้ำมันมากขนาดนี้เพราะต้องลากรอบให้ถึงความเร็วเกียร์ถึงจะเปลี่ยน ถ้าเป็น MT คงยัดเกียร์
4 ไปแล้วใช่ไหมครับ  :-*

ของผมเป็น Lev ออโต้นะครับ  เท่าที่จำได้นะพี่เจ ...เกียร์ 1 ไป 2  รอบอยู่ที่เกือบๆ /2,500 แล้วเปลี่ยน  จากเกียร์ 2 ไป 3  รอบอยุ่ที่ 2,500 (ที่ความเร็ว 40 km. )

ถึงเปลี่ยนเป้นเกียร์สาม และ ก็สี่ ตามลำดับ  ถ้าขับในเมือง รถติดๆเคลื่อนตัวได้ช้าๆก็ 1-2 อยุ่แค่นี้ละครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: thanawat6 ที่ 07 ตุลาคม 2010, 15:09:48
ครู แล้วถ้าความเร็วอยู่ที่ประมาณ 30 ไม่ถึง 40 กม/ชม. หละครับ รถครูอยู่เกียร์อะไร

รถผมปี 96 ตามนี้
เกียร์         ความเร็ว               รอบ
1 - 2            20                  2000
2 - 3            40                  2500
3 - 4            50                  2500 - 2600         

ช่วงที่เกียร์ 3 จะขึ้น 4 นี่ต้องขับให้ได้ความเร็ว 40 กม/ชม. ถึงจะเปลี่ยน
ตอนนั้นรอบ อยู่ 2000 กว่า ๆ หละ ถ้าไม่ถึง 40 ต้องลากรอบ 2200-2300 รอบ
ไอ้ตอนนี้หละ เปลืองมาก ๆ  ถ้าขับในซอยยิ่งใช้ความเร็วได้ไม่ถึง 40


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: p jung ที่ 07 ตุลาคม 2010, 15:14:38
ไม่ได้ต่างกันเลย ถั่วทองของที่บ้านก็แบบนี้ครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: thanawat6 ที่ 07 ตุลาคม 2010, 16:29:30
ชอบที่วิ่งไกล ๆ ยาว ๆ ประหยัดดีครับ ไม่ซดเพราะทดรอบตอน lock-up ทำงานทำให้รอบต่ำลงไม่สูง
แต่ถ้าขับในเมืองชิว ๆ 30 ไม่เกิน 40 ลากรอบน่าดู ซด กับ ซด ยังไงได้เน๊าะต้องเอาน้ำมันแลกกับ
ความสะบายหละ  สงสัยต้องติด NOS ซะละมั้ง


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Groovy EK ที่ 07 ตุลาคม 2010, 17:23:47
ผมหงุดหงิดเวลาต้องอยู่ที่ 1-2 บ่อยๆ นี่ล่ะ

รอบไม่ถึง 2500 มันก็ไม่ยอมเปลี่ยนซักที

ออโต้ก็สบายดี แต่บางครั้งก็แอบคิดถึงเกียร์ธรรมดา


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: broom ที่ 07 ตุลาคม 2010, 19:52:47
มันก็ปกตินี่ครับ ถ้าอยากให้เปลี่ยนเร็ว เหยียบความเร็วให้คงที่ซักระยะนึง ผ่อนคันเร่งนิดเดียว เกียร์ก็จะเปลียนสูงขึ้นครับ แต่ถ้าความเร็วมันต่ำไป มันจะไม่เปลี่ยนครับ  แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ไม่ได้คุมด้วยกล่อง มันจะเปลี่ยนตามความเร็วเป็นส่วนใหญ่ครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pbwms07 ที่ 07 ตุลาคม 2010, 20:11:23
ลองตั้งสายคลิกดาว ให้หย่อนนิดนึง เกียรจะเปลี่ยนเร็วขึ้น จำด้วยนะครับว่าขันไปเท่าไร


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kru_jed ที่ 07 ตุลาคม 2010, 23:03:32
ครู แล้วถ้าความเร็วอยู่ที่ประมาณ 30 ไม่ถึง 40 กม/ชม. หละครับ รถครูอยู่เกียร์อะไร

รถผมปี 96 ตามนี้
เกียร์         ความเร็ว               รอบ
1 - 2            20                  2000
2 - 3            40                  2500
3 - 4            50                  2500 - 2600         

ช่วงที่เกียร์ 3 จะขึ้น 4 นี่ต้องขับให้ได้ความเร็ว 40 กม/ชม. ถึงจะเปลี่ยน
ตอนนั้นรอบ อยู่ 2000 กว่า ๆ หละ ถ้าไม่ถึง 40 ต้องลากรอบ 2200-2300 รอบ
ไอ้ตอนนี้หละ เปลืองมาก ๆ  ถ้าขับในซอยยิ่งใช้ความเร็วได้ไม่ถึง 40

ของผมถ้าไม่ถึง 40 มันจะอยู่ที่เกียร์ 2 ครับ...ถ้าขึ้น 40 ก้เปน 3 และ 4 ครับตามลำดับครับ  :D


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: part22 ที่ 08 ตุลาคม 2010, 00:37:21
มันก็ปกตินี่ครับ ถ้าอยากให้เปลี่ยนเร็ว เหยียบความเร็วให้คงที่ซักระยะนึง ผ่อนคันเร่งนิดเดียว เกียร์ก็จะเปลียนสูงขึ้นครับ แต่ถ้าความเร็วมันต่ำไป มันจะไม่เปลี่ยนครับ  แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ไม่ได้คุมด้วยกล่อง มันจะเปลี่ยนตามความเร็วเป็นส่วนใหญ่ครับ
.
ตามนี้เลยครับ ต้องถอนคันเร่งนิดนึง มันจะเปลี่ยนเกียร์ที่รอบต่ำ ผมใช้วิธีนี้อยู่  :-[
.
การที่เหยียบไม่ถอนกล่องมันคิดว่าเราต้องการกำลังจากเครื่องอยู่


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ngoodin97 ที่ 08 ตุลาคม 2010, 01:06:45
แล้วเกียร์ของ B20B มันควบคุมด้วยกล่องไหมครับ และสามารถใช้วิธีการรีเซตกล่องด้วยวิธีการถอดขั้วแบตเตอรี่ออกได้ไหมครับ รบกวนผู้รู้ด้วยครับ ::)


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Octillion ที่ 08 ตุลาคม 2010, 01:10:23
ตั้งสายคิกดาวน์หย่อนหน่อยก็จะลื่นกว่า แต่ขับไม่ค่อยมัน   :-[


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Aclub ที่ 08 ตุลาคม 2010, 01:15:38
อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลครับ ที่ผมเลือก Mt

ปล.คิดถึง เกียร์เดิมอ่ะดิ

 ;)


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: thanawat6 ที่ 08 ตุลาคม 2010, 07:43:17
มันก็ปกตินี่ครับ ถ้าอยากให้เปลี่ยนเร็ว เหยียบความเร็วให้คงที่ซักระยะนึง ผ่อนคันเร่งนิดเดียว เกียร์ก็จะเปลียนสูงขึ้นครับ แต่ถ้าความเร็วมันต่ำไป มันจะไม่เปลี่ยนครับ  แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ไม่ได้คุมด้วยกล่อง มันจะเปลี่ยนตามความเร็วเป็นส่วนใหญ่ครับ

EK ตัวปี 96 อาศัยน้ำมันนิครับ คุณบูม (ผมเรียกชื่อถูกใช่ไหม) คือถ้าความเร็วไม่ถึง หรือแรงดันน้ำมันไม่ถึงยังไงมันก็ไม่ยอมเปลี่ยนผมเข้าใจถูกใช่ไหมครับ
       คือช่วงเกียร์ 2 จะขี้นไป 3 นี่หละครับ ต้องรอให้ถึง 40 km/h ที่รอบ 2500 เลยติดใจช่วงนี้ครับมันซดน้ำมันมากตรงช่วงนี้

ลองตั้งสายคลิกดาว ให้หย่อนนิดนึง เกียรจะเปลี่ยนเร็วขึ้น จำด้วยนะครับว่าขันไปเท่าไร

   ตอนนี้ผมตั้งสายควิกดาวน์ หย่อนสุด ๆ แล้วครับ สุดก้านเลยรอบก็เปลี่ยนตามที่บอกด้านบนครับ

ของผมถ้าไม่ถึง 40 มันจะอยู่ที่เกียร์ 2 ครับ...ถ้าขึ้น 40 ก้เปน 3 และ 4 ครับตามลำดับครับ  :D

 แสดงว่าลากเกียร์ 2 ที่รอบสูง ๆ เหมือนกัน ตอนแรกผมนึกว่าถ้าเป็นเกียร์ไฟฟ้าน่าจะดีกว่าระบบเกียร์น้ำมันแบบเดิมครับ

.
ตามนี้เลยครับ ต้องถอนคันเร่งนิดนึง มันจะเปลี่ยนเกียร์ที่รอบต่ำ ผมใช้วิธีนี้อยู่  :-[
.
การที่เหยียบไม่ถอนกล่องมันคิดว่าเราต้องการกำลังจากเครื่องอยู่

รถผมปี96 ต้องรอแรงดันน้ำมันอย่างเดียวมั้งครับถึงจะยอมเปลี่ยน
เห็นครูเจษว่ารถแกก็ลากรอบตอนเกียร์ 2 จะไป 3 เหมือนกันนี่ครับ

ตั้งสายคิกดาวน์หย่อนหน่อยก็จะลื่นกว่า แต่ขับไม่ค่อยมัน   :-[

 :-*

อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลครับ ที่ผมเลือก Mt

ปล.คิดถึง เกียร์เดิมอ่ะดิ

 ;)

 ผมว่าผมชอบออโต้มากกว่านะคุณเอ ขับสบายกว่า แค่เรื่องความแรงไม่เถียงเลยครับ
 เท่าที่ลองเปรียบเทียบดูนะ AT วิ่งทางไกลประหยัดกว่านิดหน่อย เพราะความเร็วสูงจะใช้รอบต่ำกว่า  MT
       แต่ถ้าวิ่งในเมืองผมว่า MT  จะประหยัดกว่าเห็น ๆ เลยครับ เพราะ AT ใช้รอบสูงมากกว่าจะได้ความเร็วที่ต้องการ
       อย่างเช่น MT เกียร์ 1 รอบ 1500 ก็ได้ 10km/h แล้วก็ยัดเกียร์ 2 ส่วนเกียร์ 3,4,5 เปลี่ยนเกียร์ทุกรอบที่ 2000 ได้ 30,40,60
    ส่วนวิ่งทางไกล 100km/h คงที่ AT รอบอยู่ที่ประมาณ 2500 รอบ  MT อยู่ที่ประมาณ 3000 รอบ ผมคิดว่าออโต้คงมีทอคฯช่วย
    ทดรอบอยู่  ทำไมไม่ทดรอบของเกียร์ต่ำ ๆ บ้างก็ไม่รู้ครับจะได้ประหยัดขึ้นบ้าง


ขอถามต่ออีกนิดหน่อยนะครับ 
           สายควิกดาวน์นี่เป็นตัวที่คอยควบคุมให้แรงดันน้ำมันมากหรือน้อยเพื่อให้เกียร์เปลี่ยนผมเข้าใจแบบนี้ถูกหรือป่าวครับ?  ::)
           


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: maetukkae ที่ 08 ตุลาคม 2010, 08:52:40
ของผม 2000 ต้องจับนิสัยรถก่อนอ่ะครับ รอบมันจะค้างที่ประมาณ 2000 ก็เหยียบเพิ่มไปนิดเดียวแล้วก็ผ่อน มันก็เปลี่ยนเกียร์ให้แล้วครับ แต่ตอนแรกๆที่ขับคันนี้กว่าจะจับอาการได้ เล่นซดน้ำมันไป 7 โลลิตร (ตอนหลังตั้งวาล์ว เดินท่อใหม่เพราะท่อเดิมรั่วก็ได้10โลลิตร)


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: onizuka_tc ที่ 08 ตุลาคม 2010, 09:05:03
ปกตินะ เมื่อก่อนผมก็ประมาณนั้นแหละ

ตอนที่จะเป็นเกียร์เป็น MT รู้สึกว่าเกียร์เดิมแย่มากแล้ว (แต่ไม่เสีย)

เมื่อวานไปขับ eg เครื่อง D15B AT มา    เกียร์ห่วยกว่ารถผมเยอะ  แต่เจ้าของก็ยังขับอยู่ได้ สรุปได้ข้อคิดว่า "คิดไปเองทั้งนั้น เกียร์มันก็ทำงานปกติ ตามอายุของมัน" เห้อ


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: thanawat6 ที่ 08 ตุลาคม 2010, 09:31:34
  คือไม่ใช่อะไรหรอกครับ  แค่อยากให้ช่วงเกียร์ 2 ไม่ลากรอบสูงจนเปลืองน้ำมันในช่วงเวลา
ที่ไม่สามารถใช้ความเร็วสูงได้   (ลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับรถใช้ในเมือง ยังไงก็เจอ) ถ้ากดให้เร็วเลย
คงโดนด่ากระจายครับ พวกในซอยรถวิ่งสวนทางแคบ ๆ วิ่งกัน 70 - 80 km/h ไม่ไหวแน่ครับ
ถ้าเป็น MT คงใช้เกียร์ 3 หรือ 4 ชิวได้เน๊าะ

                  เฮ้อ! ไหงความสบายไม่มาคู่กับประหยัดเน๊าะ


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: p jung ที่ 08 ตุลาคม 2010, 09:34:48
แล้วถ้าเกียร์ไฟฟ้าของตัว LEV VTEC ละครับ

จะเป็นแบบนี้หรือเปล่า



หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: psozh ที่ 08 ตุลาคม 2010, 09:50:44
ของผมวิ่งในซอยเล้กๆแคบๆ แทบไม่เหยียบคันเร่งเลย  ปล่อยไหลเอาอย่างเดียว เอิ๊กๆๆ รอบอยู่ประมาณ 1000-1500  นอกจากมีรถตาม ก็แตะๆเร่งนิดนึง กันโดนด่า  :-[ :-[


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kru_jed ที่ 08 ตุลาคม 2010, 12:33:54
  คือไม่ใช่อะไรหรอกครับ  แค่อยากให้ช่วงเกียร์ 2 ไม่ลากรอบสูงจนเปลืองน้ำมันในช่วงเวลา
ที่ไม่สามารถใช้ความเร็วสูงได้   (ลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับรถใช้ในเมือง ยังไงก็เจอ) ถ้ากดให้เร็วเลย
คงโดนด่ากระจายครับ พวกในซอยรถวิ่งสวนทางแคบ ๆ วิ่งกัน 70 - 80 km/h ไม่ไหวแน่ครับ
ถ้าเป็น MT คงใช้เกียร์ 3 หรือ 4 ชิวได้เน๊าะ

                  เฮ้อ! ไหงความสบายไม่มาคู่กับประหยัดเน๊าะ

เกียร์  2  ขับปกติรอบมันก็อยู่ไม่เกิน 2,500 ครับพี่   2,500 rpm นี่สูงไปเหรอครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: broom ที่ 08 ตุลาคม 2010, 14:16:10
ผมว่าเป็นเพราะตั้งสายคิกดาวน์หย่อนนี่แหละครับ ทำให้เกียร์มันเปลี่ยนที่รอบสูง แล้วมันจะทำให้เวลาเหยียบคันเร่งคิกดาวน์ไม่ไวด้วย

ตั้งช่วงกลางๆ น่าจะดีที่สุด อยากให้เปลี่ยนเกียร์เร็ว เหยียบคิกดาวน์เร็ว ต้องตั้งให้ตึงนิดๆ ครับ

มีบทสรุปให้จำง่ายๆครับ
- ตั้งตึง เปลียนเกียร์เร็ว (เปลี่ยนเกียร์ที่รอบต่ำ) คิกดาวน์เร็ว  แต่รอบปลายจะได้น้อย
- ตั้งหย่อน เปลี่ยนเกียร์ช้า (เปลี่ยนเกียร์ที่รอบสูง) คิกดาวน์ช้า แต่รอบปลายได้มาก

เปลี่ยนเกียร์เร็วหรือช้า ในที่นี้หมายถึง การขับแบบปกตินะครับ ไม่ได้เหยียบคันเร่งสุดเพื่อต้องการอัตราเร่ง

รอบปลายได้มากหรือน้อย หมายถึงเวลาที่เราเหยียบคันเร่งสุด รอบที่เปลี่ยนเกียร์จะอยู่ที่รอบสูงมาก หรือ สูงน้อยต่างกัน อย่างเช่น สมมุติว่า ตั้งสายไว้ตึง เวลาเหยียบคันเร่งสุด รอบเครื่องจะเปลี่ยนเป็นเกียร์ต่อไป อาจจะอยู่ซัก 5พันรอบ แต่ถ้าตั้งหย่อนหน่อย เกียร์อาจจะไปเปลี่ยนซัก 6พันรอบ ประมาณนี้ครับ  แต่ถ้าเลือกตำแหน่งเกียร์เองก็ไม่เกี่ยวนะครับ ลากได้จนรอบเครืองตัด หรือพังได้เลย


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: thanawat6 ที่ 08 ตุลาคม 2010, 14:27:48
เกียร์  2  ขับปกติรอบมันก็อยู่ไม่เกิน 2,500 ครับพี่   2,500 rpm นี่สูงไปเหรอครับ

สูงนะครู ลากรอบนาน ๆ เกิน 2000 ขึ้นไปน้ำมันบรรลัยเลย
เกียร์ออโต้คิดว่าเฟืองเกียร์ 2 เค้าคงเซ็ตไว้เผื่อขึ้น - ลงทางชันด้วยหละครับ
เลยต้องลากสูงนิดหนึ่ง

ผมว่าเป็นเพราะตั้งสายคิกดาวน์หย่อนนี่แหละครับ ทำให้เกียร์มันเปลี่ยนที่รอบสูง แล้วมันจะทำให้เวลาเหยียบคันเร่งคิกดาวน์ไม่ไวด้วย

ตั้งช่วงกลางๆ น่าจะดีที่สุด อยากให้เปลี่ยนเกียร์เร็ว เหยียบคิกดาวน์เร็ว ต้องตั้งให้ตึงนิดๆ ครับ

มีบทสรุปให้จำง่ายๆครับ
- ตั้งตึง เปลียนเกียร์เร็ว (เปลี่ยนเกียร์ที่รอบต่ำ) คิกดาวน์เร็ว  แต่รอบปลายจะได้น้อย
- ตั้งหย่อน เปลี่ยนเกียร์ช้า (เปลี่ยนเกียร์ที่รอบสูง) คิกดาวน์ช้า แต่รอบปลายได้มาก

เปลี่ยนเกียร์เร็วหรือช้า ในที่นี้หมายถึง การขับแบบปกตินะครับ ไม่ได้เหยียบคันเร่งสุดเพื่อต้องการอัตราเร่ง

รอบปลายได้มากหรือน้อย หมายถึงเวลาที่เราเหยียบคันเร่งสุด รอบที่เปลี่ยนเกียร์จะอยู่ที่รอบสูงมาก หรือ สูงน้อยต่างกัน อย่างเช่น สมมุติว่า ตั้งสายไว้ตึง เวลาเหยียบคันเร่งสุด รอบเครื่องจะเปลี่ยนเป็นเกียร์ต่อไป อาจจะอยู่ซัก 5พันรอบ แต่ถ้าตั้งหย่อนหน่อย เกียร์อาจจะไปเปลี่ยนซัก 6พันรอบ ประมาณนี้ครับ  แต่ถ้าเลือกตำแหน่งเกียร์เองก็ไม่เกี่ยวนะครับ ลากได้จนรอบเครืองตัด หรือพังได้เลย

  สงสัยผมจำวิธีการตั้งสายควิกดาวน์ผิด สลับกันแน่ ๆ  ครับ นึกว่าตั้งหย่อนเกียร์เปลี่ยนไว  ตั้งตรึงเกียร์เปลี่ยนช้า
  เดี๋ยววันนี้จะลองกลับไปตั้งให้ตรึง ๆ หน่อยได้เรื่องยังไงจะมาเล่าสู่กันฟังนะครับ   ขอบคุณมาก ๆ ครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kru_jed ที่ 08 ตุลาคม 2010, 15:08:35
สูงนะครู ลากรอบนาน ๆ เกิน 2000 ขึ้นไปน้ำมันบรรลัยเลย
เกียร์ออโต้คิดว่าเฟืองเกียร์ 2 เค้าคงเซ็ตไว้เผื่อขึ้น - ลงทางชันด้วยหละครับ
เลยต้องลากสูงนิดหนึ่ง

  สงสัยผมจำวิธีการตั้งสายควิกดาวน์ผิด สลับกันแน่ ๆ  ครับ นึกว่าตั้งหย่อนเกียร์เปลี่ยนไว  ตั้งตรึงเกียร์เปลี่ยนช้า
  เดี๋ยววันนี้จะลองกลับไปตั้งให้ตรึง ๆ หน่อยได้เรื่องยังไงจะมาเล่าสู่กันฟังนะครับ   ขอบคุณมาก ๆ ครับ

ว่าแต่รุ่นผมเป็น คลิ๊กดาว แบบสาย หรือไฟฟ้าอ่ะ เลฟอ่ะ  :)


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: thanawat6 ที่ 08 ตุลาคม 2010, 15:17:47
คุ้น ๆ ว่า lev ไม่ tec เป็นแบบสายเหมือนกันไม่ใช่เหรอครูลองดูที่ลิ้นปีกผืเสื้อตรงสายคันเร่ง
จะมีลวดสลิงติดอยู่ 2 เส้น ถ้าของครูมีเส้นเดียวเป็นคันเร่งก็ไฟฟ้าหละ ถ้ามี 2 เส้นก็แบบสายครับครู


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kru_jed ที่ 08 ตุลาคม 2010, 16:38:40
คุ้น ๆ ว่า lev ไม่ tec เป็นแบบสายเหมือนกันไม่ใช่เหรอครูลองดูที่ลิ้นปีกผืเสื้อตรงสายคันเร่ง
จะมีลวดสลิงติดอยู่ 2 เส้น ถ้าของครูมีเส้นเดียวเป็นคันเร่งก็ไฟฟ้าหละ ถ้ามี 2 เส้นก็แบบสายครับครู

มีเส้นเดียวครับ...แล้วยังงี้ก็ตั้งไม่ได้เลยสิ


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Aclub ที่ 08 ตุลาคม 2010, 18:58:33
ตอนผมขับผมก็กดให้มันเปลี่ยนเกียร์ไปก่อนอ่ะครับ แล้วค่อยค่อยเลี้ยงรอบกับความเร็วไว้ ในระดับต่ำๆที่จะสามารถทำได้

แต่ห้ามกดคันเร่งหรือยกคันเร่งเลยอ่ะ เปลี่ยนคืนอย่างไว   ( รถคันหน้าเบรคทีเซ่งเลย )

เรื่องวิ่งต่างจังหวัดไม่เคยวัดเลยครับ แต่ดูอัตราทดแล้วเกียร์  At  มันก็ยาวกว่าจริงๆ

แต่กำลังสงสัยว่ามันไปเสียรอบกับการฟรีทอร์คบ้างบางส่วนหรือเปล่า

ความเห็นผมถ้าตรงยาว ขับตามตูดกันไปเกียร์ At น่าจะเซฟกว่า (ในทางโล่งๆ)

ถ้ามีเบรคบ้าง กดแซงบ้าง น่าจะไม่หนีกันเท่าไหร่เรื่องความประหยัด

ยิ่งตอนมันคลิกทีนะคุณเจ รู้สึกมันเกินความต้องการไปนิด       ;D

อันนี้ความรู้สึกนะครับ เป็นแค่ความเห็นเท่านั้น ไม่มีความรู้เชิงเทคนิคใดๆทั้งสิ้น

สรุปว่าเราตกลงเปลี่ยนเกียร์กัน ถูกต้องที่สุดเลย ตรงตามความต้องการทั้งสองฝ่าย       :-*







หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: panukij ที่ 08 ตุลาคม 2010, 19:19:25
มีเส้นเดียวครับ...แล้วยังงี้ก็ตั้งไม่ได้เลยสิ
::) โอ่โฮ...คิดกันละเอียดยิ๊บอย่างนี้ไม่เครียดต่อการใช้ หรือครับ ?


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kru_jed ที่ 08 ตุลาคม 2010, 21:01:12
::) โอ่โฮ...คิดกันละเอียดยิ๊บอย่างนี้ไม่เครียดต่อการใช้ หรือครับ ?


หวัดดีครับ อากิจ หายไปไหนมาครับ  


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: panukij ที่ 08 ตุลาคม 2010, 21:10:09
หวัดดีครับ อากิจ หายไปไหนมาครับ  
พักผ่อนและพาเจ้าตัวดี ตะเวนภาคอีสานมา แต่ก็แว๊ะเข้าๆออกๆในบอร์ดอยู่เหมือนกัน ไม่ได้คันมือคันปากก็เลยเงี่ยบไป
แต่ก็เกาะติดอยู่ตลอดแหละ..อิอิ


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: part22 ที่ 08 ตุลาคม 2010, 22:07:05
พักผ่อนและพาเจ้าตัวดี ตะเวนภาคอีสานมา แต่ก็แว๊ะเข้าๆออกๆในบอร์ดอยู่เหมือนกัน ไม่ได้คันมือคันปากก็เลยเงี่ยบไป
แต่ก็เกาะติดอยู่ตลอดแหละ..อิอิ
.
สวัสดีครับอากิจ

อากิจ หายไปรู้สึกบอร์ดเงียบๆชอบกล :P


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kru_jed ที่ 08 ตุลาคม 2010, 22:18:21
.
สวัสดีครับอากิจ

อากิจ หายไปรู้สึกบอร์ดเงียบๆชอบกล :P

ช่ายๆ


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: thanawat6 ที่ 08 ตุลาคม 2010, 23:04:40
::) โอ่โฮ...คิดกันละเอียดยิ๊บอย่างนี้ไม่เครียดต่อการใช้ หรือครับ ?


ไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอกครับ  แค่อยากลองหาวิธีดูว่าพอมีวิธีไหนให้ออโต้ขับในเมืองแล้ว
ประหยัดได้บ้างครับ อาคุงกิจ


         ออ...อัพเดทหลังลองตั้งสายคิกดาวน์ครับ

      ผมว่าผมเข้าใจถูกแล้วนะครับ ว่าสายคิกดาวน์ ถ้าตั้งตรึงมันจะเปลี่ยนช้า เพราะลองตั้งให้ตรึงกว่า
จะเปลี่ยนเกียร์ขึ้น 4 ได้ความเร็ว 60 ครับช้ากว่าเดิม เปลี่ยนทีกระตุกด้วย  เดิม ๆ ก่อนตั้งเปลี่ยนที่ 50
คันเร่งแข็งมากด้วยครับ  ก็เลยปรับหย่อนลงมาหน่อยหนึ่ง แต่เรื่องเกียร์ 2 ก็คงทำอะไรไม่ได้แล้วมั้งครับ
ต้องลากรอบอยู่เหมือนเดิมหละครับ เพราะแรงดันน้ำมันเกียร์ไม่ถึงเกียร์ก็ไม่ยอมเปลี่ยน สงสัยต้องค่อย ๆ
ขับแบบที่คุณเอ ขับหละครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: panukij ที่ 09 ตุลาคม 2010, 14:07:43
.
สวัสดีครับอากิจ

อากิจ หายไปรู้สึกบอร์ดเงียบๆชอบกล :P
อ๊ะเหรอ.. ถ้างั้นมาแล้ว ก็  เฮ้ๆๆๆๆๆๆ
 ;D ;D ;D
เดี๋ยว..ต้องเล็งเป้า.. ฯ  ใครสักคนก่อน..(เห็นทำเหี่ยว) จะได้ลุกขึ้นมาครื้นเครง
เพราะทำเหมือนกับว่า...หันก้นให้กันอย่างงั้นแหละ  น๊อะๆ  จริงไหม.พวกเรา


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: taxman : ปทุมธานี ที่ 09 ตุลาคม 2010, 14:11:55
อ๊ะเหรอ.. ถ้างั้นมาแล้ว ก็  เฮ้ๆๆๆๆๆๆ
 ;D ;D ;D
เดี๋ยว..ต้องเล็งเป้า.. ฯ  ใครสักคนก่อน..(เห็นทำเหี่ยว) จะได้ลุกขึ้นมาครื้นเครง
เพราะทำเหมือนกับว่า...หันก้นให้กันอย่างงั้นแหละ  น๊อะๆ  จริงไหม.พวกเรา


เย้


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: panukij ที่ 09 ตุลาคม 2010, 14:18:25

เย้
;D เห็นม๊ะ..พวกเรา  ยิงปุ๊บ ติบปั๊บเลย  เย้ๆ


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: taxman : ปทุมธานี ที่ 09 ตุลาคม 2010, 14:22:18
;D เห็นม๊ะ..พวกเรา  ยิงปุ๊บ ติบปั๊บเลย  เย้ๆ



อ้าวๆๆ  ผมเองเหรอที่อาคิดถึง


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: panukij ที่ 09 ตุลาคม 2010, 14:30:04

อ้าวๆๆ  ผมเองเหรอที่อาคิดถึง
ตรงเผง...คนแรกล้านเปอร์เซนเลย  อิอิ


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: taxman : ปทุมธานี ที่ 09 ตุลาคม 2010, 17:16:10
ตรงเผง...คนแรกล้านเปอร์เซนเลย  อิอิ


จ๊วบบบบบ











P.S. กระทู้เกียร์ครับ กระทู้เกียร์


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: thanawat6 ที่ 11 ตุลาคม 2010, 09:33:03

จ๊วบบบบบ











P.S. กระทู้เกย์ครับ กระทู้เกย์


ทำไมเจ๊โอมเป็นคนอย่างนี้ครับ   ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 11 ตุลาคม 2010, 12:37:57
มันมีเรื่องอัดตราทดเข้ามาเกี่ยวด้วยนี่ครับรู้สึกมันจะทดเยอะ ทำให้รอบสูง ผมทำใจนานแล้ว วิ่งในเมือง 2-3 ตลอดเลย ชินแล้วครับ อาศัยผ่อนคันเร่งช่วยเอาครับลองดู
จะให้ประหยัดแบบ mt คงยากครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องของ เกียร์ออโต้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: thanawat6 ที่ 11 ตุลาคม 2010, 14:00:20
มันมีเรื่องอัดตราทดเข้ามาเกี่ยวด้วยนี่ครับรู้สึกมันจะทดเยอะ ทำให้รอบสูง ผมทำใจนานแล้ว วิ่งในเมือง 2-3 ตลอดเลย ชินแล้วครับ อาศัยผ่อนคันเร่งช่วยเอาครับลองดู
จะให้ประหยัดแบบ mt คงยากครับ

ตอนนี้ผมจับนิสัยของเกียร์รถผมได้คือ
          ขับปรกติความเร็วประมาณ 70 ขึ้นไป  lock-up solinoid เปิดพร้อมกัน 2 ตัวที้ง A B
จะทดรอบลงมาให้ใช้รอบที่ต่ำลง  วิ่ง 100 รอบอยู่ที่ 2500
แต่ถ้าเจอทางขึ้นเขาเหยียบคันเร่งเพิ่ม ไม่ได้คิกดาวน์นะครับ ตัว lock-up ปิดการทำงานครับ (หลอดไฟดับคู่)
รอบกวดขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 300-500 รอบเหมือนมีแรงเพิ่ม
         ถ้าคิกดาวน์ lock-up ปิดการทำงานทั้งคู่เหมือนกันครับ แล้วก็จะกลับมาทำงานตอนถอนคันเร่งและก็
เปลี่ยนขึ้นเกียร์ 4 เรียบร้อยแล้ว
         เป็นไปได้อยากลองต่อไฟไปเลี้ยง lock-up B ตอนขับซัก 30 - 40 ดูครับ  ;D ;D ;D
แต่เค้าว่ากันว่าไม่ดีต่อเกียร์ ทำให้น้ำมันเกียร์ร้อนได้ ก็เลยไม่ลองดีกว่า
         แต่ไม่เป็นไรครับ จะพยายามขับให้ถึงรอบแล้วค่อย ๆ เลี้ยงความเร็วไว้ดีกว่า
ปรับตัวเข้าหารถไปครับ :-*

 * หมายเหตุ  ผมใช้วิธีต่อหลอดไฟดูการทำงานของ lock-up solinoid ครับ