ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
25 เมษายน 2024, 16:12:39
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: ใครใช้ civic dimension 2002 auto ฟังทางนี้ คุณอาจจะเป็นรายต่อไป 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] 2 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ใครใช้ civic dimension 2002 auto ฟังทางนี้ คุณอาจจะเป็นรายต่อไป  (อ่าน 82406 ครั้ง)
suphot
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20


« เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2007, 13:01:54 »



แฟนผมใช้ civic dimension 2002 auto  เช็คศูนย์ตลอด วิ่งมาเเล้วประมาณ 140000 กม. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4/5/50  17.00 น รถมีปัญหา เข้าเกียร์ d หรือ R รถไม่วิ่ง เเต่วัดรอบขึ้น อยู่สุขุมวิทแถวบางนามาจากสำโรงจะเลี้ยวใช้ทางด่วนจึงต้องลากเข้าศูนย์  ตรงเเถวนั้นมีศูนย์ซึ่งเป็นศูนย์ไม่เล็กด้วย ทางช่างสูนย์  บอกว่า ต้องรอพรุ่งนี้จะเเจ้งให้ทราบ รุ่งขึ้น 10.00 น ทางช่างเเจ้งมาว่าต้อง ยกเกียร์ใหม่ ค่าใช่จ่าย ประมาณ 4-5 หมื่นบาท และต้องใช้เวลา 3-4 อาทิตย์  แหม ยังกะประกอบรถใหม่เลย ผมละอึ้งไปเลยรับไม่ได้ทั้ง 2 อย่าง ราคาเเละ เวลา เเละผมก้อใช้รถออโต้ด้วย เเต่มันคนละยี่ห้อเเละ ใช้มา จะ 4 เเสนโลเเล้ว เกียร์ยังไม่พัง หรือเคยผ่าเกียรมาก่อน รถ แถมนำมันเกียรยังไม่ได้เปลื่ยนมาแสนกว่าโลเเล้ว  ด้วยความที่ผมเรียนช่างมา เเต่ไม่ได้ทำงานช่าง ผมเป็นเชลล ครับ เลยลองปรึกษาเพื่อนที่ยังทำงานช่างอยู่บอกว่า ถ้าเป็น honda  ชื่อเสียงของ Honda มันดีอยู่เเล้ว ความเห็น คลัชยังไม่น่าจะหมด คงไม่ต้องยกเกียร น่าจะเกิดจาดอาการนำมันเกียรไม่ขึ้นไปจับคลัช ต้องรื้อมาดู ถึงจะฟันธงได้  เเละผมก้อเชื่อว่าทางศูนย์ยังไม่ได้รื้อออกมาดูเเน่ๆๆๆ หรือเขาอาจจะใช้เครื่องเเสกนมั้ง ผมเดาเอา ผมจึงเเจ้งไปทางช่างที่ศูนย์ ว่า ขอให้เปลื่ยนเเต่กรองนำมันเกียรก่อน ได้ไหม แต่ทางศูนย์ บ่ายเบี่ยงจะทำให้เเละเเจ้งว่าถ้าเปลื่ยนกรองนำมันเกียรอย่างเดียวจะไม่รับประกันใดๆๆๆทั้งสิ้น  ค่าใช่จ่ายประมาณ เกือบหมื่น หมาจนตรอกเเล้วสิผม ตัดสินใจ ลากออกไปอู่ที่รู้จักจากบางนาไปอ้อมน้อย  ขอผ่าเกียรเอง ดูสิว่ามันค้างคาใจว่าเกียรออโต้ ของ honda ทำไมห่วยจัง วิ่งเเสนกว่าพังได้ไง  ผลที่ออกมา สถาพคลัชยังดีอยู่ พบว่ากรองนำมันเกียรลูกนิดเดียวจริงๆๆๆเเละอุดตันมากๆๆๆ ขนาดถ่ายนำมันเกียรตามระยะของศูนย์ ล่าสุดเมื่อ 120000 กม. จึงถอดไปซื้อกรองที่ศูนย์ honda อีกเเห่ง เจอปัญหาอีกแล้วคือ กรองนำมันเกียรเดิมเเบบที่ ติดรถที่ผมถอดออกมาไม่มีของ  มีของใหม่ซึ่งใหญ่กว่าเกือบเท่าตัว( สงสัยhondaรู้ถึงจุดบกพร่งนี้จึงเปลื่ยนกรองให้ใหญ่ขึ้น ผมเดาเอานะ) ตอนเเรกก้อกลัวใส่ไม่ได้เเต่ไม่รู้ทำไงเพราะช่างที่ศูนย์ ยืนยันว่าเป็นของรุ่นนี้ ผลที่ได้ ใส่ได้พอดี จึงประกอบกลับ ใช้เวลา 1 วัน รถวิ่งได้เหมือนเดิม หมดเงินไป หลักพันครับ  ไม่รวมค่ารถลากอีก 3000 บาท  2 รอบ

จึงเกิดข้อสงสัย?ฮืมฮืม?  คนอื่นจะเจอเเบบนี้ไหม.............เขาจะทำยังไง.........เเก้ปัญหาอย่างไร.......... ถ้าเขาไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์เบื้องต้น.......เขาจะยอมทำยอมจ่ายตามศูนย์เเจ้ง ที่ต้องยกเกียร์สนราคา 4-5 หมื่น หรือ ลากออกไปซ่อมอู่นอก ลองวัดดวงดู กับราคาเเละ ที่สำคัญเรื่องระยะเวลา เพราะถ้าทิ้งรถไว้ทำที่ศูนย์ 3-4 อาทิตย์ จะไปทำงานยังไง โดยเฉพาะท่านที่ต้องเดินทางเป็นประจำเวลาทำงานอย่าง เซลล เเต่ถ้ายกเกียร์ตามคำเเนะนำศูนย์ก้อดีนะ จะได้ของใหม่ เเต่มันเเพงมากๆๆๆ โถ คนกินเงินเดือน สงสารหน่อยครับ พี่น้อง อดหลายเดือนเเน่ๆๆๆๆ

ลืมบอกไปต้องจ่ายค่าดูที่ศูนย์อีก 300 บาทกว่า บอกว่าค่าเเรงถ่ายนำมันเกียรออกมาดู เเล้วประเมิณตามสีของนำมันเกียร์ เเล้วก้อฟันธงว่าคลัช หมด 100% เพราะเวลา 2 ชม. เป็นไปไม่ได้ที่ยกเกียร์ออกมาดู

นี่ก้อรอจะออก altis ตัวใหม่ครับน่าจะกลางปี เลิกคบเเล้ว คบโตต้า ดีก่า ยอมลดเกรดตัวเอง ใช้รถเเทกซี่ ดีกว่า อะไหล่หาง่ายราคาถูก ใครว่ารวยไม่จริงก้อยอม

link ใกล้เคียงน่าจะเป็นอาการเดียวกันทุกคันต้องยกเกียร์ ใหม่ นี่ก้อหมายความว่าไม่ใช่รถของผมคันเดียวที่เจอ

http://www.welovecivic.com/civic/forum_posts.asp?TID=7098&KW=ѧ

http://www.welovecivic.com/civic/forum_posts.asp?TID=4501&KW=ѧ

ตอนนี้วิ่งมาได้เกือบอาทิตย์เเล้ว ประมาณ 400 กว่าโล ( ล่าสุด 29/5/2550 วิ่งมาเเล้ว 2000 กว่าโลยังปกติ ) เเละจากสถาพของหน้าคลัชเท่าที่ผมผ่าดูคงจะใช้ได้อีกนานครับ เกือบหมดตูดเเล้วครับ งานนี้ แหม ถ้าเป็นเกียร โตต้า 3 ห่วงปี 95 ผมใช้มา จะ 4 เเสนโลเเล้ว เกียร์ยังไม่พัง หรือเคยผ่าเกียรมาก่อน รถผมใช้คนเดียวครับ แถมนำมันเกียรยังไม่ได้เปลื่ยนมาแสนกว่าโลเเล้ว   เกียรทั้งลูก ซื้อเชียงกงร้านไหนก้อมี ทั้งลูก รุ่น 3 ห่วง 4afe ยังเเค่ 4500 เอง เเต่ถ่าป็น civic dimension 2002 เกียรauto ลองเช็คเชียงกง 30000 ขึ้นต้องสั่งด้วย ของไม่มี
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 พฤษภาคม 2007, 12:42:00 โดย suphot » บันทึกการเข้า
suphot
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20


« ตอบ #1 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2007, 13:16:11 »

http://img179.imageshack.us/my.php?image=0504121950tt0.jpg



รูปสีเงิน คือ กรองนำมันเกียรอันใหม่ที่ซื้อจากศูนย์   ส่วน สีเขียวๆๆๆเล็กๆๆๆ เป็นอันติดรถมาครับ สังเกตุพื้นที่ตัวกรองต่างกันเกือบเท่าตัวนะครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 พฤษภาคม 2007, 17:56:23 โดย suphot » บันทึกการเข้า
suphot
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20


« ตอบ #2 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2007, 13:19:16 »





ดูกันชัดๆๆๆครับ มันไม่ตันได้ไง มีเเต่เศษเหล็ก ลูกก้อนิดเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 พฤษภาคม 2007, 18:01:32 โดย suphot » บันทึกการเข้า
suphot
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20


« ตอบ #3 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2007, 13:21:33 »




สถาพหน้าคลัชยังสวยๆๆๆๆๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า
suphot
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20


« ตอบ #4 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2007, 13:30:59 »



ผ่าหมดเพื่อความั่นใจ
บันทึกการเข้า
suphot
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20


« ตอบ #5 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2007, 13:35:26 »



เป็นความโชคดีของผม พอดีที่ร้านนี้เคยมีรถรุ่นนี้มาทำเเล้วคันหนึงเมื่อเดือนที่เเล้ว ช่างเลยเอากรองนั้นมาผ่าดู
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 พฤษภาคม 2007, 17:54:51 โดย suphot » บันทึกการเข้า
suphot
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20


« ตอบ #6 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2007, 13:37:59 »




แบบชัดๆๆๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า
Madam-Mam
Gold Member
จอมยุทธ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 388



« ตอบ #7 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2007, 15:01:01 »

ไม่ทราบคุณไปทำที่อู่ไหน และหาของได้ที่ไหนคะ

ขอไว้เป็นความรู้นะคะ
บันทึกการเข้า

ES01 328
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 941

รถคันใหม่ผมครับใครอยากลองนั่งบ้าง


« ตอบ #8 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2007, 17:29:50 »

 อายจัง ถ้าเป็นเรานะ คงจะลำบากแย่เลย ไม่มีอู่ที่รู้จักในกทม.ด้วย  ตกใจ สงสัย
ต้องประเป๋าแหก เศร้า ตามคำแนะนำของศูนย์ไปแล้วแน่ ๆ เลยอะ
ขอคำแนะนำหน่อยนะครับ แบบนี้ถ้าเข้าไปล้างเกียร์ ตามอู่ที่มีเครื่อง
จะช่วยแก้ปัญหาได้มั้ยครับ รบกวนผู้รู้ตอมให้หน่อย ขยิบตา เพราะว่าไม่เคยล้างเลยอะ
ขอบคุณไว้ล่วงหน้าครับ
บันทึกการเข้า

inspire
Gold Member
ศิษย์น้อง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 108



« ตอบ #9 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2007, 19:30:16 »

แนะนำว่า ถ่ายน้ำมันเครื่องทุกครั้ง ควรถ่ายน้ำมันเกียร์ไปด้วยนะครับ
แค่ไม่กี่ร้อย ผมถ่ายทุกๆ 10000 โล เพราะใช้ขนาด 120000 แล้วถ่ายผมว่ามันก็น่าจะอุกตันนะครับ
เพราะที่รู้กันอยู่ เกียร์คือส่วนที่ต้องรักษาที่สุด เพราะยกใหม่ก็หลักแสน เสียค่าน้ำมันเกียร์ไม่กี่ร้อย
ผมว่ามันจะคุ้มกว่าน่ะครับ
บันทึกการเข้า
suphot
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20


« ตอบ #10 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2007, 20:11:13 »

แนะนำว่า ถ่ายน้ำมันเครื่องทุกครั้ง ควรถ่ายน้ำมันเกียร์ไปด้วยนะครับ
แค่ไม่กี่ร้อย ผมถ่ายทุกๆ 10000 โล เพราะใช้ขนาด 120000 แล้วถ่ายผมว่ามันก็น่าจะอุกตันนะครับ
เพราะที่รู้กันอยู่ เกียร์คือส่วนที่ต้องรักษาที่สุด เพราะยกใหม่ก็หลักแสน เสียค่าน้ำมันเกียร์ไม่กี่ร้อย
ผมว่ามันจะคุ้มกว่าน่ะครับ
ผมขอย้ำครับ รถผมเข้าศูนย์ทุกครั้ง ตามระยะที่ระบุในคู่มือ เขาให้เปลื่ยนอะไรก้อเปลื่ยน นำมันเกียรทุก 20000 กม ถ้าจำไม่ผิด เนื่องจากการถ่ายนำมันเกียร์ จะออกมาไม่หมด ยังอยู่ใน ทอกร์ อีกครึ่ง ยกตัวอย่าง ของ civic dimension ตอนเปลื่ยนถ่ายจะใช้ 3 ลิตร เเต่ถ้าทั้งระบบ 6 ลิตรครับ สาเหตุในเคสของผมน่าจะเนื่องมาจาก พื่นที่ของตะเเกรงกรอง มีพื้นที่น้อยมาก ทำให้ตันง่ายครับ ถึงคุณจะเปลื่ยนนำมันเกียรบ่อยก้อตาม การสึกหรอยังเหมือนเดิมครับ เเละกรองมันอยู่ด้านใน ต้องรื้อเกียร์ออกมาเหมือนผ่าเกียร ไม่เหมือนของ โตต้า เเค่ใขด้านล่างชุดเกียร์ ก้อหลุดเเล้ว Honda คันนี้ของแฟน ส่วนตัวของผมใช้ โตต้า 3 ห่วงปี 95 ผมใช้มา จะ 4 เเสนโลเเล้ว เกียร์ยังไม่พัง หรือเคยผ่าเกียรมาก่อน รถผมใช้คนเดียวครับ แถมนำมันเกียรยังไม่ได้เปลื่ยนมาแสนกว่าโลเเล้ว   หรือถ้าพัง เกียรทั้งลูก ซื้อเชียงกงร้านไหนก้อมี ทั้งลูก รุ่น 3 ห่วง 4afe ยังเเค่ 4500 เอง ถูกมาก เป็นเพราะเหตุนี้มั้งครับ ผมเลยไม่ใส่ใจ  พอเจออาการของรถ honda เลยเอา โตต้า ไปถ่ายนำมันเกียรทั้งระบบ นำมันออกมายังกะโอเลื้ยง เปลื่ยนกรองนำมันเกียร์ เรียบร้อยเเล้ว  ถ้าตามข้อมูลทั้งหมด ผมเลยมานั่งวิเคราะห์ ถึงสาเหตุ เปรียบเทียบกัน ว่ามันเกิดจากอะไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 พฤษภาคม 2007, 14:41:56 โดย suphot » บันทึกการเข้า
YUYU
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,876


« ตอบ #11 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2007, 20:34:09 »

ยังงี้ต้องรู้ อู่ ที่ผ่าเกียร์อัตโนมัติเก่งๆ ต้องไปทำความรู้จักช่างไว้ก่อนแร่ะ ฮืม ฮืม
บันทึกการเข้า
Linux_xp
CivicClub No.222
Gold Member
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 223


"No.222"


« ตอบ #12 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2007, 21:03:04 »

อย่างงี้ถือว่าเป็นความผิดพลาดของช่างที่ศูนย์ ฮอนด้า รึเปล่าครับ

เรื่องการวินิจฉัยผิด

หรือ ค้ากำไรเกินควร
บันทึกการเข้า



teelex123
ไม่อยากเป็น
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,193


« ตอบ #13 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2007, 00:22:30 »

ผมบอกแล้ว ว่า HONDA เกียร์เปราะครับ เกื่อบทุกรุ่น ถามช่างตามอู่ได้เลยว่าเกียร์ TOYOTA  กับ HONDA อันไหนทนกว่ากัน ถ้าอู่ไหนบอกว่า HONDA ทนกว่า เปลี่ยนอู่โดยด่วนครับ หรือว่างๆ ลองเข้าไปดู 0 HONDA ที่บางนาดูนะครับ ตรงที่แผนกซ่อมเกียร์ จะเห็นเกียร์ วางเป็นระเบียบเรียบร้อย 2-3 ชั้น เป็นเกียร์เก่าทั้ง รุ่นปัจจุบัน และอดีต เต็มจนต้องเอามากองอยู่ที่พื้นครับ (ต้องข้าม ถนนไปตรง ฝั่งโรงเก็บรถ) ถึงจะเห็น
บันทึกการเข้า

   
chang@es
'Civic Ferio XL'
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 738


'Ferio XL & H.I.D'


« ตอบ #14 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2007, 08:24:42 »

จขกท. ทำที่ไหนครับช่วยบอกด้วยครับ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า

Civic Club No.012

sudlor_k007
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 377


« ตอบ #15 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2007, 14:03:37 »

น่ากลัวจริง ผมยังไม่เคยเจอเลย เสียวววว
บันทึกการเข้า
nobitajung
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14


« ตอบ #16 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2007, 18:28:04 »

น่ากลัวอ่ะครับ ผมก็ไม่ค่อยรูเรื่องรถมากนักด้วย ถ้าเจออย่างนี้ก็อาจเสียเงินให้ศูนย์ไปแล้วอ่ะ

ตอนนี้ก็ใกล้จะ 200000 โลละ คงต้องระแวงไปจนกว่ามันจะพังสิครับเนี่ย เฮ้อออออ+++++
บันทึกการเข้า
danny
Dimension 2003
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 59


Dimension 2003


« ตอบ #17 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2007, 13:45:31 »

ของพี่ชายผม โดนมาแล้วเช่นกัน Dimension 2002 แต่เลขไมล์แค่ 8xxxx ครับ
โดนไป 25000 บาท ของผมเป็นโฉม ปี 2003 ไม่รู้เป็นกรองใหญ่หรือยังอ่ะ

ตอนนี้วิ่งไปเกือบ เก้าหมื่นโล ต้องลุ้นต่อไปเช่นกัน แถมไม่ค่อยได้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ซะด้วย ...........
บันทึกการเข้า

Danny
suphot
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20


« ตอบ #18 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2007, 20:31:04 »

สอบถามไปที่ศูนย์Honda กรองตัวใหญ่ทางซ้ายน่าจะเป็นของตัว 2.0ครับเพราะราคาต่างกัน 200 บาท กรองน้ำมันเกียร์1.7ราคา 700กว่าส่วนของตัว2.0ราคา900ปลายครับ รอผู้รู้มาตอบดีกว่าครับ ว่ามีการเปลี่ยนขนาดของกรองในรุ่น1.7ตั้งแต่ปี2003หรือไม่   จะได้ทราบสาเหตุกันครับ

ของแฟนผม 1.7 ครับใส่กันได้ครับ
บันทึกการเข้า
pReaw
Francesco Pevi.
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 519

http://parpreaw.multiply.com


« ตอบ #19 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2007, 13:19:36 »

ใช่ครับรถ Honda ต้องระวังเรื่องเกียร์ครับ ขนาดช่างที่ศูนย์ยังบอกเลยอ่ะ
บันทึกการเข้า

--->civicclub no.204<---
poohee45
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4


« ตอบ #20 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2007, 16:19:55 »

ตกลง จขกท. ยังไม่บอกเลยว่าไปทำที่อู่ไหนมา รบกวนช่วยตอบด้วยค่ะ
บันทึกการเข้า
warapon
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6



« ตอบ #21 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2007, 11:24:31 »

 ตกใจ  พึ่งซื้อ Dimension 2002  ต่อจากน้า มาวึ่งได้95,xxx กิโลแล้ว

งงเลยกลัวมันพัง   เปลื่ยนกรองก่อนเลยดีไหม? :'(
บันทึกการเข้า
pappo
Gold Member
ศิษย์พี่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 175



« ตอบ #22 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2007, 21:27:00 »

อยากทราบเหมือนกันครับว่าทำที่อู่ไหน

รบกวนท่านเจ้าของกระทู้ ช่วยบอกเพื่อน ๆ ด้วยครับ เพื่อใครเกียร์พังจะได้เอาไปซ่อมบ้างครับ
บันทึกการเข้า
suphot
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20


« ตอบ #23 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2007, 11:23:04 »

อยากทราบเหมือนกันครับว่าทำที่อู่ไหน

รบกวนท่านเจ้าของกระทู้ ช่วยบอกเพื่อน ๆ ด้วยครับ เพื่อใครเกียร์พังจะได้เอาไปซ่อมบ้างครับ

โทรคุยกับช่างเองเลย  ผมจะส่งทางเมล์ให้ดีก่า ความตั้งใจของผมไม่อยากจะใช้พื้นที่นี้มาโฆณาหาลูกค้าให้เพื่อน เเต่เป็นประสบการณ์เล่าสู่กันฟังครับ เเต่ถ้าคุณมีเงินเพียงพอเเละไม่ต้องใช้รถสัก 3-4 อาทิตย์ ผมก้อจะเเนะนำให้ยกคลัชตามมี่ศูนย์เเจ้งครับสบายใจดีครับ เเต้ถ้าคลัชยังไม่เสียหรือหมดผมก้อมีความรู้สึกส่วนตัวว่า ของมันยังดีจะเปลื่ยนทำไม เเละที่ค้างคาใจผม ว่าวิ่งมาแสนกว่าคลัชหมดเเล้ว ได้ไง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 พฤษภาคม 2007, 20:45:12 โดย suphot » บันทึกการเข้า
suphot
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20


« ตอบ #24 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2007, 11:35:29 »

อย่างงี้ถือว่าเป็นความผิดพลาดของช่างที่ศูนย์ ฮอนด้า รึเปล่าครับ

เรื่องการวินิจฉัยผิด

หรือ ค้ากำไรเกินควร

เป็นคำตอบที่ผมอยากได้ยิน จาก ศูนย์ Honda ครับ ใครรู้จักผู้บริหาร Honda ให้มาอ่านด้วย ผมอยากได้ยินจากระดับบริหารมากกว่า เเต่ผมก้อมีคำตอบในใจเเล้วว่าเขาจะตอบอย่างไร........  ทั้งๆ ที่ลูกค้ามีความต้องการขอเปลื่ยนกรองนำมันเกียร์อย่างเดียวก่อน เเล้วรอดูอาการพร้อมทั้งยอมรับสภาพกับการไม่รับประกันใดๆ ถ้ารถยังวิ่งไม่ได้ คือพูดง่ายๆ ถ้าเปลื่ยนกรองนำมันกียรเเล้วไม่หายก้อจะยอมยกเกียร์ เเต่ทางศูนย์ไม่ยอมทำ อ้าง ต่างๆนานา เเล้วฟันธงว่าคลัชหมดเพื่อหวังเงินค่ายกเกียร์ 3-4 หมื่น ( ยกคลัชบอกตรงๆ ว่าไม่มีเงินครับ เเถมต้องรออีก 3-4 อาทิตย์ ) ทำให้ผมมาวิเคราะห์เอง ช่างมีการอบรมเพิ่มความรู้ หรือมีความรู้เรื่องเครื่งยนต์มากเพียงใด?ฮืมฮืม เเละที่สำคัญจะรับฟังอาการ เเละ comment จากลูกค้าหรือไม่ เเบบเเลกเปลื่ยนความรู้กันนะ ( ไม่ใช่เเบบ อวดความรู้ เเล้วข่มกัน ) จากลูกค้าหรือไม่..........ท่านที่เข้ามาอ่าน ช่วยผมคิดด้วยครับ ........  ผมเองก็เป็นวิศวกรเครื่องกล ครับ  เเต่ไม่มีความเชื่ยวชาญด้านนี้โดยตรง จึงต้องยอมเชื่อคำกล่าวอ้างจากศูนย์ ไว้ก่อน เเต่ผมจะเชื่ออย่างสนิทใจ เมื่อมีการพิสูจน์............................... ซื่งผมก้อทำเเล้ว เเละที่น่าเเปลกใจ จากข้อมูลในเวปเเละเพื่อนๆๆๆๆ ไม่ใช่รถของผมคันเเรกที่เจอปัญหานี้......ผมจึงไม่อยากจะเชื่อว่า ทาง Honda จะไม่รู้อาการของลักษณะนี้ หรือรู้................เเต่เเกล้งโง่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 พฤษภาคม 2007, 20:49:47 โดย suphot » บันทึกการเข้า
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #25 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2007, 19:30:00 »


เป็นคำตอบที่ผมอยากได้ยิน จาก ศูนย์ Honda ครับ ใครรู้จักผู้บริหาร Honda ให้มาอ่านด้วย ผมอยากได้ยินจากระดับบริหารมากกว่า เเต่ผมก้อมีคำตอบในใจเเล้วว่าเขาจะตอบอย่างไร........  ทั้งๆ ที่ลูกค้ามีความต้องการขอเปลื่ยนกรองนำมันเกียร์อย่างเดียวก่อน เเล้วรอดูอาการพร้อมทั้งยอมรับสภาพกับการไม่รับประกันใดๆ ถ้ารถยังวิ่งไม่ได้ คือพูดง่ายๆ ถ้าเปลื่ยนกรองนำมันกียรเเล้วไม่หายก้อจะยอมยกเกียร์ เเต่ทางศูนย์ไม่ยอมทำ อ้าง ต่างๆนานา เเล้วฟันธงว่าคลัชหมดเพื่อหวังเงินค่ายกเกียร์ 3-4 หมื่น ( ยกคลัชบอกตรงๆ ว่าไม่มีเงินครับ เเถมต้องรออีก 3-4 อาทิตย์ ) ทำให้ผมมาวิเคราะห์เอง ช่างมีการอบรมเพิ่มความรู้ หรือมีความรู้เรื่องเครื่งยนต์มากเพียงใด? เเละที่สำคัญจะรับฟังอาการ เเละ comment จากลูกค้าหรือไม่ เเบบเเลกเปลื่ยนความรู้กันนะ ( ไม่ใช่เเบบ อวดความรู้ เเล้วข่มกัน ) จากลูกค้าหรือไม่..........ท่านที่เข้ามาอ่าน ช่วยผมคิดด้วยครับ ........  ผมเองก็เป็นวิศวกรเครื่องกล ครับ  เเต่ไม่มีความเชื่ยวชาญด้านนี้โดยตรง จึงต้องยอมเชื่อคำกล่าวอ้างจากศูนย์ ไว้ก่อน เเต่ผมจะเชื่ออย่างสนิทใจ เมื่อมีการพิสูจน์............................... ซื่งผมก้อทำเเล้ว เเละที่น่าเเปลกใจ จากข้อมูลในเวปเเละเพื่อนๆๆๆๆ ไม่ใช่รถของผมคันเเรกที่เจอปัญหานี้......ผมจึงไม่อยากจะเชื่อว่า ทาง Honda จะไม่รู้อาการของลักษณะนี้ หรือรู้................เเต่เเกล้งโง่


ส่งเรื่องไปที่สำนักงานใหญ่ดีกว่าครับ รับรองรู้เรื่องแน่  ยิ้มเท่ห์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 พฤษภาคม 2007, 20:50:41 โดย suphot » บันทึกการเข้า

natpakorn
CIVIC CLUB NO. 11
Gold Member
จอมยุทธ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 404


เปิ้ล Member # 11


« ตอบ #26 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2007, 17:15:16 »

เป็นประโยชน์มาก อัพไป อย่าให้ตก ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

Civic Club No.11
beam
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 80



« ตอบ #27 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2007, 22:49:33 »

ขอถามเป็นความรู้นะครับ
ถ้าผมใช้autoอยู่ แล้เกิดมันพังอย่างที่ศูนย์เค้าว่า จิงๆอะครับ
ผมจะไปเปลี่ยนเป็น เกียร์ MT ได้มั้ยครับ แล้วราคาประมานเท่าไหร่ ทั้งศูนย์ ทั้งเซียงกงอะครับ

ปล. ขอบคุน จขกท ครับ ที่ให้ความรู้
บันทึกการเข้า
teelex123
ไม่อยากเป็น
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,193


« ตอบ #28 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2007, 10:38:52 »

ดิฉันซื้อรถ honda city รุ่น ปี 2003 เกียร์ออร์โต แต่ไม่ได้ใช้รถเอง ให้ญาติไปใช้ เขาแจ้งมาว่าเกียร์รถพัง ติดเครื่องแล้วเข้าเกียร์หน้าไม่เดิน เข้าเกียร์หลังใช้ได้ ไปที่ศูนย์ซ่อม honda ขอนแก่น เขาบอกว่าต้องถอดเกียร์ออกมาตรวจว่ามันจะเสียตรงไหนบ้าง ประมาณราคาก็ไม่ต่ำกว่า 6 - 7 หมื่นบาท แต่ดิฉันว่ามันไม่ต่ำกว่านี้หรอก ถ้ารื้อออกมาแล้วราคาเท่าไหร่ลูกค้าต้องจ่ายอยู่แล้ว ดิแนจึงตัดสินใจไม่ซ่อมที่ศูนย์ จึงให้อู่ที่ไว้ใจได้เอามาซ่อมให้ รื้อออกมาดูปรากฎว่าแผ่นคลัตช์อุปกรณ์หลายอย่างมีลักษณะไหม้ ดิฉันสงสัยว่า รถอายุ 3 ปีเศษๆทำไมถึงเป็นอย่างนี้ มาตรฐานของฮอนด้ามีแค่นี้หรือ คิดว่าจะซื้ออีกคันมาขี่เองเลยเปลี่ยนใจเลย ถามพนักงานที่ศูนย์ว่าทางบริษัทไม่ประกันหรืออย่างไร เขาบอกว่า ประกันเพียง 3 ปี นี่มัน 3 ปีกว่าแล้วเลยประกันมาเพียง 4 - 5 เดือนเท่านั้น มิน่าหละเขาถึงประกัน 3 ปี เลย 3 ปีมานิดหน่อยก็เสียแล้ว เสียใจจริงๆ เกียร์ตัวเก่าซ่อมไม่ได้ ต้องเปลี่ยนใหม่ ถามว่าเกียร์ตัวใหม่ราคาเท่าไร และเกียร์เซียงกงมีไหม ถ้ามีราคาเท่าไร หรือบริษัทรับผิดชอบอะไรหรือเปล่านี่ แต่เหตุการณ์แบบนี้ร้อยเปอร์เซนต์บริษัทไม่รับรู้แน่นอน

http://www.hondabangkok.com/04/answer.asp?refid=15579
http://www.hondabangkok.com/04/answer.asp?refid=15198
http://www.hondabangkok.com/04/answer.asp?refid=15018
http://www.hondabangkok.com/04/answer.asp?refid=16447
http://www.hondabangkok.com/04/answer.asp?refid=17064
http://www.hondabangkok.com/04/answer.asp?refid=15198
http://www.hondabangkok.com/04/answer.asp?refid=17001
http://www.hondabangkok.com/04/answer.asp?refid=17131
http://www.hondabangkok.com/04/answer.asp?refid=16344


ลังเล ลังเล ลังเล ลังเล ลังเล ลังเล
บันทึกการเข้า

   
natpakorn
CIVIC CLUB NO. 11
Gold Member
จอมยุทธ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 404


เปิ้ล Member # 11


« ตอบ #29 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2007, 13:44:18 »

ขอถามเป็นความรู้นะครับ
ถ้าผมใช้autoอยู่ แล้เกิดมันพังอย่างที่ศูนย์เค้าว่า จิงๆอะครับ
ผมจะไปเปลี่ยนเป็น เกียร์ MT ได้มั้ยครับ แล้วราคาประมานเท่าไหร่ ทั้งศูนย์ ทั้งเซียงกงอะครับ

ปล. ขอบคุน จขกท ครับ ที่ให้ความรู้
กล่อง+เกียร์ราคา หมื่นกว่าบาท (เทิร์นของเดิม นะ) ลองหาดูใน ES group
บันทึกการเข้า

Civic Club No.11
suphot
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20


« ตอบ #30 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2007, 11:05:15 »

ต้องขอบตุณ link honda พระราม 3  ของผมน่าจะเป็นอาการนี้ ที้ทาง honda พระราม 3 ประเมิณ อย่างนี้มีเหตุผลครับ เเต่ทำไมศูนย์ที่ผมเข้า เเนะนำไปเเล้ว ไม่ฟัง ยังฟันธงว่าคลัชหมด ต้องยกเกียร์อย่างเดียว

link    http://www.hondabangkok.com/04/answer.asp?refid=17131

ชื่อ :
email :
วันที่ :
รถ :
เรื่อง :  สมภพ

5/1/2007 11:42:51 AM
HONDA รุ่น Civic ปี 2001
เกียร์ออโต้วิ่งได้ 120,000 กม.ต้องโอเวอร์ฮอล์ทุกคันมั๊ย   
     
คำถาม :  รถเป็นเกียร์ออโต้เข้าศูนย์ตามระยะตลอด ใช้ถนอมมาก วิ่งมาได้ 120,000 ก.ม.จู่ๆเกียร์ก็เกิดอาการเหมือนคลัชลื่น คือ เร่งเครื่องแล้วรถจะไม่วิ่งเลยไม่ว่าจะใส่เกียร์ใดๆก็ตาม แต่พอดับเครื่องทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วลองขับใหม่ก็สามารถขับไปได้ประมาณ 1-2 ก.ม.ก็เป็นอีก ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรครับ ให้ช่างที่ศูนย์ดูช่างก็บอกว่าต้องโอเวอร์ฮอล์ค่าใช้จ่ายประมาณ 30,000 บาทครับ (และยังบอกอีกว่ารุ่นนี้เป็นทุกคัน ถ้าเป็นแบบนี้ทางฮอนด้าจะแก้ตัวอย่างไรครับเพราะค่าซ่อมแพงมาก)   
       
คำตอบ :  ..............สวัสดีครับ...............

อาการเกียร์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นทุกคันครับ ขึ้นอยู่กับการบำรุงรักษา น้ำมันเกียร์ที่ใช้ ลักษณะการใช้งาน อาการที่ท่านแจ้งมานั้นอาจเกิดจากการอุดตันของท่อทางในระบบเกียร์ครับ ถอดชุดเกียร์ล้างทำความสะอาดเปลี่ยนกรองน้ำมันและปรับตั้งใหม่ และเปลี่ยนชิ้นส่วนที่มีการสึกหรอเกินค่ากำหนดครับ คงต้องรบกวนท่านเข้าปรึกษากับทางศูนย์บิการอีกครั้งครับ

..............ขอบคุณครับ.............   
     
ตอบคำถามโดย : ทีมช่างฮอนด้าพระประแดงและพระราม 3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 พฤษภาคม 2007, 11:08:21 โดย suphot » บันทึกการเข้า
teelex123
ไม่อยากเป็น
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,193


« ตอบ #31 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2007, 05:34:39 »

อันนี้แถมให้ครับ

ขอเกริ่นนำหน่อยครับ คือเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รถผมครบ 40,000 กม. จึงเข้าตรวจเช็คตามระยะ และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง พร้อมทั้งเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ (ทั้งๆ ที่ผ่านการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์มาแล้วเมื่อระยะ 30,000 กม.)

ขอเริ่มเข้าเรื่องเลยนะครับ อาการของเกียร์ออโต้ CVT ของผมมีอาการออกตัวแล้วสั่นมากๆ หลังจากรถเริ่มไต่ระดับความเร็วอาการดังกล่าวจะหายไป หรือขณะที่ต้องการคิ๊กดาวน์ หรือขึ้นทางลาดชัน (ขึ้นเขา) รถก็จะสั่นสะท้าน พอดีทางศูนย์บอกว่ามีน้ำมันเกียร์ออโต้ตัวใหม่ที่ทำมาแก้ปัญหาสำหรับเกียร์ CVT พอดี เค้าจึงถ่ายน้ำมันเกียร์อันเก่าของผมออกแล้วเติมน้ำมันเกียร์ CVT ไป 3.5 ลิตร เพื่อไปล้างน้ำมันเก่าที่ยังหลงเหลือออก จากนั้นก็เดินเครื่องทิ้งไว้สักครู่แล้วจึงถ่ายน้ำมันออก แล้วก็เติมน้ำมันเกียร์ CVT เข้าไปอีกครั้งประมาณ 3.5 ลิตร ซึ่งผมก็ถามช่างว่าทำไมต้องเติมมากมายขนาดนั้น เค้าตอบว่าตามที่ได้ไปอบรมมา อาจารย์ที่ศูนย์ฝึก Honda ได้แจ้งให้เติมปริมาณ 3.5 ลิตร เพราะได้ทำการทดสอบมาแล้ว

หลังจากเติมสร็จ ผมได้วิ่งทดสอบกับช่าง ผลปรากฏว่าอาการออกตัวสั่นสะท้าน หายเป็นปลิดทิ้ง และมีความรู้สึกว่าเกียร์มันแน่นๆ ยังไงไม่รู้ กดคันเร่ง (คิ๊กดาวน์) รถเปลี่ยนเกียร์ต่ำได้ง่ายดายขึ้น เสียงเกียร์เงียบลงไปถนัดตา (เมื่อก่อนเสียงเกียร์จะดังวี๊ดๆ แต่ไม่ดังมาก) ผลการทดสอบโดยรวมเป็นผลที่น่าพอใจมากๆ ทำไม Honda ถึงได้คิดช้าจัง (วะ) งานนี้ขอบอก ฟรีครับ ที่ศูนย์เค้าเคลมให้ :wink:

กลับมาเรื่องเบรค เวลาตอนเช้าเบรคจะมีเสียงดังครืดๆ หรือว่าเหยียบบางครั้งจะมีเสียง ซึ่งเห็นหลายกระทู้ปัญหา บอกว่าเป็นเรื่องปกติ แทบจะเป็นทุกคัน งวดนี้ผมเช็ครถที่ 40,000 กม. ช่างเลยถอดดิสเบรคหน้าออกมาดู ผลปรากฏว่า ผ้าเบรคผมใกล้จะหมดแล้วเหลืออีกไม่เท่าไหร่ จึงเปลี่ยนใหม่เป็นของ Nissin (อะไหล่ที่ Honda) ช่วงระหว่างที่ประกอบผ้าเบรคนั้น ช่างได้เอาจารบีสีดำๆ ทาด้านหลังผ้าเบรค ผมถามเค้าว่าทาทำไม ช่างเค้าตอบว่าต้องการให้ผ้าเบรคให้ตัวได้ (ขยับไปมา) ซึ่งก็ต้องทาอยู่แล้วทุกครั้ง ผมก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอขับรถออกจากศูนย์ อาการเสียงเบรคดังครืดๆ หายครับ ผมลองมา 2-3 วันแล้วยังปกติอยู่ เสียงเงียบ เบรคนุ่มนวลมาก งานนี้เสียตังค์เพราะเบรคหมดเอง ยิ้มกว้างๆ

แถมครับ ฝากให้น้อง Zax_hardcore และเพื่อนสมาชิก อาการเวลาเปิดแอร์แล้วมีเสียงดังวู๊ (เหมือนเสียงผิวปาก หรือเป่าปากขวด) อาการดังกล่าวผมแก้ที่ศูนย์หายแล้วครับ สาเหตุเกิดจาก น้ำยาแอร์มันน้อย เลยมีอากาศเข้าไปผสม เวลามีแรงดันน้ำยา อากาศมันวิ่งผ่านวาว ทำให้เกิดเสียงหอนดังวู๊ๆ ศูนย์เลยแว๊คแล้วเติมน้ำยาแอร์ให้ใหม่ (ของเดิม .26 ของใหม่ .53 ขาดเกือบครึ่งต่อครึ่ง) แถมเปิดแอร์ตอนแดดเปรี้ยงๆ เบอร์ 2 ได้หนาวเลยครับ งานนี้ฟรีครับ ศูนย์รับผิดชอบให้เลยเคลมซ๊า........ เจ๋ง


ติดตาม คำตอบได้ที่นี้ครับ

http://www.hondacityclub.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2004


เซ็งครับเซ็ง :?

ท้าวความนิดนึงครับ ก่อนหน้านี้ผมได้เคลมน้ำมันเกียร์ CVT จาก Honda สาเหตุของการเคลมคือ ออกตัวแล้วรถจะสั่นกระพือ หลังจากรถเริ่มไต่ระดับความเร็วอาการดังกล่าวจะหายไป หรือขณะที่ต้องการคิ๊กดาวน์ หรือขึ้นทางลาดชัน (ขึ้นเขา) เกียร์รถก็จะสั่นสะท้าน ซึ่งอาการดังกล่าวหายไป ผลเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง ออกตัวนิ่งไม่สั่น และมีความรู้สึกว่าเกียร์มันแน่นๆ ด้วยครับ

:arrow: http://www.hondacityclub.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2004

แต่เมื่อคืนวันศุกร์ ผมมีโอกาสไปส่งเพื่อนที่ อ.หนองสองห้อง จ.หนองคาย ช่วงความเร็วที่ 110 kph ผมได้ยินเสียงเครื่องมันคราง วื้อๆๆ ขึ้น-ลงๆ สลับกัน (ขณะนั้นยังไม่ได้มองเข็มวัดรอบ) พอสังเกตุเข็มวัดรอบผลปรากฏว่า รอบเครื่องอยู่ที่ 2,500 ถึง 3,100 รอบสลับกันไปมา แต่พอเพิ่มความเร็วเป็น 120 kph อาการรอบเครื่องสวิงจะหาย หรือลดความเร็วมาเป็น 80 kph อาการที่กล่าวมาจะหายไปเหมือนกัน ผมไม่เคยรู้มาก่อน เพราะขับช้าๆ แต่ในเมือง

เข้าศูนย์ทันเมื่อวันเสาร์ (เมื่อวานนี้) ผลปรากฏว่า ทางศูนย์แจ้งเคยมีรถอีกคันได้แก้ปัญหาดังกล่าวแล้วหาย ผมดีใจทันทีเลยครับ มาดูผมสนทนากันครับ :lol:

ผม : "มีทางแก้ไขยังไงครับ?"
หัวหน้าช่าง : "เปลี่ยนเกียร์ทั้งลูกเลยครับ"
ผม : " แป่วววว ? ? ?"
ผม : "เฮ้ย! ทำไมถึงต้องเปลี่ยนทั้งลูกหล่ะ มันไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องนะ!"
ผม : "ก่อนหน้านี้มันไม่เป็นอะไรเลยหนิ ทำไมเรียกผมมาเคลมเปลี่ยนน้ำเกียร์ CVT ตัวใหม่แล้วมันเป็นรอบเครื่องสวิงหล่ะ"
หัวหน้าช่าง : "........."
ผม : "มันเกิดอะไรขึ้น การเปลี่ยนเกียร์ให้ใหม่มันดูง่ายเกินไปนะครับ ถ้าเป็นลูกค้ารายอื่นอาจแฮปปี้ แต่ผมเห็นว่าไม่ถูกต้อง คุณต้องหาคำตอบมาให้ได้สิครับว่าน้ำมันเกียร์มีปัญหาอย่างไร ถึงเป็นกับรถผมได้"
หัวหน้าช่าง : "ซักครู่ครับ........((โทรเข้า สนง.ใหญ่))"
หัวหน้าช่าง : "OK ครับ ทางช่างเทคนิคแจ้งมาว่า ให้นำคอมพิวเตอร์เสียบต่อเข้ากล่อง ECU แล้ววิ่ง Test เพื่อบันทึกค่าต่างๆ ของข้อมูล จากนั้น Print ข้อมูลเพื่อจัดส่งมาทาง สนง.ใหญ่ แล้วจัดการเคลมเกียร์ลูกใหม่ให้ลูกค้าครับ"
ผม : " :? "


เซ็งครับ เกียร์ Auto ของเราดีๆ แท้ๆ เสียงหวีดก็ไม่มี เงียบเป็นเป่าสาก ยังนึกดีใจเลยครับว่าเกียร์เราเสียงเงียบกว่าเพื่อนสมาชิกหลายคน ไม่คิดว่าจะต้องเปลี่ยนเกียร์เหมือนคนอื่นเค้า แป่วววววววววววววว ครับงานนี้ แต่ก็ยังดี เปลี่ยนเกียร์ฟรีๆ ไม่ต้องเสียตังค์ ก็ยังถือว่าโชคดี เพราะรถผม 2 ปีกว่าๆ แล้ว ถ้าพ้น 3 ปี หมดรับประกัน สงสัยงานนี้ซวยครับท่านผู้ชม :cry:

เกียร์ CVT ลูกละ 140,000 บาทครับ :twisted:

ติดตามคำตอบได้ที่นี้ ครับ

http://www.hondacityclub.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2114&postdays=0&postorder=asc&start=0
บันทึกการเข้า

   
teelex123
ไม่อยากเป็น
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,193


« ตอบ #32 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2007, 22:26:19 »

โตโยต้าก็มีเหมือนกัน

http://www.camryclub.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=13318
บันทึกการเข้า

   
kaffir
The Dance of Eternity
Gold Member
เจ้าสำนัก
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 786

-[[ Erotomania Team ]]-


« ตอบ #33 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2007, 20:11:45 »

ชักหวั่น ๆ แล้วสิ
บันทึกการเข้า

suphot
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20


« ตอบ #34 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2007, 12:43:36 »

ชักหวั่น ๆ แล้วสิ

ไม่ต้องหวั่นหรอกครับ ถ้าเป็นเเบบบี้ก้อนึกถึงกระทู้นี้ไว้ครับ เอาใจช่วย...........
บันทึกการเข้า
khangnoy13
Gold Member
เจ้ายุทธภพ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,155



« ตอบ #35 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2007, 14:33:18 »

 เศร้า    โชดดีนะที่ผมใช้เกียร์กระปุก    ไม่งั้นคงแย่ ลังเล
บันทึกการเข้า



********____TongSinglClub____********
                       No.298

                             ==========Love_Civic_Club==========
suphot
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20


« ตอบ #36 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2007, 08:54:28 »

เพิ่มเติมความรู้

รถยนต์เกียร์อัตโนมัตินั้น มีสนนราคาค่อนข้างสูงกว่ารถเกียร์ธรรมดา อยู่ราว ๆ ประมาณ 3-4 หมื่นบาท (แล้วแต่บางรุ่น) เนื่องจากระบบกลไกการทำงานของเกียร์ อัตโนมัติ เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เข้ามาช่วยในการควบคุมประสานกับระบบไฮโดรลิค ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการควบคุมการส่งถ่ายกำลัง ภายในชุดเกียร์ (ELECTRO-HYDROLIC ) ทำให้ความสัมพันธ์ในการเปลี่ยนอัตราทดเกียร์หรือเปลี่ยนจังหวะเกียร์ เพื่อให้ทำงานเป็นไปอย่างนุ่ม นวลและแม่นยำ
ดังนั้นหากวันไหนที่รู้สึกว่าการทำงานของระบบเกียร์ ไม่นุ่มนวลเหมือนอย่างเคย หรือรู้สึก เกียร์ทำงานไม่เต็มที่คล้ายๆ กับคลัตช์ลื่นหรืออะไร ทำนองนี้ ขอบอกว่าปัญหาเหล่านี้ท่านอย่าละเลยโดยเด็ดขาด เพราะนั่นหมายถึงท่านอาจจะต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินไปหลายบาทอยู่เหมือนกัน กับการเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่ และหากมัวแต่นิ่งนอนใจอาจจะทำให้ลูกเกียร์พังไปทั้งแถบ ต้องเรียกช่างมาลากรถไปได้
สำหรับคุณๆที่อยากให้เกียร์อัตโนมัติของคุณใช้งานได้ยาวๆ นานๆ มีวิธีการมาฝากกันเอาเป็นข้อๆ ดังนี้
1.เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์อัตโนมัติอย่างสม่ำ เสมอทุก ๆ 40,000 กิโลเมตร หรือ 24 เดือน
2.ตรวจเช็กระดับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติอย่าง สม่ำเสมอ ตามสภาพการใช้งานโดยมีขั้นตอนการปฏิบัติดังนี้
2.1 ดึงเบรกมือ สตาร์ทเครื่องยนต์และอุ่นเครื่องยนต์จนถึงอุณหภูมิทำงาน แต่อย่าลืมต้องจอดรถบนทางราบเท่านั้น เพื่อให้น้ำมันเกียร์อยู่ในระดับปกติ
2.2 โยกคันเกียร์ไปทุกตำแหน่ง P-R-N-D-2-1/2 -D-N-R-P เพื่ออุ่นน้ำมันเกียร์ให้ร้อนใน สภาพการใช้งานจริง
2.3 ดึงเหล็กวัดน้ำมันเกียร์อัตโนมัติออก (สังเกตเหล็กวัดจะอยู่ที่เสื้อเกียร์) ในขณะที่เครื่อง ยนต์ยังคงทำงานอยู่ ทำความสะอาดเหล็กวัดด้วยการะดาษชนิดไม่มีขุย (ขุยกระดาษหรือขุยจากผ้าอาจเข้าไปอุดตันท่อทางเดินน้ำมันภายในได้) นำเหล็กวัดใส่กลับในตำแหน่งเดิมจนสุดแล้วดึง เหล็กวัดน้ำออก โดยให้ปลายของเหล็กวัดชี้ลงด้านล่าง สังเกตรอยน้ำมันต้องอยู่ในระดับที่กำหนด ถ้าขาด ให้เติมจนได้ระดับด้วยน้ำมัน DEXRON III เท่านั้น
หมายเหตุ ปกติน้ำมันเกียร์อัตโนมัติจะมีสีแดง ถ้าพบว่าน้ำมันเกียร์เปลี่ยนเป็นสีดำ และมีกลิ่นไหม้แสดงว่าผ้าคลัตช์ภายในชุดเกียร์อาจเกิดการไหม้ หรือถ้าน้ำมันเกียร์อัตโนมัติเปลี่ยนเป็นสีชมพู โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ารถใช้งานอยู่ในที่มีน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำแสดงว่ามีน้ำปะปนเข้าไปภาย ในเกียร์ แนะนำให้ท่านนำรถเข้าศูนย์บริการ และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์อัตโนมัติทันที ก่อนที่จะเกิดการเสียหายมากจนไม่สามารถ แก้ไขได้ นอกจากนี้การรั่วของน้ำมันเกียร์อัตโนมัติเป็นเวลานาน ๆ โดยขาดการดูแลตรวจเช็กก็อาจส่งผลให้เกียร์อัตโนมัติเสียหายเร็วกว่ากำหนด
3.การใช้งานปุ่ม O/D(OVER DRIVE) อย่างถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับเกียร์อัตโนมัติได้และยังช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย โดยการ
-กดปุ่ม O/D "ON" เมื่อใช้งานปกติไฟ O/D บนหน้าปัดจะดับ เกียร์จะเปลี่ยนจากเกียร์ต่ำไป จนถึงเกียร์สูงสุดตามความเร็วอย่างเหมาะสมช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้
-กดปุ่ม O/D "OFF" เมื่อใช้งานปกติ ไฟ O/D บนหน้าปัดจะติด เกียร์จะไม่เปลี่ยนไปจน ถึงตำแหน่งเกียร์สูงสุด ใช้เมื่อต้องการขับขึ้น-ลงเขา ที่มีความชันการใช้ปุ่ม O/D "OFF" ไฟ O/D บนหน้าปัดติด ถ้าใช้งานในตำแหน่งนี้อยู่ตลอดเวลาจะ ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและเกิดการสึกหรอ สูง ดังนั้นขอให้ท่านใช้ความเหมาะสม
สำหรับข้อควรระวังในการใช้เกียร์อัตโน-มัติอย่างปลอดภัย
1.อุ่นเครื่องยนต์ก่อนออกรถทุกครั้ง
2.ขณะเลื่อนคันเกียร์ไม่ควรเร่งเครื่องยนต์ อาจทำให้การกระตุกภายในเกียร์และเกิดเสียงได้
3.ขณะเกียร์อยู่ในตำแหน่ง D,2,1 หรือ R แล้ว เหยียบเบรกหรือดึงเบรกมือไว้ ไม่ควรเร่งเครื่องยนต์อาจทำให้เกิดการสึกหรอภายในเร็วกว่าปกติ
4.การเปลี่ยนคันเกียร์ไป P หรือ R ควรให้รถหยุดสนิทก่อน
5.ขณะรถติดบนทางลาด ควรใช้เบรกหรือเบรกมือ ไม่ควรเร่งเครื่องยนต์รอไว้เพราะอาจจะเกิดการสึกหรอ และสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยไม่จำเกิน
6.ขณะรถจอดอยู่บนทางลาดชัน ไม่ควรเข้าเกียร์ในตำแหน่ง P เนื่องจากมีกลไกสับล็อคฟันเฟืองอยู่ภายใน อาจเลื่อนเกียร์ออกจากตำแหน่ง P ได้ยาก
7.ห้ามเลื่อนคันเกียร์ลงมาตำแหน่งเกียร์ "1" ในขณะที่รถมีความเร็วเกินกว่า 100 กม./ชม และห้ามขับลากเกียร์ "1" เกินกว่า 45 กม./ชม.
8.กรณีรถเสีย การลากรถควรใช้ความเร็วไม่ เกิน 50 กม./ชม. และลากด้วยระยะทางไม่ควรเกิน 65 กม. เพื่อป้องกันการชำรุดเสียหายภายในเกียร์ (สำคัญมาก) หรือหลีกเลี่ยงโดยการยกล้อขับเคลื่อนให้ลอยพ้นจากพื้นขณะทำการลากรถ
9.หากมีเสียงดังผิดปกติ
ปัญหาเกี่ยวกับเกียร์อัตโนมัติทำงานผิดปกติ อย่างเช่นกล่าวไว้ข้างต้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้รถต่อ เพราะนั้นอาจทำให้เกียร์พังเสียหายอย่างหนัก อาจถึงกลับต้องมีการเปลี่ยนเกียร์ใหม่ทั้งลูก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 มิถุนายน 2007, 09:03:22 โดย suphot » บันทึกการเข้า
jeedure
ดีคับพี่น้อง
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 60


ขอบคุณทุกท่าน


« ตอบ #37 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2007, 03:49:09 »

แล้ว อู่ที่เปลี่ยนไส้กรองเกียร์  อยู่ที่ไหนอ่ะคับ  เผื่อเกิดอาการจะได้ไปถูก ไม่ต้องเสียเงินกับการเปลี่ยนเกียร์ทั้งลูก มันแพงเกินไปน่ะ  ช่วยบอกด้วยนะคับ รถผมก็วิ่งอยู่แสนกว่าโลแล้วคับ หวั่นใจเหมือนกัน   
 อายจัง
บันทึกการเข้า

เยื่ยมมากคับท่าน
Nopparat Meeraluek
ชาวยุทธ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8


« ตอบ #38 เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2007, 16:15:51 »

ผมเป็นคนหนึ่งที่เสียเงิน40000บาท ผมไปเสียที่นครสวรรณ์ ตอนสงกรานต์ ผมขับไปด้วยความเร็วประมาณ 120-130  แต่พอมาถึงบ้านเพื่อนที่นครสวรรค์ จอดรถแป็บนึงเมื่อมาถึงบ้านเพื่อน แต่พอสตาร์ตและไปต่อปรากฎว่า เกียร์มันไม่จับแล้ว เลยต้องทิ้งไว้ที่นครสวรรค์ และต้องนั่งรถมาที่ ลพบุรี ซึ่งเป็นบ้านของผม และทำการเช็คตามอู่ต่างๆ ปรากฎว่าถ้าเปลี่ยนเกียร์ ถ้าของเชียงกง ก็ประมาณ 40000 บาท ผมนั่งซึมเลย พึงซื้อมือ 2 มาได้ประมาณ 1 ปีพอดี น้ำมันเกียร์เช็คดูยังสีชมพูอยู่เลย เพราะพึ่งเปลี่ยนมาไม่นาน ตัดสินใจให้รถไปลากจากนครสวรรค์มาลพบุรี ค่าลาก อีก 5000 บาท มาที่ศูนย์ลพบุรี แต่มีญาติทำงานอยู่ที่ศูนย์ honda ที่ลพบุรีพอดี เขาก็เล่าให้ฟังว่า ส่วนมากถ้าซ่อมก็ส่งไปซ่อมที่ศูนย์บางนา ใช้เวลานานมาก และส่วนมากจะเปลี่ยน แล้วของก็ต้องรอ ทางญาติก็เลยว่าให้หาของเชียงกง ประมาณ 40000 บาท เราจำเป็นต้องใช้รถก็เลย ให้หาของเชียงกงมาเปลี่ยนให้เลย (ผมไม่ได้ไปดูตอนที่เขาถอดออก เพราะต้องทำงาน) ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ที่จริงแล้วมันเป็นเพราะสาเหตุอะไรกันแน่ หลายคนว่าผมใหญ่เลยว่าได้แต่ขับไม่ค่อยเช็คอะไรเลย แต่ผมดูน้ำมันเกียร์มันยังใสอยู่เลย เสียค่าโง่หรือเปล่าก็ไม่รู้ ถือว่าเป็นบทเรียน ต้องศึกษาอีกเยอะเลยมาสมัครเป็นสมาชิกเพื่อหาความรู้เพิ่มขึ้น
บันทึกการเข้า
Yee_Ha
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16


« ตอบ #39 เมื่อ: 30 เมษายน 2008, 00:36:56 »

ผมครับเพิ่ง ไปเปลี่ยนเกียร์มา เอง ครับ เพิ่งขับรถ ไปได้ 60,000 กม. เอง  civic 2006 ครับ 2.0 EL  เห็นคนก็บอกกันว่า เกียร์ honda เปราะ แต่ยังไงก็ยัง รัก รถ ผมครับ  เจ๋ง  ถึงมันจะเป็นอะไรผมก็จะดูแลมัน (หาที่ราคาไม่แพงนะครับ เพราะ มันแพง  ยิงฟันยิ้ม)
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: ใครใช้ civic dimension 2002 auto ฟังทางนี้ คุณอาจจะเป็นรายต่อไป
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2009, Simple Machines -->
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |