ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
30 มิถุนายน 2025, 23:11:08
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: EK97 Gear Auto จะขึ้นเขา ลงเขา 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: EK97 Gear Auto จะขึ้นเขา ลงเขา  (อ่าน 2953 ครั้ง)
aone111
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22


« เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2009, 08:59:51 »



ต้องปรับเกียร์มาที่ ตำแหน่งไหนครับ  ::)ไอ้ตอนขึ้นไม่เท่าไหร่ยังพอปรับลองดูได้ แต่ตอนลงเคยปรับมาที่ D2 แล้วก้อยังรู้สึกว่ารถไหล ลงมาเร็วอยู่ เลยอยากถามผู้มีประสบการณ์ ครับ จุมพิต
บันทึกการเข้า
GOLFGOLF
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 96


« ตอบ #1 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2009, 09:29:34 »

ต้องปรับเกียร์มาที่ ตำแหน่งไหนครับ  ::)ไอ้ตอนขึ้นไม่เท่าไหร่ยังพอปรับลองดูได้ แต่ตอนลงเคยปรับมาที่ D2 แล้วก้อยังรู้สึกว่ารถไหล ลงมาเร็วอยู่ เลยอยากถามผู้มีประสบการณ์ ครับ จุมพิต


รอฟังอยู่ครับ ผู้รู้ แนะนำหน่อย
บันทึกการเข้า



Civic EK-96
Chonec
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 34



« ตอบ #2 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2009, 09:52:21 »

รอฟังเหมือนกันครับใส่ D2 ลงเขา เหมือนไม่มีแรงฉุดเลย  อายจัง
บันทึกการเข้า
NEO
หนุ่มโสดย่านชิดลม
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,065

My Name is NEO


« ตอบ #3 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2009, 12:46:10 »

ใส่ D2 ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วครับ   เพียงแต่เราอย่า ชะล่าใจมากไป คืออยากปล่อยให้ไหลยาวเกินไป เดี๋ยวเจอโค้งหักศอกต้องเบรคแรงๆ อีก                   

วิธีที่ผมใช้คือ เหยียบ เบรค ไว้บ้างนิดๆ แต่อย่า นานและหนักเกินไป เด๊ยวจะเหม็นไหม้ เพื่อไม่ให้รถมันไหลเร็วมากจน Control ไม่ได้   


ถ้าเป็นเกียร์ธรรมดาน่าจะช่วยได้เยอะกว่านี้     
บันทึกการเข้า

srithanon
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,135


« ตอบ #4 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2009, 14:02:18 »

การใช้เกียร์ Auto ขับรถขึ้นเขาและลงเขา ท่านที่ไม่เคยขับมาก่อนย่อมจะมีความกังวลใจไม่น้อย ในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้รถ  ความจริงทางท่านเจ้าของกระทู้ถามว่าจะใช้เกียร์อย่างไรขณะขับรถลงเขา ทางลงลาดชันอย่างเดียว  ก็ขอไม่กล่าวถึงการขับรถขึ้นเขาและความพร้อมอื่นๆในส่วนของรถก็แล้วกัน
การขับรถลงเขาหรือทางลาดชัน ที่มีโค้งหักศอก อย่างต่อเนื่องกันเป็นกิโลๆ  หรือทางลงชันมากๆ  มีหลายๆท่านที่มีประสบการณ์แนะนำเอาไว้ว่า ขึ้นเกียร์ไหนก็ให้ลงเกียร์นั้น ก็พอฟังได้ครับ ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์ด้วยตัวเองถึงจะรู้ถ่องแท้ ว่าจะปฏิบัติอย่างไร หากไม่เคยใช้มาก่อนก็ต้องอาศัยการแนะนำจากท่านที่มีประสบการณ์ มาทดลองใช้ 
แต่ก่อนอื่นผมอยากจะแนะนำเรื่องของระบบเบรกและยางรถยนต์ ควรจะตรวจสอบให้แน่ใจ  เพราะการใช้รถลงเขา ในความคิดผมว่ามันเสี่ยงมากว่าการขับรถขึ้นเขา เพราะการขับรถขึ้นเขาขึ้นอยู่กับการใช้เกียร์อย่างคล่องแคร่ว และการใช้กำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์  ที่เราสามารถเลือกใช้และเข้าใจในสมรรถนะของรถที่เราใช้ได้เป็นอย่างดี ในแต่ละสะเต็ปของการใช้เกียร์ ที่จะให้ไต่ระดับที่สูง ทั้งทางยาวและสูงชัน  มีการผ่อนหนักผ่อนเบาในการใช้รอบของเครื่องยนต์ที่เหมาะสม  ต่อสภาพพื้นที่เส้นทางนั้นๆ  และเพื่อไม่ให้ใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงในเกียร์ต่ำๆโดยไม่ให้เครื่องยนต์ทำงานหนักเกินไป ผมขอข้ามไปก็แล้วกัน เพราะมีเทคนิคในการขับและองค์ประกอบอื่นๆเข้ามาเสริม ให้เกิดความปลอดภัย และขับรถผ่านไปด้วยดีอีกมาก
มากล่าวถึงการขับรถลงเขา ลงในทางลาดลงเขากันก่อน  ก่อนอื่นขอให้ท่านสังเกตว่ารถที่ท่านกำลังขับอยู่ มีโหลดผู้โดยสาร มากน้อยอย่างไร แบบนั่งเต็มคันหรือเฉพาะที่นั่งข้างหน้าสองคน รถเบาหรือหนัก
จะได้ให้การใช้รถมีความสุขุมและเตรียมพร้อมที่จะใช้ทักษะไหวพริบในการตัดสิน ในการใช้ระยะเบรค การใช้เบรคว่าควรจะให้แรงเบรคหนักเบาอย่างไร กับรถที่มีน้ำหนัก และไม่ค่อยมีน้ำหนัก เพราะการลงเขา รถที่มีน้ำหนัก มีแรงเฉื่อยของโมเมนตั้มบวกกับแรงส่งโดยเครื่องยนต์  ดังนั้นการที่จะใช้เบรคที่จะชะลอรถให้ช้าลง ย่อมมีผลต่อการเหยีอบเบรกอย่างมาก  ใช้แรงเหยียบมากในรถที่มีน้ำหนัก จะทำให้เบรกไหม้ได้ หากการเหยียบเบรกไม่มีจังหวะและสัมพันธ์กับความเร็วของรถในขณะลงเขา ช่วงอย่างนี้ต้องคำนึงถึงเรื่องการใช้ความเร็วของรถบวกกับเส้นทางที่ลงเขา ให้มีความสัมพันธกันกับตำแหน่งของเกียร์ ขอขัดจังหวะช่วงนี้นิด  ในความเป็นจริงการที่เราขับรถเราจะรู้ว่า ณ ที่ตำแหน่งของเกียร์แต่ละเกียร์ มันอยู่ในช่วงความเร็ว และรอบของเครื่องยนต์ในขณะนั้นเท่าใด เราจะเอาข้อมูลตรงนี้นำมาใช้ เกี่ยวกับการคอนโทรลใช้รอบของเครื่องยนต์  เพราะการลงเขาแทบจะพูดได้ว่า โนโหลด ตัวรถและน้ำหนักรถ จะเป็นตัวส่งรถมากกว่าการใช้กำลังของเครื่องยนต์  ดังนั้นเราจึงอาศัยรอบของเครื่องยนต์เป็นตัวช่วย หรือเป็นโหลดของแรงส่งอันเกิดจากแรงเฉื่อยของรถที่เคลื่อนที่ลงเขา แต่เราจะไม่ให้เกินพิกัดความเร็วแต่ละเกียร์ที่ใช้ขณะนั้น หากเกินอาจจะทำให้ระบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ในระบบเกียร์ Auto มีปัญหา (ยังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ดังที่ได้รับฟังมา)
ดังนั้นเราควรใช้ความเร็วในการลงเขาให้สัมพันธ์กับการอยู่ในตำแหน่งของเกียร์  อย่าใจร้อนเหยียบคันเร่ง เร่งเครื่องยนต์ให้มีแรงบวกกับแรงเฉื่อยของรถ จะทำให้คุณใช้เบรค มากเกินความจำเป็น และเบรคไหม้ได้ บางท่านที่ไม่เคยใช้ D2 ขับลงเขา จะรู้สึกว่า รถมันยังเร็วเหมือนไม่ได้ใช้ D2 ช่วยในเรื่อง เอ็นจิ้นเบรค ก็ขอบอกว่าคุณจะต้องย้ำเบรค เพื่อให้รถชะลอในเรื่องความเร็ว ที่ความเร็วต้นๆของ
สะเต็ป D2  มันถึงจะมีความรู้สึกว่ารถมัน หนืดช้าลง และรอบเครื่องยนต์ไม่สูง  การที่มีเส้นทางโค้งหักศอกทางลงชัน อันตรายมากๆ กับความเร็วของรถ  ดังนั้นให้คำนึงไว้ว่าอย่าใช้ความเร็วรถมากกว่าตำแหน่งของเกียร์ในขณะนั้น ให้เบรกเป็นจังหวะๆ เมื่อรู้สึกว่ารถเริ่มจะเพิ่มความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อพยายามให้ความเร็วของรถอยู่ในพิกัดของเกียร์แต่ละเกียร์ อย่าเหยียบเบรคแบบแช่ชะลอ จะทำให้เบรคไหม้ได้ การเบรกเป็นจังหวะๆ ก็เพื่อลดแรงเฉื่อยที่เกิดความเร็วเพิ่มขึ้นในขณะนั้น บอกคำเดียวว่า ถ้าหากต้องการความปลอดภัย พยายามย้ำเบรคเป็นจังหวะ เพื่อชะลอความเร็วของรถ
สำหรับในเส้นทางที่เป็นโค้งหักศอก และมีภูเขาบัง หากเป็นช่วงเวลากลางวัน เราจะมองไม่เห็นรถที่สวนมา ควรกดแตรให้เสียงกับรถคันที่สวนมา หากเป็นกลางคืน เราจะสังเกตเห็นลำแสงของไฟรถได้ดี สิ่งที่จะต้องปฏิบัติก็คือ อย่าพยายามใช้ไฟสูง เพราะจะแยงตาคนที่ขับสวนมา ทำให้มองเส้นทางไม่ค่อยถูก อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้   
ในระหว่างที่เส้นทางลาดลงเขาเริ่มหมดแล้ว หรือมีการขึ้นเนินเขาขึ้นอีก ในช่วงข้างหน้า ช่วงนี้เราจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเกียรฺ์ จาก D2 ไป D3 or  D เร่งเครื่องยนต์ให้มีความเร็วเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดแรงส่งรถ ขึ้นไป ที่จุดสูงสุดของเนิน ได้พอดีกับความเร็วที่คิดว่าพอเหมาะกับกำลังรถเมื่อถึงบริเวณจุดสูงสุดของเนิน  ที่ไม่ก่อให้เกิดการเสียกำลังของรถ
การใช้เกียร์ของรถที่เป็นเกียร์ Auto ก็ต้องให้ความใส่ใจมากเป็นพิเศษ เมื่อขับรถลงเขาที่เกียร์ Autoควรจะปรับมาอยู่ที่ D2 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ที่เกียร์นี้ตลอดนะครับ แต่เป็นการบังคับไม่ให้รถมีความเร็วเกินจากสเต็ปเกียร์ D2 ที่ตำแหน่งนี้ หากทางลงลาดชันมากๆ การใช้เบรคค่อนข้างจะทำให้รถเกือบหยุด เกียร์มันก็สลับมาที่สเต็ป เกียร์ที่หนึ่ง ในลักษณะนี้รถจะมีแรงเฉื่อยเกิดขึ้นไม่มากเท่าใด ก็คงจะใช้เบรกในการชะลอความเร็วรถ และรถมีความเร็วช้ามากๆ แต่อุปสรรค์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ จะมีผลกับระยะทางที่มีความยาวทางลาดชันเป็นกิโลๆ หากแต่จะคอยใช้เบรกเป็นส่วนใหญ่ ก็มีหวังเบรกทำงานหนัก อาจจะไหม้ได้  การตัดสินใจในช่วงนี้ ขึ้นอยู่กับว่า เส้นทางที่ต่อจากนี้ไปเป็นอย่างไร มีเนินข้างหน้าไม่เกินห้าร้อยเมตร อย่างนี้หรือไม่ หากมี เราสามารถจะเหยียบคันเร่งรถเพิ่มความเร็วได้เลย แต่อย่าเร็วมาก เพียงให้เกิดความรู้สึกว่า ความเร็วที่เราสามารถจะย้ำเบรคชลอความเร็ว
ได้ และเป็นการส่งรถขึ้นเนินที่ไม่ทำให้เกิดการสูญเสียกำลังของรถ เมื่อถึงเนินสูงนั้นๆ และสามารถเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วรถอย่างต่อเนื่องได้เลย
จากที่กล่าวมาแล้วนี้ หากท่านที่ขับรถผ่านทางลักษณะที่ว่านี้สักสองสามช่วงก็จะเกิดความชำนาญขึ้นมาในขณะนั้นเลย   ทุกอย่างมันอยู่ที่การคอนโทรลการใช้เกียร์ ให้สัมพันธ์กับความเร็วรถ เพื่อที่จะเรียกแรงบิดและกำลังของรถไปใช้งานที่พอเหมาะกับสภาวะของเส้นทางนั้นๆ   จะใดๆก็แล้วแต่การขับรถลงเขา ควรใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับสเต็ปของเกียร์ หมายถึง เกียร์ ต่ำๆ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราและเครื่องยนต์ ที่ไม่ต้องทำงานหนัก     การที่จะขับรถให้เกิดความปลอดภัยส่วนหนึ่งมาจากการใช้รถ
ใช้รถอย่างไร ขอให้คิดว่ารถเป็นเสมือนแขนขาและให้ความรู้สึกได้เช่นเดียวกันกับ การที่เราคอนโทรลร่างกายของเรา เราทราบถึงคุณสมบัติของมัน มันมีความสามารถได้แค่ไหน อย่างไร มันตอบสนองความรู้สึกสัมผัส ได้ดังความคิดที่เรากำหนดหรือไม่ จุดอ่อน จุดด้อย จุดดี รวมถึงความสามารถของมัน ตอบสนองได้ดังใจเราหรือไม่  เราต้องทำความรู้จักกับมัน เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเรา ความปลอดภัยในการใช้รถก็จะมีความปลอดภัยสูง แต่จะต้องไม่ประมาทนะครับ?srithanon
บันทึกการเข้า
beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,890


เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^


« ตอบ #5 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2009, 14:15:22 »

ถ้าเป็นเกียร์ออโต้ จังหวะขึ้นเขา ก็ควรใช้วิธี ส่งขึ้นครับ โดยพยายามเร่งความเร็วเตรียมที่จะขึ้นให้มีแรงส่งชาจมาตั้งแต่เนิ่นๆ   จะได้ไม่ต้องเค้นรอบเครื่องให้ทรมานเครื่องเรามากครับ  ( ถ้าเป็นช่วงโค้งขึ้นเขาชันๆ ก็ไม่ควรเสี่ยงนะครับ แนะนำให้ใช้เกียร์ต่ำ ค่อยคลานขึ้น เหยียบสลับกับผ่อนคันเร่งบ้างเป็นจังหวะก็พอครับ ) 

ถ้าเป็นทางลงเขา แนะนำให้ใช้ D2 อย่างที่หลายๆคนแนะนำมาครับ เวลาเบรคก็ใช้วิธี กดลึกๆ ประมาณ ย้ำๆแล้วปล่อย  เป็นระยะครับ ค่อยๆกดลงน้ำหนักลงไป มิใช่กระทืบเบรคนะครับ เพื่อไม่ให้มีการเสียดสีที่รุนแรง ระหว่างผ้าเบรคและจาน ต่อเนื่องกันเกินไป วิธีนี้ช่วยป้องกัน อาการเบรคไหม้ ได้เป็นอย่างดี  ( จะให้ดีก็พยายามรักษาความเร็วขณะลงเขา ให้อยู่ประมาณ 40 - 60 กม. / ชม. ครับ ถ้าชำนาญหน่อยก็อาจจะรักษาความเร็วที่ 60 - 80+ ) 



 ยิ้ม จุมพิต ยิ้ม จุมพิต
บันทึกการเข้า

Vitty
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 725


« ตอบ #6 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2009, 14:18:29 »

ขึ้นอยู่กับไปเขา ชันมากน้อยแค่ไหนครับ

ขึ้นเขา ยัด D ไปก็ได้ครับ เดี๋ยวมันจัดการให้เอง ค่อยๆ ไต่ไป
อืด ตื้อ ดัง ก็ไม่ต้องตกใจครับ

ขาลง ..

ก็ จำไว้ว่า ..

อย่า เลียเบรค
อย่า จี้ตูคันหน้า เว้นให้ห่างๆ สัก 10 เมตร ได้ยิ่งดี


ตอนลงมา ก็ใช้ D ปกติก็ได้ ถ้าไม่ชันมาก
แต่ถ้ารู้สึกว่าเริ่มใช้เบรคเยอะ ก็ตบลงมา step ก็ได้

แล้วพยายามมองไปหน้าไกลๆ

กะโค้งดีๆ เบรคก่อนโค้ง ไกลๆ แล้วย่องเข้าโค้ง ดีกว่า กระทืบหน้าโค้ง
มีได้ลงเหว แน่ๆ
บันทึกการเข้า

~ รั บ ซ่ อ ม ใ จ ~


http://lonelysecret.hi5.com
pop96
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,208

EK96 TypeR/Domani จนๆ


« ตอบ #7 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2009, 14:19:20 »

คำแนะนำดีครับ   ยิ้ม
บันทึกการเข้า

EK96 TypeR/Domani => http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=21818.0

CIVIC CLUB NO.409
aone111
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22


« ตอบ #8 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2009, 17:18:15 »

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบครับ
บันทึกการเข้า
BlaZter
เจ้ายุทธภพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,282


ผมเป็น HonDaMania คร๊าบบ..


« ตอบ #9 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2009, 17:37:44 »


  จริงๆทาง Honda เกียร์ออโต้มันมีระบบ Grade Logic Control ไม่ใช่หรอครับ(ถ้าจำไม่ผิดอ่ะนะ)

 ของผมเวลาขึ้นเขาใช้ D4 อย่างเดียวนานๆทีค่อยเปลี่ยนเป็น D3 ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร ยกเว้นเวลารถติดๆบนเขาแบบช่วงเทศกาลน่ะ กดๆปล่อยๆกว่าจะถึงเครื่องเกือบฮีทน่ะครับ.

 เวลาลงก็ D3 กับ D2 สลับกันไปครับ   แต่ที่ไม่ชอบอย่างนึง คือ ผมชอบเปิดกระจกเวลาขึ้น-ลงเขาง่ะ ได้กลิ่นผ้าเบรกไหม้บ่อยๆแต่ไม่ใช่รถเรา เฮ่อ..   ดีจัง     ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
puiza02
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 291


« ตอบ #10 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2009, 18:18:48 »

ความรู้อีกแล้วครับ เดี๋ยวไว้ต้องไปเขาลองบ้างแล้วครับ
บันทึกการเข้า

EK96 VTi E ภายในตัวใน ภายนอกก็ตัวใน สรุปว่าเดิมๆ หุหุ
รถสุดรักของผม http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,54398.0.html ติชมได้เต็มที่นะครับ
Octillion
งงอ่ะดิ
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,854



« ตอบ #11 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2009, 21:59:28 »

ใช้ D3 กับ 2 สลับกัน เพื่อให้เปลี่ยนเกียร์ รอบมันจะดึงอ่ะครับ
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: EK97 Gear Auto จะขึ้นเขา ลงเขา
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |