เคยได้ยินเรื่องบ้านขนมหวานไหมครับ
ใช่ครับ
ไอ้ที่สองพี่น้องหลงทางกินเข้าไปเกือบทั้งหลังนั่นแหละ
ในนิทาน แม่มดใจร้ายใช้ขนมหวานหลอกล่อเด็กๆ
เพื่อที่จะเอามาปรุงอาหารเมนูลับซูสีไทเฮา
คนละอย่างกับเทปลับซูฉีนะครับคุณผู้อ่านที่เคารพ
เด็กๆที่ใสซื่อก็เดินทะเล่อทะล่าเข้าหาของหวาน
โดยไม่รู้ว่าที่ซ่อนอยู่ข้างหลังน้ำตาลหลากสีนั้น
มีเพียงการหลอกลวงอันแสนเจ็บปวด
สำหรับชีวิตจริง
แม่มดไม่ได้หลังค่อม ตาเดียว จมูกงุ้ม
และแน่นอนไม่มีโลโก้แม่มดแปะไว้บนหน้าผาก
บ้านขนมหวานก็อาจอยู่ในรูปแบบอื่น
หน้าหวานๆ คำพูดหวานๆ ผลประโยชน์หวานๆ
ไปจนถึงช่วงชีวิตที่แสนหวาน
ให้เราได้ลิ้มลองความหวานจนตายใจ
ขุนเราจนอ้วนพี
แล้วแม่มดหน้าตาดีก็จะค่อยๆละเลียดสิ่งที่หว่านเอาไว้
กว่าจะรู้สึกตัวอีกที
เราก็ถูกกลืนกินศักดิ์ศรี หรือชีวิตไปจนไม่เหลือแล้ว
เราไม่มีทางรู้ได้ว่าบ้านขนมหวานที่เรากินอยู่
เป็นของแม่มดหรือเป็นสิ่งที่ฟ้าประทานมาให้
เด็กบางคนอาจระแวงสงสัยในความหวาน และเดินผ่านไป
แน่นอนชีวิตก็จะปลอดภัย
แต่ก็จะไม่มีวันได้สัมผัส
รสชาติที่แสนเป็นสุขของชีวิต
ชีวิตคือการเสี่ยง
เมื่อเจอบ้านขนมหวานที่มีกลิ่นหอมโดนใจเราแล้ว
หากจะเดินเลยผ่านไป
อาจต้องเสียดายไปทั้งชีวิต
ถึงแม้จะรู้ตัวว่าต้องถูกกินในตอนสุดท้าย
แม้ต้องเจ็บปวด
สูญเสียอะไรไปเท่าไหร่ก็ตาม
แค่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ
ดื่มด่ำกับขนมหวานให้เต็มที่
เพื่อที่อย่างน้อยเราจะได้ภูมิใจ
ที่ครั้งหนึ่งเราได้รู้จักรสชาติที่ดีที่สุดในชีวิตแล้ว
และเมื่อเราโตขึ้น
พอหลับตาลง
เราก็จะยังจำรสชาติความสุขของขนมหวานนั้นได้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
กลับมามีสาระอีกสักรอบในกระทู้นี้
หลังจากตั้งกระทู้กวนๆมาหลายกระทู้แล้ว
ไว้ครึมๆหน่อยอาจไปขุดกระทู้อย่างเก่า