แนะนำให้ซื้อแบบเดิมๆ ที่สุด หรือถ้าเดิมหมดทุกอย่างได้ยิ่งดีครับ เพราะถ้าซื้อที่ติดแก๊สมาแล้ว ถ้าดีก็ดีไป ถ้ามีปัญหาจะไล่แก้ลำบากครับ เพราะมันต้องไล่แก้ทีละประเด็นระหว่างน้ำมันหรือแก๊ส กว่าจะรู้จุดก็หมดไปเยอะ
ข้อดีของการซื้อรถที่ติดแก๊สแล้วก็คือไม่ต้องติดเอง ลดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ (ถ้าหัวฉีดอย่างน้อยก็ 20000 up) แต่ก็อย่างที่บอก ว่าต้องเจอคันที่ดีจริงๆ ถึงจะคุ้ม
ถ้าจำเป็นต้องซื้อรถที่ติดแก๊สแล้วจริงๆแนะนำให้เลือกคันที่ติดเป็นหัวฉีด และไม่เคยติดแบบ มิ๊กเซอร์มาก่อน เพราะถ้าติดแบบมิ๊กเซอร์ มันจะมีปัญหาวุ่นวายกับ ชุดลิ้นปีกผีเสื้อ ไอดี และเซ็นเซอร์ต่างๆ มากมาย ซึ่งหัวฉีดจะไม่มีปัญหากับจุดนี้ ซึ่งตรงจุดนี้ถ้ามีปัญหาละก็ จุกจิกครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การติดแก๊สระบบใหนก็ตาม สุดท้าย ปัญหาที่มีร่วมกันก็คือตัวเครื่องยนต์โดยตรง ทั้งวาวล์ ฝาสูบ หม้อน้ำ อย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะอายุเครื่องยนต์เสื่อมสภาพในเวลาไล่เลี่ยกัน ตามการใช้งาน
สิ้นปีนี้ มาตรการตรึงราคาแก๊สคงจะหมดไป อยากให้คิดถึงค่าใช้จ่ายด้วยนะครับ
สมมติรถคันนึงวิ่ง น้ำมัน 14 โลลิตร แก๊ส 10 โลลิตร ถ้าวิ่งระยะทาง 140 กิโล ก็จะใช้น้ำมัน 10 ลิตร หรือ ใช้แก๊ส 14 ลิตร
ให้น้ำมันลิตรละ 35 บาท แก๊สลิตรละ 12 บาท โดยประมาณ จะเสียค่าน้ำมัน 350 บาท หรือแก๊ส 168 บาท
ถ้าอนาคตแก๊สลิตรละ 20 บาทก็จะเสียค่าเดินทาง 280 บาท (เริ่มใกล้เคียงน้ำมัน) การใช้แก๊สต้องมีการบำรุงรักษาถึ่กว่าน้ำมันซึ่งหมายถึงว่าค่าใช้จ่ายต้องจ่ายมากกว่ารถที่ใช้น้ำมันอย่างเดียว รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆเสื่อมสภาพเร็ว ต้องเปลี่ยนบ่อย
ลองคิดเปรียบเทียบก่อนเลือกประเภทรถนะครับ โชคดี
ชัดเจนครับ ข้อมูลนี้ครับ อีกอย่างให้พิจารณาจากการใช้งานเป้นหลักครับ ใช้เยอะในเเต่ละวันก้อติดเเก๊สคุ้ม ถ้าไม่ใ้ช้ในเเต่ละัวันไม่กี่กิโล เเบบไม่ติดดีกว่า เเต่รถติดเเก๊สเเล้วต้องศึกษาดีๆนะครับ ขอให้เจอเนือคุ้เร้วๆนะครับ
ผู้เขียน
