|
หัวข้อ: เวรกรรม 'แจ็กโก้' โดนน้องชายกับพวกหลอกเซ็นฮุบสมบัติ เริ่มหัวข้อโดย: jojo-civic 96 ที่ 23 มิถุนายน 2007, 01:47:03 (http://www.siamdara.com/_images/20070620066.jpg)
เข้าสุภาษิต ''เงินทองไม่เข้าใครออกใคร'' จริงๆ ดูอย่างกรณีของ ไมเคิล แจ็กสัน ราชาเพลงป็อปเป็นตัวอย่างก็ได้ หลังเจ้าตัวออกมาเผยว่าเกือบโดนน้องชายและพรรคพวกที่ไว้เนื้อเชื่อใจหักหลัง พยายามจะฮุบสมบัติของเขา ระหว่างวุ่นวายอยู่กับการต่อสู้คดีกระทำชำเราเด็กปี 2005 ด้วยการพยายามกดดันเขาให้เซ็นมอบอำนาจการจัดการทรัพย์สินทั้งหมด ยังดีที่ไหวตัวได้ทัน ไม่งั้นคงต้องสูญเปล่าแล้ว ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกมาจากบันทึกคำให้การของแจ็กโก้ในเดือน ก.ค. ปีก่อน จากคดีเขาโดนฟ้องร้องว่า เป็นหนี้บริษัทการเงินแห่งหนึ่งมูลค่ากว่า 48 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,700 ล้านบาท) ครั้งให้ช่วยซื้อลิขสิทธิ์เพลง ''เดอะ บีทเทิลส์'' จากโซนี่ และราชาเพลงป็อปเอ่ยชื่อหนึ่งในคนที่มีความคิดชั่วออกมาแบบจะจะก็คือ ดอน สเตเบลอร์ ซึ่งเป็นคนที่แรนดี้น้องชายที่มีหน้าที่ให้คำปรึกษาเรื่องเงินๆ ทองๆ แก่เขา ดึงเข้ามาทำงาน ไมเคิลบอกว่า ดอนพยายามกดดันให้เขาเซ็นเอกสารบางอย่าง ซึ่งหากเขาสลัดน้ำหมึกลงไปเมื่อไหร่ ทรัพย์สมบัติเกินกว่าครึ่งหนึ่งของเขาจะมีอันต้องมลายหายไปแน่นอน แต่แจ็กโก้ยังมีบุญ เพราะได้บาทหลวง เจสซี่ แจ็กสัน กับ บิลเลียนแนร์ คนสนิท รอน เบอร์เคิล เพื่อน บิลล์ คลินตัน อดีตผู้นำสหรัฐฯ คอยให้คำแนะนำปรึกษา โดยเฉพาะรายหลังที่ย้ำนักย้ำหนาถึงขั้นโทร.มาหาในห้องน้ำ ว่าอย่าริอาจไปเซ็นเอกสารใดๆ ทั้งนั้น (http://www.siamdara.com/picture/070620748n15_1.jpg) หนึ่งในบันทึกดังกล่าวที่ ''นิวยอร์ก เดลี่ นิวส์'' นำมาเผยแพร่ แจ็กสันเล่าว่า ''สเตเบลอร์ บอกว่า - มีปัญหาอะไรเหรอ? ไม่เป็นไรหรอก นายเป็นยิวแล้ว นายไม่ใช่คนดำแล้ว - มันไม่สุภาพเลย ก้าวร้าวมาก มันทำร้ายจิตใจกัน มันหยาบคาย เหตุผลง่ายๆ เพราะเขาทำให้ผมเซ็นเอกสารที่เขาอยากให้ผมเซ็นไม่ได้'' แจ็กโก้เล่าต่อไป การเจอกันกับสเตเบลอร์ครั้งถัดมาว่า ''ดูเขาอยากจะบั่นหัวผมให้หลุด'' โดยนอกจากหมอนี่จะโมโหเขาแล้ว เจ้าน้องชายสุดแสบก็ยังควันออกหูกับความดื้อดึงของเขาด้วย แต่ยังไม่หมด ไมเคิลเล่าถึงอีกหนึ่งความพยายามของน้องเลวและเพื่อนชั่วที่เนฟเวอร์แลนด์ เมื่อทั้งสองคนพยายามให้เขาเซ็นเอกสาร ทั้งที่แม่ของเขาก็อยู่ด้วย ว่า ''ผมบอกพวกเขาอย่างแข็งกร้าวว่า - ไม่ ผมไม่เซ็น - และผมจำได้ว่า ภายในห้องอบอวลไปด้วยความโกรธ และความตึงเครียดมากขนาดไหน สุดท้ายพวกเขาก็ผลุนผลันออกไป'' |