ดูหนังจบ อย่าเพิ่งลุกไปไหน!

[jojo-civic 96]

Hollywood Reporter - เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย จอมืดมิด และเครดิตกำลังจะวิ่งขึ้นมา สิ่งแรกที่คุณคิดตอนนั้น (หรือคิดมาก่อนหน้านี้แล้ว) อาจจะมีทั้งการพุ่งตรงไปที่ห้องน้ำ, ที่จอดรถ หรือร้านอาหารที่อยู่แถวๆ โรงหนังโดยทันที แต่ช้าก่อน อย่าเพิ่งลุกจากเก้าอี้ในโรงหนังของคุณไปเร็วนัก เพราะคุณอาจจะพลาดของแถมในตอนท้ายหนัง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลงานที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของทีมสร้างตัวงานเรื่องเดียวกันนั้นเอง

จะเห็นได้ว่าเทรนด์การสร้างของแถมให้ดูหลังหนังจบในช่วงเอนด์ เครดิตกำลังเป็นที่นิยมของผู้สร้างภาพยนตร์ในยุคนี้ เป็นเหมือนกับการเล่นเกมกับคนดู เพื่อให้พวกเขามีเวลาอ้อยอิ่งนานขึ้นในการดูหนัง
       
       แซค ชไนเดอร์ เจ้าของผลงานโชกเลือด 300 ได้ใช้กราฟฟิคผลงานของ แฟรงค์ มิลเลอร์ เจ้าของโปรเจ็คท์ดั้งเดิมมาใช้เป็นแบ็คกราวด์ของเอนด์ เครดิตสลับไปมาอย่างมีสไตล์ ขณะที่ แบรด เบิร์ด เจ้าของผลงาน Ratatouille แอนิเมชันชิ้นล่าสุดของ Pixar ก็ใช้ภาพวาดสไตล์ 2-D มาใช้ในตอนบอกลาของหนัง ส่วนหนังตลกแจ็คผู้ฆ่ายักษ์เรื่องล่าสุดอย่าง Superbad ก็โชว์ความทะเล้นด้วยการเสนอรูปวาดของ "ไอ้จ้อน" ในหลายๆ สถานการณ์เท่าที่จะคิดได้ ส่วนผลงานที่กำลังจ่อลงโรงอย่าง Shoot 'Em Up ก็มีแผนที่จะให้ของแถมช่วงเอนด์ เครดิตในสไตล์การเปิดตัวแบบหนังเจมส์ บอนด์กันเลยทีเดียว





"ผมคิดว่ามันเป็นเหมือนกับการปิดฉากการแสดง แล้วกลับขึ้นเวทีอีกครั้งด้วยการเล่นเพลงอังกอร์ให้กับผู้ชม" แบรด เบิร์ด เจ้าของผลงาน Ratatouille กล่าว

"คุณต้องการให้ผู้ชมเดินออกจากโรงด้วยความรู้สึกถึงขีดสุดจนต้องเอาไปบอกต่อกับเพื่อนๆ เพื่อให้เข้ามาดูสิ่งเหล่านี้ และมันเป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้สร้างภาพยนตร์ให้ความสนใจกับตัวหนังด้วยการแถมสิ่งที่เป็นเหมือน 'ของขวัญ' เหล่านี้ให้กับผู้ชมที่เอาใจใส่ต่อเครดิตของพวกเขา" ไมเคิล เดวิส ผู้กำกับผลงาน Shoot 'Em Up กล่าว
       
       ของแถมในเอนด์ เครดิตของ Ratatouille เป็นผลงานที่สร้างขึ้นมาพร้อมๆ กับตัวหนังเอง เมื่อผู้สร้างได้เห็นบรรดารูปวาดด้วยมือฝีมือของ เนท แวก ศิลปินไฟแรงที่เพิ่งจบหมาดๆ มาจาก Cal Arts ซึ่ง เนท แวก เองก็เป็นคู่หูกับ เท็ดดี นิวตัน ผู้ที่ออกแบบเอนด์ เครดิตให้กับ The Incredibles ของ แบรด เบิร์ด มาก่อนแล้ว
       
       และเบื้องหลังที่ทำให้ Pixar เลือกที่จะใช้งาน 2-D มาเป็นของแถมเอนด์ เครดิตใน Ratatouille นั้นจริงๆ แล้วก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะเหตุที่ว่า แบรด เบิร์ด ผู้ที่มารับช่วงงานนี้ต่อจากผู้กำกับรายก่อนช้าเกินไป เพราะช่วงนั้นฐานข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของ Pixar ถูกอุทิศให้กับงาน Ratatouille จนไม่เหลือที่ว่างใดๆ อีกแล้ว
       
       "เราไม่เหลือแบนด์วิดธ์ใดๆ สำหรับงาน 3-D ได้อีกแล้ว ฐานข้อมูลเราเต็มเอียด จึงเป็นเหตุผลให้เราทำ 2-D ในเอนด์ เครดิต" แบรด ลิวอิส โปรดิวเซอร์ของ Pixar กล่าว
       
       อย่างไรก็ดี กลายเป็นว่าทีมงานชื่นชอบในไอเดียดังกล่าวมาก "ที่ Pixar เราก็มีทีมงานที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีทางด้าน 2-D อยู่ไม่น้อย พอแผนการอนุมัติทีมงานแต่ละคนต่างออกตัวประมาณว่า 'ผมเอาด้วย' นักแอนิเมเตอร์คนหนึ่งเดินมาหาผมแล้วพูดว่า 'กระดาษบาดมือ ผมถูกกระดาษบาดมืออีกแล้ว' เป็นอะไรที่พวกเขาตื่นเต้นกันมากๆ" ลิวอิสกล่าว
       
       ขณะที่รายของ ไมเคิล เดวิส เจ้าของผลงาน Shoot 'Em Up เลือกที่จะใช้บริการของบริษัทไตเติล เฮาร์อย่าง Picture Mill ที่ทำให้ผลงานเอนด์ เครดิตของ Shoot 'Em Up ได้แรงบันดาลใจมาจากฉากการเปิดตัวที่โด่งดังของซีรีส์ เจมส์ บอนด์ เจ้าของสไตล์ต้นตำรับโดยมัวริช บินเดอร์ เช่นเดียวกับงานของ ซอล บาส เจ้าของงานเปิดตัวอันเป็นแบบฉบับในหนังหลายๆ เรื่องของอัลเฟรด ฮิทช์ค็อก






 ในช่วงเอนด์ เครดิตของ Shoot 'Em Up เราจะได้เห็นรายชื่อทีมงานผ่านทางรูลูกกระสุน 2 รู ที่ทำให้นึกไปถึงเต้าของคุณตัวที่กำลังให้นมเด็ก ที่รับบทโดยสาวสวย โมนิกา เบลลูชชี ขณะที่ในหนังเราจะได้เห็นภาพพระเอกสุดเท่อย่าง ไคลว์ โอเวน ทำพื้นให้ลื่นด้วยน้ำมันเพื่อใช้ในการสไลด์ตัวยิงเหล่าวายร้าย ในเอนด์ เครดิตเราก็จะได้เห็นภาพคนที่ไถลไปบนพื้นที่โชกเลือด ทั้งหมดนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ เอ็ดเวิร์ด ไอราสตอร์ซา มือวิชวล เอ็ฟเฟค ซูเปอร์ไวเซอร์ของเรื่องนี้
       
       "สิ่งที่พวกเราทำได้ก็คือมุกตลกกวนๆ ที่จะทำให้ผู้ชมย้อนกลับไปนึกถึงฉากต่างๆ ในหนังได้" เดวิสกล่าว
       
       เดวิส ซึ่งเติบโตมาในฐานะแอนิเมเตอร์ของ Broadcast Arts บริษัทผลิตผลงานประเภท stop-motion ที่รับผิดชอบงานประเภทโลโก้ต่างๆ ของช่อง MTV สมัยก่อน เสริมว่าการผุดขึ้นมาของหนังที่ไม่ยอมจบง่ายๆ เหล่านี้ ส่วนหนึ่งมาจากที่มาของผู้สร้างสรรค์ผลงานชิ้นนั้นๆ นั่นเอง
       
       "ผู้สร้างที่ชอบงานประเภทนี้มีเบื้องหลังในงานประเภทวิชวล, แอนิเมชัน และการออกแบบกันทั้งนั้น และหวังเหลือเกินว่าจะมีคนพันธุ์เดียวกันนี้ออกมาทำหนังกันเยอะๆ น่ะครับ"




ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

[Yorying]

 

ตามมาดูตอนจบ