ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
15 พฤษภาคม 2025, 07:04:55
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: สำหรับผู้ที่เริ่มมีอาการเกี่้ยวกับประเก็นฟาสูบ หรือ ฟาสูบโก่ง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สำหรับผู้ที่เริ่มมีอาการเกี่้ยวกับประเก็นฟาสูบ หรือ ฟาสูบโก่ง  (อ่าน 4629 ครั้ง)
cyu
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,713



« เมื่อ: 07 ตุลาคม 2009, 09:54:09 »



พอดีอยากเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับความร้อนขึ้น ครับ

รถผมมีปัญหาเรื่องความร้อนขึ้นมาหลายครั้งแล้วครับ ความร้อนขึ้น จนน้ำเดือด แต่ไม่เคยน็อค คาเท้าครับ ยังดับทันครับ เป็นรุ่น VtiE 96 ครับ เกียร์ออโต้ ระบบระบายความร้อนสำคัญมากครับ ช่างหลายคนบอกว่า รถผมเริ่มมีการเกี่ยวกับฟาสูบแล้วครับ เพราะว่า มีฟองอากาศออกมา ช่างบอกว่า ให้ปาดฟาบดวาวล์ อะไรสาระพัดครับ เป็นค่าใช้จ่ายสูงมากครับ
แต่ผมไม่มีเงินมากมายไปทำหรอกครับ ก้เลยทนใช้ไปก่อน กะว่า คอยเติมน้ำเอา ล่าสุดลืมดูเลยครับ ขับไปน้ำเดือดกลางทาง น้ำพ่นออกจนหมดเลยครับ ก็หาน้ำเติมไม่ได้ครับ เติมได้แค่ 2-3 ลิตรครับ ไม่พอที่จะไล่ลมครับ ก็เลย จะพยายามประคองไปหาน้ำให้เร็วที่สุดครับ เพราะอยู่นานมากไม่ได้จริงๆครับ รถจอดอยู่ในเขาครับ เป็นทางโค้ง มืดแล้ว เปลี่ยวก็เปลี่ยว ก็กลัวอันตราย กะว่าไปหาบ้านคนก่อนครับ ก็รอให้เครื่องเย็นครับ แล้วก็เติมน้ำทั้งหมดที่มีครับ พอเครื่องเย็นครับ ก็ค่อยๆประคองรถไปได้สักระยะหนึ่งครับ ได้ยินเสียงดัง ปุ๊ แต่ก็ยังจอดไม่ได้ครับ เลยพยายาม ยกเท้าออกจากคันเร่งครับ กะหาที่จอดครับ แต่ยังไม่เจอไฟสว่างเลยครับ เลยทนไปอีกหน่อยครับ แล้วก็เจอกับปั๊มน้ัำมันครับ เลยจอดทันทีเลยครับ แต่ยังไม่ได้เข้าปั๊มครับ จอดข้างทางครับ เพราะอยู่คนละฝั่งแล้วก้รถไม่ว่างครับ ได้ยินเสียงน้ำไหล แล้วก็เห็นน้ำไหลเหมือนน้ำตกครับ เปิดฝากระโปรงดู เห็นหม้อน้ำแตกครับ เลยตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำยังไงครับ แต่ก็รู้ว่าไปต่อไม่ได้แน่ๆ ก็เลยไปคุยกับคนในปั๊มครับ เขาก็ใจดีครับ ออกมาช่วยเข็นเข้าปั๊มครับ ปั๊มนี้เป็นปั๊ม  เก่าที่เคยเจ๊งมาเ 10 กว่าปีครับ แล้วก็มีเจ้าของใหม่มาซื้อต่อทุกวันเขาจะปิดไฟครับแต่วันนั้นโชคดีครับ พี่เขาเปิดไฟทำความสะอาดพอดีครับ เลยได้อาศัยแสงไฟหน่อยครับ ปั๊มนี้อยู่ที่ มาจากเด่นชัย ไปลำปางครับ ลงเขาเวียงโกศัยครับ ประมาณแม่ทาครับ อยู่ขวามือครับ แถวนั้นมีอยู่ที่เดียวครับ เลยไปก็ไม่มีใครแล้วครับ ก็ได้พี่เขาเนี่ยแหละครับ ช่วยไว้ไม่งั้นก็แย่เลยครับ แล้วก็ติดต่อกับทางบ้านครับ พ่อบอกว่า จะมาลากรถให้ครับ ก้เลยรออยู่ ตั้งแต่ 1 ทุ่ม กว่าจะมาถึงก็ประมาณ 4 ทุ่มครับ พอมาถึงก็จัดแจง ติดตั้งเหล็กลากครับ แล้วก็ไปลำปางครับ หาที่พักเพื่อซ๋อมในวันรุ่งขึ้นครับ ไปถึงลำปางก็ ปาเข้าไปตี3 กว่าแล้วครับเป็นรถเกียร์ออโต้ครับ ลากต้องช้ามากๆครับ ไม่เกิน 60-80 แต่ผมลาก 30-40  แล้วก็พักที่โรงแรมครับ วันรุ่งขึ้นก็โทรหาญาติครับ ได้ความว่ามีร้านหม้อน้ำดีดีอยู่ครับแต่จำชื่อไม่ได้แล้วครับ ไม่แน่ใจว่า สมฤทธิ์รึป่าว ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัยครับ ไม่ค่อยจะมีสติครับ ยังไม่ได้นอนเท่าไหร่ครับ นอนไม่หลับครับ ก็ถอดหม้อน้ำมาซ่อม เปลี่ยน รับผึั้งครับ เอาอันเก่ามาดู มันตันมากครับ เท่าที่สังเกตุครับ รถที่อายุเกิน 7-8 ปีก็ควรจะเปลี่ยนหม้อน้ำได้แล้วครับ ข้างในมีตะกอนและก็เศษอะไรต่อมิอะไรมากมายครับ อุดตันหลอดของหม้อน้ำไปหมดเลยครับ ก็ซ่อมไปในราคา 2500 ครับ แต่เท่าที่ดูงานดีมากครับ เช็ครั่วเป็น 10 รอบครับ เอาให้แน่ใจครับ เพราะบอกเขาว่า รถเสียกลางทางลากมาทีลำปางมาฝากญาติไว้ กลัวมันไม่ดี ต้องเสียเวลาเสียความรู้สึกอีกทีหลังถ้าไม่ดีครับ จากนั้นก็ไปเอาหม่้อน้ำไปติดตั้งครับ พอติดตั้งเสร็จก็ไล่ลม แล้วก้เอามาให้ทางร้านเช็คให้อีกทีนึง ที่ร้านก็บอกว่าอาการไม่ค่อยดี มันพ่นน้ำออกมาเยอะมาก ก้เลยไปตามช่างเครื่องมาเช็คให้ ช่างเครื่องก็บอกว่า เครื่องเริ่มมีอาการ ประเก็นไหม้ ก็เลยถามว่า ช่างแน่ใจไหมว่าเป็นแค่ประเก็น ฝาสูบไม่ได้โก่ง ช่างก็ตอบไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจไม่เปิดเครื่อง เพราะรู้อยู่แล้วว่า ถ้าฟาสูบโก่งแล้วต่อให้ปาดมันก้ยังความร้อนขึ้นอยู่ดี ก็เลยคิดว่า จะให้ให้มันเป็นจนมากจนเราเบื่อ แล้วก็จะรอเปลี่ยนเชียงกงไปเลย ก็คาดว่าได้อีกหลายปีอยู่ ช่างก็เลยแนะนำว่า ให้ถอดวาวล์น้ำออก เพราะมันต้านน้ำไว้ ทำให้พ่นน้ำทิ้งเวลาเครื่องร้อน แล้วก็ต่อตรงพัดลม ก็เลยทำ เสียค่าแรง 100 บาท ผลที่ได้คือ เป้นที่น่าพอใจมาก จากเดิม ที่เข็มความร้อนอยู่ต่ำกว่าขึดกลางนิดหน่อย ตอนนี้ต้ำกว่าเดิมเยอะ แล้วก็อัตราเร่งดีกว่า เดิมอย่าางเห็นได้ชัด เคยสังเกตุตอนความร้อนเริ่มขึ้นว่า รถจะไม่มีกำลังเลย ตอนนี้เครื่องเย็นลง เครื่องก็มีกำลังมากขึ้น ยิ่งขับเร็ว ก็ยิ่งเข็มตกลงมากกว่าเดิม ถ้าเป็นลงเขา ทางราบ ลงไม่มาก จอดรถพักเพื่อดูอาการ ก็เข็มลงจากตอนที่วิ่งมา พอเครื่อเย็น ก็ลองตรวจดูหม้อน้ำและหม้อพัก ปรากฏว่า น้ำยังอยู่เท่าเดิมครับ เลยคิดว่า น่าจะดีกว่าแต่ก่อนแล้วครับ คิดว่าถ้าเป็นแบบนี้คงใช้ได้อีกนานเลยครับ เลยอยากแนะนำสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหายบ่อยๆ ว่าลองเปลี่ยนหม้อน้ำแล้วก็อถดวาวล์ดูครับ น่าจะเป็นความคิดที่ดีครับ เรื่องมีปัญหาคิดว่า น่าจะมีในตอนเช้าอากาศเย็นนิดหน่อยครับ ที่ต้องอุ่นเครื่องนานหน่อย นอกนั้นผมถือว่าพอใจมากครับ
บันทึกการเข้า

แอบแซงเพราะแรงน้อย

https://www.facebook.com/cyu.boonyawat
beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,890


เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^


« ตอบ #1 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2009, 10:16:12 »

ก็ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ดีครับ แต่ก่อนอื่น ควรมาทำความเข้าใจของระบบการทำงาน ของวาล์วน้ำกันก่อนครับ เพราะมันจะมีผลเสีย ในระยะยาวได้

 วาล์วน้ำทำหน้าที่ ปิดเปิดน้ำให้หมุนเวียนในเครื่องเพื่อรักษาอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้คงระดับและทั่วถึง (ตั้งแต่สูบที่หนึ่งถึงสี่ให้เท่ากัน ) ถ้าถอดออกก็หมายความว่าน้ำจะวนอยู่ตลอด ส่งผลให้อุณหภูมิในเครื่องไม่คงที่ตามสเปคของเครื่อง รถร้อนกับรถเย็นอาจทำงานต่างกัน และถ้าทางน้ำ ที่ไปหล่อเย็นในกระบอกสูบไม่สามารถระบายความร้อนได้เท่ากันก็จะทำให้สูบที่ระบายความร้อนได้น้อย เสียหาย วาล์วน้ำจึงทำหน้าที่กักน้ำไว้ในทางน้ำหล่อเย็นไม่ให้ไหลจนกว่าอุณหภูมิของน้ำสูงพอที่จะไปเปิดวาล์วได้ เมื่อวาล์วเปิดน้ำก็จะไหลเข้าสู่หม้อน้ำเพื่อระบายความร้อนให้อุณหภูมิลดลงเพื่อไประบายความร้อนในเครื่องต่อไป

ระบบการทำงาน ของน้ำหล่อเย็นเป็นแบบนี้ครับ
1.เมื่อวาล์วน้ำปิด
- น้ำในหม้อน้ำอุณหภูมิปรกติ
- น้ำในเครื่องเริ่มร้อนเพราะรับความร้อนจากเครื่องยนต์
- เมื่อน้ำในเครื่องยนต์ร้อนจนถึงอุณหภูมิที่วาล์วน้ำเปิด
2.เมื่อวาล์วน้ำเปิด
- น้ำในหม้อน้ำ(อุณหภูมิปรกติ)ไหลเข้าไปแทนที่น้ำร้อนในเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ระบายความร้อนมาที่น้ำอุณหภูมิปรกติได้ ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้ตามปรกติและวาล์น้ำกลับมาปิดเพราะอุณหภูมิลดลง
- น้ำร้อนในเครื่องยนต์ไหลเข้าไปสู่หม้อน้ำ แผงรังผึ้งในหม้อน้ำจะกระจายความร้อนไปทั่วบริเวณแผง พัดลมหน้าเครื่องจะดูดหรือเป่าก็แล้วแต่ เพื่อระบายความร้อนของน้ำให้กลับมาเป็นอุณหภูมิปรกติ เพื่อรอวาล์วน้ำเปิดอีกครั้งก็จะกลับเข้าสู่วงจรตามข้อหนึ่ง

*** ระบบระบายความร้อนที่ถูกต้อง หม้อน้ำต้องระบายความร้อนได้ทันเครื่องยนต์ ทุกสภาวะการทำงาน
- การที่วาล์วน้ำเปิดอยู่ตลอดเวลา สันนิฐานว่าวาล์วน้ำนันเสื่อมสภาพเรียบร้อยแล้ว หรือหม้อน้ำไม่สามารถระบายความร้อนที่มาจากเครื่องยนต์ได้ทัน***

*** การแก้ปัญหาความร้อนแบบไม่ตรงที่ต้นเหตุโดยการถอดวาล์น้ำทิ้งปล่อยให้น้ำไหลวนตลอดนั้นเป็นการแก้ปัญหาแบบขอไปที.. ผลเสียคือ กระบอกสูบและลูกสูบไม่สามารถระบายความร้อนได้เท่ากัน เครื่องเดินได้กำลังที่ไม่เท่ากันทุกสูบ และถ้าสูบที่ระบายความร้อนได้น้อยที่สุดร้อนจนเกินอัตรากำหนด สูบจะติด ผลเสียหายที่ตามมาจะเกินบรรยาย ***
 


ปล. ค่าใช้จ่ายในการ ซ่อมปาดฝา บดวาล์ว มาตรฐานราคากลางๆ จะอยู่ที่ประมาณ  4 - 5พันบาทครับ ไม่เกินนี้แน่นอน ถ้าปาดฝาอย่างเดียวก็อยู่ที่  3500 บ.  ครับ  ก็ลองเช็คๆ ดูจะดีกว่าครับ            จุมพิต จุมพิต จุมพิต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 ตุลาคม 2009, 16:01:08 โดย beer4353 » บันทึกการเข้า

cyu
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,713



« ตอบ #2 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2009, 12:00:07 »

อันนี้ก็พอเข้าใจครับ ว่าวาวล์น้ำมีประโยชน์สำหรับให้เครื่องยนต์อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม แต่รถก็อายุเก่ามากแล้วครับ การที่เราถอดวาวล์น้ำออก ก็เป็นการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ไม่ร้อนเกินไปนี่ครับ เท่าที่เข้าใจง่ายๆก็คือ ตอนที่อากาศเย็นหรือ เครื่องยังเย็นอยู่ในตอนแรก วาวล์น้ำจะปิดก่อน เพื่อให้ครื่องยนต์มีอุณหภูมิที่เหมาะสมครับ หลังจากนั้น พอเครื่องร้อน วาวล์น้ำก็เปิดให้ระบบระบายความร้อนได้ไหลเวียนไปหาเครื่องยนต์ครับดังนั้น ถ้าเราไม่เอาวาวล์น้ำออก ก็ต้องอั้น้ำให้ได้ความร้อนเพื่อจะได้มีกำลัง แต่รถที่มีปัญหาเรื่องฝาสูบ และหม้อน้ำ จะทำให้น้ำมีแรงดัน ตอนที่วาวล์ยังไม่เปิดครับ ทำให้น้ำต้องทิ้งออก แล้วก็จะทำให้น้ำแห้งได้ การที่เราเอาวาวล์น้ำออก เป็นการลดแรงดันน้ำที่จะล้นออกให้ไหลเวียนแทนครับ จะได้ไม่หายไปไหนครับ รถเก่าแล้วครับ ระบบบางระบบมันเสื่อมสภาพไปแล้วครับ แล้วเท่าที่เคยได้ยินมา รถเก่านี่ทำหม้อน้ำแตกไปหลายคันแล้วถ้าไม่เอาวาวล์น้ำออกครับ การเอาออกสามารถลดแรงดันได้ครับ
บันทึกการเข้า

แอบแซงเพราะแรงน้อย

https://www.facebook.com/cyu.boonyawat
bonmaweaw
Gold Member
จอมยุทธ
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 261

โอ้โห!....วิ่งได้ไงวะตั้ง 683100 กิโล


« ตอบ #3 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2009, 12:05:24 »

ช่างเบียร์ มาเองเลยวุ้ย

จะเปิดอู่แข่งกะอู่ แบริ่ง16 ป่าวเนี่ย   ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
Ngoodin97
จอมยุทธ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 290



« ตอบ #4 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2009, 12:31:01 »

รถผมก็เคยคับ ถอดวาล์วน้ำออก แล้วก็ต่อตรงพัดลมเลยคับ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีจิงๆคับ
ผมว่าวิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่คิดว่ากำลังจะเปลี่ยนเครื่องไหม่น่ะคับ
เพราะตอนดีผมก็เปลี่ยนเครื่องใหม่มาแล้วครับ
เครื่องเก่าขายทิ้ง
บันทึกการเข้า
beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,890


เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^


« ตอบ #5 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2009, 16:11:14 »

อันนี้ก็พอเข้าใจครับ ว่าวาวล์น้ำมีประโยชน์สำหรับให้เครื่องยนต์อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม แต่รถก็อายุเก่ามากแล้วครับ การที่เราถอดวาวล์น้ำออก ก็เป็นการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ไม่ร้อนเกินไปนี่ครับ เท่าที่เข้าใจง่ายๆก็คือ ตอนที่อากาศเย็นหรือ เครื่องยังเย็นอยู่ในตอนแรก วาวล์น้ำจะปิดก่อน เพื่อให้ครื่องยนต์มีอุณหภูมิที่เหมาะสมครับ หลังจากนั้น พอเครื่องร้อน วาวล์น้ำก็เปิดให้ระบบระบายความร้อนได้ไหลเวียนไปหาเครื่องยนต์ครับดังนั้น ถ้าเราไม่เอาวาวล์น้ำออก ก็ต้องอั้น้ำให้ได้ความร้อนเพื่อจะได้มีกำลัง แต่รถที่มีปัญหาเรื่องฝาสูบ และหม้อน้ำ จะทำให้น้ำมีแรงดัน ตอนที่วาวล์ยังไม่เปิดครับ ทำให้น้ำต้องทิ้งออก แล้วก็จะทำให้น้ำแห้งได้ การที่เราเอาวาวล์น้ำออก เป็นการลดแรงดันน้ำที่จะล้นออกให้ไหลเวียนแทนครับ จะได้ไม่หายไปไหนครับ รถเก่าแล้วครับ ระบบบางระบบมันเสื่อมสภาพไปแล้วครับ แล้วเท่าที่เคยได้ยินมา รถเก่านี่ทำหม้อน้ำแตกไปหลายคันแล้วถ้าไม่เอาวาวล์น้ำออกครับ การเอาออกสามารถลดแรงดันได้ครับ

ก็อย่างที่คุณ cyu  กล่าวน่ะแหละครับ  ถ้าเอาออกเพื่อใช้งานแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ก็ถือว่า โอเคแล้วครับ  

แต่เมื่อมีโอกาส ก็ควรจะแก้ปัญหาที่ฝาสูบ ฯลฯ ให้เรียบร้อยจะดีกว่านะครับ จัดการให้ตรงจุด เพือเครื่องยนต์ของเราจะได้ใช้งาน

ได้นานๆจริงๆแล้ว การนำฝามาซ่อม ด้วยวิธีปาด ค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้เยอะ อย่างที่คนส่วนใหญ่คิดกันเท่าไหร่นักหรอกครับ

ทำมาแล้วจบ ระบบเครื่องสมบูรณ์ ไม่ว่ารถจะอายุกี่สิบปี มันก็ไม่เกี่ยวกับ คำว่า " เก่า " หรอกครับ ถ้าเราดูแลรักษา

ได้ถูกจุด อย่างที่มันควรจะเป็น หลายคนไม่อยากทำเพราะมักจะคิดว่ามันไม่จบ  ถ้าคนที่ไปเจออู่ชุ่ยๆ ก็ได้สมปรารถนาแน่ครับ

พอทำไม่จบ ก็ต้องฝืนใช้แบบนั้นต่อไป นับเวลาถอยหลังวางเครื่องใหม่  ทำให้รู้สึกแย่เข้าไปอีก

อยากจะฝากกับเพื่อนๆผู้ใช้รถ  ถ้าปัญหาที่เกิด ไม่ถึงกับ

สูบแตก ก้านหัก คด  ไม่ต้องตกใจไปหรอกครับ ซ่อมได้ แถมค่าใช้จ่ายก็อยู่ในเกณฑ์หลักพันเท่านั้นครับ

ผมก็เคยเป็น ผู้ที่ไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อน จนถูกอู่หลอกมาไม่น้อย  ถึงตอนนี้ก็พอมีประสบการณ์บ้างก็อยากจะช่วย

ไม่ให้เพื่อนๆ  ต้องมาเจออะไรแบบผมบ้างน่ะครับ   เข้าใจจิตใจของคนรักรถ    
           จุมพิต จุมพิต จุมพิต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 ตุลาคม 2009, 16:22:33 โดย beer4353 » บันทึกการเข้า

NEO
หนุ่มโสดย่านชิดลม
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,065

My Name is NEO


« ตอบ #6 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2009, 16:55:19 »

ผมก็เคยเจอปัญหาความร้อน  ตามที่คุณทำอยู่ก็ตามที่เบียร์มันบอก เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าครับ


ดีที่สุด เอารถไปเปลี่ยนวาล์วน้ำใหม่เลย แล้วก็ปาดฝาซะ  จบแน่นอนครับ ใช้ได้อีกยาวครับ แล้วใช้ได้ในสภาพปกติสุขด้วยครับ ขับไม่ต้องกังวลใดๆ


ใครบอกปาดฝาแล้วไม่จบเรื่องความร้อนย  ผมว่าจบครับ เพราะฝาของ ตาโตใช้นานๆ มันชอบเป็นตามดครับ ทำให้มีปัญหาน้ำหายได้ครับ
บันทึกการเข้า

cyu
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,713



« ตอบ #7 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2009, 17:02:13 »

ขอบคุณครับ ที่มาให้ความรู้และก้ให้คำแนะนำครับ คิดว่า ตอนนี้จะขอดูอาการก่อนครับ ว่าน้ำหายอีกหรือไม่ ถ้า ไม่หายแล้ว น่าจะอยู่ที่อาการนี้ครับ คิดว่า จะใช้แบบนี้ไปเรื่อยๆครับ จนกว่า จะมีอาการหนักจริงๆ แล้วกะว่าจะเปลี่ยนเชียงกงครับไม่อยากปาดครับ เพราะอยู่เชียงใหม่ครับ ไม่ได้อยู่กรุงเทพ ไม่สามารถไปหาอูที่คุณเบียร์ และคุณนีโอ ไว้วางใจได้ครับ เท่าที่รู้มาช่างที่เคยถามส่วนใหญ่ที่นี่เขาบอกว่า ปาดแล้วไม่จบครับ เลยยังไม่ขอปาดดีกว่าครับ ยังใช้ได้ก็ใช้ไปก่อนคัรบ ไม่มีงบครับ ไว้มีงบค่อยว่ากันใหม่ครับ เพราะเท่าที่ใช่อยู่นี้ก็พอใจมากแล้วครับ
บันทึกการเข้า

แอบแซงเพราะแรงน้อย

https://www.facebook.com/cyu.boonyawat
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: สำหรับผู้ที่เริ่มมีอาการเกี่้ยวกับประเก็นฟาสูบ หรือ ฟาสูบโก่ง
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |