เนื้อเรื่องประมาณนี้มากกว่านะ ที่พอเป็นหลักฐานได้
นิทานเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นแถวบางใหญ่
มีหญิงเก่งวัยกลางคนเป็นผู้นำเข้าอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สรถยนต์
สามีมีอู่ติดตั้งอุปกรณ์รถยนต์
ครอบครัวนี้มีลูกชายที่เรียนหนังสือเก่ง เป็นนักกีฬาว่ายน้ำระดับชั้นนำ
ลูกชายชื่อเดียวกับชื่อของบริษัทนำเข้า ....
ครอบครัวนี้อุปการะเด็กหนุ่มคนหนึ่งไว้ ...
ให้ความรัก ความเอ็นดูวางใจเหมือนลูกชายแท้ๆ อยู่กับครอบครัวนี้ในฐานะลูกชายคนหนึ่งของบ้านนี้
.....จากความรักความเอ็นดูเด็กหนุ่มผู้ยากไร้ ....
วันหนึ่งไม่น่าเชื่อว่า .....จะมีอะไรเกิดขึ้นกับครอบครัวนี้ ....
ทุกๆ วันนี้ บริษัทนำเข้าแก๊สรายนี้ยังอยู่...มีตัวตนอยู่ ....
ส่วนลูกชายก็ยังเรียนแพทย์อยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ....
ส่วนเด็กหนุ่มหน้าตาดี ที่รักประดุจลูก .... สร้างวีรกรรมบางอย่างไว้
เป็นเหตุให้ครอบครัวนี้ไม่นำเข้าชุดอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สยี่ห้อหนึ่ง
ซึ่งหนุ่มที่ได้รับความรักเหมือนลูกชาย ...ได้เข้ามาเดินหน้าต่อเป็นผู้นำเข้ามาแทน ...
............... เรื่องลึกเรื่องจริงเป็นอย่างไร ...... ก็ลองสืบสาวกันเองคร๊าาาา .......
จะว่าใครถูกผิดน่ะ.....คงต้องตัดสินกันเอาเอง .... การรับสาร การสื่อสาร ....
หากมองให้ครบทุกมุม 360 องศา ..... แล้วก็มักมีเรื่องโอล่ะพ่อมากมาย ...
นี่คือเรื่องจริงในโลกมนุษย์ ..............
............... ที่สำคัญความกตัญญูรู้คุณ เป็นสิ่งที่ดีและน่ายกย่องค่ะ ......
จากคุณ : จันทรัสม์ (จันทรัสม์)
คนที่เข้ามาเม้นท์ความคิดเห็นทำนอง
1.อิจฉาหรือเปล่า รวย หล่อ หนุ่มน้อยไฟแรง ติดอันดับหนุ่มคลีโอด้วย
-ประทาน โทษครับ ถ้ามาสงสัยกันในข้อนี้ ผมรู้สึกว่าปัญญาอ่อนมากครับ อย่างนี้ทำไม่มีกระทู้อิจฉาทายาทเบียร์ดัง, ทายาทห้างดัง ,ทายาทโรงหนังดัง หรือทายาทไส้กรอกดังบ้างล่ะครับ?
2.มีนอก มีในกับบ.นภัทรฯรึเปล่า ทำไมไม่เห็นฟ้องร้อง
-ตอน คุณเลี้ยงสัตว์ที่ท่าทางเชื่องๆคุณคิดว่ามันจะแว้งกัดคุณไหมครับ? สมมุติคุณได้หมามาตัวหนึ่งหน้าตาน่ารักเหมือนลาบาดอร์ คุณคงไม่มีวันคิดว่าวันหนึ่งมันจะ "บ้า" หรือ "ชั่ว" มากัดคุณได้ คุณเลยไม่ได้คิดจะฉีดวัคซีนป้องกันทั้งหมาและตัวเอง
เฉกเช่นเดียวกันครับ
ถ้า คุณเอานายเจ่า หัวโตไปเลี้ยง ด้วยหน้าตาและท่าทีที่หงิมๆขยันๆไฟแรงๆน่าสนับสนุนของมัน คุณเห็นมันเหมือนคนในครอบครัว คุณให้มันดูแลการงานในรับผิดชอบของมันทุกอย่าง แน่นอนแม้แต่เอกสารหลักฐานการทำสัญญาจะเก็บไว้ที่ไหน คุณคงให้มันเป็นคนไปเก็บเพราะคุณอ่านภาษาอังกฤษไม่ค่อยเข้าใจ...ให้มันดูแล มันก็ขโมยไปทั้งหมดล่ะครับ
จะเอาอะไรไปฟ้องมันครับ?
ถ้า หลงเหลือ อะไรพอจะฟ้องได้ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายและเวลายืดเยื้อเรื้อรัง นอกจากนี้ผลสุดท้ายยังคาดอะไรไม่ได้อีกด้วย เพราะหน้าเว็บองค์กรมันเบ่งไว้ตัวเบ้งอยู่แล้วว่าโชว์ผู้สนับสนุนขนาดไหนมัน แปลได้ว่า
"หากอยากถามรายละเอียดเบื้องหลังสินค้า ถามเบื้องบนผมก่อนสิครับ"
3.ความคิดทำนอง"เขาจะทำอะไร จะรวยแค่ไหน ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของเขาไป
จะไปยุ่งกับเค้าทำไมกัน ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองให้ดีก่อนเถอะ
แล้วค่อยไปว่าคนอื่นเค้า"อันความคิดเห็นแบบนี้จริงๆผมอยากจะปล่อยผ่าน...แต่ก็อดไม่ได้ครับ...ขอสักหน่อย
ใช่ ว่าผมจะเป็นคนดีอะไรนักหนานะครับ ที่เห็นคนเลวๆแล้วอดไม่ได้ แต่เรื่องแบบนี้ไม่โดนกับตัวเองไม่รู้ซึ้งหรอกนะครับ และจะบอกให้ว่ามีเยอะแยะครับในสังคม เพราะขนาดกับคนใกล้ตัวผมยังเกิดขึ้นได้เลยด้วยซ้ำ
เรื่องมีอยู่ว่า...
บรรดาอาๆและพ่อผมแต่เดิมเป็นพี่น้องที่นับถือกันมาก
วัน หนึ่งอารองไปเจอบ้านพร้อมที่ดินมือสองในทำเลที่ดีมากประกาศขายอยู่แต่เงินใน บัญชีไม่พอ และเงินที่มียังต้องเอาไปหมุนในธุรกิจอยู่ จึงไหว้วานให้อาใหญ่ไปซื้อให้ก่อนเพราะอาใหญ่มีธุรกิจใหญ่โต มีฐานะมากกว่า โดยที่อารองก็ให้เงินอาใหญ่ไปครึ่งหนึ่งของราคาบ้าน
ใครจะรู้ว่าอาใหญ่ได้เชิดเอาบ้านหลังนั้นไปเสียเลย ไม่ให้ ไม่ขายต่อ คงจะยังดีที่คืนเงินครึ่งหนึ่งเดิมนั้นให้อารอง
เจอกันทุกตรุษจีนจนบัดนี้ ยังไม่เคยมองหน้า หรือพูดคุยกันเลยครับ
"นี่คือความไว้เนื้อเชื่อใจกันฉันท์ญาติมิตร ทุกอย่างปากเปล่า ในเริ่มต้นไม่มีใครนึกถึงสัญญากระดาษ"
ใน เมื่อการหักหลังทรยศคดโกงแบบนี้มันสามารถเกิดใกล้ตัวผม รอบตัวผม จนในสังคมที่ผมอาศัยอยู่ ฉะนั้นผมจึงคิดว่าตัวเองน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องครับเพราะผมเป็นมนุษย์ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม มนุษย์เป็นสัตว์ที่จดจำและวิเคราะห์ประสบการณ์ ฉะนั้นผมจึงไม่อยากมีประสบการณ์แบบนภัทรและอารองของผมครับ
หรือ บรรทัดฐานจริยธรรมของมนุษย์ไทยมันจะตกต่ำลงเรื่อยๆครับ? จริงๆน่าจะให้นายเจ่า หัวโตนี่เป็นนายกฯเมืองไทยนะครับเหมาะสมดี เห็นมีไม่น้อยที่อยากได้คนลักษณะี้นี้เป็นนายก "โกงได้บ้างขอให้เก่ง"?
4.การ กระทำแบบนายเจ่า หัวโต คงจะดำเนินการทางกฏหมายยากน่ะครับ แต่ก็เหมาะสมที่จะเผยแพร่กระจายเรื่องราวให้เป็นอุทธาหรณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าใน สังคมไทย
-โจทก์ ทุกคนที่ยื่นฟ้องนาธาน โอมาน จนบัดนี้ยังไม่ทราบเลยว่าได้เงินคืนบ้างรึยัง? เพราะในอดีตคนที่เป็นเหยื่อล้วนถูกคารมหลอกให้เชื่อใจ ไม่ค่อยมีหลักฐาน หรือ ไม่ได้เก็บหลักฐานไว้ (เช่นเดียวกับนายเจ่า หัวโตขโมยหลักฐานไปเกือบทั้งหมด)
-หรือ ต่อให้มีหลักฐานคาตา คาใจ มันก็เปลี่ยนแปลงไปได้หรือ หายสาบสูญไปได้เสมอ เช่น คดีรถชนหมอมุก คดีรถตู้แพรวา เทพหัสดินฯ (เช่นเดียวกับนายเจ่า หัวโตมีสีสนับสนุน)
-หรือ ต่อให้มีใบเสร็จคากระเป๋า ก็ไม่อยากจะหักใจเอาความ เพราะช้ำใจสะเทือนใจมากพอแแล้ว ด้วยความที่เคยสงสาร เวทนา ชุบเลี้ยงอุปการะบริจาคอย่างบ้านครูน้อย (หากมองอย่างในฐานะที่เคยอุปการะนายเจ่า หัวโตอย่างลูก)
5.ถ้าคนแบบนายเจ่า หัวโตกลายเป็นไอดอลแบบอย่างในสังคมไป...อดีตคนเคยดังคนหนึ่งคล้ายๆแบบนี้แต่เก่งกว่ามาก ตอนนี้่ก็อยู่ดูไบนิ่ครับ?
รับ รู้กันไว้เป็นข้อระวังตน ปีหน้าโลกก็จะแตกแล้ว เอาน้องเฟอร์ฯไปดำเล่นในกระทะทองแดงรึเปล่า? อย่าลืมติดหางเสือเยอะๆแทนพัดลมด้วย มันร้อน
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 54 11:20:49
จากคุณ : ทูตซ้ายเอี้ยเซียว [FriendFlock] [Bloggang]
แต่จากลิงก์นี้
http://www.gasthai.com/article/html/340.html 
คุณโจเป็นผจก. การตลาดให้แก่ นภัทรเจริญยนต์ ในปี 2550 ....
**********
http://www.gasthai.com/article/html/475.html 
ปี 2552 ก็ยังทำงานกับ นภัทรเจริญยนต์
คำถาม (ปัญหาเชาว์ ) : คุณโจใช้เวลาช่วงไหน ปีไหน ไปทำเงินได้พันล้าน ......
ตำแหน่งผู้จัดการการตลาดในตลาดบ้านเรา ... เฉลี่ยแล้วได้เงินเดือนกันเท่าไหร่ครับ
ทางนภัทรเจริญยนต์ คงไม่ได้จ้างเงินเดือนสูงถึงเป็นล้านบาทต่อเดือนหรอกนะครับ ....
มาคำนวณเล่นๆ กันครับ ถ้าเงินเดือน ๆ ละ 10 ล้าน
1 ปี ก็ได้ 120 ล้าน
5 ปีก็ 600 ล้าน .... อืม เป็นไปได้ ..... ไปสมัครบ้างดีกว่า
ต้มมาม่ารอดีกว่า ...
ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท สามารถเช็คจากทางอินเตอร์เน็ตได้
:: ทะเบียนเลขที่ : 0105551080233 (เลขทะเบียนเดิมคือ )
ประเภท : บริษัทจำกัด วันที่จดทะเบียน : 23/07/2551
สถานะ : คงอยู่
1 ชื่อบริษัท เอ็ม เอส แฟคทอรี่ จำกัด
2 กรรมการบริษัทมี 1คน ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
1. นาย แม่สาย ประภาสะวัต/
3 กรรมการซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัทได้คือ
กรรมการหนึ่งคนลงลายมือชื่อ
และประทับตราสำคัญของบริษัท/
4 ทุนจดทะเบียน 30,000,000.00 บาท
5 ที่ตั้ง 59/6 หมู่ที่ 2 แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร
6 นิติบุคคลนี้ได้ส่งงบการเงินปี 2551
7 วัตถุประสงค์ (51394) ประกอบกิจการจำหน่าย นำเข้า จอ LED FULL COLOR และให้บริการหลังการขาย รวมทั้งบำรุงรักษา ซ่อมแซม
ส่วน ข้อมูลการส่งงบการเงินย้อนหลัง 3 ปี ก็สามารถเช็คทางอินเตอร์เน็ตได้เช่นกัน มีข้อมูลของบริษัทนี้อยู่โชว์งบดุล และงบกำไรขาดทุนของปี 52 ตัวแสดงโชว์ว่าขาดทุนอยู่ = (2,690,802) และยังไม่มีรายการขายหรือแสดงรายได้ใดๆเข้าบริษัทฯเลย
ส่วนงบดุล ก็แสดงหนี้สินรวมของผู้ถือหุ้นอยู่ประมาณ 10 ล้าน (ข้อมูลนี้สามารถตรวจสอบได้จาก web ของ dbd.go.th)
แสดง ว่าบริษัทฯ จะต้องเริ่มทำกำไรในปี 53 และ ปี 54 เพิ่งจะผ่านมาเพียงครึ่งปี--ช่วงเวลาแค่ปีครึ่งบริษัทฯ นี้สามารถสร้างรายได้ จากเดิมที่ยังไม่มีรายได้เลยแถมยังขาดทุน มามีมูลค่าเป็นพันล้านเลย---เยี่ยมจริงๆ ทำได้ไงน่ะ
จากคุณ : น่าศึกษามากเลย
เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 10:00:15 A:58.136.218.164 X: TicketID:162223
เอ๊ะ
จาก Rep บน บน
http://www.gasthai.com/article/html/475.html 
ปี 52 ยังทำงานอยู่ที่ นภัทรนะ
แสดงว่า บริษัทนี้ จดทะเบียนไว้ก่อน
ตอนยังอยู่ที่ นภัทร แต่ว่าเหมือนจะไม่มีรายรับเท่าที่ควร
ดันมาเปรี๊ยงปร๊างตอนออกจาก นภัทร
แล้วบังเอิญ ได้เป็นตัวแทน versus พอดี
จาก gasthai มีนา 52 ยังทำงานกับ นภัทร มิถุนา 52 เปิดศูนย์ Versus ใหม่ในนาม เอ็ม เอส แฟคทอรี่ โอ๊ว ถ้าลาออกจากวัน สัมนา เลย มีเวลาสามเดือน เตรียมเปิดศูนย์ ไวมากกก
ไม่ต้องพึ่ง Google แล้วนะครับ มาดูผ่านเว็บนี้ก็ได้ เก็บข้อมูลย้อนหลังไว้เยอะมากๆ ลบเท่าไหร่ก็ยังมีเหลือ
http://web.archive.org/web/20100414060038/http://www.gasthai.com/article/html/340.html 