ขับรถคนเดียวระวังแก๊งทิ่มหม้อน้ำ
ขอพักเรื่องร้อน ๆ ทางการเมือง มาเป็นเรื่องใกล้ตัวกันบ้าง
โดยเฉพาะผู้ใช้รถใช้ถนนยามค่ำคืนที่ต้องเดินทางคนเดียว ควรระวัง!
ผู้ถ่ายทอดอุทาหรณ์เล่าว่า...
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ผมใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ
ขากลับจากโคราชเลยจากปากช่องมาสัก 10 กิโลเมตร เห็นจะได้
ขณะนั้นเป็นเวลาตี 3ผมเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง
ตอนนั้นขับรถเก๋งไปครับ
กะเข้าไปทำธุระและล้างหน้าล้างตาให้หายเพลียสักหน่อย
ผมเข้าห้อง น้ำไปประมาณ 5 นาที ออกมาเห็นบริเวณล้อหน้ามีน้ำเจิ่งนองเต็มไปหมด
สถานการณ์อย่างนี้หม้อน้ำมีปัญหาแน่ ช่วงนั้นมึนครับ
เพราะช่วงที่ขับมาระดับความร้อนก็ปกติ ช่วงที่กำลังคิดหาทางแก้ปัญหาอยู่นั้น
มีรถกะบะเก่า ๆ คันหนึ่งวิ่งเข้ามาจอดใกล้ ๆ
มีผู้ชายเดินออกมา 2 คน คนแรกอายุราว 40 ปี และอีกคน ราว 20 ปี
เข้ามาช่วยดูแถมวิเคราะห์ให้เสร็จว่าเครื่องยนต์เป็นอะไร
และอาสาว่าจะเรียกรถยกพาไปซ่อมที่อู่ให้ ผมยังไม่ทันจะตอบรับหรือปฏิเสธ
แกก็กดโทรศัพท์ พูดคุยล้งเล้ง
จากนั้นเดินมาบอกผมว่าแกช่วยจัดการเคลียร์ให้แล้วเดี๋ยวรถยกจะมา
ทางอู่คิดราคา7,500บาท โดยใช้อะไหล่แท้
ผมเลยบอกว่าไม่ทำเด็ดขาดขอบคุณที่มีน้ำใจ
ผมกำลังติดต่อช่างประจำอยู่ ผมอาจต้องเอารถเข้าศูนย์
แกก็ไม่ว่าอะไร เพียงแต่พูดเปรย ๆ ว่าเข้าศูนย์ต้องเสียเป็นหมื่นนะ
แกหายไปครู่ใหญ่ก็เดินมาหาผมอีก แล้วบอกว่าจะให้ช่างมาซ่อมที่นี่เลย
แกต่อรองราคาลงมาได้เหลือ 5,000 บาท
ผมเห็นท่าทางแกดูซีเรียส เวลาที่พูดก็เลยต้องแกล้งโกหกไปว่า
รถคันที่ขับเป็นของผู้กองคนหนึ่ง ผู้กองบอกให้เอารถเข้าศูนย์เพราะเคลมประกันได้
รถกะบะคันนั้นเลย ขับออกไปอย่างกระชาก
หลังจากนั้น มีคนขายไส้กรอกอีสานมาพูดว่า คุณคงโดนทิ่มหม้อน้ำเข้าให้แล้ว
จอดรถดึก ๆ ตามปั๊ม ถ้าไม่มีคนดูรถ มักจะเป็นแบบนี้ แกบอกว่าเจอกันหลายปั๊ม
แต่เตือนใครไม่ได้เพราะต้องค้าขายแถบนั้น โชคดีที่ผมพอมีเพื่อนอยู่ที่สระบุรี
จึงพาช่างมาซ่อม เสียเวลาไปหลายชั่วโมง หม้อน้ำที่ถอดออกมาเป็นรูใหญ่
ช่างบอกว่ารอยเกิดจากการเสียบทะลุ เพราะถ้าหม้อน้ำเกิดรอยรั่วเอง
แผลจะไม่ใหญ่ขนาดนี้
รู้อย่างนี้แล้ว ต่อไปหากจำเป็นต้องเดินทางคนเดียวยามค่ำคืน
และต้องการแวะจอดปั๊มเพื่อทำธุระก็ควรมองหาปั๊มที่เปิดไฟสว่าง
พอมีผู้คนอยู่บ้าง ก็น่าจะช่วยป้องกันได้ระดับหนึ่ง
เอกสารอ้างอิง
forward mail ของผมเองครับ

รักทุกคนนะครับ