เอาเคสตัวอย่างมาให้อ่านกันครับ...น่าจะเรียกว่าเผลอใจอะนะ :'(
ปล. อาจจะยาวไปนีสนึงนะครับ.. 
ที่มา.. sanook.com
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รับผิดเองแอบมีกิ๊ก ทำ ก้อง เสียใจ ยันไม่เลิก ป้องแมนร้อยเปอร์เซ็นต์
หลังจากปล่อยโฮกลางแคทวอร์ค เป็นข่าวใหญ่มาแล้ว ล่าสุดนางเอกสาว แตงโม-ภัทรธิดา ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวความรักกับแฟนหนุ่ม ก้อง-กรุณ ที่ร้านตุ๊กตาบลายธ์ "The doll house" สยาม พารากอน ว่าตอนนี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากฝ่ายหญิงทำตัวนอกลู่นอกทางแอบมีกิ๊ก จนฝ่ายชายจับได้ทำโทษไม่คุยด้วยไปหนึ่งอาทิตย์ ก็ทำให้เจ้าตัวสำนึกผิด ออกมายอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว
"พอภาพที่โมร้องไห้มันออกมาทุกคนก็มุ่งประเด็นว่าพี่ก้องมาทำร้ายอะไรโมหรือเปล่า โมอยากจะบอกว่าพี่ก้องไม่ได้ทำอะไรโมเลย เค้าอยู่เฉยๆ ทุกอย่างมันเกิดจากตัวโมเอง เท่าที่โมได้ยินมาคนก็จะสงสัยว่าพี่มาทำร้ายอะไรโมหรือเปล่า โมทนความเจ้าชู้ของพี่ก้องไม่ไหว หรือพี่ก้องเป็นเกย์หรือเปล่า อยากจะบอกว่าทั้งสามข้อนี้ลืมไปได้เลย แล้วฟังจากโมตรงนี้ เมื่อเกือบๆ อาทิตย์หนึ่งที่ผ่านมาเราอยู่ในช่วงที่ทะเลาะกันอยู่ แล้วก็ไม่ได้จอไม่ได้คุยกันเลย เหตุเกิดจากโมเอง โมเป็นคนทำผิดร้ายแรงต่อพี่ก้องเอง
ลองนึกว่าโมเป็นตัวเค้าโมก็คงทนไม่ได้ ตัวโมเองทำไปก็รู้สึกผิดและสำนึกมากๆ อยากขอโทษเค้าตลอดเวลา หลังจากโมโกรธตัวเองโทษตัวเองแล้ว เรื่องของเรื่องคือโมไปสนิทกับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนผู้ชาย ทำให้พี่ก้องเสียใจมันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่พี่ก้องรับรู้ โมเคยรับปากพี่ก้องหลายทีแล้ว อาจจะมีติดต่อกันบ้างนิดๆ หน่อยๆ จนถึงวันนี้โมไม่ได้สนิทกับเพื่อนคนนี้อีกแล้ว โมได้บทเรียนครั้งใหญ่สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความผิดความเลวของโมเอง ความเป็นเด็กไม่ดี เป็นเด็กดื้อของโมเอง ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ไม่ได้เจอกันโมพยายามขอโทษยอมรับสารภาพผิด พยายามติดต่อแต่โมไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากพี่ก้องเลย แต่พี่ก้องเงียบหายไปเลย แล้วเรายังต้องทำงานด้วยกันอีกหนึ่งวัน
โมก็ยังไม่รู้ว่าบทสรุปเราเลิกกันหรือเปล่า ณ เวลานั้นเรายังไม่ได้เคลียร์กัน พอถึงเวลานั้นมาแต่งตัวโมไม่มีความพร้อมกลัวตัวเองทำงานไม่ได้ ไม่รู้ว่าคุยไปแล้วจะเป็นแง่บวกหรือแง่ลบ ก็เลยเก็บไว้ก่อนดีกว่าเองไว้ไปเคลียร์กันทีหลัง แต่ขอให้งานผ่านไปก่อน พี่ทีมงานก็ถามโมกับพี่ก้องแล้วว่าทำงานไหวมั้ย ด้วยความที่เรารับปากไปแล้วก็ต้องแสดงความเป็นมืออาชีพ เราทั้งคู่ก็เลยโอเค แต่โมคิดไปเองว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน ก่อนที่จะเดินลงบันไดเลื่อนโมก็เลยบอกพี่ก้องว่าขอจับมือได้มั้ย แต่พี่ก้องบอกว่าอย่าเลย เท่านั้นแหล่ะ นอกจากเราจะรู้สึกผิดอยู่ในใจอยู่แล้วว่าเราไปทำให้เค้าเสียใจ แล้วก็ถูกเค้าปฏิเสธอย่างนี้อีก เราก็เลยพยายามกลั้นแล้วค่ะ แต่มันกลั้นไม่ไหวจริงๆ โมยังคุยกับพี่ก้องอยู่เลย ถ้าพี่ยื่นมือให้เราจับเราก็ร้องอยู่ดี ซึ่งก็อาจจะจริง
ด้วยความที่เราไม่ได้เจอกันหนึ่งอาทิตย์จากคนที่เคยเจอกันทุกวัน แล้วมาอยู่สถานที่เดียวกันแต่ไม่คุยกันเลยมันค่อนข้างอึดอัด แล้วอยากจะพูดอยากจะขอโทษ ตอนที่เดินถึงน้ำตาไม่ไหลแต่มันร้องไห้ในใจพอนานเข้ามันไม่ไหวก็เลยร้องไห้ออกมา ก็เลยขอตัวดีกว่าจะให้มีภาพร้ายแรงออกมา แต่พอคนเห็นก็เลยคิดว่าพี่ก้องทำอะไรโมหรือเปล่า อยากให้เข้าใจพี่ก้อง คุณก็คงต้องโกรธโมอย่างนี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นโมขอรับความผิดไว้คนเดียว โมต้องได้รับบทลงโทษอย่างนี้เอง อย่าไปมองว่าพี่ก้องไม่ดี ตลอดระยะเวลา 3 ปีพี่ก้องดีกับโมตลอด
พอคืนวันนั้นก็มีการติดต่อกันเพื่อจะเคลียร์ พี่ก้องให้อภัยโม ให้โอกาสโม ความสัมพันธ์ตอนนี้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ขอบคุณสำหรับทุกคนที่คอยเป็นห่วง โมต้องฝากขอโทษญาติๆ พี่ก้อง ที่เป็นห่วงและรักพี่ก้อง โมเข้าใจว่าสภาพจิตใจของเราทั้งสองคนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ โมต้องพิสูจน์ตัวเองว่าโมพร้อมจะเริ่มต้นใหม่กับเค้าต้องขอบคุณพี่ก้องด้วย ขอโทษคุณพ่อด้วยที่ทำให้เป็นห่วงและไม่ได้รายงานเรื่องนี้เลย หลังจากพี่ก้องให้อภัยโมแล้ว โมก็ให้อภัยตัวเอง แล้วก็พร้อมที่จะเป็นเด็กดีของพี่ก้องเหมือนเดิม ต่อจากนี้ไปโมขอไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเพราะไม่ได้มีอะไรร้ายแรงกว่านี้อีก ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ"
กลัวมั้ยว่าพี่ก้องจะไม่ไว้ใจอีกต่อไป "มันคือบทลงโทษที่โมจะได้รับ มันก็เหมือนกฎหมาย เพราะมันคงจะยากซักหน่อยอยากให้ทุกคนเข้าใจพี่ก้องด้วย"
ออกมายอมรับอย่างนี้กลัวจะเสียมั้ย "ดีกว่าโกหกต่อไป มันไม่ใช่นิสัยโม อย่างที่เคยบอกว่าเรื่องไหนที่โมไม่ผิดโมเถียงใจขาดดิ้น แต่เมื่อโมผิดโมพร้อมที่จะยอมรับและขอโทษ มันเป็นการสร้างความเชื่อมั่นได้ว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นให้ฟังจากปากโมเชื่อได้มากที่สุดค่ะ ไม่ต้องไปสืบหากันเรื่อยๆ ทุกคนจะได้รู้ว่าโมเป็นคนอย่างนี้จริงๆ ผิดก็ยอมรับผิด อะไรที่ไม่ผิดก็อยากให้เชื่อว่าไม่ผิด"
กับคนนั้นโมเลือกที่จะเดินออกมาเองใช่มั้ย "เราเลือกที่จะออกมาเองค่ะ คือจริงๆ ก็ไม่ได้สนิทอะไรมากมายอยู่แล้ว ไม่ได้อยากจะสานสัมพันธ์อะไรยืดยาวอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าบางเรื่องคุยกันแล้วเข้าใจเท่านั้นเอง"
มีคนสงสัยว่าเป็นพี่ป้อง-ณวัฒน์ หรือโอ-อนุชิต "ไม่ใช่ค่ะ โมไม่อยากพูดถึงบุคคลที่สามไม่มีเหตุผลอะไรที่เค้าจะเป็นที่จดจำจากข่าวของเรา แล้วกับคนที่ร่วมงานถ่ายละครไม่มีใครทั้งนั้น เพราะเราสนิทกันเหมือนเพื่อนเล่น ไม่มีความลึกซึ้งที่อยู่ดีๆ จะมาสวีทกันได้ โมขออนุญาตพูดแค่นี้ดีกว่า เพราะแค่นี้ก็พูดมากกว่าคนอื่นๆ แล้ว"
ผู้เขียน
