ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
23 กรกฎาคม 2025, 20:46:01
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: EK96 ปาดฝามาแล้ว ยังมีอาการความร้อน ต้องทำงัยต่อ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: EK96 ปาดฝามาแล้ว ยังมีอาการความร้อน ต้องทำงัยต่อ  (อ่าน 7618 ครั้ง)
tidadin
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 97


« เมื่อ: 09 ตุลาคม 2010, 21:47:44 »



คือผมปาดฝาโกงเปลี่ยนปะเก็นและเปลียนชุดแหวนลูกสูบ ล้างเครื่องทั้งหมด ผลปรากฎว่าเครื่องเดินเรียบดี แต่เครืองร้อนเร็ว น้ำเดือดล้นออกจากหม้อพักไม่อะไรกับตอนฝาโกง พัดลมทำงานช้า ตอนเครืองเย็นสตาร์ติดยากรอบสวิงขึ้นๆลงๆไม่มีกำลัง ออกตัวก็ดับ ผมอ่านมาหลายกระทู้แล้วแก้ตามก็ไม่หายวอนผู้รู้ทุกท่านช่วยผมทีครับ
    หม้อนำเป็นแบบสองชั้น เปลี่ยนวาร์ลน้ำ เปลี่ยนหัวเทียนใหม่แบบเข็ม  ล้างปีกผีเสื้อแล้วครับ
และหมดตัวแล้ว
บันทึกการเข้า
First-Festival
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 106



« ตอบ #1 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2010, 22:24:06 »

คือผมปาดฝาโกงเปลี่ยนปะเก็นและเปลียนชุดแหวนลูกสูบ ล้างเครื่องทั้งหมด ผลปรากฎว่าเครื่องเดินเรียบดี แต่เครืองร้อนเร็ว น้ำเดือดล้นออกจากหม้อพักไม่อะไรกับตอนฝาโกง พัดลมทำงานช้า ตอนเครืองเย็นสตาร์ติดยากรอบสวิงขึ้นๆลงๆไม่มีกำลัง ออกตัวก็ดับ ผมอ่านมาหลายกระทู้แล้วแก้ตามก็ไม่หายวอนผู้รู้ทุกท่านช่วยผมทีครับ
    หม้อนำเป็นแบบสองชั้น เปลี่ยนวาร์ลน้ำ เปลี่ยนหัวเทียนใหม่แบบเข็ม  ล้างปีกผีเสื้อแล้วครับ
และหมดตัวแล้ว

ปาดฝามานานรึยังครับ ถ้าไม่นานรีบเอากลับไปให้ที่อู่แก้ดีกว่าครับ
อาการน้ำดันที่ถังพักน้ำ ผมว่าน่าจะเกิดจากประเก็นฝาสูบนั่นแหล่ะครับ

แล้วก็ลองเช็คกำลังอัดในกระบอกสูบด้วยก็ดีครับ ผมว่าอาการมันแปลกๆ
บันทึกการเข้า
OFFSIDE
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,132


แรงตามตังค์ พังตามตีน....


« ตอบ #2 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2010, 23:56:48 »

อยู่แถวไหนหรอคับ เผื่อมีอู่ที่พี่น้องในคลับรู้จักใกล้ เพราะดูแล้วอู่ที่คุณไปทำคงไม่ได้เรื่องแล้วมั้งคับ ทำซะขนาดนั้นยังไม่หาย ก้อคงเป็นที่ฝาเหมือนเดิมอะคับ ถ้าน้ำดัน  แล้วหม้อน้ำตันป่าวคับลองล้างหม้อน้ำยัง  แต่อู่ก้อน่าจะดูให้แล้วนะ :'(
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 ตุลาคม 2010, 00:01:06 โดย OFFSIDE » บันทึกการเข้า

อยากสวยอย่ากลัวแพง อยากแรงอย่ากลัวพัง รู้ว่าไม่มีตังค์ขับเดิมๆ   ^______^
pongsak.tu
Gold Member
ศิษย์น้อง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 128


« ตอบ #3 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2010, 09:33:38 »

ถ้าปาดฝามาแล้ว ยังเหมือนเดิม เเนะนำ ลองดูเสื้อสูปครับเจอมาเเล้ว จบที่เปลี่ยน หาย เจ๋ง
บันทึกการเข้า
tidadin
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 97


« ตอบ #4 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2010, 10:01:57 »

ผมกลับไปหาที่อู่แล้วตอนไปหาเครื่องร้อนแล้วอาการมันปกติ เขาบอกปาดฝาแล้วต้องทำใจ ให้ผมไปเปลี่ยนหม้อน้ำให้ใหญ่ขึ้นและเขาก็บอกว่ารถผมไม่มีตัวเวทคั้มแอร์ให้ผมไปหาร้านแอร์ต่อเฉยเลย  จริงรึป่าวก็ไม่รู้ผมก็ไม่เคยเห็นหน้ามัน
แต่ผมก็สัยสัยนะครับว่าตรงที่ตัวควบคุมรอบเดินเบา ปกติจะมีระบบน้ำเข้าไปตรงด้านล่างของตัวควบคุมรอบเดินเบารึป่าวใครมีรถที่เครื่องเดิมๆบ้างครับช่วยดูหน่อยว่ามีรึไม่ ถ้ามีมันไปต่อเข้าตรงไหน เพราะรถผมมันมีแต่ท่อน้ำเปล่าๆออกจากตัวควบคุมรอบต่อลอยไว้       อ้อ   บ้านผมอยู่ปทุมแต่ไปทำงานที่แถวสุวรรณภูมิ
บันทึกการเข้า
Skuidui
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 222



« ตอบ #5 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2010, 20:07:54 »

ดูท่าจะหมดไปหลายนะครับ    ก็ขอให้แก้ได้ไวๆนะครับ  ขอให้เจอเซียนมาตอบไว  เจ๋ง เจ๋ง
บันทึกการเข้า
Leo
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,980



« ตอบ #6 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2010, 20:53:55 »

ยังไง ก็ หาย ไว ๆ นะครับ
บันทึกการเข้า

97civic
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,154

นายใจดี


« ตอบ #7 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2010, 23:38:27 »

ผมกลับไปหาที่อู่แล้วตอนไปหาเครื่องร้อนแล้วอาการมันปกติ เขาบอกปาดฝาแล้วต้องทำใจ ให้ผมไปเปลี่ยนหม้อน้ำให้ใหญ่ขึ้นและเขาก็บอกว่ารถผมไม่มีตัวเวทคั้มแอร์ให้ผมไปหาร้านแอร์ต่อเฉยเลย  จริงรึป่าวก็ไม่รู้ผมก็ไม่เคยเห็นหน้ามัน
แต่ผมก็สัยสัยนะครับว่าตรงที่ตัวควบคุมรอบเดินเบา ปกติจะมีระบบน้ำเข้าไปตรงด้านล่างของตัวควบคุมรอบเดินเบารึป่าวใครมีรถที่เครื่องเดิมๆบ้างครับช่วยดูหน่อยว่ามีรึไม่ ถ้ามีมันไปต่อเข้าตรงไหน เพราะรถผมมันมีแต่ท่อน้ำเปล่าๆออกจากตัวควบคุมรอบต่อลอยไว้       อ้อ   บ้านผมอยู่ปทุมแต่ไปทำงานที่แถวสุวรรณภูมิ

เเถวไหนของปทุมครับผม
บันทึกการเข้า

อาจจะมีใครสักคนรออยู่ที่ปลายฟ้า บอกใจเสมอว่าคนที่รออยู่ไม่ไกล
อาจจะมีใครสักคนรับฝากรักในหัวใจ เส้นทางชีวิตอันแสนไกล จะมีคนรักเดินเคียงข้างกัน
EG-4DZA
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42

EG-4D-Non-Tec


« ตอบ #8 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2010, 10:52:19 »

เจอปัญหาหาเดียวกับผมเลย แต่แค่ผมยังไม่ปาดฝา ผมกำลังศึกษาอยู่เหมือนกันครับ ล่าสุดช่างบอกเปลี่ยนประเก็นเสื้อสูบหายชัวร์
แต่ผมก็ยังไม่ได้เปลี่ยนอะครับ ยังไงก็ให้หายไวๆครับ หัวอกเดียวกัน ปวดหัวมากมาย ^0^
บันทึกการเข้า
tidadin
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 97


« ตอบ #9 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2010, 12:02:43 »

ผมอยู่แถวนวนคร
บันทึกการเข้า
p jung
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13,408


คุณชายพี


« ตอบ #10 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2010, 13:16:40 »

ยิ่งวิ่งยิ่งขึ้นเหรอครับ  ขยิบตา
บันทึกการเข้า

thanawat6
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,230


Japan Garbage Car & THE GANG DIY SERVICE


« ตอบ #11 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2010, 13:49:22 »

ผมกลับไปหาที่อู่แล้วตอนไปหาเครื่องร้อนแล้วอาการมันปกติ เขาบอกปาดฝาแล้วต้องทำใจ ให้ผมไปเปลี่ยนหม้อน้ำให้ใหญ่ขึ้นและเขาก็บอกว่ารถผมไม่มีตัวเวทคั้มแอร์ให้ผมไปหาร้านแอร์ต่อเฉยเลย  จริงรึป่าวก็ไม่รู้ผมก็ไม่เคยเห็นหน้ามัน
แต่ผมก็สัยสัยนะครับว่าตรงที่ตัวควบคุมรอบเดินเบา ปกติจะมีระบบน้ำเข้าไปตรงด้านล่างของตัวควบคุมรอบเดินเบารึป่าวใครมีรถที่เครื่องเดิมๆบ้างครับช่วยดูหน่อยว่ามีรึไม่ ถ้ามีมันไปต่อเข้าตรงไหน เพราะรถผมมันมีแต่ท่อน้ำเปล่าๆออกจากตัวควบคุมรอบต่อลอยไว้       อ้อ   บ้านผมอยู่ปทุมแต่ไปทำงานที่แถวสุวรรณภูมิ

พูดถึงเดิม ๆ D16Y8 หรือป่าวครับ ถ้าเป็นเกียร์ธรรมดาไม่มี ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 2 สาย
ท่อน้ำเข้าจะเป็นตัวชดเชยรอบของเกียร์ออโต้ครับ อยู่ใต้ลิ้นปีกผีเสื้อ
ถ้าเป็นเกียร์ธรรมดาอาจมีการเปลี่ยนมอเตอร์เดินเบาไปใช้ของบล๊อคอื่นที่มีท่อน้ำเลี้ยงก็ได้นะครับ แต่ช่างไม่ได้ต่อไว้
 จุมพิต
บันทึกการเข้า

aummuamua
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 396



« ตอบ #12 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2010, 15:07:33 »

ช่วยดันครับ   หายไวๆจ้า             ยิ้ม
บันทึกการเข้า
tidadin
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 97


« ตอบ #13 เมื่อ: 12 ตุลาคม 2010, 15:18:09 »

ความร้อนจะขึ้นตอนสตาร์ทรถครั้งแรกและขับออกไปประมาณสามสี่กิโลความร้อนจะขึ้นน้ำในหม้อจะดันออกมาหมดเลยต้องจอดและเติมน้ำไหมอีกครั้งอาการความร้อนก็หายเป็นปกติวิ่งกระฉูดเลย ผมสงสัยว่าการปาดฝามาทำให้เครืองร้อนเร็วกว่าเดิมวาล์ทน้ำเปิดช้าพัดลมยังไม่ทำงาน ทำให้น้ำเดือดเร็วและก็ดันออกโดยน้ำไหมยังไม่ไหลเข้ามาแทน ถ้าหากเกิดจากสาเหตนี้จริงทุกท่านที่ได้อ่านดิดว่าผมควรจะแก้ไขตรงไหนก่อน  1.วาร์ลน้ำถอดทิ้งเลยมันจะมีผลเสียกับเครืองมั้ยในระยะยาว
2. พัดลมต่อตรงเลยดีไหมหรือว่ามีอุปกรณ์อะไรที่ช่วยทำให้พัดลมมันทำงานเร็วขึ้น
3.หม้อน้ำ เปลี่ยนให้ใหญ่ขึ้น
 ตอนนี้ก่อนออกรถผมต้องเอาน้ำมาฉีดตรงแผงรังผึ้งหม้อน้ำก่อนแล้วค่อยออกรถ
บันทึกการเข้า
KK109
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


« ตอบ #14 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2010, 21:43:42 »

ถ้าคุณสงสัยว่าเป็นที่วาวล์น้ำก็ลองถอดดูก็ได้ น้ำที่ดันออกฝาน่ะ มันดันเพราะประเก็นฝาสูบรั่วหรือว่าดันเพราะความร้อน สังเกตุตรงนี้ดีๆคับ ส่วนพัดลมไฟฟ้าจะต่อตรงก็ได้แต่พัดลมจะเสียเร็วขึ้นแต่ไม่ได้หมายความว่าเร็ซมาก อาจจะหลายปีก็ได้ รถก็ของเราสงสัยอะไรลองดูคับ ส่วนหม้อน้ำผมว่าไม่ต้องเปลี่ยนให้ใหญ่ขึ้นหรอกคับ ทำให้มันสมบูรณ์ก็เอาอยู่แล้ว หรือเปลี่ยนใบใหม่ก็พอแต่เอาใบเท่าเดิมก็ได้  ค่อยๆไล่ไปคับถ้าถอดวาวล์น้ำแล้วหายแสดงว่าเป็นที่วาวล์น้ำเพื่อความสบายใจก็เปลี่ยนซะไม่แนะนำให้ถอดตลอดเวลาคับ
บันทึกการเข้า
jirasak
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12


« ตอบ #15 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2010, 22:51:46 »

 ตกใจ   สวัสดีครับ  ผมอยู่พระอินทร์
  ผมมี น้าเปิดอู่ อยู่
เห็น เขาบอกว่าเครื่อง honda ถ้าฝาโก่ง ให้ยกทิ้งเลยไม่ต้องทำ
เพราะทำแล้วส่วนใหญ่แล้วไม่จบ
แนะนำไปซื้อใหม่
ชื่อ อู่ช่างขวัญ เศร้า
บันทึกการเข้า
srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #16 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2010, 10:54:11 »

ก็ลองมาอ่านดูเนื้อหาของผมดูว่ามันจะช่วยอะไรได้บ้างกับอาการที่คุณบอกมา อาจจะยาวไปบ้างลองอ่านดูครับ
อาการที่คุณบอกมาว่าเครื่องทำการปาดฝาสูบมา หลังจากประกอบกลับ มีความร้อนขึ้นและมีแรงดันของน้ำดันน้ำออกมาที่กระปุ๊กที่พักน้ำ และจะเป็นตอนที่คุณเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ครั้งแรกๆ  พอวิ่งไปได้ประมาณสี่กิโล น้ำในหม้อน้ำแห้งต้องลงมาเติมน้ำ หลังจากนั้นก็จะวิ่งได้ปกติ   ประการแรกที่น่าจะเป็นก็เรื่องฝาสูบที่ไปไสปาดมายังมีส่วนโค้งไม่เรียบสนิทจริง ทำให้เวลาประกอบกลับ ใส่ประเก็นฝาสูบแล้วขันน็อตฝาสูบเพื่อให้ฝาสูบกดลงไปบนแผ่นประเก็น แต่เนื่องจากความไม่เรียบของฝาสูบทำให้มีส่วนที่ฝาสูบกดลงบนแผ่นประเก็นบางช่วงไม่แนบสนิท   ดังนั้นเวลาที่คุณเริ่มใช้รถสคาร์ทครั้งแรกหลังจากที่เครื่องเย็น แรงดันจากห้องสูบจึงรั่วออกมาที่ห้องระบายน้ำเสื่อสูบ รวมทั้งความร้อนที่เกิดขึ้นภายในห้องสูบไหลเข้ามา ทำให้เกิดความร้อนอย่างรวดเร็ว ตัววัดอุณหภูมิของน้ำจึงขึ้นเร็วกว่าปกติ และมีแรงดันของน้ำดันน้ำออกมาจากหม้อพักน้ำ ตามระยะเวลาที่คุณบอก ประมาณสื่กิโล   แต่หลังจากที่คุณจอดรถและเติมน้ำการที่เครื่องยนต์ร้อนก็กลับมาเป็นปกติ   ขั้นตอนนี้ขอให้ข้อคิดดังนี้  หลังจากที่คุณเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์และขับออกไป ในช่วงนั้นตัวเสื่อสูบของเครื่องยนต์ยังเย็นอยู่  อากาศจากห้องสูบจึงไหลเข้าไปในช่องระบายความร้อนของผนังเสื้อสูบ  แต่เมื่อเครื่องยนต์หรือตัวเสื้อสูบเกิดความร้อน ทำให้เนื้อโลหะของตัวเสื้อสูบและฝาสูบขยายตัว ทำให้รอยรั่วของประเก็นฝาสูบที่รั่วตอนเครื่องเย็นกลับมาสนิทเพราะการขยายตัวของโลหะของเสื้อสูบ   หลังจากคุณเติมน้ำลงไปใหม่มันจึงปกติ 
นี้เป็นสาเหตุหนึ่งในหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการความร้อนของเครื่องยนต์มีแรงดันน้ำออกมาและมีความร้อนในช่วงแรก  ก็ลองไปพิจารณาดูว่าน่าจะใช่หรือไม่  ผมคงไม่ฟันธงไปทันทีเพราะมีปัจจัยที่มาเกี่ยวข้องอีก ที่เคยสัมผัสและแก้อาการดังกล่าวที่เจ้าของรถเอาฝาสูบไปไสหรือปาดมา  อู่บางอู่เครื่องมือและวิธีการอาจจะผิดพลาด  ผมเคยเอาฝาสูบไปไสมา ขั้นสุดท้ายต้องเอากลับไปใสใหม่  แต่ไม่ใช่ร้านเดิม  ก็ใช้ได้  ไม่ทราบว่าอาการที่เกิดขึ้นกับรถของคุณเป็นอย่างที่ผมกล่าวมาหรือไม่  อยากรู้ดีก็ต้องลองดู เหมือนเพลงของวงนกแล
สำหรับเพื่อนๆที่คิดจะเอาเจ้าตัวเทอร์โมวาวล์น้ำออก ลองมาอ่านผลของการทดลองเอาเจ้าตัวเทอร์โมวาวล์น้ำออกว่าสมควรเอาออกหรือไม่
สมมุติว่าเราเอาเจ้าตัวเทอร์โมวาวล์น้ำออกมันจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งแรกที่เราสัมผัสได้โดยการมองเห็น คือเกจวัดอุณหภูมิของเครื่องเข็มชี้ต่ำลงมามาก ความร้อนขึ้นช้า และต่ำกว่าปกติเมื่อมีการใช้เครื่องยนต์ในการเดินทาง   บางท่านหลงดีใจว่ารู้อย่างนี้เอาออกเสียตั้งนานแล้ว ความจริงมันไม่ถูก เพราะอะไรหรือ  เราต้องมาทำความเข้าใจการทำงานของเจ้าตัวเทอร์โมวาวล์ของน้ำเสียก่อนว่ามันทำงานอย่างไร  ปกติแล้วเจ้าตัวเทอรฺโมวาวล์น้ำจำทำหน้าที่บล๊อกน้ำจากหม้อน้ำรถในลักษณะไหลจากหม้อน้ำเข้าสู่ห้องระบายความร้อนของเสื้อสูบ และจะเปิดให้น้ำไหลผ่านได้ก็ต่อเมื่ออุณหภูมิของน้ำมีอุณหภูมิที่กำหนด  จะเป็น 82 องศาหรือ 78 องศาบ้าง ตามแต่ละยี่ห้อและรุ่นของรถที่กำหนดมาจากโรงงาน   เจ้าตัวเทอร์โทวาวล์ที่ว่านี้เมื่อเปิดให้น้ำไหลผ่านตัวมันไปได้ ก็จะเกิดการหมุนเวียนของน้ำ โดยการทำหน้าที่ของปั้มน้ำ ส่งแรงดันให้น้ำไหลจากห้องผนังของเสื้อสูบกลับไปยังหม้อน้ำรถ  เพื่อนำเอาความร้อนที่เกิดขึ้นของผนังเสื้อสูบและตัวเครื่องยนต์ ออกมาระบายความร้อน ตามครีบระบายความร้อนของหม้อน้ำและก็ไหลกลับผ่านเทอร์โมวาวล์อีกครั้ง ก็หมุนเวียนกันแบบนี้เรื่อยไปในขณะที่ใช้เครื่องยนต์   การที่เราใช้เจ้าตัวเทอร์โมวาวล์มาทำหน้าที่บล็อกน้ำ ก็เพื่อประโยชน์ ในการสตาร์ทเครื่องยนต์ในครั้งแรกๆที่เครื่องยังเย็นอยู่ น้ำที่อยู่ภายในช่องโพรงของเสื้อสูบ จะถูกบล๊อกด้วยตัวเทอร์โมวาวล์น้ำ เพื่อไม่ให้น้ำจากหม้อนำไหลเข้ามาที่ห้องระบายความร้อนของผนังสูบ  ทั้งนี้เพื่อต้องการให้เกิดความร้อนกับผนังของเสื้อสูบอย่างเร็ว ที่ต้องการความร้อนในช่วงนี้เพื่อให้เกิดอุณหภมิของเครื่องยนต์ เพื่อให้เสื้อสูบเกิดการขยายตัวเพื่อลดแรงเสียดทานของชิ้นส่วนต่างของเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ไม่สึกหรอเร็ว แต่เมื่อน้ำที่ผนังเสื่อสูบมีอุณหภูมิของน้ำตามที่กำหนด  เจ้าตัวเทอร์โมวาวล์น้ำ ก็จะเปิดให้น้ำจากหม้อน้ำรถไหลผ่านเข้าผนังเสื้อสูบ เพื่อให้เกิดการหมันเวียนถ่ายเทความร้อนผจากห้องเครื่องมายังหม้อน้ำ โดยอาศัยแรงส่งของตัวปั้มน้ำ   ทำหน้าที่ดันน้ำผ่านส่วนต่างๆของหม้อน้ำ เพื่อถ่ายเทความร้อนให้กับตัวเครื่องยนต์   
ถามว่าแล้วไม่ใส่จะได้ไหม ถ้าตอบแบบปัดภาระก็บอกว่าใช้ได้ หากทราบว่ามันมีผลดีมากกว่าผลเสียที่ตามมาก็คงใส่ไว้อย่างเดิมดีกว่า    ทำไมหรือครับ ด้วยความอยากรู้ว่าเจ้าเทอร์โมวาวล์ใส่กับไม่ใส่มันมีผลอย่างไรกับเครื่องยนต์
ครั้งแรกบันทึกรายละเอียดกับสภาวะของเครื่องยนต์ที่ยังมีการใส่เทอร์โมวาวล์ตามปกติ เริ่มจากตอนเช้าๆก่อนนำรถไปใช้ดูการสตาร์ของเครื่องยนต์ในขณะที่เครื่องยนต์ยังมีอุณหภูมิของห้องเครื่องยังเย็นอยู่  โอเคสตาร์ทจึ๊งเดียวติดความร้อนหลังจากที่วอร์มเครื่องสองสามนาที เกจวัดความร้อนขึ้นมาบ้างยังไม่มาก  หลังจากนั้นขับรถออกไปทดสอบประมาณยี่สิบกิโล เร็วบ้างช้าบ้าง  เกจวัดอุณหภูมิขึ้นปกติ(ประมาณหนึ่งในสามหรือต่ำกว่าครึ่งของสเกล)
หลังจากขับรถกลับบ้านเข้าที่จอดรถ ผมถอดเอาเจ้าเทอร์โมวาวล์น้ำออก รุ่งเช้าทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ สตาร์ทอยู่หลายครั้งเครื่องยนต์ถึงจะทำงาน  ครั้นพอขับรถไปมีความรู้สึกว่ารถรอบเดินเบาตกลงมาบ้างเล็กน้อยในตอนแรกๆ(อาจจะเป็นเพราะว่าอุณหภูมิของเครื่องยนต์ร้อนช้า ยังมีแรงฟริคชั่นเกิดขึ้นกับชิ้นส่วนต่างๆของตัวเครื่องยนต์)  แต่ขับไปสักพักก็โอเค 
หลังจากทดสอบขับรถไปได้สักชั่วโมงก็กลับที่พักปล่อยรถจอดอยู่จนกระทั้งรุ่งเช้า
ผมได้มาทำการสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อหาข้อมูล  ปรากฏว่าสตาร์ทหลายครั้ง ผมหยุดการสตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้เครื่องยนต์ทำงาน  เพราะผมจะถอดหัวเทียนออกมาตรวจสอบ  หลังจากที่ถอดหัวเทียนอกมาตรวจสอบดูว่าการจุดระเบิดเป็นอย่างไร   ปรากฏว่าหัวเทียนมีความชื้นเกิดขึ้นรอบๆเขี้ยวของหัวเทียน ตั้งแต่ส่วนที่เป็นเกลียวขึ้นไป  ก็ยิ่งเพิ่มความอยากรู้ขึ้นอีก  แต่ก็พอจะประเมินอาการที่เกิดขึ้นได้ เอาล่ะประกอบใส่หัวเทียนเข้าที่เดิม  แล้วพยายมที่จะสตาร์ทเครื่องให้ติด หลังจากที่ติดแล้วก็นำรถขับไปทดสอบอีกครั้ง ได้ผลตามที่เป็นคราวแรกของการถอด จอดรถทิ้งไว้   พอรุ่งเช้าวันใหม่ผมไม่ทำการสตาร์ทรถแต่หันมาถอดหัวเทียนออกมาดู ปรากฏว่ามีความชื้นเกิดขึ้นที่หัวเทียนแบบเมื่อวานได้ชัดเจนกว่า
การที่หัวเทียนมีความชื้นเกิดขึ้นนั้นหมายความว่าภายในห้องสูบต้องเกิดความเย็นต่ำกว่าเมื่อมีการใส่วาวล์น้ำ ทำให้เกิดการสตาร์?เครื่องยนต์ติดอยากขึ้น  แทนที่จะเป็นสตาร์ทครั้งเดียวติด อาจจะเป็นสองสามครั้ง  หากเป็นเครื่องยนต์ที่ควบคุมการทำงานด้วย ECU ก็จะไม่เกินสองครังก็ติด แต่ถ้าหากเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบคาร์บิว ก็หลายครั้งก่อนที่จะติด
เมื่อเล่ามาถึงตอนนี้คิดว่าบางท่านคงคิดได้ว่าเกิดอะไรขึ้นหากไม่ใส่เจ้าเทอร์โมวาวล์น้ำ   จะเห็นว่าเจ้าวาวล์น้ำที่ว่านี้หลังจากที่มันยังปิดไม่ให้น้ำไหลผ่านตัวมันในตอนจอดรถหลังจากใช้งานและเครื่องเย็นลง  มันยังทำให้อุณหภูมิของน้ำในผนังเสื้อสูบ ยังมีอุณหภูมิไม่ต่ำเกินไปจนทำให้ภายในห้องสูบเกิดความเย็นชื้นทำให้หัวเทียนมีประกายไฟสูงลีคลงกราวด์ได้ ทำให้การสตาร์ทเครื่องยนต์มีปัญหาในช่วงแรกๆ  ผลเสียที่ตามมาก็คือทำให้เครื่องยนต์มีชิ้ส่วนภายในสึกหรเร็วขึ้นครับ ถึงจะไม่เกิดในระยะเวลาอันใกล้ก็ตาม แต่ก็เร็วกว่ารถที่ใส่เจ้าตัวเทอร์โมวาวล์ครับ
ขอย้อนถึงเจ้าตัวโรตารี่โซลินอยวาวล์ ที่คุณบอกว่ามีสายท่อน้ำถูดถอดอกมาหนึ่งเส้นที่เหลือถูกอุดปลายไว้ ไม่ทราบผมเข้าใจถูกตามที่คุณบอกมาหรือไม่ หากเป็นดังที่บอก ก็จะบอกกับคุณว่า มันผิดอย่างแรงที่ถอดเจ้าสายยางที่ว่านี้ออก ในตัว EK 96 ตัวที่ทำหน้าที่ชดเชยอากาศให้ไหลเข้าสู่ท่อไอดี ในจังหวะรอบเดินเบา ที่ตัวของมันต้องการอาศัยน้ำจาก่อน้ำร้อนของหม้อน้ำ มาทำการขยายตัวและหดตัวของคอยสปริงที่คล้ายลานนาฬิกา เพื่อที่จะใช้ในการคอนโทรลการเปิดช่องระบายอากาศในขณะที่เครื่องเย็นและร้อน เป็นผลให้การทำงานของสนามแม่เหล็กที่ได้จากการสั่งจ่ายโวลเต็จของ ECU 
ให้เปิดมากหรือน้อยในจังหวะรอบเดินเบาทำงานไม่ตรง  เพราะโครงสร้างภายในของเจ้าตัวโซลินอยวาวล์นี้ จะประกอบไปด้วยแม่เหล็กถาวรกับสนามแม่เหล็กที่ได้รับโวลเต็จจากการคอนโทรลของ ECU ทำให้ผลักดันแกนเหล็กที่ปิดเปิดให้อากาศผ่าน และแกนเหล็กที่ว่านี้ยังต่อร่วมกับแกนของลานนาฬิกา ลานนาฬิกานี้เมื่อถูกความร้อนจะเกิดการขยายตัวทำให้แกนเหล็กที่ว่าบิดตัวต้านสนามแม่เหล็กที่ผลักดันให้แกนเหล็กเปิด ดังนั้นความร้อนที่ได้จากท่อน้ำร้อนที่เข้าไปที่ตัวมัน จึงจำเป็นที่จะต้องมีครับ หากไม่มีจะมีผลต่อรอบเดินเบาครับ ลองไปให้ช่างเขาประกอบกลับที่เดิมซะ ขออภัยที่พิมพ์เสียยาว ผิดพลาดประการใดก็ต้องขอภัยต่อท่านผู้ทรงความรู้ไว้ ณ ที่นี้ด้วย ?srithanon
บันทึกการเข้า
chit@
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 122



« ตอบ #17 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2010, 04:22:35 »

ความรู้ล้วนๆๆเลยพี่ท่าน ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
navigator
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 456


Don't judge a book by it cover.


« ตอบ #18 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2010, 10:45:01 »

ความร้อนจะขึ้นตอนสตาร์ทรถครั้งแรกและขับออกไปประมาณสามสี่กิโลความร้อนจะขึ้นน้ำในหม้อจะดันออกมาหมดเลยต้องจอดและเติมน้ำไหมอีกครั้งอาการความร้อนก็หายเป็นปกติวิ่งกระฉูดเลย ผมสงสัยว่าการปาดฝามาทำให้เครืองร้อนเร็วกว่าเดิมวาล์ทน้ำเปิดช้าพัดลมยังไม่ทำงาน ทำให้น้ำเดือดเร็วและก็ดันออกโดยน้ำไหมยังไม่ไหลเข้ามาแทน ถ้าหากเกิดจากสาเหตนี้จริงทุกท่านที่ได้อ่านดิดว่าผมควรจะแก้ไขตรงไหนก่อน  1.วาร์ลน้ำถอดทิ้งเลยมันจะมีผลเสียกับเครืองมั้ยในระยะยาว
2. พัดลมต่อตรงเลยดีไหมหรือว่ามีอุปกรณ์อะไรที่ช่วยทำให้พัดลมมันทำงานเร็วขึ้น
3.หม้อน้ำ เปลี่ยนให้ใหญ่ขึ้น
 ตอนนี้ก่อนออกรถผมต้องเอาน้ำมาฉีดตรงแผงรังผึ้งหม้อน้ำก่อนแล้วค่อยออกรถ
ถ้าคุณคิดว่าอยากจะถอดวาวส์น้ำ ผมว่าเจาะรู้ที่น้ำไหลผ่านที่ตัววาวล์น้ำให้ใหญ่กว่าเดิมดีกว่าครับ ถอดออกไม่ดีแน่ครับ รูดซิบปาก
บันทึกการเข้า
Almostcoin
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 347



« ตอบ #19 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2010, 11:01:56 »

อย่าลืมฝาหม้อน้ำครับ ดูเหมือนกั้นแรงดันน้ำไม่ได้ครับ อาจจะจ่ายแค่ร้อยกว่าบาทก็ได้ครับ
บันทึกการเข้า

B18CR + Exedy Clutch Set + Top Fuel filter + Header 5Zigen + Ohlins PCV + RECARO SR3 + REAR CAMBER TOSER + Muffler 5Zigen Proracer
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: EK96 ปาดฝามาแล้ว ยังมีอาการความร้อน ต้องทำงัยต่อ
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2009, Simple Machines -->
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |