:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Discuss => ห้องคนขับ => ข้อความที่เริ่มโดย: SingZ96 ที่ 06 มิถุนายน 2013, 23:13:16



หัวข้อ: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 06 มิถุนายน 2013, 23:13:16
ขอความรู้จากพี่ๆเพื่อนๆที่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ครับ

-เครื่อง d16y8
-นำเครื่องไปปาดฝา(เครื่องเดิมๆปกติไม่ได้เป็นไรแต่อยากแรง-*- กับอู่xxxxxx)
-ติดเรกุเรทเพิ่ม(TOMEI แท้)

1.จากนั้น นำรถไปวิ่ง จูน เครื่องมีอาการถอนความเร็วลด เหยียบไม่ขึ้น(ความร้อนขึ้น - เกียร์4 รอบ 6000 ความเร็ว 1xx)

2.จอดหลบข้างทางเปิดกระโปรงดู ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่สตาร์ทไม่ติด (อาการเหมือนน้ำมันไม่มา) จบลากกลับอู่ทิ้งรถไว้เช้คดูว่าเป็นอะไร (คำตอบที่ได้ ปั้มติ๊กเสีย) ช่างเปลี่ยนปั้ม J ใส่ให้แทน

3.หลังจากนั้นไปรับรถจูนเดินเบา กลับมาใช้งานวิ่งไปประมาณ 500-600 km.

4.กลับมาจูนรอบปลายใหม่ มีปัญหาความร้อนขึ้นๆ ลงๆ แปลกๆ ก็แท้ไขกันเพราะจูนเสร็จแล้ว (เช็คออกจากอู่น้ำในหม้อน้ำหาย ต้องขยันดูช่างบอก) ขับกลับบ้านมาปกติ จอด อีก 1-2 วัน

5.เช้าวันที่เอามาใช้หลังจากออกจากอู่เรียบร้อย ก็ปกติ แต่พอถึงตอนเย็นเลิกงานจะกลับบ้านสตาร์ทแล้วขับไปได้ประมาณ 50-100m.(ผมเปิดกระจกขับ) ได้ยินเสียงดังแบบเขกๆ (วิ่งประมาณ20-30km/hr) ก็แปลกใจไปจอดเหยีบอะไรป่าวหว่า ก็ชิดข้างทางดับเครื่อง เพื่อดูก็ไม่มีอะไรผิดปกติ พอมาสตาร์ทอีกที ก็ไม่ติด(มีเสียงสตาร์ทแต่เสียงเขกแปลกๆ) ลองเช็คคอยไฟก็มาครบ น้องก็เลยให้เช็กน้ำหม้อน้ำเติมให้เต็มแล้ว สตาร์ทดูน้ำ น้ำพุ่งขึ้นมา 1 ฟุต กว่าเกือบ 2ฟุต (รถสตาร์ทไม่ติด)

มีใครพอเคยเจอเคส หรือเป็นช่างพอให้ข้อมูลบ้างครับ


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: Notesamit ที่ 06 มิถุนายน 2013, 23:26:32
ถามครับ ก่อนไปจูน เครื่องมีความสมบูรณ์มากแค่ไหน เช่น...
กำลังอัดแต่ละสูบ เท่ากันไหม
วาวล์น้ำตายไหม
เทอร์โมสวิตช์ เสื่อมไหม
พัดลมหม้อน้ำ ทำงานไหม
ปาดฝากี่มิล เสริมประเก็นไหม

เสียงที่ว่า ไม่มั่นใจว่าเสียงชาฟหรือป่าว

แรงกะบรรลับ ส่วยใหญ่มักมาคู่กันครับ ซิงค์ ใจเย็นๆครับ ค่อยแก้ครับ :-*


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 06 มิถุนายน 2013, 23:32:21
ถามครับ ก่อนไปจูน เครื่องมีความสมบูรณ์มากแค่ไหน เช่น...
กำลังอัดแต่ละสูบ เท่ากันไหม
วาวล์น้ำตายไหม
เทอร์โมสวิตช์ เสื่อมไหม
พัดลมหม้อน้ำ ทำงานไหม
ปาดฝากี่มิล เสริมประเก็นไหม

เสียงที่ว่า ไม่มั่นใจว่าเสียงชาฟหรือป่าว

แรงกะบรรลับ ส่วยใหญ่มักมาคู่กันครับ ซิงค์ ใจเย็นๆครับ ค่อยแก้ครับ :-*

ครับบบบบบบบบบบบบบบ พี่โน้ต ถ้าพอรู้บอกด้วยนะ  :)

ก่อนทำทุกอย่างดีหมดยกเว้นหม้อน้ำ สกปรกมากๆมีขี้โคลนด้วน ก็เลยเปลี่ยนเป็นมิเนียม

แล้วก็อยากแรงเลยคุยกับช่างให้ปาด+บิดแคม

แต่ทำเสร็จ แคมไม่ได้บิดเพราะ ช่างบอกเฟืองไม่มี ก็เลยทำแค่ปาดฝา

หลังจากนั้นก็ตามที่โม้ไว้  :)


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: vicasleep ที่ 06 มิถุนายน 2013, 23:40:36
ถ้าก่อนทำทุกอย่างปกติ น้ำไม่หาย

1.ปาดฝามาไม่ดี (ปกติโรงกลึงไม่ค่อยจะพลาด)

2. ปิดฝามายังไง ประเก็นฝาเปลี่ยนไหม??

3. ตอนจูน ไม่รู้เลยเหรอว่ารถมีปัญหาเรื่องความร้อน

ตอนนี้เบื้องต้นผมเชื่อว่า ตอนนี้ฝาน่าจะโก่งแล้ว ส่วนเสียงเขก หวังว่าไม่ใช่มาจาก ชาร์ฟ ต้องรื้อดูครับถึงจะเห็น
งานนี้ผมมองว่าอู่น่าจะต้องรับผิดชอบครับ

โปรมาปรึกษาได้ ไม่จำเป็นต้องมาทำอู่ผมก็ได้นะครับ
ที่อู่ผมก็เจองานแก้แบบนี้เยอะ น่าปวดหัวแทน


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 07 มิถุนายน 2013, 09:12:59
ถ้าก่อนทำทุกอย่างปกติ น้ำไม่หาย

1.ปาดฝามาไม่ดี (ปกติโรงกลึงไม่ค่อยจะพลาด)

2. ปิดฝามายังไง ประเก็นฝาเปลี่ยนไหม??

3. ตอนจูน ไม่รู้เลยเหรอว่ารถมีปัญหาเรื่องความร้อน

ตอนนี้เบื้องต้นผมเชื่อว่า ตอนนี้ฝาน่าจะโก่งแล้ว ส่วนเสียงเขก หวังว่าไม่ใช่มาจาก ชาร์ฟ ต้องรื้อดูครับถึงจะเห็น
งานนี้ผมมองว่าอู่น่าจะต้องรับผิดชอบครับ

โปรมาปรึกษาได้ ไม่จำเป็นต้องมาทำอู่ผมก็ได้นะครับ
ที่อู่ผมก็เจองานแก้แบบนี้เยอะ น่าปวดหัวแทน

ขอบคุณครับ เพราะตอนแรกที่มีปัญหา ผมก็ win win ช่วยช่างออกค่า ชาร์ปที่ละลาย แต่รอบนี้คงไม่ยอมครับ

เลยมาถามเพื่อนๆ พี่ๆ ในนี้ว่าเหตุการ์ณ์แรก เป็รเพราะน้ำมันไม่จ่าย อย่างที่ช่างบอกหรือป่าว


 :)


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: Notesamit ที่ 07 มิถุนายน 2013, 09:18:06
ขอบคุณครับ เพราะตอนแรกที่มีปัญหา ผมก็ win win ช่วยช่างออกค่า ชาร์ปที่ละลาย แต่รอบนี้คงไม่ยอมครับ

เลยมาถามเพื่อนๆ พี่ๆ ในนี้ว่าเหตุการ์ณ์แรก เป็รเพราะน้ำมันไม่จ่าย อย่างที่ช่างบอกหรือป่าว


 :)
1.จากนั้น นำรถไปวิ่ง จูน เครื่องมีอาการถอนความเร็วลด เหยียบไม่ขึ้น(ความร้อนขึ้น - เกียร์4 รอบ 6000 ความเร็ว 1xx)

2.จอดหลบข้างทางเปิดกระโปรงดู ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่สตาร์ทไม่ติด (อาการเหมือนน้ำมันไม่มา) จบลากกลับอู่ทิ้งรถไว้เช้คดูว่าเป็นอะไร (คำตอบที่ได้ ปั้มติ๊กเสีย) ช่างเปลี่ยนปั้ม J ใส่ให้แทน



มีส่วนนะครับ ผมว่า กลับไปอู่xxxx ที่ไปทำ แล้วให้ทางอู่รับผิดชอบให้ดีกว่าครับ เงินเรา รถเรา อย่าไปยอมครับ ซิงค์
:-*


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: เต่ากัดยาง ที่ 07 มิถุนายน 2013, 09:51:18
ปาดฝาลงเท่าไหร่อ่าครับ ลูกเดิมป่าวอ่า


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 07 มิถุนายน 2013, 10:13:11
1.จากนั้น นำรถไปวิ่ง จูน เครื่องมีอาการถอนความเร็วลด เหยียบไม่ขึ้น(ความร้อนขึ้น - เกียร์4 รอบ 6000 ความเร็ว 1xx)

2.จอดหลบข้างทางเปิดกระโปรงดู ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่สตาร์ทไม่ติด (อาการเหมือนน้ำมันไม่มา) จบลากกลับอู่ทิ้งรถไว้เช้คดูว่าเป็นอะไร (คำตอบที่ได้ ปั้มติ๊กเสีย) ช่างเปลี่ยนปั้ม J ใส่ให้แทน



มีส่วนนะครับ ผมว่า กลับไปอู่xxxx ที่ไปทำ แล้วให้ทางอู่รับผิดชอบให้ดีกว่าครับ เงินเรา รถเรา อย่าไปยอมครับ ซิงค์
:-*

เด๋วพาพี่โน๊ต ไปประท้วงด้วยกัน นะ  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 07 มิถุนายน 2013, 10:13:49
ปาดฝาลงเท่าไหร่อ่าครับ ลูกเดิมป่าวอ่า

ลูกเดิมครับ

ปาดลงกี่มิลไม่ทราบครับ เชื่อฝีมือ อู่ ครับ

 :o :o


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: mudek007 ที่ 07 มิถุนายน 2013, 10:35:52
 :o :o :o


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: 97civic ที่ 07 มิถุนายน 2013, 10:37:45
ตามข่าวครับ :-* :-* :-*


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: vicasleep ที่ 07 มิถุนายน 2013, 10:52:29
ขอบคุณครับ เพราะตอนแรกที่มีปัญหา ผมก็ win win ช่วยช่างออกค่า ชาร์ปที่ละลาย แต่รอบนี้คงไม่ยอมครับ

เลยมาถามเพื่อนๆ พี่ๆ ในนี้ว่าเหตุการ์ณ์แรก เป็รเพราะน้ำมันไม่จ่าย อย่างที่ช่างบอกหรือป่าว


 :)

เรื่องการเปลี่ยนชาร์ปใหม่ มันไม่ใช่ว่าเปลี่ยนแล้วขันทอร์คเฉยๆนะครับ มันต้องมีเรื่องของการวัดเคลียแรนซ์ ปรับชาร์ป ด้วย ไม่งั้นเปลี่ยนชาร์ปอีกกี่ชุดก็ละลายอีก

ส่วนเรื่องน้ำมันไม่จ่าย ติ๊กเสีย มีส่วนกับการสตาร์ทไม่ติดครับ แต่คนละเรื่องกับความร้อนขึ้น น้ำหาย ชาร์ปละลาย

ลองหาข้อมูลดูเยอะๆครับ จะได้ไม่โดนอู่ มั่วเอา


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 07 มิถุนายน 2013, 10:57:27
เรื่องการเปลี่ยนชาร์ปใหม่ มันไม่ใช่ว่าเปลี่ยนแล้วขันทอร์คเฉยๆนะครับ มันต้องมีเรื่องของการวัดเคลียแรนซ์ ปรับชาร์ป ด้วย ไม่งั้นเปลี่ยนชาร์ปอีกกี่ชุดก็ละลายอีก

ส่วนเรื่องน้ำมันไม่จ่าย ติ๊กเสีย มีส่วนกับการสตาร์ทไม่ติดครับ แต่คนละเรื่องกับความร้อนขึ้น น้ำหาย ชาร์ปละลาย

ลองหาข้อมูลดูเยอะๆครับ จะได้ไม่โดนอู่ มั่วเอา

ขอบคุณครับ

ผมเคยเจอพี่ตอนไปเอาโช็ค แต่ตอนนั้นไม่ได้คุยกันเพราะพี่กำลังทำโช็คส่ง ลค. อยู่

 :-*


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: vicasleep ที่ 07 มิถุนายน 2013, 11:03:38
ขอบคุณครับ

ผมเคยเจอพี่ตอนไปเอาโช็ค แต่ตอนนั้นไม่ได้คุยกันเพราะพี่กำลังทำโช็คส่ง ลค. อยู่

 :-*

มีอะไรปรึกษาได้ครับ
อันไหนตอบได้เด่วตอบให้  :) :)



หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 07 มิถุนายน 2013, 13:05:38
มีอะไรปรึกษาได้ครับ
อันไหนตอบได้เด่วตอบให้  :) :)



ช่างบอก น่าจะเป็นที่เรกุเรท มีปัญหาทำให้น้ำมันจ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง ทำให้ร้อน แล้วชาร์ป ละลาย ครับ  ::) ::)

พอผมถามแล้วที่น้ำหายกับดันไม่เกี่ยวกับประเก็น หรือ ฝา ช่างบอกไม่น่าเกี่ยวกับฝา

เริ่มงงแล้วครับ ตกลง อะไรกันแน่ที่ทำให้รถเป็นแบบนี้ เรกุเรท หรอ  ::)

 :o :o


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: vicasleep ที่ 07 มิถุนายน 2013, 14:05:49
ช่างบอก น่าจะเป็นที่เรกุเรท มีปัญหาทำให้น้ำมันจ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง ทำให้ร้อน แล้วชาร์ป ละลาย ครับ  ::) ::)

พอผมถามแล้วที่น้ำหายกับดันไม่เกี่ยวกับประเก็น หรือ ฝา ช่างบอกไม่น่าเกี่ยวกับฝา

เริ่มงงแล้วครับ ตกลง อะไรกันแน่ที่ทำให้รถเป็นแบบนี้ เรกุเรท หรอ  ::)

 :o :o

ช่างบอก น่าจะเป็นที่เรกุเรท มีปัญหาทำให้น้ำมันจ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง ทำให้ร้อน แล้วชาร์ป ละลาย ครับ

ANS:  1. ถ้าน้ำมันไม่จ่าย เครื่องดับ สตาร์ทไม่ติด ครับ
           2. ถ้าน้ำมันจ่ายบางเครื่องสดุดครับ บางมากๆ ลูกจะละลายก่อนครับ ไม่ใช่ชาร์ปละลาย
           3. ถ้ารถเร่งดี ไม่มีสะดุด ตัดปัญหาเรื่องน้ำมันไปเลย
           4. Regulator ของใหม่ ไม่เคยเจอปัญหาครับ ไม่ว่าแท้หรือเทียมก็ตาม (ลูกค้าที่อู่ผมมีเปลี่ยนทั้งเทียมและแท้ เครื่องตระกูล B แถมใช้น้ำมันกัดแรงๆอย่าง e85 ด้วย จูนกันสุดเหวี่ยง จากประสบการณ์ผมยังไม่เคยเจอปัญหา regulator มีปัญหาเลย)
           5. ถ้าน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเครื่องอยู่ในระบบสมบูรณ์ น้ำมันจ่ายบางยังไง ชาร์ปไม่ละลายหรอกครับ  ลูกสูบละลายไปก่อนแล้ว
ส่วนตัว ผมว่า regulator ไม่เกี่ยวครับ


พอผมถามแล้วที่น้ำหายกับดันไม่เกี่ยวกับประเก็น หรือ ฝา ช่างบอกไม่น่าเกี่ยวกับฝา

ANS:  รู้ได้ยังไงว่าไม่เกี่ยวกับฝาหรือปะเก็น  ?? แล้วน้ำจะหายไปไหน  แล้วน้ำดันได้ยังไง 

เท่าที่มีข้อมูล รถคุณก็เพิ่งเปลี่ยนหม้อน้ำมาใหม่ ดังนั้นเรื่องระบายความร้อนไม่น่าจะมีปัญหา แต่ที่รถคุณความร้อนขึ้น ผมเชื่อว่าน้ำในระบบ ดันออกทางหม้อพัก หรือ ดันเข้ารูระบบน้ำำมันในเครื่อง   ทำให้มีน้ำปนอยู่ในน้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็นคุณถึงหาย และ ชาร์ปละลาย 

ลองดูเป็นข้อมูล ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ นะครับ แต่ผมละอยากรู้จังอู่ไหนเนี่ย


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: vicasleep ที่ 07 มิถุนายน 2013, 14:18:21
ผมลืมถาม

2.จอดหลบข้างทางเปิดกระโปรงดู ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่สตาร์ทไม่ติด (อาการเหมือนน้ำมันไม่มา) จบลากกลับอู่ทิ้งรถไว้เช้คดูว่าเป็นอะไร (คำตอบที่ได้ ปั้มติ๊กเสีย) ช่างเปลี่ยนปั้ม J ใส่ให้แทน

ตอนทำรอบนี้ได้เปลี่ยนชาร์ปรึเปล่าครับ


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: Notesamit ที่ 07 มิถุนายน 2013, 14:28:47
ช่างบอก น่าจะเป็นที่เรกุเรท มีปัญหาทำให้น้ำมันจ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง ทำให้ร้อน แล้วชาร์ป ละลาย ครับ

ANS:  1. ถ้าน้ำมันไม่จ่าย เครื่องดับ สตาร์ทไม่ติด ครับ
           2. ถ้าน้ำมันจ่ายบางเครื่องสดุดครับ บางมากๆ ลูกจะละลายก่อนครับ ไม่ใช่ชาร์ปละลาย
           3. ถ้ารถเร่งดี ไม่มีสะดุด ตัดปัญหาเรื่องน้ำมันไปเลย
           4. Regulator ของใหม่ ไม่เคยเจอปัญหาครับ ไม่ว่าแท้หรือเทียมก็ตาม (ลูกค้าที่อู่ผมมีเปลี่ยนทั้งเทียมและแท้ เครื่องตระกูล B แถมใช้น้ำมันกัดแรงๆอย่าง e85 ด้วย จูนกันสุดเหวี่ยง จากประสบการณ์ผมยังไม่เคยเจอปัญหา regulator มีปัญหาเลย)
           5. ถ้าน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเครื่องอยู่ในระบบสมบูรณ์ น้ำมันจ่ายบางยังไง ชาร์ปไม่ละลายหรอกครับ  ลูกสูบละลายไปก่อนแล้ว
ส่วนตัว ผมว่า regulator ไม่เกี่ยวครับ


พอผมถามแล้วที่น้ำหายกับดันไม่เกี่ยวกับประเก็น หรือ ฝา ช่างบอกไม่น่าเกี่ยวกับฝา

ANS:  รู้ได้ยังไงว่าไม่เกี่ยวกับฝาหรือปะเก็น  ?? แล้วน้ำจะหายไปไหน  แล้วน้ำดันได้ยังไง 

เท่าที่มีข้อมูล รถคุณก็เพิ่งเปลี่ยนหม้อน้ำมาใหม่ ดังนั้นเรื่องระบายความร้อนไม่น่าจะมีปัญหา แต่ที่รถคุณความร้อนขึ้น ผมเชื่อว่าน้ำในระบบ ดันออกทางหม้อพัก หรือ ดันเข้ารูระบบน้ำำมันในเครื่อง   ทำให้มีน้ำปนอยู่ในน้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็นคุณถึงหาย และ ชาร์ปละลาย 

ลองดูเป็นข้อมูล ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ นะครับ แต่ผมละอยากรู้จังอู่ไหนเนี่ย
+1  :)


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 07 มิถุนายน 2013, 14:32:16
ผมลืมถาม

2.จอดหลบข้างทางเปิดกระโปรงดู ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่สตาร์ทไม่ติด (อาการเหมือนน้ำมันไม่มา) จบลากกลับอู่ทิ้งรถไว้เช้คดูว่าเป็นอะไร (คำตอบที่ได้ ปั้มติ๊กเสีย) ช่างเปลี่ยนปั้ม J ใส่ให้แทน

ตอนทำรอบนี้ได้เปลี่ยนชาร์ปรึเปล่าครับ

เปลี่ยนด้วยครับ เพราะชาร์ปละลาย (อาจมาจากปั้มติ๊กเสีย :ช่างบอก ก็เปลี่ยนปั้มติ๊ก J ครับ)

ผมก็ยอมออกค่า ชาร์ป win win กันไปครับ แต่มาเกิดรอบ 2 นี่ + กับน้ำในหม้อน้ำหายก็แปลกๆ ครับ

โทรติดต่อได้ช่างบอก อาจเป็นที่ เรกุเรท ตามที่กล่าวมาด้านบนครับ

 :o


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: vicasleep ที่ 07 มิถุนายน 2013, 14:45:34
เปลี่ยนด้วยครับ เพราะชาร์ปละลาย (อาจมาจากปั้มติ๊กเสีย :ช่างบอก ก็เปลี่ยนปั้มติ๊ก J ครับ)

ผมก็ยอมออกค่า ชาร์ป win win กันไปครับ แต่มาเกิดรอบ 2 นี่ + กับน้ำในหม้อน้ำหายก็แปลกๆ ครับ

โทรติดต่อได้ช่างบอก อาจเป็นที่ เรกุเรท ตามที่กล่าวมาด้านบนครับ

 :o

ผมว่านะ ถ้ารอบแรกเปลี่ยนชาร์ปด้วย ฝาโก่ง ประเก็นรั่ว น้ำดันเข้าระบบน้ำมัน ทำให้มีน้ำผสมกับน้ำมันเครื่องทำให้ชาร์ปละลายครับ
เปลี่ยนชาร์ปอีกกี่รอบก็ไม่หายครับ มันจะบานปลายไปใหญ่ เพราะนี้ก็สองรอบแล้ว  ถ้าเคยมีน้ำปนอยู่ในระบบแล้ว มันจำทำให้พวกระบบปั๊มน้ำมันเครื่องไม่ค่อยดีด้วย แรงดันน้ำมันเครื่องจะตก   เคสนี้ควรเปลี่ยนท่อนล่างไปเลยครับถึงจะจบ ไม่ต้องรื้อ ไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องเดา

แล้วก็เช็คฝาสูบใหม่ว่าโก่งไหม ?? แล้วอย่าใช้ประเก็นฝาเดิม เบิกใหม่ไปเลย

 :) :)



หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: jkung_27 ที่ 07 มิถุนายน 2013, 14:46:30
ถามครับ ก่อนไปจูน เครื่องมีความสมบูรณ์มากแค่ไหน เช่น...
กำลังอัดแต่ละสูบ เท่ากันไหม
วาวล์น้ำตายไหม
เทอร์โมสวิตช์ เสื่อมไหม
พัดลมหม้อน้ำ ทำงานไหม
ปาดฝากี่มิล เสริมประเก็นไหม

เสียงที่ว่า ไม่มั่นใจว่าเสียงชาฟหรือป่าว

แรงกะบรรลับ ส่วยใหญ่มักมาคู่กันครับ ซิงค์ ใจเย็นๆครับ ค่อยแก้ครับ :-*

แรงกะบรรลับ ส่วยใหญ่มักมาคู่กันครับ ซิงค์ ใจเย็นๆครับ ค่อยแก้ครับ

โดนใจเลยคำนี้ คิดจะแรง และ ใช้เกินลิมิตโรงงานกำหนด ก็วัดใจกันไปครับ


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: jkung_27 ที่ 07 มิถุนายน 2013, 14:48:38
เรื่องการเปลี่ยนชาร์ปใหม่ มันไม่ใช่ว่าเปลี่ยนแล้วขันทอร์คเฉยๆนะครับ มันต้องมีเรื่องของการวัดเคลียแรนซ์ ปรับชาร์ป ด้วย ไม่งั้นเปลี่ยนชาร์ปอีกกี่ชุดก็ละลายอีก

ส่วนเรื่องน้ำมันไม่จ่าย ติ๊กเสีย มีส่วนกับการสตาร์ทไม่ติดครับ แต่คนละเรื่องกับความร้อนขึ้น น้ำหาย ชาร์ปละลาย

ลองหาข้อมูลดูเยอะๆครับ จะได้ไม่โดนอู่ มั่วเอา
ถูกต้องครับ มันคนละเรื่องกันกับท่อนล่างเลย :-[


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: jkung_27 ที่ 07 มิถุนายน 2013, 15:01:29
ใช้รอบจูนที่เท่าไหร่ครับ  8500  พังมาหลายรายแล้วกับชาฟธรรมดา
ชาฟอะไรครับ ชาฟธรรมดา  7500 -8000 ก็สุดแล้วนะครับ แค่นี้ก็เสียวจะแย่แล้ว
เปลี่ยนชาฟ เอาข้อไปกลึงเจียบาล้านหรือยังครับ
ใช้น้ำมันเครื่องอะไร  น้ำมันเครื่องเก่า หรือเปลี่ยนใหม่ ก่อนจูน



หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 07 มิถุนายน 2013, 15:12:01
ใช้รอบจูนที่เท่าไหร่ครับ  8500  พังมาหลายรายแล้วกับชาฟธรรมดา
ชาฟอะไรครับ ชาฟธรรมดา  7500 -8000 ก็สุดแล้วนะครับ แค่นี้ก็เสียวจะแย่แล้ว
เปลี่ยนชาฟ เอาข้อไปกลึงเจียบาล้านหรือยังครับ
ใช้น้ำมันเครื่องอะไร  น้ำมันเครื่องเก่า หรือเปลี่ยนใหม่ ก่อนจูน



6500-6800 เองครับพี่

ผมตั้งชิฟเผื่อไว้ครับ

 :-[ :-[

ตัวผมดันทะลึ่งอยากปาดฝา ก็ตามเรื่องที่ยาวตามมาแบบนั้นแหละครับ ไม่คิดว่าแค่ปาดฝา + ติดเรกุเรท เพิ่มเติมจะทำให้เรื่องยาวแบบนี้ครับ + ราง AEM

 :o :o


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: jkung_27 ที่ 07 มิถุนายน 2013, 16:12:55
6500-6800 เองครับพี่

ผมตั้งชิฟเผื่อไว้ครับ

 :-[ :-[

ตัวผมดันทะลึ่งอยากปาดฝา ก็ตามเรื่องที่ยาวตามมาแบบนั้นแหละครับ ไม่คิดว่าแค่ปาดฝา + ติดเรกุเรท เพิ่มเติมจะทำให้เรื่องยาวแบบนี้ครับ + ราง AEM

 :o :o
โอ้โห่  แค่ 6500-6800 rpm นี่นะ   เล่นซะ น้ำหาย ชาฟละลาย
  ขันปอนไม่ใด้สเป๊คแน่ๆเลย  จริงต้องขันเกินสเป๊คด้วยซ้ำนะ ของผม 68  บางคนขัน 70   จากคู่มือ 65 มั้งนะ  เวลาขันต้องสลับฟันปลา  ลืมบอกหน่วย  ของผม 68 nm ครับ( ถ้าจำไม่ผิดนะ )  :-[


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 07 มิถุนายน 2013, 16:27:59
โอ้โห่  แค่ 6500-6800 rpm นี่นะ   เล่นซะ น้ำหาย ชาฟละลาย
  ขันปอนไม่ใด้สเป๊คแน่ๆเลย  จริงต้องขันเกินสเป๊คด้วยซ้ำนะ ของผม 68  บางคนขัน 70   จากคู่มือ 65 มั้งนะ  เวลาขันต้องสลับฟันปลา  ลืมบอกหน่วย  ของผม 68 nm ครับ( ถ้าจำไม่ผิดนะ )  :-[

อันนี้ผมไม่รู้ช่างเหมือนกันครับ

รอฟังผลว่ารอบนนี้จะยังไง แต่ผมคงไม่ร่วมวงรับผิดชอบด้วยแบบรอบแรก แล้วล่ะครับ

 8)


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 08 มิถุนายน 2013, 00:20:52
ช่างยืนยันว่าเป็นที่เรกุเรท ไม่จ่ายน้ำมันมีปัญหา

แต่ช่างรื้อท่อนล่างแล้ว กำลังหาท่อนล่างใหม่  ::)

เพราะอะไรครับ


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: vicasleep ที่ 08 มิถุนายน 2013, 09:14:56
ช่างยืนยันว่าเป็นที่เรกุเรท ไม่จ่ายน้ำมันมีปัญหา

แต่ช่างรื้อท่อนล่างแล้ว กำลังหาท่อนล่างใหม่  ::)

เพราะอะไรครับ

regulator ซวยไงคับ  :-[ :-[


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 08 มิถุนายน 2013, 09:29:00
regulator ซวยไงคับ  :-[ :-[

ซวยเพราะมันเสีย จริง หรอครับแล้วทำไมเสียแล้ว ตอนแรกๆ มันไม่น่าขับได้นี่ครับ นี่เป็น 2 รอบ งงเบยพี่

 :o


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: jkung_27 ที่ 08 มิถุนายน 2013, 11:37:15
ต้องไร่อาการตั้งแต่แรกเลยอะครับ มันเป็นมาอย่างไง เอาแบบละเอียด  คือนี้ เรกูเรต หน้าที่มันคือ คุมน้ำมันเชื้อเพิง ตามเรงดูดของเครื่องยนต์อะครับ  น้ำมันหนาบาง  ตัวนี้มีส่วนครับ หนาก็วิงไม่ออกเปลืองน้ำมันเผาไหม้ไม่หมด หัวเทียนบอด ( ไม่พูดถึงลูกพัง เพาะมันคงไม่ถึงขั้นนั้น)  บาง รอบเครื่องไว แต่ไม่มีแรง เครื่องร้อน ไปดมกลินที่ท่อไอเสีย จะแสบตา....แล้วมันเกี่ยวอะไรกับชาฟพังหว่า..... ::)
  ชาฟ พัง สาเหตุ ใช้น้ำมันคุณภาพต่ำ หรือ มีสิ่งเจือปนในน้ำมัน ทำให้น้ำมันด่อยคุณภาพ ทำให้การหล่อเลื่อนไม่ดี  เป็นเหตุให้ชิ้นส่วนที่ทำงานอยู่นั้นเสียหายใด้ครับ......มันไม่เกี่ยวกับเรกูเรตเลย :o  :o.....

ถ้ารถมีโบ เรกูเรต เน่า คุมแรงดันน้ำมันไม่ใด้ กานสูบขาด คต ลูกแตก  ยังไม่เคยเจอว่า ชาฟพังซักที  ::)   ::)   


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 08 มิถุนายน 2013, 11:39:53
ต้องไร่อาการตั้งแต่แรกเลยอะครับ มันเป็นมาอย่างไง เอาแบบละเอียด  คือนี้ เรกูเรต หน้าที่มันคือ คุมน้ำมันเชื้อเพิง ตามเรงดูดของเครื่องยนต์อะครับ  น้ำมันหนาบาง  ตัวนี้มีส่วนครับ หนาก็วิงไม่ออกเปลืองน้ำมันเผาไหม้ไม่หมด หัวเทียนบอด ( ไม่พูดถึงลูกพัง เพาะมันคงไม่ถึงขั้นนั้น)  บาง รอบเครื่องไว แต่ไม่มีแรง เครื่องร้อน ไปดมกลินที่ท่อไอเสีย จะแสบตา....แล้วมันเกี่ยวอะไรกับชาฟพังหว่า..... ::)
  ชาฟ พัง สาเหตุ ใช้น้ำมันคุณภาพต่ำ หรือ มีสิ่งเจือปนในน้ำมัน ทำให้น้ำมันด่อยคุณภาพ ทำให้การหล่อเลื่อนไม่ดี  เป็นเหตุให้ชิ้นส่วนที่ทำงานอยู่นั้นเสียหายใด้ครับ......มันไม่เกี่ยวกับเรกูเรตเลย :o  :o.....

ถ้ารถมีโบ เรกูเรต เน่า คุมแรงดันน้ำมันไม่ใด้ กานสูบขาด คต ลูกแตก  ยังไม่เคยเจอว่า ชาฟพังซักที  ::)   ::)   

ผมก็งง ครับ ที่ถามบี้แล้วก็ยังยืนยันว่า เรกุเรท มีปัญหาแต่ ทำไมต้องยกท่อนล่าง แล้วทำไมน้ำในหม้อน้ำหาย

ช่างก็อธิบายอะไรก็ไม่รู้แบบ งงๆ น้ำมันไม่จ่ายทำให้มันร้อย เรกุเรท มีปัญหา ผมว่ามันเริ่มไม่ make sense แล้วครับ

 :)


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: jkung_27 ที่ 08 มิถุนายน 2013, 11:45:17
ซวยเพราะมันเสีย จริง หรอครับแล้วทำไมเสียแล้ว ตอนแรกๆ มันไม่น่าขับได้นี่ครับ นี่เป็น 2 รอบ งงเบยพี่

 :o
ปาดฝาเพื่อเพิ่มกำลังอัด อันนี้เป็นวิธีนึง แต่เมื่อเราปาดแล้ว เราต้องรู้ด้วยว่า ปาดเท่าไร่ ปริมาณห้องเผาใหม้เหลือเท่าไหล่ กำลังอัดเท่าไร่ องศาแคมเราก็ต้องมาปรับเปลียน ถ้าเราใช้เฟืองแคมเดิม แคมเดิม เท่ากับเราเพิ่มองศาแคม และองศาไฟ พาระมันจะไปอยู่ที่ ก้านสูบ และ ข้อเหวี่ยง ครับ :-*


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: vicasleep ที่ 08 มิถุนายน 2013, 12:11:55
ซวยเพราะมันเสีย จริง หรอครับแล้วทำไมเสียแล้ว ตอนแรกๆ มันไม่น่าขับได้นี่ครับ นี่เป็น 2 รอบ งงเบยพี่

 :o

Regulator เป็นแพะไงคับ  ต่อให้ regulator เสียจริง ก็ไม่เกี่ยวกับน้ำหาย ฮีท ชาร์ปละลาย
น้ำมันบางมันอาจจะร้อนจริงคับ แต่ร้อนกว่าเดิมไม่ได้มากจนชาร์ปละลายอยู่แล้วคับ


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 08 มิถุนายน 2013, 13:38:31
Regulator เป็นแพะไงคับ  ต่อให้ regulator เสียจริง ก็ไม่เกี่ยวกับน้ำหาย ฮีท ชาร์ปละลาย
น้ำมันบางมันอาจจะร้อนจริงคับ แต่ร้อนกว่าเดิมไม่ได้มากจนชาร์ปละลายอยู่แล้วคับ

ตอนนี้อยู่อู่ดูท่อนล่าง ชาร์ปลูกแรกมีแตกข้างๆ 1อัน ครับ คุยกับช่างยังยืนยันว่าน่าจะเป็นที่เรกุเรต แต่ตอนนี้เอาท่อนล่างใหม่ไปโรงกลึงทำอยู่ครับ แล้วจะใช้เรกุเรทที่อู่ดูอาการ ยังไงใครอยากดูรูปช่วยผม add  line  47124712z

ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆครับ


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: jkung_27 ที่ 08 มิถุนายน 2013, 15:16:07
Regulator เป็นแพะไงคับ  ต่อให้ regulator เสียจริง ก็ไม่เกี่ยวกับน้ำหาย ฮีท ชาร์ปละลาย
น้ำมันบางมันอาจจะร้อนจริงคับ แต่ร้อนกว่าเดิมไม่ได้มากจนชาร์ปละลายอยู่แล้วคับ
ถูกต้องครับ  ;D   ;D   ;D    ถ้ามันร้อนจนชาฟระลาย  ทำไมลูกสูบ กับ ก้านสูบมันไม่แตก  ไม่คตนะ  ::)  ::)  ::)....... ผมไม่ใช่ช่างยนต์นะ :-[


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 08 มิถุนายน 2013, 19:00:17
ผมก็ยังงง ไปถึงอู่เห็นเรกุเรท ติดรถยังไม่ถอด แต่เครื่องยกลงมาหมดทำไม

 :o


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: BirdCivic ที่ 08 มิถุนายน 2013, 20:24:30
เศร้าแทนครับ แค่จะทำฝา ดันบานปลาย ผมว่าค่าทำ ได้เครื่องใหม่ที่แรงกว่าเดิมแล้วนะครับ  :P :-[ :-[


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: nidsuphan ที่ 08 มิถุนายน 2013, 23:03:52
อาการสตาร์ทแล้วน้ำพุ่ง โปรเก็นรั่วน้ำเข้าเครื่อง ครับ ดูน้ำมันเครื่องได้เลย เจอกับรถผมเต็มๆเลย ของผมก็เปลี่ยนท่อนล่างเพราะน๊อตเกลียวหวานโรงกลึงไม่แนะนำให้ทำเกลียวใหม่


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 09 มิถุนายน 2013, 01:53:32
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ได้ข้อมูลใกล้ๆกันแบบที่กล่าวกันมาเลยครับ

แล้วทำไมช่างยังยืนยันว่าเป็นที่ เรกุเรท มีปัญหา

ตอนนี้ช่างหาท่อนล่างใหม่แล้วกำลังแก้ไขอยู่

ช่างกำลังจะเล่นเกมส์ต่อไปยังไงกับผมครับ

- ช่วยออกค่าแรง ?

- เอาพอขับออกไปได้ หลังจากนั้นก็ช่างมัน ?

- แนะนำให้เปลี่ยนเครื่องใหม่ แต่ + เงินเพิ่ม ?

- จรรยาบรรณมีรับผิดชอบ ทำให้ดีแล้วจบ ไม่มีเก็บเพิ่ม รถไม่มีปัญหา พอเป็นไปได้ไหมครับ ?

พอจะเดาเกมส์ต่อไปออกกันไหมครับ      ::) ::) ::)


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 09 มิถุนายน 2013, 02:03:19
ผมเดาไม่ออกเลยวุ้ย  :o :o :o

ขอให้จบแบบเจ็บๆน้อยที่สุดล่ะกันครับ   :-[


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 09 มิถุนายน 2013, 02:07:04
ผมเดาไม่ออกเลยวุ้ย  :o :o :o

ขอให้จบแบบเจ็บๆน้อยที่สุดล่ะกันครับ   :-[

กลัวจบแบบ Action ครับพี่

 ;D


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 09 มิถุนายน 2013, 02:08:27
กลัวจบแบบ Action ครับพี่

 ;D
ถ้าถอยออกมาเลยให้เค้าคืนเงินให้บางส่วนจะไหวไม๊หว่า :-\ :-\ :-\


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 09 มิถุนายน 2013, 02:16:24
ถ้าถอยออกมาเลยให้เค้าคืนเงินให้บางส่วนจะไหวไม๊หว่า :-\ :-\ :-\

ตสมหลักการค้า การคืนเงินเกิดขึ้นได้ยากมากครับ แล้วกรณีนี้ ดูทะแม่งแปลกๆ คงตัดเรื่องการคืนเงินไปได้เลยครับถึงแม้จะบางส่วน 50% ก็ตามแต่

 8)


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 09 มิถุนายน 2013, 02:19:36
ตสมหลักการค้า การคืนเงินเกิดขึ้นได้ยากมากครับ แล้วกรณีนี้ ดูทะแม่งแปลกๆ คงตัดเรื่องการคืนเงินไปได้เลยครับถึงแม้จะบางส่วน 50% ก็ตามแต่

 8)
ลองดูครับว่าเค้าจะแก้ปัญหาให้ยังไง :-\ :-\ :-\


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 09 มิถุนายน 2013, 17:43:08
ลองดูครับว่าเค้าจะแก้ปัญหาให้ยังไง :-\ :-\ :-\

ตอนนี้คงรอทางอู่ แก้ไข ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรก็แล้วแต่ คงรอได้อย่างเดียวครับตอนนี้ เหนื่อยจริงๆ.................

 :-*


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 09 มิถุนายน 2013, 17:49:06
อยากแรงกว่าเดิมต้องทำใจครับ  :-[ :-[ :-[ :-\ :-\ :-\ รอดูว่าจะจบยังไง


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: kanta ที่ 09 มิถุนายน 2013, 22:00:05
ผมว่าเปลี่ยนอู่ ดีกว่าครับ
อย่าไปเล่นเกมส์กับมันเลยครับ คุยไปเลยให้ชัดเจนครับ ว่าจะรับผิดชอบยังไง เดี๋ยวจะเสียน้อยเสียยาก ครับ เฝื่อใจไว้เลยครับว่ามันไม่รับผิดชอบอะไร
เปลี่ยนท่อนล่างใหม่ ช่างมือไม่ถึง ปัญหาเดิมๆก็ตามมาอยู่ดีครับ เพราะไม่รู้ว่าสาเหตุ มาจากฝาที่ปาดไปหรือป่าว ปาดไปมากแค่ไหน
ประเก็นเปลี่ยนไหม ขันฝาถูกวิธี ได้ตามสเปคหรือป่าว ขันไม่เท่ากัน โอกาศประเก็นรั่วก็มี


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 09 มิถุนายน 2013, 22:16:02
ผมว่าเปลี่ยนอู่ ดีกว่าครับ
อย่าไปเล่นเกมส์กับมันเลยครับ คุยไปเลยให้ชัดเจนครับ ว่าจะรับผิดชอบยังไง เดี๋ยวจะเสียน้อยเสียยาก ครับ เฝื่อใจไว้เลยครับว่ามันไม่รับผิดชอบอะไร
เปลี่ยนท่อนล่างใหม่ ช่างมือไม่ถึง ปัญหาเดิมๆก็ตามมาอยู่ดีครับ เพราะไม่รู้ว่าสาเหตุ มาจากฝาที่ปาดไปหรือป่าว ปาดไปมากแค่ไหน
ประเก็นเปลี่ยนไหม ขันฝาถูกวิธี ได้ตามสเปคหรือป่าว ขันไม่เท่ากัน โอกาศประเก็นรั่วก็มี

ปัญหาคือผมไม่ได้มีเหลือๆพอลูกพี่ ถ้ามีเหลือมีเงินเปลี่ยนเครื่อง ถ้ามีก็คงกล้าแลกครับกับอู่ครับ

 :(


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 10 มิถุนายน 2013, 09:36:11
สงสัยยาวแน่ๆ ขนาด เดิมๆ ปาดแก้ ฝาโก่งยังจบยาก ยังไง ก้สู้ๆละกัน


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: Notesamit ที่ 10 มิถุนายน 2013, 10:07:21
ยิ่งอ่าน ชักยาว

ลองเป็นรถผมเอง รับรอง มันส์ :D


เอาใจช่วย ซิงค์ นะ เท่าที่อ่าน อู่เหมือนจะแถ โทษนั่น โน่น นี่ ไปเรื่อย ตายๆ มีแสนหมดแสน
ที่ว่าคุยกะช่าง คุยกับช่างหรือเจ้าของอู่ ยังไงก็ต้องรับผิดชอบ 
:-[


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 10 มิถุนายน 2013, 10:09:43
ยิ่งอ่าน ชักยาว

ลองเป็นรถผมเอง รับรอง มันส์ :D


เอาใจช่วย ซิงค์ นะ เท่าที่อ่าน อู่เหมือนจะแถ โทษนั่น โน่น นี่ ไปเรื่อย ตายๆ มีแสนหมดแสน
ที่ว่าคุยกะช่าง คุยกับช่างหรือเจ้าของอู่ ยังไงก็ต้องรับผิดชอบ 
:-[

เจ้าของ ครับไม่ชอบคุยอ้อม แต่ยังเชื่อใจอยู่ครับ

รอการแก้ไข ครับ

 :(


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: chay-ตาโต ที่ 10 มิถุนายน 2013, 13:51:38
ขอเป็นกำลังใจช่วยคับ    ขอให้รถเสร็จไวๆๆนะคับ

 


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 29 มิถุนายน 2013, 19:30:10
วันนี้รับรถมาแล้วครับ คุยกับอู่ทุกอย่าง OK ครับ ไม่มีปัญหากัน เข้าใจปัญหากัน แก้ไขปัญหากันทุกอย่าง ยังคงเป็นพี่น้อง-ลูกค้า เช่นเดิมครับ

 8)


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: jkung_27 ที่ 29 มิถุนายน 2013, 19:31:34
วันนี้รับรถมาแล้วครับ คุยกับอู่ทุกอย่าง OK ครับ ไม่มีปัญหากัน เข้าใจปัญหากัน แก้ไขปัญหากันทุกอย่าง ยังคงเป็นพี่น้อง-ลูกค้า เช่นเดิมครับ

 8)
ยินดีด้วยครับ  :)  :)  :)


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 29 มิถุนายน 2013, 19:44:09
จบยังไงล่ะนี่  :-[ :-[


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: beer4353 ที่ 29 มิถุนายน 2013, 20:23:21
ยิ่งอ่าน ชักยาว

ลองเป็นรถผมเอง รับรอง มันส์ :D


เอาใจช่วย ซิงค์ นะ เท่าที่อ่าน อู่เหมือนจะแถ โทษนั่น โน่น นี่ ไปเรื่อย ตายๆ มีแสนหมดแสน
ที่ว่าคุยกะช่าง คุยกับช่างหรือเจ้าของอู่ ยังไงก็ต้องรับผิดชอบ 
:-[

นี่ถ้าเป็นรถ คริววี่นะ  หลับตาฟันธงอาการยังได้        ::)


เครื่องเป็นตะคริว....    ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 29 มิถุนายน 2013, 20:33:11
จบยังไงล่ะนี่  :-[ :-[

ทางอู่รับผิดชอบ คุยกันทุกเรื่องที่เกิดขึ้นและไม่เข้าใจกันครับ

ถอดเรกุเรท เจ้าปัญหาดูอาการกันไปก่อนครับ

 :-* :-*


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 29 มิถุนายน 2013, 20:33:46
นี่ถ้าเป็นรถ คริววี่นะ  หลับตาฟันธงอาการยังได้        ::)


เครื่องเป็นตะคริว....    ;D ;D ;D


พี่เบียร์ เคยชกกับพี่โน้ตบ้างป่าวเนี่ยยยยยย จะกินกระบาลกันแทบทุกที่เลย  ;D


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 29 มิถุนายน 2013, 20:34:24
ทางอู่รับผิดชอบ คุยกันทุกเรื่องที่เกิดขึ้นและไม่เข้าใจกันครับ

ถอดเรกุเรท เจ้าปัญหาดูอาการกันไปก่อนครับ

 :-* :-*
ดีครับ และก็ดีที่เราไม่ใจร้อน  :) :) :)


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 29 มิถุนายน 2013, 20:34:43
ตอนนี้ท่อนล่าง ประกบ ZC แทนแล้วครับ

 :o


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: SingZ96 ที่ 29 มิถุนายน 2013, 20:35:38
ดีครับ และก็ดีที่เราไม่ใจร้อน  :) :) :)

 :-* :-*

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับพี่


หัวข้อ: Re: เป็นเพราะอะไร ???
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 29 มิถุนายน 2013, 20:39:00
:-* :-*

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับพี่
:-[ :-[ :-[